O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง การชั่งสาร
1.1 การชั่งผงยาโดยการเลือกใช้กระดาษ การใช้ช้อนเขา และการเคาะผงยาลงเมื่อใกล้ถึงน้ําหนัก ที่ต้องการ ก. การชัง่ ด้วยเครื่องชัง่ ไฟฟ้า (Top Loading Balance) - ปรับสมดุลของเครื่องชั่ง เครื่องชั่งไฟฟ้าส่วนใหญ่ปรับโดยการหมุนสกรูที่ขาซ้ายขวาของเครื่องชั่ง ให้สังเกตฟองอากาศที่เป็นตัวบ่งชี้ สมดุลอยู่ตรงกลางเครื่องหมายวงกลม หลักการหมุนปรับคือ การหมุนตามเข็มนาฬิกาเครื่องชั่งจะยกสูงขึ้น การ หมุนทวนเข็ม เครื่องชั่งจะลดต่ําลง (ในขั้นนีเ้ นื่องจากเวลาจํากัด อาจมีการปรับเครื่องชั่งสมดุลให้แล้ว ซึ่งจะแจ้งให้ ผู้สอบทราบ ในกรณีนี้ก็อาจข้ามขั้นตอนนี้ได้) - พับกระดาษชั่ง ใช้กระดาษสะอาด ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยทั่วไปขนาด 8 ซม. X 10 ซม. พับริมด้านข้าง (ด้านยาว) เข้ามาทั้ง 2 ด้านๆละ 1 ซม. พับด้านที่ 3 เข้ามา 2 ซม แล้วพับกลับออกไป 1 ซม. คลี่รอยพับออก จับด้านที่ 3 จีบซ้อนให้เป็นมุมกระทง ทําทั้ง 2 มุม แล้วพับส่วนที่ยาวเกินอยู่ลงเพื่อให้กระทงแข็งแรงขึ้น - เขียนชื่อยาและน้ําหนักทีต่ ้องการชั่ง โดยเขียนลงส่วนที่พับไว้เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีสัมผัสกับทีใ่ ช้เขียน - Tare เครื่องชั่ง (auto-zero) หรือปรับน้ําหนักเครื่องชั่งเป็น 0 - อ่านฉลากขวดยา หยิบขวดยา เปิดฝาขวด วางฝาหงายบนพื้นที่สะอาดหรือบนแผ่นกระเบื้องวางขวดยา อ่านฉลากอีกครั้งให้แน่ใจ จับช้อนด้วยมือ ข้างที่ถนัด ลักษณะคว่ําเต็มมือ ให้นิ้วชี้วางทอดคว่ําบนด้ามช้อนเขาตักยาจากขวดยา ซึ่งถือในมือข้างทีไ่ ม่ถนัด เคาะ นิ้วชี้ (ลักษณะคว่ํามือ) ให้ผงยาค่อยๆลงบนกระดาษ โดยเฉพาะเมื่อใกล้ถึงน้ําหนักที่ต้องการ ปิดกระจกกันลม(ถ้า มี) สังเกตค่าน้าํ หนักจากหน้าปัดตลอดเวลาที่ชั่ง - เมื่อได้ปริมาณที่ตอ้ งการ ยกกระดาษชั่งยาออกจากจานชั่ง ปิดกระจกกันลม ปรับน้ําหนักเป็นศูนย์ ตามเดิม ปิดฝาขวดยาให้สนิท ทําความสะอาดด้วยแปรงปัดถ้ามีผงยาหกบริเวณเครื่องชั่ง อ่านฉลากอีกครั้ง ข. การชั่งด้วยเครื่องชั่ง 2 จาน - พับกระดาษชั่ง ใช้กระดาษสะอาด ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยทั่วไปขนาด 8 ซม. X 10 ซม. พับริม ด้านข้าง (ด้านยาว) เข้ามาทั้ง 2 ด้านๆละ 1 ซม. พับด้านที่ 3 เข้ามา 2 ซม แล้วพับกลับออกไป 1 ซม. คลี่รอย พับออก จับด้านที่ 3 จีบซ้อนให้เป็นมุมกระทง ทําทั้ง 2 มุม แล้วพับส่วนที่ยาวเกินอยู่ลงเพื่อให้กระทงแข็งแรงขึ้น - เขียนชื่อยาและน้ําหนักทีต่ ้องการชั่ง โดยเขียนลงส่วนที่พับไว้เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีสัมผัสกับทีใ่ ช้เขียน - วางกระดาษชั่งที่เหมือนกันบนจานทั้ง 2 ด้าน - ปรับสมดุลของเครื่องชั่ง ให้สังเกตเข็มชี้ (indicator) ให้ตรงขีดศูนย์หรือตรงกลาง (ในขั้นนี้เนื่องจาก เวลาจํากัด อาจมีการปรับเครื่องชั่งสมดุลให้แล้ว ซึ่งจะแจ้งให้ผู้สอบทราบ ในกรณีนี้กอ็ าจข้ามขั้นตอนนี้ได้) - เติมตุ้มน้ําหนักลงบนจานชั่ง
Comprehensive Pharmacy Review
2
เทคนิค OSPE
- อ่านฉลากขวดยา หยิบขวดยา เปิดฝาขวด วางฝาหงายบนพื้นที่สะอาดหรือบนแผ่นกระเบื้องวางขวดยา จับช้อนด้วยมือข้างที่ถนัด ลักษณะคว่ําเต็มมือ ให้นิ้วชี้วางทอดคว่ําบนด้ามช้อนเขา ตักยาจากขวดยาซึ่งถือในมือ ข้างที่ไม่ถนัด เคาะนิ้วชี้ (ลักษณะคว่ํามือ) ให้ผงยาค่อยๆลงบนกระดาษ โดยเฉพาะเมื่อใกล้ถึงน้ําหนักทีต่ ้องการ สังเกตค่าน้ําหนักบนหน้าปัดตลอดเวลาที่ชั่ง - เมื่อได้ปริมาณที่ต้องการ ยกกระดาษชั่งยาออกจากจานชั่ง ปรับน้ําหนักเป็นศูนย์ตามเดิม ทําความ สะอาดด้วยแปรงปัดถ้ามีผงยาหกบริเวณเครื่องชั่ง ปิดฝาขวดยาให้สนิท อ่านฉลากอีกครั้ง 1.2 การชั่งของเหลวข้นหนืด เช่น mineral oil หรือ glycerin เมื่อในสูตรตํารับกําหนดเป็น w/w ของเหลวข้นหนืด หากใช้การตวงจะต้องรอเวลาให้ไหลออกนาน (draining time) และต้องทราบค่าความ ถ่วงจําเพาะ (specific gravity) เปลี่ยนน้ําหนักเป็นปริมาตร การชั่งจึงเป็นวิธีที่สะดวก การชั่งของเหลวปริมาณไม่มาก ให้ใช้กระจกนาฬิกา ใช้ขนาดเท่ากัน 2 อัน มีหลายขนาด เลือกขนาดให้ เหมาะ หากปริมาณมากๆ สามารถใช้บีคเกอร์ขนาดเท่ากัน 2 อัน เลือกขนาดให้เหมาะเช่นกัน เทคนิคการชั่งเหมือนการชั่งของแข็ง หากสารหกหรือหยดไหลเปื้อนเครื่องชั่ง ให้รีบใช้กระดาษเช็ดทํา ความสะอาด - เขียนชื่อยาและปริมาณบนสติกเกอร์ติดบนบีกเกอร์หรือใช้ปากกาเมจิกเขียน วางบีคเกอร์ที่ใช้สําหรับใส่ยาบน จานชั่ง ใช้แท่งแก้วช่วยในการชั่งได้ ในบางกรณีที่ไม่มีเครื่องชั่งที่มีความไวที่เหมาะสม การชั่งของเหลวปริมาณน้อย อาจใช้การเทียบจํานวน หยดของของเหลวต่อกรัม แล้วคํานวณปริมาณหยดตามปริมาณน้ําหนักที่ต้องการ
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง การตวงสารและการ calibration
เทคนิคการตวง 2.1 การเลือกใช้กระบอกตวงให้เหมาะสมกับปริมาตรของของเหลวและเทคนิคในการตวง - กระบอกตวงโดยทั่วไปมีขนาด 10, 25, 50, 100 ml - เลือกกระบอกตวงขนาดที่ใกล้เคียงกับปริมาณที่ต้องการตวงให้มากที่สดุ เพื่อให้มีค่าคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด - อ่านฉลากขวดยา หยิบขวดยา เปิดฝาขวด วางฝาหงายบนพื้นที่สะอาดหรือบนแผ่นกระเบื้องวางขวดยา (หากเป็น สารรีเอเจนต์ที่ทําด้วยแก้วซึ่งไม่ค่อยใช้ในปัจจุบันแล้ว นิยมใช้นิ้วก้อยหนีบไว้ แต่ยกเว้นน้ํายาที่เป็นกรดด่าง) ถือ กระบอกตวงมือซ้าย โดยวางฐานกระบอกตวงไว้ระหว่างนิ้วให้มั่นคง (ไม่กํามือ) - อ่านฉลากอีกครั้งถือโดยให้ฉลากอยู่ด้านบน ฉลากจะอยู่ในอุ้งมือ เพื่อไม่ให้เวลาน้ํายาไหลย้อยลงจะไม่เปื้อนฉลาก - ยกกระบอกตวงระดับสายตา แตะขวดยากับปากกระบอกตวง รินยาออกจากขวดช้าๆ หากตวงยาหกหรือหยด ให้ใช้กระดาษเช็ดให้สะอาดก่อนจะตวงต่อ โดยทั่วไป สําหรับของเหลวใส มักอ่านปริมาตรตรงระดับ lower meniscus คือส่วนโค้งต่ําสุดของของเหลว ส่วนของเหลวสีเข้ม มักอ่านปริมาตรตรงระดับ upper minicus คือ ส่วนโค้งบนของของเหลว ในกรณีตวงได้ปริมาตรเกิน ให้เทส่วนเกินออกจากกระบวงตวงทิ้งไปอย่างระมัดระวัง ไม่ นิยมเทคืนลงขวด - เมื่อได้ปริมาตรที่ต้องการ ปิดฝาจุกขวด อ่านฉลากอีกครั้ง ก่อนวางขวดยาที่เดิม - รินยาออกจากกระบอกตวงให้หมด Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
3
เทคนิค OSPE
2.2 การตวงของเหลว 3 ลักษณะ เช่น สารละลายใส, สารละลายสีเข้ม, Mineral oil เป็นต้น 1. การตวงของเหลวใส เช่น น้ํา แอลกอฮอล์ เป็นต้น - ใช้เทคนิคการตวงข้างต้น อ่านปริมาตรที่ระดับ lower meniscus (โค้งล่าง) เมื่อรินยา ปล่อยให้น้ํายา ไหลออกกระบอกตวงจนหมด 2. การตวงของเหลวสีเข้ม เช่น ด่างทับทิม (potassium permanganate), iodine solution เป็นต้น - ใช้เทคนิคการตวงข้างต้น อ่านปริมาตรที่ระดับ upper meniscus (โค้งบน) 3. การตวงของเหลวข้นหนืด เช่น mineral oil, glycerin น้ําเชื่อม เป็นต้น - ใช้เทคนิคการตวงข้างต้น โดยในการรินของเหลวจากขวดยา พยายามให้ของเหลวไหลลงตรงกลาง กระบอกตวง ไม่ให้ติดผนังด้านข้างกระบอกตวง จนปริมาตรแน่นอนแล้ว อ่านปริมาตรที่ระดับ lower meniscus (โค้งล่าง) เมื่อรินยา ปล่อยให้ของเหลวไหลออกกระบอกตวงจนหมดซึ่งต้องใช้เวลานานมากเนื่องจากความหนืดสูง
เทคนิคการ calibration 2.3 การ calibration การ Calibrate ของเหลวจํานวนน้อยที่มีอุปกรณ์ขนาดเกินความเที่ยงตรง เช่น ให้ตวงน้ํา 0.8 ml โดยมี กระบอกตวง 10 ml และมี dropper ให้ ใช้สําหรับการวัดปริมาตรของเหลวปริมาณน้อยที่ไม่สามารถ ใช้กระบอก ตวง นอกจากการใช้ pipette หรือ burette แล้ว ของเหลวที่ไม่ใช่ตัวยาสําคัญสามารถคํานวณโดย การเทียบหยด - ใช้กระบอกตวงขนาด 10 ml ใช้หลอดหยดดูดน้ํายามา ตั้งหลอดให้ตรงในแนวดิ่ง (ไม่เอียง) หากตั้งเอียง จะต้องระวังให้เอียงเท่ากันตลอดการเทียบหยดซึ่งจะยากกว่า นับจํานวนหยดของของเหลว 2 ml - เมื่อได้จํานวนหยดใน 2 ml คํานวณหยด ในกรณีไม่ใช่ยาอันตราย หากไม่ได้เลขลงตัว ค่าทศนิยมเกิน 0.5 ปัดเศษขึ้น หากต่ํากว่าให้ปัดเศษทิ้งไป - หยดของเหลวตามจํานวนหยดที่คํานวณได้ เทคนิคการ Calibrate - ต้องทําเมื่อตวงสารน้อยกว่า 20% ของปริมาตรทั้งหมด - เลือก cylinder ขนาดที่เหมาะสม เช่น ต้องการตวงสาร 2 ml ให้เลือก cylinder ขนาด 10 ml - จับให้ถูกวิธีโดยใช้นิ้วโป้งจิกขีดที่ต้องการ ส่วน 4 นิ้วที่เหลือให้รวบไว้ที่ฐาน cylinder ตั้งให้ตรง และ ให้ปริมาณสารที่ต้องการ (2 ml) อยู่ในระดับสายตา - ใช้ Dropper ดูดสาร โดยบีบลูกยางไล่อากาศออกก่อน จากนั้นจึงค่อยจุ่มหลอดเข้าไปในขวดใส่สาร ดูดสารขึ้นมา - ให้ปลาย Dropper หย่อนเข้าไปใน cylinder ให้อยู่ใกล้กับปริมาณสารที่ต้องการ ( 2 ml) อย่าให้สูง เกินไปและอยู่ตรงกลาง ระวังอย่าให้ปลายหลอดหยดสัมผัสกับผิวของ cylinder เพราะจะได้จํานวนหยดที่ ผิดพลาดได้ - นับจํานวนหยดให้ถูกต้อง - เทียบบัญญัตยิ างค์ 2 ml ใช้เท่ากับ .....หยด 0.4 ml ใช้เท่ากับ......หยด
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
4
เทคนิค OSPE
เทคนิคการทํา aliquot เทคนิคการทํา aliquot ยา จากยาเม็ด เพื่อให้ได้ขนาดความแรงต่อมื้อพอดีสําหรับผู้ป่วยแต่ละราย ในกรณีที่ไม่สามารถหาตัวยาที่เป็นสารเคมีจากท้องตลาดในการเตรียมยา เภสัชกรอาจเตรียมยาเช่น ยาน้ําแขวน ตะกอน ยาน้ํา ยาหยอดตา ครีมทาผิว ฯลฯ จากยาในรูปแบบต่างๆ เช่น ยาเม็ด ยาฉีด ฯลฯ ที่จําหน่ายใน ท้องตลาดอยู่แล้ว 2.4.1 การทํา aliquot จากยาเม็ด - คํานวณเทียบจํานวนยาเม็ดที่ต้องใช้ให้มีปริมาณยาตามต้องการในยารูปแบบใหม่ - บดยาเม็ดให้ได้ผงละเอียด นําไปเตรียมยารูปแบบใหม่ การนําไปใช้จะเป็นรูปผงยาหรือกระจายใน ของเหลวให้พิจารณาจากลักษณะของรูปแบบของยาที่ต้องการเตรียม 2.4.2 การทํา aliquot จากยาฉีด - คํานวณเทียบจํานวนมิลลิลติ รของยาฉีดที่ต้องใช้ - หากเป็นยาฉีดผง จะต้องทําการ reconstitution โดยการเติมน้ํากระสายลงไปละลาย ปริมาณน้าํ กระสายที่เติมคํานวณได้จากการหักลบจากปริมาตรของผงยาซึ่งจะสามารถทราบจากข้อมูลในใบแทรกผลิตภัณฑ์ เมื่อละลายยาเป็นสารละลายแล้ว ดูดยาฉีดออกมาให้มีปริมาตรตามที่คํานวณเทียบ
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง การบดผสมยา
เทคนิคการผสมยา 3.1 การบดผงยา การผสมผงยาด้วยโกร่ง 1. การบดผงยา - การบดผงยาที่ไม่ติดสี (staining) โดยทั่วไป ใช้โกร่งกระเบื้อง (porcelain mortar & pestle) - ให้ทําการบดก่อนการชั่งยา - ใส่สารลงตรงกลางโกร่ง มือข้างที่ถนัดถือลูกโกร่ง มือข้างไม่ถนัดยึดจับขอบด้านข้างโกร่ง โดยทั่วไป ถือ ลูกโกร่งลักษณะคล้ายการจับปากกา เพื่อให้สามารถเคลื่อนหมุนลูกโกร่งในลักษณะบิดข้อมือได้อย่างอิสระโดย ข้อศอกไม่ต้องกางขยับออก - หมุนลูกโกร่งวนเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มจากก้นโกร่งขึ้นไปใกล้ขอบโกร่ง แล้ววนลงอีก สลับกัน จนได้ผงยาละเอียดตามต้องการ - หากผงยาติดโกร่ง ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดถือ spatula แซะขูดได้โดยไม่จําเป็นต้องวางลูกโกร่งลงและใช้มือ ข้างที่ถนัดจับ spatula เพราะเสียเวลาและผงยาจะเปื้อนลูกโกร่งที่นํามาวางพักไว้ - ของแข็งบางชนิด เมื่อบดโดยตรงจะเกิดจับก้อนเหนียว เช่น camphor จะต้องเติมตัวทําละลายที่ ระเหยง่าย เช่น แอลกอฮอล์ เล็กน้อยหยดลงบนสารระหว่างบด จะได้ผงละเอียด เรียกว่า pulverization by intervention Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
5
เทคนิค OSPE
2. การผสมผงยา - เป็นการ trituration ซึ่งไม่ต้องการแรงบดผสม การผสมจึงใช้โกร่งแก้ว (glass mortar & pestle) ผสมผงที่ละเอียดแล้ว - ใช้เทคนิค geometric dilution โดยใส่ผงยาที่มีปริมาณน้อยที่สุดก่อน จากนั้นเติมสารอื่นจํานวน เท่ากันกับที่มีอยู่ในโกร่ง บดผสมจนเข้ากันเบาๆ (โดยลักษณะการหมุนลูกโกร่งเหมือนการบด) เติมสารที่เหลือใน ลักษณะเท่ากับที่มีในโกร่งไปเรื่อยๆจนสารหมด การผสมผงยาจํานวนน้อย บางครั้งอาจใช้ slab & spatula เรียกว่า spatulation - วาง slab ทีข่ อบโต๊ะให้สันด้านล่างยันอยู่นอกขอบโต๊ะเพื่อทําให้ slab วางราบไม่เอียง มือซ้ายถือด้าม slab มือขวาถือ spatula การจับ spatula ให้จับในลักษณะคว่ํามือ นิ้วชี้ทาบไปตามแผ่น spatula เพื่อใช้ช่วย บังคับให้ spaula อ่อนไปตามแรงบดผสม หมุนวน spatula ในลักษณะวนเป็นวงกลมจากในไปนอกแล้ววนกลับ หรือวนเป็นเลขแปดหรือขดลวดอย่างใดอย่างหนึ่ง บี้ให้ทั่ว ใช้ spatula ปาดให้ผงยามารวมกันเป็นกองเป็นครั้ง คราวตรงกลาง - ใช้ geometric dilution เช่นเดียวกับการผสมโดยโกร่ง 3.2 การทํา geometric dilution เช่น การผสมผงยาทั้งในโกร่ง และบน slab และการผสมผงยาและ น้ําตาล lactose หรือแป้งเป็นสารเจือจาง
อุปกรณ์การบดและการผสมผงยา มี 2 แบบ 1. โกร่งและลูกโกร่ง (Mortar & Pestle) ใช้ผสมผงยาที่มีปริมาณมาก - โกร่งกระบื้อง ผนังด้านในมีความฝืดมากกว่าจะช่วยในการบดให้ละเอียดกว่าโกร่งแก้ว จึงเหมาะสมในการบดผงยาและช่วยในการกระจายตัววัตรภาคภายในในการเตรียมอิมัลชั่น ซึ่งโดยทั่วไปมักใช้โกร่งกระเบื้อง - โกร่งแก้ว มักใช้บดผงยาที่มีสี * ผงยาที่เป็นของแข็งทุกชนิดจะต้องบดให้ละเอียดก่อนนํามาชั่งเพื่อเตรียมยา * เทคนิคการใช้โกร่ง - จับลูกโกร่งด้วยมือขวาโดยใช้นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนางประคองด้านล่างของด้ามลูกโกร่ง โดยใช้ นิ้วหัวแม่มือกดด้านบน เพื่อบังคับให้ลูกโกร่งให้หมุนตามทิศที่ต้องการ มือซ้ายกดยึดขอบโกร่งไว้ (กรณีถนัดซ้าย ก็สลับกัน) หรือจับแบบปากกา - บดหรือผสมโดยหมุนข้อมือไปด้านซ้ายหรือด้านขวาตามแต่ถนัด ควรหมุนไปทางเดียวกัน - ใส่ผงยาที่จะบดลงตรงกลางของโกร่งโดยยกลูกโกร่งขึ้นทุกครั้งที่ใส่ยา - จุดทีล่ ดขนาดผงยา คือปลายสุดของลูกโกร่งและเส้นรอบกระเปาะที่กว้างที่สุดของลูกโกร่งเท่านั้น การ บดควรบดให้ทั่วโดยหมุนลูกโกร่งวนตั้งแต่ก้นโกร่งขึ้นมาถึงส่วนกลางของขอบโกร่ง แล้วหมุนวนทิศทางเดิมจาก ขอบโกร่งลงสู่ก้น ทําเช่นนี้จนได้ผงยาละเอียดตามความต้องการ - ถ้าผงยาชื้นหรือมีลักษณะกึ่งแข็งติดผนังด้านในของขอบโกร่งควรใช้ spatula ขูดที่ติดด้านข้างของขอบ โกร่งลงไปบดลักษณะเดิมจนละเอียดเท่ากันอย่างสม่ําเสมอ
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
6
เทคนิค OSPE
2. Slab & Spatula เรียกวิธีนี้ว่า “Spatulation” ใช้ผสมผงยาทีม่ ีปริมาณน้อย ซึ่งวิธีนี้สามารถย่อยขนาดได้ ดีและสม่ําเสมอ เพราะเมื่อกดด้าน spatula ส่วนปลายของสแตนเลสจะกดทับ แนบสนิทกับslab ได้ในพื้นที่มาก จึงเป็นทั้งการผสมและการย่อยขนาดได้พร้อม ๆ กัน เทคนิคการใช้ Slab & Spatula - วาง slab ให้ไม้ยึดด้านล่างอยู่ขอบโต๊ะโดยใช้มือซ้ายจับด้าม slab และมือขวาจับด้าม spatula โดยใช้ นิ้วชี้กดกลาง spatula เพื่อเพิ่มน้ําหนักของการบดผสม (กรณีที่ถนัดซ้ายให้กลับกัน) - กองผงยาลงตรงกลางแผ่น slab กดปลายแผ่นสแตนเลสบนยาส่วนปลายของ spatula จะกดทับยา กับแผ่น slab กดป้ายไปมาเป็นวงกลม หรือวนเป็นเลขแปดก็ได้ เพื่อย่อยขนาดและผสมผงยาให้เข้ากัน - ดูความเรียบเนียน เพราะมีคะแนนตรงนี้จากอาจารย์ผู้คุมสอบด้วย - เทคนิคถูกก็ได้คะแนนอย่างง่ายๆ
การบดผสมผงยาโดยวิธี Levigation 3.3 การ levigate ผงถ่านกับ ointment หรือ cream สีขาวบน slab การบดผสม (levigation) ใช้สําหรับลดขนาดผงยาและบดผสมผงยาเข้ากับครีมหรือขี้ผึ้งโดยใช้สารช่วยบด (levigating agent) โดยทั่วไปมักใช้ slab & spatula อาจทําโดยใช้โกร่งและลูกโกร่งก็มี - เลือกสารช่วยบดผสมที่เหมาะสม กล่าวคือ เป็นของเหลวหนืดที่ต้องไม่ละลายสารที่บดแต่เข้ากันได้กับ ครีมหรือขี้ผึ้ง เช่น glycerin, mineral oil - วาง slab ลงบนโต๊ะให้ราบ จับด้วยมือซ้าย เทผงยาลงบนกลาง slab ใช้มือขวาจับ spatula บดผงยา เบาๆ ให้ละเอียด การจับ spatula ให้จับในลักษณะคว่ํามือ นิ้วชี้ทาบไปตามแผ่น spatula เพื่อใช้ช่วยบังคับให้ spatula อ่อนไปตามแรงบดผสม - เติมสารช่วยบดผสมประมาณ 2-3 หยด พอทั่ว บดผสมไปมาจนได้เนื้อเนียน (smooth paste) กวาดให้ ผงยาอยู่ตรงกลาง - กองครีมหรือขี้ผึ้งวางบน slab ด้านข้างๆผงยา ใช้ spatula ปาดครีมปริมาณใกล้เคียงกับผงยาก่อนมา ผสมแบบ geometric dilution ทําเช่นนี้จนได้ครีมหรือขีผ้ ึ้งเป็นเนื้อเดียวกัน การบดผสมให้หมุนวน spatula ใน ลักษณะวนเป็นวงกลมจากในไปนอกแล้ววนกลับ หรือวนเป็นเลขแปดหรือขดลวดอย่างใดอย่างหนึ่ง บดให้ทั่ว ใช้ spatula ปาดให้ผงยามารวมกันเป็นกองเป็นครั้งคราวตรงกลาง
เทคนิคการ livigation เป็นการผสมผงยาให้เข้ากับยาพื้น ควรเลือกใช้สารช่วยในการบดยาพื้น การ livigate นอกจาจะช่วย ลดขนาดของผงยาแล้ว ยังเป็นการไล่ฟองอากาศที่แทรกระหว่างผงยาออกช่วยให้ผงยา เข้ากับยาพื้นได้ง่ายขึ้น หลักการเลือก livigating agent มีดังนี้ 1. ต้องเป็นของเหลวที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับยาพื้น - ยาพื้นมีคุณสมบัติละลายในน้ําหรือผสมเข้ากับน้ําได้ดี เป็น o/w cream base ใช้ glycerin, propylene glycol, sorbitol เป็น livigating agent - ยาพื้นมีคุณสมบัติเป็นน้ํามันหรือเข้ากับน้ํามันได้ดี เป็น w/o cream base ใช้ mineral oil เป็น livigating agent 2. ถ้าผงยาที่ใช้มากกว่า 10% ของตํารับการใช้ melted base เป็น livigating agent เพราะถ้าใช้ สารอื่นนอกจากตํารับยาพื้นเป็น livigating agent จะใช้ในปริมาณทีม่ ากเกินไป ทําให้ความข้นหนืดของเนื้อยา เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะยาเหน็บจะไม่สามารถเกาะกันเป็นแท่ง Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
7
เทคนิค OSPE
3. ปริมาณ livigating agent ที่ใช้ขึ้นกับปริมาณของผงยา ควรใช้ปริมาณน้อยที่สุดที่ทําให้ผงยาชื้นอยู่ ในลักษณะเพสท์ เพราะนอกจากจะทําให้ผงยาไม่ฟุ้งกระจายขณะบดแล้วยังเกิดแรงฝืดที่จะช่วยในการบี้บดผงยา ให้ละเอียดมากขึ้น 4. livigating ที่เลือกใช้ต้องไม่ละลายผงยา***
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง การกรองสาร
เทคนิคการกรอง 4.1 การกรอง การพับกระดาษกรอง 1. การพับกระดาษกรอง มี 2 แบบคือ plain filter ใช้กับการกรองสําหรับเก็บตะกอน และ plaited filter ใช้กับการกรองเก็บน้ํายาที่กรองได้ (filtrate) ซึ่งใช้ในทางเภสัชกรรมเพื่อเตรียมน้ํายาต่างๆ Plain Filter - พับทบให้ได้ 60 องศา โดยพับสี่แล้วให้เหลื่อมเล็กน้อย ฉีกมุมกระดาษกรองเล็กน้อยเพื่อให้กระดาษ กรองแนบกรวย Plaited Filter - พับแบบจีบให้มีจีบ 16 หรือ 32 จีบเป็นอย่างน้อย โดยการพับทบไปเรื่อยๆ ควรระวังให้ขนาดจีบ เท่ากัน มีลักษณะจีบเข้าออกสลับกันเพื่อเพิ่มพื้นที่กรองได้สม่ําเสมอ (เป็นการกรองเอาสารละลายใส ไม่ต้องคน) 2. การกรอง - เลือกขนาดกรวยกรองให้พอเหมาะ กระดาษกรองควรอยู่ต่ํากว่าขอบกรวยประมาณ 0.5-1 ซม. - วางกระดาษกรองที่พับแล้วลงในกรวย นํากรวยกรองไปวางบน supportory funnel - ทําให้กระดาษกรองเปียกชื้นด้วยของเหลวที่เป็นชนิดเดียวกับกระสายยา เช่น น้ํา แอลกอฮอล์ หยดด้วย หลอดหยดพอเปียก - ใช้บีกเกอร์หรือฟลาสก์รองรับน้ํายาที่กรอง โดยปลายกรวยด้านแหลมแตะที่ผนังบีกเกอร์หรือฟลาสก์ต ลอดการกรอง เทน้ํายาลงในกรวยโดยใช้แท่งแก้วตั้งตรงหรือเอียง 45 องศา นําลงไปด้านข้างๆ ไม่ควรเทโดยตรง ลงกลางกรวยเพราะกระดาษกรองอาจจะทะลุ - หากกรองสารที่ระเหยง่าย ให้นํากระจกนาฬิกาปิดที่กรวยกรองและใช้แผ่นฟิล์มปิดปากภาชนะรองรับ หรือใช้ขวดปากแคบรองรับน้ํายาที่กรอง 3. การกรองด้วยสําลี ใช้กรณีกรองฝุ่นผง และใช้กับของเหลวข้นหนืด เช่น น้ําเชื่อม สารสกัด - ใช้สําลีสะอาด แผ่เป็นแผ่นบางๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิว้ วางบนกรวยกรอง - ทําให้ชื้นเช่นเดียวกับกรองด้วยกระดาษกรอง - เมื่อกรองเสร็จให้ใช้แท่งแก้วกดบีบให้น้ํายาที่ค้างอยู่ในแผ่นสําลีกรองให้หมด 4. การกรองด้วยผ้าขาวบาง ใช้กรณีกรองฝุ่นผง และใช้กบั ของเหลวข้นหนืด เช่น น้ําเชื่อม สารสกัด - ใช้ผ้าทีซ่ ักสะอาดล้างสิ่งเจือปนออกแล้ว พับ 2 หรือ 4 ทบให้มีความหนาตามต้องการ วางลงบนกรวย กรอง Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
เทคนิค OSPE
8
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง การหลอมและให้ความร้อน
การหลอมและใช้ความร้อน 6.1 การหลอม เทคนิคการใช้ความร้อน 1. เทคนิคการควบคุมและให้ความร้อน 1) การให้ความร้อนโดยตรง (direct heat) - วางตะเกียง (burner) หรือเตาไฟฟ้า (hot plate) บนแผ่นกระเบื้องทนไฟ ระวังให้หา่ งจากวัสดุติดไฟ และเครื่องใช้อื่นเช่น เครื่องชั่ง - การจุดตะเกียง ปรับ collar ที่ตะเกียงให้อากาศเข้าพอเหมาะ - เปิดก๊าซ จากนั้นจุดไฟ ปรับจนได้เปลวไฟชนิด nonluminous flame - หากใช้ตะเกียง ให้วางขาตั้ง (tripod) นําแผ่น wire gauze มาวางบนขาตั้ง - หากใช้เตาไฟฟ้า ให้นําแผ่น wire gauze มาวางบนเตาไฟฟ้า - ตั้งภาชนะที่ใส่สารที่ต้องการให้ความร้อนบน wire gauze เช่น beaker, casserole หากต้องการ ควบคุมความร้อน ให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิที่ของเหลว 2) การให้ความร้อนจากหม้ออังไอน้ํา (water bath) ใช้กรณีต้องการให้ความร้อนแก่สารทีส่ ลายได้ง่ายที่อุณหภูมิไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส เช่น wax, fat บางชนิด หรือใช้ในการระเหยแห้ง - เติมน้ําลงใน water bath พอประมาณไม่เต็มเกินไป ปิดฝา วางตั้งบนขาตั้งหรือเตาไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้ wire gauze - เมื่อน้ําเดือด เปิดฝาที่เป็นวงแหวนจนได้ขนาดที่พอตั้งภาชนะได้พอดี ตั้งภาชนะลงบนฝาให้ไอน้ําแผ่ กระจายความร้อน (ในบางกรณี สามารถใช้ภาชนะจุ่มลงในหม้ออังไอน้ํา) 2. การหลอม - หากจุดหลอมเหลวไม่สูงเกิน 100 องศาเซลเซียส ใช้หม้ออังไอน้ํา หากสูงเกินให้ความร้อนโดยตรงอย่าง ระมัดระวังเพราะจะสลายง่าย - ใช้ casserole หรือ beaker ใส่สารที่ต้องการหลอม โดยทั่วไปนิยมหลอมสารที่มีจุดหลอมเหลวสูงสุด ก่อน จากนั้นจึงเติมสารที่มีจดุ หลอมเหลวต่ํากว่าลงมาเป็นลําดับ (order of melting point) ในบางกรณีเช่นจุด หลอมเหลวของสารไม่สูงมากนักและมีค่าใกล้เคียงกัน อาจนํามาหลอมรวมกันได้ - ใช้แท่งแก้วคนขณะให้ความร้อนตลอดเวลา - หากมีฝุ่นผง ต้องกรองขณะร้อน โดยใช้ผา้ ขาวบาง (ไม่ต้องทําให้เปียก) หุ้มวางบนบีคเกอร์ขนาด พอเหมาะโดยไม่ใช้กรวยกรอง เทสารที่หลอมเหลวลงบนผ้า ใช้แท่งแก้วบีบส่วนที่ค้างอยู่ออกจนหมด
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
9
เทคนิค OSPE
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง การเจือจางสาร
การผสมยาน้ําและเจือจางตามความแรงที่กาํ หนด 7.1 เทคนิคในการผสมยาน้ําให้ได้ความเข้มข้นหรือสัดส่วนที่กําหนด - หากผงยาเป็นผลึก เป็นผงหยาบ ให้บดก่อนชั่ง - คํานวณปริมาณโดยประมาณ (approximate volume)ของน้ํากระสายในตํารับ ใช้สว่ นหนึ่งของน้ํากระสาย นิยมปริมาณ 3/4 ของปริมาณน้ํากระสายในตํารับในการนํามาละลายผงยา - ใส่ผงยาลงในบีคเกอร์ เติมน้ํากระสายที่คํานวณได้โดยการตวงจากกระบอกตวงขนาดที่ใกล้เคียงกับปริมาตรที่ ต้องการตวง ใช้แท่งแก้วคนให้ผงยาละลายจนหมด - เทสารละลายลงในกระบอกตวง ปรับปริมาตรโดยการเติมน้ํากระสายจนถึงปริมาตรที่ต้องการ เทกลับลงในบีค เกอร์แล้วคนผสม แล้วบรรจุขวด 7.2 การเจือจางยาให้มีความแรงตามที่กําหนด เช่น แอลกอฮอล์ น้ํายาฆ่าเชื้อ - คํานวณปริมาณของสารที่ต้องใช้เพื่อนํามาเจือจางที่เป็นสารละลายที่เข้มข้นกว่า เช่น stock solution - ตวงสารละลายเข้มข้นมาโดยใช้เครื่องตวงที่เหมาะสม เช่น ดูดโดยใช้ pipet หรือตวงโดยกระบอกตวง ใส่ สารละลายลงในภาชนะสําหรับเตรียมที่มีขนาดเหมาะสม เช่น บีคเกอร์ - เติมตัวทําละลายหรือน้ํากระสายลงไปผสม ใช้แท่งแก้วคนให้ผสมเข้ากัน - เทลงในกระบอกตวง ปรับปริมาตรให้ได้ตามต้องการ การเจือจางสาร ความแรง Alcohol USP=95%, BP=96% ตัวอย่าง เตรียม alcohol 70% จาก 95 % จํานวน 50 ml แอลกอฮอล์ 95 % 70 ส่วน (ml) 70 % น้ํา 0% 25 ส่วน (ml) รวม 95 ส่วน (ml) ต้องการเตรียม Alcohol 70% จํานวน 50 ml เตรียม alcohol 70 % จาก ทั้งหมด 95 ส่วน ใช้ Alcohol USP 70 ส่วน เตรียมทั้งหมด 50 ส่วน ใช้ Alcohol USP (70 ×50) / 95 = 36.84 ส่วน (ml) เพราะฉะนั้น ต้องใช้นา้ํ เท่ากับ 50 – 36.84 = 13.16 ส่วน (ml) การเตรียม 1. ตวง alc. ใส่ใน cylinder ขนาดที่เหมาะสมที่สุด (cylinder ที่เลือกต้องใกล้เคียงกับปริมาตรที่ต้องการ มากที่สุด) 2. ตวงน้ําใส่ใน Cylinderขนาดที่เหมาะสมเช่นกัน 3. เท alc. ใส่ในบีกเกอร์ จากนั้นจึงเติมน้ํากลั่นลงไปผสม คนให้สารละลายเข้าดี นําสารละลายที่ผสมเข้ากันดีแล้ว เทใส่ใน Cylinder ปรับปริมาตรด้วยน้ํากลั่นอีกครั้ง Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
เทคนิค OSPE
10
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง ทักษะการระบุ Dosage Form
การระบุชนิด / รูปแบบของยาจากลักษณะภายนอก หมายถึงสามารถบอกได้จากลักษณะภายนอกของยาที่เห็นว่าเป็นชนิดหรือรูปแบบของยาใด ต่อไปนี้
ยารูปแบบของแข็ง (solid dosage forms) 1. Powders : ยาผง – เภสัชภัณฑ์กลุ่มนี้มักเป็นยาปฏิชีวนะหรือวิตามินที่ไวต่อความชื้นเป็นพิเศษ เช่น ORS ผงพิเศษ 2. Granules : ยาแกรนูล – ลักษณะจะเป็นเม็ดเล็ก...เล็ก ตัวอย่างยา เช่น Fluimucil®(Acetylcysteine) Granules เป็นต้น 3. Hard Gelatin Capsules : ยาแคปซูลแข็ง(hard capsules) ซึ่งทุกคนคงเข้าใจดี 4. Soft Gelatin Capsules : ยาแคปซูลอ่อน (soft capsules) เช่นพวกน้ํามันตับปลา วิตามินอี วิตามินเอ 5. Tablets : ยาเม็ด • Lozenges : คือยาอม อันนี้คุณต้องรู้นะ เช่น strepsil® Mybacin® ดีกัวดีน หรือ ยาฆ๋าเชื้อรา โครไตรมาโซลแบบเม็ดอม เป็นต้น • Pills : ยาเม็ดเล็กๆ เช่น ยาลูกกลอนเม็ดเล็กๆ ยาอมสมุนไพรที่เป็นเม็ดเล็กๆดําๆอ่ะ • Pastilles : ยาอมเม็ดหนึบๆ เช่น ฮัดสันจูจู๊บบบบบ • Vaginal suppository tablets : ยาเหน็บช่องคลอดรักษาเชื้อราไง 6. Coated Tablets : ยาเม็ดเคลือบ • Sugar coated tablets : ยาเม็ดเคลือบน้ําตาล เวลาสังเกตจะเห็นว่ายารูปแบบนี้จะเคลือบ หนาๆและมันวาว เช่น Vitamin B complex • Film coated tablet : ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม ลักษณะภายนอกเมื่อมองจะดูมันแบบด้านๆไม่วาว เหมือน sugar coated tablet เช่น Ibuprofen • Enteric coated tablets :ยาเม็ดเคลือบฟิล์ม อันนี้จะทราบยากเนื่องจากต้องรู้ว่ายาดังกล่าว ต้องทําให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการให้แตกตัวในลําไส้เล็ก เช่น diclofenac, omeprazole เป็นต้น รูปแบบยาที่จะไปขยายความข้อมูลข้างต้น เช่น - ยาเตรียมลักษณะผงฟู่ : Effervescents ซึ่งอาจเป็นได้ทั้ง Tablets เช่น Calcium แบบเม็ดฟู่ เป็น Powders เช่น อีโน จําไว้ว่าต้องระบุรูปแบบยาให้ชัดเจน ครบถ้วน
ยารูปแบบของเหลว-ยาน้ําใส 1. Solutions : ยาสารละลาย ยาน้ําปรุง (waters) ยาอิลิกเซอร์ (elixirs) ยาสปิริต (spirits) 2. Syrups : ยาน้ําเชื่อม ลักษณะเป็นสารละลายใส ไม่หนืดมาก ไม่ตกตะกอน เมื่อส่องกับไฟจะไม่เห็น การกระเจิงของแสง จะต้องไม่ขุ่นด้วย ถ้าขุน่ ไม่ใสต้องระวังจะสับสนกับ emulsions หรือsuspensions ได้นะ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
11
เทคนิค OSPE
ยารูปแบบของเหลว-ยากระจายตัว 1. Mixtures : ยาน้ําผสม เป็นการผสมของสารหลายชนิด เช่น ยาแก้ไอน้ําดํา (Brown mixtures) ยาขับ ลม (Mixture Carminative) ลองดมๆดูแล้วคุณจะติดสินใจได้ง่ายขึ้นมันจะเป็นกลิ่นแบบสมุนไพรอ่ะนะ มันอาจจะ มีตะกอนนอนที่ก้นขวด หรือลอยไปลอยมา 2. Suspensions/Magmas : ยาน้ําแขวนตะกอน มันคือรูปแบบยาที่ไม่ละลายน้ําหรือเสื่อมสลายเมื่อ โดนน้ํา ตะกอนมันจะนอนก้นข้างล่างเมื่อเขย่าจะเกิดการกระจายตัว เช่น ยาลดกรด ที่ต้องระวังคือ คาลาไมน์ มัน จะบอกว่าเป็นโลชั่นแต่แท้ที่จริงแล้วมันคือ Suspension 3. Emulsions : อันนี้ก็เช่นน้ํามันตับปลา พวกยาระบาย mineral oil ลักษณะเมื่อมองภายนอกจะดู หนืดสุดๆ ดูขุ่นๆ ส่องกับไฟแล้วจะกระเจิงแสง 4. Lotions : ก็โลชั่นที่ทาตัวนั่นหล่ะ ลักษณะขุ่นข้นมากกว่าอิมัลชั่น 5. Liniments : ยาถูนวด เช่นนี่เลย น้ํามันมวย 6. ยาคอลลอยด์ (colloids)
ยารูปแบบกึ่งเหลวกึ่งแข็ง 1. Creams : ยาครีมเป็นอิมัลชั่นที่เข้มข้นจนจะแข็งแล้วอ่ะ 2. Ointments : ยาขี้ผึ้ง จะหนืดและมันมากว่ายาครีม 3. Pastes : ยาเพสต์ เนื้อยาจะมีลักษณะหยาบ เช่น triamcinolone oral pastes (Kenalog®) 4. Gels : ยาเจล ก็เป็นเจลใสๆไงอ่ะ 5. Suppositories : ยาเหน็บ อันนี้เหน็บได้ทั้งรูทวารหนัก และช่องคลอด แบบเหน็บรูทวารหนัก ส่วนมากจะเป็นยากึ่งแข็งกึ่งเหลว ให้ใช้คําว่า Rectal suppositories แต่ถ้าเป็นยาเหน็บช่องคลอดมักจะอยู่ใน รูปแบบยาเม็ด (Tablets)
อื่นๆ 1. Inhalations : เช่น ยาดมอ่ะ - Aerosol Inhalations : ยาสูดพ่นแบบ Aerosol เช่น Ventolin® MDI 2. Nebulizer nasal drops ยาหยดจมูก 3. Ear/Eye drops : ยาหยอดหู หยอดตา 4. ผลิตภัณฑ์ยาฉีด 5. ผลิตภัณฑ์ควบคุมการปลดปล่อยยา (controlled released products) 6. ระบบการนําส่งยา (drug delivery systems) จุดสังเกต : • การเขียนรูปแบบยาทุกครั้งต้องมีการเติม “S” ด้วย ห้ามลืมเป็นเด็ดขาด • หากสามารถเปิดฝาดมได้ ให้ดมดูจะได้คาดการณ์จากประสบการณ์ได้ว่าเป็นยารูปแบบใด (อันนี้ก็เป็น เทคนิคเฉพาะตัวนะ) • การเขียนรูปแบบยาต้องเขียนแบบ technical term คือเป็นภาษาอังกฤษ และต้องเขียนให้ถูกต้องทุก ตัวอักษร มิฉะนั้นจะไม่ได้คะแนน • ระบุรูปแบบยาให้ชัดเจนที่สุด เช่น ถ้าเป็นยาเม็ดฟู่ให้เขียนเป็น Effervescent Tablets ถ้าเป็นผงฟู่แบบ อีโนให้เขียนเป็น Effervescent Powders Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
12
เทคนิค OSPE
• ต้องมีความรอบรู้ถึงรูปแบบยา/เภสัชภัณฑ์ที่มีการควบคุมการปลดปล่อยตัวยา เช่น enteric coated tablet เป็นต้น ยกตัวอย่าง omeprazole จะเป็นยารูปแบบ Enteric coated granules in hard gelatin capsules เป็นต้น
การบอกรูปแบบยา (ต้องตอบเป็นศัพท์เทคนิค) ต้องใช้ความรู้ที่เรียนมาในการสังเกต จดจําจากการฝึกงาน แต่ตัวที่เจอในข้อสอบบ่อย ๆ เช่น ยา Eno, Vitamin C Fumucil, Acetyicysteine Calamide, MOM Ibuprofen Vitamin B complex Vitamin E ยาอมต่าง ๆ น้ํามันมวย ORS, ดีแชมป์ ยาลูกกลอน Proctosedyl Canesten suppo® ยาหยอดจมูก
รูปแบบ Effervescent powder granule Suspension / magma Film coated tablet Sugar coated tablets Soft gelatin capsule Lozenges Liniment Powder Pills Suppository Vaginal tablet Nebulizer nasal drop
ข้อมูลน่ารู้ การเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับชนิด / รูปแบบของยา ยาที่ต้องเก็บในภาชนะ/บรรจุภัณฑ์ตามที่เหมาะสม แก้วชนิดต่าง ๆ พลาสติกชนิดต่าง ๆ โลหะ การใช้ภาชนะป้องกันแสง ความชื้น
ภาชนะบรรจุ ภาชนะ คือสิ่งที่ใช้สําหรับใส่ของ ในที่นี้คือบรรจุยาเตรียม และอาจสัมผัสกับยาเตรียมโดยตรงก็ได้ immediate container คือภาชนะที่มีการสัมผัสกับยาเตรียมโดยตรงตลอดเวลา closure หรือจุกปิด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาชนะ ภาชนะที่ใช้ไม่ควรทําปฏิกิริยากับยาเตรียมที่บรรจุอยู่ทั้งทางกายภาพและเคมี จนทําให้ความแรง (strength) คุณภาพ (quality) และความบริสุทธิ์ (purity) ของยาเตรียมเปลี่ยนแปลงไปเกินกว่าที่กําหนดไว้ตาม เภสัชตํารับ เภสัชตํารับกําหนดภาชนะสําหรับบรรจุยาเตรียมชนิดต่างๆสําหรับเภสัชกรและผู้จ่ายยาดังนี้ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
13
เทคนิค OSPE
ภาชนะบรรจุมีได้หลายลักษณะ เภสัชตํารับกําหนดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี และมี คําศัพท์ที่ใช้เรียกภาชนะนั้น ๆ ดังต่อไปนี้ child resistant packaging เป็นการบรรจุยาลงในภาชนะที่มีการป้องกันไม่ให้เด็กเล็กเปิดได้ง่าย แต่ จะไม่ยุ่งยากสําหรับผู้ใหญ่ เช่น ออกแบบฝาปิดขวดยาให้การเปิดต้องใช้ท่าทางหลายลักษณะพร้อมกัน เช่น ขณะ หมุนเปิดออกต้องมีการกดฝาด้วย หรือ กดฝาลงและยกขึ้นเพื่อให้ฝาเปิดออก tamper resistant packaging หรือ tamper evident packaging หรือ tamper proof packaging เป็นภาชนะบรรจุที่ได้มีการปิดผนึก ซึ่งจะต้องทําลายหรือฉีกผนึกเหล่านั้น เมื่อต้องการเปิดภาชนะ บรรจุยา วัตถุประสงค์คือให้เป็นที่สังเกตเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ เพื่อไม่ให้สามารถนําสิ่งปนปลอมอื่น บรรจุลงไปได้โดยเฉพาะยาปราศจากเชื้อ light-resistant container คือภาชนะที่สามารถปกป้องยาเตรียมจากผลของแสงด้วยคุณสมบัติของสาร ที่เป็นส่วนประกอบของภาชนะ รวมทั้งสารทีใ่ ช้เคลือบภาชนะด้วย อาจใช้ภาชนะใส ปราศจากสี หรือโปร่งแสง และป้องกันแสงโดยการปิดภาชนะด้วยวัสดุทึบแสง ในกรณีนี้ต้องมีฉลากที่ระบุว่าภาชนะนี้ต้องปิดด้วยวัสดุทึบแสง จนกว่าจะมีการใช้หรือจ่ายยาเตรียม light-resistant container ใช้สําหรับบรรจุยาเตรียมที่ระบุว่า “protect from light” (หรือป้องกันแสง) well-closed container เป็นภาชนะที่ใช้ปกป้องยาเตรียมจากฝุ่นละอองภายนอก และป้องกันการ สูญเสียยาเตรียมที่บรรจุอยู่ ภายใต้สภาวะการใช้ ขนส่ง เก็บรักษาและแจกจ่ายปกติ tight container เป็นภาชนะที่ปกป้องยาเตรียมจากการปนเปื้อนของสารจากภายนอกทั้งในสภาวะ ของเหลว ของแข็งและก๊าซ ป้องกันการสูญเสียยาเตรียม และป้องกันการเปลี่ยนแปลงจากผลึกยาเป็นผงยา (efflorescence) การเยิ้มของยาจากการดูดน้ํา (deliquescence) หรือการระเหย ภายใต้สภาวะการใช้ ขนส่ง เก็บรักษาและแจกจ่ายปกติ และยังสามารถปิดได้แน่นหลังจากเปิดด้วย อาจใช้ hermetic container แทน tight container ในกรณีของยาเตรียมที่มีการจ่ายแบบ single dose ได้ hermetic container ใช้เพื่อป้องการซึมผ่านของอากาศหรือก๊าซอื่นๆภายใต้สภาวะการใช้ ขนส่ง เก็บ รักษาและแจกจ่ายปกติ single-unit container คือภาชนะที่ออกแบบเพื่อบรรจุยาเตรียมในปริมาณที่พอดีกับขนาดการใช้ยาแต่ ละครั้ง (single dose) และมีการใช้ทันทีหลังจากเปิดภาชนะ ดังนั้น immediate container และ/หรือ หีบห่อ ภายนอกควรมีลักษณะ tamper-resistant packaging ด้วย แต่ละ single-unit container ควรมีฉลากแสดง เอกลักษณ์ ปริมาณ และ/หรือความแรง ชื่อบริษัทผู้ผลิต รุน่ ผลิต (lot number) และวันหมดอายุของยาเตรียม ด้วย single-dose container คือ single-unit container ที่ใช้บรรจุยาเตรียมที่เป็นยาฉีดเท่านั้น จึงควร แสดงฉลากในลักษณะเดียวกัน ตัวอย่างของ single-dose container คือ pre-filled syringes, cartridges, fusion-sealed containers และ closure-sealed containers unit-dose container คือ single-unit container ที่ใช้บรรจุยาเตรียมที่ไม่ใช่ยาฉีด และมีการให้ยาใน ปริมาณยาหนึ่งขนาดจากภาชนะโดยตรง multiple-unit container คือภาชนะบรรจุที่ยอมให้มีการนํายาเตรียมออกจากภาชนะในปริมาณต่างๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลงความแรง คุณภาพ และความบริสุทธิ์ของยาเตรียมที่เหลือ multiple-dose container คือ multiple-unit container สําหรับยาเตรียมที่เป็นยาฉีดเท่านั้น
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
14
เทคนิค OSPE
ยาที่ต้องใส่ขวดสีชา (PROTECT FROM LIGHT) ควรสังเกตุจากข้อความที่ระบุบนภาชนะหรือหีบห่อของยาแต่ละขนาน และ/หรือเปิดจากหนังสืออ้างอิง ตัวอย่าง เช่น - Nifedipine - Glyceryl Trinitrate - Nitrendipine - Propranolol - Metoprolol - Phenytoin - Dopergin - Doxycyclin - Eltroxin - Essentiale - Metronidazole - Fludrocortisone (FLORINEF) - Zalcitabine - Hydroxyurea - Terazosin - Indomethacin Sustain-Released Tablet - Isosorbide Dinitrate - Isoniazid - Digoxin - Thioguanine - Furosemide - Gemfibrozil Tablet - Madopar 250 mg. , HBS - Meladinine - Methotrexate - Pizotifen - Naproxen - Hydroxychloroquine Sulfate - Mercaptopurine - Zidovudine - Calcitriol - Rowatinex - Septrin DS - Sinemet 125,275 mg. - Prochlorperazine Maleate - Methimazole - Thyroid Hormone - Carbamazepine - Atenolol - Tetracyclin - Vitamin A - Vitamin C - Vitamin E - Multivitamin - Salbutamol
การสื่อสารเพื่ออธิบายความสําคัญของรูปแบบผลิตภัณฑ์ยาและกระบวนการผลิตยาต่อ ประสิทธิภาพและการออกฤทธิ์
รายการยาที่ห้ามแบ่ง/บดหรือเคี้ยวเม็ดยา 1. รายชื่อยาที่เป็น Controlled release dosage forms Adalat CR (30 mg.) Bricany Durule Codipront Dynacirc SRO (5 mg) soptin Retard (หักแบ่งได้) Kinidin Durule Oruvail (100,200 mg.) Ponderal Pacaps Tegretol CR (หักแบ่งได้)
Addi-K Bezalip Retard Cardil SR (หักแบ่งได้) Dimetapp Extentab Inderal LA Indocid R. Pluryle – K Kalium SR Madopar HBS MST (Morphine Sulfate) Panbesy Plendil (หรือ Munobal) Roxil (75,150 mg.) Volmax Voltaren 100 mg
2. รายชื่อยาที่เป็น Enteric-Coated Dosage Forms Aspent , Dicetel ,Dulcolax ,Erytab Salazopyrin ,Voltaren 25 mg , Vivotif Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
15
ยาที่ไม่ควรหัก แบ่ง บด เคี้ยว หรือทําให้เม็ดยาแตก ยาบางประเภทไม่ควรหักแบ่ง บด เคี้ยว หรือทําให้เม็ดยาแตกเนื่องจากมีการออกแบบสูตรตํารับและ คุณสมบัติพิเศษ การทําให้เม็ดยาแตกอาจมีผลเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์ของยาได้ รูปแบบยาที่ไม่ควรหักแบ่ง บด เคี้ยวหรือทําให้เม็ดยาแตก ได้แก่ 1. ยา extended-release ได้แก่ ยาที่อยู่ในรูปแบบ controlled-release, modified-release ซึ่งถูกออกแบบ ให้มีการควบคุมการออกฤทธิ์ในรูปแบบยาออกฤทธิ์เนิ่น มักสังเกตได้จากชื่อยามักลงท้ายด้วยตัวอักษร CR, LA, MR, SR, XL หรือ XR ต่อท้ายชื่อการค้ายา 2. ยา enteric coated ได้แก่ ยาที่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร หรือ ยาที่ไปออกฤทธิ์ที่ลําไส้ 3. ยา sugar coated ส่วนใหญ่ยาประเภทนี้จะมีรสชาติของยาไม่ดีจึงต้องเคลือบน้ําตาลเพื่อกลบรสของยา 4. ยาอมใต้ลนิ้ (Sublingual) 5. ยา effervescentได้แก่ ยาเม็ดฟู่ ซึ่งการหักหรือบดยาก่อนละลายน้ําอาจมีผลต่อการละลายน้ําของยา
ตาราง ยารับประทานในรูปแบบออกฤทธิ์เนิ่นซึ่งห้ามบด หรือเคี้ยว ที่มีจําหน่ายในประเทศไทย ชื่อสามัญ
ชื่อการคา
Alfuzosin HCl
Xatral SR Xatral ® XL Bronchopront® C - will® Hypoca® Bezalip retard® Sinemet® CR
Sanofi - Synthelabo Sanofi - Synthelabo Mack Will Pharma/SPB Pharma Yamanouchi Roche Merck Sharp & Dohme
Distaclor® MR Vercef ® MR Klacid® Codipront®
Eli Lilly Ranbaxy unichem Abbott Mack
Ambroxol HCl Ascorbic acid Barnidipine HCl Bezafibrate Carbidopa และ levodopa Cefaclor monhydrate Cefaclor Clarithromycin Codeine และ phenyltoloxamine
®
Perenan® Remethan® Voltaren ® SR Diltiazem HCl Angizem® Cardil® CR Cascor ® XL Dilem ® SR Herbesser® 90 D - norpseudoephedrine Mirapront® Felodipine Plendil® Fluvastatin Lescol® XL Co - dergocrine Diclofenac sodium
Pharmacy Rx’24
บริษัทผูผ ลิต
Sanofi - Synthelabo Remedica Novartis Sun Pharma Orion Ranbaxy Unichem Douglas/TTN SR Tanabe Seiyaku Mack AstraZeneca Novartis
รูปแบบและขนาดยา ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 10 มก. แคปซูล 75 มก. แคปซูล 500 มก. แคปซูล 10,15 มก. ยาเม็ด 400 มก. ยาเม็ด (carbidopa 50 มก. และ levodopa 200 มก.) ยาเม็ด 375 มก. ยาเม็ด 375 มก. ยาเม็ด 500 มก. แคปซูล (codeine 300 มก. และ phenyltoloxamine 10 มก.) แคปซูล 2.5 มก. ยาเม็ด 100 มก. ยาเม็ด 75 มก. * ยาเม็ด 30,60 มก. ยาเม็ด 120 มก. * แคปซูล 120,180,240 มก. แคปซูล 60,120 มก. แคปซูล 90 มก. แคปซูล 20 มก. ยาเม็ด 2.5 , 5 , 10 มก. * ยาเม็ด 80 มก.
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review Diamicron® MR Natrilix® SR ISO - MACK® - retard Monolin® SR Monotrate® OD Isosorbide - 5 – mononitrate Imdur® Isoxsuprine resinate Duvadilan® Ketoprofen Oruvail ® 100 Metoprolol 100 mg Stada® Metoprolol 200 mg Stada® Morphine sulfate Mst contnustm 10 mg Nicardipine HCl Cardepine® Nifedipine Adalat® CR Adalat ® Retard Calcigard® Fenamon® SR Nifecard ® retard Nifecard ® T20 Nifelat® R Nyefax® Omeprazole Mg Losec® MUPS Orphenadrine HCl Norflex® Pentoxifylline Agapurine® Flexital® Trental ® 400 Phentermine resinate Phentermine® trenker Phenylephrine HCl , Rhinopront® Carbinoxamin maleate Piribedil Trivastal® retard Potassium chloride Addi K® Propranolol HCl Inderal® LA Salbutamol Volmax® Sodium vaproate Depakine® chrono Theophylline Aerobinmite® Nuelin® SR Retafylline® CR Xanthium® Tramadol HCl Tradonal® SR Tramal ® retard Venlafaxine HCl Efexor® XR Gliclazide Indapamide Isosorbide dinitrate
16
เทคนิค OSPE
Servier Servier Mack Berlin Pharm Sun Pharma Astra Zeneca Duphar - Interfran Aventis Pharma
ยาเม็ด 30 มก. * ยาเม็ด 1.5 มก. * แคปซูล 20,40 มก. แคปซูล 20,40,60 มก. ยาเม็ด 50 มก. Durule 60 มก. * แคปซูล 40 มก. แคปซูล 100 มก. ยาเม็ด 100 มก. ยาเม็ด 200 มก. Astamedica ยาเม็ด 10 มก. * Westmont/Great Eastern แคปซูล 40 มก. Bayer ยาเม็ด 30 ,60 มก. Bayer ยาเม็ด 20 มก. Torrent ยาเม็ด 20 มก. Medochemie ยาเม็ด 20 มก. Lek ยาเม็ด 20 มก. Stada ยาเม็ด 20 มก. Remedica ยาเม็ด 20 มก. Douglas/TTN ยาเม็ด 20 มก. Astra Zeneca ยาเม็ด 20 มก.* 3M Pharma ยาเม็ด 100 มก. Slovakofarma ยาเม็ด 400 มก. Sun Pharma ยาเม็ด 400 มก. Aventis Pharma ยาเม็ด 400 มก. * Trenker แคปซูล 15,30 มก. Mack แคปซูล ขนาด (4 + 20 มก. ตามลําดับ) Servier ยาเม็ด 50 มก. * Leo ยาเม็ด 50 มก. * Astra Zeneca ยาเม็ด 80,160 มก. GlaxoSmithkline ยาเม็ด 4 มก. Sanofi - Synthelabo ยาเม็ด 500 มก. * Pharmasan / TTN แคปซูล 200 มก. 3 M Pharma ยาเม็ด 200* , 250 มก. Orion ยาเม็ด 200,300 มก. SMB แคปซูล 200 * , 400 มก. ASTA Medica แคปซูล 50,100,150 มก. Sanofi - Synthelabo ยาเม็ด 100 มก. Wyeth - Ayerst แคปซูล 75 มก.
ที่มา : MIMS Thailand (2002) และเอกสารกํากับยา * เปนยาเม็ดที่สามารถหักครึ่งได เพราะมีรูปแบบออกฤทธิ์เนิ่นแยกเฉพาะกันในแตละครึ่งเม็ดDiclofenac
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
Didanosine (DDI) Dimenhydrinate Erythromycin Indomethacin Lansoprazole Mesalazine Esomeprazole Omeprazole Papain + pepsin Potassium chloride Serratiopeptidase Serratiopeptidase
Sodium vaproate Sulfasalazine Viable organisms of attenuated S thypi strain Ty 21 a Berna
Difelene® Difenac® Difeno® Dosanac® Fenac® Infanac® Medaren® Posnac® Putaren® Remethan® Rumatab® Veenac ® 25,50 Voltanac ® Voltaren® Voltamed® Videx ® EC Vominar® Ery - tab® Metindo® Prevacid® Salofalk® Nexium® Miracid® Papytazyme® Enpott® Danzen® Danzyme - 5® Danzyme - 10® Medizyme® Rodase® Seramed® Serradase® ECT Serrapep® Serrin® Depakine® Salazopyrine® EN Vivotif Berna®
17 ThaiNakornPatana TP Drug Milano Siam Bheasach LBS Biolab Medical Supply Pose Thai PD Chemicals Remedica Pharmaland Progress Lab Pharmasant Lab Novartis Medifive Bristol - Myers Squibb Charoen Bhaesaj Abbott Kenyaku Takeda Chemical industries Falk AstraZeneca Berlin Pharm Anglo - FrenchDrugs Ranbaxy Unichem Takeda Progress Lab Progress Lab Utopian Pond's Chemical Medifive Siam Bheasach Asian Pharm MacroPhar Sanofi - Synthelabo Pharmacia Berna/Swiss serum
เทคนิค OSPE ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25 มก. ยาเม็ด 25 * , 50 มก. ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25 มก. ยาเม็ด 25 มก. ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25 มก. ยาเม็ด 25 มก. ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25,50 มก. ยาเม็ด 25 มก. แคปซูล 250 , 400 มก. ยาเม็ด 50 มก. ยาเม็ด 250 มก. ยาเม็ด 2 มก. แคปซูล 15,30 มก. ยาเม็ด 250,500 มก. ยาเม็ด MUPS 20 , 40 มก. แคปซูล 20 มก. ยาเม็ด (30 + 50 มก. ตามลําดับ) ยาเม็ด 500 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 10 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 5 มก. ยาเม็ด 200 มก. ยาเม็ด 500 มก. แคปซูล
ขอมูลจาก MIMS (2000) และบริษัทผูผลิต
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
18
ตาราง ยาในรูปแบบละลายในช่องปาก หรืออมใต้ลิ้น ซึ่งห้ามบดหรือเคีย้ ว ที่มีจําหน่ายในประเทศ ไทย ชื่อสามัญ
ชื่อการคา
Buprenorphine HCl Temgesic® Isosorbide dinitrate Hartsorb® Isordil® Isorem®
บริษัทผูผ ลิต
รูปแบบและขนาดยา
Schering - Plough Siam Bheasach Wyeth - Ayerst Remedica
ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด
0.2 มก. 5 มก. 5 มก. 5 มก.
ตาราง Enteric coated tablet ซึ่งห้ามบดหรือเคี้ยวที่มีจําหน่ายในประเทศไทย ชื่อสามัญ
ชื่อการคา
บริษัทผูผ ลิต
รูปแบบและขนาดยา
Aspirin
Aspent® Aspent - M® Entrarin® Seferin - 5® Seferin - 10® V - AS® Dulcolax® Emulax® Bisacodyl® Hydergine ® FAS Amminac® Arclonac® Demac®
Ranbaxy Unichem Ranbaxy Unichem Asiam Pharm General Drug House General Drug House Progress Lab Boehringer Ingelheim British Dispensary GPO Novartis MacroPhar Condrugs Osotspa
ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด ยาเม็ด
Bisacodyl Codergocrine Diclofenac
Pharmacy Rx’24
300 มก. 60 มก. 300 มก. 325 มก. 650 มก. 300 มก. 5 มก. 5 มก. 5 มก. O 4.5 มก. 25 มก. 25,50 มก. 25 มก.
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
19
เทคนิค OSPE
เทคนิคทางเภสัชกรรม เรื่อง การดูยาหมดอายุและเสื่อมคุณสภาพ
การตรวจสอบลักษณะของยาที่เสื่อมคุณภาพ ยาหมดอายุ เภสัชกรต้องสามารถแยกแยะยาที่เสื่อมคุณภาพ ยาหมดอายุได้จาก 1) การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของ สี กลิ่น รส การแตกหัก สึกกร่อน การตกตะกอน 2) การดูวันหมดอายุ หรือคาดการจากวันที่ผลิต
1. การสังเกตความไม่คงตัวของเภสัชภัณฑ์ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ชี้ให้เห็นถึงปัญหาความไม่คงตัวของยา เภสัชกรควรตั้งสมมติฐานว่า เภสัช ภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ไม่มีการอธิบายไว้ที่ฉลาก ไม่ควรจ่ายยานั้นให้คนไข้ การเปลี่ยนแปลงทาง กายภาพที่พบได้บ่อยและบ่งบอกความไม่คงสภาพของยามีดังนี้ เภสัชภัณฑ์ในรูปแบบของแข็ง เภสัชภัณฑ์ในรูปแบบของแข็งควรเก็บในบริเวณที่มีความชื้นต่ํา ดังนั้นจึงควรเก็บใน tight container หรือในภาชนะบรรจุจากบริษัทผู้ผลิต สภาพที่มีไอน้ําหรือหยดน้ําหรือยาจับกันเป็นก้อนภายในภาชนะบรรจุ แสดง ถึงสภาพที่ไม่ดี ถ้าเภสัชกรสังเกตเห็นสารกันความชื้น (desiccant) ภายในภาชนะบรรจุจากบริษัท ผู้ผลิตแสดงว่า ควรระมัดระวังความชื้นในการเก็บยาและควรบอกผู้ป่วยเมื่อจ่ายยา สารที่เกิดจากการสลายตัว บางชนิด เช่น salicylic acid ที่สลายตัวจาก aspirin สามารถระเหิดและตกผลึกกลับมาเกาะอยู่ตามผนัง ของภาชนะบรรจุ Hard Gelatin Capsules และ Soft Gelatin Capsules เนื่องจากยาเหล่านี้ได้รับการห่อหุ้ม ด้วยเปลือก เจละติน การเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของเปลือก เช่นการเปลี่ยนแปลงความยืดหยุ่น ความแข็ง ความนุม่ ชี้ให้เห็นถึงความไม่คงตัวของผลิตภัณฑ์เปลือกของยาแคปซูลที่เก็บในสภาวะ ที่ไม่เหมาะสมอาจนิ่มและติดกัน หรือ แข็งและแตกแม้มีแรงกดอ่อนๆ Uncoated Tablets ยาเม็ดที่คงตัวต้องมีขนาด รูปร่าง น้ําหนักและสีเหมือนตอนที่เริ่มผลิต ตลอดอายุ ของยา นอกจากนี้การแตกกระจายตัวและการละลายต้องไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ลักษณะความไม่คงตัวทางกายภาพของยาเม็ดที่ไม่เคลือบ สังเกตได้จากผงยาจํานวนมากหรือเศษเม็ดยา ที่แตกหัก ออกมาจากเม็ดยาที่ก้นภาชนะ รอยร้าวหรือรอยบิ่นที่ผิวเม็ดยา เม็ดยาบวม รอยด่างที่เม็ดยา เม็ดยาเปลี่ยนสี เม็ด ยาเกาะติดกัน หรือผลึกที่เม็ดยาหรือที่ผนังของภาชนะบรรจุ Coated Tablets ลักษณะทีไ่ ม่คงตัวทางกายภาพคือ รอยร้าว รอยด่าง ที่เม็ดยา สารทีใ่ ช้เคลือบเหนียว และเม็ดยาเกาะกันเป็นก้อน Dry Powders and Granules ผงยาและแกรนนูล อาจเกาะกันเป็นก้อนแข็งหรือเปลี่ยนสี ทําให้ไม่เป็น ที่ยอมรับ Powders and Granules ที่ต้องผสมน้ําให้อยู่ในรูปของสารละลายหรือยาน้ําแขวนตะกอนก่อนใช้ เภสัช ภัณฑ์ในกลุ่มนีม้ ักเป็นยาปฏิชีวนะหรือวิตามินที่ไวต่อความชื้นเป็นพิเศษ เนื่องจากยาเหล่านี้จ่ายใน ภาชนะที่มา Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
20
เทคนิค OSPE
จากบริษัทผู้ผลิต จึงมักไม่มีปญ ั หาการปนเปื้อนของความชื้น อย่างไรก็ตาม เภสัชกรควรใช้วิจารณญาณในการ พิจารณาลักษณะจับกันเป็นก้อนแข็งที่ไม่ปกติ และถ้าทีผ่ นังภาชนะบรรจุ มีไอน้ําหรือหยดน้ําก็แสดงว่ายาเตรียมนั้น ไม่เหมาะที่จะนําไปใช้อีกต่อไป กลิ่นที่ไม่ดีกแ็ สดงถึงความไม่คงตัวเช่นกัน เนื่องจากสูตรตํารับเหล่านี้เป็นผงแห้งที่ต้องผสมน้ําก่อนใช้ จึงต้องสังเกตสีและกลิ่นของผลิตภัณฑ์ ทั้งในรูป ผงแห้งและหลังจากผสมน้ําแล้ว Effervescent Tablets, Granules, and Powders ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไวต่อความชื้นค่อนข้างมาก สัญญาณที่บ่งบอกความไม่คงตัวคือผงยาบวมหรือการเกิดก๊าซทําให้เกิดแรงดัน แสดงว่าปฏิกิริยาการเกิดฟองฟู่ เกิดขึ้นแล้วก่อนจ่ายยา เภสัชภัณฑ์ในรูปแบบของเหลว สิ่งสําคัญสําหรับเภสัชภัณฑ์ในรูปแบบของเหลวคือความสม่ําเสมอของยาและความปราศจากการปนเปื้อน ของเชื้อจุลินทรีย์ เภสัชกรและผู้ป่วยอาจสังเกตความไม่คงตัวจากสารละลายขุ่นหรือตกตะกอน อิมัลชันแยก ยาน้ํา แขวนตะกอนไม่สามารถแขวนลอยได้หลังจากเขย่าขวด หรือมีการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นและรส การเจริญของเชื้อ อาจเกิดร่วมกับการเปลี่ยนสี การขุ่น หรือการเกิดก๊าซ Solutions, Elixirs, และ Syrups ลักษณะทีแ่ สดงถึงความไม่คงตัวหลักๆมี 2 อย่าง คือ การขุ่น และการ เจริญของเชื้อหรือการเกิดก๊าซจากปฏิกิริยาเคมี ยาน้ําใสที่คงตัวต้องคงความใส สี และกลิ่นเหมือนตอนเริ่มผลิต ตลอดอายุของยา โดยเฉพาะความใสของ ตํารับจะเป็นจุดหลักในการทดสอบด้านความคงตัวทางกายภาพของยาน้ําใส Emulsions อิมัลชันที่คงตัวต้องมีการกระจายตัวอย่างสม่ําเสมอเหมือนตอนเริ่มผลิตด้วยแรงเขย่า ปาน กลางและสามารถเทออกจากขวดได้ตลอดอายุของยา ลักษณะที่ไม่คงตัวของอิมัลชันสังเกตได้จากการแยกชั้นของผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตามอิมัลชัน ยังมีความคง ตัวแม้เกิด creaming คือเนื้ออิมัลชันสามารถเข้ากันได้เมื่อเขย่า การเก็บอิมัลชันที่ไม่ได้ผ่านการทดสอบการเก็บในตู้เย็น อาจทําให้สารทําอิมัลชันที่เป็นพวกน้ํามัน มีคา่ การ ละลายในระบบลดลงและเกิดการตกตะกอน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ตํารับไม่คงตัวได้ Suspensions ยาน้ําแขวนตะกอนที่คงตัวต้องมีการกระจายตัวอย่างสม่ําเสมอเมื่อเขย่า ด้วยแรงปาน กลาง และสามารถเทออกจากขวดได้ง่ายตลอดอายุของยา โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงการกระจาย ของขนาดอนุภาค ยา (particle size distribution) รูปผลึกยา หรือปริมาณยาที่ผู้ป่วยควรได้รับจากขนาดการ ให้ยาเท่าเดิม ลักษณะหลักทีแ่ สดงถึงความไม่คงตัวของยาน้ําแขวนตะกอนคือการเกิด caking ซึ่งเป็นลักษณะที่ผงยา ไม่ สามารถกลับแขวนลอยได้อีกด้วยแรงเขย่าปานกลาง ผงยาที่มีขนาดโตขึ้นหลังจากเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ระยะ เวลาหนึ่ง อาจมีสาเหตุมาจากผลึกยามีขนาดใหญ่ขึ้นและแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเช่นกัน Tinctures และ Fluidextracts เภสัชภัณฑ์รูปแบบเหล่านี้หรือที่มีลักษณะคล้ายๆกันมักมีสีเข้มขึ้น เนื่องจากยาเตรียมมีความเข้มข้นขึ้น ดังนั้นเภสัชกรจึงควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการตกตะกอนหรือไม่ Sterile Liquids การคงสภาพปราศเชื้อเป็นสิ่งที่สําคัญมากสําหรับของเหลวที่ปราศจากเชื้อ การ ปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในของเหลวปราศจากเชื้อมักสังเกตไม่ได้ด้วยตาเปล่า เภสัชกรอาจตั้งสมมติฐานว่า ผลิตภัณฑ์เกิดการปนเปื้อนด้วยเชื้อจากลักษณะหมอกบางๆ การขุ่น การเปลี่ยนสี การเกิดฟิล์มที่ผิวหน้า การเกาะ กันของผงยา หรือการเกิดก๊าซ ลักษณะทีส่ ําคัญทีส่ ุดของสารละลายปราศจากเชื้อที่เป็นยาตา หรือยาฉีดคือความ ใส เภสัชกรควรตั้งข้อสงสัยถ้าสังเกตเห็นการผนึกผลิตภัณฑ์ที่ไม่สมบูรณ์ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
21
เทคนิค OSPE
เภสัชภัณฑ์กึ่งแข็งกึ่งเหลว ลักษณะทีแ่ สดงถึงความไม่คงตัวหลักของครีม ยาขี้ผึ้ง และยาเหน็บ คือ สี กลิ่น หรือความหนืดที่เปลี่ยนไป Creams โดยทั่วไปครีมคืออิมัลชันที่ประกอบด้วยน้ําและน้ํามัน เภสัชกรและผู้ป่วยสามารถสังเกตความ ไม่คงตัวของครีมได้จากการแยกของอิมัลชัน การโตของผลึก การหดตัวของเนื้อครีมเนื่องจากการระเหยของน้ํา และการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ Ointments ยาขี้ผึ้งที่คงตัวต้องมีการกระจายตัวของยาอย่างสม่ําเสมอตลอดอายุของยา ปัญหาความไม่ คงตัวหลักของยาขี้ผึ้งคือ การแยกของของเหลวออกมาเยิ้มที่ผิวหน้าของยาเตรียม (bleeding) และมีความข้นหนืด (consistency) เปลี่ยนไป การเกิดเม็ดหยาบๆ ในยาขีผ้ ึ้งก็เป็นปัญหาความไม่คงตัว ทางกายภาพของยาขี้ผึ้งเช่นกัน Suppositories ลักษณะหลักที่บ่งบอกความไม่คงตัวของยาเหน็บคือยาเหน็บที่อ่อนนุ่มเกินไป ยาเหน็บ บางชนิดอาจแห้งและแข็ง หรือเหี่ยวแห้ง เภสัชกรควรตรวจสอบยาเหน็บแต่ละแท่งอย่างใกล้ชิด ถ้าสังเกตเห็นรอย น้ํามันที่กล่องโดยการเปิดฟอยล์ที่หุ้มอยู่ถ้าจําเป็น ยาเหน็บโดยทั่วไปควรเก็บในตู้เย็น แม้อาจมีข้อยกเว้นในบาง กรณี
2. การดูวันหมดอายุ หรือคาดการจากวันที่ผลิต ฉลากของยาสามัญและอาหารเสริมควรบอกวันหมดอายุ ที่คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย และควรแสดงวัน หมดอายุอย่างเด่นชัด เช่นใช้สีที่ต่างจากสีพื้น หรือใช้สีเข้มเน้น กรณีที่อาจยกเว้นการแสดงวันหมดอายุของยาและอาหารเสริม คือ เภสัชภัณฑ์หรืออาหารเสริมนั้นบรรจุ ในภาชนะสําหรับขายโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ ฉลากของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ระบุข้อจํากัดของขนาดรับประทาน และผลิตภัณฑ์นั้นมีความคงตัวไม่น้อยกว่า 3 ปีถ้าเก็บภายใต้สภาวะที่กําหนด วันหมดอายุของยา (expiration date) บอกช่วงเวลาที่คาดว่ายาคงสภาพตามที่กําหนดไว้ในเภสัชตํารับ ถ้าเก็บภายใต้สภาวะที่กําหนด ดังนั้นวันหมดอายุของยาจึงกําหนดช่วงเวลาในการจ่ายหรือใช้ยา ถ้าวันหมดอายุ ของยาระบุไว้ในรูป “เดือน/ปี” หมายถึงวันสุดท้ายของเดือนที่กําหนด วันหมดอายุที่กําหนดโดย บริษัทผู้ผลิตนี้ไม่ สามารถนําไปใช้กับผลิตภัณฑ์ที่แบ่งบรรจุในภาชนะบรรจุที่แตกต่างไปจากเดิม
3. การแนะนําการเก็บรักษายาบางชนิดที่สําคัญ การเก็บรักษายาภายใต้สภาวะที่กําหนด สภาวะการเก็บยาที่แนะนํามักระบุไว้บนฉลาก โดยอาจกําหนดช่วงอุณหภูมิ หรือสถานที่หรือเงื่อนไขใน การเก็บเภสัชภัณฑ์ เช่น “เก็บในตู้เย็น” “เก็บที่อุณหภูมิห้อง” เภสัชกรควรปฏิบัติตามคําแนะนําเสริมด้วย เช่น “เก็บยาให้พ้นแสง” ถ้าเภสัชภัณฑ์ที่ต้องเก็บให้พ้นแสงบรรจุในภาชนะใสหรือโปร่งแสงแล้วใส่ในกล่องทึบแสง เภสัชกรและผูป้ ่วยไม่ควรแกะกล่องทิ้งจนกว่าจะใช้ยาหมดหรือทิ้งยา ถ้าไม่ระบุสภาวะในการเก็บอย่าง เฉพาะเจาะจง เภสัชกรและผูป้ ่วยควรเก็บเภสัชภัณฑ์นั้นในอุณหภูมิห้องที่ควบคุม (controlled room temperature, 20-25 0C) ควรหลีกเลี่ยงเภสัชภัณฑ์จากบริเวณที่ร้อน เย็น หรือมีแสงมากเกินไป หรือมีการ เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมากเกินไป ยาที่แบ่งบรรจุควรเก็บในสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมความชื้นและตามอุณหภูมิที่กําหนดในเภสัชตํารับหรือตาม ฉลาก ในกรณีที่ไม่ระบุอุณหภูมิและความชื้น ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง (controlled room temperature) แต่ไม่ เกิน 23 0C ที่ความชื้นสัมพัทธ์ไม่มากกว่า 75% ในตู้เย็นและในช่องแช่แข็งไม่ถือเป็นบริเวณที่ควบคุมความชื้น ถ้า ยานั้นถูกกําหนดให้เก็บในที่เย็นจัด (cold temperature) ให้เก็บยาในตูเ้ ย็นหรือช่องแช่แข็งโดยใส่ยาในภาชนะ บรรจุชั้นนอก (outer container) ที่เข้ามาตรฐานที่บังคับไว้สําหรับยานั้นๆ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
22
เทคนิค OSPE
อุณหภูมิ เภสัชภัณฑ์หลายชนิดต้องเก็บในที่เย็น โดยเฉพาะที่อุณหภูมิต่ํากว่า 15 0C เช่นยาเหน็บที่ต้อง หลอมละลายทีอ่ ุณหภูมิของร่างกาย ยาเตรียมเหล่านี้อาจเสียได้ถ้าวางไว้ในที่ร้อน ยาฉีดอินซูลินควรเก็บที่อุณหภูมิ 2 – 8 (หรือ 10) 0C คือในตู้เย็นแต่ไม่ใช่ช่องแช่แข็ง ยาปฏิชีวนะในรูปแบบยาน้ําแขวนตะกอน ผลิตภัณฑ์ที่มีนา้ํ มันหอมระเหย และครีมบางชนิดต้องเก็บในที่ เย็น ยาที่มีไซรับในปริมาณสูงหรือมีปัญหาการละลายควรหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ความชื้น ยาในรูปแบบของแข็งควรป้องกันความชื้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรบรรจุในภาชนะที่ป้องกัน อากาศและความชื้นได้ และควรชี้แจงให้ผปู้ ่วยปิดฝาหลังจากใช้ยา ยาผงที่แบ่งบรรจุในกล่อง/ห่อกระดาษ ควรเก็บ ในที่แห้ง แสง ขวดสีชาใช้ป้องกันผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อแสง การใส่กล่องช่วยเพิ่มการป้องกันแสงได้ สารบางชนิดเช่น paraldehyde ต้องเก็บในที่มดื สนิท ภาชนะบรรจุไม่ควรสัมผัสแสงอาทิตย์โดยตรงแม้จะเป็นภาชนะป้องกันแสง ก็ ตาม การติดไฟ ผลิตภัณฑ์ที่มีตัวทําละลายอินทรีย์ที่ติดไฟได้ควรมีฉลาก “ติดไฟได้ เก็บให้ห่างจากเปลวไฟ” ตัวอย่าง ยาเตรียม Salicylic Acid Lotion BP ที่ใช้กับหนังศีรษะ ควรแนะนําให้หลีกเลี่ยงการเป่าผมให้แห้ง ใน บริเวณใกล้ไฟหรือเปลวไฟ ข้อสอบจะครอบคลุมเฉพาะชนิดที่มผี ลิตภัณฑ์จําหน่ายในประเทศไทย เป็นรายการในบัญชียาหลัก แห่งชาติ พ.ศ.2542 และใช้บ่อยเท่านัน้ วันหมดอายุ (Expiration Date) เป็นการบอกช่วงเวลาที่คาดว่ายาคงสภาพตามที่กําหนดไว้ในเภสัชตํารับถ้าเก็บภายใต้สภาวะที่กําหนด ดังนั้นวันหมดอายุของยาจึงกําหนดช่วงเวลาในการจ่ายยาหรือใช้ยา ถ้าวันหมดอายุของยากําหนดไว้ในรูป เดือน / ปี หมายถึงวันสุดท้ายของเดือนที่กําหนด วันหมดอายุที่กําหนดโดยบริษัทผู้ผลิตนี้ไม่สามารถนําไปใช้กับผลิตภัณฑ์ ที่แบ่งบรรจุในภาชนะที่บรรจุแตกต่างไปจากเดิม เช่น 06/2005 หมายถึง 30 มิถุนายน 2548 12/2006 หมายถึง 31 ธันวาคม 2549 การเก็บรักษายา การเก็บรักษายาทั้งก่อนส่งมอบให้ผู้ป่วย เช่น ขณะอยู่ในคลังเวชภัณฑ์ บนชั้นวางยาในห้องยา ในหอผู้ป่วย ขณะขนส่งและภายหลังที่ผู้ป่วยนํากลับไปใช้ที่บ้านควรเก็บรักษาไว้ในสภาวะที่เหมาะสมสําหรับยานัน้ ๆ นอกจากนี้ความคงตัวของยายังขึ้นกับองค์ประกอบอื่นที่อยู่ในสูตรตํารับ ซึ่งส่งผลให้อายุยาตลอดจนสภาวะในการ เก็บรักษายาของยาแต่ละตํารับแตกต่างกันออกไป
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
23
อุณหภูมิในการเก็บรักษายา ประเด็นที่เป็นปัญหาที่พบบ่อย คือ ยาแต่ละรายการจะเก็บที่ใดดี มีคําหลายคําที่บ่งว่าต้องเก็บยาที่ อุณหภูมิใด ดังนี้ - Freezer คือ สถานที่ทมี่ ีการควบคุมอุณหภูมิไว้ระหว่าง –20 °C ถึง –10 °C (-4 °F ถึง –14 °F) - Cold คือ อุณหภูมิไม่เกิน 8 °C (46 °F) ซึ่งหมายถึงการเก็บในตู้เย็น - Refrigerator คือ สถานทีเ่ ย็น (Cold) ที่มีการควบคุมอุณหภูมิไว้ระหว่าง 2 °C ถึง 8 °C (36 °F ถึง 46 °F) - Cool คือ อุณหภูมิระหว่าง 8 °C ถึง 15 °C (46 °F ถึง 59 °F) - Room temperature คืออุณหภูมิในสภาวะการทํางานปกติ ซึ่งในการเก็บยาคือไม่เกิน 25 °C - Controlled room temperature คือ ควบคุมอุณหภูมิไว้ระหว่าง 20 °C ถึง 25 °C (68 °F ถึง 77 °F) - Warm คือ อุณหภูมิระหว่าง 30 °C ถึง 40 °C (86 °F ถึง 104 °F) - Excessive heat คือ อุณหภูมิสูงกว่า 40 °C (104 °F) - Protection from freezing ระบุในกรณีของยาเตรียมที่อาจสูญเสียความแรง หรือมีการทําลายลักษณะของยา เตรียม เมื่อเก็บในสภาวะแช่แข็ง เช่น วัคซีนบางชนิด ยาฉีดอินซูลิน เป็นต้น - Protection from moisture สภาวะความชื้นสัมพัทธ์ไม่เกิน 60% - ในกรณีไม่ระบุสภาวะการเก็บ ควรป้องกันความชื้น การแช่แข็งและเก็บที่อุณหภูมิไม่เกิน 40 °C (104 °F) ตาราง รายการยาที่ควรเก็บในตู้เย็นที่มีจําหน่ายในโรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ รายการยา Chloramphenicol ear drop Chloramphenicol eye drop Hepatitis B vaccine (Engerix B®) Humulin 70/30 ® 100 iu/ml,10 ml Humulin N ® 100 iu/ml,10 ml Mixtard 30 HM penfill® 100 iu/ml,3 ml Tetanus Toxoid (TT) 0.5 ml
ความคงตัวทีอ่ ุณหภูมิอื่นๆ 21°C คงตัวที่ 2 สัปดาห์, 37°C คงตัวที่ 1 สัปดาห์ 15-30 °C คงตัวที่ 1 เดือน
ห้ามแช่แข็ง
15-30 °C คงตัวที่ 1 เดือน 15-30 °C คงตัวที่ 1 เดือน
ห้ามแช่แข็ง ห้ามแช่แข็ง
18-25°C คงตัวที่ 6 เดือน, 37°C คงตัวที่ 6 เดือน ® TRCS- verorab (Rabies vaccine) 18-25°C คงตัวที่ 36 เดือน, 37°C คงตัวที่ 1 เดือน ( ที่มา : โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ) Pharmacy Rx’24
ข้อแนะนํา -
ห้ามแช่แข็ง
ห้ามแช่แข็ง
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
24
การเฝ้าระวังยาหมดอายุ 1) การพิจารณาวันหมดอายุของยา สามารถพิจารณาได้จาก วันหมดอายุที่ระบุบนภาชนะบรรจุ (Exp. date หรือ Use before) - วันผลิตทีร่ ะบุบนภาชนะบรรจุ (กรณีไม่มวี ันหมดอายุระบุไว้) - ยาฉีด และ ยาน้ํา มีอายุ 3 ปี นับจากวันผลิต - ยาเม็ด มีอายุ 5 ปี นับจากวันผลิต - ยาใช้ภายนอก มีอายุ 2 ปี นับจากวันผลิต - ยาแบ่งบรรจุ มีอายุ 1 ปี นับจากวันแบ่งบรรจุ - ยาที่ผลิตภายใน ร.พ.ฯ มีอายุ 1 ปี นับจากวันผลิต 2) ความคงตัวของยาหลังผสม - ยาน้ํา : ความคงตัวของยาน้ําหลังผสมแสดงดังตารางที่ 7 - ยาผง : Fluimucil 1 ซอง ผสมน้ํา 1 แก้ว ให้ใช้ทันที ไม่ควรเก็บไว้ ORS 1 ซอง ผสมน้ํา 240 ml (1 แก้ว) เก็บได้ 24 ชม. (ในตู้เย็น) - ยา EENT : ยาหยอดตา เก็บได้ 30 วัน หลังจากเปิดใช้ ตาราง ความคงตัวของยาน้าํ หลังผสมที่มีจําหน่ายในโรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ ความคงตัวของยา (วัน) ขนาดบรรจุ ปริมาณตัวทํา (มล.) ละลาย ที่อุณหภูมิห้อง ในตู้เย็น Amoxicillin 60 ถึงขีดที่กําหนด 7 14 Augmentin 60 ถึงขีดที่กําหนด 7 Dicloxacillin 60 ถึงขีดที่กําหนด 7 14 Distaclor 60 ถึงขีดที่กําหนด 4 7 Erythromycin 60 ถึงขีดที่กําหนด 7 14 ( ที่มา : โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ) รายการ
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
เทคนิค OSPE
25
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง.......การซักประวัติ.......
1. การสื่อสารเพื่อหาข้อมูลได้อย่างมีเป้าหมายและเหมาะสม 1.1. ประเด็นที่ต้องสื่อสารเพื่อหาข้อมูลความเจ็บป่วย ประวัติการแพ้และข้อมูลการใช้ยาในผู้ป่วยในโรค ทั่วไปมีแนวทางการซักประวัติดังนี้ - ใครคือผู้ป่วย - อายุเท่าไร - น้ําหนักของผู้ป่วย ในกรณีที่เป็นเด็ก - เพศชายหรือหญิง ถ้าเป็นหญิง กําลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ กําลังให้นมบุตรหรือไม่ - วันนี้มาด้วยโรคหรืออาการอะไร - เริ่มมีอาการดังกล่าวตั้งแต่เมื่อไร เป็นมานานเท่าไร - ความรุนแรงของอาการเป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับวันแรกที่เริ่มเป็น - เคยมีอาการเช่นนี้มาก่อนหรือไม่ - มีอาการอื่นร่วมด้วยอีกหรือไม่ - มีสิ่งใดที่ทําให้อาการแย่ลง เช่น ยา อาหาร หรือการปฏิบัติตัวอื่น ๆ - มีสิ่งใดที่ช่วยให้อาการดีขึ้นหรือไม่ - โรคประจําตัวที่ผู้ป่วยเป็น และยาที่ได้รับ - อาชีพหรือสภาวะแวดล้อมที่อาจเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วย - ใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการมาก่อนหรือไม่ - ตอนนี้กําลังได้รับยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอะไรอยู่หรือไม่ - มีประวัติแพ้ยาหรือสิ่งอื่นหรือไม่ (ถ้ามี) มีอาการอย่างไร - มีประวัติอาการไม่พึงประสงค์อื่นนอกเหนือจากการแพ้ยาหรือไม่ (ถ้ามี) มีอาการอย่างไร 1.2 ประเด็นในการสัมภาษณ์ผู้ป่วยเพิ่มเติมจากข้อ 1.1 เพื่อหาข้อมูลในการจ่ายยาในผู้ป่วยกลุ่มพิเศษ เช่น ผู้ป่วยเด็ก ต้องถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อายุ น้ําหนัก เพื่อนํามาใช้ในการคํานวณขนาดยาในเด็ก 1.3 ในกรณีทตี่ ้องส่งต่อควรอธิบายให้ผปู้ ว่ ยเข้าใจสาเหตุและวิธีการส่งต่อหรือรับการรักษาระดับต่าง ๆ 1.3.1 กรณีที่สมั ภาษณ์ผู้ป่วยแล้วพบว่าอาการของผู้ป่วยจําเป็นต้องใช้ยาชนิดที่เภสัชกรต้องจ่ายยา ตาม ใบสั่งยาหรือยาไม่สามารถจําหน่ายได้ในร้านยา (1) ยาที่ต้องจ่ายตามใบสั่งยา เช่น ยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 3 และ 4 เภสัช กรต้องส่งต่อให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลเพื่อรับการรักษาและเขียนใบสั่งยา โดยอธิบาย ให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าตามกฎหมายแล้วยาที่ผู้ป่วยจําเป็นต้องใช้นี้ เภสัชกรไม่สามารถจ่ายได้หากไม่มีใบสั่งยา และเมื่อ ได้ใบสั่งยาแล้วผู้ป่วยอาจรับยาที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลเลย หรือจะมารับยาที่ร้านยาก็ได้ หากที่ร้านยามี ใบอนุญาตการจําหน่ายยาประเภทนั้น Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
26
เทคนิค OSPE
(2) ยาที่ไม่สามารถมีจําหน่ายได้ในร้านยา เช่น วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2 ยาที่ยังอยู่ใน SMP เภสัชกรต้องส่งต่อให้ผู้ป่วยไปโรงพยาบาล โดยต้องอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าตามกฎหมายแล้วยาที่ผู้ป่วย จําเป็นต้องใช้นี้ไม่สามารถจําหน่ายในร้านยาได้ ผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลและรับยาจากโรงพยาบาล 1.3.2 กรณีที่เภสัชกรสัมภาษณ์ผู้ป่วยแล้ว พบว่าผู้ป่วยมีอาการที่จําเป็นต้องไปรับการตรวจจากแพทย์ และ รับการรักษาจากแพทย์ เภสัชกรต้องส่งต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์ อาการที่จําเป็นในการส่งต่อผู้ป่วยไปพบแพทย์มีดังนี้ (1) อาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ • ปวดบริเวณหน้าอกเวลาหายใจเข้า • หายใจสั้น และเร็ว • หายใจออกมีเสียงวี้ด (wheeze) • เสมหะมีเลือดปน • หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ • ไอติดต่อกันเป็นเวลานานต่อเนื่องอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ • ไอเป็นเสียงไอกรน (whooping cough) (2) อาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ • ปวดเค้นหน้าอก • หัวใจเต้นเร็ว หรือจังหวะการเต้นผิดปกติ • นอนราบไม่ได้ • เหนื่อยง่ายผิดปกติ • หน้ามืด เป็นลมหลายครั้ง โดยไม่มีสาเหตุ (3) อาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ • กลืนลําบาก • อาเจียนมีเลือดปน • อุจจาระมีเลือดปนในปริมาณมาก หรือเป็นแบบเรื้อรัง • อาเจียนรุนแรงร่วมกับถ่ายอุจจาระไม่ออกมาหลายวัน • น้ําหนักลดมากผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ • การขับถ่ายแปรปรวนจากปกติมาก เช่น ท้องร่วงสลับกับท้องผูก ท้องร่วงรุนแรง (4) อาการผิดปกติเกี่ยวกับหู ได้แก่ • ปวดหู • มีของเหลวไหลออกจากหู • หูหนวก ไม่ได้ยินเสียง หรือได้ยินเสียงน้อยลงจากปกติ • วิงเวียนศีรษะที่ไม่ทราบสาเหตุ (5) อาการผิดปกติเกี่ยวกับตา ได้แก่ • ตาแดงร่วมกับปวดตามาก • ตามัว หรือมองเห็นผิดปกติ เช่น มองเห็นภาพซ้อน (6) อาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ ได้แก่ • ปัสสาวะไม่ออก • ปัสสาวะมีเลือดปน Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
27
เทคนิค OSPE
• ปัสสาวะแสบขัดร่วมกับอาการปวดท้อง/สะโพก/หลัง • ปัสสาวะแสบขัดร่วมกับมีไข้ • เลือดออกจากช่องคลอดในหญิงตั้งครรภ์ (7) อาการผิดปกติทางระบบประสาท • ปวดศีรษะรุนแรง • การชา หรืออ่อนแรงที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน และ/หรือเป็นข้างใดข้างหนึ่งของร่างกาย เช่น แขน ขา ใบหน้า • การมองเห็นภาพผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน • การพูดไม่ชัด หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ลิ้นเอียง พูดไม่ได้ ไม่สามารถตอบสนองต่อคําพูดซึ่งเกิดขึ้น อย่างเฉียบพลัน • อาการชัก (8) อาการผิดปกติอื่น ๆ ได้แก่ • โรคผิวหนังที่มีอาการรุนแรง เช่น สะเก็ดเงิน เรื้อนกวาง • คอแข็งร่วมกับมีไข้ • อาเจียนเรื้อรัง • ซึม • ไม่ค่อยรู้สึกตัว ภาวะการรับรู้เกี่ยวกับ เวลา สถานที่ บุคคล ลดลง • หมดสติอย่างเฉียบพลัน ตัวเย็น
2. ให้คําแนะนําด้านสุขอนามัย โภชนาการ การออกกําลังกายที่ดี รวมถึงทางเลือกอื่น ๆ ในการ ส่งเสริมและป้องกันโรค และบรรเทาอาการที่ไม่ต้องรักษาด้วยยา 2.1 การให้คําแนะนําด้านโภชนาการทั่วไปตามโภชนบัญญัติ ซึ่งกําหนดโดยกองโภชนาการ กรม อนามัย กระทรวงสาธารณสุข มีดังนี้ ข้อ 1 กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ําหนักตัว หมู่ที่ 1 นม ไข่ เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ถั่วเมล็ดแห้ง และงา ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต แข็งแรง และช่วย ซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอ หมู่ที่ 2 ข้าว แป้ง เผือก มัน น้ําตาล ให้พลังงานแก่ร่างกาย หมู่ที่ 3 พืชผัก ต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างการทํางานของร่างกายให้เป็นปกติ หมู่ที่ 4 ผลไม้ต่าง ๆ ให้ประโยชน์ เช่นเดียวกับหมู่ที่ 3 หมู่ที่ 5 น้ํามันและไขมันจากพืชและสัตว์ ซึง่ จะให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย ในวันหนึ่ง ๆ ต้องเลือกกินอาหารให้ครบทัง้ 5 หมู่ ในปริมาณที่พอเหมาะ และในแต่ละหมู่ควรเลือกกินให้ หลากหลาย เพื่อให้ได้สารอาหารครบตามความต้องการของร่างกาย ควรรักษาน้ําหนักตัว โดยการกินอาหารให้เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกําลังกายที่เหมาะสม ควรชั่ง น้ําหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้ง และควรออกกําลังกายอย่างสม่ําเสมออย่างน้อยครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละไม่ น้อยกว่า 3 ครัง้ ข้อ 2 กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้ง เป็นบางมื้อ
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
28
เทคนิค OSPE
กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ พร้อมด้วยอาหารอื่นที่หลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนเหมาะสม และปริมาณที่เพียงพอ ถ้ากินอาหารประเภทข้าวและแป้งในแต่ละวันมากเกิน ความ ต้องการจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันทําให้เกิดโรคอ้วนได้ ข้อ 3 กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจํา ควรกินพืชผักทุกมื้อให้หลากหลายชนิดสลับกันไป ส่วนผลไม้ควรกินเป็นประจําสม่ําเสมอ โดยเฉพาะหลัง กินอาหารแต่ละมื้อและกินเป็นอาหารว่าง ข้อ 4 กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจํา ข้อ 5 ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย หญิงตั้งครรภ์ เด็กวัยเรียนและเด็กวัยรุ่นควรดื่มนมวันละ 2-3 แก้ว ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ วันละ 1-2 แก้ว ผู้มีปัญหาโรคอ้วน หรือมีไขมันในเลือดสูงควรดื่มนมพร่องมันเนย ข้อ 6 กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร ไขมันในอาหารมีทั้งประเภทไขมันอิ่มตัว และไขมันไม่อิ่มตัว การได้รับกรดไขมันอิ่มตัว และโคเลสเตอรอล มาก เกินไป จะทําให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง และเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ควรประกอบอาหารด้วยวิธี ต้ม นึ่ง ปิ้ง และย่าง แทนการทอด หรือผัด จะลดปริมาณ ไขมันในอาหาร ข้อ 7 หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด กินน้ําตาลในแต่ละวันไม่เกินร้อยละ 10 ของพลังงานที่ได้รับจากอาหารทั้งหมด และไม่ควรกินน้ําตาลเกิน วันละ 40-55 กรัม หรือมากกว่า 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน เพราะพลังงานที่ได้รับจากน้ําตาล ส่วนเกินจะสะสมทําให้อ้วนได้ เกลือโซเดียมหรือเกลือแกง เป็นสารที่ให้ความเค็มในเครื่องปรุงรส เช่น น้ําปลา ซีอิ้วขาวและเกลือที่ใช้ ใน การถนอมอาหาร และยังแฝงมากับขนมอบกรอบ ขนมอบฟู ถ้ากินเกลือแกงเกินวันละ 6 กรัม หรือมากกว่า 1 ช้อน ชา จะเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง จึงควรลดการเติมเครื่องปรุงรสโดยไม่จําเป็น ข้อ 8 กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน ต้องมีสุขนิสัยทีด่ ีในการกินอาหาร คือล้างมือก่อนกินอาหาร และหลังใช้สว้ ม ถ้ากินอาหารร่วมกันหลาย คนควร ใช้ช้อนกลาง ข้อ 9 งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การดื่มสุรา หรือ เครื่องดื่มที่มแี อลกอฮอล์เสีย่ งต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคตับแข็ง โรคแผลใน กระเพาะอาหารและลําไส้ ในรายที่ดื่มโดยไม่กินข้าวและกับข้าว จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็น โรคขาดสารอาหารได้ ส่วนรายที่ดื่มพร้อมกับแกล้มที่มีไขมันและโปรตีนสูง จะมีโอกาสเป็นโรคอ้วน ซึ่งจะมีโรคอื่นๆ ตามมามาก 2.2 การแนะนําประเด็นอืน่ ทีน่ อกเหนือจากยาจะมีความหลากหลายขึน้ กับโรคทีผ่ ้ปู ว่ ยเป็น เช่น หวัด - พักผ่อนให้เต็มที่ - รักษาร่างกายให้อบอุ่น - ดื่มน้ําอุ่นมาก ๆ ไม่ควรดืม่ น้ําเย็น ไข้ - ถ้ามีไข้สูงควรเช็ดตัวบ่อย ๆ ด้วยผ้าชุบน้ําประปา โดยเฉพาะที่บริเวณข้อพับ เช่น ซอกคอ ซอกแขน ซอกขา ขาหนีบ - เพื่อให้ร่างกายสามารถระบายความร้อนได้ ไม่ควรสวมเสื้อผ้าหนา ๆ หรือ ห่มผ้าหนา ๆ - พักผ่อนให้เพียงพอ - ดื่มน้ํามาก ๆ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
29
เทคนิค OSPE
ท้องร่วง - ในเด็กที่ได้รบั นมมารดาในระหว่างที่ท้องร่วงก็สามารถกินได้ตามปกติ - หากกินนมผงก็ควรหยุด 4 ชั่วโมงก่อนกินน้ําตาลเกลือแร่ แล้วค่อยเริม่ ใหม่โดยอาจใช้ชนิดที่ไม่มีน้ําตาล แลคโตส - ในระหว่างทีท่ ้องร่วงสามารถกินอาหารได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารมัน อาหารรสจัด และอาหาร แข็ง ให้กินอาหารอ่อนหรืออาหารเหลว เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ําข้าว น้ําหวานแทน - กรณีที่มีการเสียน้ํามากจากการท้องร่วงหรืออาเจียน ถ้าผู้ป่วยยังกินได้ และไม่อาเจียนมาก ให้ดื่ม น้ําตาลเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อทดแทนน้ําและเกลือแร่ทสี่ ูญเสียไป เบาหวาน - กินอาหารได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป แต่ปรับสัดส่วนอาหารชนิดต่าง ๆ ให้เหมาะสม ดังนี้ - อาหารที่ไม่ควรกิน ได้แก่ น้าํ ตาลและขนมหวาน เช่น ทองหยิบ ทองหยอด สังขยา นมข้นหวาน เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ําอัดลม เป็นต้น - เลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผักใบเขียว - หลีกเลี่ยงการกินผลไม้ที่มีนา้ํ ตาลในปริมาณสูง เช่น ลําไย สับปะรด ทุเรียน - หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น ไขมันสัตว์ กะทิ น้ํามันปาล์ม - กินอาหารและยาตรงเวลา เพื่อให้ระดับน้ําตาลในเลือดและยาออกฤทธิ์ได้สัมพันธ์กัน - ควรลดน้ําหนักในคนที่น้ําหนักเกินหรืออ้วน - ออกกําลังกายระดับปานกลางขึ้นไป เช่น เดินเร็ว ๆ เป็นเวลาอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที 3 ครั้งต่อ สัปดาห์ - ควรเลือกสวมใส่รองเท้าทีพ่ อดี ไม่คับเกินไป และหมัน่ ดูแลสุขภาพเท้าอย่างสม่ําเสมอ หัวใจล้มเหลว/หัวใจวาย - ควรพักผ่อน และจํากัดการทํากิจกรรม โดยควรมีการกําหนดกิจกรรมสูงสุดที่ผู้ป่วยสามารถทําได้ - ควรออกกําลังกายอย่างเหมาะสม ไม่หักโหมจนเกินไป - ควรจํากัดอาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบ ไขมันในเลือดสูง - ลดน้ําหนักในคนที่น้ําหนักเกินหรืออ้วน - จํากัดการกินอาหารประเภทไขมัน โดยเฉพาะไขมันประเภทอิ่มตัวและโคเลสเตอรอล เช่น ไขมันสัตว์ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม อาหารทอด เป็นต้น - ลดปริมาณพลังงานที่ได้รับรวมต่อวัน (ถ้าอ้วน) - ควรกินอาหารประเภทโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และไขมันในสัดส่วนที่เหมาะสม - ควรเพิ่มการกินผักและผลไม้ - ให้ผู้ป่วยระลึกเสมอว่าอาหารที่มีไขมันและโคเลสเตอรอลต่ําก็ยังมีพลังงานสูงได้ - ออกกําลังกายระดับปานกลาง (aerobic exercise) ขึ้นไป เช่น เดินเร็ว ๆ เป็นเวลาอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ความดันโลหิตสูง - จํากัดอาหารที่มีรสเค็ม หรืออาหารที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบ - ควรจํากัดการกินอาหารประเภทไขมันโดยเฉพาะไขมันประเภทอิ่มตัวและโคเลสเตอรอล (ถ้ามีภาวะ ไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย) Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
30
เทคนิค OSPE
- ควรเพิ่มการกินผักและผลไม้ - ถ้าผู้ป่วยมีภาวะอ้วนหรือน้ําหนักเกิน การลดน้ําหนักจะมีผลช่วยลดความดันโลหิตได้ - ควรงดการสูบบุหรี่ - จํากัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ - ออกกําลังกายระดับปานกลาง(aerobic exercise) ขึ้นไป เช่น เดินเร็ว ๆ เป็นเวลาอย่างน้อยครั้งละ 30 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ - ควรทําจิตใจให้แจ่มใส ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป การซักประวัตเิ บื้องต้น - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะดิฉันเป็นเภสัชกรค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ) - ไม่ทราบว่ายาที่จะซื้อใช้เองหรือเปล่าคะ - มีอาการอย่างไรบ้างคะ (เริ่มซักตามลําดับโรคที่คิดว่าเค้าเป็น) - นอกจากอาการที่กล่าวมาแล้วยังมีอาการอย่างอื่นอีกไหม - เป็นมากี่วันแล้วคะ - ทวนอาการที่เค้าบอกกอีกครั้งหนึ่ง - ได้ไปพบแพทย์หรือใช้ยาอะไรมาก่อนหรือยังคะ - มีโรคประจําตัวหรือเคยแพ้ยารึเปล่าคะ - สรุปโรคที่คดิ ว่าเค้าเป็น แล้วบอกสาเหตุของการเกิดโรค (ถ้ารู้) - จ่ายยาและแนะนําวิธีการรับประทานยา (ในบางกรณีอาจไม่ต้องจ่ายยาก็ให้แนะนําวิธีการปฏิบัติตัวเลย แต่ถ้าผู้ป่วยต้องการยาก็จ่ายยาไปตามอาการที่เค้าเป็น แต่ถ้าเป็นโรคที่รุนแรงก็ควรแนะนําให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์ เพื่อทําการตรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจากเภสัชกรไม่มีหน้าที่ในการวินิจฉัยโรค) - แนะนําวิธีการปฏิบัติตัว - ขอให้หายเร็ว ๆ นะคะ ขอบคุณคะ
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
เทคนิค OSPE
31
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่องการตรวจสอบใบสั่งยา
1. ตรวจสอบยาที่จัดแล้วกับใบสั่งยา 1.1 การตรวจสอบความถูกต้องของยาที่จดั เทียบกับคําสั่งใช้ยา การตรวจสอบยาที่จัดเทียบกับใบสั่งยาก่อนจ่ายให้ผู้ป่วยถือเป็นขั้นตอนหนึ่งในการประกันคุณภาพของ กระบวนการจ่ายยาที่เภสัชกรต้องมีความรอบคอบในการตรวจสอบและทําให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ถูกต้องที่สุด ดังนั้น เภสัชกรต้องตรวจสอบในประเด็นต่อไปนี้ (1) ชื่อ นามสกุล และคํานําหน้าชื่อของผู้ป่วย ต้องตรวจสอบทั้งชื่อ นามสกุล และคํานําหน้าชื่อของผู้ป่วยที่ฉลากยาให้ตรงกันกับในใบสั่งยา เพราะการ จ่ายยาผิดคนเป็นสิ่งที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้ เช่น เอายาสําหรับผู้ใหญ่ไปจ่ายให้เด็ก เพราะชื่อและ นามสกุลเหมือนกันหรือคล้ายกันและเภสัชกรเขียนฉลากยาสลับกัน (2) ชนิดของยา ได้แก่ ชื่อ รูปแบบ ความแรง ชื่อยา ที่อยู่ในใบสั่งยา และตัวยาต้องตรงกันทุกประการ เว้นแต่ในใบสั่งยาเป็นชื่อการค้าและมีข้อตกลงใน หน่วยงานว่าใช้ยาชื่อการค้าอื่นแทนได้ แต่ชื่อสามัญของยาต้องเป็นยาชนิดเดียวกัน รูปแบบยาในใบสั่งยากับตัวยาต้องเป็นยารูปแบบเดียวกัน แม้ยาเป็นรูปแบบยาเม็ดเหมือนกัน หากใบสั่งยาเป็น film coated tablet แต่ยาที่จัดไว้เป็นรูปแบบ sustained release tablet ก็เกิดปัญหาได้ เพราะ regimen ของการใช้ยา 2 รูปแบบนี้ไม่เหมือนกัน (3) จํานวน (4) ฉลาก อย่างน้อยในส่วนต่อไปนี้ (4.1) ชื่อยา (4.2) ความแรง (4.3) จํานวน (4.4) วิธีใช้ยา (5) ฉลากช่วย
2. แนะนําการปฏิบตั ิตัวผู้ป่วยในการใช้ยาและประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้อง 2.1 การแนะนําการใช้ยาสําหรับผูป้ ่วยเฉพาะราย 2.1.1 การจ่ายยาในโรงพยาบาล การจ่ายยาในโรงพยาบาลเป็นการจ่ายยาตามใบสั่งยาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและทันตกรรมที่ แพทย์หรือทันตแพทย์สั่ง (1) ประเด็นที่ต้องสื่อสารก่อนการจ่ายยา โดยมีคําถามหลักในการถามผู้ป่วยก่อนจ่ายยาตาม ใบสั่งยาดังนี้ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
32
เทคนิค OSPE
- ผู้ป่วยชื่อ-นามสกุลอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าจ่ายยาให้แก่ผปู้ ่วยถูกคน แม้ว่ามีการเรียกชื่อผู้ป่วยให้ มารับยา แต่กอ่ นจ่ายยา ก็ต้องสอบถามให้แน่ใจว่าจ่ายยาให้ผู้ป่วยถูกคน - วันนี้เป็นอะไรจึงต้องมาโรงพยาบาล เพื่อให้ทราบว่าผู้ป่วยเป็นโรคหรือมีอาการอะไร ซึ่งทําให้ ตรวจสอบได้ระดับหนึ่งว่า ยาที่ผู้ป่วยได้รับตรงกับโรคหรืออาการที่ผู้ป่วยเป็นหรือไม่ - เคยมีอาการผิดปกติจากการใช้ยา เช่น แพ้ยาอะไรมาก่อน หากแพ้มีอาการแพ้อย่างไร เพื่อให้ แน่ใจว่ายาที่จา่ ยให้กับผู้ป่วยไม่มียาที่ผู้ป่วยเคยแพ้ (2) ประเด็นที่ต้องสื่อสารเพื่อหาประวัติการใช้ยา โดยมีคาํ ถามหลักในการถามผู้ป่วยก่อนจ่ายยา ตามใบสั่งยาดังนี้ เคยใช้ยานี้มาก่อนหรือไม่ ในกรณีทผี่ ู้ป่วยไม่เคยใช้ยามาก่อน ให้สอบถามว่า • “แพทย์บอกว่าจะให้ยารักษาอะไรบ้าง” เพื่อตรวจสอบว่าผู้ป่วยมีความรู้ก่อนหรือไม่ว่าจะได้ รับยาอะไร ยาที่ได้รับมีข้อบ่งใช้อย่างไร และถามต่อใน ประเด็นว่า • “แพทย์บอกให้ใช้ยานี้อย่างไร” เพื่อตรวจสอบว่า ผู้ป่วยมีความรู้เรื่องวิธีการใช้ยาถูกต้องหรือไม่ ในกรณีทผี่ ู้ป่วยเคยใช้ยานั้นมาก่อน ให้ถามว่า • “เคยใช้ยานี้รักษาอาการอะไรบ้าง” เพื่อตรวจสอบว่าที่ผ่านมาผู้ป่วยใช้ยาถูกต้องตามข้อบ่งใช้หรือไม่ และให้ถามต่อว่า • “ที่ผ่านมาเคยใช้ยานี้อย่างไร” เพื่อตรวจสอบว่าที่ผ่านมาผู้ป่วยใช้ยาได้ถูกต้องหรือไม่ หากครั้งนี้แพทย์มกี ารปรับเปลี่ยนขนาดยา เภสัชกรจะได้ย้ํา เพิ่มเติมให้ผู้ปว่ ยทราบว่ามีการปรับเปลี่ยนขนาดยาแล้ว 2.1.2 การจ่ายยาในร้านยา การจ่ายยาในร้านยาส่วนใหญ่เป็นการจ่ายยาที่ไม่มีใบสั่งยา ดังนั้นเภสัชกรต้องสัมภาษณ์ผู้ป่วยเพื่อหา ข้อมูลความเจ็บป่วย ตามเกณฑ์มาตรฐานข้อที่ 4 เพื่อนํามาใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกยาในร้านยาให้ผู้ป่วย หรือส่งต่อผู้ป่วยไปยังแพทย์ในกรณีที่จําเป็น หากในกรณีที่มีใบสั่งยาก็ใช้วิธีการสื่อสารเช่นเดียวกับ การจ่ายยาใน โรงพยาบาลได้ ในกรณีของผู้ปว่ ยเด็ก ต้องถามข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อายุ น้าํ หนักเพื่อนํามาใช้ในการคํานวณขนาดยา ตัวอย่าง การคํานวณขนาดยาให้แก่เด็กหญิงอายุ 2 ปี น้ําหนัก 15 กิโลกรัม มีไข้ และเภสัชกรต้องการจ่าย ยา paracetamol syrup (120 mg/5 mL) ให้กับผู้ป่วย การคํานวณปริมาณยา ถ้าต้องการขนาดยาของ paracetamol เป็น 10 mg/kg/dose (ขนาดยาทั่วไป 10-15 mg/kg/dose) ผู้ป่วยหนัก 15 กิโลกรัม เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยรายนี้ต้องได้รับยา = 15 x 10 = 150 mg/dose ความแรงของยา paracetamol syrup 120 mg/5 mL ดังนั้น ต้องได้รับยา (150 mg/dose) / (120 mg/5 mL) = 6.25 mL/dose 1 ช้อนชา เท่ากับ 5 mL ดังนั้น ผู้ป่วยควรกินยา paracetamol syrup ครั้งละ 1 ¼ ช้อนชา (หรือ 6.25 ซีซี) ทุก 6 ชั่วโมง เมื่อมีไข้ 2.2 การให้คําแนะนําวิธีการใช้ยาและคําแนะนําอื่น ๆ การแนะนําผู้ป่วยเมื่อส่งมอบยาต้องให้เป็นไปตามข้อบังคับของสภาเภสัชกรรมว่าด้วยข้อจํากัดและเงื่อนไข ในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2540 ดังนี้ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
33
เทคนิค OSPE
(1) ชื่อยา (2) ข้อบ่งใช้ (3) ขนาดและวิธีการใช้ (4) ผลข้างเคียง (side effect) (ถ้ามี) และอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (adverse drug reaction) ที่อาจเกิดขึ้น (5) ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติในการใช้ยาดังกล่าว (6) การปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้ยาดังกล่าว ตัวอย่างการให้คําแนะนําเกีย่ วกับยา การจ่ายยา cloxacillin capsule (500 mg) 1 x 4 PO ac จํานวน 20 แคปซูล เพื่อรักษาแผลติดเชื้อ ต้องแนะนําผู้ป่วยดังนี้ - ยานี้ชื่อ cloxacillin ขนาด 500 มิลลิกรัม จํานวน 20 แคปซูล - ใช้รักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียหรือหนองที่ผิวหนัง - กินครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ยานี้ควรกินก่อน อาหารครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง หรือกินครั้งละ 1 แคปซูล ทุก 6 ชั่วโมง ถ้าใกล้มื้ออาหารให้กินก่อน อาหารครึ่งถึงหนึ่ง ชั่วโมง - ยานี้อาจทําให้แพ้ได้ โดยอาจเกิดอาการผื่นคัน หรือหายใจไม่สะดวก อาการนี้ไม่ได้เกิดกับผู้ป่วยทุกคน จะเกิดกับผู้ที่แพ้ยานี้เท่านั้น - เมื่อเกิดอาการแพ้ดังกล่าวต้องหยุดใช้ยาทันทีและรีบไปพบแพทย์ - ยานี้ต้องกินติดต่อกันทุกวันจนหมด หากกินยาจนหมดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย หาสาเหตุต่อไป การจับผิดซองยา 1. ดูชื่อผู้ป่วย, ชื่อยา 2. ความแรงของเม็ดยา 3. จํานวนเม็ดยา 4. วิธีการบริหารยา (ถูกต้องไหม, แบ่งครึ่งได้ไหม) 5. วันหมดอายุ (ถ้าเป็นยาทีห่ มดอายุก็ไม่สามารถจ่ายได้) การจับผิดใบสัง่ แพทย์ (โทรหาแพทย์) - ก่อนอื่นก็ต้องแนะนําตัวก่อนว่าเป็นเภสัชกรห้องยา - บอกว่าใบสั่งยาของนาย... ในผู้ป่วยโรค... ที่คุณหมอสัง่ จ่ายยา...มันไม่สามารถจ่ายได้คะ - บอกชื่อยา/ ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ที่ถูกต้อง - บอกสาเหตุของการเปลี่ยน เช่น ยาในรูปแบบ control release - แต่ที่เคยเจออาจารย์ถามว่าถ้าเปลี่ยนความแรงจะได้ไหม ได้นะ (แต่ต้องคิดดี ๆ นะ เพราะบางทีมัน ต้องกินถี่มากขึ้น หรือกินน้อยลง) - ระวังเรื่องปฏิกิริยาระหว่างยาด้วยนะ - คําแนะนําในการทานยา/ ปฏิบัติตน
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
34
การคํานวณขนาดยา ความแรงของยา - paracetamol 10-15 mg/kg/dose - Amoxycillin 20-50 mg/kg/day 1 ช้อนชา = 5 ml 1 ช้อนโต๊ะ = 15 ml ตัวอย่าง เด็กอายุ 2 ปี หนัก 10 kg ได้รับยา - Ibaimox syrup(Amoxycillin) 250/5 ml จ่าย 10 วัน - Sara syrup 120/5 ml Ibaimox syrup คํานวณ เด็กหนัก 1 kg ได้ยา 50 mg/day (max dose) ถ้าเด็กหนัก 10 kg ได้ยา 500 mg/day จากนั้นคิดเป็นต่อ dose แบ่งให้ 4 เวลา ครั้งละ 125 mg จ่ายยา Ibaimox syrup 250/5 ml ครัง้ ละครึ่งช้อนชา วันละ 4 ครัง้ หลังอาหาร จํานวน 2 ขวด Sara syrup คํานวณ เด็กหนัก 1 kg ได้ยา 10 mg/dose ถ้าเด็กหนัก 10 kg ได้ยา 100 mg/dose ยามีความแรง 120/5 ml คือ มีตัวยา 120 mg ใน 5 ml ต้องการตัวยา 100 mg (5*100)/120 = 4.17 ml
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง การผสมยา Dry Syrup ยาที่ต้องผสมน้ําก่อนใช้
ยาน้ําเชื่อมชนิดผงแห้ง ถ้าผู้ป่วยได้รับยาขวดเดียว ควรผสมน้ําให้ผู้ป่วยเลย ถ้าได้รับยา 2 ขวด ควรผสมให้ 1 ขวด อีกขวด อธิบายวิธีผสมน้ํา ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ - การผสมยาต้องใช้น้ําสุก หรือน้ําสะอาดที่เย็น ห้ามใช้นา้ํ ร้อนหรือน้ําอุ่น - ก่อนผสมน้ําควรเคาะผงยาในขวดให้ร่วน ไม่จับตัวกัน - เติมน้ําครั้งแรก ประมาณ 1/2 ของขีดทีก่ ําหนด หรือพอท่วมผงยา - เขย่าให้ยากระจายตัวทั่ว ไม่มีก้อนแข็ง - เติมน้ําปรับระดับให้พอดีขีดที่กําหนด แล้วเขย่าอีกครั้ง - หลังผสมน้ําแล้ว เก็บที่อุณหภูมิห้องได้ 7 วัน ถ้าเก็บในตู้เย็นจะเก็บได้นาน 2 สัปดาห์ - ควรรอให้ยาขวดแรกหมดก่อน แล้วจึงผสมขวดที่ 2 ถ้ายาเหลือให้ทิ้งไป Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
35
เทคนิค OSPE
Sodium thiosulfate ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ - เคาะผงยาในขวดให้ร่วน แล้วเติมน้ําละลายยาที่เตรียมไว้ให้ หรือน้ําต้มสุกที่เย็นแล้วผสมน้ําประมาณ 1/2 – 2/3 ของระดับคอขวด - เขย่าให้ยาละลาย - เติมน้ํา ปรับระดับถึงคอขวด - ใช้ยาขวดแรกจนหมดก่อน จึงผสมยาขวดที่ 2 - หลังผสมน้ําแล้วสามารถเก็บไว้ได้นาน จนกว่าจะเกิดตะกอนสีเหลืองขึ้น จึงทิ้งไป - ยานี้เป็นยาใช้ภายนอก ห้ามรับประทาน
ผงเกลือแร่ ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ - ใช้น้ําต้มสุกทีเ่ ย็นแล้วปริมาตรตามที่กําหนดละลายผงเกลือแร่ 1 ซอง คนให้ละลายจนหมด - หลังผสมน้ําแล้วควรดื่มภายใน 24 ชั่วโมง ไม่ควรทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะอาจมีจุลิยทรียป์ นได้
Cholestyramine ชนิดผง ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ - เทยา 1 ซองลงในน้ําต้มสุกที่เย็นแล้วประมาณ 60-90 ซีซี คนให้เข้ากัน - ดื่มช้า ๆ ถ้ามียาเหลือให้เติมน้ํา ผสมยาส่วนที่เหลือดื่มจนหมด - กรณีไม่ชอบรสชาติยา ให้ผสมกับเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ เช่น น้ําผลไม้ น้ําส้ม น้ําโซดา อาหารเหลว (ยาที่ผสมแล้วเก็บในตู้เย็นได้นาน 3 วัน)
การใช้ syringe ในการป้อนยาเด็กเล็ก ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ - เลือกขนาด syringe ให้เหมาะสมกับปริมาตรยา - ชี้แจงถึงจํานวนยาที่ระบุเป็น household measurement เช่น ช้อนชาให้เป็นปริมาณยาที่ต้องดูดด้วย syringe ซึ่งระบุเป็นมิลลิลิตร หรือ ซีซี - ชี้ให้เห็นถึงขีด จํานวน มิลลิลิตร หรือ ซีซที ี่ต้องดูดแต่ละครั้ง ที่ syringe แก่ผู้รับบริการ - วิธีป้อน ควรฉีดยาเข้ากระพุ้งแก้มของเด็ก - ทําความสะอาด syringe หลังการใช้
ตัวอย่าง ยาน้ําเชื่อมชนิดผงแห้ง - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - แพ้ยาอะไรไหมคะ - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
36
วิธีการใช้ยา - เคาะผงยาในขวดให้ร่วน ไม่จับตัวเป็นก้อน - เติมน้ําต้มสุกสะอาดที่เย็นแล้ว ไม่ใช้น้ําร้อนหรือน้ําอุ่น ประมาณ 1/2 - 2/3 ของขีดที่กําหนดหรือพอ ท่วมผงยา - เขย่าให้ผงยากระจายทั่ว ไม่จับกันเป็นก้อนแข็ง - เติมน้ําปรับระดับให้พอดีขีดที่กําหนด แล้วเขย่าอีกครั้ง - ยาทีผ่ สมแล้ว เก็บที่อุณหภูมิห้องได้ 7 วัน ถ้าเก็บในตู้เย็นเก็บได้นาน 14 วัน คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน 1. ควรรับประทานยาต่อเนื่องจนยาหมดหรือตามที่แพทย์สั่ง 2. เขย่าขวดทุกครั้งก่อนรินยารับประทาน 3. ถ้าได้รับยาจํานวน 2 ขวด ให้ผสมทีละขวด 4. ถ้ามีผื่นขึ้น หรือมีอาการคัน แน่นหน้าอก บวมตามตัวเช่นบริเวณ ริมฝีปาก ใบหน้า แขนขา ให้รีบ กลับมาพบแพทย์ เพราะอาจเกิดการแพ้ยาได้
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง.......การแนะนําการใช้ยา.......
1. การใช้ผงน้ําตาลเกลือแร่ ผงน้าํ ตาลเกลือแร่ เช่น ORS - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ - ซักประวัติ (อาการ(มีไข้) /ลักษณะของอุจจาระ / ถ่ายกี่ครั้ง) - หาสาเหตุของการเกิดโรค - ไปพบแพทย์มาหรือยัง - ทานยาอะไรมาหรือยัง - มีโรคประจําตัวหรือแพ้ยาอะไรไหม - จ่ายยา - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ยา - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
37
เทคนิค OSPE
วิธีการใช้ยา - ใช้น้ําต้มสุกที่เย็นแล้ว 1 แก้ว ละลายผงเกลือแร่ 1 ซองเล็ก คนให้ละลายจนหมด แต่ถ้าเป็นซองใหญ่ ให้ละลายน้ํา 1 ขวดน้ําปลากลม - ควรดื่มให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าเหลือควรเททิ้งเพราะอาจเกิดการบูดเสียได้ คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ให้จิบต่างน้ํา - ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 4 ซองใหญ่ เพราะอาจจะทําให้เกิดอาการท้องเสียเพิ่มมากขึ้น - (เพิ่มเติมจากการอบรมเก็บคะแนนการศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์ (C.E.) ของ ม.นเรศวร อาจารย์ บอกว่า ในเด็ก 1 ซองเล็กต่อน้ําหนักตัว 5 กิโลกรัม ถ้าจิบให้หมดในขนาดที่คํานวณได้ภายใน 4 ชั่วโมงจะทําให้ หยุดถ่ายเร็วขึ้นและลดภาวะช็อกจากการขาดน้ําได้ ส่วนผู้ใหญ่ให้จิบเท่าที่ต้องการ ซึ่งไม่ได้พูดว่าต้องเกิน 4 ซอง ใหญ่หรือไม่ ถ้ามีโอกาสข้างหน้าจะได้ถามต่อไป; พุ) - หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทําให้เกิด เช่น รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ไม่มีแมลงวันตอม3
2. การใช้ยาอมใต้ลิ้น ยาอมใต้ลิ้น (Sublingual tablets) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. เมื่อมีอาการปวดหน้าอก แน่นหน้าอกหรือเจ็บหน้าอก ให้นั่ง หรือนอนลง 2. อมยา 1 เม็ดไว้ใต้ลิ้น โดยปล่อยให้ยาละลายจนหมด ห้ามเคี้ยว ห้ามกลืนทั้งเม็ด ห้ามบ้วนหรือกลืน น้ําลาย 3. อาการจะดีขึ้นหลังจากอมยาไปแล้ว 5 นาที ถ้าอาการไม่ดีขึ้นดังกล่าวให้อมยาซ้ําได้ ถ้าอาการยังไม่ดี ขึ้นหลังจากอมยาเม็ดที่สอง ให้อมยาเม็ดที่ 3 แล้วรีบนําผูป้ ่วยส่งโรงพยาบาล 4. อาจอมยานี้เพื่อป้องกันการเกิดอาการ ก่อนประกอบกิจกรรมที่คาดว่าจะทําให้มีอาการ 5 – 10 นาที คําแนะนําเพิ่มเติม - สําหรับ Isosorbide dinitrate sublingual tablet จะไม่มีความซ่าหรือร้อนเมื่ออม ตัวอย่าง ยาอมใต้ลนิ้ (Sublingual) - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ในขณะที่อมเม็ดยา ควรนั่งหรือนอนก็ได้ แต่ไม่ควรยืนเพราะอาจจะทําให้หน้ามืด เป็นลมได้ เนื่องจาก ยาไปขยายหลอดเลือด ทําให้ความดันต่ําได้ และเมื่ออมเสร็จแล้วก็ควรนั่งพักก่อน Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
38
เทคนิค OSPE
- อมยาครั้งละ 1 เม็ดไว้บริเวณใต้ลิ้น เมื่อมีอาการปวดหน้าอก แน่นหน้าอก หรือเจ็บหน้าอก ตัวยาจะ ค่อย ๆ ปลดปล่อยออกมา ห้ามเคี้ยวเม็ดยา กลืนเม็ดยา กลืนหรือบ้วนน้ําลายทิ้ง - อาการจะดีขึ้นหลังจากอมยาไปแล้ว 5 นาที ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้อมยาซ้ําได้ถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด โดยห่างกันเม็ดละ 5 นาที แต่ไม่เกิน 3 เม็ด ถ้าทานติดต่อกันจนครบ 3 เม็ด แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบนําผู้ป่วย ส่งโรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุของการเกิดโรค - ยานี้สามารถ ใช้ป้องกันอาการ โดยให้อมล่วงหน้า 5 นาที โดยให้อมแค่ 1 เม็ด เท่านัน้ คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ยา Isosorbide dinitrate ไม่มีรสเผ็ดซ่าเมื่ออม - ควรเก็บยาให้พ้นแสงหรือความชื้น หากยาเปลี่ยนสีแสดงว่ายาเสื่อมคุณภาพ - ควรเก็บยาไว้ในภาชนะเดิม ไม่ควรแบ่งยาออกมา และควรเก็บให้พ้นมือเด็ก - ควรพกยาติดตัวเสมอ และบอกผู้ใกล้ชิดว่าเป็นโรคนี้ เพราะยานี้สามารถเป็นยาช่วยชีวิตได้ - ยานี้อาจทําให้ปวดศีรษะได้
3. การใช้ยาแผ่นแปะผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการปวดเค้นอก ยาแผ่นแปะผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการปวดเค้นอก - ควรปิดแผ่นยาในเวลาเดียวกันอย่างสม่ําเสมอ อย่ารอให้มีอาการแล้วค่อยปิด เพราะจะได้ผลช้า - ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนใช้ยา - ติดแผ่นยาบริเวณผิวหนังที่มีขนน้อยและแห้ง เช่น ท้องแขน หรือใต้ราวนม - อย่าปิดยาบริเวณที่มีรอยแผลเป็น หรือรอยพับ - เพื่อป้องกันอาการดื้อยาในผู้ที่ใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรปิดแผ่นยาเพียงวันละ 12-14 ชั่วโมง และควรดึงแผ่นยาออกเวลากลางคืน
4. การใช้ยาหยอดและยาป้ายตา ยาหยอดตา (Eye drops) ยาหยอดตามีทั้งชนิดที่เป็นยาน้ําใสและเป็นยาน้ําแขวนตะกอน การใช้ยาหยอดตาที่เป็นยาฆ่าเชื้อ ตาม ทฤษฎีแล้วต้องใช้ยาให้หมดตามที่แพทย์สั่ง โดยเฉลี่ยยาหยอดตา 1 หยด มีปริมาตร 50 ไมโครลิตร (ทั้งนี้ ขึ้นกับความหนืดและขนาดของหลอดยาด้วย) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. เปิดฝาครอบขวดยาออก โดยไม่วางฝาขวดคว่ําลงบนพื้น หากเป็นยาที่มีหลอดหยดซึ่งเอาออกจากตัว ขวดได้ยังไม่ต้องเอาหลอดหยดออกจากขวด 3. ให้ใช้มือข้างหนึ่งจับหลอดหยดและดูดยาให้เข้าไปในหลอด (เฉพาะยาที่มีหลอดหยดซึ่งเอาออกจากตัว ขวดได้) 4. นอนหรือนั่งเงยหน้าขึ้น Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
39
เทคนิค OSPE
5. ค่อย ๆ ใช้มอื อีกข้างหนึ่งดึงเปลือกตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง และเหลือบตาขึ้นข้างบน 6. หยอดยา 1 หยด ลงในด้านในกระพุ้งของเปลือกตาล่าง ระวัง ! อย่าให้ปลายหลอดหยดถูกตา ขนตา เปลือกตา มือ หรือสิ่งใด ๆ 7. ปล่อยมือจากการดึงเปลือกตาล่าง และอย่ากะพริบตาสักครู่ (อย่างน้อย 30 วินาที) หรืออาจหลับตา เบา ๆ สักครู่ 8. เอาหลอดหยดใส่ขวดและปิดฝาให้สนิท (เฉพาะยาที่มหี ลอดหยดซึ่งเอาออกจากตัวขวดได้) ข้อแนะนําอื่น ๆ - หากต้องใช้มากกว่า 1 หยด ให้หยดครั้งแรก 1 หยดก่อน ทําจนครบขั้นตอน และเริ่มขั้นตอนใหม่เพื่อ หยดอีก 1 หยด แต่ละหยดห่างกันประมาณ 1 – 5 นาที - ถ้าต้องการใช้ยาหยอดตา 2 ชนิดขึ้นไป ควรเว้นระยะห่างในการหยอดยาแต่ละชนิดประมาณ 5-10 นาที จึงหยอดยาชนิดต่อไป ถ้ายาอีกชนิดเป็นยาขี้ผึ้งป้ายตา ให้หยอดยาก่อนและรอประมาณ 10 นาที จึงใช้ ยาขี้ผึ้งป้ายตา - หากมียาล้นออกมาจากตา อาจซับยาด้วยผ้าหรือกระดาษที่สะอาด - ห้ามใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจทําให้ติดโรคได้ - ยาอาจทําให้ตาพร่า แสบตา หรือเคืองตาหลังจากหยอดตาได้ ดังนั้นไม่ควรขับรถหรือต้องทํางาน ที่ เสี่ยงต่ออันตราย จนกว่าตาจะมองเห็นได้ชัดเจนตามปกติ - ห้ามล้างหลอดหยด - ถ้าลืมหยอดตา ให้หยอดตาทันที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้าใกล้จะถึงเวลาที่จะหยอดตาครั้งต่อไปให้รอหยอดตา ครั้งต่อไปได้เลย - ถ้ายาหยอดตาเป็นชนิดยาน้ําแขวนตะกอน จะต้องเขย่าขวดก่อนใช้ - ยาหยอดตาขวดที่เปิดใช้แล้ว ห้ามใช้เกิน 1 เดือน ถ้ามียาเหลือให้ทงิ้ ไป - ยาหยอดตาบางชนิดควรเก็บในตู้เย็น ฉะนั้นต้องอ่านฉลากให้เข้าใจ หลังจากเอายาออกจากตู้เย็น ควร คลึง หรือกําขวดยาหยอดตาให้อุณหภูมิของยาใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกาย - ยาหยอดตาบางชนิด จะทําให้รู้สึกขมในคอได้ เพราะตาและคอมีทางติดต่อถึงกันได้ การกดหัวตาเบา ๆ ช่วยลดการไหลของยาจากตาลงคอได้ - ผูใ้ ช้เลนส์สมั ผัส ควรถอดเลนส์สัมผัส ออกก่อนหยอดยาตา
ยาขี้ผึ้งป้ายตา (Eye ointment) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. เปิดจุกหลอดยาไว้ โดยวางให้ฝาหลอดหงายขึ้น 3. นอน หรือ นั่งเงยหน้าขึ้น 4. ค่อย ๆ ใช้มือข้างหนึ่งดึงเปลือกตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง และเหลือบตาขึ้นข้างบน 5. ใช้มืออีกข้างหนึ่งจับหลอดขี้ผึ้งป้ายตา และบีบขี้ผึ้งขนาดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร หรือประมาณ 1/2 นิ้ว ลงในด้านกระพุ้งของเปลือกตาล่าง ระวัง ! อย่าให้ปลายหลอดหยดถูกตา ขนตา เปลือกตา มือ หรือ สิ่งใด ๆ 6. ปล่อยมือจากการดึงเปลือกตาล่าง Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
40
เทคนิค OSPE
7. ค่อย ๆ หลับตาและกลอกลูกตาไปมาทุกทิศทางขณะทีย่ ังหลับตาอยู่สักครู่ 8. ปิดฝาจุกหลอดยาให้สนิท 9. ถ้าต้องใช้ยาขี้ผึ้งป้ายตา 2 ชนิดขึ้นไปควรเว้นระยะห่างในการป้ายยาแต่ละชนิดประมาณ 10 นาที ถ้ายาอีกชนิดเป็นยาหยอดตาให้หยอดยาก่อนและรอประมาณ 10 นาที จึงใช้ยาขี้ผึ้งป้ายตา ข้อแนะนําอื่น ๆ - ห้ามใช้ยาป้ายตาร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจทําให้ติดโรคได้ - ยาอาจทําให้ตาพร่า แสบตา หรือเคืองตาหลังจากป้ายตาได้ ดังนั้นไม่ควรขับรถหรือต้องทํางาน ที่เสี่ยง ต่ออันตราย จนกว่าตาจะมองเห็นได้ชัดเจนตามปกติ - ห้ามล้างปลายหลอดยาขี้ผึ้งป้ายตา - ถ้าลืมป้ายตาให้ป้ายตาทันที่ที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้าใกล้จะถึงเวลาที่จะป้ายตาครั้งต่อไปให้รอป้ายตาครั้งต่อไป ได้เลย
ตัวอย่าง ยาหยอดตา - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ล้างมือให้สะอาด / เปิดเกลียวจุกของขวดยาออก - นอนหรือนั่งแล้วเงยหน้าขึ้น - ใช้ข้างหนึ่งมือดึงหนังตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง เหลือบตาขึ้นข้างบน - หยอดยาตามจํานวนที่แพทย์สั่งลงด้านในเปลือกล่างของตา ระวังอย่าให้ปลายหลอดหยด สัมผัสกับดวงตาหรือสิ่งอื่นใด - ปล่อยมือจากการดึงหนังตา และ อย่ากระพริบตาถี่ ๆ อย่างน้อย 30 วินาที - ปิดขวดให้สนิท คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ถ้าต้องการใช้หยอดตา 2 ชนิดขึ้นไป ควรเว้นระยะห่างในการใช้ยาหยอดตาแต่ละชนิด ประมาณ 5-10 นาที จึงหยอดยาชนิดต่อไป ถ้ายาอีกชนิดหนึ่งเป็นยาป้ายตา ให้หยอดยาก่อนแล้วรอประมาณ 10 นาทีจึงใช้ยาป้ายตา - ห้ามใช้ยาหยอดตาร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจทําให้ติดโรคได้ - อาจทําให้ตาพร่า แสบตา หรือเคืองตาหลังจากหยอดตาได้ ดั้งนั้นไม่ควรขับรถหรือทํางานที่ เสี่ยงอันตราย จนกว่าตาจะมองเห็นได้ชัดเจนตามปกติ - ห้ามล้างหลอดหยด - ถ้าลืมหยอดตาให้หยอดทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้เวลาครัง้ ถัดไปให้หยอดตาครั้งถัดไปเลย Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
41
เทคนิค OSPE
- ยาหยอดตาที่เปิดใช้แล้ว จะมีอายุการใช้งาน 1 เดือน ถ้ายาเหลือควรทิ้งไป (ควรจดวันเริ่ม เปิดใช้ยาไว้จะได้ไม่ลืม) - ยาหยอดตาบางชนิดควรเก็บไว้ในตู้เย็น เช่น chloramphenicol ดังนั้นควรอ่านฉลากให้ เข้าใจ - ถ้ายาหยอดตาเป็นชนิดยาแขวนตะกอน ควรเขย่าขวดก่อนใช้ - ยาหยอดตาบางชนิดอาจทําให้รู้สึกขมคอได้ เพราะตาและปากมีทางติดต่อถึงกัน - ถ้าใส่ contact lens แนะนําให้ถอดก่อนหยอดตา
ยาป้ายตา - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ล้างมือให้สะอาด / เปิดจุกหลอดยาไว้ โดยวางให้ฝาหลอดหงายขึ้น - นอนหรือนั่งเงยหน้าขึ้น - ใช้ข้างหนึ่งมือดึงหนังตาล่างลงมาให้เป็นกระพุ้ง เหลือบตาขึ้นข้างบน - บีบหลอดขี้ผึ้งป้ายตา โดยให้มีขผี้ ึ้งยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ลงด้านในของเปลือกตาจากหัว ตาไปหางตา ระวังอย่าให้ปลายหลอดขี้ผึ้งถูกตาหรือสิ่งอื่นใด - ปล่อยมือจากการดึงหนังตา - ค่อย ๆ ปิดตาและ กลอกลูกตาไปมาทุกทิศทางหรือใช้นิ้วคลึงที่เปลือกตาขณะที่ลูกตา ยังปิด อยู่สักครู่ - ปิดฝาจุกหลอดยาให้สนิท คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ถ้าต้องการใช้ยาป้ายตา 2 ชนิด ขึ้นไปควรเว้นระยะห่างในการป้ายยาแต่ละชนิดประมาณ 10 นาที ถ้ายาอีกชนิดหนึ่งเป็นยาหยอดตาให้หยอดยาก่อนและรอประมาณ 10นาที จึงใช้ยาป้ายตา - ห้ามใช้ยาป้ายตาร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจจะทําให้ติดโรคได้ - อาจทําให้ตาพร่า แสบตา หรือเคืองตาหลังจากหยอดตาได้ ดั้งนั้นไม่ควรขับรถหรือทํางานที่ เสี่ยงอันตราย จนกว่าตาจะมองเห็นได้ชัดเจนตามปกติ - ห้ามล้างปลายหลอดขี้ผึ้งป้ายตา - ถ้าลืมหยอดตาให้หยอดทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้เวลาครัง้ ถัดไปให้รอป้ายครั้งถัดไปเลย - ยาป้ายตาที่เปิดใช้แล้ว จะมีอายุการใช้งาน 1 เดือน ถ้ายาเหลือควรทิ้งไป (ควรจดวันเริ่มเปิด ใช้ยาไว้จะได้ไม่ลืม) หมายเหตุ od= ตาขวา, ol = ตาซ้าย, au = ตาทั้งสองข้าง
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
42
เทคนิค OSPE
ยาหยอดหู (Ear drops) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. เอียงศีรษะให้หูข้างที่จะหยอดยาอยู่ด้านบน 3. หยอดยาเข้าไปในหูตามที่กําหนด ระวัง ! อย่าเอาหลอดหยดสอดเข้าไปในรูหู 4. นอนตะแคงอยู่ในท่าเดิม 3-5 นาที และอาจเอาสําลีใส่ในรูหูไว้เล็กน้อย เพื่อไม่ให้ยาไหลออกมา 5. ถ้าเป็นยาน้ําแขวนตะกอน ให้เขย่าขวดก่อนใช้ 6. อาจแนะนําเพิ่มเติมว่า ยาหยอดหูบางชนิดที่เก็บไว้ในตู้เย็น ก่อนใช้ยาให้กาํ ยาหยอดหูในมือไว้ประมาณ 2-3 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิให้ใกล้เคียงกับร่างกายก่อนหยดยา
ตัวอย่าง ยาหยอดหู - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อ ผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ล้างมือให้สะอาด - ถ้าเป็นยาแขวนตะกอนให้เขย่าขวดก่อนใช้ - ถ้ายาหยอดหูมีอุณหภูมิต่ํากว่าอุณหภูมิของร่างกายมาก ให้ กํายาหยอดหู ไว้ประมาณ 2-3 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิให้ใกล้เคียงกับร่างกายก่อนหยด - เอียงศีรษะให้หูด้านที่จะหยอดอยู่ด้านบน - หยอดยาเข้าไปในหูตามที่แพทย์สั่ง ระวังอย่าให้หลอดหยดสอดเข้าไปในรูหู - นอนตะแคงในท่าเดิมประมาณ 3-5 นาที และอาจเอาสําลีใส่ไว้ในรูหเู ล็กน้อย เพื่อไม่ให้ยา ไหลออกมา
5. การใช้ยาสูดพ่น ยาพ่นสูด Metered Dose Inhaler ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ถือหลอดพ่นยาในแนวตั้ง เปิดฝาครอบปากหลอดยาพ่นออก เขย่าหลอดยา ในแนวตั้ง 3-4 ครั้ง (กรณีทใี่ ช้เป็นครั้งแรก หรือใช้เพื่อบรรเทาอาการเป็นครั้งคราว ควรทดลองกดที่พ่นยาดูก่อนใช้จริง) 2. หายใจออกทางปากให้สุดเต็มที่ 3. ใช้ริมฝีปากอมรอบปากหลอดพ่นยาให้สนิท เงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย (วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ยาพ่น แต่วิธีนี้ยาจะตกค้างในช่องปากได้มาก) หรือ อ้าปากให้ปากหลอดพ่นยาอยู่ห่างจากปาก ประมาณ 3-4 เซนติเมตร หรือ 1-2 นิ้วฟุต หรือ 2-3 นิ้วมือ เอนศีรษะไปด้านหลังเล็กน้อย (วิธีนมี้ ีข้อดีที่ยาตกค้างในช่องปาก น้อยกว่าและจะทําให้ได้ละอองยาขนาดเล็กกว่า เข้าไปในปอดได้ดีกว่า) Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
43
เทคนิค OSPE
4. หายใจเข้าช้า ๆ และลึก ๆ ทางปากพร้อม ๆ กับกดทีพ่ ่นยา 1 ครั้ง ตัวยาจะเข้าสู่ลําคอพร้อมกับลม หายใจ 5. เอาหลอดพ่นยาออกจากปาก หุบปากให้สนิท กลั้นหายใจประมาณ 10 วินาที หรือให้นานที่สุดเท่าที่ จะทําได้ 6. ผ่อนลมหายใจออกทางปากหรือจมูกช้า ๆ 7. กรณีที่ต้องพ่นยาอีกครั้ง ควรเว้นระยะห่างจากครั้งแรกอย่างน้อย 1-2 นาที จึงเริ่มปฏิบัติใหม่ตาม ข้างต้น 8. หลังใช้เสร็จควรทําความสะอาดปากหลอดพ่นด้วยน้ําสะอาด เช็ดด้วยกระดาษซับให้แห้ง ปิดฝาครอบ ให้เรียบร้อย 9. หลังพ่นยาเสร็จเรียบร้อย กลั้วในปากและคอด้วยน้ําสะอาดแล้วบ้วนทิ้ง เพื่อลดอาการปากคอแห้ง ช่วย ลดการเกิดเชื้อราในช่องปาก และการเกิดเสียงแหบโดยเฉพาะจากการใช้ยาสเตียรอยด์ ข้อแนะนําในการใช้ยาพ่นสูด 2 ชนิด กรณีที่ผู้ป่วยต้องใช้ยาพ่นสูดร่วมกัน 2 ชนิด ต้องเว้นระยะในการพ่นยาแต่ละชนิด เช่น ยาพ่นสูดขยาย หลอดลม และยาพ่นสเตียรอยด์ ควรพ่นยาขยายหลอดลมก่อน และเว้นระยะ 5 นาทีจึงค่อยพ่นยาสเตียรอยด์ คําแนะนําเพิ่มเติม - ก่อนใช้ยาผู้ปว่ ยควรฝึกซ้อมการหายใจทางปากก่อน โดยสูดหายใจเข้าออกช้า ๆ ลึก ๆ จนชํานาญ - ผู้ป่วยอาจทดลองพ่นยาหน้ากระจก ถ้าขณะพ่นยามีไอระเหยของละอองยารอบ ๆ ปาก แสดงว่าใช้ยา ไม่ถูกต้อง - ถ้าผู้ป่วยมีเสมหะ ก่อนพ่นยาควรกําจัดเสมหะออกจากลําคอก่อน - การลืมพ่นยาให้พ่นทันทีที่นกึ ขึ้นได้ และพ่นครั้งต่อไปตามปกติ แต่ถ้านึกขึ้นได้ในระยะเวลาที่ใกล้กบั เวลาของการพ่นครั้งต่อไป ให้พ่นครั้งต่อไปได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดการพ่นเป็น 2 เท่า - ยาพ่นที่เป็นยาขยายหลอดลมเท่านั้นที่สามารถใช้กับอาการจับหืดฉับพลันได้ ส่วนยาพ่นที่เป็นยาส เตียรอยด์และยาอื่น ๆ ไม่สามารถขยายหลอดลมได้ แต่จะใช้สําหรับป้องกันอาการในระยะยาวและใช้เวลา 1-4 สัปดาห์จึงจะเห็นผลเต็มที่ ดังนั้นจึงควรใช้ยาพวกนี้ตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง - เมื่อใช้ยาหมดแล้ว ไม่ควรทุบหลอดยาหรือเผาไฟ เพราะอาจทําให้หลอดยาระเบิดได้
ยาสูด Accuhaler ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ถือเครื่องในแนวราบขนานกับพื้น 2. เปิดเครื่อง accuhaler โดยใช้มือข้างหนึ่งจับตัวเครื่องด้านนอกไว้ แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือของมืออีกข้าง หนึ่งวางที่ร่อง 3. ดันนิ้วหัวแม่มือในทิศออกจากตัวไปจนสุด 4. ถือเครื่องไว้ในแนวนอน โดยให้ปากกระบอกหันเข้าหาตัว ดันแกนเลื่อนออกไปจนสุดจนได้ยินเสียง "คลิก" 5. หายใจออกทางปากให้มากที่สุด ระวังอย่าพ่นลมหายใจเข้าไปในเครื่อง 6. อมปากกระบอกให้สนิท 7. สูดลมหายใจเข้าทางปากโดยผ่านเครื่องมือให้เร็ว แรง และลึก แล้วเอาเครื่องออกจากปาก Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
44
เทคนิค OSPE
8. กลั้นหายใจประมาณ 10 วินาที หรือนานที่สุดเท่าที่จะทําได้ แล้วหายใจออกช้า ๆ 9. ปิดเครื่องโดยการวางนิ้วหัวแม่มือบนร่อง แล้วเลื่อนกลับมาหาตัวจนสุด เมื่อเครื่องถูกปิดจะได้ยินเสียง "คลิก" แกนเลือ่ นจะคืนกลับมาในตําแหน่งเดิมโดยอัตโนมัติ สําหรับพร้อมที่จะใช้งานในครั้งต่อไป 10. หลังพ่นยาเสร็จเรียบร้อย ให้กลั้วปากและคอด้วยน้ําสะอาดแล้วบ้วนทิ้ง เพื่อลดอาการปากคอแห้ง ช่วยลดการเกิดเชื้อราในช่องปาก และการเกิดเสียงแหบโดยเฉพาะจากการใช้สเตียรอยด์ คําแนะนําเพิ่มเติม - ถ้าผู้ป่วยมีเสมหะ ก่อนสูดพ่นยาควรกําจัดเอาเสมหะออกจากลําคอออกก่อน - ปิด accuhaler ทุกครั้งที่ไม่ได้ใช้ และดันแกนเลื่อนเมื่อต้องการจะใช้ยาในครั้งต่อไปเท่านั้น - ห้ามใช้น้ําล้างเครื่อง แต่ให้ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูสะอาดเช็ดทําความสะอาดแทน และเก็บ accuhaler ไว้ในที่แห้ง
ยาสูด Turbuhaler ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. เปิดฝาครอบขวดยาออก 2. ถือขวดยาในลักษณะตั้งตรง ปลายหลอดอยู่ด้านบน 3. บิดฐานหลอดยาไปด้านขวา (ทวนเข็มนาฬิกา) ให้สุด แล้วบิดกลับมาด้านซ้าย (ตามเข็มนาฬิกา) ให้สุด จะได้ยินเสียงดัง “คลิก” แสดงว่ายาบรรจุพร้อมจะสูด 4. หายใจออกทางปากให้มากที่สุด ระวังอย่าพ่นลมหายใจเข้าไปในเครื่อง 5. ใช้ริมฝีปากอมปลายหลอดให้สนิท 6. สูดหายใจเข้าทางปากให้แรงและลึก 7. กลั้นหายใจไว้อย่างน้อย 10 วินาที หรือนานที่สุดเท่าทีจ่ ะทําได้ แล้วหายใจออกช้า ๆ 8. ถ้าต้องการสูดยามากกว่า 1 ครั้งให้เริม่ ทําใหม่ตั้งแต่ต้น 9. เมื่อใช้เสร็จแล้ว ให้ทําความสะอาดปลายหลอดด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชูสะอาด แล้วปิดฝาให้สนิท 10. หลังสูดพ่นยาเสร็จเรียบร้อย กลั้วปากและคอด้วยน้ําสะอาดแล้วบ้วนทิ้ง เพื่อลดอาการปากคอแห้ง ช่วยลดการเกิดเชื้อราในช่องปาก และการเกิดเสียงแหบโดยเฉพาะจากการใช้ยาสเตียรอยด์ คําแนะนําเพิ่มเติม - ถ้าผู้ป่วยมีเสมหะ ก่อนสูดพ่นยาควรกําจัดเอาเสมหะออกจากลําคอออกก่อน - หากลืมสูดพ่นยาให้สูดพ่นทันทีที่นึกได้และสูดพ่นครั้งต่อไปตามปกติ แต่ถ้านึกได้ในระยะเวลาที่ใกล้กับ เวลาของการสูดพ่นครั้งต่อไป ก็ให้พ่นครั้งต่อไปได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดการสูดพ่นเป็น 2 เท่า - ใช้ยาตามคําแนะนําของแพทย์ ไม่ควรลดขนาดการใช้ยา หรือหยุดใช้ยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ - ยาสูดพ่นที่เป็นยาขยายหลอดลมเท่านั้นที่บรรเทาอาการหอบฉับพลันได้ ส่วนยาสูดพ่นสเตียรอยด์ใช้ สําหรับป้องกันในระยะยาว และใช้เวลา 1-4 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลเต็มที่ ดังนั้นจึงควรใช้ยาพวกนี้ตามแพทย์สั่ง อย่างต่อเนื่องสม่ําเสมอ - ถ้าพบแถบสีแดงปรากฏที่ด้านบนของช่องที่แสดงจํานวนขนาดยาที่เหลืออยู่ แสดงว่ายังมียาเหลือให้ใช้ อีกเพียง 20 ครั้ง (doses) ให้ผู้ป่วยรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาต่อ แต่ถา้ แถบสีแดงเลือ่ นลงมาอยู่ส่วนล่างแสดงว่า ยาหมด แม้ว่าเขย่าขวดยาแล้วจะยังได้ยินเสียงก็ตาม Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
45
เทคนิค OSPE
ตัวอย่าง ยาสูดพ่น (Inhalation) - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - เปิดฝาครอบปากขวดพ่นยาออก เขย่าขวดยา (ในกรณีทใี่ ช้ครั้งแรก หรือใช้เพื่อบรรเทาอาการเป็นครั้ง คราว ควรทดลองพ่นยาก่อนใช้ยาจริง) - คว่ําขวดพ่นยาลง ตั้งขวดพ่นยาให้ตรง - หายใจออกให้สุด - อมรอบปากกระบอกพ่นยาให้สนิท - หายใจเข้าลึก ๆ ทางปากพร้อมกับกดที่พ่นยา 1 ครั้ง ตัวยาจะค่อย ๆ เข้าสู่ลําคอพร้อมกับลมหายใจ - นําขวดพ่นยาออกจากปาก หุบปากให้สนิท กลั้นหายใจให้นานที่สุดเท่าที่จะทําได้ - จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกทางจมูกอย่างช้า ๆ - ดึงหลอดพ่นยาออก แล้วทําความสะอาดปากกระบอกพ่นยาด้วยน้ําอุ่น เช็ดให้แห้งแล้วปิดฝาครอบให้ เรียบร้อย คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ถ้าต้องการ พ่นอีกครั้ง ควรเว้นระยะห่างจากครั้งแรกย่างน้อย 30 วินาที แล้วปฏิบัติตามข้างต้นอีก ครั้ง ห้ามกดยาพ่น 2 ที พร้อมกัน - ในกรณี พ่นยาที่เป็นสเตียรอยด์ ให้กลัว้ ปากด้วยน้ําสะอาดแล้วบ้วนทิ้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราใน ช่องปาก เสียงแหบ ปากแห้ง คอแห้ง - กรณีถ้า ลืมพ่น ให้พ่นทันทีที่นึกได้ แต่ถ้านึกขึ้นได้ในระยะเวลาที่ใกล้กับเวลาของการพ่นครั้งต่อไป ให้พ่นครั้งต่อไปได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดการพ่นเป็น 2 เท่า - ถ้าต้องการ พ่นยา 2 ชนิด ให้พ่นยาขยายหลอดลมก่อน เว้น 5 นาทีแล้วจึงพ่นยาสเตียรอยด์ - ยาพ่นที่เป็นยาขยายหลอดลมเท่านั้นที่สามารถใช้กับอาการจับหืดเฉียบพลันได้ ส่วนยาพ่นที่เป็น สเตียรอยด์และยาอื่น ๆ ไม่สามรถขยายหลอดลมได้ แต่จะใช้สําหรับป้องกันอาการในระยะยาวและใช้เวลา 1-4 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลเต็มที่ ดังนั้นจึงควรใช้ยานี้ตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง การทดสอบว่ายาหมดหรือไม่ นําขวดบรรจุยาใส่ลงไปในภาชนะที่มีน้ําอยู่เต็ม - ถ้าขวดบรรจุยา จมน้ํา แสดงว่ายังมี ยาเต็ม - ถ้าขวดบรรจุยา ลอยขนาน บนผิวน้ําแสดงว่า ยาหมด - ถ้าขวดบรรจุยา เอียงทํามุมต่าง ๆ กับผิวน้ําแสดงว่ายังมี ยาเหลืออยู่ในปริมาณต่าง ๆ กัน * อย่าแช่ขวดยาในน้ํานาน ๆ น้ําอาจซึมเข้าได้ * เมื่อใช้ยาหมดแล้วไม่ควรทุบขวด หรือเผาไฟ เพราะอาจทําให้ขวดระเบิดได้ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
46
เทคนิค OSPE
6. การใช้ยาทางจมูก ยาพ่นจมูก (Nasal spray) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. กําจัดน้ํามูกออกจากจมูกให้หมด (ถ้ามี) 2. เขย่าขวดยา นั่งตัวตรงเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย หรือตั้งศีรษะตรง หรือก้มศีรษะ (ขึ้นกับยาแต่ละชนิด) หุบปาก 3. เปิดฝาขวดยาออก แล้วสอดปลายที่พ่นยาเข้าไปในรูจมูก ใช้นิ้วมืออีกข้างกดรูจมูกข้างที่เหลือ 4. สูดหายใจเข้าพร้อมกับกดที่พ่นยาเข้าจมูก การพ่นยาต้องให้ปลายหลอดพ่นชี้ไปทางผนังด้านข้างจมูก ให้มากทีส่ ุด ห้ามพ่นยาเขาไปที่ผนังกั้นช่องจมูก 5. กลั้นหายใจ 2-3 วินาที 6. พ่นยาในรูจมูกอีกข้างด้วยวิธีเดียวกัน (ถ้าต้องพ่นยา 2 ข้างจมูก) 7. ถ้าต้องพ่นข้างละ 2 ครั้ง ควรพ่นข้างละ 1 ครั้งให้ครบทั้ง 2 ข้างก่อน แล้วจึงเริ่มพ่นครั้งที่ 2 ให้ครบทั้ง 2 ข้าง 8. เช็ดทําความสะอาดที่ปลายพ่น ปิดฝาเก็บให้เรียบร้อย คําแนะนําและคําชี้แจงเพิ่มเติม - กรณีเป็นยาพ่นบรรเทาอาการคัดจมูก ให้ใช้ได้เป็นครั้งคราวเมื่อจําเป็น แต่ถ้าเป็นยาพ่นที่เป็นส เตียรอยด์ จะต้องใช้ยาสม่ําเสมอตามแพทย์สั่ง เพราะยานี้ไม่สามารถบรรเทาอาการได้โดยทันที - กรณีที่ผู้ป่วยต้องใช้ยาสม่ําเสมอ ถ้าลืมพ่นยาให้พ่นทันทีที่นึกขึ้นได้และพ่นครั้งต่อไปตามปกติ แต่ถ้านึก ขึ้นได้ในระยะเวลาใกล้เคียงกับเวลาที่จะพ่นครั้งต่อไป ให้พ่นยาของครั้งต่อไปเลย โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า - ไม่ควรหยุดยา ลดขนาดยา หรือเพิ่มขนาดยาเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์ - การใช้ยาพ่นจมูก อาจทําให้รู้สึกถึงรสขมของยาได้ เพราะช่องจมูกกับคอมีทางติดต่อถึงกัน
ตัวอย่าง ยาพ่นจมูก (Nasal spray) - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - กําจัดน้ํามูกออกให้หมด (ถ้ามี) ล้างมือให้สะอาด - เขย่าขวดยา นั่งตัวตรงเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย หุบปาก - เปิดฝาขวดยาออก - สอดปลายทีพ่ ่นจมูกเข้าไปในรูจมูก ใช้นิ้วมืออีกข้างหนึ่งกดรูจมูกข้างที่เหลือ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
47
เทคนิค OSPE
- สูดหายใจเข้าพร้อมกับกดที่พ่นยาเข้าจมูก - กลั้นหายใจ 2-3 นาที แล้วหายใจออกทางปาก - ถ้าต้องการพ่น 2 ข้างก็ให้ใช้วิธีเดียวกัน - ถ้าต้องการพ่นข้างละ 2 ครัง้ ให้พ่นข้างละ 1 ครั้งให้ครบก่อนทั้งสองข้าง แล้วจึงเริ่มพ่นครั้งที่สองให้ ครบทั้งสองข้าง - เช็ดทําความสะอาดที่ปลายหลอดพ่น แล้วปิดฝาเก็บให้เรียบร้อย คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - กรณีที่เป็นยาพ่นเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก ให้ใช้เป็นครั้งคราวเมื่อจําเป็น แต่ถ้าเป็นยาพ่นที่เป็น สเตียรอยด์ ต้องใช้อย่างสม่ําเสมอตามที่แพทย์สั่ง เพราะยานี้ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ทันที - ไม่ควรปรับขนาดยาเอง - ยาพ่นจมูกอาจทําให้รู้สึกขมคอได้ เพราะช่องจมูกกับคอมีช่องติดกัน
ยาหยอดจมูก (Nasal drops) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. กําจัดเอาน้ํามูกออกจากจมูกให้หมด (ถ้ามี) 2. ล้างมือให้สะอาด 3. เปิดฝาครอบขวดยาออก 4. นั่งตัวตรงเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย 5. หยอดยาในรูจมูกตามจํานวนที่กําหนด ไม่ให้ปลายหลอดหยดสัมผัสกับโพรงจมูก 6. นั่งในท่าเดิมต่อประมาณ 5 นาที เพื่อป้องกันยาไหลย้อนออกมา 7. หยดยาในรูจมูกอีกข้างด้วยวิธีการเดียวกัน (ถ้าต้องหยอดยาในรูจมูกทัง้ สองข้าง) 8. ปิดฝาเก็บให้เรียบร้อย คําแนะนําเพิ่มเติม - กรณีที่เป็นยาหยอดจมูกบรรเทาอาการคัดจมูก ควรใช้เป็นครั้งคราวเมื่อจําเป็น และใช้ยาติดต่อกันไม่ เกิน 3-5 วัน - ถ้ายาหยอดจมูกเปลี่ยนสีหรือมีตะกอนให้ทงิ้ ไป - ไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับผู้อื่น
น้ําเกลือ (0.9% normal saline) ล้างจมูก ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. เทน้ําเกลือ 0.9% ใส่ถ้วยหรือแก้วที่เตรียมไว้ แล้วใช้กระบอกฉีดยาดูดน้ําเกลือจนเต็ม 2. นั่งหรือยืนก้มหน้าเล็กน้อยเอนศีรษะไปด้านใดด้านหนึ่งเล็กน้อย กลั้นหายใจ หรือหายใจทางปากเพื่อ ป้องกันการสําลัก ฉีดน้ําเกลือประมาณ 5-10 ซีซี เข้าไปในรูจมูกด้านบน หมายเหตุ ในกรณีเด็กเล็กที่ยงั สั่งน้ํามูกเองไม่ได้ ให้เด็กนอนในท่าศีรษะสูงพอควรเพื่อป้องกันการสําลัก หรือใน กรณีเด็กโตที่สั่งน้ํามูกเองได้ ให้เด็กนั่งหรือยืนแหงนหน้าเล็กน้อย ถ้ากลัวเด็กสําลักอาจให้ก้มหน้าสอดปลายหลอด ฉีดยาเข้าไปในรูจมูก ให้ปลายกระบอกฉีดชิดด้านบนของรูจมูก ค่อย ๆ ฉีดน้ําเกลือครั้งละประมาณ 0.5-1 ซีซี 3. ใช้ลูกยางแดงดูดน้ํามูกในจมูกออก หรือให้สั่งน้ํามูกออก 4. ทําซ้ําหลาย ๆ ครั้ง ในรูจมูกแต่ละข้างจนไม่มีน้ํามูก Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
48
เทคนิค OSPE
7. การใช้ยาทางทวารหนัก ยาเหน็บทวารหนัก (Rectal suppositories) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. ถ้ายาเหน็บนิ่มให้แช่ยาในตู้เย็นก่อนแกะยาออกจากห่อ หรืออาจแช่ในน้ําเย็นก็ได้ เพื่อให้ยาแข็งตัวจะ สอดได้ง่ายขึ้น 3. แกะเม็ดยาออกจากกระดาษห่อ 4. นอนตะแคง โดยให้ขาล่างเหยียดตรง และงอขาบนขึ้นจนหัวเข่าชิดอกให้มากทีส่ ุด หรือยืนตรงยกขา ข้างหนึ่งขึ้นโดยให้เท้าเหยียบบนเก้าอี้ เอามืออ้อมขาไปด้านหลังแล้วสอดยาเหน็บ 5. สอดยาเหน็บเข้าไปในทวารหนัก เอาด้านที่มีปลายแหลมกว่าเข้าไปก่อน โดยใช้นิ้วดันยาเข้าไปอย่าง ช้า ๆและเบา ๆ พยายามสอดให้ลึก เพื่อไม่ให้แท่งยาหลุดออกมา 6. นอนในท่าเดิมสักครู่หนึ่ง (ประมาณ 15 นาที) ถ้าเป็นการเหน็บยาระบายควรนอนในท่าเดิมไม่ต่ํากว่า 15-20 นาที จึงลุกไปถ่ายอุจจาระแม้ว่าหลังจากสอดยาแล้วจะมีความรู้สึกอยากถ่ายก็ต้องกลั้นอุจจาระไว้ก่อน หากลุกไปถ่ายทันทีหลังจากสอดยาจะทําให้ยาหลุดออกมาจากทวารหนักก่อนที่จะออกฤทธิ์ได้เต็มที่
ตัวอย่าง ยาเหน็บทวารหนัก (Rectal suppositories) เช่น Proctosedyl, Scheripoct ® N - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธใี ช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ล้างมือให้สะอาด - ถ้ายานิ่มให้แช่ในตู้เย็นก่อน หรืออาจแช่ในน้ําเย็นก็ได้ เพื่อให้ยาแข็งตัวสอดได้ง่ายขึ้น - แกะเม็ดยาออกจากกระดาษห่อ - นอนตะแคงด้านที่ถนัดโดยให้ขาล่างเหยียดตรง ขาบนงอขึ้นโดยให้หัวเข่าชิดกับหน้าอก - สอดยาเหน็บเข้าไปในช่องทวารหนัก โดยนําด้านปลายแหลมสอดเข้าไปก่อน โดยใช้นิ้วดันเม็ดยาเข้าไป อย่างช้า ๆ และพยายามสอดให้ลึกทีส่ ุด เพือ่ ไม่ไห้เม็ดยาไหลออกมา - นอนในท่าเดิมประมาณ 15 นาที คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน 1. เก็บยาไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาที่ไม่ใช่ช่องแช่แข็ง 2. ถ้าต้องเหน็บต่อกัน 2 เม็ด ให้เหน็บห่างกันประมาณ 10 นาที 3. หากมีการถ่ายระหว่างวันให้เหน็บยาเพิ่ม Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
49
เทคนิค OSPE
4. รับประทานอาหารที่มีกากใย จําพวกผักผลไม้เยอะ ๆ ไม่ดื่มชา กาแฟ 5. ฝึกขับถ่ายให้เป็นนิสัย 6. ไม่ยืนหรือนัง่ นานๆ และออกกําลังกายสม่ําเสมอ 7. ดื่มน้ํามาก ๆ
ยาสวนทวารหนัก (Rectal enema) ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. ถ้ามีฝาปิดหลอดสวน ให้เอาฝาปิดออกก่อน และหล่อลื่นปลายหลอดสวนด้วยสารหล่อลื่น 3. นอนตะแคงโดยใช้ขาล่างเหยียดตรง และงอขาบนขึ้นจนหัวเข่าจรดกับหน้าอก 4. สอดปลายหลอดสวนเข้าไปในทวารหนัก สอดโดยค่อย ๆ หมุนขวดยาเข้าไปอย่างช้า ๆ และเบา (ขณะ สอดควรหายใจเข้าลึก ๆ จะทําให้สอดได้ง่ายขึ้น) 5. ค่อย ๆ บีบยาจากขวดหรือภาชนะบรรจุน้ํายาอย่างช้า ๆ จนน้ํายาหมด 6. พยายามขมิบทวารหนักไว้ 2 - 3 วินาที นอนในท่าเดิมประมาณ 15 - 30 นาที ถ้าเป็นการสวนยาระบายแม้จะมีความรู้สึกอยากจะถ่ายก็ให้กลั้นไว้ก่อน หากลุกไปถ่ายทันทีหลังจากสวนยาจะทําให้ยาออกมาจากทวารหนักก่อนที่จะออกฤทธิ์ได้เต็มที่ โดยให้กลั้นไว้นาน ที่สุดเท่าที่จะทําได้
8. การใช้ยาเหน็บช่องคลอด ยาเหน็บช่องคลอด (Vaginal suppositories) ก. วิธีสอดยาเหน็บช่องคลอดโดยใช้มือ ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. แกะกระดาษที่ห่อยาออก แล้วจุ่มเม็ดยาในน้ําสะอาดพอให้ยาชื้น (ประมาณ 1-2 วินาที) เพื่อช่วยลด การระคายเคือง 3. นอนหงายโดยชันหัวเข่าขึ้นและแยกขาออก 4. สอดยาเข้าช่องคลอดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทําได้ โดยใช้นิ้วช่วยดันยาเข้าไป 5. นอนในท่าเดิมสักครู่ ไม่ตา่ํ กว่า 15 นาที คําแนะนําเพิ่มเติม ควรเหน็บยาติดต่อกันทุกวันอย่างน้อยตามจํานวนวันหรือขนาดยาที่กําหนด เช่น 7 วัน หรือขึ้นกับชนิด ของยาและตามคําแนะนําของแพทย์หรือเภสัชกร เมื่อสอดยาเหน็บแล้วควรนอนท่าเดิมนิ่ง ๆ จนกว่ายาจะละลาย หมด ปกติมักจะเหน็บก่อนนอน ควรใช้กระดาษชําระซ้อนทบกันหลาย ๆ ชั้นรองที่กางเกงในไว้ เพื่อรองรับส่วน ของเม็ดยาที่จะละลายไหลออกมา
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
50
เทคนิค OSPE
ข. วิธีสอดยาเหน็บช่องคลอดโดยใช้เครื่องมือช่วยสอด ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือให้สะอาด 2. แกะยาออกจากกระดาษห่อ แล้วจุม่ เม็ดยาในน้ําสะอาดพอชื้น (ประมาณ 1-2 วินาที) 3. ใส่เม็ดยาในเครื่องมือช่วยสอด โดยมีขั้นตอนดังนี้ - ดึงก้านสูบของเครื่องมือออกมาจนสุด - ใส่ยาในช่องใส่ยาที่ปลายของเครื่องมือ เม็ดยาจะติดที่ช่องใส่ยา 4. นอนหงาย โดยชันหัวเข่าขึ้นและแยกขาออก 5. สอดยาเข้าในช่องคลอด โดยมีขั้นตอนดังนี้ - จับตัวเครื่องมือสอดยาที่ใส่ยาแล้วด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลาง ส่วนนิ้วชี้ให้แตะอยู่ที่ ปลาย ก้านสูบ - หันปลายที่มยี าเข้าไปช่องคลอด ค่อย ๆสอดเครื่องมือเข้าไปเบา ๆ เมือ่ สอดเข้าไปลึก พอควร ให้ใช้นิ้วชี้ดันก้านลูกสูบเพื่อไล่ตัวยาออกจากเครื่องมือ โดยยาจะตกอยู่ในช่องคลอด - เอาเครื่องมือออกจากช่องคลอด 6. นอนท่าเดิมสักครู่ ประมาณ 15 นาที เพื่อไม่ให้ยาไหลออกมาจากช่องคลอด
ตัวอย่าง ยาเหน็บช่องคลอด (Vagina suppositoies) เช่น Canesten - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมสมัย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธใี ช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ล้างมือให้สะอาด - แกะกระดาษที่ห่อยาออก แล้วจุ่มในน้ําสะอาดพอชื้น (ประมาณ 1-2 วินาที) เพื่อให้เม็ดยาลื่นสอดได้ ง่ายขึ้น - นอนหงายโดยชันหัวเข่าขึ้นและแยกขาออก - สอดยาเข้าช่องคลอดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทําได้ โดยใช้นิ้วช่วยดันเม็ดยาเข้าไป - นอนในท่าเดิมประมาณ 15 นาที คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน 1. ควรเหน็บยาต่อเนื่องทุกวันตามที่แพทย์สั่ง (ถ้ามีใบสั่งแพทย์) 2. ปกติมักให้เหน็บยาก่อนนอน แล้วควรใช้กระดาษชําระซ้อนทบกันหลาย ๆ ชั้น รองที่กางเกงในไว้เพื่อ รองรับส่วนของเม็ดยาที่จะไหลออกมา 3. ถ้าต้องเหน็บ 2 เม็ด ให้เหน็บต่อกันเลย โดยห่างกันประมาณ .. นาที
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
51
เทคนิค OSPE
9. การใช้ยาคุมกําเนิด ยาเม็ดคุมกําเนิด (Oral contraceptive tablets) 1. วิธีการกินยาเม็ดคุมกําเนิด ยาคุมกําเนิดชนิดแผง 21 เม็ด ยา 1 แผง ประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด ให้เริม่ กินยาตั้งแต่วันที่ 1 ของรอบประจําเดือน (นับวัน แรกที่มีประจําเดือนเป็นวันที่ 1) อาจเริ่มกินยาช้ากว่านี้ได้แต่ต้องไม่เกินวันที่ 5 ของรอบประจําเดือน กินยา ติดต่อกันทุกวันจนหมดแผงและควรกินยาเวลาเดียวกันทุกวัน (เช่น หลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน) หยุดยา 7 วัน ระหว่างหยุดยา 2-4 วัน จะมีเลือดประจําเดือนมา เมื่อหยุดยาครบกําหนด 7 วัน ให้เริ่มแผงใหม่ในวิธีเช่นเดิมโดย ไม่ต้องสนใจว่าประจําเดือนจะยังมีอยู่หรือไม่ ยาคุมกําเนิดชนิดแผง 28 เม็ด ยา 1 แผง ประกอบด้วยเม็ดยาฮอร์โมน 21 เม็ด และเม็ดที่ไม่มีฮอร์โมน 7 เม็ด ให้เริ่มกินยาในวันแรก ของรอบประจําเดือน โดยกินยาเม็ดแรกในส่วนที่ระบุบนแผงว่าเป็นจุดเริ่มต้นใช้ยา กินยาเวลาเดียวกันทุกวันและ ติดต่อกันทุกวัน ตามวันกํากับ หรือตามทิศลูกศรจนหมดแผง กินแผงใหม่ต่อได้เลยไม่ต้องหยุดยา ยากลุ่มนี้ต้องกิน ติดต่อกันทุกวันไปตลอด ประจําเดือนจะมาในช่วงกินเม็ดที่ไม่มีฮอร์โมน
2. การปฏิบตั ิระหว่างกินยาเม็ดคุมกําเนิด 2.1 ลืมกินยา • ลืม 1 เม็ด ให้กินทันทีที่นึกได้ และกินเม็ดถัดไปตามปกติ • ลืม 2 เม็ดในช่วง 14 เม็ดแรกของแผง ให้กินยาวันละ 2 เม็ด เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน และกินยาต่อไป ตามปกติ และให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหรืองดร่วมเพศ 7 วัน • ลืม 2 เม็ดในช่วงหลังจาก 14 เม็ดแรกของแผง ให้หยุดยาแผงเดิม เริ่มแผงใหม่ในวันนัน้ เลย และใช้ ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหรืองดร่วมเพศ 7 วัน • ลืม 3 เม็ดหรือมากกว่า ให้หยุดยาแผงเดิม เริ่มแผงใหม่ในวันนั้นเลย หรือรอให้ประจําเดือนมาและเริ่ม แผงใหม่ในวันที่ประจําเดือนมา และใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย หรืองดร่วมเพศ 7 วัน 2.2. หากมีการอาเจียนหรือท้องร่วงรุนแรงหลายครั้ง ให้ยังคงกินยาตามปกติ แต่ต้องใช้วิธีคุมกําเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย หรืองดการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างนั้น และต่อไปอีก 1 สัปดาห์หลังจาก อาการดังกล่าวหายแล้ว 2.3. หากต้องกินยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้าง ได้แก่ ยากลุ่ม tetracyclines, penicillins, quinolones, cephalosporins และ metronidazole ซึ่งอาจมีผลลดประสิทธิภาพของยาคุมกําเนิด ทําให้อาจมีเลือดออก กระปริบกระปรอยในระหว่างที่ยังกินยาไม่หมดแผง และอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ ดังนั้นควรใช้วิธีคุมกําเนิดอื่น เช่น ใช้ถุงยางอนามัย ร่วมด้วยระหว่างที่กินยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กว้าง หรือเปลี่ยนชนิดของยาเม็ดคุมกําเนิดจาก ชนิดรวมเป็นชนิดที่มีแต่ progestin อย่างเดียว 2.4. หากต้องกินยา rifampicin หรือยาอื่นที่มีคุณสมบัติเป็น enzyme inducer ทําให้ประสิทธิภาพใน การคุมกําเนิดของยาคุมกําเนิดลดลง ดังนั้นควรใช้วิธีคุมกําเนิดอื่นที่ไม่ใช้ฮอร์โมนเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เช่น ใช้ ถุงยางอนามัย ร่วมด้วยระหว่างที่กินยา และต้องป้องกันต่อไปอีกอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังหยุดยา rifampicin หรือยาอื่นที่มีคุณสมบัติเป็น enzyme inducer แล้ว Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
52
เทคนิค OSPE
3. อาการข้างเคียงของยาเม็ดคุมกําเนิดและการปฏิบัตติ ัว - อาการคลื่นไส้อาเจียน มักพบได้ใน 2-3 แผงแรก แก้ไขได้โดยให้กินยาหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน ถ้าปัญหายังคงอยู่ควรปรึกษาเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนชนิดยาเม็ดคุมกําเนิด - อาการเจ็บคัดเต้านม พบในระยะแรกของการใช้ยา ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีอาการลดลงหรือหายไป ในเวลา ต่อมา - เลือดออกกระปริบกระปรอย มักพบในผูท้ ลี่ ืมกินยาบ่อย ๆ และอาจเกิดได้ในระยะแรกของการใช้ยา เช่นกัน ซึ่งผู้ใช้ควรกินยาอย่างสม่ําเสมอ - การขาดประจําเดือนระหว่างการใช้ยา ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะผู้ที่กินยา ไม่สม่ําเสมอ หรือลืมกินยาบ่อย ๆ - ผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้แก่ น้ําหนักตัวเพิ่ม สิว ฝ้า ผมร่วง ปวดศีรษะ เป็นต้น อาการที่กล่าวมานั้นจะ เกิดขึ้นในระยะแรกของการใช้ยา และส่วนใหญ่หายได้เองเมื่อใช้ยาไป 2-3 เดือน แต่ถ้าหากมีอาการมากหรือ เป็นอยู่นานจนเป็นปัญหา หรือเกิดความกังวลใจควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ซึ่งอาจแก้ไขโดยการเปลี่ยนชนิดยา ตลอดจนอาจแนะนําให้ใช้วิธีคุมกําเนิดอื่น ๆ แทน ซักประวัติ 1. รับประทานเองหรือเปล่า? 2. เคยใช้มาก่อนหรือเปล่า? 3. ประจําเดือนมาวันแรกวันไหน ? วันนี้มีประจําเดือนเป็นวันแรกหรือไม่
ตัวอย่าง ยาคุมกําเนิด (Oral contraceptive) มีแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ - เคยกินยาคุมกําเนิดมาก่อนหรือไหม / ยีห่ ้ออะไร / มีอาการข้างเคียงอย่างไรบ้าง - อายุเท่าไหร่คะ / สูบบุหรี่ไหมคะ - มีโรคประจําตัวไหม / ปัจจุบันทานยาอะไรอยู่หรือเปล่า - แพ้ยาอะไรไหมคะ - ไม่ทราบว่าเดือนนี้ประจําเดือนมาหรือยังคะ ไม่ทราบว่ามาวันไหน - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา (แบบ 21 เม็ด) - ยาคุมกําเนิดชนิด 21 เม็ด จะประกอบด้วย ฮอร์โมนเพศทั้ง 21 เม็ด ไม่มีเม็ดแป้ง ถ้ากินครบแผงแล้ว ให้หยุดยา 7 วัน แล้วจึงเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ เพราะรอบเดือนมี 28 วัน - เริ่มรับประทานยาเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจําเดือน และไม่เกินวันที่ 10 ของการมีประจําเดือน - โดยกินยาเม็ดแรกที่จุดเริ่มต้นของลูกศร ให้กินวันละ 1 เม็ด โดยให้กนิ ยาใน เวลาเดียวกันเสมอ โดย ส่วนใหญ่เพื่อลดผลข้างเคียงจากยา เช่น คลืน่ ไส้อาเจียน จะให้รับประทานยา ก่อนนอน ทุกคืน
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
53
เทคนิค OSPE
- สําหรับแผงแรก ในช่วงที่หยุดยา 7 วัน ประจําเดือนจะมา แต่จะมากีว่ ันไม่ต้องสนใจ ถึงแม้ว่า ประจําเดือนจะมาอยู่หรือหมดแล้วก็ตามพอครบ 7 วัน ก็ให้เริ่มยาแผงใหม่ได้เลย หากรับประทานอย่างสม่ําเสมอ ไปแล้ว 2 แผง แล้วประจําเดือนยังไม่มาให้ไปพบแพทย์เพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ในระยะ 15 วัน ของการรับประทานยาคุมกําเนิดแผงแรก ต้องคุมกําเนิดโดยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ให้สามี สวมถุงยางอนามัย หรืองดการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากประสิทธิภาพของการคุมกําเนิดยังไม่เพียงพอใน 15 วันแรก แต่ถ้าแผงต่อไปจะปลอดภัยทุกวัน - ในการรับประทานยาแผงแรกๆ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่ต้องตกใจ โดยอาการดังกล่าวนี้จะ ค่อย ๆ ลดลงเมื่อรับประทานยาคุมกําเนิดไปแล้ว 2-3 แผง แต่ถ้าอาการดังกล่าวไม่ลดลง ควรไปพบแพทย์เพื่อ ปรับระดับฮอร์โมนของยาเม็ดคุมกําเนิด - การลืมกินยา ถ้าลืมกินยา 1 เม็ด ภายใน 12 ชั่วโมง ให้กินทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าลืมหลังจาก 12 ชั่วโมงไป แล้วให้กิน 2 เม็ดในคืนนั้น (ถ้าลืมกินยาเกิน 12 ชั่วโมงประสิทธิภาพของยาจะลดลง ดังนั้นจึงควรใช้การคุมกําเนิด โดยวิธีอื่นร่วมด้วย แต่ยังคงกินยาจนหมดแผงเพื่อให้ประจําเดือนมาปกติ) หากลืมกินยา 2 เม็ดในช่วง 2 week แรก ให้กิน 2 เม็ด 2 คืนติดต่อกัน จากนั้นให้กินตามปกติ แนะนําให้ใช้ condom เป็นเวลา 1 week และถ้าลืม 2 เม็ดในช่วง week ที่ 3 หรือถ้าลืมมากกว่า 2 เม็ด ในช่วงใดก็ตาม ให้หยุดยาแผงนั้น แล้วรอจนกว่าประจําเดือน จะมาแล้วเริ่มกินแผงใหม่ในวันแรกที่ประจําเดือนมา และในระหว่างที่หยุดกินยาควรให้สามีสวมถุงยางอนามัยเมื่อ มีเพศสัมพันธ์ วิธีการใช้ยา (แบบ 28 เม็ด) - ยาคุมกําเนิดชนิด 28 เม็ด จะประกอบด้วย ฮอร์โมนเพศ 21 เม็ด ส่วนที่เหลือจะเป็นเม็ดแป้งอีก 7 เม็ด เพื่อให้สามารถกินยาได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลกับการนับวัน ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดสําหรับคนที่เพิ่งเริ่มกินยาคุม แผงแรก - เริ่มรับประทานยาเม็ดแรกในวันแรกของการมีประจําเดือน - โดยกินยาเม็ดแรกที่จุดเริ่มต้นของลูกศร ให้กินคืน 1 เม็ด ก่อนนอน ทุกคืน โดยให้กินยาในวันเวลา เดียวกัน - สําหรับแผงแรก ในช่วงที่กินเม็ดแป้ง ประจําเดือนจะมาแต่จะมากี่วันไม่ต้องสนใจ ถึงแม้ว่า ประจําเดือนจะมาอยู่หรือหมดแล้วก็ตามพอครบ 7 วัน ก็ให้เริ่มยาแผงใหม่ได้เลย หากรับประทานอย่างสม่ําเสมอ ไปแล้ว 2 แผง แล้วประจําเดือนยังไม่มาให้ไปพบแพทย์เพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ในระยะ 15 วัน ของการรับประทานยาคุมกําเนิดแผงแรก ต้องคุมกําเนิดโดยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ให้ สามีสวมถุงยางอนามัย เนื่องจากประสิทธิภาพของการคุมกําเนิดยังไม่เพียงพอใน 15 วันแรก แต่ถ้าแผงต่อไปจะ ปลอดภัยทุกวัน - ในการรับประทานยาแผงแรกๆ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่ต้องตกใจ โดยอาการดังกล่าวนี้จะ ค่อย ๆ ลดลงเมื่อรับประทานยาคุมกําเนิดไปแล้ว 2-3 แผง แต่ถ้าอาการดังกล่าวไม่ลดลง ควรไปพบแพทย์เพื่อ ปรับระดับฮอร์โมนของยาเม็ดคุมกําเนิด - การลืมกินยา ถ้าลืมกินยา 1 เม็ด ภายใน 12 ชั่วโมง ให้กินทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าลืมหลังจาก 12 ชั่วโมงไป แล้วให้กิน 2 เม็ดในคืนนั้น (ถ้าลืมกินยาเกิน 12 ชั่วโมงประสิทธิภาพของยาจะลดลง ดังนั้นจึงควรใช้การคุมกําเนิด โดยวิธีอื่นร่วมด้วย แต่ยังคงกินยาจนหมดแผงเพื่อให้ประจําเดือนมาปกติ) หากลืมกินยา 2 เม็ดในช่วง 2 week แรก ให้กิน 2 เม็ด 2 คืนติดต่อกัน จากนั้นให้กินตามปกติ แนะนําให้ใช้ condom เป็นเวลา 1 week และถ้าลืม Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
54
เทคนิค OSPE
2 เม็ดในช่วง week ที่ 3 หรือถ้าลืมมากกว่า 2 เม็ด ในช่วงใดก็ตาม ให้หยุดยาแผงนั้น แล้วรอจนกว่าประจําเดือน จะมาแล้วเริ่มกินแผงใหม่ในวันแรกที่ประจําเดือนมา และในระหว่างที่หยุดกินยาควรให้สามีสวมถุงยางอนามัยเมื่อ มีเพศสัมพันธ์
ยาคุมฉุกเฉิน เช่น Postinor®, Mardona® - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ - มีโรคประจําตัวไหม / ปัจจุบันทานยาอะไรอยู่หรือเปล่า - แพ้ยาอะไรไหมคะ - เคยใช้ไหมคะ (ยาคุมฉุกเฉินประกอบด้วย levonorgestrel 0.75 mg โดยจะไปทําให้เยื่อบุมดลูกไม่ เหมาะสมในการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว) - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ให้รับประทานยาเม็ดแรกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายใน 72 ชั่วโมง แต่ถ้ารับประทานทันทีหลังจากมี เพศสัมพันธ์ก็จะได้ผลดีที่สุด - หลังจากที่รบั ประทานเม็ดแรก อีก 12 ชัว่ โมงก็ให้รับประทานยาเม็ดที่สอง คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ก่อนใช้ยานี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร - ในการรับประทานยาอาจทําให้เกิดเลือดออกผิดปกติ ประจําเดือนขาด คลื่นไส้อาเจียน - ใน 1 เดือน ห้ามกินเกิน 2 กล่อง หรือ 4 เม็ด - ควรใช้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการที่ถุงยางอนามัยขาดหรือถูกข่มขืน ไม่ควรใช้ยานี้ในการป้องกันเป็น ประจํา หากใช้ซ้ําเป็นประจําอาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้ เช่น เกิดมะเร็งปากมดลูก, เกิดการท้องนอกมดลูก - ไม่แนะนําให้ใช้ในกรณีที่สามี-ภรรยา อยู่ด้วยกันสม่ําเสมอ - ยานี้ใช้ทําแท้งไม่ได้ผล และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ - หากมีประจําเดือนขาดให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจสอบการตั้งครรภ์
ยาเลื่อนประจําเดือน เช่น Primolut-N - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ - ประจําเดือนมาสม่ําเสมอไหม - เดือนนี้ประจําเดือนมาหรือยังคะ ไม่ทราบว่ามาวันไหน มากี่วัน - ไม่ทราบว่าน้ําหนักเท่าไหร่คะ - มีโรคประจําตัวไหม - แพ้ยาอะไรไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ถ้าผู้ป่วยมีน้ําหนักมากกว่า 60 kg ให้รับประทาน1*3 pc แต่ถ้าผู้ป่วยมีน้ําหนักน้อยกว่า 60 kg ให้รับประทาน 1*2 pc Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
55
เทคนิค OSPE
- ให้รับประทานยานี้ก่อนประจําเดือนมา 2-3 วันไม่ควรรับประทานเกิน 10-14 วัน เมื่อหยุดยา 2-3 วัน ประจําเดือนก็จะมา คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ถ้าต้องการเลื่อนประจําเดือนมากกว่า 14 วันให้ใช้ยาคุมกําเนิดชนิด 21 หรือ 28 เม็ด - บางทีอาจารย์ถามต้องจ่ายกี่เม็ด ,(มีเครื่องคิดเลขวางไว้ตรงหน้าเลยนะ) * หรืออาจกิน combined pill 1*1 ก่อนนอน ก่อนประจําเดือนมา 7 วัน ถ้าใกล้วนั ที่ประจําเดือนมามาก ๆ ให้ทาน 2*2 pc แต่ส่วนใหญ่ทนอาการข้างเคียงไม่ได้จึงเปลี่ยนมาใช้ Primolute-N แทน *
10. การใช้ยาฉีด Insulin ยาฉีดอินซูลิน ข้อแนะนําวิธกี ารใช้ 1. ล้างมือด้วยสบู่และน้ําให้สะอาด เช็ดมือให้แห้ง 2. คลึงขวดยาอินซูลินเบา ๆ บนฝ่ามือทั้งสองข้างเพื่อให้ตัวยาผสมเข้ากัน และมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับ ร่างกายจะช่วยลดอาการปวดหลังจากการฉีดยา 3. เปิดฝาครอบจุกยางออก (ถ้ามี) เช็ดจุกยางด้วยสําลีชุบแอลกอฮอล์ 4. นํากระบอกฉีดยา (syringe) ที่สะอาดออกมาจากภาชนะบรรจุ ดูดอากาศเข้ามาในกระบอกฉีดยาให้มี ปริมาตรเท่ากับขนาดอินซูลินที่ต้องการ 5. แทงเข็มฉีดยาให้ทะลุจุกยางของขวดยาแล้วลงไปในขวดยาแล้วฉีดอากาศเข้าไปในขวดยา 6. คว่ําขวดยาที่มีเข็มปักค้างอยู่ลง ค่อย ๆ ดูดอินซูลินเข้าไปในหลอดฉีดยาในขนาดเท่าที่ต้องการ 7. ตรวจดูว่ามีฟองอากาศหรือไม่ ถ้ามีให้ฉีดยากลับเข้าไปในขวดใหม่ แล้วดูดยากลับเข้ามาอีกครั้งจนได้ ขนาดที่ต้องการ 8. ทําความสะอาดผิวหนังบริเวณที่ฉีดด้วยสําลีชุบแอลกอฮอล์ 9. ใช้มือข้างหนึ่งดึงผิวหนังบริเวณที่จะฉีดยาให้สูงขึ้น มือข้างที่เหลือจับกระบอกฉีดยาคล้ายกับการจับ ปากกาแล้วแทงเข็มผ่านผิวหนังอย่างรวดเร็ว โดยวางปลายเข็มเอียงทํามุม 45-90 องศากับผิวหนังบริเวณนั้น แล้ว ค่อย ๆ ฉีดอินซูลินช้า ๆ โดยกดก้านสูบของกระบอกฉีดยาจนสุด 10. ถอนเข็มออกอย่างรวดเร็ว และกดบริเวณที่ฉีดด้วยสําลีชุบแอลกอฮอล์ 11. เมื่อฉีดเสร็จ และต้องการเก็บเข็มไว้ฉีดซ้ํา ให้หลีกเลี่ยงการเช็ดทําความสะอาดเข็มด้วยแอลกอฮอล์ เนื่องจากทําให้ลดความคมของเข็ม ในการทิง้ ให้ทิ้งกระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาอย่างเหมาะสม คําแนะนําเพิ่มเติม - ตําแหน่งที่เหมาะสมในการฉีดอินซูลิน คือ หน้าท้อง หน้าขา บั้นเอว หน้าแขน - ไม่ควรฉีดยาในตําแหน่งเดิมบ่อย ๆ ควรเลือ่ นตําแหน่งฉีดยาให้ห่างจากตําแหน่งหลังสุดประมาณ 1 นิ้ว - ไม่ควรคลึงหรือนวดบริเวณที่ฉีดยาหลังฉีดยาเสร็จแล้ว - ถ้าต้องการผสมระหว่างยาฉีดชนิดน้ําขุ่นและน้ําใส ให้ดูดยาชนิดน้ําใสก่อนแล้วจึงดูดชนิดน้ําขุ่น
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
56
เทคนิค OSPE
ตัวอย่าง ยาฉีดอินซูลนิ - ก่อนอื่นต้องแนะนําตัวก่อน (สวัสดีค่ะ ดิฉันเภสัชกร.....) แต่ในกรณีทมี่ ีชื่อผู้ป่วยก็ให้ถามชื่อผู้ป่วยก่อน เช่น สวัสดีค่ะใช่คุณสมชาย ใจดี ไหมคะ แล้วก็แนะนําตัวเองว่าดิฉันเภสัชกร...นะคะ - ไม่ทราบว่าใช้เองหรือเปล่าคะ (ถ้าผู้ป่วยเป็นคนรับยาเองก็ให้ข้ามไปเลย) - บอกชื่อยา /ข้อบ่งใช้ / วิธีใช้ (ตามใบสั่งแพทย์) - เคยใช้ไหมคะ - แนะนําวิธีการใช้ยา วิธีการใช้ยา - ล้างมือด้วยสบู่และน้ําให้สะอาด เช็ดมือให้แห้ง - คลึงขวดยาอินซูลินเบา ๆ บนฝ่ามือทั้งสองข้าง เพื่อให้ตัวยาผสมเข้ากัน ห้ามเขย่าขวดยาอินซูลิน - เปิดฝาครอบจุกยางออก (ถ้ามี) เช็ดจุกยางด้วยสําลีชุบแอลกอฮอล์ - นําหลอดฉีดยาที่สะอาดออกมาจากภาชนะบรรจุ ดูดอากาศเข้ามาในหลอดฉีดยาให้มปี ริมาตรเท่ากับ ขนาดอินซูลินที่ต้องการ - แทงเข็มฉีดยาให้ทะลุจุกยางของขวดยาแล้วฉีดอากาศเข้าไปในขวดยา - คว่ําขวดยาที่เข็มปักค้างอยู่ลง ค่อย ๆ ดูดอินซูลินเข้าไปในหลอดฉีดยาในขนาดเท่าที่ต้องการ - ตรวจดูว่ามีฟองอากาศหรือไม่ ถ้ามีให้ฉีดกลับเข้าไปในขวดใหม่ แล้วดูดยากลับเข้ามาในขวดอีกครั้งจน ได้ขนาดเท่าที่ต้องการ ข้อแนะนําการเตรียมยาฉีดอิซูลินแบบผสม - ใช้สําลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดจุกยางขวดยาอินซูลินทั้งสองขวด - ดูดอากาศเข้ามาในกระบอกฉีดยาให้มีปริมาตรเท่ากับขนาดอินซูลินชนิดน้ําขุ่น (ออกฤทธิ์สั้น) ที่ตอ้ งการ แล้วแทงเข็มฉีดยา เพื่อฉีดอากาศเข้าไปในขวด อย่าเพิ่งดูดยา - ดูดอากาศเข้ามาในกระบอกฉีดยาให้มีปริมาตรเท่ากับขนาดชนิดน้ําใส (ออกฤทธิ์ยาว) ที่ต้องการแล้ว แทงเข็มฉีดยา เพื่อฉีดอากาศเข้าไปในขวด - คว่ําขวดยาที่เข็มปักค้างอยู่ลง ค่อย ๆ ดูดอินซูลินน้ําใสเข้าไปในหลอดฉีดยาในขนาดเท่าที่ต้องการ - กลับมาดูดอินซูลินน้ําขุ่นเท่าที่ต้องการ ข้อแนะนําในการฉีดยาอินซูลินเข้าใต้ผิวหนัง - ทําความสะอาดบริเวณที่ฉีดด้วยสําลีที่ชุบแอลกอฮอล์ - ใช้มือข้างหนึง่ ดึงบริเวณที่ฉีดยาให้สูงขึ้นเป็นลํา มือข้างที่เหลือจับกระบอกฉีดยาคล้ายกับการจับปากกา แล้วแทงเข็มผ่านผิวหนังอย่างรวดเร็ว โดยวางเข็มเอียงทํามุม 45-90 องศากับผิวหนังบริเวณนั้น (ในผู้ป่วยที่ผอม แนะนําให้วางเข็ม ทํามุม 45 องศากับผิวหนัง ส่วนในผูป้ ่วยที่อว้ นแนะนําให้วางเข็ม ทํามุม 90 องศากับ ผิวหนัง ) - ค่อย ๆ ฉีดอินซูลินช้า ๆ โดยกดก้านสูบของหลอดฉีดยาจนสุด - ถอนเข็มออก และกดบริเวณนั้นด้วยสําลีที่ชุบแอลกอฮอล์ชั่วขณะ คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ไม่ควรฉีดยาในตําแหน่งเดิมบ่อย ๆ เพราะจะเกิดเป็นไตแข็งบริเวณที่ฉดี ควรเลื่อนตําแหน่งฉีดยาให้ห่าง จากตําแหน่งหลังสุดประมาณ 1 นิ้ว Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
57
เทคนิค OSPE
- เมื่อฉีดเสร็จทิ้งกระบอกฉีดยาอินซูลินและเข็มฉีดยาอย่างเหมาะสมหรือเก็บไว้ใช้อีก 2-3 วัน โดยสวม ปลอกแล้วนําไปเก็บไว้ในตู้เย็น และนํามาใช้ได้อีกโดยไม่ต้องล้างทําความสะอาดหลอดฉีดยาหรือใช้แอลกอฮอล์เช็ด ทําความสะอาดเข็มฉีดยา - ตําแหน่งที่เหมาะสมทีส่ ุดในการฉีดอินซูลนิ คือ หน้าท้อง (เพราะมีการดูดซึมที่สม่ําเสมอ โดยเฉพาะตอน ออกกําลังกายให้ฉีดบริเวณหน้าท้อง ) รองลงมา คือ หน้าขา บั้นเอว และต้นแขน - บอกว่าถ้าเกิดอาการ เช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ใจสั่น เหงื่อออกมาก แสดงว่ามีระดับของน้ําตาลใน เลือดต่ํา เพราะฉะนั้นควรมีการพกลูกอมติดตัวไว้ตลอดเวลา
11. การใช้แผ่นแปะและหมากฝรั่งนิโคติน แผ่นแปะผิวหนังนิโคติน - สูบบุหรี่มานานเท่าใดแล้ว - ปกติสูบบุหรี่วันละกี่มวน สูบบุหรี่มวนแรกหลังจากตื่นนอนกี่โมง วิธีการใช้ยา - หยุดบุหรีท่ นั ทีเมื่อใช้แผ่นแปะผิวหนังนิโคติน - ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง - ลอกแผ่นใสที่คลุมส่วนเหนียวที่มีตัวยาออก - ปิดแผ่นยาทุกวันเวลาเดียวกันอย่างสม่ําเสมอบนผิวหนังที่ไม่มีขนตั้งแต่คอถึงสะโพก ซึ่งได้ทํา ความสะอาดด้วยน้ํา และผิวหนังไม่เปียกน้ําแล้ว เช่น บริเวณต้นแขน - เวลาปิดแผ่นยาให้กดแผ่นยาไว้ประมาณ 10 วินาที เพือ่ ให้แผ่นยาติดแน่น - ล้างมือให้สะอาดเพื่อกําจัดนิโคตินที่ติดเล็บและมือ คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ในระหว่างที่เคี้ยวหมากฝรั่ง ให้งดสูบบุหรี่ ชาและกาแฟ
หมากฝรั่งเคี้ยวนิโคติน - สูบบุหรี่มานานเท่าใดแล้ว - ปกติสูบบุหรี่วันละกี่มวน สูบบุหรี่มวนแรกหลังจากตื่นนอนกี่โมง วิธีการใช้ยา - หยุดสูบบุหรีท่ ันทีเมื่อใช้เหมากฝรั่งเคี้ยว - เคี้ยวหมากฝรั่งอย่างช้า ๆ จนเริ่มได้รสเผ็ดซ่า แล้วหยุดเคี้ยว - อมหมากฝรัง่ ไว้ระหว่างกระพุ้งแก้มกับเหงือก เพื่อรอการดูดซึม รอจนรสเผ็ดซ่าหายไป จึง เริ่มเคี้ยวใหม่อกี ครั้ง ควรเคีย้ วช้า ๆ สลับกับการหยุดเคี้ยวแล้วอมไว้ ทําอย่างนี้ประมาณ 30นาที - ควรเปลี่ยนบริเวณที่อมเพื่อลดการระคายเคืองเยื่อบุช่องปาก - ควรใช้หมากฝรั่งเคี้ยวตามกําหนดเวลา ไม่ควรใช้เมื่อต้องการ - หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่เป็นกรด เช่น โคคาโคลา น้ําส้มคั้น กาแฟ ก่อน หรือระหว่าง หรือหลังจากใช้หมากฝรั่งเคี้ยวเป็นเวลา 15 นาที Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
58
- เคี้ยวหมากฝรั่ง ขนาด 2 mg ไม่เกินวันละ 30 ชิ้นต่อวัน หรือขนาด 4 mg ไม่เกิน 15 ชิ้นต่อ วัน และใช้หมากฝรั่งเคี้ยวไม่เกิน 12 สัปดาห์ (3 เดือน) - เมื่อใช้เสร็จแล้วก่อนทิ้งให้ห่อกระดาษให้มิดชิดเพื่อป้องกันเด็กหรือสัตว์เลี้ยงนําไปใช้อีก คําแนะนําในการใช้ยา/ การปฏิบัติตน - ในระหว่างที่เคี้ยวหมากฝรั่ง ให้งดสูบบุหรี่ ชาและกาแฟ
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง การใช้ยาที่มีดัชนีการรักษาแคบ
คําแนะนําสําหรับยาที่ต้องระมัดระวังในการใช้ ในช่วงต้นเน้นยาที่มีดัชนีในการรักษาแคบ (narrow therapeutic drugs) เช่น warfarin, phenytoin, theophylline, digoxin เป็นต้น และยาที่มีโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยาสูงและอันตราย เช่น ยา ต้านมะเร็ง ยาต้านวัณโรค เป็นต้น
ตัวอย่างการให้คําแนะนําการใช้ยาที่มดี ัชนีในการรักษาแคบ Digoxin - ชื่อยาและข้อบ่งใช้ ยาเม็ด digoxin ใช้ในการรักษาภาวะ…หัวใจล้มเหลว/หัวใจวาย หรือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ… (ข้อบ่งใช้ ขึ้นกับโรคที่ ผู้ป่วยเป็น) - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา digoxin ขนาด…… ไมโครกรัม ครั้งละ …… เม็ด วันละ …… ครั้ง (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย์) ใช้ยานี้อย่างเคร่งครัด ไม่ควรเพิ่มขนาดยาหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไม่มีคําสั่งจากแพทย์ และควรกินยา ในเวลาเดียวกัน หากลืมกินยา (ไม่เกิน 12 ชั่วโมงจากกําหนด) ให้กินยาทันทีที่นึกได้ ถ้าลืมกินยาเกิน 12 ชั่วโมงให้ข้ามยา มื้อนั้นไปและเริ่มกินมื้อถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา และหากผู้ป่วยลืมกินมากกว่า 2 ครั้งขึน้ ไป ควรแจ้ง แพทย์ทราบ เก็บยาในภาชนะปิดสนิท ทีอ่ ุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นมือเด็ก - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา หากเกิดอาการผิดปกติต่อไปนี้ ได้แก่ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ การมองเห็นเปลี่ยนไป เช่น เห็นแสงวูบวาบ ภาพพร่ามัว การมองเห็นสีเปลี่ยนไป (เห็นเป็นเหลืองหรือเขียว) หรือเห็นแสงมีรัศมีรอบวัตถุ สับสน เมื่อยล้า และกล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นช้าลง หน้ามืด เป็นลม ให้รีบพบแพทย์ทันที ไม่ควรกินยานี้พร้อมกับยาลดกรด หากใช้ยาลดกรดร่วมด้วยให้กินยาลดกรดหลังกินยา digoxin แล้ว อย่างน้อย 2 ชั่วโมง แจ้งแพทย์ ทันตแพทย์ หรือเภสัชกรทราบทุกครั้งที่ไปขอรับบริการว่ากําลังกินยา digoxin Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
59
เทคนิค OSPE
Phenytoin - ชื่อยาและข้อบ่งใช้ ยาเม็ด phenytoin ใช้ในการรักษา....ต้านการชัก หรือ ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ หรือ ปวดเส้นประสาท บริเวณใบหน้า.....(ข้อบ่งใช้ ขึ้นกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น) - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา phenytoin ขนาด…… มิลลิกรัม ครั้งละ …… เม็ด วันละ …… ครั้ง (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของ แพทย์) ใช้ยานี้อย่างเคร่งครัด ไม่ควรเพิ่มขนาดยาหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไม่มีคําสั่งจากแพทย์ การ หยุดยาทันทีทนั ใดสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดการชักได้ หากลืมกินยา ให้กินยาทันทีที่นึกได้ แต่หากนึกได้เมื่อต้องกินมื้อถัดไป ให้ข้ามยามื้อนัน้ ไปและเริ่มกินมื้อ ถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาด รูปแบบยาเม็ดแคปซูลที่ควบคุมการปลดปล่อยตัวยา ห้ามบดหรือเคี้ยวหรือเปิดแคปซูล เก็บรักษายาในภาชนะปิดสนิทป้องกันแสง ที่อุณหภูมิห้อง และเก็บให้พน้ มือเด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ ยา Phenytoin อาจทําให้เกิดอาการวิงเวียน การมองเห็นพร่ามัวหรือเห็นภาพซ้อน และง่วงซึม ควร แนะนําให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือการทํางานใกล้เครื่องจักร ผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น สับสน นอนไม่หลับ กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวรุนแรง ให้กลับไปพบแพทย์ อาการพิษจากยา Phenytoin ได้แก่ มึนงง เดินเซ - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา หากเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปวดท้อง สูญเสียการรับรสและความอยากอาหาร น้ําหนักลด กลืนยาก ให้กนิ ยาพร้อมอาหารหรือดื่มน้ําตามมาก ๆ แต่ถ้ายังคงมีอาการอยู่อีก ให้กลับไปพบแพทย์ หากเกิดอาการเหงือกบวมแดง มีเลือดออก ควรจะไปพบทันตแพทย์ แต่หากอาการดังกล่าวมีความรุนแรง ให้รีบพบแพทย์ทันที การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือ กินยานอนหลับหรือยาแก้แพ้ จะเพิม่ อาการง่วงซึมจาก ยา phenytoin จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง หากขณะใช้ยา phenytoin ผู้ป่วยยังมีอาการชัก ให้ปรึกษาแพทย์ แจ้งแก่แพทย์ และเภสัชกรเกี่ยวกับยา ที่ใช้อยู่ทั้งที่แพทย์สั่งจ่ายหรือยาที่ซื้อใช้เอง เพื่อที่จะหลีกเลีย่ งการสั่งจ่ายยา ที่มีผลรบกวนผลของยา phenytoin
Theophylline - ชื่อยาและข้อบ่งใช้: ยา Theophylline (ธี-ออฟ-ฟิ-ลิน) ใช้ในการรักษา… โรคหืด หลอดลมอักเสบเรื้อรัง และถุงลมโป่ง พอง… (ข้อบ่งใช้ ขึ้นกับโรคทีผ่ ู้ป่วยเป็น) - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา Theophylline ขนาด…… มิลลิกรัม ครั้งละ …… วันละ …… ครั้ง (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย์) ใช้ยานี้อย่างเคร่งครัด ไม่ควรเคี้ยวหรือบดยาเม็ดที่ออกฤทธิ์เนิ่น ควรกลืนยาทั้งเม็ด Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
60
เทคนิค OSPE
หากลืมกินยาให้กินยาทันทีทนี่ ึกได้ และกินยาในครั้งถัดไปของวันนั้นในช่วงระยะเวลาที่ห่างกันเหมาะสม ห้ามเพิ่มยาเป็น 2 เท่า ถ้าเริม่ มีอาการหายใจหอบถี่ (shortness of breath) อย่างรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ เก็บยาในภาชนะปิดสนิท ทีอ่ ุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นมือเด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ การกินยา theophylline อาจทําให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เป็นตะคริวที่ทอ้ ง เบื่ออาหาร ควรกินหลังอาหารทันทีหรือกินพร้อมกับยาลดกรดหรือดื่มน้ํามาก ๆ ถ้าหากอาการข้างเคียงเหล่านี้ยังคงอยู่ ควร ปรึกษาแพทย์ ถ้าเกิดผื่นผิดปกติที่ผิวหนัง (ปฏิกิริยาแพ้ยา) ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา หากเกิดอาการนอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น หายใจเร็ว พฤติกรรมผิดปกติไป มีไข้ต่ํา ๆ เหงื่อออก กระหายน้ํามาก มีเสียงกริ่งในหู กล้ามเนื้อชักกระตุก อาเจียนบ่อยหรืออาเจียนมีเลือดปน ชัก ควรรีบปรึกษาแพทย์ ทันที แจ้งแพทย์ หรือเภสัชกรทราบทุกครั้งเกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ทั้งที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ซื้อใช้เอง เพราะยา theophylline อาจเกิดการปฏิกิริยากับยาอื่นได้
Warfarin - ชื่อยาและข้อบ่งใช้: ยา warfarin ใช้เพื่อต้านการแข็งตัวของเลือด ป้องกันอันตรายที่เกิดจากการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน.… (ข้อ บ่งใช้ ขึ้นกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น) - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา warfarin ขนาด…… มิลลิกรัม ครั้งละ …… เม็ด วันละ …… ครั้ง (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย์) ใช้ยานี้อย่างเคร่งครัด หากลืมกินยาให้กินยาทันทีทนี่ ึกได้ ถ้าเกิน 12 ชั่วโมงให้ขา้ มยามื้อนั้นไปและเริ่มกินมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา และหากผู้ป่วยลืมกินมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ควรแจ้งแพทย์ทราบ ควรบันทึกวันที่ที่ลืม กินยาและแจ้งแก่แพทย์ในการนัดครั้งต่อไปเพราะการลืมกินยาอาจทําให้ผลทดสอบการแข็งตัวของเลือด เปลี่ยนแปลงไปได้ เก็บยาในภาชนะปิดสนิท ทีอ่ ุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นมือเด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ หากเกิดอาการเลือดออกผิดปกติ เช่น จ้ําเลือดใต้ผิวหนัง เลือดออกที่ตาขาว เลือดกําเดาไหลมากและ นานผิดปกติ เสลดเป็นก้อนเลือด เลือดออกมากผิดปกติในช่องปาก อาเจียนหรือน้ําลายมีเลือดปนหรือมีสีน้ําตาล อุจจาระมีสีแดงสดหรือมีสีดําเหมือนน้ํามันดิน ปัสสาวะมีเลือดปนหรือมีสีแดงหรือสีน้ําตาลเข้ม ประจําเดือนมา มากกว่าปกติ มีอาการปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง ควรมาพบแพทย์เมื่อเริ่มเกิดอาการ - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มคี วามเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้สูง ควรพกบัตรที่แสดงว่ากําลังได้รับยา warfarin เพื่อที่จะได้รับการดูแลรักษาได้ถูกต้องเมื่อได้รับอุบัติเหตุ
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
61
เทคนิค OSPE
ไม่ควรเปลี่ยนแปลงปริมาณอาหารพวกตับ และผักใบเขียวต่าง ๆ ต่อมื้อ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มี วิตามินเคในปริมาณมากอาจส่งผลต่อผลการรักษาด้วยยา warfarin แจ้งแพทย์ ทันตแพทย์ หรือเภสัชกรทราบทุกครั้งที่ไปขอรับบริการว่ากําลังกินยา warfarin แจ้งแก่แพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ทั้งที่แพทย์สั่งจ่ายหรือยาที่ซื้อใช้เอง เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการสั่ง จ่ายยาที่มีผลรบกวนผลของยา warfarin หญิงตั้งครรภ์ วางแผนที่จะตั้งครรภ์หรือกําลังให้นมบุตรควรแจ้งแก่แพทย์ก่อนสั่งจ่ายยา warfarin ถ้าเกิด ตั้งครรภ์ขึ้นขณะใช้ยา warfarin อยู่ควรแจ้งแก่แพทย์ทนั ที ก่อนใช้อาหารเสริม สมุนไพร และวิตามินเสริม ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง
ตัวอย่างการให้คําแนะนําการใช้ยาที่มคี วามเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยา ยาเม็ด Methotrexate - ชื่อยาและข้อบ่งใช้: ยาเม็ด methotrexate ใช้ในการรักษาโรค…มะเร็งชนิดต่าง ๆ หรือเพื่อกดภูมิคุ้มกันในการรักษาโรคข้อ อักเสบรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน… (ข้อบ่งใช้ ขึ้นกับโรคทีผ่ ู้ป่วยเป็น) - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา Methotrexate ครั้งละ …… เม็ด วัน/สัปดาห์ละ …… ครั้ง (ปริมาณ และความถีต่ ามที่ ระบุในใบสั่ง ยาของแพทย์) ใช้ยานี้อย่างเคร่งครัด ไม่ควรเพิ่มขนาดยาหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไม่มีคําสั่งจากแพทย์ และควรกินยาในเวลาเดียวกัน หากกินยาสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็ควรกินยาในวันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์ หากลืมกินยา (ไม่เกิน 12 ชั่วโมงจากกําหนด) ให้กินยาทันทีที่นึกได้ถ้าเกิน 12 ชั่วโมงให้ข้ามยามื้อนั้นไป และเริ่มกินมื้อถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา ถ้าแพทย์สั่งให้กินสัปดาห์ละ 1 ครั้งให้กินยาทันทีที่นึกได้ แล้วกินยาตามปกติในสัปดาห์ถัดไปและหากผู้ปว่ ยลืมกินมากกว่า 2 ครั้งขึน้ ไป ควรแจ้งแพทย์ทราบ เก็บยาในภาชนะปิดสนิทป้องกันแสงที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อนความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือ เด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ ยาเม็ด methotrexate อาจทําให้เกิดอาการแพ้ได้โดยมีอาการคัน ผื่นลมพิษบริเวณใบหน้าและมือ บวม บริเวณริมฝีปากหรือลําคอ แน่นหน้าอก หายใจลําบาก หากเกิดอาการเหล่านี้ควรรีบมาพบแพทย์ทันที อาการไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ทีอ่ าจพบได้ เช่น ผื่นแดง/ตุ่มน้ําที่ผิวหนัง ผิวหนังลอก ไอ มีไข้ เจ็บหน้าอก ริมฝีปากหรือนิว้ มือมีสีคล้ํา ตาหรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ปัสสาวะมีสีเข้มหรืออุจจาระมีสีซีด คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง เบื่ออาหาร ปวดท้อง เจ็บปากและลําคอ มีเลือดออกผิดปกติ แผลฟกช้ํา อ่อน แรง ผมร่วง ปวดศีรษะ มึนงง หากเกิดอาการข้างต้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบ - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา ระหว่างใช้ยาอาจเกิดแผลในปากได้ จึงควรรักษาความสะอาดของช่องปากระหว่างใช้ยา ผู้ป่วยวัยเจริญพันธ์ควรคุมกําเนิดระหว่างใช้ยานี้ ผู้ป่วยโรคตับ หรือมีปัญหาเกีย่ วกับระบบเลือด (เช่น โลหิตจาง) หรือภูมิคุ้มกัน (เช่น เอดส์ หรือติดเชื้อ HIV) ควรแจ้งแก่แพทย์ก่อนสั่งจ่ายยา methotrexate Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
62
เทคนิค OSPE
ทุกครั้งที่รับยา methotrexate ควรแจ้งแก่แพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ทั้งที่ แพทย์สั่งจ่ายและ ยาที่ซื้อใช้เอง เนื่องจากยานี้สามารถเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาได้กับยาหลายตัว ควรแจ้งแก่แพทย์เกี่ยวกับประวัติการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
ยาเม็ด Cyclophosphamide - ชื่อยาและข้อบ่งใช้: ยาเม็ด cyclophosphamide ใช้ในการรักษาโรค…มะเร็ง - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา cyclophosphamide พร้อมอาหารครั้งละ …… เม็ด วันละ …… ครั้ง (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของ แพทย์) และดื่มน้ํามาก ๆ ใช้ยานี้อย่างเคร่งครัด ไม่ควรเพิ่มขนาดยาหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไม่มี คําสั่งจากแพทย์ และควรกินยาในเวลาเดียวกัน หากลืมกินยา (ไม่เกิน 12 ชั่วโมงจากกําหนด) ให้กินยาทันทีที่นกึ ได้ ถ้าเกิน 12 ชั่วโมงให้ข้ามยามื้อนั้นไป และเริ่มกินมื้อถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา และหากผู้ป่วยลืมกินมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ควรแจ้งแพทย์ ทราบ เก็บยาในภาชนะปิดสนิทป้องกันแสงที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อนความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือ เด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ หากเกิดอาการต่อไปนี้ ได้แก่ เกิดอาการแพ้ ได้แก่ คัน ผื่นลมพิษบริเวณใบหน้าและมือ บวมหรือปวด เสียวบริเวณปากหรือลําคอ แน่นหน้าอก หายใจลําบาก ให้รีบมาพบแพทย์ทันที รวมทั้งอาการอื่น อาทิเช่น ผื่น แดง/ตุ่มน้ําที่ผิวหนัง ไอ มีไข้ สั่น เจ็บหน้าอก ริมฝีปากหรือนิ้วมือมีสีคล้ํา ตาหรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ปวดมากเมื่อถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะหรืออุจจาระมีเลือดปน ปัสสาวะมีสเี ข้มหรืออุจจาระมีสีซีด มีเลือดออก ผิดปกติ แผลฟกช้ําผิดปกติ อ่อนแรง แผลในปาก หายใจลําบาก หายใจสั้น เมื่อยล้า มึนงง บวมบริเวณเท้า หรือหัวเข่า และปัสสาวะลําบากหรือปวดและปัสสาวะมีสแี ดง ให้รีบพบแพทย์ทันที นอกจากนี้การกินยา cyclophosphamide อาจรบกวนการมีประจําเดือน คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ลดความอยากอาหาร เจ็บหรือมีฝ้าขาวที่รมิ ฝีปาก ภายในปากหรือลําคอ ผมร่วง ผิวหนังหรือเล็บมีสีเปลี่ยนไป หากเกิดอาการข้างต้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบ - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา ควรดื่มน้ําวันละประมาณ 10 แก้วและปัสสาวะบ่อย ๆเพื่อป้องกันการระคายเคืองไตและ กระเพาะ ปัสสาวะจากผลของยา ควรแจ้งแก่แพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ทั้งที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ซื้อใช้เอง เนื่องจากยา cyclophosphamide สามารถเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาได้กับยาหลายตัว แจ้งแพทย์ ทันตแพทย์ทราบทุกครั้งที่ไปขอรับบริการว่ากําลังกินยา cyclophosphamide ผู้ป่วยวัยเจริญพันธุ์ควรคุมกําเนิดระหว่างการใช้ยานี้ ผู้ป่วยโรคไต โรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบเลือดหรือไขกระดูกควรแจ้งแก่แพทย์กอ่ นสั่งจ่ายยานี้
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
63
เทคนิค OSPE
ยาต้านวัณโรค Isoniazid - ชื่อยาและข้อบ่งใช้ ยา isoniazid ใช้ในการรักษาวัณโรค - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา isoniazid ครั้งละ …… เม็ด วันละ …… ครั้ง (ตามทีร่ ะบุในใบสั่งยาของแพทย์) กินยา 1 ชั่วโมงก่อน อาหารหรืออย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังอาหาร หรือก่อนนอน (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย์) ต้องกินยาทุกวันอย่าง ต่อเนื่องถึงแม้ว่ารู้สึกว่าอาการดีขึ้นหรือไม่มอี าการก็ห้ามหยุดยาเอง โดยไม่มีคําสั่งจากแพทย์ หากลืมกินยา ให้กินยาทันทีที่นึกได้ แต่หากนึกได้เมื่อต้องกินมื้อถัดไป ให้ข้ามยามื้อนัน้ ไปและเริ่มกินมื้อ ถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา เก็บยาในภาชนะปิดสนิทป้องกันแสงที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อนความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือ เด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ ขณะใช้ยา isoniazid อาจมีอาการรู้สึกเสียวแปลบ เจ็บเหมือนถูกหนามตํา ชาบริเวณปลายมือหรือ ปลายเท้า ให้ปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะจ่ายวิตามินบี 6 เพื่อรักษาหรือป้องกันปัญหาดังกล่าว ผลข้างเคียงจากการใช้ยาพบในผู้ป่วยบางรายเท่านั้น - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา หลีกเลี่ยงการกินยานี้ร่วมกับยาลดกรด โดยให้กินยาลดกรดหลังจากกินยา Isoniazid อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะเพิ่มพิษต่อตับของยา Isoniazid หากขณะใช้ยามีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะมีสีดาํ หรือสีเหลืองอําพัน ปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย การมองเห็นผิดปกติ ปวดตา หรือมีไข้ ให้รีบปรึกษาแพทย์ หากตั้งครรภ์หรือกําลังให้นมบุตรให้แจ้งแก่แพทย์ก่อนการใช้ยา
Rifampin - ชื่อยาและข้อบ่งใช้ ยาเม็ด rifampin (ไร-แฟม-พิน) ใช้ในการรักษา…วัณโรคหรือการติดเชื้อ… (ข้อบ่งใช้ ขึ้นกับโรคที่ผู้ปว่ ย เป็น) - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา rifampin ครั้งละ …… แคปซูล วันละ …… ครั้ง (ตามที่ระบุในใบสัง่ ยาของแพทย์) กินยา 1 ชั่วโมง ก่อนอาหารหรืออย่างน้อย 2 ชั่วโมงหลังอาหาร หรือก่อนนอน (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย์) ต้องกินยาทุกวัน อย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่ารู้สึกว่าอาการดีขึ้นหรือไม่มีอาการก็ห้ามหยุดยาเอง โดยไม่มีคําสัง่ จากแพทย์ หากลืมกินยา ให้กินยาทันทีที่นึกได้ แต่หากนึกได้เมื่อต้องกินมื้อถัดไป ให้ข้ามยามื้อนัน้ ไปและเริ่มกินมื้อ ถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาด เก็บยาในภาชนะปิดสนิทป้องกันแสงที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อน ความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือ เด็ก Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
64
เทคนิค OSPE
- ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ หากเกิดลมพิษ เป็นแผลทีผ่ ิวหนังหรือในปาก มีไข้ ดีซ่าน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ขณะใช้ยา rifampin ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที การกินยา rifampin อาจทําให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดแสบที่ลิ้นปี่ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นตะคริวที่ท้อง และท้องร่วงได้ หากมีอาการดังกล่าวรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ ส่วนปัญหาในทางเดินอาหาร อาจบรรเทาได้ด้วยการกินยาพร้อมอาหาร - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา ระหว่างกินยา rifampin อาจทําให้ปัสสาวะ อุจจาระ น้ําลาย เสมหะ เหงื่อ และน้ําตาเป็นสีส้มแดง รวมถึงคอนแทคเลนส์จะเปลีย่ นเป็นสีส้มแดงอย่างถาวรด้วย จึงควรเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์ขณะใช้ยานี้ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะเพิ่มพิษต่อตับของยานี้ ยา rifampin เกิดปฏิกิริยากับยาหลายตัว เพราะฉะนั้นต้องบอกให้แพทย์ทราบว่ากําลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง เพื่อจะได้ปรับขนาดหรือให้หยุดยาอื่นก่อน ขณะที่ใช้ยา rifampin ยา rifampin จะลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกําเนิด จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเลี่ยงไปใช้ การคุมกําเนิดวิธีอื่น เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ระหว่างใช้ยา rifampin หากตัง้ ครรภ์หรือกําลังให้นมบุตรให้แจ้งแก่แพทย์ก่อนการใช้ยา
Pyrazinamide - ชื่อยาและข้อบ่งใช้ ยาเม็ด pyrazinamide ใช้ในการรักษาวัณโรค - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา pyrazinamide ครั้งละ …… เม็ด วันละ …… ครัง้ (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย์) อาจกินยา ร่วมกับอาหารหรือนมหรือไม่ก็ได้ ต้องกินยาทุกวันอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่ารู้สึกว่าอาการดีขึ้น หรือไม่มอี าการก็ห้าม หยุดยาเอง โดยไม่มีคําสั่งจากแพทย์ หากลืมกินยา ให้กินยาทันทีที่นึกได้ แต่หากนึกได้เมื่อต้องกินมื้อถัดไป ให้ข้ามยามื้อนัน้ ไปและเริ่มกินมื้อ ถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาด เก็บยาในภาชนะปิดสนิทป้องกันแสงที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อนความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือ เด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ การกินยา pyrazinamide อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร รู้สึกไม่สบายตัว ปวด กล้ามเนื้อ - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา หากขณะใช้ยามีอาการปวดหรือบวมที่ข้อ มีผื่นที่ผิวหนัง ตัวเหลือง ตาเหลือง มีไข้ หรือหนาวสั่น ปัสสาวะเป็นสีดํา ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที หากตั้งครรภ์หรือกําลังให้นมบุตรให้แจ้งแก่แพทย์ก่อนการใช้ยา ผู้ป่วยโรคตับ เกาต์ เบาหวาน หรือไตวาย ควรแจ้งแก่แพทย์ก่อนมีการสัง่ จ่ายยา pyrazinamide
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
65
เทคนิค OSPE
Ethambutol - ชื่อยาและข้อบ่งใช้: ยาเม็ด ethambutol ใช้ในการรักษาวัณโรค - ขนาด วิธีการใช้ และการเก็บรักษา กินยา ethambutol พร้อมอาหาร ครั้งละ …… เม็ด วันละ …… ครั้ง (หรือกินก่อนนอน ตามที่ระบุในใบสั่ง ยาของแพทย์) ใช้ยานี้อย่างเคร่งครัด ไม่ควรเพิ่มขนาดยาหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไม่มีคําสั่งจากแพทย์ และควรกินยาในเวลาเดียวกัน หากลืมกินยา (ไม่เกิน 12 ชั่วโมงจากกําหนด) ให้กินยาทันทีที่นึกได้ ถ้าเกิน 12 ชั่วโมงให้ข้ามยามื้อนั้นไป และเริ่มกินมื้อถัดไปตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา และหากผู้ป่วยลืมกินมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ควรแจ้งแพทย์ ทราบ เก็บยาในภาชนะปิดสนิทป้องกันแสงที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความร้อนความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือ เด็ก - ผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่อาจเกิดขึน้ การกินยา ethambutol อาจทําให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ลดความอยากอาหาร ปวดศีรษะ มึนงง หากเกิดอาการข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนการกินยา - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปัญหาในการใช้ยา หากเกิดอาการต่อไปนี้ ได้แก่ การมองเห็นภาพไม่ชัดเจน ความสามารถในการมองเห็นสีแดงและสีเขียว เปลี่ยนไป ปวดตา ผื่นคัน บวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก และลําคอ หายใจมีเสียงวี้ดหรือหายใจลําบาก ปวด หรือปวดเสียวที่มือหรือเท้า ปวดข้อ ไข้หรือสั่น ควรหยุดยาแล้วรีบปรึกษาแพทย์ทนั ที ไม่ควรกินยานี้พร้อมกับยาลดกรด หากใช้ยาลดกรดร่วมด้วยให้กินยาลดกรดหลังกินยา ethambutol แล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง แจ้งแพทย์ หรือเภสัชกรทราบทุกครั้งที่ไปขอรับบริการ ว่ากําลังกินยา ethambutol หากตั้งครรภ์หรือกําลังให้นมบุตรให้แจ้งแก่แพทย์ก่อนการใช้ยา ผู้ป่วยโรคไต เกาต์ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับตา ควรแจ้งแก่แพทย์ก่อนสั่งจ่ายยา ethambutol
ตัวอย่าง ยาที่มีดัชนีการรักษาแคบ (อ้างอิงจาก Sheet ที่เผยแพร่ในห้องเก็บตัวก่อนสอบ OSPE ตุลา’48) สิ่งที่ต้องบอก - ชื่อยา - ข้อบ่งใช้ของยา - ขนาด / วิธีการใช้ - การใช้ยาอย่างเคร่งครัดตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์ - วิธีการเก็บรักษายา - การลืมกินยา - ผลข้างเคียงจากการกินยา - ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้ยา - ควรแจ้งแพทย์ / เภสัชกร / ทันตแพทย์ ว่ารับประทานยานี้อยู่ ตัวอย่างยาหลักๆ ที่ควรทราบ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
66
เทคนิค OSPE
Digoxin แนะนําตัวเองก่อนว่าเป็นเภสัชกร (สวัสดีคะ่ ดิฉันเภสัชกร....) ซักประวัติเบื้องต้น (ถามอาการเพื่อดูว่าเป็นอาการพิษของยาหรือเปล่า) มีโรคประจําตัวอะไรไหม / ปัจจุบันทานยาอะไรอยู่หรือเปล่า (drug interaction) ชื่อยา / ข้อบ่งใช้ของยา Digoxin เป็นยารักษาภาวะหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ (ข้อบ่งใช้ ขึ้นกับโรคที่ผู้ปว่ ยเป็น) ขนาด / วิธีการใช้ ให้กินยา Digxin ขนาด.... mg ครั้งละ.... เม็ด วันละ....ครั้ง ก่อนอาหาร/หลัง อาหาร (ตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์) ควรใช้ยานี้อย่างเคร่งครัดตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์ ไม่ควรปรับขนาดยาเอง เนื่องจากยามีช่วงการ รักษาที่แคบ และควรกินในวันเวลาเดียวกัน วิธีการเก็บรักษายา ควรเก็บยาในภาชนะปิดสนิทที่อุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นมือเด็ก การลืมกินยา ถ้าลืมกินภายใน 12 ชั่วโมงให้กินทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าเกิน 12 ชั่วโมง ให้ข้ามยามื้อนั้นไป แล้วให้รับประทานยาตามปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา หากลืมทานมากกว่า 2 ครั้ง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ ผลข้างเคียงจากการกินยา - ยา Digoxin อาจทําให้เกิดอาจทําให้เกิดอาการง่วงซึม, มึนงง จึงควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือ การทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักร - ไม่ควรรับประทานยานี้ร่วมกับยาลดกรด หากต้องรับประทานพร้อมกันให้รับประทานยาลดกรด หลังจากทานยา Digoxin ไปแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้ยา หากเกิดความผิดปกติ เช่น เบื่ออาหาร , คลื่นไส้, การมองเห็นผิดปกติ (เห็นแสงวูบวาบ ภาพพร่ามัว), การมองเห็นภาพเป็นสีเหลืองเขียว, การเห็น แสงรอบวัตถุ, ปวดศีรษะ, เมื่อยล้า, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, หัวใจเต้นช้าลง ให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที (เกิดพิษ จากยา) ควรแจ้งแพทย์ / เภสัชกร / ทันตแพทย์ ว่ารับประทานยา Digoxin อยู่ Phenyltoin แนะนําตัวเองก่อนว่าเป็นเภสัชกร (สวัสดีคะ่ ดิฉันเภสัชกร....) ซักประวัติเบื้องต้น (ถามอาการเพื่อดูว่าเป็นอาการพิษของยาหรือเปล่า) มีโรคประจําตัวอะไรไหม / ปัจจุบันทานยาอะไรอยู่หรือเปล่า (drug interaction) ชื่อยา / ข้อบ่งใช้ของยา ยา Phenyltoin ใช้รักษาอาการชัก หรือภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ (ข้อบ่งใช้ ขึ้นกับโรคที่ผู้ปว่ ยเป็น) ขนาด / วิธีการใช้ ให้กินยา Phenyltoin ขนาด...mg ครั้งละ.....เม็ด วันละ.....ครั้ง ก่อนอาหาร/หลัง อาหาร (ตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์) การใช้ยาอย่างเคร่งครัดตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์ ไม่ควรปรับขนาดยาเอง เนื่องจากยามีช่วงการ รักษาที่แคบ (การหยุดยาทันทีอาจเป็นสาเหตุทําให้เกิดอาการชักได้) วิธีการเก็บรักษายา ควรเก็บยาในภาชนะปิดสนิทที่อุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นมือเด็ก การลืมกินยา ถ้าลืมกินยาให้กินทันทีที่นึกได้ หากนึกได้ใกล้มื้อถัดไปให้ข้ามยามื้อนั้นไป ให้เริม่ กินมื้อ ถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา ผลข้างเคียงจากการกินยา Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
67
เทคนิค OSPE
- ยา Phenyltoin อาจทําให้เกิดอาการวิงเวียน, ง่วงซึม, การมองเห็นพร่ามัวหรือเห็นภาพซ้อน เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะหรือการทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักร - หากรับประทานยานี้ร่วมกับแอลกอฮอล์ ยานอนหลับ หรือยาแก้แพ้ ยาจะเพิ่มอาการง่วงซึมของยา Phenytoin จึงควรใช้ยานี้อย่างระมัดระวัง ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้ยา - หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น อาเจียน, ท้องผูก, ปวดท้อง, สูญเสียการรับรส, ความอยากอาหาร, น้ําหนักลด ให้กินยาพร้อมอาหารหรือดื่มน้ําตามมาก ๆ แต่ถ้ายังมีอาการอยู่ให้รีบกลับไปพบแพทย์ (เกิดพิษจาก ยา) - อาการพิษจากยา Phenytoin คือ มึนงง, เดินเซ ควรแจ้งแพทย์ / เภสัชกร / ทันตแพทย์ ว่ารับประทานยา phenyltoin อยู่ Warfarin แนะนําตัวเองก่อนว่าเป็นเภสัชกร (สวัสดีคะ่ ดิฉันเภสัชกร....) ซักประวัติเบื้องต้น (ถามอาการเพื่อดูว่าเป็นอาการพิษของยาหรือเปล่า) มีโรคประจําตัวอะไรไหม / ปัจจุบันทานยาอะไรอยู่หรือเปล่า (drug interaction) ชื่อยา / ข้อบ่งใช้ของยา Warfarin เป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ข้อบ่งใช้ขึ้นกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น) ขนาด / วิธีการใช้ ให้กินยา Warfarin ขนาด...mg ครั้งละ.....เม็ด วันละ.....ครั้ง ก่อนอาหาร/หลัง อาหาร (ตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์) การใช้ยาอย่างเคร่งครัดตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์ ไม่ควรปรับขนาดยาเอง เนื่องจากยามีช่วงการ รักษาที่แคบ วิธีการเก็บรักษายา ควรเก็บยาในภาชนะปิดสนิทที่อุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นมือเด็ก การลืมกินยา หากลืมกินยาให้กินทันทีทนี่ ึกได้ หากเกิน 12 ชั่วโมงให้ข้ามยามื้อนั้นไป เริ่มกินมือ้ ใหม่ ตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา หากลืมทานมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไป ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ แล้วควรบันทึกวันที่ ลืมกินยาแล้วแจ้งแพทย์ในการนัดครั้งต่อไป เพราะการลืมกินยาจะทําให้ผลทดสอบการแข็งตัวของเลือดเกิดการ เปลี่ยนแปลงไปได้ ผลข้างเคียงจากการกินยา - ควรหลีกเลีย่ งความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และควรพกบัตรว่ากําลังทานยา Warfarin อยู่ - ไม่ควรเปลี่ยนแปลงปริมาณอาหารจําพวกตับ ผักใบเขียว - ถ้าตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้ยา หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น เกิดจ้ําเลือด ใต้ผิวหนัง, อาเจียน, น้ําลายมีเลือดปน, อุจจาระมีสีแดงสด, เหงือกมีเลือดออก, ประจําเดือนมามากกว่าปกติ ควรรีบมาพบแพทย์ เมื่อเริ่มมีอาการ (เกิดพิษจากยา) ควรแจ้งแพทย์ / เภสัชกร / ทันตแพทย์ ว่ารับประทานยา Warfarin อยู่ Theophylline แนะนําตัวเองก่อนว่าเป็นเภสัชกร (สวัสดีคะ่ ดิฉันเภสัชกร....) ซักประวัติเบื้องต้น (ถามอาการเพื่อดูว่าเป็นอาการพิษของยาหรือเปล่า) มีโรคประจําตัวอะไรไหม / ปัจจุบนั ทานยาอะไรอยู่หรือเปล่า (drug interaction) ชื่อยา / ข้อบ่งใช้ของยา Theophylline เป็นยาขยายหลอดลม ช่วยรักษาอาการหอบหืด หลอดลม อักเสบ และถุงลมโป่งพอง (ข้อบ่งใช้ขึ้นกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น) Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
68
ขนาด / วิธีการใช้ ให้กินยา Theophylline ขนาด...mg ครั้งละ.....เม็ด วันละ.....ครั้ง ก่อนอาหาร/ หลังอาหาร (ตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์) ไม่ควรเคี้ยวหรือบดเม็ดยาที่ออกฤทธิ์เนิ่น ควรกลืนยาทั้งเม็ด การใช้ยาอย่างเคร่งครัดตามที่ระบุไว้ในใบสั่งแพทย์ ไม่ควรปรับขนาดยาเอง เนื่องจากยามีช่วงการ รักษาที่แคบ วิธีการเก็บรักษายา ควรเก็บยาในภาชนะปิดสนิทที่อุณหภูมิห้อง และเก็บให้พ้นมือเด็ก การลืมกินยา ถ้าลืมกินยาให้กินทันทีที่นกึ ได้ หากนึกได้ใกล้มื้อถัดไปให้ข้ามยามื้อนัน้ ไป ให้เริม่ กินมื้อ ถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยา ผลข้างเคียงจากการกินยา - การกินยา Theophylline อาจทําให้เกิดอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ปวดท้อง, เบื่ออาหาร เพราะฉะนั้น ควรกินยาหลังอาหารทันทีหรือกินพร้อมกับยาลดกรดหรือดื่มน้ําตามมาก ๆ - หากเกิดผื่นปกติที่ผิวหนัง (แพ้ยา) ควรรีบปรึกษาแพทย์ ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้ยา หากเกิดอาการนอนไม่หลับ, หัวใจเต้น เร็ว, ใจสั่น, หายใจเร็ว, กล้ามเนื้อกระตุก, อาเจียน, ชัก ควรรีบปรึกษาแพทย์ ควรแจ้งแพทย์ / เภสัชกร / ทันตแพทย์ ว่ารับประทานยา Thyophylline อยู่ เพราะอาจเกิดปฏิกิริยา กับยาอื่นได้
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง การนับเม็ดยา
1. การหยิบยาและเก็บยา การหยิบและเก็บยาควรมีทักษะที่เหมาะสมในการที่จะลดความเสี่ยงของการหยิบยาผิด และทําให้เป็น นิสัย ด้วยการอ่านชื่อยาที่ภาชนะบรรจุยาซ้ําอย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อมองหาและหยิบยา ครั้งทีส่ องก่อนนับ ยา และครั้งสุดท้าย เมื่อนํายากลับไปวางที่เดิม ควรตรวจสอบวันหมดอายุจากฉลากยาและ ลักษณะกายภาพของ ยา ก่อนนับยา
2. นับเม็ดยาด้วยถาดนับเม็ดยา การนับเม็ดยาด้วยถาดนับเม็ดยา เภสัชกรควรทําจนคล่องแคล่ว ทําให้ดนู ่าเชื่อถือ แม้บางครั้งไม่ใช่งานที่ เภสัชกรต้องทําเองเสมอ แต่เมื่อต้องทําต้องถูกเทคนิค ถูกจํานวน
วิธีการนับเม็ดยาด้วยถาดนับเม็ดยา - เช็ดถาดและที่นับยาให้สะอาด ในแต่ละวันควรมีการเช็ดด้วยแอลกอฮอล์เป็นครั้งคราว และควรมีถาดนับ ยาแยกสําหรับยาบางชนิดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน เช่น เพนนิซิลลิน เคมีบําบัด เป็นต้น - เมื่อหยิบยาทีต่ ้องการได้แล้ว เทลงในถาดด้วยจํานวนพอสมควรกับปริมาณยาที่จะนับ โดยยังไม่เปิดฝา ด้านช่องเทยา
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
69
เทคนิค OSPE
- เปิดฝาช่องเทยา จับด้านเรียวของที่นับยา นับยาจากถาดลงในช่องเทยา นับครั้งละกี่เม็ดก็ได้ แต่นิยมนับ ครั้งละ 5 เม็ด เพราะนับได้ง่าย นับจนครบจํานวน - หากยาที่เทไว้ไม่พอกับจํานวนยาที่ต้องการ ปิดฝาช่องเทยา แล้วจึงเทยาจากขวดลงเพิ่มในถาด เปิดฝา ช่องเทยาใหม่ นับจนครบ - ปิดฝาช่องเทยา - เทยาที่เหลือลงในลงภาชนะเดิม - เทยาลงในภาชนะที่เตรียมไว้ - ปิดภาชนะให้เรียบร้อย - ทําความสะอาดถาดและที่นับยาอีกครั้งหนึ่ง
ตัวอย่าง เทคนิคการนับเม็ดยา (จากประสบการณ์ตรง ในการเป็นผู้ช่วยอาจารย์คุมสอบ ตุลา ’49) - เลือกถาดนับเม็ดยาทั่วไป / เพนนิซลิ ิน - หยิบขวดยาที่ต้องการนับ แบบ Triple checkดูฉลากตั้งแต่ก่อนหยิบ ก่อนเทและก่อนเก็บ ( 2 คะแนน) - ทําความสะอาดถาดนับเม็ดยาด้วยสําลีแห้งหรือสําลีที่ชุบ Alcohol 70% หมาด ๆ ( 2 คะแนน) - เทเม็ดยาลงบนถาดนับเม็ดยาจํานวนพอสมควร โดยยังไม่เปิดฝาด้านช่องเทยา ( 2 คะแนน) - เปิดฝาช่องเทยา ต้องนับเม็ดยาทีละ 5 เม็ดให้ไว จนครบตามจํานวนที่ต้องการ ถ้าไม่พอให้ปิดฝา กระบอกยาก่อนแล้วค่อยเทยาใหม่ ( 2 คะแนน) ถ้าอาจารย์ชั่งแล้วเกิน 2-3 เม็ด ได้ 1 คะแนน ถ้าเกิน 4-5 เม็ด 0 คะแนน - จากนั้นเทเม็ดยาที่ได้ลงในภาชนะที่เหมาะสม ( 2 คะแนน) ใส่กระบอกที่พอดี ถ้าใหญ่ไปก็เทเม็ดยาออก เปลี่ยนให้พอเหมาะพอดี ไม่มีหักคะแนน ใส่ผิดอัน เทออกใหม่ อาจารย์ยังให้เต็มเท่าเดิมครับ - เมื่อเสร็จแล้วให้ทําความสะอาดถาดด้วยสําลีที่ชุบ Alcohol 70% อีกครั้ง (ถ้าเวลาเหลือ)
* เวลานับอย่ารีบร้อนเพราะอาจารย์เช็คน้ําหนักเม็ดยาโดยการชั่งด้วย (อย่านับมั่วนะ) * ในข้อสอบมักให้นับ paracetamol หรือ chlopheniramine
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
เทคนิค OSPE
70
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง การเขียนฉลากยา
การจัดทําฉลากและจัดเตรียมเพื่อจ่ายยาอย่างมีคุณภาพ 1. ยาที่จ่ายต้องครบถ้วน มีฉลากถูกต้อง ข้อมูลครบถ้วน บรรจุในภาชนะที่เหมาะสมได้มาตรฐาน 2. ฉลากยาทุกขนานที่จ่ายควรพิมพ์หรือเขียนให้อ่านง่าย โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูลต่อไปนี้ (1) วันที่จ่ายยา (2) เลขที่จ่ายยา หรือเลขที่ใบสั่งยา (กรณีการจ่ายยาในโรงพยาบาล หรือร้านยาที่จ่ายยาตามใบสั่ง ยา) (3) ชือ่ -นามสกุลผู้ป่วย (4) ชือ่ ยา ความแรง และจํานวน (ควรมีทั้งชื่อสามัญและชื่อทางการค้า) (5) ข้อบ่งใช้ของยา (ถ้ามีข้อมูล) (6) วิธีใช้ยาที่ชัดเจน และเข้าใจง่าย (7) ฉลากช่วยเพื่อแสดงคําแนะนําหรือคําเตือนที่จําเป็น (8) ชือ่ ที่ตั้ง หมายเลขโทรศัพท์ของสถานที่จ่ายยา นอกจากนั้นอาจมีชื่อแพทย์ผสู้ ั่งใช้ยาและเภสัชกรผู้จ่ายยาเพื่อกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินกับผู้ปว่ ย หรือเกิดความ ผิดพลาดที่เร่งด่วน
ตัวอย่างการเขียนวิธีการใช้ยา - รับประทานครั้งละ …… เม็ด ตัวอย่าง: รับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร เช้า เย็น รับประทานครั้งละ 1/2 (ครึ่ง) เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง พร้อมอาหาร เช้า เย็น รับประทานครั้งละ 2 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมง - อมใต้ลิ้นครั้งละ 1 เม็ด เมือ่ มีอาการเจ็บเค้นหน้าอก - ป้ายตาข้างที่มีอาการ วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน - พ่นใต้ลิ้น หรือกระพุ้งแก้มเวลาเจ็บหน้าอก - ผสมน้ําถึงขีดกําหนด - ทาผื่นคัน - ทาบาง ๆ บริเวณที่เป็น - เหน็บทวารหนักครั้งละ …. เม็ด - เหน็บช่องคลอดครั้งละ ….. เม็ด - ทาบริเวณช่องคลอด วันละ.....ครั้ง - หยอดจมูกข้างที่เป็นข้างละ ….. หยด Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
71
- พ่นสูดเข้าคอครั้งละ …… ที (ใช้กับ metered dose inhaler) - สูดเข้าคอครัง้ ละ ……. ที (ใช้กับ dry powder inhaler เช่น turbuhaler, accuhaler) - หยอดตาซ้ายครั้งละ ……หยด - หยอดตาขวาครั้งละ ……หยด - หยอดตาทั้ง 2 ข้าง ครั้งละ ……หยด - หยอดหูซ้ายครั้งละ ……หยด - หยอดหูขวาครั้งละ ……หยด - หยอดหูทั้ง 2 ข้างครั้งละ ……หยด - พ่นจมูกทั้ง 2 ข้าง ข้างละ … ที ตัวอย่าง: พ่นจมูกทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 1 ที วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ฉีดใต้ผิวหนัง วันละ.....ครั้ง ก่อนอาหาร…ยูนิต ตัวอย่าง: ฉีดใต้ผิวหนัง วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า 10 ยูนิต ก่อนอาหารเย็น 7 ยูนิต ตัวอย่างวิธเี ขียนฉลากยา ในกรณีทใี่ นฉลากสําเร็จรูปมีขอ้ ความให้เลือก เช่น เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ให้ขีดฆ่าข้อความที่ไม่ ต้องการทิ้ง และวงรอบข้อความที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น Bisacodyl รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 12 ก.พ. 49 ชื่อผูปวย นางเอี่ยม เรืองทอง ชื่อยา Dulcolax® (Bisacodyl) 5 mg จํานวน 20 เม็ด ขอบงใช…รักษาอาการทองผูก รับประทานครั้งละ 1 เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ…1…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน หรือทุก……-………..ชั่วโมง เฉพาะเวลา…… ทองผูก………………………………………… ฉลากเสริม…หามเคี้ยวหรือบดยานี้ หามกินยานี้พรอมกับนมหรือยาลดกรด
คําแนะนําอืน่ ด้วยวาจา หรืออาจเขียนในฉลากยาตามความเหมาะสม ได้แก่ (1) เมื่อกินยานี้ก่อนนอนจะทําให้ถ่ายอุจจาระในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น (2) ห้ามกินยานี้เมื่อมีอาการปวดท้อง (3) ควรกินผักผลไม้ และดื่มน้ํามาก ๆ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
72
Cloxacillin ยานี้อาจให้กินยาแบบ 1 x 4 PO ac & hs หรือ อาจให้กินยาทุก 6 ชัว่ โมง รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 12 ก.พ. 49 ชื่อผูปวย นางเอี่ยม เรืองทอง ชื่อยา Diclocin® (Cloxacillin) 250 mg จํานวน 20 เม็ด ขอบงใช รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย รับประทานครั้งละ…1….เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ……4…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน ทุก………-……..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……-…………………………………… ฉลากเสริม กินยานี้ติดตอกันทุกวันจนยาหมด กินยานี้ตอนทองวางกอนอาหารครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง
คําแนะนําอื่นด้วยวาจาหรือเขียนในฉลากตามความเหมาะสม ได้แก่ (1) หากลืมกินยาก็ให้กินหลังอาหาร 2 ชั่วโมง (2) หากมีผื่นหรือหายใจไม่ออก ให้หยุดยาและกลับมาพบแพทย์เพราะอาจเป็นการแพ้ยา รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 12 ก.พ. 47 ชื่อผูปวย นางเอี่ยม เรืองทอง ชื่อยา Diclocin® (Cloxacillin) 250 mg จํานวน 20 เม็ด ขอบงใช รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย รับประทานครั้งละ…1….เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ……-…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน ทุก………6……..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……-…………………………………… ฉลากเสริม กินยานี้ติดตอกันทุกวันจนยาหมด กินยานี้ตอนทองวางกอนอาหารครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
73
Paracetamol รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 12 ก.พ. 47 ชื่อผูปวย นางเอี่ยม เรืองทอง ชื่อยา Para® (Paracetamol) 500 mg จํานวน 20 เม็ด ขอบงใช ลดไข บรรเทาอาการปวด รับประทานครั้งละ…1-2….เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ……-…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน ทุก………4-6……..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……มีไข ปวด…………………………………… คําเตือน ไมควรรับประทานยานี้เกินวันละ 8 เม็ด
หรือ
คําแนะนําอื่นด้วยวาจา หรืออาจเขียนในฉลากยาตามความเหมาะสม ได้แก่ (1) ไม่ควรรับประทานยานี้เกินวันละ 8 เม็ด (2) ไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 5 วัน หรือในกรณีทแี่ พทย์สั่งยา paracetamol โดยระบุใช้เป็นยาแก้ปวด 2 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง ก็ระบุตามที่แพทย์สั่ง และ ไม่ต้องแนะนําว่าไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกัน 5 วัน เช่น โรงพยาบาลเอกเวช เลขที่ 18 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212587 วันที่ 12 ก.พ. 47 ชื่อผูปวย นางโอ เรืองทอง ชื่อยา Para® (Paracetamol) 500 mg จํานวน 50 เม็ด ขอบงใช บรรเทาอาการปวด รับประทานครั้งละ…2….เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ……-…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน ทุก………6 ……..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……มีไข หรือ ปวด……………………………………
คําแนะนําอื่นด้วยวาจา หรืออาจเขียนในฉลากยาตามความเหมาะสม ได้แก่ (1) ไม่ควรรับประทานยานี้เกินวันละ 8 เม็ด
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
74
เทคนิค OSPE
Chlorpheniramine รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 12 ก.พ. 47 ชื่อผูปวย นางเอี่ยม เรืองทอง ชื่อยา CPM® (Chlorpheniramine) 4 mg จํานวน 20 เม็ด ขอบงใช บรรเทาอาการแพ รับประทานครั้งละ…1…….เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ……-…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน ทุก………4-6……..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……เมื่อมีอาการ แพ…………………………………… ฉลากเสริม ยานี้อาจทําใหงวงนอน ไมควรขับรถหรือทํางานเกี่ยวกับ เครื่องจักร หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล
คําแนะนําอื่นด้วยวาจา หรืออาจเขียนในฉลากยาตามความเหมาะสม ได้แก่ (1) ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 6 เม็ด (2) ยานี้อาจทําให้มีอาการปากแห้ง คอแห้ง ควรดื่มน้ํามาก ๆ หรือในกรณีทจี่ ่าย chlorpheniramine 4 mg เพื่อลดน้าํ มูกกรณีไข้หวัด รานยา ก.เภสัช เลขที1่ 6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 12 ก.พ. 47 ชื่อผูปวย นางเอี่ยม เรืองทอง ชื่อยา CPM® (Chlorpheniramine) 4 mg จํานวน 20 เม็ด ขอบงใช ลดน้ํามูก รับประทานครั้งละ…1….เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ……3…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน ทุก………-……..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……มีน้ํามูก…………………………………… ฉลากเสริม ยานี้อาจทําใหงวงนอน ไมควรขับรถหรือทํางานเกี่ยวกับ เครื่องจักร หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล
คําแนะนําอื่นด้วยวาจา หรืออาจเขียนในฉลากยาตามความเหมาะสม ได้แก่ (1) ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 6 เม็ด (2) ไม่ควรใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 7 วัน (3) ยานี้อาจทําให้มีอาการปากแห้ง คอแห้ง ควรดื่มน้ํามาก ๆ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
75
เทคนิค OSPE
เลือกใช้ฉลากช่วยในกลุ่มยาที่เหมาะสม ฉลากช่วยเป็นข้อความสําหรับคําแนะนําหรือข้อควรระวังที่สําคัญและจําเป็นในอันที่จะเพิ่มความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการใช้ยาแก่ผู้ป่วยซึ่งได้รับยาจากเภสัชกรเพื่อนําไปใช้ด้วยตนเอง เป็นองค์ประกอบเสริมหรือ ย้ําสิ่งที่เภสัชกรได้ให้ข้อมูลหรือคําแนะนําในการใช้ยาแก่ผู้ป่วยขณะจ่ายยา โดยไม่ประสงค์ให้เป็นเครื่องทดแทน คําแนะนําของเภสัชกรอันพึงให้แก่ผู้ป่วยโดยตรงแต่อย่างใด และเภสัชกรต้องตระหนักว่าแม้ฉลากช่วยเหล่านี้มุ่งให้ เกิดประโยชน์ต่อการใช้ยาของผู้ป่วย แต่เนื่องด้วยข้อความจะสั้นและกระชับอย่างมาก บางครั้งอาจทําให้ผู้ป่วย ตีความผิดหรือเกิดความวิตกกังวล จนไม่กล้าใช้ยาได้ ฉลากช่วยที่จําเป็นอาจมีมากกว่าที่กําหนดในคู่มือนี้ ควรอาศัยความรู้และทักษะของตนเพื่อพิจารณาเลือก และใช้ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย รวมทั้งเลือกที่จะไม่ติดฉลากช่วยบางอันในผู้ป่วยบางรายที่อาจมีปัญหา ทํา ให้เกิดความเข้าใจผิด รวมทั้งในกรณีทแี่ พทย์ขอไม่ให้ติดฉลากช่วยนั้น ผู้ป่วยควรได้รับข้อมูลมากพอ เพื่อให้การใช้ยาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ฉลากช่วยได้ กําหนดขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทางให้คําแนะนําของเภสัชกร O คําเตือนเกีย่ วกับอาการง่วงนอน ผู้ป่วยควรได้รับคําเตือนถ้ายาที่ได้รับอาจทําให้ง่วงนอน มึนงง ตาพร่า หรืออาจทําให้การขับรถ หรือการ ทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักรมีความปลอดภัยลดลง โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยดื่มแอลกอฮอล์รว่ มด้วย ข้อความที่ใช้เตือน อาจแตกต่างกันตามสถานการณ์ ดังนี้ ฉลากช่วย
การนําไปใช้ อาจทําให้ง่วงนอน ฉลากนี้เหมาะกั บเด็ก เนื่องจากยาอาจทําให้เด็กซึม แต่ไ ม่ จํา เป็น ต้อ งมีคํา เตือนเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย อาจเพิ่มคําเตือนเกี่ยวกับการขับขี่รถจักรยานได้ ตัวอย่างยา: chloral hydrate อาจทําให้ง่วงนอน ไม่ควรขับรถหรือทํางานเกี่ยวกับเครื่องจักร ฉลากนี้เหมาะกับผู้ใหญ่ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ตัวอย่างยา: chlorpheniramine, triprolidine, diphenhydramine dimenhydrinate, hydroxyzine, chlodiazepoxide, diazepam, codeine, morphine, tramadol, chlorpromazine, haloperidol, clonazepam, perphenazine, amitryptyline, phenobarbital
O คําเตือนเกีย่ วกับปฏิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่ม ฉลากช่วย หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างกินยานี้
การนําไปใช้ แอลกอฮอล์อาจกระตุ้นปฏิกิริยาบางอย่าง เช่น disulfiram-like reaction ทําให้เกิดอาการหน้าแดง หัวใจเต้นเร็ว เมื่อดื่มร่วมกับยา บางชนิด จึงควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์เมื่อกินยาดังกล่าว ตัวอย่างยา: metronidazole, tinidazole, chlorpropamide
กินยาพร้อมหรือหลังอาหารทันที
ฉลากนี้ควรใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มที่จะระคายเคืองทางเดิน อาหาร หรือยาที่ดูดซึมได้ดีเมื่อกินพร้อมอาหาร ตัวอย่างยา: aspirin, diclofenac, ibuprofen, indomethacin, mefenamic acid, naproxen, metformin, theophylline, tretinoin, prednisolone, dexamethasone, ketoconazole
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ฉลากช่วย กินยาครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงก่อนอาหาร หรือช่วงท้องว่าง หากลืมให้กินหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
ไม่ควรกินยาลดกรดพร้อมยานี้
ไม่ควรดื่มนม ยาหรืออาหารที่มีธาตุเหล็ก หรือยาลดกรดพร้อมกับยานี้
76
เทคนิค OSPE
การนําไปใช้ ฉลากนี้เหมาะกับยาที่ต้องการให้ส่งผลที่ทางเดินอาหารก่อนกิน อาหาร หรือยาเตรียมที่ดูดซึมได้ดีเมื่อกินก่อนอาหาร หรือยา ปฏิชีวนะที่ให้โดยการกินและการดูดซึมจะลดลงอย่างมีนัยสําคัญ ถ้ามีอาหารและกรดในกระเพาะอาหาร ตัวอย่างยา: penicillin V, ampicillin, cloxacillin, didanosine, เพื่อป้องกันยาที่อยู่ในรูปแบบ enteric-coated tablet หรือยาที่ไม่ ต้องการให้แตกตัวในกระเพาะอาหาร ตัวอย่างยา: omeprazole, enteric-coated aspirin (Aspent®), enteric coated diclofenac (Voltaren®), bisacodyl (Dulcolax®) ยาบางชนิด เช่น ยากลุ่ม tetracyclines และ fluoroquinolones
สามารถเกิดสารประกอบเชิงซ้อนกับแคลเซียม แมกนีเซียม และ เหล็ก ส่งผลให้การดูดซึมยาลดลงถ้ามีอิออนเหล่านี้อยู่ ผู้ป่วยอาจ หลีกเลี่ยงปัญหานี้โดยแยกกินยาและอิออนดังกล่าวในช่วงเวลา ห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เฉพาะ doxycycline และ minocycline อาจได้รับผลจากนมไม่มาก
• ฉลากช่วยแนะนําพิเศษ ฉลากช่วย กินยานี้ติดต่อกันทุกวันจนยาหมด ใช้ทาในปริมาณเล็กน้อยหรือทาบาง ๆ
เก็บยาในตู้เย็นช่องธรรมดา (ห้ามแช่แข็ง) ห้ามกินเกิน 6 เม็ด ใน 24 ชั่วโมง หรือ 10 เม็ด ใน 1 สัปดาห์ ห้ามกินเกิน 2 เม็ดในหนึ่งครั้ง ห้ามกินเกิน 8 เม็ดใน 24 ชั่วโมง ใช้ยาติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน
การนําไปใช้ ใช้กับยาที่จําเป็นต้องกินอย่างต่อเนื่องแต่ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกว่ามี ผลต่อการรักษา ตัวอย่างยา: ยารักษาโรคติดเชื้อ และยารักษาโรคเรื้อรัง ฉลากนี้ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอก และถ้าใช้ในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงหรือการดูดซึมผ่านผิวหนังที่ไม่ ต้องการ ตัวอย่างยา: ยากลุ่มสเตียรอยด์ ฉลากนี้ใช้กับยาที่มีข้อกําหนดให้เก็บไว้ในตู้เย็น ตัวอย่างยา: ยาหยอดตาที่เปิดใช้แล้ว ยาเหน็บทวารหนัก ฉลากนี้ใช้กับยาที่มี ergotamine tartrate เป็นองค์ประกอบในการ รักษาไมเกรน ตัวอย่างยา: Cafergot ®, Avamigran ® ฉลากนี้ใช้กับ paracetamol 500 mg สําหรับผู้ใหญ่ คําเตือนนี้ ควรได้รับการปรับขนาดยาสําหรับเด็ก ยกเว้นกรณีที่แพทย์สั่ง ให้ใช้ในโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น osteoarthritis อาจใช้ติดต่อเกิน 5 วัน
• ฉลากช่วยสําหรับวิธีบริหารยาแบบพิเศษ ฉลากช่วย ละลายหรือผสมกับน้ําก่อนกิน ดื่มน้ําตามมาก ๆ
Pharmacy Rx’24
การนําไปใช้ ฉลากนี้ใช้กับยาที่ละลายได้ หรือผงยาหรือแกรนูลที่ควรกระจาย ตัวในน้ําก่อนกิน ตัวอย่างยา: ยาเม็ดฟู่ ผงน้ําตาลเกลือแร่ ฉลากนี้ ใ ช้ กั บ ยาที่ มี แ นวโน้ ม ในการก่ อ อาการระคายเคื อ งที่
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
77
ทางเดินอาหาร เช่น ยากลุ่ม NSAIDs นอกจากจะได้รับการเจือ จางก่ อ น และใช้ กั บ ยาที่ ต้ อ งดื่ ม น้ํ า มาก ๆ ยกเว้ น กรณี ที่ ต้ อ งการจํ า กั ด น้ํ า และยาที่ ต้ อ งป้ อ งกั น การตกตะกอนใน กระเพาะปัสสาวะ เช่น sulfonamides กลืนทั้งเม็ด ห้ามเคี้ยว หรือบดยา
ฉลากนี้ใช้กับยาชนิด enteric-coated, sustained-release หรือยาที่ มีรสไม่ดี
เคี้ยวเม็ดยาให้ละเอียดก่อนกลืน
สําหรับยาเม็ดที่มีขนาดใหญ่หรือต้องเคี้ยว ตัวอย่างยา: ยาเม็ดลดกรดบางชนิด ยาเม็ดแก้ท้องอืด
ปล่อยให้ยาละลายใต้ลิ้น ปล่อยให้ละลายใต้ลิ้น ห้ามเปลี่ยนภาชนะบรรจุ ปิดขวดให้สนิท และทิ้งหลังจากเปิดใช้ 8 สัปดาห์
ฉลากนี้ใช้กับยาที่ต้องการให้ถูกดูดซึมที่เนื้อเยื่อใต้ลิ้น ตัวอย่างยา: ยาอมใต้ลิ้น isosorbide dinitrate ฉลากนี้ใช้กับยาเม็ดอมใต้ลิ้น glyceryl trinitrate (nitroglycerine) เนื่องจาก glyceryl trinitrate ระเหิดได้
• ฉลากช่วยสําหรับข้อควรระวังในการใช้ ฉลากช่วย หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวสัมผัสแสงไฟหรือแสงอาทิตย์โดยตรง
การนําไปใช้ ใช้กับยาที่อาจเหนี่ยวนําให้เกิด phototoxic หรือ photoallergic reaction ตัวอย่างยา: isotretinoin, chlorpropmazine, nalidixic acid doxycycline
ยานี้อาจทําให้ปัสสาวะหรืออุจจาระเปลี่ยนสี
ระวัง ติดไฟได้ วางให้ห่างจากไฟ
ใช้กับยาที่ทําให้ปัสสาวะหรืออุจจาระเปลี่ยนสีจากปกติ ตัวอย่างยา: phenazopyridine ทําให้ปัสสาวะเป็นสีแดง rifampicin ทําให้น้ําลาย น้ําตา ปัสสาวะ เป็นสีแดงส้ม มะขามแขก ทําให้ปัสสาวะและอุจจาระมีสีเหลืองหรือแดง (เนื่องจากสาร anthraquinone glycoside จะให้ปัสสาวะหรือ อุจจาระเป็นสีแดงในภาวะเป็นด่าง) ใช้กับยาที่มีตัวทําละลายที่ติดไฟได้ในปริมาณสูง ตัวอย่าง: ยาสูดพ่น ยาที่เป็นรูปแบบสเปรย์
เภสัชกรควรระมัดระวังการเลือกใช้ฉลากช่วย ในบางครัง้ อาจให้คําปรึกษากับผู้ป่วยแทนการใช้ ฉลากช่วย หรืออาจต้องเขียนข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติม • ฉลากแนะนําพิเศษสําหรับรูปแบบยาบางชนิด 1. Pressurized Inhalation (Aerosol Inhalations) เช่น Metered dose inhalers ฉลากช่วย: ใช้สําหรับพ่นสูดเข้าคอ เขย่าขวดก่อนใช้ ภาชนะบรรจุภายใต้ความดัน ห้ามวางใกล้ความร้อนและแสงแดด ห้ามเจาะรูหรือเผาแม้เป็นภาชนะเปล่า ๆ
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
78
2. ยาพ่นจมูก หรือยาหยอดจมูก สําหรับยาพ่นหรือหยอดจมูกเพื่อลดอาการคัดจมูก ควรมีคําเตือนต่อไปนี้ ฉลากช่วย: หลีกเลี่ยงการใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกิน……วัน
3. ยาทาภายนอก - cream, gel, ointment ฉลากช่วย: ใช้เฉพาะภายนอก ห้ามรับประทาน
- liniments หรือ lotions ฉลากช่วย: ใช้เฉพาะภายนอก ห้ามรับประทาน
เขย่าขวดก่อนใช้
4. ยาเหน็บช่องคลอด ฉลากช่วย: ใช้ทางช่องคลอดเท่านั้น
ห้ามรับประทาน
5. ยาเหน็บทวารหนัก ฉลากช่วย: ใช้ทางทวารหนักเท่านั้น
ห้ามรับประทาน
เก็บในตู้เย็นห้ามแช่แข็ง
6. ยาผงสําหรับรับประทาน ยาผงทีบ่ รรจุสาํ หรับใช้ครั้งเดียวควรเติมลงในน้ํา แล้วคนก่อนดื่ม หรือเทยาลงลิ้น แล้วกลืนพร้อมน้ํา - Effervescent powders ฉลากช่วย: ควรละลายในน้ําก่อนดื่ม
- Bulk powders ฉลากช่วย: ตวงยา ……ช้อนชา ละลายหรือกระจายในน้ํา ก่อนดื่ม
7. ยาเม็ด - ยาเม็ดที่ต้องละลายหรือกระจายตัวในน้าํ ก่อน ฉลากช่วย: ละลายน้ําก่อนรับประทาน
- ยาเม็ดที่ต้องเคี้ยว ฉลากช่วย: เคี้ยวยาให้ละเอียดก่อนกลืน
- ยาเม็ด sustained-release, enteric-coated หรือยาเม็ดที่มีรสไม่ดี ฉลากช่วย: ห้ามบดหรือเคี้ยวยา
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
79
8. ยาน้ําประเภทต่าง ๆ เช่น mixtures, syrup, suspension, emulsions ฉลากช่วย: เขย่าขวดก่อนใช้
การเขียนซองยา 1. วันที่จ่ายยา 2. ชื่อผู้ป่วย 3. ชื่อยา / ความแรง / จํานวนที่ได้รับ 4. ข้อบ่งใช้ 5. วิธีการใช้ยา 6. ฉลากช่วย / คําแนะนํา / คําเตือนในการใช้ยา * ในกรณีที่ฉลากยาสําเร็จรูปมีให้เลือก เช่น เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ให้ขีดข้อความที่ไม่ ต้องการทิ้ง
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
เทคนิค OSPE
80
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง การประเมินผลข้างเคียงจากยา
เกณฑ์มาตรฐานข้อ 6: ติดตาม ป้องกัน แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการใช้ยาของผู้รับบริการ และ ชุมชน และแจ้งแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ วัตถุประสงค์เชิงทักษะ 1. สามารถสื่อสารกับผู้ป่วยถึงแผนการประเมินผลการรักษา และการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จาก การใช้ยา เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวังโดยตัวผู้ป่วยเอง 2. สามารถสื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์ถึงปัญหาที่เกี่ยวเนื่องจากการใช้ยาที่พบในระหว่างการรักษา พร้อมกับให้ข้อเสนอแนะทางแก้ไขปัญหาทีพ่ บ ตารางกําหนดด้านทักษะ 1. สามารถสื่อสารกับผู้ป่วยถึงแผนการประเมินผลการรักษา และการติดตามอาการไม่พึงประสงค์จาก การใช้ยา เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวังโดยตัวผู้ป่วยเอง 1.1 การสื่อสารถึงกับอาการไม่พึงประสงค์ขณะจ่ายยา 1.2 การสื่อสารถึงผลการรักษาที่แสดงว่าตอบสนองและไม่ตอบสนองต่อยา 2. สามารถสื่อสารกับบุคลากรทางสาธารณสุขถึงปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้ยาที่พบในระหว่างการรักษา พร้อมกับให้ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาที่พบ 2.1 การเขียนสรุปปัญหาการใช้ยาแจ้งแก่บุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง 2.2 การแจ้งปัญหาการใช้ยาแก่บุคลากรสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องโดยวาจา 2.3 กรอกแบบฟอร์มรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากผลิตภัณฑ์สุขภาพ รายละเอียดทักษะต่าง ๆ 1. การสื่อสารกับผู้ป่วยถึงแผนการประเมินผลการรักษาเพื่อให้เกิดการเฝ้าระวังโดยตัวผู้ป่วยเอง ตัวอย่างเช่น การวางแผนการประเมินผลการรักษาโรคความดันโลหิตสูง เภสัชกรควรให้ข้อมูลเหล่านี้กับ ผู้ป่วย เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวังและสามารถติดตามผลการรักษาได้ด้วยตนเอง - เป้าหมายในการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง คือ จะต้องควบคุมความดันโลหิต ให้ต่ํากว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท แต่ถ้าผู้ป่วยมีโรคเบาหวานหรือโรคไตร่วมด้วยจะต้องควบคุมความดันโลหิต ให้ต่ํากว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท - หากไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในช่วงดังกล่าวได้ ผู้ป่วยอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ที่รุนแรงเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น หลอดเลือดในสมองแตก กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด - ในระหว่างการรักษา หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง การมองเห็นผิดปกติ บวม หัวใจเต้นผิดปกติ เป็นต้น ให้รีบมาพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึน้ 2. การสื่อสารกับผู้ป่วยถึงอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา และการกรอกแบบฟอร์มรายงานอาการไม่ พึงประสงค์จากผลิตภัณฑ์สุขภาพ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
81
เทคนิค OSPE
ตัวอย่างกรณีศึกษาที่เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา และแสดงการกรอกข้อมูลลงไปในแบบรายงาน อาการไม่พึงประสงค์จากผลิตภัณฑ์สุขภาพในโรงพยาบาล นางจริงใจ จริงจริง หญิงไทยคู่ อายุ 22 ปี มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เนื่องจากเกิดผื่นคันทั่วร่างกาย เมื่อซสัมภาษณ์ประวัติพบว่าเมื่อ 2 วันก่อน (9 ต.ค. 47) มีอาการไข้ เจ็บคอ จึงมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลและ ได้รับการวินิจฉัยเป็น pharyngitis ได้รับยา paracetamol (Tylenol®) 500 mg 2 เม็ด กินทุก 4-6 ชั่วโมง เวลา มีไข้ และยา amoxicillin (Ibiamox®) 500 mg 1 เม็ด กินวันละ 3 ครัง้ หลังอาหารเช้า-เที่ยง-เย็น เช้าวันนี้ (11 ต.ค. 47) เริ่มสังเกตเห็นผื่นแดงนูนที่บริเวณลําตัว จึงหยุดใช้ยาดังกล่าวและมาพบแพทย์ ผลการตรวจร่างกาย พบว่ามีผื่นแบบ maculopapular rash ผู้ป่วยปฏิเสธโรคประจําตัว หรือใช้ยาใดเป็นประจํา ผู้ป่วยไม่มีประวัติ แพ้ยามาก่อน และยังไม่เคยได้รับยา amoxicillin มาก่อน จากลักษณะผื่นแบบ maculopapular rash แพทย์ วินิจฉัยว่าผู้ป่วยเกิดการแพ้ยา amoxicillin จึงแนะนําให้ผปู้ ่วยหยุดยาที่สงสัย และเปลีย่ นเป็น roxithromycin พร้อมกับสั่งจ่ายยา chlorpheniramine เพื่อรักษาอาการดังกล่าว จากกรณีนี้แสดงว่านางจริงใจเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา amoxicillin โดยเกิดผื่นแบบ maculopapular rash และผลการประเมินอาการไม่พึงประสงค์ด้วย WHO criteria อยู่ในระดับอาจจะใช่ (possible) ดังนั้นเภสัชกรจึงควรอธิบายให้ผู้ป่วยทราบว่าแพ้ยา amoxicillin และออกบัตรแพ้ยาให้กับนาง จริงใจด้วยเพื่อป้องกันการแพ้ยาซ้ํา ตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์มการรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากผลิตภัณฑ์สุขภาพในโรงพยาบาล
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
82
เทคนิค OSPE
คําแนะนําในการกรอกแบบรายงานอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 1. แบบรายงาน 1 ฉบับ สําหรับผู้ป่วย 1 คน (ยกเว้นบางกรณี ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้ ประเมิน) 2. ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมให้เขียนแทรกลงในพื้นที่ว่างที่เหมาะสมหรือแนบท้ายมากับแบบรายงาน 1. ข้อมูลทั่วไป 1.1 เลขทีร่ ายงาน และ ว/ด/ป ที่รับรายงาน สําหรับศูนย์ติดตามอาการอันไม่พึงประสงค์จาก การใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ระดับศูนย์แม่ข่ายและสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้กรอก 1.2 ชนิดของรายงาน ทําเครื่องหมาย ในช่อง ใหม่ หมายถึง รายงานที่ยังไม่เคยได้รายงานมาก่อน ติดตามผลจากรายงานเดิม หมายถึง รายงานที่เคยรายงานมาแล้ว แต่มีข้อมูลเพิ่มเติม 2. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วย 2.1 เลขทีผ่ ู้ปว่ ย ระบุเลขทีท่ ั่วไปของผู้ป่วย โดยระบุ HN กรณีผู้ป่วยนอก ระบุทั้ง HN และ AN กรณีเป็นผู้ป่วยใน 2.2 ชื่อ/นามสกุล ระบุชื่อและนามสกุลผู้ป่วย (เว้นแต่ผู้ป่วยไม่ยินยอม) 2.3 อายุ ระบุอายุผู้ป่วยในขณะที่เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ดังนี้ - ถ้าผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 1 เดือน รายงานหน่วยเป็นวัน พร้อมระบุน้ําหนัก เช่น 5 วัน น้ําหนัก 3 กก. - ถ้าผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 3 ปี รายงานหน่วยเป็นเดือน พร้อมระบุน้ําหนัก เช่น 24 เดือน น้ําหนัก 12 กก. - ถ้าผู้ป่วยอายุ 3 ปีหรือมากกว่า รายงานหน่วยเป็นปี เช่น 4 ปี - ในกรณีที่ไม่ทราบอายุที่แน่นอนโปรดใช้การคาดคะเนที่ใกล้เคียงที่สุด - สําหรับมารดาที่ให้กําเนิดทารกพิการ (เนื่องจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพของมารดา) กรุณา ระบุอายุ เพศ และน้ําหนักของทารกร่วมด้วย 2.4 เคยมีประวัติแพ้ผลิตภัณฑ์หรือไม่ ทําเครื่องหมาย ในช่อง ไม่มี หมายถึง ผู้ป่วยไม่เคยเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ สุขภาพนั้นมาก่อน มี (ระบุ) …….เช่น ยา co-trimoxazole เกิดผื่น 2.5 ภาวะอื่นๆ ของผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องระบุภาวะที่อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดอาการอันไม่ พึง ประสงค์ เช่น ภาวะความเจ็บป่วยหรือโรคประจําตัว ภาวะตั้งครรภ์ พฤติกรรมทางสังคม (สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่ มีแอลกอฮอล์) 3. ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ 3.1 ประเภทของผลิตภัณฑ์ เลือกประเภทผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยว่าทําให้เกิดอาการอันไม่พึง ประสงค์ 3.2 ชื่อผลิตภัณฑ์ ระบุชื่อสามัญ ชื่อการค้า และชื่อผู้ผลิต/ผู้จําหน่าย, เลขทีผ่ ลิต (Lot No.) กรณีทราบ S = Suspected product หมายถึง ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยว่าทําให้เกิดอาการ ไม่พึงประสงค์ที่พบ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
83
เทคนิค OSPE
O = Other product หมายถึง ผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกัน I = Product interaction หมายถึง การเกิดปฏิกิริยาต่อกันของผลิตภัณฑ์สุขภาพแล้วทําให้ เกิดอาการไม่พึงประสงค์ (ในรายงานให้ระบุผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกิดปฏิกิริยาต่อกัน) 3.3 ขนาดและวิธีใช้ ระบุความแรงต่อรูปแบบของผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปริมาณ หน่วย ความถี่ และวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ (route of administration) เช่น 500 mg/tablet, 1 tablet 3 times per day, per oral 3.4 ว/ด/ป ที่เริ่มใช้ ระบุวนั เดือน ปีที่เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น 3.5 ว/ด/ป ที่หยุดใช้ ระบุวัน เดือน ปีที่หยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น กรณีใช้ต่อให้เขียนคําว่า "Continue" 3.6 โรคหรือสาเหตุที่ใช้ผลิตภัณฑ์ และ ICD CODE ระบุโรคหรืออาการของโรคหรือเหตุผลที่ ต้องใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และระบุเลข ICD-CODE ลงในช่องว่าง (กรณีทราบ) 4. ข้อมูลเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์ 4.1 อาการอันไม่พึงประสงค์ ระบุอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่สงสัย ทั้งหมดลงในช่องว่าง โดยระบุอาการตาม preferred terms หรือ included terms ใน WHO Adverse Reaction Terminology แต่ถ้าไม่สามารถระบุได้กรุณาบรรยายอาการอันไม่พึงประสงค์อย่างละเอียดครบถ้วน และระบุ ICD CODE กรณีทราบ 4.2 ว/ด/ป ที่เริ่มเกิดอาการ ระบุวันเดือนปีที่ผู้ป่วยเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ หรือวันที่ ใกล้เคียงที่สุด ในกรณีที่อาการอันไม่พึงประสงค์เกิดวันเดียวกับวันแรกที่ใช้ผลิตภัณฑ์โปรดระบุเวลา หรือช่วงเวลา หลังจากได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพครั้งสุดท้าย 4.3 ค่าความผิดปกติทางห้องปฏิบัติการและผลการตรวจร่างกายที่อาจเป็นผลมาจากการ ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่สงสัย ระบุความผิดปกตินั้นพร้อมกับค่าปกติกํากับไว้ในวงเล็บ 4.4 ความร้ายแรงของอาการ ทําเครื่องหมาย ในช่อง O และ O ไม่ร้ายแรง กรณีอาการอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากหัวข้อที่อยู่ในหัวข้อร้ายแรง O ร้ายแรง กรณีอาการอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นมีความร้ายแรง ดังต่อไปนี้ 1. Death (เสียชีวิต) เมื่อสงสัยว่าการเสียชีวิตนั้นเป็นผลมาจากอาการอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น และให้ระบุวันเดือนปีที่ผู้ป่วยเสียชีวิต (ถ้าทราบ) โดยการเสียชีวิตไม่รวมถึงกรณี ทําให้เกิดทารกเสียชีวิตขณะตั้งครรภ์ (การแท้งบุตร) อันเนื่องมาจากความผิดปกติมาแต่กําเนิดหรือการตั้งครรภ์ ล้มเหลว 2. Life-threatening (อันตรายถึงชีวิต) เมื่อสงสัยว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต ในขณะที่เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือถ้าใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างต่อเนื่อง อาจ มีผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ 3. Hospitalization-initial/prolonged (การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในระยะแรกหรือเพิ่ม ระยะเวลาในการรักษานานขึ้น) เมื่อสงสัยว่าอาการ อันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเหตุให้ต้องเข้ารับการรักษา ในโรงพยาบาลหรือใช้เวลาในการรักษายาวนานขึ้น (กรณีที่ผู้ป่วยต้องสังเกตการณ์ที่ฉุกเฉิน โดยไม่จําเป็นต้องเข้า รับการรักษาในโรงพยาบาล สามารถระบุดว้ ยตัวเลือกอื่น เช่น life-threatening, required intervention to prevent permanent impairment or damage) Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
84
เทคนิค OSPE
4. Disability (ความพิการ) เมื่อสงสัยว่าอาการอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นเป็นผลให้บคุ คลดังกล่าว ไม่สามารถดํารงชีวิตตามปกติเพราะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงแบบชั่วคราวหรือถาวร หรือทําให้เกิดความเสียหาย หรือการทําลายต่อโครงสร้างหน้าที่ของร่างกายผู้ป่วย หรือความสามารถและหรือคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เช่น ตา บอด ไตวาย เป็นต้น 5. Congenital anomaly (ความผิดปกติแต่กําเนิด) เมื่อสงสัยว่าผู้ป่วยได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ก่อนการตั้งครรภ์ หรือในระหว่างการตั้งครรภ์ แล้วส่งผลให้เกิดความผิดปกติแต่กําเนิดของทารกซึ่งเป็นผลของ อาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 6. Required intervention to prevent permanent impairment or damage (ต้องการวิธีการ ในการป้องกันความเสียหายหรือการถูกทําลายอย่างถาวร) เมื่อสงสัยว่าผู้ป่วยได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพแล้วเกิด อาการอันไม่พึงประสงค์ มีความจําเป็นต้องได้รับการรักษา เพื่อขจัดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เช่น อาการ หลอดลมตีบจากการแพ้ (allergic bronchospasm) เป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาอย่างรีบด่วนในห้องฉุกเฉิน ภาวะผิดปกติของระบบเลือด (blood dysplasia) ภาวะชัก (convulsion) เป็นตัน 4.5 ภายหลังเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ หมายถึงภายหลังเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ได้มีการ หยุดใช้ (dechallenge) หรือใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยต่อไป หรือทดลองใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยซ้ํา (rechallenge) หรือไม่มีการใช้ซ้ํา ทําเครื่องหมาย ในช่อง O และ O หยุดใช้ (Dechallenge) 1. อาการดีขึ้นอย่างชัดเจน (Definite improvement) หมายถึง เมื่อหยุดผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัย แล้วอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน 2. อาการไม่ดีขึ้น (No improvement) หมายถึง เมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยแล้วผู้ป่วยมี อาการไม่ดีขึ้น 3. ไม่ทราบ (Unknown) หมายถึง ไม่ทราบผลหรือไม่มขี ้อมูลของอาการอันไม่พึงประสงค์หลังจาก หยุดผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัย O ใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัยต่อไป หมายถึง ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัย ยังมีความจําเป็นสําหรับ ผู้ป่วยทําให้ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่สงสัยนั้นต่อไป 1. ใช้ต่อในขนาดเดิม 2. ใช้ต่อแต่ลดขนาดลง O ทดลองใช้ซ้ํา (Rechallenge) 1. เกิดอาการเดิมซ้ําขึ้นอีก (Recurrence of symptoms) หมายถึง เมื่อให้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ สงสัยซ้ําแล้วเกิด อาการอันไม่พึงประสงค์เดิมซ้ําอีก 2. ไม่เกิดอาการอีก (No recurrence) หมายถึง เมือ่ ให้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยแล้วไม่เกิดอาการ อันไม่พึงประสงค์นั้นอีก 3. ไม่ทราบ (Unknown) หมายถึง ไม่ทราบผล หรือไม่ มีข้อมูลอาการอันไม่พึงประสงค์หลังจากการ ให้ผลิตภัณฑ์สขุ ภาพที่สงสัยซ้าํ O ไม่มีการใช้ซ้ํา (no rechallenge performed) หมายถึงไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์สขุ ภาพที่ สงสัยซ้ํา 4.6 ผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นหลังเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
85
เทคนิค OSPE
1. หายเป็นปกติ โดยไม่มีร่องรอยเดิม หมายถึง ไม่มอี าการหรือร่องรอยท่เป็นผลจากการเกิดอาการ อันไม่พึง ประสงค์ 2. หายโดยมีร่องรอยเดิม หมายถึงว่า หายจากอาการอันไม่พึงประสงค์ แต่ยังมีรอ่ งรอยที่เป็นผลจาก การเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ทั้งนี้ ให้ระบุร่องรอยดังกล่าว เช่น ตาบอด 3. ยังมีอาการอยู่ หมายถึง ยังพบอาการอันไม่พึงประสงค์นั้นอยู่ในวันที่กรอกรายงาน 4. ตาย-เนื่องจากอาการอันไม่พงึ ประสงค์ หมายถึง อาการอันไม่พึงประสงค์นั้นเป็นต้นเหตุให้ผู้ป่วย เสียชีวิต ทั้งนี้ให้ระบุ วัน เดือน ปี ทีผ่ ู้ป่วยเสียชีวิต 5. ตาย-เนื่องจากอาจเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัย หมายถึง กรณีที่ปัจจัยที่ทําให้ผู้ป่ว เสียชีวิตมีหลายปัจจัยและหนึ่งในปัจจัยนั้น คืออาการอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ สงสัย 6. ตาย-เนื่องจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ระบุสาเหตุ) 7. ไม่สามารถติดตามผลได้ 5. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รายงาน 5.1 ระบุแผนกที่พบผู้ป่วย ชื่อผู้วินิจฉัยอาการ และชื่อผู้ประเมิน หรือผู้บันทึกรายงานลงใน ช่องว่าง 5.2 ระบุตําแหน่งของผู้วินิจฉัยอาการ และผู้ประเมินหรือผู้บันทึกรายงาน 6. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลหรือแหล่งที่รายงาน 6.1 เลขทีร่ ายงาน ให้แต่ละสถานพยาบาล ที่เป็นผู้บันทึกรายงานบันทึกเลขที่รายงาน ตาม รูปแบบ พ.ศ./เลขที่ เช่น 43/1 6.2 ว/ด/ป ทีบ่ ันทึกรายงาน ระบุวัน เดือน ปี ที่บันทึกรายงานฉบับนั้น 6.3 ชื่อสถานพยาบาล/แหล่งที่รายงาน ระบุชื่อสถานพยาบาล/แหล่งที่รายงาน 6.4 จังหวัด ระบุชื่อจังหวัดของสถานพยาบาล/แหล่งที่รายงานนั้น 7. ผลการประเมินความสัมพันธ์ของผลิตภัณฑ์กับอาการอันไม่พึงประสงค์ หมายถึง ให้เลือกผลการประเมินความเชื่อมั่นของความสัมพันธ์ระหว่างผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัย กับ อาการอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ ทําเครื่องหมาย ในช่อง Certain (ใช่แน่นอน) หมายถึงกรณีที่อาการอันไม่พึงประสงค์ (อาการทางคลินิก รวมทั้งผลที่ ผิดปกติทางห้องปฏิบัติการ) มีลักษณะดังนี้ (1) เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และ (2) ไม่สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือยาหรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมและ (3) เมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพแล้วอาการอันไม่พึงประสงค์ดีขึ้น หรือหายจากอาการนั้นอย่างเห็นได้ชัด และ (4) หากมีการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพซ้ําใหม่ จะต้องเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ที่สามารถอธิบายด้วยฤทธิ์ ทางเภสัชวิทยาหรือเป็นอาการอันไม่พึงประสงค์ที่ปรากฏเห็นชัด Probable (น่าจะใช่) หมายถึงกรณีที่อาการอันไม่พึงประสงค์ (อาการทางคลินิกรวมทั้งผลทีผ่ ิดปกติ ทางห้องปฏิบัติการ) มีลักษณะดังนี้ (1) เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และ (2) ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับโรคที่เป็นอยู่ หรือยาหรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ใช้ร่วม และ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
86
เทคนิค OSPE
(3) เมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาการอันไม่พึงประสงค์ดีขึ้นหรือหายจากอาการนั้น แต่ (4) ไม่มีข้อมูลของการให้ซ้ํา Possible (อาจจะใช่) หมายถึง กรณีที่อาการอันไม่พึงประสงค์ (อาการทางคลินิกรวมทั้งผลที่ ผิดปกติทางห้องปฏิบัติการ) มีลักษณะดังนี้ (1) เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่สอดคล้องกับการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ แต่ (2) อาจสามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือยาหรือสารเคมีอื่น ๆ ทีใ่ ช้ร่วม และ (3) ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ หรือมีแต่ข้อมูลไม่สมบูรณ์ Unlikely (สงสัย) หมายถึง กรณีที่อาการอันไม่พึงประสงค์ (อาการทางคลินิกรวมทั้งผลทีผ่ ิดปกติ ทางห้องปฏิบัติการ) มีลักษณะดังนี้ (1) เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ไม่สอดคล้องกับระยะเวลาการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และ (2) สามารถอธิบายด้วยโรคที่เป็นอยู่ หรือยาหรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมได้อย่างชัดเจน ตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์มการรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากผลิตภัณฑ์สุขภาพในร้านยา
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
87
เทคนิค OSPE
คําแนะนําในการกรอกแบบรายงานอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพสําหรับ ร้านยา 1.การกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผูป้ ่วย 1.1 ประวัติการแพ้ผลิตภัณฑ์ ทําเครื่องหมาย ในช่อง ไม่มี หมายถึง ผู้ป่วยไม่เคยเกิดอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ มี (ระบุ) 2.การกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่สงสัยและใช้ร่วม 2.1 ผลิตภัณฑ์ที่สงสัย หมายถึง ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยว่าอาจทําให้เกิดปัญหาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ 2.2 ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ร่วม หมายถึง ผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ที่ใช้ร่วมกัน 2.3 ลักษณะผลิตภัณฑ์ (รูปแบบ) ทําเครื่องหมาย ในช่อง 2.4 ขนาดความถี่และวิธีใช้ หมายถึง ให้ระบุความแรงต่อรูปแบบของผลิตภัณฑ์สุขภาพ และปริมาณ หน่วย ความถี่ และวิธีการใช้ เช่น 500 mg./tablet,1 tablet 3 times per day, per oral 2.5 ว/ด/ป ที่เริ่มใช้ หมายถึง ให้ระบุวันเดือนปี ที่เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น 2.6 แหล่งที่ได้รับผลิตภัณฑ์ หมายถึง ให้ระบุวันเดือนปีที่หยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น กรณีใช้ต่อเขียน "Continue" 2.7 แหล่งที่ได้รับผลิตภัณฑ์ หมายถึง ให้ระบุหมายเลขหรือระบุรายละเอียดตามแหล่งทีผ่ ู้ป่วยได้รับ ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้นมา 3.การกรอกข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ 3.1 ปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์ ทําเครื่องหมาย ในช่อง และบรรยายอาการแสดงที่เกิดขึ้น 3.2 ถ้าทําเครื่องหมาย ในช่อง อื่น ๆ (ระบุ) หมายถึง ระบุปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ไม่ได้ ผลการรักษา ตามที่แจ้งไว้บนฉลาก 3.3 อาการแสดงปรากฏหลังใช้ผลิตภัณฑ์ หมายถึง ให้ระบุจํานวนชั่วโมงหรือวันที่พบปัญหา จากการใช้ ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้นในผู้ป่วย 3.4 ระบุความรุนแรงของอาการ ทําเครื่องหมาย ในช่อง 3.5 ภายหลังเกิดอาการ หมายถึง ภายหลังเกิดปัญหาจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพนั้น ให้ทําเครื่องหมาย ในช่อง 3.5.1 ถ้าหยุดใช้ ให้เลือกหัวข้อต่อไปนี้ อาการดีขึ้นอย่างชัด หมายถึง เมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์สขุ ภาพที่สงสัยแล้ว ปัญหาหรืออาการที่เกิดขึ้นดี ขึ้นอย่างชัด อาการไม่ดีขึ้น หมายถึง เมื่อหยุดใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยแล้ว ผู้ปว่ ยมีปัญหาหรืออาการไม่ดีขึ้น 3.5.2 ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ซ้ํา ให้เลือกหัวข้อต่อไปนี้ เกิดอาการซ้ํา หมายถึง เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยแล้วเกิดปัญหา หรืออาการอันไม่พึงประสงค์ เดิมซ้ําอีก ไม่เกิดอาการซ้ํา หมายถึง เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สงสัยแล้วไม่พบปัญหา หรือไม่เกิดอาการอันไม่พึง ประสงค์นั้นอีก Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
88
เทคนิค OSPE
4. การกรอกข้อมูลข้อเสนอแนะ (ร้านยา) ทําเครื่องหมาย ในช่อง หรือระบุรายละเอียด ในช่อง จ่ายยาหรืออื่น ๆ …….. 5. การกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผูร้ ายงาน ให้ระบุรายละเอียดของผู้กรอกหรือเขียนรายงาน 6. การกรอกผลการประเมินความสัมพันธ์ ทําเครื่องหมาย ในช่อง คําแนะนําในการกรอกแบบรายงาน 1. ผลิตภัณฑ์สขุ ภาพ หมายถึง อาหาร ยา เครื่องสําอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน และสาธารณสุข วัตถุเสพติด และ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท 2. ผลการประเมินความสัมพันธ์ หมายถึง การประเมินความสัมพันธ์ของอาการที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ ระหว่างอาการอันไม่พึงประสงค์กับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่สงสัยแบ่งเป็น 4 ระดับ ดังนี้ Certain หมายถึงใช่แน่นอน โดยมีลักษณะดังนี้ 1) เวลาของอาการที่เกิดสัมพันธ์กับการใช้ (อาการเกิดหลังจากใช้) 2) เคยพบ (ทราบ) อาการดังกล่าวมาก่อน 3) หยุดใช้แล้วอาการหายไป 4) เมื่อเริ่มใช้อาการกลับมาเป็นใหม่ 5) ไม่ใช่อาการของโรคที่เป็นอยู่ Probable หมายถึง น่าจะใช่ โดยมีลักษณะดังนี้ 1) เวลาของอาการที่เกิดสัมพันธ์กับการใช้ 2) เคยพบ (ทราบ) อาการดังกล่าวมาก่อน 3) หยุดใช้อาการหายไป 4) ไม่มีข้อมูลการเริ่มใช้ใหม่ 5) ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอาการของโรคที่เป็นอยู่ Possible หมายถึง อาจจะใช่ โดยมีลักษณะดังนี้ 1) เวลาของอาการที่เกิดสัมพันธ์กับการใช้ 2) เคยพบ (ทราบ) อาการดังกล่าวมาก่อน 3) ไม่มีข้อมูลการหยุดใช้หรือเริ่มใช้ใหม่ 4) อาจเกิดจากอาการของโรคที่เป็นอยู่ Unlikely หมายถึง สงสัย โดยมีลักษณะดังนี้ 1) เวลาของอาการที่เกิดไม่สมั พันธ์กับการใช้ 2) ไม่เคยพบ (ทราบ) อาการดังกล่าวมาก่อน 3) ไม่มีข้อมูลการหยุดใช้หรือเริ่มใช้ใหม่ 4) อาจเกิดจากอาการของโรคที่เป็นอยู่
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
O S P E
เทคนิค OSPE
89
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์
การใช้ยาในสตรีตั้งครรภ์ ยาเกือบทุกชนิดมีผลต่อทารกในครรภ์ เนื่องจากสามารถผ่านทางรกได้ โดยระดับยาในทารกมีค่าประมาณ ร้อยละ 50-100 ของระดับยาในมารดา ยาจะผ่านรกเข้าสู่กระแสเลือดทารกทางหลอดเลือดดําและทางสายสะดือ จากนั้นยาร้อยละ 40-60 จะผ่านตับของทารกเกิดการทําลาย (metabolite) ยาบางส่วนก่อนที่จะไปสู่อวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย ผลข้างเคียงและฤทธิ์ของยาต่อทารกในครรภ์จะพบรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากทารกมียาในรูปอิสระ ใน กระแสเลือดมากกว่า ทั้งนี้เพราะโปรตีนในพลาสมาของทารกมีน้อยกว่า การกระจายยามีมากกว่า การซึมผ่านของ ยาเข้าสู่เนื้อเยื่อต่าง ๆ ทําได้ดีกว่า การทํางานของตับ/ไต ยังไม่สมบูรณ์ตอ้ งอาศัยรกเป็นตัวกําจัดยา
อายุครรภ์ของทารกขณะสัมผัสยา 1. Pre-implantation period คือ ระยะตั้งแต่ปฏิสนธิถึงก่อนการฝังตัวของ Blastocystในโพรงมดลูก (2 สัปดาห์หลังปฎิสนธิ) การสัมผัสยาในช่วงนี้มีผลต่อเซลล์ตัวอ่อนในแบบ All or none response คือ อาจ ทําให้เซลล์ถูกทําลายทั้งหมดแล้วแท้งออกมา หรือ ไม่ถกู ทําลายแล้วสามารถตั้งครรภ์ได้ต่อไป โดยไม่มีความ พิการของทารก 2. Embryonic period คือ ระยะตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2-8 หลังปฏิสนธิ เป็นระยะเวลาสําคัญสุด เนือ่ งจากมี การแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นอวัยวะสําคัญ ผลของยาอาจรุนแรงจนทําให้ตัวอ่อนตายหรือพิการ 3. Fetal period คือ ระยะตั้งแต่อายุครรภ์ 9 สัปดาห์หลังปฏิสนธิ จนถึงทารกคลอดครบกําหนด เป็นระยะเวลาที่ทารกสร้างอวัยวะสําคัญต่าง ๆ เกือบเสร็จสมบูรณ์ ผลของยาจึงอาจเป็นเพียงเข้าไป หยุดการ เจริญเติบโตทําให้เกิดภาวะการเติบโตช้าในครรภ์ สมองเสื่อม ทารกน้ําหนักน้อย หรือการทํางานของอวัยวะ บางอย่างบกพร่องเท่านั้น
การแบ่งชนิดของยาที่ใช้ในขณะตั้งครรภ์ตามผลที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ เป็น 5 กลุ่มดังนี้ Pregnancy Category A หมายถึง ยาทีไ่ ม่พบว่ามีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์เลย จากการศึกษาทดลองแบบ ควบคุมในมนุษย์ เช่น วิตามินชนิดต่าง ๆ Pregnancy Category B หมายถึง ยาที่ไม่พบความเสี่ยงต่อตัวอ่อนจากการศึกษาในสัตว์ทดลอง แต่ยังไม่มี การศึกษาแบบควบคุมในมนุษย์ หรือยาที่พบว่ามีผลเสียต่อตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง แต่ยังไม่พบว่ามีผลเสียต่อ ทารก ในมนุษย์จากการศึกษาแบบควบคุม เช่น ยาปฎิชีวนะในกลุ่ม Penicillins Pregnancy Category C หมายถึง ยาที่ยังไม่มีผลการศึกษาที่เพียงพอ ทั้งในสัตว์ทดลองและมนุษย์หรือ ยาที่ พบว่ามีผลเสียต่อตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง แต่ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอในมนุษย์ เช่น Amitriptyline, Norfloxacin Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
90
Pregnancy Category D หมายถึง ยาทีม่ ีหลักฐานว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการในครรภ์ แต่ผลดีจาก การใช้ยามีมากกว่าความเสี่ยงนั้น เนื่องจากจําเป็นต้องใช้ยาเพื่อความปลอดภัยของมารดาเช่น Lithium Carbonate, Phenytoin ,Phenobarbital ,Nortryptyline Pregnancy Category X หมายถึง ยาทีม่ ีความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการในทารก และความเสี่ยงนั้นมีมากกว่า ผลดีจากการใช้ยา จึงเป็นกลุ่มยาที่ห้ามใช้โดยเด็ดขาดขณะตั้งครรภ์ เช่น Simvastatin , Quinine Sulfate ,ProgynovaR , Oxytocin , Warfarin อย่างไรก็ตาม ยาตัวเดียวกันหากมีการใช้ในแต่ละไตรมาสของการตั้งครรภ์ จะมีผลแตกต่างกันในการทํา ให้เกิดความพิการต่อทารกในครรภ์ เช่น ยาแก้ปวด บรรเทาอาการอักเสบ Diclofenac ทั้งชนิดกินและฉีด จัดเป็น Pregnancy Category B แต่เมื่อใช้ในไตรมาสที่ 3 จะจัดเป็น Pregnancy Category D และยาสเตอรอยด์ Dexamethasone จัดเป็น Pregnancy Category C แต่เมื่อใช้ในไตรมาสที่ 1 จะจัดเป็น Pregnancy Category D การใช้ยาในสตรีตั้งครรภ์ จึงควรใช้ในกรณีจาํ เป็นและมีข้อบ่งชี้เท่านั้น โดยควรคํานึงถึงผลดีและผลเสีย ของยาที่ใช้ ตลอดจนใช้ยาในขนาดที่น้อยที่สุดเท่าที่จะได้ประสิทธิภาพในการรักษา
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง กฎหมายเกี่ยวกับยา
เกณฑ์มาตรฐานข้อ 8: มีความรู้ทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม วัตถุประสงค์เชิงทักษะ สามารถนําข้อกําหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ และมาใช้ในการประกอบ วิชาชีพเภสัชกรรม ตารางกําหนดด้านทักษะ 1. เมื่อเห็นผลิตภัณฑ์หนึ่ง ๆ สามารถบอกได้ว่าเป็น ยา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและ ประสาท อาหาร เครื่องสําอาง เครื่องมือแพทย์ สารระเหย หรือวัตถุอันตรายตามกฎหมายในปัจจุบัน 2. สามารถจัดประเภทยา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท อาหาร เครื่อง สําอาง และ เครื่องมือแพทย์ ตามกฎหมาย (เช่นจําแนกได้ว่า เป็น ยาควบคุมพิเศษ ยา อันตราย ยาสามัญประจําบ้าน ยา สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ เภสัชเคมีภัณฑ์ และยาที่ต้องติดตามการใช้ในสถานพยาบาล หรือเป็น ยาเสพติดประเภท 1, 2, 3, 4 หรือ 5) 3. เมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ สามารถอธิบายข้อกําหนดของกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นในเรื่องการผลิต ขาย นํา หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่ง ยา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท อาหาร เครื่องสําอาง และ เครื่องมือแพทย์ 4. สามารถอธิบายหน้าที่ตามกฎหมายของเภสัชกรในเรื่องการควบคุมการผลิต ขาย นํา หรือสั่งเข้ามาใน ราชอาณาจักรซึ่ง ยา ยาเสพติดให้โทษ และ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
91
เทคนิค OSPE
5. สามารถอธิบายนิยามของยาที่ห้ามการผลิต ขาย นํา หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร (เช่น ยาปลอม ยา ผิดมาตรฐาน ยาชุด เป็นต้น) 6. สามารถอธิบายข้อกําหนดของกฎหมายในเรื่องการโฆษณายา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท อาหาร เครื่องสําอาง และ เครื่องมือแพทย์ 7. สามารถอธิบายได้ว่าเภสัชกรในตําแหน่งใดบ้างที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยยา ยาเสพ ติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท อาหาร เครื่องสําอาง และ เครื่องมือแพทย์ รายละเอียดทักษะ 1. การจําแนกว่า ผลิตภัณฑ์หนึ่ง ๆ เป็น ยา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท อาหาร เครื่องสําอาง เครื่องมือแพทย์ สารระเหย หรือวัตถุอันตรายตามกฎหมายในปัจจุบัน หลักเกณฑ์การแยกชนิดผลิตภัณฑ์ อาศัยนิยามผลิตภัณฑ์สุขภาพชนิดต่าง ๆ ตามที่กําหนดไว้ใน กฎหมายเฉพาะเรื่องนั้น ๆ เช่น มาตรา 4 ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ระบุว่า "ยา" หมายความว่า (1) วัตถุที่รับรองไว้ในตํารายาที่รัฐมนตรีประกาศ (2) วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ในการวินิจฉัย บําบัด บรรเทา รักษาหรือป้องกันโรค หรือความ เจ็บป่วยของมนุษย์หรือสัตว์ (3) วัตถุที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ หรือเภสัชเคมีภัณฑ์กึ่งสําเร็จรูป หรือ (4) วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับให้เกิดผลแก่สุขภาพ โครงสร้าง หรือการกระทําหน้าที่ใด ๆ ของ ร่างกายมนุษย์หรือสัตว์ วัตถุตาม (1) (2) หรือ (4) ไม่หมายความรวมถึง (ก) วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ในการเกษตร หรืออุตสาหกรรมตามที่รัฐมนตรีประกาศ (ข) วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้เป็นอาหารสําหรับมนุษย์ เครื่องกีฬา เครื่องมือ เครื่องใช้ในการส่งเสริม สุขภาพ เครื่องสําอาง หรือเครื่องมือ และส่วนประกอบของเครื่องมือที่ใช้ในการประกอบโรคศิลปะหรือวิชาชีพเวช กรรม (ค) วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ในงานวิทยาศาสตร์สําหรับการวิจัย การวิเคราะห์หรือการชันสูตรโรคซึ่งมิได้ กระทําโดยตรงต่อร่างกายของมนุษย์ จากมาตรา 4(2) ผงเกลือแร่จะจัดเป็นยาหากโฆษณาว่าใช้สําหรับบรรเทา หรือรักษาอาการท้องร่วง แต่จะ จัดเป็นอาหารหากโฆษณาว่าใช้สําหรับทดแทนการสูญเสียน้ําเนื่องจากการออกกําลังกาย 2. การจัดประเภทยา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท อาหาร เครื่องสําอาง และ เครื่องมือแพทย์ ตามกฎหมาย (เช่น จําแนกได้ว่าเป็นยาควบคุมพิเศษ ยาอันตราย ยาสามัญประจําบ้าน ยา สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ เภสัชเคมีภัณฑ์ และยาที่ต้องติดตามการใช้ในสถานพยาบาล หรือเป็น ยาเสพติดประเภท 1, 2, 3, 4 หรือ 5)
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
92
เทคนิค OSPE
หลักเกณฑ์การแยกประเภท ศึกษาจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยเน้นตัวยาที่ใช้บ่อย เช่น ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 กําหนดให้ยาแก้ไอน้ําดําขนาด 60 มิลิลิตร เป็นยาสามัญประจําบ้าน หรือ ให้ยาสเตียรอยด์ครีมเป็นยาอันตราย แต่ยาเม็ดสเตียรอยด์เป็นยาควบคุมพิเศษ อีกตัวอย่างคือพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ที่กําหนดให้ยาเสพติดที่ไม่มีประโยชน์ แต่ทํา ให้เสพติดได้อย่างรุนแรงเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เช่น ยาบ้า เฮโรอีน) ยาเสพติดที่มีประโยชน์ทาง การแพทย์ แต่ทําให้เสพติดได้อย่างรุนแรง เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 (เช่น มอร์ฟีน เมทาโดน) ยาเสพติด ในรูปยาสําเร็จรูปที่มียาเสพติดให้โทษในประเภท 2 เป็นส่วนประกอบ ถือเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 (เช่น ยาแก้ไอผสมโคดิอีน ยาแก้ไอน้ําดําขนาดเกินกว่า 60 มิลลิลิตร) ส่วนสารตั้งต้น หรือเคมีจําเป็นในการผลิต ยาเสพติดถือเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 (เช่น lysergic acid, glacial acetic acid เป็นต้น) ยาเสพติดให้ โทษในประเภท 5 คือพืช หรือส่วนของพืชที่มีฤทธิ์เป็นยาเสพติด (เช่น เห็ดขี้ควาย กระท่อม กัญชา เป็นต้น) 3. ข้อกําหนดของกฎหมายในเรื่องการผลิต ขาย นํา หรือสัง่ เข้ามาในราชอาณาจักรซึ่ง ยา ยาเสพติดให้ โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท อาหาร เครื่องสําอาง และ เครื่องมือแพทย์ ทักษะนี้มีได้โดยการศึกษาข้อ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 12 ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขาย หรือนําหรือสั่งเข้ามาใน ราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต และ มาตรา 13 บทบัญญัตมิ าตรา 12 ไม่ใช้บังคับแก่ (1) การผลิตยาซึง่ ผลิตโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหน้าที่ปอ้ งกันหรือบําบัดโรค สภากาชาดไทย และ องค์การเภสัชกรรม (2) การผลิตยาตามใบสั่งยาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือของผู้ประกอบโรคศิลปะที่สั่งสําหรับ คนไข้เฉพาะราย หรือตามใบสั่งยาของผู้ประกอบการบําบัดโรคสัตว์สําหรับเฉพาะราย (3) การขายยาสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาอันตราย การขายยาสามัญประจําบ้าน การขายยาซึ่งผู้ประกอบ วิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขาทันตกรรมขายเฉพาะสําหรับคนไข้ของตน หรือการขายยาซึ่ง ผู้ประกอบการบําบัดโรคสัตว์ขายสําหรับสัตว์ซึ่งตนบําบัดหรือป้องกันโรค หรือการขายยาซึ่งขายโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหน้าที่ป้องกันหรือบําบัดโรค สภากาชาดไทยและองค์การเภสัชกรรม (4) การนํายาติดตัวเข้ามาในราชอาณาจักร ซึง่ ไม่เกินจํานวนที่จําเป็นจะต้องใช้เฉพาะตัวได้สามสิบวัน (5) การนําหรือสัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหน้าที่ป้องกันหรือบําบัดโรค สภากาชาดไทย และองค์การเภสัชกรรม จากมาตรา 13 สรุปได้ว่าการขายยาสามัญประจําบ้าน และยาสมุนไพรที่ไม่ใช่ยาอันตราย สามารถทําได้เลย โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตใด ๆ 4. หน้าที่ตามกฎหมายของเภสัชกรในเรื่องการควบคุมการผลิต ขาย นํา หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่ง ยา ยาเสพติดให้โทษ และ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท ทักษะนี้มีได้โดยการศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 37 ของพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 กําหนดให้เภสัชกรผู้มีหน้าที่ควบคุมการ จําหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 ปฏิบัติดังต่อไปนี้ (1) ควบคุมการแยกเก็บยาเสพติดให้โทษในประเภท 3 (2) ควบคุมการปฏิบตั ิตามมาตรา 31 (3) ว่าด้วยเรื่องฉลากยา Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
93
เทคนิค OSPE
(3) ควบคุมการจําหน่ายให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ (4) ต้องอยู่ประจําควบคุมกิจการตลอดเวลาที่เปิดทําการ หรือ มาตรา 28 ของพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ให้ผู้รับอนุญาตจําหน่าย หรือมีไว้ใน ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ปฏิบัติดังต่อไปนี้ (1) จัดเก็บรักษายาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ไว้เป็นสัดส่วนในที่เก็บซึ่งมั่นคงแข็งแรงและมีกุญแจใส่ไว้ หรือเครื่องป้องกันอย่างอื่นที่มีสภาพเท่าเทียมกัน (2) ในกรณีที่ยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ถูกโจรกรรม หรือสูญหายหรือถูกทําลาย ต้องแจ้งเป็นหนังสือ ให้ผู้อนุญาตทราบโดยมิชักช้า 5. การจําแนกผลิตภัณฑ์ยาหนึ่ง ๆ ว่าเป็นยาที่ห้ามการผลิต ขาย นํา หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร ใน ประเภทใด (เช่นยาปลอม ยาผิดมาตรฐาน ยาชุด เป็นต้น) ทักษะนีม้ ีได้โดยศึกษาจากนิยามยาที่ห้ามการผลิต ขาย นํา หรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรในประเภทต่าง ๆ ของหมวดที่ 8 ในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 เช่น มาตรา 75 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ขายยาบรรจุเสร็จหลายขนานโดยจัดเป็นชุดในคราวเดียวกัน โดยมีเจตนาให้ผู้ ซื้อใช้ร่วมกันเพื่อบําบัด บรรเทา รักษาหรือป้องกันโรค หรืออาการของโรคใดโรคหนึ่งโดยเฉพาะ ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่เภสัชกรชั้นหนึ่ง ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะใน สาขาทันตกรรม ซึ่งขายเฉพาะสําหรับคนไข้ของตนและผู้ประกอบการบําบัดโรคสัตว์ ซึ่งขายสําหรับสัตว์ซึ่งตน บําบัด หรือ มาตรา 73 ยาหรือวัตถุต่อไปนี้เป็นยาปลอม (1) ยาหรือวัตถุทที่ ําเทียมทั้งหมดหรือแต่บางส่วนว่าเป็นยาแท้ (2) ยาที่แสดงชื่อว่าเป็นยาอื่นหรือแสดงเดือน ปี ที่ยาสิ้นอายุ ซึ่งมิใช่ความจริง (3) ยาที่แสดงชื่อหรือเครื่องหมายของผู้ผลิตหรือที่ตั้งสถานที่ผลิตยา ซึ่งมิใช่ความจริง (4) ยาที่แสดงว่าเป็นยาตามตํารับยาที่ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งมิใช่ความจริง (5) ยาทีผ่ ลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามมาตรฐานถึงขนาดที่ปริมาณ หรือความแรงของสารออกฤทธิ์ขาดหรือ เกินกว่ารัอยละยี่สิบจากเกณฑ์ต่ําสุดหรือสูงสุด ซึ่งกําหนดไว้ในตํารับยาที่ขึ้นทะเบียนไว้ตามมาตรา 79 6. ข้อกําหนดของกฎหมายในเรื่องการโฆษณายา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท อาหาร เครื่องสําอาง และ เครื่องมือแพทย์ ทักษะนี้สามารถมีได้โดยศึกษาจากข้อกําหนดดังกล่าวในกฎหมายที่ เกี่ยวข้อง เช่นการโฆษณายา อาหาร และเครื่องมือแพทย์จะต้องขออนุญาตจาก อย. ก่อนเสมอ แต่การโฆษณา เครื่องสําอางไม่ต้องขออนุญาตจาก อย. ก่อน แต่ต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค การโฆษณายาเสพติดให้โทษต่อสาธารณชนจะทําไม่ได้เลย แต่ทํากับบุคลากรทางสาธารณสุขที่กําหนดไว้ ใน กฎหมายได้ (เช่น แพทย์ เภสัชกร ฯลฯ) 7. เภสัชกรที่มตี ําแหน่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยยา ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อ จิต และประสาท อาหาร เครื่องสําอาง และ เครื่องมือแพทย์
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
94
เทคนิค OSPE
จากประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่เกีย่ วข้องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช่นประกาศกระทรวง สาธารณสุข (ฉบับที่ 33) พ.ศ. 2545 เรื่องแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติยา พ. ศ. 2510 กําหนดให้บุคคลต่อไปนี้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ (ยกตัวอย่างมาบางส่วน) (8) เภสัชกร กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค และเภสัชสาธารณสุข สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด เฉพาะในเขต จังหวัดที่ตนมีอํานาจหน้าที่ดูแล และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ (9) เภสัชกร ตําแหน่งสําหรับงานในราชการการบริหารส่วนภูมิภาค (ส่วนกลาง) ที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงาน คุ้มครองผู้บริโภค และเภสัชสาธารณสุข สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด เฉพาะในเขตจังหวัดที่ตนมีอํานาจหน้าที่ดูแล และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ (10) สาธารณสุขอําเภอ และกิ่งอําเภอ หรือเจ้าหน้าที่บริหารงานสาธารณสุขตั้งแต่ระดับ 6 ขึ้นไป เฉพาะ ในเขตจังหวัดที่ตนมีอํานาจหน้าที่ดูแล และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ (11) เภสัชกรหัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมชุมชน และเภสัชกรที่ได้รับมอบหมายในโรงพยาบาลชุมชน เฉพาะใน เขตอําเภอที่ตนมีอํานาจหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ (12) เภสัชกร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม และเภสัชกรที่ได้รับมอบหมายในโรงพยาบาลทั่วไป หรือใน โรงพยาบาลศูนย์เฉพาะในอําเภอนอกเขตอําเภอเมืองที่ไม่มีโรงพยาบาลชุมชนตั้งอยู่ ซึ่งตนมีอํานาจหน้าที่ดูแลและ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ
ยาที่ให้นั้นเภสัชกรสามารถจ่ายได้หรือไม่ ต้องรู้จักประเภทของยาว่าเป็นประเภทใด เภสัชสามารถจ่ายได้หรือไม่ 1. ยาอันตราย จ่ายได้โดยไม่มีใบสั่งแพทย์ แต่ผู้จ่ายต้องเป็นเภสัชกร 2. ยาควบคุมพิเศษ จ่ายได้เมื่อมีใบสั่งแพทย์ และผู้จา่ ยต้องเป็นเภสัชกร (ยกเว้นยาบางตัว เช่น Roaccutane เป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องจ่ายโดยแพทย์เฉพาะทาง ไม่สามารถขายได้ในร้านยา) 3. ยาเสพย์ติดให้โทษ จ่ายได้โดยไม่มีใบสั่งแพทย์ และผู้จา่ ยต้องเป็นเภสัชกร และต้องทําบัญชีตรวจสอบ 4. วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จ่ายได้เมื่อมีใบสั่งแพทย์ และผู้จ่ายต้องเป็นเภสัชกร 5. ยาสามัญประจําบ้าน จ่ายได้โดยไม่มีใบสั่งแพทย์ ผูซ้ ื้อสามารถหยิบได้เอง * ที่สําคัญยานั้นต้องไม่หมดอายุ (ถ้ายาหมดอายุให้บอกว่าเป็นยาประเภทใด แต่หมดอายุแล้วจึงไม่สามารถ จ่ายได้)
ประเภทยา 1. P2 = Psychotropic Substance Schedule 2 ( วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ) ห้ามมี ในครอบครอง โรงพยาบาลสามารถซื้อโดยตรงจาก อย.Ex. Fentamine ,Midazolam,Ketamine 2. P3,P4 = Psychotropic Substance Schedule 3,4 (วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 3,4 ) เภสัชกรชั้น 1 สามารถขายได้ แต่ต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น และต้องทําบัญชีซื้อขาย เป็นรายเดือนและราย ปีEx. Alprazolam,Lorazepam,Diazepam 3. N3 = Nacrotic Drug Schedule 3 ( ยาเสพติดประเภท 3 ) เภสัชกรชั้น 1 สามารถขายได้ แต่ต้องมีการส่งมอบฉลาก และต้องทําบัญชีซื้อขาย เป็นรายเดือนและราย ปีEx. ยาแก้ไอที่มี codeine เป็นส่วนผสม 4. S = Special control Drug ( ยาควบคุมพิเศษ) เภสัชชั้น 1 สามารถขายได้ แต่ต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น และต้องทําบันทึกการซื้อขาย ทุกวัน Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
95
5. D=Dangerous Drug (ยาอันตราย) เภสัชชั้น 1 สามารถขายได้ ตลอดเวลาทําการ และต้องทําบันทึกการซื้อขาย ทุกวัน 6. NDD =Non Dangerous Drug ( ไม่ใช่ยาอันตราย) เภสัชชั้น 1,2 หรือบุคลากรทีเ่ กี่ยวข้องทางการแพทย์แผนปัจจุบันสามารถขายได้ 7. E-D = External use-Dangerous Drug ( ยาภายนอกที่เป็นยาอันตราย) เหมือน D 8. E =External use –Non Dangerous Drug ( ยาภายนอกที่ไม่ใช่ยาอันตราย) เหมือน NDD
วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (Psychotropic Substances) หมายถึงวัตถุที่เป็นยา หรือไม่ใช่ยาทีอ่ อก ฤทธิ์เจาะจงต่อระบบจิตและประสาท สามารถเปลี่ยนสภาพอารมณ์และจิตใจของผู้ที่ได้รบั วัตถุออกฤทธิ์เหล่านี้ ดังนั้นวัตถุออกฤทธิ์เหล่านี้ถึงแม้มีประโยชน์ทางการแพทย์มากมาย แต่โทษที่เกิดขึ้นหากใช้ไม่ถูกต้องก็มหาศาล เช่นกัน ดังนั้นการใช้วัตถุออกฤทธิ์จึงควรอยู่ในความดูแล ของแพทย์อย่างใกล้ชิด และต้องได้รับการกํากับดูแลอีก ระดับหนึ่งจากกระทรวงสาธารณสุข คําจํากัดความ ในพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 เรียกวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท อย่างสั้นๆว่า “วัตถุออกฤทธิ์” ซึ่งมีความหมายว่า วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทที่เป็นสิ่งธรรมชาติ หรือที่ได้ จากสิ่งธรรมชาติหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทที่เป็นวัตถุสังเคราะห์ ทั้งนี้ตามที่รัฐมนตรีประกาศในพระ ราชกิจจานุเบกษา การจัดแบ่งประเภท ในการจัดแบ่งประเภทของวัตถุออกฤทธิ์เพื่อการควบคุม พิจารณาจากความเสี่ยงของวัตถุออกฤทธิ์ นั้นต่อ การติดของประชากรและประโยชน์ในการรักษาโรค ตาม พรบ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 แบ่ง ประเภทของวัตถุออกฤทธิ์เป็น 4 ประเภท ดังนี้ วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 เป็นสารที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ยาในทางที่ผิด (Abuse) มีความเสี่ยง อันตรายต่อสุขภาพสูงและไม่มีการใช้ในทางการแพทย์ ยาส่วนใหญ่มีฤทธิ์หลอนประสาท ได้แก่ Cathinone, DET, DMHP, Etryptamine. Methcathinone, Mescaline, Mescaline derivatives, Mescaline analog, 4Methylaminorex, Parahexyl, PCE, PHP , Psilocine, Psilocybine, TCP, Tetrahydrocannabinol วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 เป็นยาที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ในทางที่ผิดสูง มีอันตรายต่อสุขภาพ มาก มีการใช้ในทางการแพทย์อยู่ในวงจํากัด ได้แก่ Amfepramone, Aminorex, Butorphanol, Brotizolam, Cathine, Ephedrine, Estazolam, Fencamfamin, Fenethyline, Flunitrazepam, Flurazepam, Haloxazolam, Ketamine, Loprazolam, Lormetazepam, Mazindol, Methylphenidate, Mesocarb, Midazolam, N-Ethylamphetamine, Nimetazepam, Nitrazepam, Pemoline, Phenylpropanolamine, Phencyclidine, Phendimetrazine, Phenthermine, Pipradol, Pseudoephedrine (ยกเว้นแต่ที่เป็นส่วนผสมในตํารับยาสูตรผสมและตํารับยาเสพติดให้โทษ), Quazepam, Secobarbitol, Temazepam, Triazolam, Zolpiden, Zopiclone, Zipeprol, Zaleplon Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
96
เทคนิค OSPE
วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 3 เป็นยาที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ในทางที่ผิดปานกลาง มีอันตรายต่อ สุขภาพปานกลาง แต่มีใช้ในทางการแพทย์มาก ได้แก่ Amobarbital, Buprenorphine, Butalbital, Cyclobarbital, Glutethimide, Meprobamate, Pentazocine, Pentobarbital วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 เป็นยาที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ในทางที่ผิดต่ํา มีความเสี่ยงอันตราย ต่อสุขภาพน้อย มีการใช้ในทางการแพทย์มาก ได้แก่ Allobarbital, Alprazolam, Barbital, Benzophetamine, Bromazepam, Butobarbital, Camazepam, Chloral hydrate, Chlordiazepoxide, Chlophentermine, Clobazam, Clorazepate, Clorazepam, Clotermine, Clotiazepam, Cloxazolam, Diazepam, Delorazepam, Ethchlovynol, Ethinamate, Ethyllofazepate, Fenproporex, Fludiazepam, Halazepam, Inorganic bromide, Ketazolam, Lorazepam, Medazepam, Mefenorex, Methyprylon, Methylphenobarbital, Nordazepam, Oxazepam, Oxazolam, Perlapine, Phenobarbital, Pinazepam, Prazepam, Propylhexedrine, Pyrovalerone, Secbutabarbital, SPA, Tetrazepam, Tofisopam
การควบคุมตามกฎหมาย วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ควบคุมการนําเข้าและจําหน่ายโดยกองควบคุมวัตถุเสพติด สํานักงาน คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจําหน่ายให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรค ศิลปแผนปัจจุบันชั้นหนึ่งในสาขาทันตกรรม และผู้ประกอบการบําบัดโรคสัตว์ชั้นหนึ่ง เพื่อใช้ประโยชน์ในการ รักษาพยาบาลสําหรับคนไข้หรือสัตว์ที่ตนบําบัดอยู่ โดยแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์สามารถมีวตั ถุออกฤทธิ์ ประเภท 2, 3 และ 4 ไว้ครอบครองได้ในปริมาณที่กําหนดเท่านั้น เช่น Midazolam ให้มีได้เพียง 15 กรัม Pseudoehpedrine ให้มีได้เพียง 120 กรัม, Phentermine ให้มีได้เพียง 15 กรัม Diazepam ให้มีได้เพียง 10 กรัม, Lorazepam ให้มีได้เพียง 2 กรัม Alprazolam ให้มีได้เพียง 1 กรัม เป็นต้น หากมีปริมาณที่ครอบครองเกิน กําหนด ก็มีการกําหนดบทลงโทษไว้เช่นกันเพราะถือว่าปริมาณส่วนเกิน เป็นการมีไว้เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต สําหรับร้านขายยาที่ได้รับใบอนุญาตแผนปัจจุบันแล้ว และมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติการตลอดเวลาทําการ สามารถขอรับใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 3 และ 4 ได้ แต่ห้ามจําหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 และ 2 โดยเด็ดขาด และในการจําหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 3 และ 4 นั้นมีการกําหนดเงื่อนไขไว้คือ (1) ขายให้แก่ หน่วยราชการตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเช่น สภากาชาด องค์การเภสัชกรรม (2) ขายโดยตรง ให้แก่แพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ (3) ขายให้ผมู้ ีใบสัง่ ยาของแพทย์ ทันตแพทย์ และสัตวแพทย์ โดยจ่ายตาม ใบสั่งยาได้เพียงครั้งเดียว ถ้าจ่ายซ้ําจะซ้ําได้ไม่เกิน 3 ครั้ง แต่ละครั้งจ่ายได้ไม่เกิน 30 วัน และใบสั่งแต่ละใบใช้ได้ไม่ เกิน 90 วันนับแต่วันที่ออก
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
97
บทกําหนดโทษ (ตาม พรบ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518) สําหรับวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 มีการกําหนดโทษไว้ดังนี้ ความผิด
บทกําหนดโทษ
ผลิต, ขาย, นําเข้า, ส่งออก
ระวางโทษจําคุก 5 ปี – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท – 400,000 บาท
ครอบครอง
ระวางโทษจําคุก 5 ปี – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท – 400,000 บาท
เสพ
ระวางโทษจําคุก 1 ปี – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท – 100,000 บาท
จูงใจ ชักนํา ยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ
ระวางโทษจําคุก 2 ปี – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท – 200,000 บาท
จูงใจ ชักนํา ยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ โดยเป็นการกระทําต่อหญิงหรือต่อบุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ระวางโทษจําคุก 3 ปี – ตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท – 500,000 บาท
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
98
สําหรับวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 3 และ 4 มีการกําหนดโทษไว้ดังนี้ ความผิด
บทกําหนดโทษ
ผลิต, ขาย, นําเข้า โดยไม่มีใบอนุญาต
ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ผลิต, ขาย, นําเข้า, เก็บไว้นอกสถานที่ที่ระบุไว้ใน ใบอนุญาต
ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ครอบครอง
ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทัง้ ปรับ
ไม่มีเภสัชกรอยู่ประจํา
ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทัง้ ปรับ
ใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทําลาย หรือไม่แสดงใบอนุญาตไว้โดยเปิดเผย
ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
เภสัชกรไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่กําหนด
ปรับ 10,000 บาท – 50,000 บาท
เอกสารอ้างอิง 1. พระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 2. http//www.moph.go.th
ประเภทของร้านขายยา ตามพระราชบัญญัติควบคุมการขายยา พ.ศ. ๒๔๗๙ แบ่งการขายยาเป็น ๓ ประเภท คือ ๑. ประเภท ก. ต้องมีเภสัชกรแผนปัจจุบันชั้น ๑ (เภสัชกรที่ตอ้ งอยู่ประจําที่ร้านตลอดเวลาที่ร้านเปิดทํา การ) ควบคุมกิจการจะผลิตและขายยาได้ทุกชนิด ๒. ประเภท ข. ต้องมีเภสัชกรแผนปัจจุบันชั้น ๒ (เภสัชกรทีอ่ ยู่ประจําร้านในช่วงเวลาที่กําหนด) ควบคุมกิจการ จะปรุงยาตามใบสั่งแพทย์ และขายยาอันตรายได้บางอย่าง ๓. ประเภท ค. เป็นร้านขายยาสําเร็จรูปที่ไม่มียาอันตรายผสมอยู่ ร้านนี้ถ้าเจ้าของร้านเป็นเภสัชกรแผน โบราณ ก็ผลิตยาแผนโบราณขายได้ ถ้าเจ้าของร้านเคยเป็นลูกจ้างทํางานอยู่ในร้านขายยามาไม่น้อยกว่า ๓ ปี สามารถรับยาสําเร็จรูปมาขายได้เท่านั้น ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติควบคุมการขายยา พ.ศ. ๒๔๙๓ เพิม่ การขายยาประเภทที่ ๔ คือ ประเภท ง. อนุญาตให้ผู้มใี บอนุญาตสามารถขายยานอกสถานที่ได้ ซึง่ ขัดกับพระราชบัญญัติ พ.ศ. ๒๔๗๙ ที่จํากัดมิให้มีการ ขายยานอกสถานที่ที่ได้รับอนุญาตจึงได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการขายยา พ.ศ. ๒๔๙๓ โดยกําหนดให้ยกเลิกการประกอบกิจการประเภท ง. ภายในปี ๒๕๐๐ Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
99
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ กําหนดว่าให้มีการควบคุมการขายยาโดยผู้รู้และต้องควบคุมการขายตลอดเวลาที่เปิดทําการโดยแบ่งร้าน ขายยาเป็น ๓ ประเภท คือ ๑. 'ขย.๑' เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน ควบคุมการขายยาโดยเภสัชกร ชั้น ๑ หรือชั้น ๒ ๒. 'ขย.๒' เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือควบคุมพิเศษ ควบคุม การขายยาโดยเภสัชกร ชั้น ๑ หรือชั้น ๒ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พยาบาล (ชั้น ๑) ผดุงครรภ์ (ชั้น ๑) หรือผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน ชั้น ๑ ในสาขาทันตกรรม ๓. 'ขย. ๓' เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จสําหรับสัตว์ ควบคุมการขายโดยเภสัชกรหรือ ผู้ประกอบการบําบัดโรคสัตว์ชั้น ๑ หรือชั้น ๒
O S P E
เทคนิคทางเภสัชกรรมปฎิบัติ เรื่อง การสืบค้นข้อมูล
เกณฑ์มาตรฐานข้อ 7: ให้ข้อมูลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ แก่ผู้รับบริการ ชุมชน และบุคลากรทางสาธารณสุขอย่างถูกต้องทันสมัย และเชื่อถือได้ วัตถุประสงค์เชิงทักษะ 1. สามารถสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เหมาะสม 2. มีกระบวนในการตอบคําถามทางยา ตารางกําหนดด้านทักษะ 1. กระบวนในการตอบคําถามทางยา 1.1 การถามข้อมูลพื้นหลังของคําถามอย่างเหมาะสม 1.2 สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เหมาะสม 1.3 เลือกหนังสือตําราตรงหรือมีคําตอบให้คําถามที่กําหนด 1.4 เลือกหรือใช้ฐานข้อมูลทุติยภูมิทางยาโดย การกําหนดคําสําคัญจากคําถามที่กําหนด การเลือกบทความที่น่าจะมีคําตอบ 1.5 การตอบตรงประเด็นโดยวาจาและ/หรือเขียนอย่างสั้น 1.6 การเขียนอ้างอิงตามหลักสากล
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
100
เทคนิค OSPE
1.1. การถามข้อมูลพืน้ หลังของคําถามอย่างเหมาะสม การสอบถามข้อมูลพืน้ ฐานของคําถามเพิ่มเติม แม้ว่าจะทราบว่าผู้ถามเป็นใครแล้วการจะตอบคําถาม ให้ ตรงประเด็นหรือให้ได้คําตอบถูกต้องตามที่ผู้ถามต้องการจริง ๆ ยังต้องอาศัยข้อมูลพื้นฐานบางประการเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ 2 ประการ คือ - ช่วยให้ผู้ปฏิบัติการเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคําถาม ทําให้ตอบได้ตรง มักพบเสมอว่าความ เข้าใจครั้งแรกของผู้รับคําถามอาจไม่ตรงกับเจตนาของผู้ถามจนได้ซักถามข้อมูลพื้นฐาน หรือข้อมูลเบื้องหลัง เพิ่มเติมแล้ว - ช่วยให้การค้นหาคําตอบมีเป้าหมายชัดเจน ทําให้ง่ายและเร็วกว่าเพราะทราบว่าควรจะเลือกเอกสารใด การซักถามข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติมต้องอาศัยทักษะจึงจะเกิดประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ดีอาจใช้แนวทางต่อไปนี้ ช่วย ในเบื้องต้นได้ ประการแรก คือ ต้องทราบว่าคําถามในเรื่องยานั้นเป็นปัญหาที่เกิดในผูป้ ่วยเฉพาะรายใดหรือไม่ ถ้าใช่สิ่ง ที่ควรถามต่อไปได้แก่ (1) ประวัติการเจ็บป่วย - เพศ, อายุ, น้ําหนัก - ประวัติการเจ็บป่วยโดยย่อ - สภาพของอวัยวะที่สําคัญ เช่น หัวใจ ตับ ไต (2) ประวัติการใช้ยา - ยาที่ผู้ป่วยได้รับในปัจจุบัน นอกจากชื่อยาแล้ว ควรถามถึงขนาดและวิธีใช้ยาด้วย - ประวัติการแพ้ยาของผู้ป่วย คําถามเหล่านี้จะทําให้เภสัชกรทราบภาวะปัจจุบันของผู้ป่วยพอสมควรที่จะประเมินปัญหาได้ถูกต้อง ประมวล คําตอบได้ตรงเป้า และอาจเป็นเครื่องบ่งชี้แนวทางการค้นหาคําตอบได้ง่ายขึ้น ประการที่สอง ต่อมานั้นจะเป็นคําถามเฉพาะตามประเภทของคําถาม ตัวอย่างต่อไปนี้ไม่จําเป็นต้องถาม เรียงหรือถามทุกข้อทุกครั้ง แล้วแต่ลักษณะของคําถาม แต่ทุกครั้งควรทราบว่า สําหรับผู้ป่วยเฉพาะรายหรือไม่ (1) คําถามเพื่อการพิสูจน์เอกลักษณ์หรือรูปแบบกับความแรงที่มีจําหน่าย : ยานั้นใช้เพือ่ อะไร โรคอะไร : ทราบชื่อหรือไม่ เช่น ชื่อการค้า ชื่อทั่วไป : ยาของบริษทั ใด : ได้ยามาจากไหน ประเทศ โรงพยาบาล ? (2) คําถามเกี่ยวกับขนาดใช้ยา ในเรื่องนี้จําเป็นมากที่ต้องทราบในกรณีที่เป็นคําถามทีน่ ําไปใช้กับผู้ป่วย : คําถามพื้นฐานสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย : ขนาดยาในโรคหรืออาการใด (3) คําถามประเภทปฏิกิริยาระหว่างยากับยา อาหาร หรือผลทางห้องปฏิบัติการและอาการไม่พึงประสงค์ ของยา : คําถามพื้นฐานสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย : ขนาดและกําหนดการให้ยาทุกขนานในปัจจุบนั : อาการหรืออาการแสดงที่สงสัยว่าจะเกิดจากปฏิกิริยานั้น : อาการนั้นเกิดเมื่อไหร่ หลังได้ยานานเท่าไหร่ : การแก้ไขอาการจนถึงปัจจุบัน Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
101
(4) คําถามประเภทเภสัชจลนศาสตร์และชีวเภสัชกรรม และการบําบัดทางยา ลักษณะคําถามเช่น เดียวกับคําถามพื้นฐานสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย (5) คําถามประเภทอาการพิษและการบําบัด : คําถามพื้นฐานสําหรับผู้ป่วยเฉพาะราย : อาการที่เกิด : ยาหรือสารเคมีที่สงสัยว่าจะก่อให้เกิดอาการพิษ : ปริมาณ ระยะเวลา และวิธีการที่ผู้ป่วยได้รับสารพิษ : การแก้ไขอาการจนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าปัญหาที่มีลักษณะจําเป็นต้องถามข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติมมักเป็นคําถามในกรณีที่เกิดกับผู้ป่วย เฉพาะรายจึงมักต้องถามประวัติการเจ็บป่วยและการใช้ยาเสมอ 1.2 สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลทีเ่ หมาะสม การสืบค้นข้อมูลเพื่อตอบคําถามต้องสืบค้นจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และเหมาะสมกับคําถาม 1.3 เลือกหนังสือตําราตรงหรือมีคําตอบให้คําถามที่กําหนด หนังสือที่มีการใช้ในการตอบคําถามบ่อย มีดังนี้ 1. Handbook of Clinical Drug Data 2. British National Formulary (BNF) 3. Drug Facts and Comparisons 4. Drug Information Handbook 5. Medication Teaching Manual: The guide to patient drug information 6. Martindale: The Extra Pharmacopoeia 7. USP DI 8. MIMS and MIMs Annual (ตอบข้อมูลยาที่มีจําหน่ายในประเทศไทย/การพิสูจน์เอกลักษณ์) 9. Pharmacotherapy: A Pathophysiologic Approach 1.4 เลือกหรือใช้ฐานข้อมูลทุติยภูมิทางยาโดยการกําหนดคําสําคัญจากคําถามที่กําหนด เทคนิคการกําหนดคําสําคัญเพื่อการค้นหาจากฐานข้อมูลทุติยภูมิทางยา 1.5 การตอบตรงประเด็นโดยวาจาและ/หรือเขียนอย่างสั้น การประมวลเสนอคําตอบให้ตรงประเด็น เมื่อเภสัชกรค้นหาข้อสนเทศจนคาดว่าเพียงพอแล้วจะ ต้อง ประมวลคําตอบให้ผู้ถามโดยยึดหลักว่าคําตอบที่ดีควรมีลกั ษณะ ดังนี้ 1. เสนอเฉพาะข้อเท็จจริงเท่าที่สามารถอ้างอิงได้ในขณะนั้น ไม่ควรใช้การคาดเดา 2. ทบทวนคําถาม เพื่อให้คําตอบตรงประเด็น ถูกต้อง แม่นยํา 3. มีลักษณะทางวิชาการ คือ มีการอ้างอิงที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อผู้ถามเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ 4. การใช้ถ้อยคําหรือข้อเขียนกะทัดรัด เข้าใจง่าย ถูกต้องทางด้านภาษา 5. ควรตอบภายในเวลาที่สมควร Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
102
คําตอบนั้นอาจให้โดยทางวาจา หรือด้วยลายลักษณ์อักษร หรือทั้ง 2 แบบร่วมกัน ในส่วนคําตอบที่เป็น ลายลักษณ์อักษรนั้นอาจใช้ตามแบบแผนทีพ่ บเสมอซึ่งจะมีลักษณะโครงสร้าง ดังนี้ 1. ทบทวนคําถามและข้อมูลพื้นฐานเพิ่มเติม 2. ส่วนคําตอบ - คํานํา อาจมีเพื่อช่วยในการลําดับเรื่องราวหรือชี้แจงความหมายในส่วนคําตอบ - สรุปข้อสนเทศที่เกี่ยวข้องจากเอกสารอ้างอิงที่ค้นพบ เฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับคําถาม - ตารางหรือกราฟหรือแผนภูมิ ที่คิดว่าจะทําให้ผู้ถามเข้าใจง่าย 3. สรุป เป็นการที่ผู้ตอบสรุปความเห็นของตนจากข้อสนเทศที่อ้างอิงได้ว่าคําตอบนั้นคืออะไร ตอบได้ พอใจหรือไม่ มีสิ่งใดที่คิดว่าไม่เพียงพอ 4. เอกสารอ้างอิง ควรเขียนตามหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องแบบใดแบบหนึ่ง 1.6 การเขียนอ้างอิงตามหลักสากล การเขียนอ้างอิงมีหลายระบบ ขอยกตัวอย่างการเขียนอ้างอิงตามหลักสากลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย 2 ระบบ คือ
1. การเขียนบรรณานุกรมอ้างอิงตามหลักตัวเลข (Vancouver style) เป็นการเขียนอ้างอิงด้วยตัวเลขเรียงตามลําดับก่อนหลังตามลําดับที่อ้างอิงในเนื้อเรื่อง และการแสดงรายการ อ้างอิงท้ายบทความจะเรียงลําดับการอ้างอิงตามตัวเลขที่ปรากฎในเนื้อหา หลักการเขียนอ้างอิงท้ายบทความตามหลักตัวเลข 1. การเขียนอ้างอิงจากหนังสือ รูปแบบการเขียน ชื่อผู้แต่ง./ชื่อหนังสือ./พิมพ์ครั้งที.่ /เมืองที่พิมพ์:/สํานักพิมพ์;/ปีที่พิมพ์.เลขหน้า. หมายเหตุ เครื่องหมาย / หมายถึง เว้นวรรค 1 เคาะ (1) ชื่อผู้แต่ง • ผู้แต่งชาวต่างชาติ ให้ขึ้นต้นด้วยนามสกุล และตามด้วยอักษรตัวแรกของชื่อต้นและชื่อกลาง เช่น ชื่อ Gerald L. Mandell ให้เขียนเป็น Mandell GL • ผู้แต่งชาวไทยให้ขึ้นต้นด้วย ชื่อและตามด้วยนามสกุล • รายชื่อผู้แต่งแต่ละคนคั่นด้วยจุลภาคแต่ถ้าเกิน 6 คน ให้พิมพ์คําว่า และคณะ (et al) แทนคนที่ 7 เป็นต้นไป • ถ้าเป็นบรรณาธิการ (ให้ใช้คําว่าบรรณาธิการ หรือ editor(s) หรือ ed(s) ต่อท้ายรายชื่อ) • ถ้าหนังสือเป็นของหน่วยงานโดยไม่ได้ระบุชื่อผู้แต่งไว้ชัดเจน ให้ใช้ชื่อหน่วยงานแทนได้ • กรณีที่เป็นบทอยู่ในหนังสือทีม่ ีบรรณาธิการ ให้พิมพ์ คําว่า In ที่อยู่หน้าชื่อบรรณาธิการ ถ้าเป็น ภาษาไทยให้ใช้คําว่า ใน (2) ชื่อหนังสือ และชื่อย่อย (ถ้ามี) (3) พิมพ์ครั้งที่ ย่อด้วย “ed” (4) สถานที่พิมพ์ ในกรณีทสี่ ํานักพิมพ์นั้นมีทตี่ ั้งอยู่หลายเมืองให้ระบุชื่อเมืองแรกที่บอกไว้ (5) สํานักพิมพ์ (6) ปีที่พิมพ์ (7) เลขหน้า ให้ระบุเฉพาะหลักที่ไม่ซ้ํากันเช่น หน้า 124-156 ให้ระบุเป็น 124-56 Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
103
เทคนิค OSPE
ตัวอย่างการเขียน Ellaworth AJ. Skin disorders. In: Koda-Kimble MA and Young LY. eds. Applied Therapeutics: The Clinical Use of Drugs. 7thed. Philadelphia: Lippincott Williams and Wilkins; 2001:36-1 to 36-24. อภิฤดี เหมะจุฑา, นารัต เกษตรทัต, และสุธาทิพย์ พิชญไพบูลย์. คู่มือการจ่ายยาของเภสัชกร. กรุงเทพมหานคร: จันทร์ม่วงการพิมพ์; 2543. 2. การเขียนอ้างอิงจากบทความในวารสาร รูปแบบการเขียน ชื่อผู้แต่ง. /ชื่อบทความ./ชื่อวารสาร./ปีทพี่ ิมพ์ (และเดือน/วัน ถ้ามี); ฉบับที:่ เลขหน้า หมายเหตุ เครื่องหมาย / หมายถึง เว้นวรรค 1 เคาะ (1) ชื่อผู้แต่ง • ชื่อผู้แต่งที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ขึ้นต้นด้วยนามสกุล และตามด้วยอักษรตัวแรกของชื่อต้นและชื่อ กลาง เช่น ชื่อ Gerald L. Mandell ให้เขียนเป็น Mandell GL • ชื่อผู้แต่งที่เป็นภาษาไทยให้ขึ้นต้นด้วย ชื่อและตามด้วยนามสกุล • รายชื่อผู้แต่งแต่ละคนคั่นด้วยจุลภาค (comma) แต่ถ้าเกิน 6 คน ให้พิมพ์คําว่า และคณะ (et al) แทนคนที่ 7 เป็นต้นไป (2) ชื่อบทความ กรณีที่เป็นบทคัดย่อ จดหมาย บทบรรณาธิการ ให้แสดงชนิดของเอกสารภายใน เครื่องหมาย [ ] หลังชื่อบทความ (3) ชื่อวารสาร ให้ใช้ชื่อย่อตามที่ระบุในฐานข้อมูล Medline และพิมพ์ด้วยตัวเอน (4) ปีที่พิมพ์ และเดือน/วัน (ถ้ามี) (5) ฉบับที่ (6) เลขหน้า ให้ระบุเฉพาะหลักที่ไม่ซ้ํากันเช่น หน้า 124-156 ให้ระบุเป็น 124-56 ตัวอย่างการเขียน Boguniewicz M. Adverse reactions to antibiotics. Drug Safety.1995 Jun 1;13(5):273-80. 3. การอ้างอิงจาก Internet และ Electronic sources ต่าง ๆ 3.1 การอ้างอิงจาก E-Journal รูปแบบการเขียน ชื่อผู้แต่ง./ชื่อเรื่อง./ชื่อย่อของวารสารอิเลคโทรนิค/[serial online] ปีที่พิมพ์ (เดือนที่พิมพ์ ถ้า มี);volume number(issue number):[จํานวนหน้า]./ Available from:/ URL address./Accessed เดือน,วัน,/ปีที่สบื ค้น. หมายเหตุ เครื่องหมาย / หมายถึง เว้นวรรค 1 เคาะ ตัวอย่างการเขียน Morse SS. Factors in the emergence of infectious disease. Emerg Infect Dis [serial online] 1995 Jan-Mar;1(1):[24 screens]. Available from: URL:http://www/cdc/gov/ncidoc/EID/eid.htm. Accessed December 25, 1999. Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
เทคนิค OSPE
104
3.2 การอ้างอิงจาก Internet รูปแบบการเขียน ชื่อผู้แต่ง./ชื่อเรื่อง./ปี(ถ้ามี);[จํานวนหน้า]./ Available at:/ URL address./Accessed เดือน,วัน,/ปีทสี่ ืบค้น. หมายเหตุ เครื่องหมาย / หมายถึง เว้นวรรค 1 เคาะ ตัวอย่างการเขียน Hoffman DL. St John's Wort. 1995;[4 screens]. Available at: URL:http://www.healthy.net/library/books/hoffman/materiamedica/stjohns.htm. Accessed July 16, 1998.
2. การเขียนบรรณานุกรมอ้างอิงตามหลักนาม-ปี (Harvard style) เป็นการเขียนอ้างอิงโดยวงเล็บนามสกุลของผู้เขียน ตามด้วยปีที่พิมพ์ เช่น (Parkin et al., 1996) แต่ถ้าผู้เขียนเป็นคนไทยให้เขียนอ้างอิงโดยวงเล็บทั้งชื่อและนามสกุลของผู้เขียน ตามด้วยปีที่พิมพ์ เช่น (สมทรง รักษ์เผ่า, 2543) และการแสดงรายการอ้างอิงท้ายบทความตามลําดับตัวอักษร หลักการเขียนอ้างอิงท้ายบทความตามหลักนาม-ปี 1. การเขียนอ้างอิงจากหนังสือ รูปแบบการเขียน ชื่อผู้แต่ง,/ปีทพี่ ิมพ์,/ชื่อหนังสือ,/ครั้งทีพ่ ิมพ์,/สํานักพิมพ์,/สถานที่พิมพ์,เลขหน้า. หมายเหตุ เครื่องหมาย / หมายถึง เว้นวรรค 1 เคาะ (1) ชื่อผู้แต่ง (Author) • ชื่อผู้แต่งที่เป็นภาษาอังกฤษ ให้ขึ้นต้นด้วยนามสกุล แล้วมีเครื่องหมายจุลภาค (comma) คั่น แล้วตามด้วยอักษรตัวแรกของชื่อต้นและชื่อกลาง เช่น ชื่อ Gerald L. Mandell ให้เขียนเป็น Mandell, G.L. • ชื่อผู้แต่งที่เป็นภาษาไทยให้ขึ้นต้นด้วย ชื่อและตามด้วยนามสกุล • ถ้าผู้แต่งมี 2 คนให้คั่นชื่อผู้แต่งด้วยเครื่องหมาย “&” • ถ้าผู้แต่งมีตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ให้คั่นชื่อผู้แต่งด้วยเครื่องหมาย “&”หน้าชื่อผู้แต่งคนสุดท้าย • ถ้ามีบรรณาธิการ (ให้ใช้คําว่า (ed) สําหรับบรรณาธิการเพียงคนเดียว และ (eds) สําหรับ บรรณาธิการตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ต่อท้ายรายชื่อ) • ถ้าไม่ระบุชื่อผู้แต่งก็ให้อ้างอิงชื่อหนังสือ (Title) เป็นอันดับแรก (2) ปีที่พิมพ์ (3) ชื่อหนังสือ และชื่อย่อย (ถ้ามี) ชื่อหนังสือทุกเล่มต้องมีการเน้นโดยขีดเส้นใต้ หรือพิมพ์ด้วยตัวเอน (4) ครั้งที่พิมพ์ ระบุด้วยถ้ามากกว่า 1 โดยย่อด้วย “edn”. (5) สํานักพิมพ์ (6) สถานที่พิมพ์ (7) เลขหน้า
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
105
เทคนิค OSPE
ตัวอย่างการเขียน Berkman, R.I. 1994, Find & Fast: How to Uncover Expert Information on any Subject, HarperPerennial, New York, pp.42-59. กรณีที่อ้างอิงจากบทหนึ่งในหนังสือ Mayer, L.A., 2000, ‘Skin tests, In vitro tests’ In Allergic in primary care, 2nd edn, eds. L.C. Attman, J.W. Becker, P.V. Williums. WB Saunders Company, Philadelphia, pp 37-47. 2. การเขียนอ้างอิงจากบทความในวารสาร รูปแบบการเขียน ชื่อผู้แต่ง,/ปีทพี่ ิมพ์,/”ชื่อบทความ”,/ชื่อวารสาร,/ฉบับที,่ /เล่มที,่ เลขหน้า. หมายเหตุ เครื่องหมาย / หมายถึง เว้นวรรค 1 เคาะ (1) ชื่อผู้แต่ง (Author) • ผู้แต่งชาวต่างชาติ ให้ขึ้นต้นด้วยนามสกุล แล้วมีเครื่องหมายจุลภาค (comma) คั่น แล้วตาม ด้วยอักษรตัวแรกของชื่อต้นและชื่อกลาง ผู้แต่งชาวไทยให้ขึ้นต้นด้วย ชื่อแล้วตามด้วยนามสกุล • ถ้าผู้แต่งมี 2 คนให้คั่นชื่อผู้แต่งด้วยเครื่องหมาย “&” (2) ปีที่พิมพ์ (3) ชื่อบทความ อยู่ภายใต้เครื่องหมายอัญประกาศ (“___”) (4) ชื่อวารสาร เน้นโดยขีดเส้นใต้หรือตัวเอน (5) ฉบับที่ ระบุเป็นตัวเลข (6) เล่มที่ ระบุเป็นตัวเลข (7) เลขหน้า ตัวอย่างการเขียน Huffman, L. M. 1996, “Processing whey protein for use us a food ingredient”, Food Technology, vol.50, no.2,pp.49-52. กรณีที่เป็นบทคัดย่อ จดหมาย บทบรรณาธิการ ให้แสดงชนิดของเอกสารหลังเลขหน้า 3. การอ้างอิงจาก Internet และ Electronic sources ต่าง ๆ รูปแบบการเขียน ชื่อผู้แต่ง/ปีทพี่ ิมพ์. “ชื่อบทความ”,ชื่อวารสาร(พิมพ์ตวั เอน),/ชนิดของแหล่งข้อมูล,/วันที่สบื ค้น,/ Available at:/address. ตัวอย่างการเขียน Weibel, S. 1995, “Metadata : the foundations of resource description”, D-lib Magazine, [Online] Available at: http://www.dlib.org/dlib/July95/07weibel.html
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
106
เทคนิค OSPE
การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูล คําถามทีพ่ บบ่อย 1.คุณลักษณะของยา (Drug Identification) 2.รูปแบบที่จําหน่าย(Availability) 3.ขนาดยา และการบริหาร (Dosage and Administration) 4.ข้อบ่งใช้ในการรักษาและประสิทธิผล (Therapeutic use/Efficacy) 5.อาการไม่พึงประสงค์และอาการข้างเคียง (ADR/Side effect) 6.ปฎิกิริยาระหว่างยา หรืออาหาร (Drug/food interaction) 7.Pharmacokinetics 8.Toxicity 9.สตรีมีครรภ์และการให้นมบุตร 10.Compactibility/Stability แหล่งข้อมูลพืน้ ฐานทีส่ ภาเภสัชกรรมกําหนดคือ 1.Handbook of Clinical Drug Data - บอกรายละเอียด แต่ละชนิดแบบย่อๆ แบ่งเป็นหัวข้อ ดังนี้ เภสัชวิทยา เภสัชจลนพลศาสตร์ ข้อบ่งใช้ ขนาดยาและวิธีการใช้ยา การใช้ยาในผู้ป่วยเด็ก การปฏิบัติตัวเมื่อลืมกินยา อาการไม่พึงประสงค์ ข้อห้ามใช้ ข้อควร ระวัง ปฎิกิริยาระหว่างยา และยังมีส่วนเกี่ยวกับข้อมูลทางคลินิค 2. Drug Information Handbook - บอกรายละเอียดยาแต่ละชนิดแบบย่อ โดยเรียงตามตัวอักษร A และ Z 3.Drug Fact and comparison -บอกเกี่ยวกับการใช้ยาบําบัดในกลุ่มต่างๆ รวมถึงรายละเอียดการให้ยาแต่ละชนิด มีขอ้ มูล เปรียบเทียบ ระหว่างยาแต่ละกลุ่มหรือว่า แต่ละชนิด มีตาราง รูปยาชนิดต่างๆประกอบ 4.Martindale’s the extra Pharmacopoeia -บอกรายละเอียดคล้ายกับ Drug Fact and Comparison แต่มีข้อมูลทางเคมี เช่น ชื่อทางเคมี โครงสร้าง เพิ่มเติม 5.MIMs and MIMs annual - บอกข้อมูลชื่อการค้า ประเภทยาตามกฎหมาย ข้อมูลเกี่ยวกับยาอย่างคร่าวๆ เช่น Indication, Dosage, Precaution, packaging เป็นต้น 6.บัญชียาหลักแห่งชาติ - บอกยาที่ควรมีในสถานพยาบาล 7.พรบ.ยา ระบุให้ได้ว่า ยาใดเป็นยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธิ์ ยาเสพติดให้โทษ
Pharmacy Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
107
รวบรวมขอสอบ OSPE (Objective Structured Pharmaceutical Examination) คําชี้แจง คําชี้แจงการสอบ OSPE 1. ผู้สอบจะต้องมาถึงสนามสอบตามเวลาที่นัดไว้ให้ทันช่วงการเก็บตัวก่อนเข้าห้องสอบ 2. ห้ามนําเครื่องมือสื่อสารทุ กชนิดเข้าห้องเก็บตัวก่อนเข้าห้องสอบและช่วงสอบ 3. เนื่องจากในการสอบ OSPE ผู้สอบจะต้องเคลื่อนย้ายที่นั่งสอบไปในสถานีสอบต่างๆ จึงขอให้ จัดเตรียมอุปกรณ์ สอบพกติดตัวเฉพาะที่จําเป็น ได้แก่ ปากกาลูกลื่น และน้ฎายาลบคําผิด เป็นต้น 4. ติดบัตรประจําตัวสอบหรือป้ายชื่อให้เห็นชัดเจน เพื่อที่อาจารย์ประจําสถานีสอบสามารถตรวจสอบ และให้คะแนนได้
คําชี้แจงเกี่ยวกับข้อสอบ - ข้อสอบ OSPE (Objection Structured Pharmaceutical Examination) จะมีลักษณะข้อสอบ แบบเป็น station - โดยมีทั้งหมด 30 station (ข้อ) เป็นข้อพัก 5 ข้อ ที่เหลือ 25 ข้อ ก็เป็นโจทย์คําถาม ให้เวลาทําข้อ ละ 3 นาที - 1ข้อคิดเป็นคะแนนดิบ 10 คะแนนหรือเป็นคะแนนเต็ม 4 คะแนน - คะแนนเต็มรวมทั้งหมด 100 คะแนน โดยเกณฑ์การผ่านสอบ OSPE ของสภาเภสัชกรรมอยู่ที่ 80 คะแนน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
108
ตัวอย่าง OSPE ของสภาเภสัชกรรม OSPE Item 1 รหัสขอสอบ สภาเภสัชกรรม แบบฟอรมการออกขอสอบ OSPE คณะทํางานออกขอสอบ จากคณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัย XXXXX ป พ.ศ.ที่ออกขอสอบ…2545 ครอบคลุมทักษะตามเกณฑมาตรฐานฯขอที่ (ระบุขอ) 3 วัตถุประสงคหลัก เทคนิคการกรองที่ตองการเก็บ filtrate ผูควบคุมสถานีสอบ : อาจารย…1…..คน; เจาหนาที่ …1……..คน (สําหรับชวยจัดเก็บเครื่องมือระหวางและหลังการสอบ ผูสอบแตละคน) เวลาที่ใชในการสอบ…3…….นาที เครื่องมืออุปกรณที่ตองใช: ring stand 1, filter funnel 1, beaker 1, flask 1, graduated cylinder 1, น้ําใสใน beaker มี dropper; filter paper พับ 2 แบบคือ plaited filter, plain filter สารเคมี/ผลิตภัณฑที่ตองใช peppermint oil, talc กระจายอยูในน้ํา (เตรียมไวให) ลักษณะขอสอบ ; สถานีเดี่ยว สถานีเชื่อมโยง……..สถานี สวนขอสอบ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------จงแสดงการกรองใหไดสารละลายใสของ Peppermint Water โดยเทคนิคที่ถูกตอง (10 คะแนน) --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------สวนคําตอบ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เลือกกระดาษกรองที่พับไวแลวแบบ plaited filter ถูกตอง (2 คะแนน; หากเลือก plain filter 0 คะแนน) - ตั้งอุปกรณถูกตอง คือ เอา filter funnel ที่มีกระดาษกรองวางบน stand (2 คะแนน; หากไมใช stand แตวาง funnel บน flask หรือ cylinder 0 คะแนน) - วาง flask รับ filtrate (1 คะแนน; เอา beaker รับโดยไมปดปาก 0 คะแนน) - rinse กระดาษกรองโดยหยดน้ําจนเปยก ( 2 คะแนน; ไมได rinse 0 คะแนน) - เทสารละลายลงใน funnel โดยมี stirrer นําลง (1 คะแนน; หากไมใชstirrer ชวยนํา 0 คะแนน) - ปด funnel ดวยกระจกนาฬิกากันการระเหยของ oil (2 คะแนน; ไมไดปดกระจก 0 คะแนน) หมายเหตุ: ไมตองกรองจนหมด เพียงแสดงตามขั้นตอนดังกลาวขางตน --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------เอกสารอางอิง:
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
109
OSPE
OSPE Item 2 รหัสขอสอบ สภาเภสัชกรรม แบบฟอรมการออกขอสอบ OSPE คณะทํางานออกขอสอบ จากคณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัย XXXXX ป พ.ศ.ที่ออกขอสอบ…2545 ครอบคลุมทักษะตามเกณฑมาตรฐานฯขอที่ (ระบุขอ) 1, 4, 5 วัตถุประสงคหลัก การแนะนําการใชและการเก็บรักษายาบางชนิดที่เกี่ยวของ ผูควบคุมสถานีสอบ : อาจารย…1…..คน; เจาหนาที่ …-……..คน เวลาที่ใชในการสอบ…3…….นาที เครื่องมืออุปกรณที่ตองใช: สารเคมี/ผลิตภัณฑที่ตองใช ซองบรรจุยาและฉลาก ลักษณะขอสอบ ; สถานีเดี่ยว สถานีเชื่อมโยง……..สถานี สวนขอสอบ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------สถานการณจําลอง: อาจารย: "สวัสดี ขอซื้อยาเหน็บ proctosidyl / กลองคะ" ผูสอบ: "………บทสื่อสาร 1………" คําถามที่เขียนไวที่สถานี: จงเขียนฉลากและใหคําแนะนําการใชและการเก็บรักษาและคําแนะนําอื่นๆใหครบถวน (10 คะแนน) --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------สวนคําตอบ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- บทสื่อสาร 1 อาจกลาววา "สวัสดีคะ รอสักครูคะ" (2 คะแนน; ไมกลาวตอบทักทาย 0 คะแนน) - เขียนฉลากหรือซองยา: สําหรับริดสีดวงทวารหนัก วิธีใช สอดทางทวารหนักครั้งละ 1 แทง วันละ 2-3 ครั้ง ( 3 คะแนน; หากไมระบุขอบงใช หัก 1 คะแนน; วิธีใชผิด หัก 2 คะแนน) - ฉลากชวย ใหเก็บรักษา ยาเหน็บไวในตูเย็น (2 คะแนน; ไมมี 0 คะแนน) - แนะนําเพิ่มเติม (3 คะแนน; ไมมี 0 คะแนน) - การใชยา หากถายระหวางวัน ใหเหน็บยาเหน็บใหมอีกครั้ง (1 คะแนน) - การปฏิบัติตน: การดูแลสุขภาพไมใหทองผูก เชน ดื่มน้ํามากๆ ทานผักผลไมมากๆ (2 คะแนน) --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------เอกสารอางอิง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
110
OSPE
OSPE Item 3 รหัสขอสอบ สภาเภสัชกรรม แบบฟอรมการออกขอสอบ OSPE คณะทํางานออกขอสอบ จากคณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัย XXXXX ป พ.ศ.ที่ออกขอสอบ…2545 ครอบคลุมทักษะตามเกณฑมาตรฐานฯขอที่ (ระบุขอ) 3, 5 วัตถุประสงคหลัก การใชยาปฏิชีวนะที่เปนผงแหง ผูควบคุมสถานีสอบ : อาจารย…1…..คน; เจาหนาที่ …-……..คน เวลาที่ใชในการสอบ…3…….นาที เครื่องมืออุปกรณที่ตองใช: ขวดนาสะอาด สารเคมี/ผลิตภัณฑที่ตองใช ยาปฏิชีวนะที่เปนผงแหง 1 ยี่หอ ฉลาก ฉลากชวยตางๆ ลักษณะขอสอบ ; สถานีเดี่ยว สถานีเชื่อมโยง……..สถานี สวนขอสอบ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ชื่อ ด.ช.สาคร สุดธารา อายุ 5 ป Rx Ampicillin Dry Syrup # 1 Sig: Tsp i q.i.d ac & h.s. จงเตรียม Ampicillin Dry syrup ใหอยูในรูปยาน้ําพรอมใช พรอมกับเขียนฉลากอยางครบถวน --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------สวนคําตอบ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เขียนฉลาก (2 คะแนน) สําหรับ : รักษาอาการติดเชื้อ วิธีใช: รับประทานครั้งละ 1 ชอนชา วันละ 4 ครั้งกอนอาหารและกอนนอน - ฉลากชวย (1 คะแนน) รับประทานทุกวันจนยาหมด - วิธีเตรียม (7 คะแนน) เคาะขวดกับมือใหผงยารวนกอน (2 คะแนน) เติมน้ําประมาณครึ่งคอนปริมาตร เขยาใหทั่วกอน (3 คะแนน) เติมน้ําอีกครั้งใหถึงขีด (2 คะแนน) --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------เอกสารอางอิง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
111
OSPE
OSPE Item 4 รหัสขอสอบ สภาเภสัชกรรม แบบฟอรมการออกขอสอบ OSPE คณะทํางานออกขอสอบจากคณะเภสัชศาสตรมหาวิทยาลัย……จุฬา……………………………… ป พ.ศ.ที่ออกขอสอบ………2545…………………….. ครอบคลุมทักษะตามเกณฑมาตรฐานฯขอที่ (ระบุขอ) …7…………………………… วัตถุประสงคหลัก…………………………………………….. ผูควบคุมสถานีสอบ : อาจารย…1…..คน; เจาหนาที่ -………..คน เวลาที่ใชในการสอบ…3…….นาที สื่อ/โสตทัศนูปกรณที่ใช…-…………………….. เครื่องมืออุปกรณที่ตองใช: drug information handbook TIMS สารเคมี/ผลิตภัณฑที่ตองใช……-……………………………………………………… ลักษณะขอสอบ สถานีเดี่ยว สถานีเชื่อมโยง…1…..สถานี สวนขอสอบ สถานี ทานเปนเภสัชกรโรงพยาบาลชุมชนบั้งไฟ มีนักทองเที่ยวชาวอเมริกันมาพบแพทยเพื่อขอใหชวยสั่งยาชื่อ Glyburide สําหรับคุมระดับน้ําตาลในเลือด ซึ่งผูปวยทําหายระหวางเดินทาง แพทยโทรมาถามทานวามียานี้หรือไม หรือจะ ใชยาใดแทนไดบาง ที่โรงพยาบาลมีแตยาเลียนแบบ ใหทานเลือกหนังสือที่ทานคิดวามีคําตอบ เปดหาคําตอบ แลวตอบในกระดาษคําตอบเฉพาะชื่อยา สวนคําตอบ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------เปดไดทั้งสองเลม เปด TIMS จะไมพบ เปด drug information handbook เพื่อหา synonyms = Glybenclamide … คะแนน เปด TIMS เพื่อหาชื่อยา local made ….. คะแนน Benclamin Cytagon Debtan Diabeedol Diabenol Diclanil Diabelet Glibe Glibesyn Glybetic Glybic Gluconil Gluzo
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
112
OSPE Item 5 รหัสขอสอบ สภาเภสัชกรรม แบบฟอรมการออกขอสอบ OSPE คณะทํางานออกขอสอบจากคณะเภสัชศาสตรมหาวิทยาลัย……จุฬา……………………………… ป พ.ศ.ที่ออกขอสอบ………2545…………………….. ครอบคลุมทักษะตามเกณฑมาตรฐานฯขอที่ (ระบุขอ) …5…………………………… วัตถุประสงคหลัก…………………………………………….. ผูควบคุมสถานีสอบ : อาจารย…1…..คน; เจาหนาที่ -………..คน เวลาที่ใชในการสอบ…3…….นาที สื่อ/โสตทัศนูปกรณที่ใช…-…………………….. เครื่องมืออุปกรณที่ตองใช: meterdose inhaler ………………………………………………. สารเคมี/ผลิตภัณฑที่ตองใช……-……………………………………………………… ลักษณะขอสอบ สถานีเดี่ยว สถานีเชื่อมโยง…2…..สถานี สวนขอสอบ สถานี 1. นาง สาทร สมจิต นําใบสั่งยาใบนี้มาที่รานยาของทาน Rx Salbutamol MDI 1 puff prn # 1 ……………………………….MD. ทานจัดยาเรียบรอยแลว ใหแนะนํา วิธีพนยาแกนางสมจิต สวนคําตอบ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ยาพนสูด วิธีใช… 1.) เปดฝาครอบปากขวดยาพนออก เขยาขวด ….. คะแนน 2.) คว่ําขวดพนยาลง ใหกนของขวดยาชี้ฟา ตั้งขวดพนยาตรง …….. คะแนน 3.) หายใจออกใหสุดเต็มที่ ……. คะแนน 4.) ใชริมฝปากอมรอบปากขวดพนยาใหสนิท เอนศรีษะไปดานหลังเล็กนอยหรือ อาปากใหปากขวดอยูหางจากปาก ประมาณ 3-4 เชนติเมตร หรือ 1-2 นิ้ว ….. คะแนน เอาศีรษะไปดานหลังเล็กนอย 5.) หายใจเขาลึกๆทางปากพรอมๆกับกดที่พนยา 1 ครั้ง ……คะแนน 6.) ใหหายใจเขาชาๆ …… คะแนน 7.) เอาขวดพนยาออกจากปาก หุบปากใหสนิท กลั้นหายใจใหนานที่สุดเทาที่จะทําได…… คะแนน 8.) ผอนลมหายใจออกทางจมูกชาๆ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
113
OSPE
OSPE 2546/1 1. จงเตรียม 70% alcohol จํานวน 40 ml โดยตวงน้ํา 7.5 ml และตวง 70% alcohol 32.5 ml วิธีทํา - ตวง 70% alcohol ปริมาณ 32.5 ml โดยใช Cylinder ขนาด 50 ml เทใส Beaker 1 - ตวงน้ํา 7.5 ml โดยใช Cylinder ขนาด 10 ml เทใส Beaker 1 - คนใหเขากัน เทใส Cylinder ขนาด 50 ml - รินน้ําใน Beaker 1 - เทปรับปริมาตร ครบ 40 ml 2. pt ไปพบแพทยมาเนื่องจากอาการโรคหัวใจ pt ไดรับยา Digoxin มาตลอด แตครั้งสุดทายที่ไปพบแพทย แพทยสั่ง ปรับขนาดยา Digoxin เปน 2 เทา จากที่ pt เคยกิน เมื่อ pt กินยาเกิดอาการ ตาพรามัว ปวดศีรษะ มองเห็น แสงเปนวูบวาบ คลื่นไส อาเจียน จงซักอาการเพื่อคนหาสาเหตุของอาการดังกลาว รวมทั้งใหคําแนะนําที่ เหมาะสม วิธีทํา - สวัสดีครับ ผมเภสัชกร - มีอะไรใหผมชวยไหมครับ - ไมทราบวาอาการที่เกิดขึ้นเปนกอนหรือหลังจากไปหาหมอครั้งหลังสุด - มีอาการอยางนี้หลังจากไปหาหมอไดกี่วัน - แตกอนคุณกิน Digoxin อยางไร - แลวตอนนี้หมอใหกินอยางไร - คุณไดใชยาอะไรอีกไหมนอกจากยาตัวนี้ - คุณไดใชยารักษาอาการที่คุณเปนอยูหรือยัง - ฟงจากอาการที่คุณเลามานาจะเกิดจากอาการพิษของยา Digoxin ซึ่งยาตัวนี้มีปริมาณยาใน เลือด ที่รักษากับทําใหเกิดพิษใกลเคียงกันมาก ซึ่งคุณกินแตกอนไมเปนอะไร แตพอหมอก็ ไดเพิ่มขนาดยาสูงขึ้นคุณก็มีอาการ ไมตองตกใจนะครับ ตอนนี้ใหคุณรีบกลับไปหาหมอที่ เปนเจาของคนไข แลวเลาอาการใหหมอฟง อยาลดขนาดยาเองนะครับ 3. pt ไปหาหมอมาเนื่องจากมีอาการคัน มีผื่นแพบริเวณผิวหนัง หมอไดจายยามา 2 ตัว คือ prednisolone 5 mg 20 เม็ด betamethasone cream 1 หลอด ผูปวยใชยาแลวหาย แตตอนนี้มีอาการเดิมเกิดขึ้นอีก อยากไดยาเดิมมาขอซื้อกับเภสัชกรที่รานขายยา จงซัก ประวัติและจายยาใหกับผูปวย รายนี้พรอมใหคําแนะนําที่เหมาะสม วิธีทํา - สวัสดีครับผมเภสัชกร - มีอะไรใหผมชวยไหมครับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
114
-
มาขอซื้อยา ใชเองหรือเปลา เปนที่ไหน มีอาการอยางไรบางถึงไดใชยานี้ ไปหาหมอมานานหรือยัง หลังจากใชยาแลวอาการเปนอยางไรบาง หมอไดบอกไหมวาแพอะไร คุณคิดวาอาการกลับมาอีกเพราะสาเหตุอะไร มีโรคประจําตัวอะไร กินยาอะไรประจําอยูไหมนอกจากยา 2 ตัวนี้ เคยแพยาอะไรไหม ฟงจากที่คุณเลามาเปนลักษณะของอาการแพ ซึ่งเราตองสังเกตวาแพอะไร ยาที่ใชเปนเพียงการรักษาอาการ ผื่นคันเทานั้น และยาเม็ดที่คุณมาขอซื้อทางรานเราไมสามารถขายใหได เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ จะจาย ใหไดก็ตอเมื่อมีใบสั่งยามาดวย สวนยาครีมสามารถขายได แตทางรานเรามียาตัวอื่นที่มีสรรพคุณรักษาผื่น คันเหมือนกัน ไมทราบวาจะเอาไหม - คําแนะนํา ตอนนี้ใหคุณสังเกตวาคุณแพอะไร เพื่อหาสาเหตุการแพที่แทจริง แลวเลี่ยงสิ่งที่ทําใหแพ - ถากินยาแลวอาการไมดีขึ้นก็กลับมาใหม หรือไปพบแพทย จายยา บอกวิธีใช
4. นับเม็ดยา paracet 500 mg จํานวน 100 เม็ด ใสขวดใหถูกตองและเหมาะสม
5. จงบอกประเภทของยาตามกฎหมาย Prednisolone Diazepam ยาแกไอน้ําดําตรา เสือดาว 60 ml
6. เปดหนังสือแลวจงบอกประเภทของยา 5-FU
7. จงหาวา Calcium ในรูป form ไหน แบบใด ที่มีอัตราในการดูดซึม
8. ชั่ง Vanilline base 9 กรัม
9. จงบดผสม Calamine powder กับ Vanilline base แลวตักใสภาชนะสงอาจารย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
115
10. ใหบอกวายาตอไปนี้อยูในรูปแบบใด Gynecon Ventolin พน MOM
11. จงซักประวัติผูปวย มีอาการไขหวัด เพื่อใหไดขอมูลที่เปนประโยชน ตอการ Dx โรคโดยไมตองจายยา
12. บอกวิธีผสม Ibilex dry syrup
13. เขียนฉลากยา Ilosone dry syrup
14. จงบอกวิธีการใชยา ขนาดยา อาการขางเคียงของยา ขอควรระวังในการใชยา Actifed 5 แผง Tylinol 5 แผง
15. ยาตอไปนี้ตัวไหน Label จํานวน ขนาดการใช วิธีการใชไมถูกตองบาง จงตรวจสอบโดยละเอียดและแกไขให ถูกตอง Lanoxin ใสซองมา 30 เม็ด Furosemide ใสซองมา 30 เม็ด Paracetamol
16. ผูชวยเภสัชกรไดจัดยาตามใบสั่งแพทย ซึ่งผูปวยมาขอซื้อยา refill ในฐานะเภสัชกรจงตรวจสอบโดยละเอียด และ แกไขใหถูกตอง มียามาให 3 ซอง แตละซองใสยามาดังนี้ Enaril 5 mg 30 เม็ด Fluimucil 100 mg 8 ซอง Glybenclamide 5 mg 30 เม็ด มีใบสั่งยา Rx Enaril 20 mg 30 เม็ด Fluimucil 200 mg 9 ซอง Glybenclamide 5 mg 60 เม็ด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
116
17. เขียนฉลากยา Doxycycline 100 mg และ ติด auxillary label ใหถูกตอง
18. จงเขียนรายการยาที่สามารถจัดอยูในสวนบริการตนเองได จากรายการยาดังตอไปนี้ Paracetamol tablet Paracetamol syrup Prednisolone cream Cloxacillin ยาแกไอน้ําดําตราเสือดาว 60 ml ขมิ้นชัน capsule
19. จงพิจารณายาแตละตัวตอไปนี้วา ยาตัวใดไมควรใชอีกตอไป ควรทิ้งไปไดแลว Antacil Tablet Exp 03/44 Aspirin Tablet ไมมี Label อะไร เขียนแตชื่อยา Disento Exp. 09/45 Actifed Mfd 11/45
20. จงบอกวายา Voltaren SR เปนยาเม็ดเคลือบ สามารถบดกอนใชไดหรือไม และ Romilar (Dextromethorphan) บดกอนใชยาไดไหม จงบอกเหตุผล
21. ผูปวยมาขอซื้อยาหยอดยาตาตามใบสั่งแพทย Rx Chloramphenicol eye dropI หยอด OD 2 หยด x 4
22. จงอธิบายการใชยาเหน็บ Clotrimazole แบบ 1x6 tab hs
23. จากรายการตอไปนี้ จงบอกวายาตัวใดบางเปนยาสามัญประจําบาน Sara syrup ORS ยาแกไอน้ําดํา ขนาด 240 ml ยาฆาเชื้อ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
117
OSPE
24. จงบอกอุปกรณที่ใชในการหลอม Wax โดยเขียนเปน technical term - burner - water bath - tripod - wire gauze - stirring rod - casserole
25. จงเตรียม Set การกรอง โดยเปนการกรองใหใส
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
118
OSPE 2546/2 1. จงนับเม็ดยา Paracetamol 500 mg จํานวน 100 เม็ด ดวยถาดนับเม็ดยา และเลือกใสภาชนะที่เหมาะสม
2. จงแนะนําคนไขในการใชยาพนสูด Ventolin ( แบบ Evohaler)ในกรณีที่คนไขไดรับยาครั้งแรก
3. จงพับกระดาษกรองสําหรับการกรองเก็บน้ํายาที่กรองได (Filtrate) แลวใหนํากระดาษกรองที่พับไวไปใชในสถานี ตอไป
4. จงกรองสารละลาย Talcum ใหไดสารละลายใส 15 ml
5. ถาทานเปนเภสัชกรในโรงพยาบาลแลวแพทยตองการขอมูลวาการจาย Folic acid ใหกับคนทอง 5 เดือน ตองจาย ในขนาดเทาใด (0.8 mg/day)
6. คนไขโรคหัวใจรายหนึ่งไดรับยา warfarin ถาทานเปนเภสัชกรที่หองจายยา ทานจะบอกถึงอาการไมพึงประสงค จากการใชยาอยางไร และมีวิธีการปฏิบัติตัวอยางไร
7. ขณะที่ทานปฏิบัติการอยูที่รานขายยา มีผูหญิงคนหนึ่งเอายามาถามวายานี้เธอเคยซื้อมาจากรานขายยานี้ แตซื้อ ไวนานแลวตอนนี้มีอาการอยางเดิมอีก ก็เลยตองการจะกินยาเดิมนี้ จะยังสามารถกินยาตัวนี้ไดอีกหรือไม CPM 4 mg Lot No. 210100 Mfd 2-03-98 Exp. 2-03-03 เมื่อทานอานฉลากแลวอยางทราบวาขอความในแตละบรรทัดของฉลากขางตนมีความหมายวาอยางไร อธิบายสั้นๆ แลวตอบคนไขวาเขาควรใชยาหรือไม
8. จงทําเครื่องหมายถูก ลงในกระดาษคําตอบวายาใดตอไปนี้ไมสามารถมีในรานยาไว แตถาตอบผิดจะติดลบ Diazepam Phenobarb Codeine
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
119
9. มีคนเขามาในรานบอกวาคุณพอของดิฉันมีอาการปวดหลังเมื่อเดือนที่แลวไปหาหมอแลวจายยามา 2 ตัว พรอม กับชี้ยาใหดู แตตอนนี้ยา หมด แลวจะมาขอซื้อยาจากรานขายยาพรอมกับบอกใหเราจายยาใหหนอย Phenylbutazone (ยาควบคุมพิเศษ) Diclofenac gel (ยาใชภายนอก) 10. การเลือกภาชนะบรรจุยาที่เหมาะสม CPM Vitamin C HCTZ Furosemide
11. จับผิดยาและการเขียนฉลาก ยาตอไปนี้ ตัวไหนเขียนฉลาก จํานวน ขนาดการใชวิธีการใชไมถูกตอง จงตรวจสอบแลวแกไขใหถูกตอง HCTZ (ใสซองใส) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เชา เย็น ASA (ใสซองใส)
12. ซักประวัติคนไขมาขอซื้อยาแกทองเสียที่รานขายยา
13. เขียนฉลากตามใบสั่งแพทยที่ใหมา Mucillin 1x1 hs 2 ซอง Proctosedyl 1x1 hs 2 แทง
14. จับผิดยา โดยใหตรวจสอบวายาที่อยูในซองยาตรงกับที่อยูในใบสั่งแพทยหรือไม ใบสั่งแพทย นางสมใจ ใจดี Rx Cimetidine 400 mg 1x3 pc 30 วัน ซองยา นางสมคิด คิดดี Rx Cimetidine 200 mg 20 เม็ด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
120
15. ใหแนะนําการใชยาหยอดตาแกคนไขที่ไดรับยานี้เปนครั้งแรกโดยดูตามใบสั่งแพทย Rx Chloramphenicol eye drop หยอดตาซาย ครั้งละ 2 หยด ทุก 4 ชม.
16. จงบอกวายาตอไปนี้เปนยาในรูปแบบยาใด ผงเกลือแร ORS Brown mixture Calamine lotion Voltaren 25 mg
17. จงสังเกตความไมคงตัวของยาตอไปนี้ แลวบอกวาลักษณะความไมคงตัวตอไปนี้เรียกวาอะไร รูปของยาที่เปน emulsion มีลักษณะแยกชั้น (creaming) รูปของยา paracetamol syrup ที่มีผลึกใสๆ เกิดขึ้นที่กนขวด (precipitation) รูปของยา paracetamol tablet แตกออกเปน 2 ฝา (lamination)
18. เตรียม 70% alcohol จาก 95% alcohol เตรียม 30 ml.
19. จงชั่ง Vanilline cream ใหไดน้ําหนัก 9.0 g ดวยวิธีที่เหมาะสม แลวนําไปใชในสถานีตอไป
20. การบดผสม Cream base กับ Sulfur powder 1 g
21. จงบอกวายาตอไปนี้เปนยาประเภทใดตามกฎหมาย Lomotil Diazepam Prednisolone cream ยาแกไอน้ําดําขององคการ 60 ml
22. เปดหนังสือบอกประเภทของยาตามกฎหมาย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
121
23. จงแนะนําการใชยาคุมกําเนิด Anna แบบ 28 เม็ด แกคนไขที่เพิ่งใชยาเปนครั้งแรก หลังจากมีการซักประวัติ เรียบรอยแลว
24. เขียนฉลากยา ตามใบสั่งแพทย CPM 1x3 30
25. จงเขียนฉลากยาน้ํา Amoxicillin 250 mg/ml 1 ชช x3 pc 7 วัน แลวคํานวณวาจายก็ขวด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
122
OSPE 2547/1 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22.
อธิบายวิธีการใชยา Inhalation ใหกับผูปวย เขียน ตอบ วัน เดือน ป ที่หมดอายุของยา อธิบายวิธีการใชยาคุมกําเนิด ในกรณีที่ผูปวยลืมกินยา ซักประวัติ อาการ จายยา และการปฏิบัติตัวของผูปวยโรคเริม เปดหนังสือหา Dose ของยาในโรคนั้นๆ แยกประเภทของยาตามกฎหมาย ดูวารานยา สามารถจายไดหรือไม เปดหนังสือ ดูวายาที่ใหสามารถใชกับคนทองไดหรือไม พับกระดาษกรอง กรอง เปดหนังสือดูคาการละลายยา ตวง Syrup เตรียมยา Chlorpheniramine Maleate ดูฉลากวาผิดตรงไหน จายยาตามที่เขียนไดหรือไม เขียนฉลากยา ซักประวัติผูปวย ผูปวยมาขอซื้อยา Isotretinoin จายไดหรือไม แยกประเภทยาตามกฎหมาย วารานยาสามารถจายไดหรือไม อธิบายวิธีการใชยา แนะนํา วิธิปฏิบัติตัว อาการขางเคียง Warfarin อธิบายวิธีการใชยา แนะนํา วิธิปฏิบัติตัว อาการขางเคียง Methotrexate การชั่งยา การบดยาในโกรง เขียนฉลากยา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
123
OSPE
OSPE 2548/1 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19.
อธิบายการใชยาเหน็บ ชั่ง NaCl 3 g. ละลาย NaCl 3 g ปรับปริมาตร 60 ml เปดหนังสือ โจทยถามวา Ketoconazole ใชในเด็กที่เปน Candidasis อายุ 3 ขวบไดหรือไม เปดหนังสือCream base ของ Clindamycin ทําการ Calibrate สารที่มีสี 0.5 ml ยา Terco-C ขายในรานขายยาไดหรือไม ยา Theophylline SR แนะนําวิธีการใช ADR แนะนําวิธีใช ยาพนแบบ Evohaler แนะนําวิธีใชยาปายตา แนะนํา ผูปวยทองเสียเปนเด็กเล็ก 3 ขวบ จาย Loperamide ไดหรือไม ใชยาฆาเชื้อไดหรือไม ถาจะจายจะจาย ตัวไหน เด็กแรกเกิด หนัก 3 kg ตองใช Para อยางไร นับ CPM 100 เม็ด ชั่ง Cream base Vanillin cream 9.5 g ผสม Cream base กับ Calamine powder อธิบายการใช Nitroglycerine แบบแผนแปะ จัดกลุมยาตามกลุมการเก็บรักษาในชวงอุณหภูมิตางๆ ผลิตภัณฑ Cream กับ Gel ตางกันอยางไร ดูรูปแบบของยาบอกเปน Technical term suppository effervescent tablet soft gelatin capsule mixture lozenge
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
124
OSPE 2548/3 จํานวนขอสอบ 25 ขอ โดยแบงเปน ปฏิบัติ เขียนตอบ
14 11
ขอ (มีอาจารยประจําอยู เปนผูใหคะแนน) ขอ
Part 1 14 สถานี มีอาจารยประจําอยู (ไมเรียงตามลําดับกอน-หลัง ของสถานี)ในกรณีซักประวัติหรือใหคําแนะนําแกคนไข... ใหพึงระลึกเสมอวา ตองแนะนําตัวเองกอนวาเราเปนเภสัชกร ในการสอบ OSPE จะมีการใหคะแนนในสิ่งที่ทํา โดยมีสิ่งที่ตองปฏิบัติ ถาไมปฏิบัติตามถือวาผิด หรือมีสิ่งที่ ตองถาม ตองพูด ถาไมถามหรือพูด ถือวาผิดและไมมีคะแนนให (คะแนนเทากับ 0 ) เรียกจุดนี้วา จุดวิกฤติ โดย ผูสอบจะตองปฏิบัติอยางถูกตอง จึงจะไดคะแนน ถาไมถูกตองแตไดทําแลว ใหถือตามดุลยพินิจของอาจารยผูคุมสอบอีกที สถานีที่ 1 อธิบายการใชยาสูดพน โจทย : ใหอธิบายการใชยาสูดพน MDI รวมทั้งคําแนะนําอื่นๆที่เหมาะสม โดยมีใบสั่งยาของแพทยระบุวา (ผูปวย เพิ่งไดรับยาเปนครั้งแรก) ชื่อ นางสมศรี ศรีเมืองสุข Salbutamol 1 puff tid แนวทางการตอบ สถานการณ : อาจารยนั่งอยูตรงหนา ใหสวัสดีอาจารยกอนทุกครั้ง จากนั้นจึงเริ่มตนอธิบายดังนี้ครับ.. นักศึกษา : สวัสดีครับ ... คุณ สมศรี ศรีเมืองสุข ใชไหมครับ (อาจารยตอบวา: คะ) กระผมเภสัชกร....คุณไดรับยา Salbutamol ซึ่งใชรักษาอาการหอบหืด โดยใหสูดพนทางปาก กดที่พนยา 1 ที วันละ 3 ครั้ง เชา-เที่ยง-เย็น โดยกระผมขอ อธิบายถึงวิธีการสูดพนที่ถูกวิธีนะครับ 1. เปดฝาครอบปากขวดพนยาออก เขยาขวด 2. คว่ําขวดพนยาลง ตั้งขวดพนยาตรง 3. หายใจออกใหสูดเต็มที่ 4. ใชริมฝปากอมรอบปากขวดพนใหสนิท เอนศีรษะไปดานหลังเล็กนอย 5. กดที่พนยา 1 ครั้ง พรอมกับหายใจเขาทางปากลึกๆ 6. เอาที่พนยาออกจากปาก หุบปากใหสนิท กลั้นหายใจใหนานที่สุดเทาที่จะทําได ประมาณ 10 วินาที 7. หายใจออกทางจมูกชา ๆ 8. หลังจากที่ใชเสร็จ ใหทําความสะอาดที่พนดวยน้ําอุน เช็ดใหแหง อาจารย : แลวจะรูไดไงคะวายาเหลืออยูหรือหมดแลว นักศึกษา : ไมยากครับ ใหถอดเอาขวดที่พนยาออกจากตัวกดกอน จากนั้นจึงนําไปแชในอางลางหนา ถาจมทั้ง ขวด ก็แสดงวา มียาอยูเต็ม แตถาลอยทํามุมเอียงองศากับน้ํา แสดงวาเหลือยาอยูปริมาณหนึ่ง แตถาลอยขึ้นมาเสมอกับผิว น้ํา แสดงวายานั้นหมดแลวครับ นักศึกษา : (ถาเกิดเวลาเหลือ) คุณสมศรี มีขอสงสัยอยางอื่นอีกไหมครับ อาจารย : ไมมแี ลวคะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
125
OSPE
จุดวิกฤต : การแนะนําตัวเองวาเปนเภสัชกร การเช็คความถูกตองจากใบสั่งยาและการซักประวัติใน เบื้องตน ขั้นตอนการใช MDI ขอแนะนําอื่นที่จําเปนในการใช เปนตน สถานีที่ 2 อธิบายการใชยาคุมกําเนิด โจทย : ผูหญิงรายหนึ่ง มาขอซื้อยาคุมกําเนิดที่รานยา ใหอธิบายการใชยาคุมกําเนิดชนิด 28 เม็ดและ คําแนะนําอื่นๆ ที่เหมาะสม (มียาเม็ดคุมกําเนิดชนิด 28 เม็ดวางอยูท่โี ตะ) สถานการณ : อาจารยนั่งอยูตรงหนา ใหสวัสดีอาจารยกอนทุกครั้ง จากนั้นจึงเริ่มตนอธิบายดังนี้ครับ.. นักศึกษา : สวัสดีครับ ผมเภสัชกร.... คําถาม ใครทานยา / เคยรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิดมากอนไหม / ปกติคุมกําเนิดโดยวิธีไหน อายุเทาไหรแลวครับ มีโรคประจําตัวไหมครับ / รับประทานยาอยางอื่นอยูไหมตอนนี้ (เชนยา antibiotic) ฯลฯ (ตามความเหมาะสม) อาจารย : ดิฉัน/ไมเคยทานยามากอน/ อายุ 24 ป แตงงานแลว/ไมมีโรคประจําตัว/ไมไดทานยาอื่น คะ นักศึกษา : งั้น.. เพื่อความสะดวกในการรับประทานยา กระผมใครแนะนําใหรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิดชนิด 28 เม็ด ซึ่งใน 28 เม็ด จะประกอบไปดวยฮอรโมนเพศใน 21 เม็ดแรก และ อีก7 เม็ดหลังเปนพวกแปงหรือวิตามิน เพื่อจะไดกิน ตอเนื่องกัน ไมตองกังวลเรื่องการนับวัน และใหรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิดในวันแรกของการมีประจําเดือน เออ..ไมทราบ วาประจําเดือนมาหรือยังครับ อาจารย : ประจําเดือน มาวันนี้คะ นักศึกษา : งั้นใหเริ่มรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิดในวันนี้เลยนะครับ โดยเริ่มทานเม็ดแรกที่จุดเริ่มตน จากนั้นให รับประทานตามลูกศรจนหมดแผง โดยกินคืนละ 1 เม็ด กอนนอน ทุกคืนตรงเวลากัน หามลืมกิน และใน 15 วันแรกของแผง แรกอาจไมปลอดภัย ใหคุมกําเนิดดวยวิธีอื่นดวย เชน ใหสามีคุณสวมถุงยางอนามัย หรือ งดการมีเพศสัมพันธในระหวาง นั้น และในแผงแรกๆอาจมีอาการคลื่นไสอาเจียน เมื่อกินไป 2-3 แผง อาการเหลานี้จะลดลงไปเองครับ พอหมดแผงแรกให เริ่มกินแผงใหมทันทีโดยรับประทานเม็ดแรก วนตามลูกศร โดยไมตองหยุดยา ถึงแมวากําลังมีประจําเดือนหรือไมก็ตาม อาจารย : ถาเกิดแผงแรกประจําเดือนไมมา และทานแผงที่สองแลว ประจําเดือนก็ยังไมมาอีก จะเริ่มแผง ใหมตอไปเลย หรือรอใหประจําเดือนมากอนแลวคอยรับประทานตอคะ นักศึกษา : ถาเกิดประจําเดือนไมมาติดตอกันนานอยางนี้ โดยเรารับประทานยาสม่ําเสมอหรือไมก็ตามใหหยุดยา และปรึกษาแพทยหรือทําการทดสอบการตั้งครรภ (ไมรูวาตอบถูกหรือผิด เพราะเคยอานมาเคาบอกวา....ถา ประจําเดือนไมมา 1 เดือน แตไดใชยาอยางสม่ําเสมอตรงเวลา ถือวาไมผิดปกติ ใหเริ่มแผงใหมตามปกติ ....ถาประจําเดือนไมมา 1 เดือน แตไดใชยาไมคอ ยสม่ําเสมอ ใหหยุดกินยาแลวปรึกษาแพทยหรือทําการทดสอบ การตั้งครรภ ....ถาประจําเดือนไมมา 2 เดือน แมจะใชยาสม่ําเสมอก็ตาม ใหหยุดกินยาแลวปรึกษาแพทยหรือทําการทดสอบ การตั้งครรภ ยังไมทันอธิบายถึงวิธีลืมกินยา เสียงกริ๊งก็ดังขึ้น ฮือๆๆ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
126
OSPE
สถานีที่ 3 ชั่งครีม โจทย : ใหชั่ง vanishing cream ตามที่ระบุ Calamine powder 1 g Vanishing cream add to 10 g สถานการณ : มีเครื่องชั่ง digital 1 เครื่อง, กระดาษชั่งแบบธรรมดา และแบบไข, Spatula 2 อัน, ชอนเขา 2 อัน และอาจารย 1 ทานคอยจับตามอง สิ่งที่ตองทํา : 1. คํานวณปริมาณ Cream ที่ใช ในที่นี้คือ 10 -1 = 9 กรัม 2. เลือกกระดาษไข จะซอนหรือไมซอนดวยกระดาษธรรมดาก็ได แตถาซอนจะพับยากมาก 3. เปดเครื่องชั่งสาร รอใหตัวเลขขึ้นบนหนาปด กมหัวเลยไปดูลูกน้ําดานหลังวา อยูที่กึ่งกลางยัง? 4. วางกระดาษชั่งที่พับเรียบรอยแลวลงไป กด Tare รอใหตัวเลขขึ้น 0.000 กอนจากนั้นจึงเริ่มตักสาร 5. ใช Stainless spatula 2 อันชวยในการตักสาร แตกอนที่จะตักสารใหตรวจเช็คกอน 1 ครั้ง วาใช Vanishing cream ไหม หยิบขึ้นมาจะตักสารก็ตองดูครั้งที่สองวาใชอะเปลา ชั่งสารใหใกลเคียงคาที่ตองการแลวตองดูครั้งที่ สามอีกครั้งวาใชตัวนี้ไหม . เปนแบบ triple check จากนั้นจึงวางสารไวที่เดิม 6. หยิบกระดาษที่ชั่งสารเสร็จแลวออกมาจากเครื่องชั่ง กด Tare 1 ครั้งรอใหตัวเลขขึ้น 0.000 แลวคอยกด off เพื่อปดเครื่อง ทําความสะอาดเครื่องชั่งดวยแปรงปดฝุนเบาๆ ขอเสนอแนะสวนตัวผูเขียน : Vanishing cream เปน cream ที่มีความขนเหนียว ตักแบงยาก จึงควรฝกหัดให ชํานาญ ในการสอบครั้งนี้ ผูเขียนใชเทคนิคโดยการปาดเนื้อครีมไป-มา ดวย spatula 2 – 3 ครั้งใหเนื้อครีมจับเปนกอนซะ กอน แลวจึงใช spatula ของมือขางที่ถนัด ตัดแบงจากกอนครีมที่ได และหยอนเนื้อครีมที่ตัดแบงมาใหสัมผัสกับเนื้อครีม ดานลาง จะชวยทําใหเนื้อครีมหลุดออกจาก spatula ไดงายขึ้นจะทําใหชั่งสารสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ตัวอยางจุดวิกฤติ การคํานวณ การเลือกกระดาษไข spatula การดูลูกน้ําและการ Tare เครื่องชั่ง การทํา Triple Check การทําความสะอาดเครื่องชั่งในขั้นตอนสุดทาย เปนตน Self-conquest is the greats of victory.การชนะใจตนเอง คือชัยชนะที่ยิ่งใหญที่สุด สถานีที่ 4 (ตอเนื่องจากสถานีที่ 3) โจทย : ใหเตรียม calamine cream ดวยเทคนิคที่ถูกตอง สถานการณ : อาจารย 1 ทาน, calamine powder 1 ถุง, slab & spatula, mineral oil, glycerin สิ่งที่ตองทํา : Set อุปกรณ โดยจับ slap & spatula ที่ถูกตอง (ถาถนัดมือขวา ใหจับ spatula ดวยมือขวา และมือซาย จับดาม slab โดยใหขอบไมดานลางชิดกับขอบโตะ) หยิบซอง Calamine powder มาดู(1) เปดซอง ดูอีกที(2) เทออกจากซองลงตรงกลาง slab เสร็จแลวดูอีก ที(3) = (triple check) ใช Spatula บดสารกอน โดยจะหมุนเปนวงกลมจากตรงกลางออกไปดานนอกหรือ เปนเลขแปด แลวแตความถนัด (ทําใหเคาเห็นก็พอ อยาเสียเวลานานนะ)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
127
OSPE
จากนั้นจึงหยด Glycerin ลงไปประมาณ 3-4 หยดลงตรงกลางกองผงยา แลวบดผสมตอ ระวังไมให calamine powder ติดที่ดาม Spatula เยอะ ดวยการกดแบบปาดๆ 1-2 ทีกอนที่จะนํา Spatula ไปตัก vanishing cream ตัก Vanishing cream ที่อยูในกระทง มากองดานขาง slab โดยใช spatula เมื่อตะกี้นี่แหละ แบง Vanishing creamใหเทากับกองผงที่เตรียม บดผสมแบบ geometric dilution ในระหวางบดผสม ใหใช Spatula ปาดเนื้อครีมใหกองอยูตรงกลางแลวคอยบดผสมตอ ทําสลับกัน ระหวาง การบดผสม กับการเกลี่ยใหครีมอยูตรงกลาง เพื่อเนื้อครีมจะไดเปนเนื้อเดียวกันนะครับ เมื่อไดครีมที่เปนเนื้อเดียวกันแลว ใหปาดครีมมากองตรงกลาง ปาดสวนที่ติดตาม Spatula ใหอยูรวมกับ cream ดานลางใหเรียบรอย และบอกอาจารยวา “เสร็จแลวครับอาจารย” เนื่องจากวา Vanishing cream เปน o/w จึง (เปดจากหนังสือปฏิบัติการเภสัชกรรม4 จะเห็นวา vanishing cream มีสวนที่เปน water phase มากกวา oil phase) จึงใช Glycerin ถาเปน w/o ใหใช mineral oil แทน ตัวอยางจุดวิกฤติ การเลือก levigating agent Triple check เทคนิคการบดผสม สถานีที่ 5 เลื่อนประจําเดือน โจทย : ใหอธิบายการรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิด เพื่อใชในการเลื่อนประจําเดือน สถานการณ : มีอาจารยอยู 1 ทาน กับยาเม็ดคุมกําเนิด ( Primolut-N®)ที่โตะ 2 เม็ดในซอง zip นักศึกษา : สวัสดีครับ ผมเภสัชกร.... (ซักประวัติเพิ่มเติม เชนไมทราบวาเคยรับประทานมากอนไหมครับ/โรค ประจําตัว/ประจําเดือนมาสม่ําเสมอไหม วันไหนมา อีกกี่วัน ?น้ําหนักเทาไหรครับ เปนตน) อาจารย : น้ําหนัก 45 กิโลกรัม/ อีก3 วันประจําเดือนถึงจะมา คือตองการเลื่อนประจําเดือน ใหมาประมาณวันที่ 15 (วันที่สอบคือวันที่ 7) นักศึกษา : งั้น ใหรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิดในวันนี้เลยนะครับ (เพราะตองกินกอนประจําเดือนมา 2-3 วัน) โดยรับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร เมื่อหยุดยา 2-3 วัน ประจําเดือนจะมาตามปกติ อาจารยถามวา จะตองกินกี่เม็ดดีคะ นักศึกษา : (ใชเวลาคิดแปบนึง..) กระผมจัดยาใหทั้งหมด 14 เม็ดนะครับ (14 หรือ 12 ก็ไดนะ เพราะ วันที่ 7-8-910-11-12-13รวม 14 เม็ด เพราะหนังสือบอกวา 2-3 วันหลังหยุดยาประจําเดือนถึงจะมา) และในกรณีที่คุณตองการเลื่อน ประจําเดือนมากกวา 14 วัน หรือนานกวาควรใชยาเม็ดคุมกําเนิดชนิด 21 เม็ดหรือ 28 เม็ดจะเหมาะสมกวาครับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
128
OSPE
สถานีที่ 6 แปลผลทางหองปฏิบัติการ โจทย : ใหแปลผลของ lipid profile ที่เขียนวางไวที่โตะ และใหคํานวณหาคา LDL ดวยนะ Total cholesterol 210 Triglyceride 180 HDL 45 อาจารย : ผมมีเรื่องที่จะปรึกษาครับ คือไปหาหมอมา และไดรับประทานยาเยอะแยะเลย มีคา lab มาใหดูดวย ครับ ชวยดูใหหนอยไดไหมครับ วามันผิดปกติไหม นักศึกษา : ไมทราบวาผล lab ที่นํามานี่ของคุณหรือเปลาครับ อาจารย : ไมใชครับ เปนของแฟนผมเอง และผมไดยินคุณหมอพูดถึงคาอะไรซักอยางนะ ผมจําไมได... นักศึกษา : คา LDL ใชไหมครับ อาจารย : ใชแลวครับ แลวจากผล lab ที่ใหมาพอบอกไดไหมครับ นักศึกษา : ไดครับ (ที่โตะมีกระดาษและเครื่องคิดเลขใหดวย โดย TC = LDL+HDL+VLDL โดยที่ VLDL = TG/5 แทนคาจะได LDL = 129 อาจารย : คาที่ไดผิดปกติไหมครับ นักศึกษา : คา LDL ปกติคือ ต่ํากวา 100 ซึ่งของแฟนคุณคอนขางสูงนิดนึงนะครับ สวน Triglyceride ก็สูง ปกติ คือต่ํากวา 150 และ cholesterol ก็สูง ซึ่งปกติคือนอยกวา 200 ครับ อาจารย : เออ...แลวคา Triglyceride สูงๆ นี่ควรทานยาอะไรดีครับ (ดูสิถามได) นักศึกษา : เปนยาลดไขมันกลุม fibrate เชน Gemfibrozil ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดระดับ Triglyceride ไดดี ครับ (ไมรูวาตอบตรงกับที่อาจารยเคาถามไหม) อาจารย : คือแฟนผมเคากลัวมากเลยนะครับ มีขอแนะนําในการปฏิบัติตัวไหมครับ นักศึกษา : ก็ตองควบคุมในเรื่องของอาหาร รับประทานอาหารประเภทไขมันในปริมาณที่พอเหมาะ ไมใชวาใหงด ทานไปเลย รับประทานผักหรืออาหารประเภทเสนใยดวย และควรใชน้ํามันพืชแทนน้ํามันสัตวในการประกอบอาหาร นักศึกษา : ไมทราบวาตอนนี้รับประทานยาอยางอื่นดวยไหมครับ เพราะยาบางตัวทําใหระดับ Cholesterol สูงขึ้น ไดดวย (เชน ยา Steroid เปนตน) อาจารย : ออ..ไมมีครับ สถานีที่ 7 ใหตวงสาร โดยการ Calibrate โจทย : ให calibrate dropper (กําหนดใหเทากับ 0.4 ml ) สถานการณ : มีกระดาษ, เครื่องคิดเลข, dropper และ Cylinder ขนาด 5, 10 ml ขอนี้ตั้งสติครับ เก็บเต็มๆ เลย 10 คะแนน โดย... เขียนการคํานวณในกระดาษกอนวา... 2 ml ใชเทากับ ...... หยด ถา 0.4 ml ใชเทากับ ...... หยด เทคนิค i. เลือก Cylinder ขนาด 5 ml ii. จับใหถูกวิธี นิ้วโปงจิกที่ขีด 2 ml สวน 4 นิ้วที่เหลือใหรวบที่ฐาน Cylinder ตั้งใหตรง และให ขีด 2 ml อยู ในระดับสายตา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
129
iii. ใช Dropper ดูดสาร โดยใหบีบลูกยางไลอากาศออกกอน จากนั้นจึงคอยจุมหลอดลงไปในขวดใสสาร ดูด สารขึ้นมา.. iv. จะแหยหรือหยอน ก็ได โดยใหปลายหลอดหยดเขาไปภายใน Cylinder ใหอยูในระดับที่ใกลกับ 2 ml อยาสูงเกินไปและอยูตรงกลาง ระวังอยาใหปลายหลอดหยดสัมผัสกับผิว cylinder เพราะจะไดจํานวน หยดที่ผิดพลาดได v. นับจํานวนหยดใหถูกตอง (อาจารยจะ check ตอนที่เราคํานวณเสร็จ) vi. แทนคาที่ไดในสมการที่เราเตรียมตั้งแตทีแรก vii. บอกอาจารย.....แคนี้..Net ๆ เนื้อๆ เอาใหไดเต็ม 10 นะครับ สถานีที่ 8 ผูปวยมาขอซื้อยาแกไอ 9 จากการซักประวัติเพิ่มเติม : คุณพอเปนคนที่มีอาการไอ ไมใชตัวเคาเองที่เปน, มีโรคประจําตัว เปนความ ดันโลหิตสูง, รับประทานยา ACEI (Enalapril) (ผลขางเคียง คือ ไอ) 9 (แนวคําตอบ : เพื่อตองการใหเราสงตอแพทย เพื่อปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนชนิดของยา ในระหวางนี้ควรทํา อยางไร จายยาดีไหม ตัวไหนดี 9 (ตอนที่สอบ ไดจายยา Dextromethorphan 1×3 เพื่อบรรเทาอาการ เพราะญาติผูปวยบอกวาไอมาก ทําให นอนไมหลับ และเราก็บอกใหไปพบแพทย (ขอมูลตรงนี้ไดสอบถามผูรูหลายทานบอกวา ไมจําเปนตองจาย ยา Dextromethorphan เพราะวาผลจาก bradykinin ที่คั่งในรางกาย แตตองใหพบแพทยเพื่อปรับขนาดยา หรือเปลี่ยนกลุมยาใหมแทน) สถานีที่ 9 ยาควบคุมพิเศษ ยาอันตราย 9 สถานการณอยูในรานขายยา 9 มีอาจารย 1 คนนั่งประจําอยูที่โตะ 9 อาจารยมาขอซื้อยา 2 ตัวเปนยาลดความอวน คือ Phentermine ที่เรารูอยูวาขายไมไดเพราะเปนวัตถุออก ฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภท 2 แมจะมีใบสั่งแพทยก็ตาม (ถาไมรูก็เปด MIMs ได) 9 สวนอีกตัวไมรูอะ ก็เลยตองเปด MIMs จึงรูวาเปนยาอันตราย สามารถขายได 9 (แตเราไมแนะนําใหซื้อรับประทาน แตแนะนําใหดูแลควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันสูงออก กําลังกาย รับประทานอาหารประเภทผักและเสนใย เปนตน
– – – – – – – –
สถานีที่ 10 การนับเม็ดยา Paracetamol tablet 100 เม็ดดวยถาดนับเม็ดยา มีกระปุกParacetamol และกระปุกยา CPM Triple Check ควรเช็ดถาดดวยสําลีเปลา เพราะถาชุบ Alc จะเสียเวลารอใหถาดแหง เดี๋ยวจะไมทันเอาไดครับ นับเม็ดยาครั้งละ 5 เม็ด จนครบตามจํานวน นับจํานวนใหถูก เพราะอาจารย Check ไดจากน้ําหนักที่ชั่ง ตองใหแมน เลือกภาชนะ โดยดูจากจํานวนเม็ดยา กะดวยสายตาได และปดภาชนะใหเรียบรอย ในระหวางที่เทลงกระปุก ถาเม็ดยาบางเม็ดหลน ใหทิ้ง อยาเก็บเขามาใส และใหตักเม็ดยาใหมจาก กระปุกแทน เทคนิคตางๆ สามารถอานรายละเอียดในหนังสือคูมือที่ขายพรอมระเบียบการ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
130
OSPE
สถานีที่ 11 การชั่งสาร KI 2 % ในตํารับ 9 อาจารย 1 คน ,เครื่องชั่ง Digital, กระปุกยาที่ใส KI, เครื่องคิดเลข+กระดาษทด, ใน 100 ml มี KI 2 g ถาเตรียม 50 ml ใช KI (50×2)/100 = 1 g (ตอนที่สอบคิดอยางนี้ แตไมรูวาถูกหรือเปลา?) ¾ พับกระดาษชั่ง เขียนชื่อยา และชั่งใหไดใกลเคียงกับที่คํานวณได ¾ ไมควรตักกอนใหญๆ เพราะสถานีตอไป ตองนํามาละลาย มันจะเสียเวลาในการละลาย สถานีที่ 12 การละลาย KI ตามปริมาณที่กําหนด (ตอเนื่องจากสถานีที่31) 9 บนโตะมีบีกเกอรและ Cylinderหลากหลายขนาดใหเลือก, Stirring rod, น้ํากลั่น 9 เท KI ที่ชั่งมาใสใน บีกเกอรเล็ก 9 ตวงน้ํากลั่นมาประมาณ 2/3 (คิดอยางคราวๆ) ดวย Cylinder มาละลาย จนผงยาละลายหมด 9 เท Solution ที่ไดลงใน Cylinder และ rins บีกเกอรดวยน้ําที่เหลือ และปรับปริมาตร สถานีที่ 13 คุยกับคุณหมอ 9 ที่โตะ มีรูปคนไขที่มีอาการแพยาอยางรุนแรง ปากพอง ผื่นขึ้น มีแผลสด เลือดออก 9 หมอถามวารูปที่เห็นเคานาจะเปนอะไร ,มีประวัติกินยาฆาเชื้อมากอน เคานาจะกินยาตัวไหน 9 ตอบ: เคาเปน Steven Johnson Syndrome,เกิดจากการกินยากลุม ซัลฟา 9 และคุณหมอก็บอกตอวาในกรณีนี้ คนไขทานยา Bractrim ® มาครับ 9 10 คะแนน เห็นๆ สถานีที่ 14 เช็คความถูกตองของใบสั่งแพทย (โทรหาคุณหมอ) 9 ในโจทยบอกวา คนไขมีภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือดและไดรับยา ดังนี้ 9 ใบสั่งยา Nifedipin SR กิน ½ เม็ด (แนวคําตอบ : หักแบงไมได) 9 ใบสั่งยา ASA 1× 3 (แนวคําตอบ: รับประทานครั้งละ 1 เม็ดวันละครั้งหลังอาหารทันที) 9 แคนี้ ได10 คะแนนเห็นๆ จะไมเอาเลยเชียวเหรอ สวน 11 สถานีที่เหลือ จะเปนเขียนตอบ แบงเปน เปดหนังสือ 3 สถานี หนังสือที่ออกประจํา: MIMs,Drug information,Martindale,USP เปนตน ถามรูปแบบยา เตรียม: Tablet, capsule(Soft or Hard), Lozenge, Suspension, Emulsion,pills เปนตนถามประเภทของยาตามกฎหมาย : ยาควบคุมพิเศษ, ยาอันตราย, ยาสามัญประจําบาน,ยาเสพติดใหโทษ ตรวจสอบความถูกตองของยาที่จัดใหกับคนปวยและใบสั่งยาที่แพทยใหมา : ชื่อยา, คนไข จํานวน ชนิด ฯลฯ ตรง นี้ตองอาศัยความไว ฝกการสังเกต ไดคะแนนแนๆ แตตองไว เขียนทุกอยางที่ไมตรงกันพรอมทั้งแกไข เขียนฉลากยา และ ฉลากชวย เชน กินหลังอาหารทันที(NSAIDs), หามทานคูกับยาลดกรด (Cimetidine) การใชยาและการเก็บยา : Antibiotic dry syrup, ยาหยอดตา อานใบสั่งยา ฯลฯ
By พี่พุ,พี่ชาติ,พี่บอย(จรัส),พี่ชล (RSU)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
131
OSPE 2549/1 1. -
แยกประเภทของยาตามกฎหมาย Paracetamol 10 เม็ด lomotil lorazepam Enalapril prednisolone cream
2. นับ Paracetamol 100 เม็ด เลือกภาชนะที่เหมาะสม 3. อธิบายวาทําไมยาAmoxy Dry syrup ถึงตองผสมน้ํากอนใช และทําไม Indocid capsule ถึงมีเม็ดเล็กๆ อยูใน capsule 4. อธิบายวิธีการใชยาหยอดจมูก Oxymet 5. ชั่ง KCl มีการคํานาณ % กอนชั่ง 6. ทํา KCl Solution 30 ml 7. คํานวณ 95% alcohol เปน 70% alcohol 8. เตรียม 70% alcohol จาก 95% alcohol ปริมาตร 30 ml 9. เปดหนังสือ เพื่อหา Dose ในผูปวยโรคหัวใจ ของยาอะไรจําไมไดแลว เปดจาก Drug information 10. ผูปวยมาขอซื้อยา Isotretrinoin ในรานขายยา บอกวาจะแตงงานอีก 1 เดือน 11. จายยา Theophylline ตามใบสั่งยาบอกอาการขางเคียงอยางนอย 3 อยาง 12. ชั่ง vanishing cream มีการคํานวณ ปริมาณกอนชั่ง 13. ทํา Calamine cream 14. มีการคํานวณปริมาณยา paracet syrup ที่ตองจายวาจะจายแบบ ชอนชาหรือแบบDropper ดี โดยโจทยจะบอก น้ําหนักเด็กมาใหคํานวณปริมาณที่ตองให
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 15. -
OSPE
จับผิดใบสั่งยา มี ซองยาชื่อผูปวยไมตรงกับใบสั่งยา Norfloxจายแบบ 400 mg แตในซองจัดแบบ 200 mg ให Buscopan plus แตจัดแบบ Buscopan แบบธรรมดาให
16. ใบสั่งยามีปญหาโทรปรึกษาแพทย Rx - Diclofenac 100 mg ½ x 2 - Antacid 1x3 17. -
132
10 เม็ด 20 เม็ด
มีแผน nitroglycerine 1 แผน ไมบอกวาเปนยาอะไร แลวก็ถาม เปนยาอะไร ขนาดกี่mg ใชเพื่ออะไร ทําไมถึงทํารูปแบบนี้ วันหมดอายุเทาไหร
18. อธิบายการใช Isodril แบบอมใตลิ้น 19. การใชยาเหน็บทวารหนัก 20. เปดหนังสือโดยโจทยบอกชื่อการคามา จาก Mims 21. -
ใหบอก รูปแบบของยา มี Acetylcysteine calamine lotion nifedipine soft capsule
22. เปดหาคาการละลายของยาจาก Martindale 23. 24. -
เขียนฉลากยา มี – Bactrim - Paracet ยาตัวใดบางที่ขายไดโดยไมตองมีใบสั่งแพทย Loperamide Enalapril Brown mixt 180 ml Diazepam
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
133
OSPE
OSPE 2549/3 สถานี ที่ 1 พัก สถานี ที่ 2 รูปแบบยา ใหเขียนแบบเทคนิคอลเทอม พูดงายๆคือหามเขียนภาษาไทย มียา 5 ตัวดังนี้ 1. ยาอะไรไมรู ลักษณะ ขาวๆแบนๆ มีเลข 100 ตรงกลาง พี่ตอบวา Suppositories วงเล็บอีก วา Vaginal Tablet กลัวไมไดคะแนนเลยเขียนไป 2 อันเลย 2. ENO อาจารยฉีกซองใหเห็นผงยา พี่ตอบวา Effervescent Powder 3. ยาอมยี้หอ SARGITA มั้ง คลายๆ มายบาซินอะ พี่ตอบวา Lozenges 4. ยาขับลม อันนี้สติ๊กเกอรที่ปดทับรูปแบบยามันบางเลยอานออกวาเปน Mixture 5. ยาฉีดผงแหงในขวด vial พี่ตอบวา Dry powder for injection สถานีที่ 3 ยาเทคนิคพิเศษ - พี่ทองยาเทคนิคพิเศษที่สภากําหนดไดทุกอยางจนขึ้นใจแตออก MDI อันเดียวพอมาถึงสถานีนี้ แม เจา เกิดมาเพิ่งเคยเห็นเนี่ยะแหละ พี่ไมเคยเหนมากอน เปน NTG แผนแปะ อาจารยบอกใหอธิบาย วิธีใชพรอมผลขางเคียง สถานีที่ 4 ยาตามกฎหมาย - สถานีนี้ อาจารยแสดงตนเปนลูกคามาขอซื้อยา Diazepam - ตาม ที่เรียนเลย ไมขายแตจาย atarax สถานี ที่ 5 DIS เภสัชสนเทศ - เห็นหนังสือแลว ไมตอง คิดไรมาก เปดหนังสือ ใหเร็ว ใหไว เพราะ ตองเอามาเขียนอีก - ขอนี้โจทยถามวาหมอโทรมา ใหหา Dose / regimen ของ Interferon 2B - มีหนังสือให 2 เลม - Druginformation Handbook กับ Injection Drug อะไรสักอยางเลมหนาๆๆ มากๆๆ - เอกสารอางอิงไมตอง แบบ Vancouver ก็ไดนะ มันจะเปนรูปแบบนี้เลย ตัวอยางกระดาษคําตอบ ขอความ………………………………………………… ……………………………ประมาณ 4-5 บรรทัด คนไดจากหนังสือ……………………… ปที่……….หนา……………………… สถานีที่ 6 สถานี ที่ 7
พัก คํานวณ Aliquat - มีกระดาษคําตอบใหคํานวน - โจทยถามวาจะเตรียม Tetracyclin 2 % 25 ml จะตองใช Tetracyclin 250 mg กี่ แคปซูล - ไมรูโจทยถูกรึเปลานะ แตตอบ 2 แคปซูลอะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สถานีที่ 8
OSPE
134
เตรียมยา tetracycline โจทยสั่ง ใหเตรียม สารละลาย Tetracyclin 25 ml 2 %
อุปกรณที่มีให -
ขวดใสยา Tetracycline ชอนเขา แทงแกวคน บีกเกอรทุกขนาด กระบอกตวงมีทุกขนาด บีกเกอรใสน้ํากลั่นใบใหญๆๆหนอย ดรอปเปอร กระดาษโจทยบอกคาการละลายของ Tetracycline
-
พับกระดาษกรอง โจทยสั่งพับใหใส พับจีบ พี่พับ 16 อาจารยบอกใหพับ 32 กรี๊ดๆๆ ทําไมเปน ซอมมาแค 16 เถียงอาจารยตอ ที่อานมาใหพับอยางนอย 16 มิใชเหรอ อาจารยสั่งใหพับตอ พับตอไดแค 28 จีบไมเสร็จ หมดเวลา เดี๋ยวคราวหนาหนูจาพับ 64 กลีบ แบบปดตามือไขวหลังใหอาจารยดู
สถานี ที่ 9
สถาน ที่ 10
กรองน้ํายาใหใส อุปกรณที่มีให - กรวยกรอง - บีกเกอร - หลอดหยด - น้ํากลั่น - ที่ตั้งกรวย - สารละลายจากฐาน 8
สถานีที่ 11
สถานีนี้ก็ ควายอีกแลว - พี่นะแหละ ควายเอง - งายมากๆ แตทําผิด - โจทยบอก regimen มาให - Amoxy เด็ก 20 mg/kg q 8 hr มีขวด amoxy 125mg/5ml ใหเขียนฉลากยา - ถาใหทําตอนธรรมดาก็ทําไดแหละ แตพี่คํานวณผิด--- จบเหเลย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
135
OSPE
สถานีที่ 12 ขอนี้มีพารา เด็ก 2 ขวด คือ พาราไซรับ กับ พารา ซัซเพนชั่น ใหบอกความแตกตางใหกับอาจารยฟง สรุป คือ ทําไมได จบ ชีวิต อาจารยใบใหสุดพลังนะคะแตพี่โงเอง ตอบไมได สถานีที่ 13 พัก ไมคิดไรแลว ในหัวคิดแตวากูตายแนแลว….นึกอยางเดียวเมื่อไหรจะเสร็จอยากกลับเชียงใหม อยากรองไห สถานีที่ 14 ชั่งอะไรซักอยางแหละ เหนียวๆ ครีมไรไมรู สถานีที่ 15 slap + spatula - มี glycerin/ mineral oil ใหเลือก…. สถานีที่ 16 นับเม็ดยา - นับ คอเฟนิรามีน 90 เม็ด - โจทยมี พารา + คอเฟ ใหเลือก คงไมมีใครหยิบพลาดหรอกนะ - นับไปเถอะ เพราะ ยังไงก็ถอดใจแลว - นับเสร็จเลือก ขวดใสอีกนะ มี เล็ก กลาง ใหญ และ ก็ ใหญยักษ - ใสขวดเสร็จอาจารยก็เอาไปชั่งตรวจความถูกตอง สถานีที่ 17
สัมภาษณ/สงตอผูปวย - อาจารยมาขอซื้อยาคลายกลามเนื้อแบบวาปวดขามาก - ที่โตะจะบอกอยูแลววา เปนการสงตอผูปวย - เพราะฉะนั้นพี่วามันตองมีอาไรมากกวา ปวดขาแน - ตอนแรกพี่จะเดาวาเปน ดีวีที - ซักไปซักมา ปรากฎวา กินยา atorvastatin อยู - สงตอหมอ จบขาว
สถานที่ 18 ใหเราบอกหมอวายาที่จายมีปญหาอะไร ยาที่จายมี 1. Marvilon 28 2. Doxycyclin คียเวิรดคือ อาจารยอยากใหเราพูดวา … หมอจายไปเพื่ออะไร แคนั้นอะ แอบงง อยู อาจารยแสดงเปน หมอนะ พี่ก็บอกใหเปลี่ยน ดอกซี่ อาจารยก็ไมยอมเปลี่ยน บอกวาเปนอินดิเคชั่นที่ตองใชดอกซี่อยาง เดียว พี่ก็ อยากบอกวาแลวแตอาจารยเตอะเจา บะยุงตวยละ พี่ก็อธิบายไปเรื่อย เหมือน อาจารยไม พอใจในคําตอบนะ พี่เลยพูดวา คุณหมอคับแลวคุณหมอจาย ดอกซี่ไปเพื่ออะไรเหรอคับแลวอาจารย เหมือนพอใจในคําตอบแลว ก็เหมือนจะจบบทสนทนา พี่ก็ถามวาอาจารยครับผมลืมอะไรไปไหมครับ อาจารยก็เลยยอนวาแลวคิดวาเราลืมอะไรละ พี่ก็ - -“ …. ก็เลย เงอ … สถาน ที่ 19
DM ใหบอกการสังเกตอาการ Hypoglycemia พรอมบอกวิธีปฏิบัติตน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สถานีที่ 20
OSPE
136
เปดหนังสือ DIS อีกแลว ขอนี้เปด Remington นะ หา วา Polibase คืออะไรประมาณเนี๊ยะ แปลภาษาอังกฤษไมออกลอกมาทั้งพารากราฟเลย กระดาษคําตอบก็เหมือน ขอ ที่ผานมา ขอนี้มีหนังสือวางไวให 3 เลมคือ 1. Remington 2. Mims 3. อะไรไมรู พี่เปด แต รีมิงตันขอเดียว เกมาก เปดเจอดวย แตมันซอนตัวอยูตองตามไปขุดมาตอบ
สถานที่ 21 ผูปวยหญิง นําผลตรวจทางหองปฏิบัติการมาใหเราดูซึ่งเปนเภสัชกร ใหหาคําแนะนําและวิธีปฏิบัติตนที่เหมาะสม ผลตรวจของนาง…………………………………. AST 30 (0-35) ALT ……….(จําไมไดแตอยูในชวงปกติ) AntiHAC negative AntiHBS negative AntiHCS negative โดยหลักการ อาจารยอยากใหเรา - อธิบาย คา แล็ป - ใหกําลังใจแกผูปวย - บอกสาเหตุการติดตอ - การปองกัน การปฏิบัติตน - อันนี้เหมือนเปน คียเวิรดขอนี้นะ คือ อาจารยชว ยพี่มากเลยวาขาดอะไรไปในการปองกันไมให ผูปวยเปน (ฉีดวัคซีนปองกัน แตมันตื่นเตน คิดไมออกมันติดปากแตคิดไมออกเลย อะ พอกิ่งหมด เวลาดังนึกออกรีบบอกอาจารยเลย) ออ ตอนซักประวัติตองซักดวยนะวาทําไมผูปวยถึงไปตรวจ อาจารยก็เลยบอกวา แฟนเปนพาหะ สถานีที่ 22 พัก สถานที่ 23 ซักประวัติ - ไมมีอะไรใหเลย - ใหเราซักประวัติอาจารย ซึ่งเปนผูชายนะ - ซักไปซักมาปรากฏวาเปน Cystitis พี่ก็ถามเผื่อเช็ควาเปน BPH แตอาจารยก็บอก อายุ 26 ไมมีโรค ประจําตัว ไมมยี าที่ใชรวม พี่ก็เลยวาเปนกระเพาะปสสาวะอักเสบละกัน - ซักประวัติตามที่เรียนมาแหละ - แตไมตองจายยา แตพี่สะเหรอจาย เห็นอาจารยเขียนวาพี่ได 10 ก็ดีใจแลวอะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
137
สถานีที่ 24 ระบุประเภทยาตามกฏหมาย ใหเอาแต อักษรหนา ยา มาใสในชองวางนะ A - ORS องคการ 1 ซอง B - ambroxal 1 แผง 10 เม็ด C - Bromhexine 1 แผง 10 เม็ด D - Disento 1 แผง 4 เม็ด E - Paracetamol 1 แผง 10 เม็ด
กระดาษคําตอบ ประเภท ยาอันตราย ยาแผนปจจุบันบันจุเสร็จ ยาสามัญประจําบาน
ยา BCD E A E (นี่คือ คําตอบของพี่สงสัยจาผิดนะ)
สถานีที่ 25 ยาเทคนิคพิเศษ - อาจารยนําใบสั่งแพทยซึ่งไดรับครั้งแรกมาใหเราสอนวิธีใช MDI สถานที่ 26 จับผิดยา - มีซองยาให 2 ซอง คูกับใบสั่งยา แลวใหบอกวาผิดอะไร แลวบอกวิธีแก - เพื่อประโยชนสูงสุดแกนองๆ พี่จะแสดงกระดาษคําตอบที่พี่คาดวาเหมือนของจริงมากที่สุดใหดูตาม ขางลางนี้นะ ชื่อ…(ดีใจที่เกิดมาชื่อ+นามสกุลสั้นก็คราวนี้แหละ)………เลขที่สอบ…(3ตัวหนา)………….. ที่ 1 2 3
สิ่งที่ผิด
แกไขเปน
ใบสั่งแพทย Amoxy+K.clavulonate 500 mg q 8 hr pc Chloramphenicol eye drop O.U ซองยาที่จัดมาให - Amoxy 250 - Amoxy เวลาทาน ผิด - Amoxy ไมระบุใหทานติดตอกันจนหมด - Chloram ไมบอกใหเก็บในตูเย็น - วิธีแกไขก็ตรงกันขามกับที่ผิดนั่นแหละ
Pharmacy Student Rx’24
#20 #1
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
138
สถานีที่ 27 พัก สถานีที่ 28 การขายยาตามกฏหมาย - มีเครื่องคิดเลขให 1 เครื่อง - มีตาราง BMI ให ไมบอกก็รูวาตองทําอะไร --- อาจารยมาขอซื้อยาลดความอวน ถามไปถามมาบอกวาอยากได Phentermine - ก็โมไปเรื่อยเลยนะวาเปน P2 แลวก็แนะนําวิธีลดความอวนแบบอื่น
สถานนี ที่ 29 เขียนซองยา … กินยาติดตอกันจนหมด ชื่อผูปวย…………….……………… …. ทานแลวอาจงวงนอน ชื่อยา………………..วันที่………… ….ทานเฉพาะมีอาการ สําหรับ…………………………….. ….ทานกอนอาหาร 30 นาที รับประทานครั้งละ…………เม็ด/ซอง/มิลลิลิตร ….ไมควรทานพรอมยาลดกรด วันละ….. เวลา …..กอนอาหาร ….หลังอาหาร …..อะไรไมรูอีกซัก 2-3อยางแหละจําไมได …เชา …เที่ยง …บาย …เย็น ….กอนนอน ยาที่แสดงไว 1. Roxithromycin 150 mg 2. Actifed อยางละแผง สถานีที่ 30 พัก A. สถานี ที่ 31 ประเภทยาตามกฎหมาย - พนักงานนําตัวอยางยามาใหเพื่อที่จะจัดยาเขาตูยาของโรงงาน ใหบอกประเภทยาตามกฎหมายแลว ก็ บอกวาเภสัชจายไดหรือไมไดถามาซื้อโดยไมมีใบสั่งแพทย โจทยเคลียรดี - ตัวอยางยา มี 5 ตัวดังนี้ 1. ยาแกไอน้ําดํา 1 ขวด 60 มล 2. Phenylbutazone ใสขวดสีชามา 3. Lomatil อันนี้พี่เหนแผงมันแลวนึกวาเปน Dramamine ดีนะ ที่ไหวตัวทันทวนซ้ําก็เลย แกใหม 4. Prednisolone Cream 5. Dexamethasone เม็ด ตัวอยางกระดาษคําตอบ แบบนี้เลย เช็คใหพี่ดวยนะเผื่อวามันจาถูกเพิ่มขึ้น ที่ ประเภทยาตามกฎหมาย เภสัชจายได ไมได 1 ยาสามัญประจําบาน + 2 ยาควบคุมพิเศษ + 3 ยาเสพยติดใหโทษประเภทที่ 3 + 4 ยาอันตรายที่ใชภายนอก + 5 ยาควบคุมพิเศษ + By พี่สมชาย 127 CMU
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
139
OSPE
OSPE 2550/1 By P’ Phung สถานีที่ 1 เปดหนังสือตองการยาในอเมริกาที่ชื่อAdvil®ซึ่งไมมีอยูในเมืองไทยใหเปดหาชื่อgeneric แลวก็ดูชื่อการคาใน ไทยมาสองชื่อ มีหนังสือ martindale,mims และ drug information handbook แนวคิด ใหเปดหาชื่อยาในหนังสือเลมอื่นที่ไมใช MIMS. นะจะ เพราะใน MIMS จะมีแตยาที่มีใน Thai แตแนะนําใหเปด ใน Drug Information จะงายกวา ASFH เพราะเลมเล็ก เปดงาย เราคุนเคยจะไดเปดทันรีบเปด และเขียนเร็ว ๆ นะพอได Generic Name แลวก็ไปเปดหา Trade Name ใน MIMS อีกที สรุป ลองเปดจากmartindaleกอนหาชื่อgeneric ไดวาเปนibuprofenแลวเปดจากmimsหาเกี่ยวกับชื่อการคาในไทย ชื่อ...................................................................เลขประจําตัว Generic Name เปดจากหนังสือ.......................... ............................. Edition………………………... ปที่พิมพ...............หนา.............. Trade Name 1. ............................. 2. ………………….
เปดจากหนังสือ.......................... Edition………………………... ปที่พิมพ...............หนา..............
สถานีที่ 2 อธิบายการใชยา Isosorbide Dinitrate (Isodil) SL จํานวน 30 prn. แนวคิด ตองรูวา SL = Sublingual เปนยาอมใตลิ้น ก็บอกอาจารยที่อยูประจําสถานีตามขั้นตอนคือ 1. แนะนําตัววาเราเปนเภสัชกร “ดิฉันเภสัชกร.............” 2. ยาที่คุณไดรับคือยา ISDN กี่ mg เปนยาอมใตลิ้น เพื่อบรรเทาอาการปวดเคนหัวใจ 3. วิธีใช ใหอม 1 เม็ดใตลิ้น เมื่อมีอาการปวดเคนหัวใจหากอาการไมดีขึ้นภายใน 5 นาที ใหอมอีก 1 เม็ด อม ได 3 เม็ด เม็ดที่ 2 ถาไมดีขึ้นเตรียมตัวสงรพ. ใหอมเม็ดที่ 3 บนรถ ไปดูเพิ่มวาเคี้ยว กลืน หรือบวน น้ําลายไดหรือไม อาจถามอยางอื่นอีก ex เปนยาสําหรับโรคอะไร สถานีที่ 3 ใหคํานวณขนาดการจายยา Amoxycillin (125 mg/5mL) 60 mL ใหแกเด็ก อายุ 6 ขวบ หนัก 15 กิโลกรัม (ขนาดการใช 25 mg/kg/d) ใหตอบวาตองจายยาใหเด็กอยางนอยที่สุดกี่ mL แลวตองจายยากี่ขวด และ ระบุ วิธีการรับประทาน สถานีที่ 4 คํานวณวาถาจะเตรียม Chlorhexidine solution 1 %w/v จํานวน 30 mL จาก Chlorhexidine Stock solution 10 % w/v จะตองใช Chlorhexidine Stock solution กี่ mL แนวคิด จะตองเขียนวิธีคํานวณลงไปในกระดาษดวยวาคิดคําตอบมาไดอยางไร Ex จากสูตร N1V1 = N2V2 10 x V1 = 1 x 30 V1 = 3 ml แลวตองเอาคําตอบที่คํานวณไดไปเตรียมในสถานีถัดไป
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
140
OSPE
สถานีที่ 5 เตรียมน้ํายาบวนปากที่คํานวณจากสถานีที่แลว แนวคิด ตองพยายามทําตาม technique นะจะโดยบนโตะจะมีอุปกรณใหเพียบเลือกใชใหถูก 1. มองหา Chlorhexidine 10% --- เปดขวดวางฝาหงาย --- ดูฉลากอีกรอบ ---- ถือใหฉลากอยู ในอุงมือ 2. เทลงใน Cylinder 10 ml จํานวน 3 ml. คอย ๆ ถาหกใหรีบเช็ดแลวคอยรินตอ ไมตองเทลง beaker กอน เทใส Cylinder นะจะ 3. เทสาร 3 ml ลงใน beaker 50 ml เพราะเราจะทํา 30 ml ใหเลือก beaker ที่พอดีไมใหญ – เล็กเกิน 4. ตวง H2O ประมาณ ¾ ของตํารับ คือ ประมาณ ¾ x 27 = 20 ml โดยใช Cylinder 25 ml 5. เทน้ําที่ตวงไดใส beaker ที่ใสสารไว ---- ใช stirring rod. คน 6. เทใส Cylinder 30 ml (ถาไมมกี ็ใช 50 ml.) แลวใช H2O ปรับปริมาตรใหครบ 30 ml. (อยาลืม rinse beaker มาเพื่อปรับปริมาตรดวย) 7. เทใส beaker แลวใช stirring rod คนใหเขากัน --- ถามอาจารยวาใหเทใสภาชนะรึเปลา เปนอันเสร็จ รีบ หนอยแตไมตองรน ตั้งสติดี ๆ นะจะ สถานีที่ 6 ใหนับเม็ดยา Paracetamol 500 mg # 90 ใสภาชนะที่เหมาะสมโดยไมตองเขียนฉลากจา แนวคิด สถานีนี้ไมยาก ควรทําใหไดเต็มกันทุกคนนะจะนอง ๆ 1. หยิบยาใหถูก 2. เช็ดถาดนับยาใหสะอาด 3. เทยาลงถาดโดยปดชองวงกลมไวกอน (ดูยา 3 ครั้ง วางฝาขวดยาหงาย) 4. คอย ๆ นับทีละ 5 เม็ด กรุณาอานดี ๆ วาโจทยสั่งกี่เม็ด 5. เลือกขวดใสใหพอดี แลวเช็ดถาดหลังพับใหเรียบรอย เปนอันเสร็จพิธี อาจารยประจําฐานจะ check จํานวนโดยการชั่งน้ําหนักดู สถานีที่ 7 ซึ่ง Vanishing Cream โดยใหสูตรตํารับวา Rx Sulfur 0.5 g. , Cream base qs. 5 g. แนวคิด อานโจทยดี ๆ คิดกอนวาตองชั่ง Cream เทาไหร หักน้ําหนักของผงยาใหเรียบรอยนะ - พับกระทง + รองกระดาษไขดวย & label ใหเรียบรอย - ดูลูกน้ําเครื่องชั่ง , tare, วางกระทง , tare อีกครั้ง (ถาเครื่องชั่งสกปรกก็ทํา ความสะอาดหนอยนะ) - ใช Stirring rod กับ spatula ตัก Cream เพื่อเอามาชั่ง ตอนแรก คอย ๆ ปาด cream ลงบนกระทงแลวดู น้ําหนักกอน เพราะถาใสไปเยอะ จะตักออกยาก - พอไดน้ําหนักที่ตองการแลวก็ยกลง ** แลว tare เครื่องชั่งอีกครั้ง* .......................ยก Cream ไปผสมในสถานีตอไปจา................................... สถานีที่ 8 ผสม Cream ที่ชั่งมากับ Sulfur ที่เตรียมไวให มีอุปกรณใหเลือกเพียบ + มี glycerin กับ Mineral oil ดวย แนวคิด ถาเปนการผสม Cream, ointment กับผงยา ไมตองคิดถึงอยางอื่นนอกจาก Slab กับ Spatula ซึ่งจะใชวิธี Pulverization by intervention จาโดยเลือก interventing agent หยดผสมกับผงยา โดยเลือกใหเขากับ cream base - ตองรูวา Vanishing Cream เปน Cream base แบบ O/W ตองใช glycerin - เทผงยาบน slab แลวหยด glycerin พอใหผสมเขากันเปน smooth paste - ปาด cream ลงบน slab แลวผสมกับ ผงยาดวย geometric dilution จนเขากันดี บางครั้งอาจไมมีเวลาหรือ ตื่นเตนจนทําไมทันก็คอยบอกอาจารยที่ประจําสถานีวาเรากําลังทําอะไรแลวผลลัพธที่ไดจะเกิดอะไรขึ้น อาจารยจะไดรูนะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
141
OSPE
สถานีที่ 9 ใหดูวายาที่กําหนด (Codeine 100 mg + Phentoloxamine 3 ... mg ) # 30 จายไดหรือไม ในรานขายยานะ ปจจุบันที่พี่เขียนอยูคือวา จายไมได เพราะยาที่มีสวนผสมของ codeine ถูกเอาออกจากรานขายยาไปหมดแลว จายไดเฉพาะใน โรงพยาบาล เปนยาประเภท ยาเสพติดใหโทษประเภทที่ 3 ขอควรแนะนําใหกลับไปหาหมอที่ ร.พ.ใหจายยานี้ให Side effect 1. ทองผูก 2............. สถานีที่ 10 เตรียม Carbopol Hydrogel โดยในใบที่แปะตํารับไวระบุวา a. Carbopol 0.5 %w/w b. Purified water q.s. ad 100 mL Mf.t. 30 mL ใหเตรียม โดยที่มีซองใส Carbopol ที่ชั่งเรียบรอยแลวมาใหกับน้ําวางอยู แนวคิด
บางคนอาจจะหลงไปคํานวณซึ่งพี่ก็เปนคนหนึ่งที่ถูกหลอกเหมือนกัน (วา โงจัง) อานโจทยดี ๆ ซึ่งโจทยบอกวาเตรียม carbopol ไวใหแลว เราก็แคตวงน้ํา 30 g มาพอง gel เลย 1. เลือกอุปกรณ พี่ใชโกรงกระเบื้องนะเพราะมันมีแรงบดกระจาย carbopol ไดดี บางคนอาจใช beaker + stirring rod ก็คงไมผดิ แตมันจะมีแรงกระจาย Carbopol นอย กวาจะรอให carbopol พองเต็มที่ก็พอดีหมดเวลา (ลองแอบถามอาจารยดูวาวิธที ี่ถูกคืออะไรนะ) 2. ตวงน้ํา 30 ml เทในโกรง จากนั้นคอยๆโปรย carbopol ลงไปแลวใชลูกโกรงคนชวยให carbopol กระจาย – product ที่พี่ไดจะเปนของเหลวใส ๆ ------------------------------ ยกอุปกรณไปใชในสถานีถัดไป-------------------------สถานีที่ 11 ให triethanolamine (TEA) กับ glycerin มาเพื่อใหหยดลงใน carbopol จากสถานีกอนเพื่อให form gel แนวคิด technique เหลานี้เด็กภาคอื่น ๆ อาจงงหนอย ยังไงกอนสอบเพื่อน ๆ ภาค ceutic ก็อนุโมทนา ติวใหเพื่อน ๆ ดวย เพราะบางทีถาเคยเจอมันก็ทําได ถาไมเคยเจอเลยก็ไมรูจริง ๆ - หยด TEA ประมาณ 2-3 หยด ลงใน carbopol ที่พองไวแลว คนเล็กนอยก็เปน gel แลว - อาจารยจะใหวัด PH ดวย *หาม* จุม PH paper ลงใน gel เลยนะใหใช stirring rod มาปายเอา อาจารยแค จะ check technique และดูวาเปน gel หรือไม เพราะ carbopol จะ form gel ที่ pH เปนดาง สถานีที่ 12 ยาเหลานี้เปนยาประเภทใด และขายในรานสะดวกซื้อไดหรือไม Vitamin C แบบ 100 mg แผง 10เม็ด Sara แบบแผง 10 เม็ด Ambroxal Mebendazole 500 mg 1 เม็ด Actifed แบบแผง 10 เม็ด 1. Actifed แผงละ 10 เม็ด - เปนยาอันตราย จายไมได เนื่องจากมี pseudoephedrine เปนสวนประกอบ 2. Victamin C แผงละ 10 เม็ด - ไมแนใจวาเปนยาสามัญประจําบาน หรือยาแผงปจจุบันบรรจุเสร็จที่ไมใชยาอันตรายหรือยา ควบคุมพิเศษนะจะ ลองไปดูที่แผงดี ๆ แตยังไงก็จายได 3. Paracetamol 500 mg แผงละ 10 เม็ด - ยาสามัญประจําบาน จายได 4. เปนยาเม็ดใสแผง ยา Ambroxol - ยาแผนปจจุบนั บรรจุเสร็จที่ไมใชยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ จายไดจา 5. mebendazole 500 mg 1 เม็ด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
142
OSPE
สถานีที่ 13 สถานีนี้มีอาจารย มาบอกเราวาเปนฝาขาวที่ลิ้นขอซื้อยาหนอย คุณเภสัชกร แนวคิด เราตองพยายามหาสาเหตุวาฝาขาวนั้นเกิดจากอะไร อยาปกใจเชื่อตามที่ใจเราคิดเอง เริ่มเลย (พยายามถามเปน step ที่อาจารยเคยสอนมาจะไดไมหลงกล) 1. แนะนําตัวเอง ---- สวัสดีคะ ดิฉันเภสัชกร-----มีอะไรใหชวยคะ 2. กอนหนานี้ปวยหรือมีโรคประจําตัวหรือไม 3. ใชยาอะไรอยูหรือเปลา พอมาถึงตรงนี้ถามไปถามมาปรากฏวาผูปวยใชยาพนแกหอบหืดอยู เลยถามวาหลังใช บวนปากหรือไม - ตองบอกไดวายาอันไหนทําใหเกิดฝาขาวในปาก --- ตองบอกตัวที่เปน Steroid นะไมใช β2 – agonist - ตองบอกกลไกงาย ๆ ไดวาทําไมถึงทําใหเกิด ----- เปนยากดภูมิ normal flora จึงเจริญเติบโตมากกวา ปกติ เลยทําใหเกิดฝาขาวที่ปาก 4. ไมตองจายยา แตใหคําแนะนําการใชยาพนวาหลังใชตองบวนปากทุกครั้ง แลวฝาขาวจะหายไปเอง สถานีที่ 14 ยาเหลานี้เปนยาประเภทใด และการขายตองมีใบสั่งแพทยหรือไม c. Brown mixture 240 mL 3 ขวด d. Lomotil e. Phenylbutazone f. Alprazolam g. Amitriptyline 1. Lomotil = Diphenoxylate HCl + atropine sulfate - เปนยาเสพติดใหโทษประเภท 3 ... จา จายไดเลย แมจะไมมีใบสั่งแพทยก็ไดนะ 2. Alprazolam - เปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาทประเภทที่ 4 จายไดถามีใบสั่งแพทย 3. Pseudoephedrine 60 mg - เปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาทประเภทที่ 2 จายไมไดเพราะไมมีในรานขายยานะ ถาเปนสูตรผสม ถึงจะมี แตถาเปน pseudo เดี่ยว ๆ ไมมี 4.brown mixture 5.Amitriptyline สถานีที่ 15 อาจารยมาเปนลูกคาขอซื้อยาแกคันหนอย แนวคิด ก็เหมือนเดิมวาตองหาสาเหตุกันกอนเลย ----แนะนําตัวเหมือนเดิม 1. เปนเองรึเปลาคะ ---- ปรากฎวาลูกชายเปน 2. มีอาการเปนอยางไร ---- ตุมขึ้น แลวก็คัน 3. กอนหนาที่จะมีอาการปวย หรือใชยาอะไรหรือไม ---- ไมสบาย + กิน Amoxy ที่หมอจายมาให 4. เคยแพยาอะไรหรือไม ---- กอนหนานี้ก็ไมเคยแพแตกินยา Amoxy เปนครั้งแรก 5. เลยสรุปไปวานาจะเกิดจากการแพยา ควรพานองกลับไปพบแพทย เพื่อใหดูอาการแลวเปลี่ยนยาใหม 6. ไมวาจะเปน Case ไหนก็ตามตองปดทายเสมอวา “มีอะไรจะซักถามเพิ่มเติมอีกหรือเปลาคะ” เผื่อวา เราลืมอะไรไป อาจารยจะชวยถาม Guide ใหนะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
143
สถานีที่ 16 อาจารยมาขอซื้อยา glibenclamide 10 เม็ด และเอาผล Lab ครั้งลาสุดมาถามเราดวย ผล Lab FBS = 200 mg/dL. HbA1c = 8 % 1. จะจายยาใหหรือไม ---- อาจารยขอซื้อเพราะทํายาตกทอน้ํา 2. อธิบายคา Lab ประกอบ 3. แนะนําวิธีการปฏิบัติตัว แนวคิด - FBS ควร < 120 mg/dL. & HbA1c ควร < 7% แสดงวายังควบคุมน้ําตาลไมคอยดี - ยาที่มาขอซื้อจะจายใหชั่วคราวไปกอนถึงวันที่แพทยนัด ตองบอกดวยวาไมควรซื้อยารับประทานเอง นะคะ ควรไปพบแพทยตามที่แพทยนัดเพื่อดูผลการรักษา และแพทยอาจเปลี่ยนยาใหตามความ เหมาะสม - อาจารยถามวา FBS กับ HbA1c ตางกันอยางไร FBS เปนคาแสดงระดับน้ําตาลในเลือดหลังจากการอดอาหาร HbA1c เปนคาของน้ําตาลที่จับอยูบน Hemoglobin (เม็ดเลือด) ใน 3 เดือนที่ผานมา เพื่อยืนยันกับผลการ ตรวจ FBS เพราะผูปวยบางคนหัวใสควบคุม อาหารมาเปนอยางดี 1-2 วันกอนตรวจ HbA1c จะเปนตัว บอกวาคุมน้ําตาลไดดีหรือไม - แนะนําใหผูปวยควบคุม และจํากัดอาหารที่มีรสหวาน + ออกกําลังกายควบคูไปดวยจะสงผลดีตอการรักษา สถานีที่ 17 ใหจายยาตามใบสั่งแพทย พรอมกับคําแนะนํา , side effect ฯลฯ (เทาที่จะบอกได) ชื่อ นาง ก. นามสกุล ข. HN 12345 Cafergot (Ergotamine 1 mg + caffeine 100 mg) # 10’s Sig 2 tabs stat & 1 tab q ½ hr. PRN Flunarizine 25 mg. # 10’s Sig 1 cap tid.hs แนวคิด
ตองถามชื่อผูปวยใหตรงกับใบสั่งยา อาจารยอาจถามวาเคาเปนโรคอะไร --- Migraine ยาที่ไดรับในวันนี้มี 2 ตัวคือ 1. Cafergot 10 เม็ด เปนยาบรรเทาอาการปวดหัว migraine ใหรับประทาน 2 เม็ด ทันทีเมื่อมีอาการปวด และ อีก 1 เม็ด ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง หากยังมีอาการ รับประทานไดไมเกินวันละ 6 เม็ด และอาทิตยละไมเกิน 10 เม็ด นะจะ อาการขางเคียงจะเกิดจาก Caffeine คือ ใจสั่น คลื่นไส อาเจียน นอนไมหลับ 2. Flunarizine 25 mg เปนยาขยายหลอดเลือด เพื่อใหเลือดไหลเวียน ใชในการบรรเทาอาการปวดหัว ยานี้ อาจทําใหงวงนอน ไมควรขับรถหรือทํางานกับเครื่องจักร หายใจลึก ๆ ...สู ๆ นะคะ เดี๋ยวก็ไดเปนเภสัชกรแลว สถานีที่ 18 ใหเขียนฉลากของยา norfloxacin กับdomperidone อะ + ฉลากชวยดวยนะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
144
OSPE
สถานีที่ 19 ใหจับผิดใบสั่งยา และแกไขใหถูกตอง Metformin # 30’s 1 x 1 pc Aspirin 60 mg # 30’s 2 x 3 pc Simvastatin 10 mg # 30’s 1 x 1 Q.A.M. แนวคิด สิ่งที่ผิด แกไขเปน 1. Metformin ไมบอกขนาด Metformin 500 mg. 2. Aspirin การใชผิด Aspirin 60 mg. 1 x 1 pc. หลังอาหารเชาทันที 3. Simvastatin Simvastatin 10 mg. 1 x 1 Q.A.M. 1 x 1 hs. สถานีที่ 20 อาจารยจะมาขอ refill ยา ซึ่งเปนยาที่โจทยระบุวามีอยูในรานเราเยอะมากเลย จะจายอะปาว Fluoxetine 1 x 1 หลังอาหารเย็น Diazepam 1 x 1 hs. แนวคิด คือแบบวาสถานีนี้พี่ก็ กง...กง อะ ไมไดถามตนสายปลายเหตุอะไรเลย โจทยก็ยาวกวาจะอานจบพี่เลยบอก อาจารยไปวา Diazepam จายใหไมได จะตองมีใบสั่งแพทย อาจารยก็แกลงบอกวาแคเม็ดเดียวก็ได วัตถุออก ฤทธิ์ตอจิตและประสาทประเภท 4 ตองมีใบสั่งแพทย จึงจะจายไดในรานขายยานะจะ สวน Fluoxetine ขายได ไมมีปญหา ไมไดถามวาใครกิน แตพี่เดาไปเองเสร็จ เลยแนะนําวาใหลองเปลี่ยนมากินตอนเชา เนื่องจาก side effect ของมันทําใหนอนไมหลับจะไดไมตองกิน Diazepam…สถานีนี้อาจารยวิเชียร ก็แกลง ๆ ดวยเลยงงเลย ถาอยากรูวาสถานีนี้ตองการอะไร ก็ลองถามอาจารยวิเชียรดูก็ไดนะ ขํา พี่ไมรูวาพูดอะไรไป พอใกลหมดเวลานึกขึ้นไดเลยถาม อาจารยไปวาจะซื้อกี่เม็ด อาจารยเลยขําแลวไลให ไปสถานีตอไป สถานีที่ 21 อาจารยมาขอซื้อยาอีกแลว ขอซื้อยาแกไอหนอย แนวคิด ก็เหมือนเดิมอีก ---- กอนอื่นแนะนําตัวเอง - เปนเองรึเปลา --- เปลา ซื้อใหคนงานที่บาน - มีอาการเปนอยางไร ----- ไอประจํา ซื้อยาไปใหกินบอย ๆ - เปนมานานแคไหนแลว ---- นานละ บางทีไอจนเปนเลือดเลย - อาการอยางอื่นมีอีกไหม ------ ผอม ซีด เลยแนะนําวาใหพาไปพบแพทยเพื่อตรวจหาสาเหตุจะดีกวานะ - อยางนี้จะเปนวัณโรคไดมั้ย อาจารยถาม ------ ก็อาจจะเปนไปไดนะคะตองลองตรวจดู - อาจารยใหบอกวาคนที่เปนวัณโรคจะมีอาการอยางไร ----- น้ําหนักลด ซีด อาจมีไข เหงื่อออกตอน กลางคืน ก็ลองไปดูเอานะจะ - อาจารยถามตออีกวาจะเปน AIDS ไดมั้ย ----- ก็ตองดูวามีปจจัยเสี่ยง เชน ชอบเที่ยวผูหญิง ก็อาจจะติด เชื้อได และถารางกายออนแอ ก็ทําใหเปนวัณโรคแทรกซอนไดงาย ตองพาไปตรวจดูนะคะ - มีอะไรจะซักถามเพิ่มเติมอีกรึเปลา ???
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
145
OSPE
สถานีที่ 22 เปนใบสั่งยาที่มีปญหาใหเราไปปรึกษาคุณหมด Erythromycin ยาอีก 2-3 ตัว และ Theophylline Budesonide 1 puff tid แนวคิด ตองรูวายาอะไรบางที่มีผลกับระดับยาในเลือดของ Theophylline นะจะ ในใบสั่งยานี้ตัวที่มีปญหาคือ erythromycin ซึ่งเปน enz. inhibitor ซึ่งจะทําใหระดับ Theophylline ในเลือด สูงขึ้น เนื่องจากยา Theophylline มี narrow therapeutic จึงทําใหเกิด side effect จากยา S/E ที่เกิดขึ้นจะ คลายกับ Caffeine คือ ปวดหัว คลื่นไส อาเจียน ใจสั่น นอนไมหลับ หนาที่ของเราในสถานีนี้ก็คือ บอกปญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อใหหมอเปลี่ยนยาจา อาจารยจะถามเราตออีกวาคุณเภสัชกรคะชวยแนะนําหนอยวาจะเปลี่ยนเปนยาตัวไหน หรือกลุมไหนดี ก็ไป เตรียมดูกันนะจะ พี่บอกไปวา roxithromycin แทนก็ได คุณหมอ ขอนี้ไมมีอะไรยากนะตองตั้งสติดี ๆ คอย ๆ ดู เพราะทุกครั้งเรามักจะเจอแต Cimetidine กับ Theophilline ก็ไปเตรียมนะเผื่ออาจเจอตัวอื่นอีก ไมแนครั้ง ตอไปอาจเปนตัวที่ inducer ก็ได สถานีที่ 23 เปดหนังสือครับผม โจทยใหมาวาตองการเตรียม Sulfadiazine ผสมกับ yellow ointment แลวใหเปดหา yellow ointment โดยให martindel , Phamaceuticsl Excipient และอีกเลมนึง แนวคิด ขอนี้ลองไปเปดในหองสมุดนะ เพราะพี่และผองเพื่อน เปดกันทั้ง 3 เลมเลย แตไมเห็นเจออะไร ไมรูวา yellow ointment จะมีชื่อพองอยางอื่นรึเปลานะ ตองลองหาเอง สถานีที่ 24 ใหบอกวาเปน Dosage form ชนิดใด (เขียนเปน technical term) 1. เปนยาเม็ดเคลือบ (ดูเองนะวา sugar coated กับ film coated ตางกันอยางไร) ขอนี้พี่ก็ตอบเปน Coated Tablets 2. ยาเม็ดกลมใหญประมาณเหรียญ 5 บาท – Effervescent tablets 3. เหมือนยาแกไอน้ําดํานะ – Mixtures 4. ยาอมแหละ – Lozenges 5. ยาสีสม ขนเหนียว คอนขางใส – Emulsions ถาเปน Dosage form ตองอยาลืมเติม S นะจะ สถานีที่ 25 ผูปวยมาปรึกษาวาทานยา Diclofenac SR(100 mg)อยู เมื่อกอนหมอเคยสั่งใหทานวันละ 1เม็ด ตอนนี้ อยากเปลี่ยนมาเปน หักแบงครึ่งเม็ด ทานเชาเย็นไดหรือไม ใหอธิบายเหตุผลพรอมทั้งขอแนะนํา และผูปวยรายเดียวกันนี้ เปนคนแก ฟนไมดีแตตองรับประทาน Antacid ซึ่งระบุใหเคี้ยวกอน ถาเคี้ยวไมไหว ไมเคี้ยวไดไหม ใหอธิบายพรอม ขอแนะนํา diclofenac อันนี้เปนแบบsustained released จึงหามหักเม็ดยาเนื่องจากมีผลตอการปลดปลอยตัวยา คําแนะนําก็ตอบ ไปอะวาหามหักบดเคี้ยวแลวก็ใหทานยาหลังอาหาร ดื่มน้ําตามมากๆ antacid ชื่อ-นามสกุล เลขประจําตัว กลืนทั้งเม็ดไดหรือไม เพราะ แตจะออกฤทธิ์ไดไมดีเหมือนกับ ได การคี้ยวกอนกลืน ใหเขียน....................... คําแนะนํา - แนะนําใหบดกอนแลวกินพรอมน้ํา - อาจเปลี่ยนไปกินแบบ Antacid gel เลยก็ได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
146
OSPE 2550/ 1 (Version 2) BY Pandanus idin Rx’21 KKU 1. พัก 2. จงระบุ dosage form ของยาเปน technical term A. Sugar coated tablet B. Effervescent tablet C. Mixture D. Lozenge E. Emulsion 3. เปดหนังสือหา generic name ของยา Advilฎ พรอมทั้งระบุชื่อการคาที่มีจําหนายในประเทศไทยมา 3 ชื่อ - เปด Drug Information International ไปที่หนา index เพื่อหา generic name ของ Advilฎ ซึ่งก็คือ Ibuprofen - เปด MIMS ไปที่หนา index เพื่อหา trade name ของยา ibuprofen ที่มีจําหนายในประเทศไทย **ระบุชื่อหนังสือ, ปที่พิมพ, หนา** 4. แนะนําการใชยา isosorbide SL 1 tab prn - ทักทาย และแนะนําตัวเอง - บอกชื่อยา (isosorbide) และสรรพคุณ (เปนยาอมใตลิ้น ใชขยายหลอดเลือด รักษาอาการเจ็บแนนหนาอก) - แนะนําวิธีการใชยา 1. อยูในทานั่ง หรือทานอน 2. อมยาใตลิ้น ครั้งละ 1 เม็ด 3. ปลอยใหยาละลายชาๆ จนหมด หามเคี้ยวยา หามกลืนยา และหามกลืนน้ําลาย 4. หากอมยา 1 เม็ดแลวอาการเจ็บแนนหนาอกยังไมดีขึ้น สามารถอมยาซ้ําไดอีก 2 ครั้ง หางกันเม็ดละ 5 นาที และหากครบ 3 เม็ดแลวอาการยังไมดีขึ้นอีก ใหรีบไปพบแพทยที่โรงพยาบาล 5. หลังจากอมยาแลวใหอยูในทาเดิมสักพัก อยาเพิ่งเปลี่ยนทาทางรวดเร็ว เพราะจะทําใหหนามืดได 6. หากตองออกแรงหรือทํากิจกรรมที่อาจทําใหเกิดอาการเจ็บแนนหนาอก สามารถอมยากอนลวงหนาได 5. ระบุประเภทของยาตามกฎหมาย และบอกดวยวาสามารถจําหนายในรานสะดวกซื้อไดหรือไม ชื่อยา ประเภทของยาตามกฎหมาย การจําหนายในรานสะดวกซื้อ Actifed
ยาอันตราย
ไมได
Vitamin C Ambroxol Sara Benda 500
ยาสามัญประจําบาน ยาอันตราย ยาสามัญประจําบาน ยาสามัญประจําบาน
ได ไมได ได ได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
147
OSPE
6. ด.ช.เดียว น้ําหนัก 15 kg แพทยจาย amoxicillin ใหในขนาด 25 mg/kg/day เปนเวลา 7 วัน ที่หองยามี amoxicillinsyrup 125 mg/5 ml ขนาด 60 ml ผูปวยจะไดรับยาในขนาดเทาไร คิดเปนปริมาตรทั้งหมดเทาไร และต องจายยาใหผูปวยทั้งหมดกี่ขวด จงคํานวณขนาดยา รวมทั้งเขียนฉลากยาและฉลากชวย ตอบคําถาม - ขนาดยาที่ผูปวยไดรับตอวัน = 25 mg x 15 kg = 375 mg/day - คิดเปนปริมาตรยาตอวัน = (375 mg/day x 5 ml)/125 mg = 15 ml/day - คิดเปนปริมาตรยาตอ dose = 15 ml/3 dose = 5 ml = 1 tsp - 7 วันผูปวยไดรับยา = 15 ml/day x 7 day = 105 ml - ผูปวยตองไดรับยาทั้งหมด 2 ขวด เขียนฉลาก - วันที่ (วันที่สอบ) - ชื่อผูปวย ด.ช. เดียว......... - ชื่อยา amoxicillin syrup - ความแรง 125 mg/5 ml - จํานวนที่ไดรับ 2 ขวด - สรรพคุณ ฆาเชื้อ - วิธีรับประทานยา รับประทานครั้งละ 1 ชอนชา วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเชา กลางวัน และเย็น ฉลากชวย - ผสมน้ําถึงขีดที่กําหนด - รับประทานติดตอกันทุกวันจนหมด - เขยาขวดกอนรินยา - เก็บยาไวในตูเย็นไดนาน 14 วัน 7. พัก 8. Rx Chlorhexidine gluconate 1.0 % w/v M.Ft Solution 30 ml จะตองใช 10% Chlorhexidine stock solution เทาไร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
148
ตองการเตรียม chlorhexidine 1% 10 สวน คิดเปน 30 ml จะตองใช 10% chlorhexidine stock solution 1 สวน คิดเปน 3 ml และใชน้ํา 9 สวน คิดเปน 27 ml 9. เตรียม Chlorhexidine gluconate solution 30 ml 1. ตวง 10% chlorhexidine stock solution 3 ml โดยใช cylinder ขนาด 5 ml 2. คํานวณน้ํา 3/4 ของปริมาตรที่ตองใชทั้งหมด = 3/4 x 27 ml = 20.25 ml 3. ตวงน้ําประมาณ 21 ml โดยใช cylinder ขนาด 25 ml 4. เท 10% chlorhexidine stock solution 3 ml ที่ตวงไวลงใน beaker ขนาด 50 ml 5. เทน้ํา 21 ml ที่ตวงไวลงใน beaker ที่เท 10% chlorhexidine stock solution ไวแลว 6. ใช stirring rod คนผสมสารละลายใหเขากัน 7. เทสารละลายที่ผสมแลวลงใน cylinder ขนาด 50 ml 8. ปรับปริมาตรสารละลายจนครบ 30 ml ดวยน้ํา 9. เทสารละลายที่ไดลงใน beaker ขนาด 50 ml สงใหอาจารยผูคุมสอบ 10. นับเม็ดยา paracetamol 500 mg จํานวน 90 เม็ด 1. เช็ดถาดนับเม็ดยาดวยสําลีชุบแอลกอฮอล 2. ปดฝาครอบถาดนับเม็ดยา 3. ดูฉลากยากอนหยิบขวดยา** 4. เปดฝาขวดยา วางหงายไวบนโตะ 5. ดูฉลากยากอนเทยาลงในถาดนับยา** โดยยังไมตองเปดฝาครอบถาดนับเม็ดยา ปดฝาขวดยา 6. จับไมนับถาดยาดานเรียว 7. เปดฝาครอบถาดนับเม็ดยา 8. ปาดเม็ดยาจากดานขวามาดานซายครั้งละ 5 เม็ด 9. กรณีที่เทยาไมครบจํานวน เมื่อจะเทยาใหมตองปดฝาครอบถาดนับเม็ดยากอนทุกครั้ง 10. เมื่อนับยาไดครบตามจํานวน ปดฝาครอบถาดนับเม็ดยา 11. เทยาสวนที่เกินลงในขวดยา ปดฝาขวดยา 12. ดูฉลากยาอีกครั้งกอนนําขวดยาไปเก็บ** 13. เทยาที่นับแลวลงในภาชนะที่เหมาะสม 14. เช็ดถาดนับยาดวยสําลีชุบแอลกอฮอล **อยาลืม triple check** 11. Rx Sulfur 0.5 g Vanishing base qs.ad. 5.0 g ชั่ง base ตามที่กําหนดในตํารับ 1. คํานวณน้ําหนัก base ที่ตองการชั่ง = 5.0 – 0.5 = 4.5 g 2. พับกระทงชั่งสารดวยกระดาษไข label ที่กระทงวา vanishing base 4.5 g 3. ทําความสะอาดเครื่องชั่งดวยแปรง 4. ดูลูกน้ํา 5. เปดเครื่องชั่ง รอจนขึ้นตัวเลข 6. วางกระทงชั่งสารลงบนเครื่องชั่ง 7. กด tare จนกระทั่งเครื่องอานคาได 0.000
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
149
8. ดูฉลากกอนหยิบกระปุก vanishing base** 9. ดูฉลากกอนตัก vanishing base ออกจากระปุก** โดยใช spatula (stainless) 10. คอยๆตัก vanishing base ใสลงในกระทงชั่งสาร โดยใช stirring rod ชวย จนไดครบ 4.5 g 11. ดูฉลากอีกครั้งกอนนํากระปุก vanishing baseไปเก็บ** 12. ยกกระทง vanishing base ที่ชั่งเสร็จแลวออกจากเครื่องชั่ง 13. กด tare รอจนกระทั่งเครื่องอานคาได 0.000 แลวจึงปดเครื่องชั่ง 14. ใชแปรงปดทําความสะอาดเครื่องชั่ง **อยาลืม triple check** 12. บดผสมผงยา sulfur กับ base ที่ชั่งมา 1. เลือกอุปกรณ slab + spatula (stainless) 2. เทผง sulphur ออกจากซอง ไวที่ตรงกลาง slab 3. ใชมือขางที่ไมถนัดจับดาม slab แลว lock slab ไวกับขอบโตะ 4. ใชมือขางที่ถนัดจับ spatula (stainless) บดผง sulphur ใหมีขนาดเล็กลง (trituration) 5. เลือก levigating agent ใหเหมาะสมกับ base (vanishing base เปน o/w ตองใช glycerin) 6. คอยๆหยด glycerin ลงบนผง sulphur ทีละหยด บดผสมใหเขากันจนไดเปน paste (levigation) 7. เท vanishing base ที่ชั่งมาแลวไวที่มุมใดมุมหนึ่งของ slab 8. คอยๆแบง vanishing base ในปริมาณที่เทากันกับ paste บดผสมใหเขากันจนหมด (geometric dilution) 9. เกลี่ยผง sulphur ที่ผสมเขากันดีแลวไวที่ตรงกลาง slab 13. พัก 14. Rx Codeine phosphate 11 mg Phenyltoloxamine 3.67 mg (both bound to a resin) in 5 ml syrup เปนยาชนิดใดตามกฎหมาย และสามารถจําหนายไดหรือไม เปนยาเสพติดใหโทษประเภทที่ 3 ที่มีประกาศเพิ่มเติมวาใหใชเฉพาะในสถานพยาบาล หามจําหนายในรานยา 15. Rx Carbopol 0.5 % Purified water qs.ad 100 ml Hydrogel qs to 30 ml จงคํานวณหาปริมาณน้ําที่ใชในการเตรียมตํารับ และเตรียมตํารับ hydrogel 30 ml คํานวณปริมาณน้ํา purified water qs.ad 100 ml = hydrogel 100 ml เตรียม hydrogel 100 ml ตองใช carbopol 0.5 ml ตองการเตรียม hydrogel 30 ml จะตองใช carbopol = (0.5 ml x 30 ml)/100 ml = 0.15 ml จะตองใชน้ําในการเตรียม hydrogel 30 ml = 30 – 0.15 = 29.85 ml การเตรียม hydrogel 30 ml 1. เลือกอุปกรณ โกรง + ลูกโกรง 2. ตวงน้ํา 29.85 ml ดวย cylinder ขนาด 50 ml 3. เท carbopol ลงในโกรง บดใหละเอียด 4. คอยๆเติมน้ําลงในโกรงพรอมกับบดผสมจนไดเปน hydrogel 5. นํา hydrogel ที่เตรียมไดไป station ตอไป
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
150
OSPE
16. นํา hydrogel ที่เตรียมไดจาก station 15 มาทําใหหนืด และวัดคา pH การทําให gel หนืด การทําให gel หนืด ทําไดโดยให gel อยูในสภาวะที่เปนกรด ดวยการเติม neutralizing agent คือ triethanolamine หยดลงไปใน gel ทีละหยด แลวบดผสมใหเขากันจน gel หนืด การวัดคา pH ของ hydrogel การวัดคา pH ดวย paper ที่มีลักษณะเปนแถบสี 4 สี ทําไดโดยใช stirring rod ตักเนื้อ gel ในโกรงมาแตะที่ paper รอจนกระทั่ง paper เปลี่ยนสี จากนั้นเทียบสีของ paper กับ standard ที่เปนตาราง ซึ่งจะมี 4 สีเชนเดียวกันกับ paper เมื่อเทียบสี paper กับ standard แลวสีที่ตรงกันก็อานคา pH จาก standard ไดเลย 17. คุณยายไดยา diclofenacฎ SR 100 mg และ antacid tablet แตไมมีฟนเคี้ยว ถามวาสามารถแบง diclofenacฎ SR 100 mg ไดไหม และจะให antacid tablet อยางไร แกปญหาในผูปวยรายนี้ไดอยางไร ตอบคําถาม Diclofenac SR 100 mg แบงไมไดเพราะเปน sustain released อาจเปลี่ยนขนาดยาเปน 25, 50 หรือ 75 mg แทน Antacid tablet บดเม็ดยาใหละเอียดกอนรับประทาน หรือเปลี่ยนรูปแบบยาไปเปน antacid suspension 18. จงซักประวัติผูปวยที่มารานยา โดยจายยา/แนะนําการใชยา/แกปญหา/สงตอผูปวยอยางเหมาะสม 1. ทักทาย และแนะนําตัว 2. มีปญหาอะไรใหชวยไหมคะ ตอบ ครับ มีฝาขาวในปากครับ 3. เปนเองหรือเปลาคะ ตอบ ใชครับ 4. มีโรคประจําตัวอะไรรึเปลาคะ ตอบ เปนโรคหอบหืดครับ 5. เคยแพยาอะไรไหมคะ ตอบ ไมครับ 6. ตอนนี้ใชยาอะไรอยูไหมคะ ตอบ มีครับ นี่ครับ(ผูปวยเอาใบสั่งยาใหดู) Rx Budesonide 1 puff BID Salbutamol 1 puff prn 7. (ถามวิธีการใชยาวาตรงตามแพทยสั่งไหม) แลวใชยังไงคะ วันละกี่ครั้ง ตอบ ใช Budesonide ครั้งละ 1 สูด วันละ 2 ครั้ง เชา-เย็น และใช Salbutamol ครั้งละ 1 สูด เวลามีอาการครับ 8. หลังจากพนยาแลวไดทําความสะอาดชองปากบางไหมคะ ตอบ ไมไดครับ 9. (อธิบายสาเหตุของอาการที่ผูปวยเปน) อาการฝาขาวในปาก คือ เชื้อราที่เจริญในชองปาก เปนผลขางเคียงจากการ ใชยาสูดพนทางปากเพื่อรักษาการอักเสบของหลอดลมในโรคหอบหืด นั่นคือ Budesonide ซึ่งเปนยาในกลุม steroid ทําใหเชื้อแบคทีเรียที่มีอยูในชองปากตามธรรมชาติตายไป เชื้อราจึงเจริญไดงายขึ้น 10. (แนะนําผูปวย) ดังนั้น หลังจากพนยา Budesonide แลวตองทําความสะอาดชองปากดวยการแปรงฟน และบวนปาก ดวยทุกครั้ง เพื่อไมใหมียาตกคางในชองปาก 11. (จายยารักษาอาการ) ใหยาฆาเชื้อรา Clotrimazole vaginal tablet อม เพื่อรักษาเชื้อราในชองปาก 19. พัก 20. จงระบุประเภทของยาตามกฎหมาย และจําเปนตองมีใบสั่งยาจากแพทยหรือไม ยา ประเภทของยาตามกฎหมาย ใบสั่งยา Phenylbutazone ยาควบคุมพิเศษ X Brown mixture ยาสามัญประจําบาน X Lomotilฎ ยาเสพติดใหโทษประเภทที่ 3 X Amitriptyline ยาอันตราย X Alprazolam วัตถุอออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภทที่ 4 /
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
151
OSPE
21. Rx Silver sulfadiazine Yellow ointment เปดหนังสือหาสวนประกอบของ yellow ointment - เปด Remington ไปที่หนา index เพื่อหา yellow ointment - เปดไปที่หนาของ yellow ointment หาสวนประกอบของ yellow ointment เพื่อตอบคําถาม **ระบุชื่อหนังสือ, ปที่พิมพ, หนา** 22. จงซักประวัติผูปวยที่มารานยา โดยจายยา/แนะนําการใชยา/แกปญหา/สงตอผูปวยอยางเหมาะสม 1. ทักทาย และแนะนําตัว 2. มีปญหาอะไรใหชวยไหมคะ ตอบ คะ มีผื่นขึ้นตามตัวคะ 3. เปนเองหรือเปลาคะ ตอบ เปลาคะ ลูกชายคะ 4. ลูกชายอายุเทาไรคะ ตอบ 2 ขวบคะ 5. มีโรคประจําตัวอะไรรึเปลาคะ ตอบ ไมมีคะ 6. เคยแพยาอะไรไหมคะ ตอบ คะ ยาแคปซูลสีแดง-ดํา หมอบอกวาชื่อยา ampi อะไรนี่แหละ 7. อาการแพยาเปนอยางไรคะ ตอบ มีผื่นขึ้นตามตัวคะ 8. ตอนนี้ทานยาอะไรอยูไหมคะ ตอบ คะ เมื่อวานเปนหวัด เจ็บคอ ไปหาหมอ ไดยาแคปซูลสีเหลือง-ดํามา หมอบอกวาชื่อ ยา amoxi คะ 9. (ประเมินความสัมพันธของยากับอาการแพยา) ทานไปกี่เม็ดแลวคะ ตอบ เพิ่งทานไดเม็ดเดียวคะ 10. ผื่นขึ้นหลังทานยากี่นาทีคะ ตอบ ไมนานคะ ประมาณ 10 นาที 11. (อธิบายสาเหตุของอาการที่ผูปวยเปน) อาการผื่นที่เปนเกิดจากการแพยานะคะ เนื่องจากผูปวยเคยแพยา ampicillin ซึ่งเปนยาในกลุม penicillin และยาที่ผูปวยใชอยูคือ amoxicillin ก็เปนยาในกลุม penicillin เชนเดียวกัน การที่ ผูปวยเคยแพยาตัวใดตัวหนึ่งในกลุมนี้มากอน ก็เปนไปไดวาจะแพยาตัวอื่นๆที่อยูในกลุมนี้ไปดวยคะ 12. (แนะนําผูปวย) ใหหยุดยา amoxicillin ทันที และกลับไปพบแพทยคนเดิมพรอมทั้งบอกอาการที่เกิดขึ้น เพื่อให แพทยพิจารณาเปลี่ยนยาใหใหม หากพาลูกชายไปโรงพยาบาลหรือรานยาใหแจงดวยวาลูกชายแพยา penicillin เพื่อปองกันไมใหผูปวยไดรับยาที่แพอีก เนื่องจากการแพยาซ้ําอาจเปนอันตรายถึงชีวิตได 13. (จายยารักษาอาการ) ใหยาแกแพ Chlorpheniramine syrup เพื่อรักษาอาการผื่นคัน 23. จงเขียนฉลากยา และฉลากชวยที่จําเปน 1. Norfloxacin 1x3 เขียนฉลาก - วันที่ (วันที่สอบ) - ชื่อผูปวย......... - ชื่อยา norfloxacin - ความแรง 400 mg - จํานวนที่ไดรับ........ - สรรพคุณ ฆาเชื้อ - วิธีรับประทานยา รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง กอนอาหารเชา กลางวัน และเย็น ฉลากชวย - รับประทานติดตอกันทุกวันจนหมด - รับประทานกอนอาหาร 1 ชั่วโมง - หามรับประทานพรอมนม ยาลดกรด หรืออาหารที่มีธาตุเหล็ก
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
152
OSPE
2. Domperidone 1x3 เขียนฉลาก - วันที่ (วันที่สอบ) - ชื่อผูปวย......... - ชื่อยา domperidone - ความแรง 10 mg - จํานวนที่ไดรับ........ - สรรพคุณ บรรเทาอาการคลื่นไส อาเจียน - วิธีรับประทานยา รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง กอนอาหารเชา กลางวัน และเย็น ฉลากชวย - รับประทานกอนอาหาร 15-30 นาที 24. ผูปวยหญิงอายุ 60 ป เปน DM type 2 มาที่รานยาพรอมผล lab และขอซื้อยาเบาหวาน glibenclamide 5 mg จํานวน 10 เม็ด LAB FBS 200 HbA1c 9% 1. ทักทาย และแนะนําตัว 2. มีปญหาอะไรใหชวยไหมคะ ตอบ คะ อยากใหชวยอธิบายผลตรวจหนอยคะ แลวก็ขอซื้อยาเบาหวานดวยคะ 3. เปนเองหรือเปลาคะ ตอบ คะ 4. มีโรคประจําตัวอยางอื่นไหมคะ ตอบ ไมคะ เปนเบาหวานอยางเดียว 5. แลวรับยาเบาหวานที่ไหนคะ ตอบ ที่โรงพยาบาลคะ แตทําหลนไป 10 เม็ด ก็เลยมาขอซื้อเพิ่มคะ 6. (อธิบายคา lab) ผลตรวจที่นํามาดวยนะคะเปนคาทางหองปฏิบัติการ มี 2 อยางนะคะ - FBS เปนคาที่แสดงถึงระดับน้ําตาลในกระแสเลือด ใชประเมินความสามารถในการใชน้ําตาลของ รางกาย ถา FBS มากกวาหรือเทากับ 126 แสดงวาเปนโรคเบาหวาน และ FBS 200 แสดงวายังไมสามารถควบคุมน้ําตาล ในเลือดได เปาหมายของการลดน้ําตาลในเลือด คือ FBS 90-130 - HbA1c เปนคาที่แสดงถึงปริมาณน้ําตาลในเม็ดเลือด ใชประเมินผลการรักษาและความรวมมือในการใช ยาของผูปวย HbA1c 9% แสดงวายังไมสามารถควบคุมน้ําตาลในเลือดได เปาหมายของการลดน้ําตาลใน เลือด คือ HbA1c< 7% 7. (จายยา) glibenclamide 5 mg จํานวน 10 เม็ด (ยาอันตราย จายได) 8. (คําแนะนําเพิ่มเติม) - โรคเบาหวานเปนโรคที่ไมหายขาด แตสามารถใชชีวิตปกติทั่วไปได โดยการรับประทานยาลดนาตาล ในเลือดตามที่หมอสั่งอยางเครงครัด - การรับประทานยาเพื่อควบคุมระดับน้ําตาลในเลือดมีความสําคัญมาก เพราะน้ําตาลในเลือดที่สูงบงบอก ถึงภาวะของโรคทีไมดี และอาจเกิดภาวะแทรกซอนจากเบาหวานได - งดอาหารรสหวาน - ออกกําลังกายสม่ําเสมอ - ควรไปพบแพทยตามนัดทุกครั้ง เพื่อใหแพทยตรวจดูอาการของโรค และควรอดอาหารอยางนอย 8 ชั่วโมงกอนทําการตรวจวัดระดับน้ําตาลในเลือด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
153
OSPE
25. แนะนําการใชยา รวมทั้งอาการไมพึงประสงคของยา Rx Cafergot 2 tab then 1 tab ฝ prn Flunarizine 2x1 hs 1. Cafergot 2 tab then 1 tab ฝ prn แนะนําวิธีการใชยา - ชื่อยา Cafergot - สรรพคุณ รักษาอาการปวดหัวไมเกรน - วิธีรับประทานยา รับประทาน 2 เม็ดเมื่อมีอาการปวดหัวไมเกรน หากไมหายรับประทานซ้ําไดครั้งละ 1 เม็ด ทุกครึ่งชั่วโมง - หามรับประทานเกิน 6 เม็ด/วัน หรือ 10 เม็ด/สัปดาห อาการไมพึงประสงคของยา - คลื่นไส อาเจียน - นอนไมหลับ 2. Flunarizine 2x1 hs แนะนําวิธีการใชยา - ชื่อยา Flunarizine - สรรพคุณ รักษาอาการเวียนศีรษะ - วิธีการรับประทานยา รับประทานครั้งละ 2 เม็ด วัน ละครั้ง 1 ครั้ง กอนนอน อาการไมพึงประสงคของยา - เซื่องซึม - น้ําหนักเพิ่ม 26. พัก 27. แกไขขอผิดพลาดที่พบในใบสั่งยาใหถูกตอง ใบสั่งยา แกไขเปน ASA 60 mg 2x3 PC ASA 60 mg 1x1 PC Glipizide 1x1 AC OD Glipizide 5 mg 1x1 AC OD Simvastatin 10 mg 1x1 QAM Simvastatin 10 mg 1x1 HS Metformin 1x3 PC Metformin 500 mg 1x3 PC 28. ผูปวยมาขอซื้อยา Fluoxetine และ Diazepam จากรานยา 1. ทักทาย และแนะนําตัว 2. มีปญหาอะไรใหชวยไหมคะตอบ ครับ มาขอซื้อยาครับ (ผูปวยเอาตัวอยางยาใหดู) 3. ใชเองหรือเปลาคะ ตอบ ครับ 4. มีโรคประจําตัวอะไรรึเปลาคะ ตอบ เปนโรคซึมเศรา นอนไมหลับครับ 5. ปกติรับยาจากที่ไหนคะ ตอบ ที่โรงพยาบาลครับ แตพอดียาหมดยังไมไดไปหาหมอ ก็เลยมาขอซื้อไปกอนครับ 6. มีใบสั่งยาจากแพทยมาดวยไหมคะ ตอบ ไมมีครับ 7. (จายยาและอธิบาย) ยาที่มาขอซื้อมี 2 อยางนะคะ - ยาตัวแรกชื่อยา fluoxetine ใชรักษาอาการซึมเศรา เปนยาอันตราย สามารถจายได - ยาตัวที่สองชื่อยา diazepam ชวยใหนอนหลับ แตยาตัวนี้เปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาทประเภทที่ 4 ตามกฎหมายแลวไมสามารถจายไดถาไมมีใบสั่งยามาดวย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
154
OSPE
- ดังนั้นจะขอจายยาแคอยางเดียว คือ fluoxetine เทานั้นนะคะ 8. (คําแนะนําเพิ่มเติม) ควรกลับไปพบแพทยคนเดิมที่ทําการรักษา เพื่อใหแพทยตรวจดูอาการของโรค และสั่งยาให ไมควรซื้อยาใชเองบอยๆคะ 29. จงซักประวัติผูปวยที่มารานยา โดยจายยา/แนะนําการใชยา/แกปญหา/สงตอผูปวยอยางเหมาะสม 1. ทักทาย และแนะนําตัว 2. มีปญหาอะไรใหชวยไหมคะ ตอบ คะ มีอาการไอคะ 3. เปนเองหรือเปลาคะ ตอบ เปลาคะ คนงานที่บานคะ 4. ผูหญิงหรือผูชายคะ ตอบ ผูชายคะ 5. เปนมานานหรือยังคะ ตอบ ประมาณ 5 สัปดาหแลวคะ 6. ไอแหง หรือวาไอมีเสมหะคะ ตอบ ไอแหงคะ 7. นอกจากไอแลวมีอาการอยางอื่นรวมดวยไหมคะตอบ มีไอเปนเลือดบางครั้ง แลวก็น้ําหนักลดคะ 8. มีโรคประจําตัวอะไรรึเปลาคะตอบ ไมทราบคะ 9. ไดรับประทานยาอะไรมากอนบางไหมคะตอบ ไมทราบคะ 10. (อธิบายและสงตอ) จากอาการของผูปวยที่บอกมานะคะ อาจจะเปนปอดอักเสบหรือวัณโรคก็ได ซึ่งจําเปนตอง อาศัยการตรวจรางกายอยางละเอียด รวมทั้งการตรวจทางหองปฏิบัติการดวย ดังนั้นควรพาผูปวยไปพบแพทยที่ โรงพยาบาลเพื่อใหแพทยวินิจฉัยโรค และสั่งยาใหตรงกับโรคที่ผูปวยเปนคะ 30. ผูปวยมีประวัติแพยา penicillin (anaphylaxis) ไดรับยา erythromycin และ theophylline จงแนะนําและใหข อมูลเพิ่มเติมแกแพทยผูทําการรักษา 1. ทักทาย และแนะนําตัว 2. คุณหมอเจาของไขของ...(ชื่อผูปวย)....ใชไหมคะ ตอบ ใชคะ 3. (แนะนําและใหขอมูลเพิ่มเติม) ผูปวยไดรับยา erythromycin และ theophylline รวมกัน ซึ่งยา 2 ตัวนี้เกิด drug interaction ตอกันไดคะ โดยมี significant 2, onset delayed, severity moderate และ documentation established นั่นคือเกิดไดแนนอน มีผลทําให serum level ของ theophylline สูงขึ้นได และ theophylline เปนยาที่มี therapeutic index แคบ หาก theophylline level สูงกวา therapeutic level อาจทําใหเกิด toxicity จากยา theophylline ได นอกจากนี้ erythromycin level ก็อาจต่ํากวาคา MIC ดวย ทําใหฤทธิ์ในการฆาเชื้อลดลง ตอบ แลวตองทํา ยังไงคะ 4. ถาคุณหมอยังตองการใหยาทั้ง 2 ตัวรวมกัน ตอง monitor theophylline level กอนและหลังให erythromycin หรือ เปลี่ยนยา antibiotic เปนยาตัวอื่นแทน erythromycin ก็ไดคะ ตอบ ถาจะเปลี่ยน antibiotic ตองเปลี่ยนเปนตัวไหนคะ 5. ใหเปน roxithromycin หรือเปนยาตัวอื่นที่ไมใชยากลุม penicillin และ macrolide คะ (erythromycin, clarithromycin, azithromycin,dirthromycin, troleandomycin เกิด DI กับ theophylline ได)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
155
OSPE
OSPE 2550/2 1. ใหเปรียบเทียบปริมาณ การดูดซึมและขอแตกตางของ Calcium ชนิดรับประทาน ในรูปแบบยาเม็ด และ ยาผง ฟองฟู (effervescent) ใหเติมคําตอบลงในตาราง 2. ใหอธิบายการใชยาคุมชนิด 28 เม็ด 3. แบงประเภทยาตามกฎหมายวาเปนประเภทใด ยาที่ใหมี Lomotil Carbamazepin Lora Codeineผสม Amitryptiline 4. ชั่งสาร talcum จากตําหรับ(คํานวนเล็กนอยกอนชั่ง) 5. นํา talcum ผสมคาลาไมดแบบ dusting powder 6. ใหซักประวัติคนไข ใหซักใหครบไมตองจายยาก็ได 7. นับยา CPM 20 เม็ด + เขียนฉลากยา 8. ยา digoxin บอกวิธีการใชและผลขางเคียงอยางนอยสามอยางเดนๆ 9. ใหแบงประเภทของยา วาเปนประเภทใด ขายในรานยาไดหรือไม มี SARA, Acetyl Cystein, Antacin ,Actifed ,ORS 10. ใหบอกรูปแบบยาวาเปนรูปแบบไหน มี Gel, suspension, vaginal tablet, syrup, solf gelatin capsule 11. อธิบายแกคนไขที่มาขอซื้อยา Isotetranoin ชนิดเม็ดรับประทาน 12. ใบสั่งแพทย ของยา Ofloxacin Alum milk และ Sucralfate บอกขอผิดพลาดแนวทางแกไขและทางเลือกอื่นๆ 13. หาชื่อการคาของ tegaserod มีหนังสือ MIMS กะ หนังสือ ? เขียนคําตอบลงในกระดาษ 14. ซักประวัติคนแพยา พรอมทางแกไข คนไขรับประทานยาแกไข และแกอักเสบ ไมทราบชื่อยา มีอาการ ขึ้นผืน่ คัน ตามลําตัว บอกแนวทางแกไข 15. ตองการตั้งตํารับ Erythromycin ที่ละลายน้ําได เปดหนังสือวาจะใชตัวใด เขียนคําตอบลงในกระดาษ 16. อธิบายคา Lab lipid profile พรอมบอกขอปฏิบัติตน 17. บอกวันหมดอายุของยา การเก็บ และจํานวนวันที่ใชไดเมื่อเปดใชยาแลว 18. คํานวณ ขนาดยาพาราที่จะใหกับเด็ก พรอมเลือกวาจะใชแบบ drop หรือ แบบชอนชา เขียนคําตอบลงในกระดาษ 19. อธิบายคนไขที่ไดรับยา Glipizide กับ Chorlestyramine บอกขอผิดพลาดแนวทางแกไข 20. คํานวณขนาดยาที่จะใชในการทําตํารับ Metronidazole Suspension ดูจากใบคําสั่ง 21. นําจํานวนเม็ดที่คํานวณไดฐานกอนหนามาบดในโกรงใหได Smoot paste 22. ทํา Metronidazole suspension 23. เขียนใบสั่งยา Carfergot + Flunarizine 24. จับผิดยาโดยตรวจจากใบสั่งของแพทยเขียนคําตอบลงในกระดาษ เชน จํานวนเม็ด ขนาดของAspirin 25. มีคนตองการซื้อ Phentermine กรอกคําตอบลงในกระดาษ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
156
OSPE
OSPE 2551/1 ฐานที่ 1 พัก ฐานที่ 2 จับผิดซองยา /เช็คใบสั่งยา 1.เอายาของคนอื่นมาให หมอสั่ง 3 ตัว แตจัดยามา 4 ตัว (Ans..ไดยาเกินมาของคนอื่นแทน เพราะคนไขชื่อ สมพล แตหนา ซองยาเขียนเปน สมพร) 2.HCTZ วิธีกินผิด (Ans…วิธีบริหารยาผิด จาก 1*1 เปน 1*2) 3.ฉลากเขียนวา vit B แต ยาขางในเปน HCTZ 4.dose ของ enalapril จากใบสั่ง กับ ที่จัด ไมตรงกัน (Ans.. dose ผิด เพราะใบสั่งยา 20 mg แตจายบนซองยา 5 mg) ฐานที่ 3 มาขอซื้อ นาซอล + วิธีใช วิธีการใชยาพน นองๆรูอยูแลว ฐานที่ 4 บอกประเภทของยาและถามวาขายไดในราน ขย.2 ไดมั้ย มี Disento Antacin Mebendazole 500 mg 1 เม็ด จํายี่หอไมได Tiffy Ans … มี ambroxol, benda 500 ,Disento , Antacin , ทิฟฟ ขย.2 คือ ขายไดเฉพาะยาแผนปจจุบันบรรจุเสร็จที่ไมใชยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษ เพราะฉะนั้น บนโตะขายไดเฉพาะ Antacil อยางเดียวเพราะเปนยาสามัญประจําบาน (ยาสามัญประจําบาน = ยาแผนปจจุบันบรรจุเสร็จที่ไมใชยาอันตรายและ ยาควบคุมพิเศษ ) แมกระทั่งทิฟฟ ก็เปนยาอันตราย ขายไมได ฐานที่ 5 Case เปนคุณปา เอาคาแลปตับ 2 เดือน มาใหดู สรุปไดวา ปาเปน TB แลวไดยา pyrazinamide บอกใหปาไปหาหมอ อ.ถามวาแลวคนปกติเปนโรคตับไดจากอะไร ตอบ - >> สุรา+ มีสาเหตุใดบางที่ทําให enzyme ตับสูง ไดแก ภาวะที่ตับตองทํางานหนักเชน ดื่ม alcohol มากๆ ,ตับอักเสบจาก ไวรัส เชน ไวรัสตับอักเสบชนิด B, ตับแข็ง. ยาบางตัวทําใหเกิด toxic ตอตับ เชน paracetamol, pyrazinamide เปนตน หรือการพักผอนไมเพียงพอ ก็ทําใหตับทํางานหนัก enzyme ตับก็ขึ้นสูงไดครับ ทั้งหมดเปนแคตัวอยางนะ ฐานที่ 6 คุณพยาบาลขี้สงสัยมาถามเกี่ยวกับ Omeprazole วา เปนยาอะไร ออกฤทธิ์อยางไร เม็ดเล็กๆเรียกวาอะไร แลว แกะผสมน้ําไดปาวว จะแกะออกมาผสมน้ําใหคนไขทางสายยางไดหรือไมดวยคะ Omprazole MUPS ใหคําแนะนําพยาบาล คือยาอะไร,ออกฤทธิ์ยังไง,แกะใหผูปวยทางสายยางไดปาว ฐานที่ 7 คํานวณ metronidazol ใหเตรียม 1 fl.oz จําโจทยไมได ตอบ 3 เม็ด ฐานที่ 8 บด metronidazole + ตวง syrup ตองเติม wetting agent ดวย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
157
Ans.. คํานวณ metro วาใชกี่เม็ด (เทียบบัญญัติไตรยางคธรรมดา) โจทย. ตองการเขมขน 100 mg/tps เพราะฉะนั้น 5 ml (1 teaspoon) มี metro 100 mg ถาตองการ 30 ml (1 flu.oz )มี metro (30 คูณ 100) / 5 = 600 mg มีตัวยา metro 200 mg ใน 1 เม็ด ตองการ metro 600 mg ใช (1 คูณ 600) / 200 = 3 เม็ด ฐานที่ 9 ใส syrup กับ น้ํา เตรียม metronidazole suspensions Ans.. 1 เลือกโกรงกระเบื้องในการบด 2 หยด propylene glycol ชวยในการบดผสม 3 เลือก cylinder 25 ml 4 วัดปริมาตรในระดับสายตา ใหได 14 ml 5 เอาที่ตวงไดบดผสมในโกรงอีกครั้ง สงทันในเวลา ทําครบ 5 ขอ ไดเต็ม 10 ขอละ 2 คะแนน ฐานที่ 10 dose ยา เด็ก + กี่ขวด + ฉลาก Ans.. 1 ตวงน้ํา 3/4 ประมาณ 12 ml ตวงปริมาตรระดับสายตา (คํานวณจากเรา approximate volume โดยนํา 30 - 14 = 16 ซึ่ง 3/4 ของ 16 เทากับ 12 ครับ) 2 เลือก cylinder 25 ml 3 เทบดผสมในโกรงที่ถือมาจากสถานีที่ 9 อีกครั้งจากนั้น เท suspension ที่ไดลง cylinder ปริมาตร 50 ml โดยไม จําเปนตองใช beaker วาง cylinder ที่โตะกอน จากนั้นก็คอยๆ เทสารลงไปไมจําเปนตองยกขึ้นมาดู เพราะโกรงมันหนักนะ ครับนองๆ 4 rins โกรง ดวยน้ําที่เหลือ 5 ปรับปรมาตรใหได 30 ml และคนใหสารกระจายตัวดี ทําครบ 5 ขอ ไดเต็ม 10 ขอละ 2 คะแนน ฐานที่ 12 เขียนวิธีการใช theophyline + side effect หรือ อาการพิษ จําไมได+ จะทํายัง ไงเมื่อเกิดพิษ ฐานที่ 13 พัก ฐานที่ 14 Case ผูปวยหญิงทอง มาขอซื้อยาแกทองผูก ฐานที่ 15 ชั่ง hydrophilic base จํา ปริมาณไมได แตตองเอาไป ลบกะผงยา ฐานที่ 16 ผสม iodine + hydrophilic base มี lavegating agent 2 ตัวคือpurified water กับ mineral oil
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
158
ฐานที่ 17 มาขอซื้อ Codeine + GG ที่รานยา จัดเปนยาอะไร ขายไดมั้ยเพราะอะไร ฐานที่ 18 บอกเกี่ยวกับการใช phenytoin ผลขางเคียงที่ไมใชคลื่นไส อาเจียน พิษ 3 อยาง ฐานที่ 19 เปดหนังสือวา Hog gum แลวถาม synnonym + มีสวนประกอบของสัตวปาว + เปดจาก..... หนาที่ ...... ฉบับที่...... ปที่...... มีหนังสือ 2 เลม Remington กับ Goodmam Grilman (ตั้งใจไวแตแรกแลววาใหเปดหาอะไร จะเปด Remington โลดดดด ดันมีซะนี่ โชคดี จิงๆๆ) Ans.. เปด Hog gum ใน Remington นะครับ พองกับ tragacant USP เปนสวนที่มาจากพืช เชนเดียวกับ acacia ฐานที่ 20 Humulin N มั้ง มีขายในไทยชื่อไร มีหนังสือ 2 เลม Drug information Handbooks กับ MIMs Ans..เปดจาก Drug infor นะครับ ถามวาทําไม ก็เพราะวา Humulin 70/30 มีขายตัวเดียว สูตรเดียวในประเทศไทยนะครับ ถาเปดใน MIMs จะไมเห็นชื่อการคาอื่นที่โจทยตองการ เพราะฉะนั้นขอนี้จะเปดเหมือนหายานอก เชนเดียวกับ Advil ที่พี่ ทําเฉลยไปใหอะนะ เมื่อเปด drug infor ไปตามตัวอักษร H จนกระทั่งเจอคําวา Humulin 70/30 ใตบรรทัดที่เปน dosage form เคาจะเขียนชัดเจนวา ใหไปเปดดูหนา 775 เราก็ไปเปดครับ ปรากฏวา มีชื่อการคาที่เคาตองการตรึม!!!! ถาเรามีไหวพริบนะครับ เปด MIMs ไมเจอในสิ่งที่โจทยถาม ตองรีบเปลี่ยนนะครับ อนารั้นที่จะหาตอ เพราะจากการ สอบถามเพื่อนที่คุมสถานนี้ เปดไดรอยละ 5 ครับ อีก 95 เลือกที่จะเปด MIMs แลวหาไมเจอและเขียน MIMs ใน กระดาษคําตอบสง ซึ่งผิดครับ..... ฐานที่ 21 นับเม็ดยา Vit B1-6-12 จํานวน 30 เม็ด + เขียนซองยา ฐานที่ 22 Case มาขอซื้อ Aspirin ซํกไปๆมาๆ ปรากฎวา แมมาขอซื้อ Aspirin ใหลูกชาย 13 ป เพราะเปนไขมา 2-3 วัน แลวแตกิน พาราไมหาย ลุกชายเปนไขแลวมีตุมขึ้นเต็มตัว เด็กพึ่งไปเขาคายมา - - >> สงตอแพทย Ans ..กอนอื่นตองแนะนําตัวเองกอนคะ ลูกคามาขอซื้อยา ASPIRINตองถามวาเปนอะไรถึงจะทานยา aspirin และทานเองมั้ย อาจารยตอบวา ซื้อใหเด็กคะ นองกี่ขวบแลวคะ 13 ขวบคะ นองทานยาอะไรบางรึยังคะ ทานแลวคะเปนยา para แตไขยังไมลดเลย อุณหภูมินอง 40 องศาคะ แลวมีตุมแดงๆๆตามตัวมั้ยคะ อาจารยตอบวามี เลยอธิบายไปวานองมีไขสูงมาก ซึ่งอุณภูมิปกติรางกาย คนเรา แค 37 องศา และมีตุมแดงขึ้นตามตัว นาจะเปนไขเลือดออก มหรีบพานองไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเลือด วามีเชื้อไขเลือดออกหรือไม โดยไมไดจายยาให อาจารยเลยบอกวางั้นเดี๋ยวจะรีบพานองไปโรงพยาบาลเร็วที่สุดคะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
159
OSPE
เพิ่มเติมขอสอบสภามีอะไรลึกซึ้งมาก ถาไมระวง พลาดแลวพลาดเลย แกไขไมได...... เด็กนาจะเปนไขเลือดออก แนะนําใหไปโรงพยาบาล และบอกวาหามกินแอสไพริน เพราะจะทําใหเลือดออกมากขึ้น สอบถามอาการอื่นนอกจากไข และวจะไดอาการผื่นแดงมา ถามตอวาคันไหม ไดรับวาไมคัน ถามวาโดนยุงกัดบางไหม เราถามวาไดวัคซีนครบตามปกติปาว เลยตัดโรคอื่นไปไดเยอะเลยอะ ขอที่มาซื้อ aspirin แนนอนวา นองๆตองระลึกวา ยา aspirin มีขอหามใชยังไง เพราะมันมีผลตอการแข็งตัวของเลือด ทําให เกิด bleeding ไดงาย เพราะฉะนั้น คนไขเด็กที่กลาวถึง จากการซักประวัติ นาจะเปนไขเลือดออก พูดงายๆนะ ตอไปถาเจอ case แบบนอีก ใหพึงระวังเรื่อง ไขเลือดออก หรือโรคบางชนืด เชน ภาวะพรองเอนไซม จี-6-พีดี เปนตน... ฐานที่ 23 Dosage form มี ยาอยูในขวดเล็กๆ ก็มี Lozenges + gels + vaginal suppositories + suspension + soft gelatin capsules Ans..บอก Dosage form ของ 1. Lozenges ---> Mybacin 2. Gels ใสๆสีเหลืองๆ 3. suppository tablets หรือ vaginal suppositories tablets ก็ไมแนใจ 4. Suspensions -- > calamine lotion 5. soft Gelatin capsule ฐานที่ 24 เขียนซองยา มี Actifed กับ Roxithromycin ฐานที่ 25 มาซื้อยาชงสมุนไพรฟตเน 30 หอ + phentamine อ.ถามประเภทยาของทั้ง 2 แลวถามวาจะขายใหปาว + side effect ของ phentamine (เศรามากคะ เพราะกอนสอบจําไดวา phentamine มันเปง P2 อะ แตตอนสอบมัน คิดไมออกดันไปตอบวา P3 เศราคะ ใหคะแนนตัวเองไมเกิน 5 คะแนน T_T) ฐานที่ 26 Case มาขอซื้อ HCTZ กับ Enalapril ปรากฎวา ผูปวยไมไดไปหาหมอนานแลว แตวาครั้งสุดทายที่ไปตรวจความดัน 170/100 เลยบอกไปวา ใหไปหาหมอเพื่อ ควบคุมอาการ เพราะจะเสี่ยงตอการเปนโรคหัวใจได จะใหยาพอควบคุมอาการกอน - - - >>อ.เฉลยวา ตองไมจายยาใหอะ ฐานที่ 27 โทรหาหมอเกี่ยวกับยาที่สั่งจาย Rx Marvilon 1*1 hs Amoxicillin 1*3 pc มั้ง อ.ถามดวยวาจะเปลี่ยนยาเปนอะไร แลวตองปองกันยังไง แลวกินยาคุมแลวปวดหัวอะ เปนเพราะอะไร Ans..ฐานยาคุมกับยาฆาเชื้อแบคทีเรีย แนนอนวามันเกิด Drug interactionกัน จากที่ไดรับมีรายงานการวิจัยการเกิด ปฏิกริยาของยาฆาเชื้อกับยาคุมกําเนิดโดยจะทําใหฤทธิ์ของยาคุมกําเนิดลดลงอยางมีนัยสําคัญ ทําใหมีโอกาสตั้งครรภได พี่ ไมรูวาหมอถามไรมั่ง แตหลักๆ ถาทานยาคุมคูกับยาฆาเชื้อ ตองบอกใหคนไขรับทราบ และอาจตองคุมกําเนิดโดยใชถุงยาง หรืองดการมีเพศสัมพันธชั่วคราว....
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
160
OSPE
เพิ่มเติมอีกนิดหละกัน ขอนี้พี่ไดเตรียมหลักการสําหรับทําโจทยขอแบบนี้ไว(หลังจากสอบตกมาสองครั้ง ซึ่งครั้งที่สามทําได เต็มเลย อิอิ) พี่ขออธิบายไวนะที่นี้เพื่อนองๆคนไหนไดสอบใหม(ขอใหผานทุกคนนะครับ-/\-) 1.ถามีหลายตัวใหสังเกตุมันจะมีเดนๆแคสองตัว หรือจะมีตัวนึงเนนมากเปนพิเศษในโจทย โจทยที่ใหมาจะมีdrug interactionแคคเู ดียวเทานั้น(อาจเปลี่ยนแปลงได) 2.ถายามีสองตัวใหคิดวายาตัวไหนสําคัญที่สุดในโจทยขอนี้ 3.มันนาจะไปเพิ่มหรือลดฤทธิ์ยา 4.ใหนึกถึงกลไกของยาตัวใดตัวหนึ่ง(เอาตัวที่แมนที่สุด) แลวพยายามคิดถึงความสัมพันธกันใหได ประมาณวามันนาจะไปมี ผลตออวัยวะไหนไดบาง เชน ตับ ไต ลําไส(สามอวัยวะสําคัญของการบริหารยาในรางกาย5555) 5.ถามีการเปลี่ยนยาเกิดขึ้น(อาจารยมักจะถามวาจะเปลี่ยนเปนอาไรไดบาง หรือใชตัวนี้แทนไดไหมคะ) ใหตกใจ เฮย....ตั้ง สติแลวคิดยอยไปขอ 4 และ3 ตามลําดับ(มายใช3และ4นาาาา) แลวตอบไมแบบมั่นใจเลยวาได หรือไมได เพราะ...... เทานี้พี่วานองก็ไดเต็มแลวจาาาาาา ฐานที่ 28 จําไมได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
161
OSPE
OSPE 2551/2 1. พัก 2. ยาตอไปนี้จัดเปนประเภทใด ก. Mucosolvan ข. Ibuprofen (แผงละ 4 เม็ด) ค. ทิฟฟ (แผงละ 4 เม็ด) ง. ยาแกไอขนาด 180 ml จ. จําไมไดแลว 3. เปนฐานจายยาใหกับผูปวยใน รพ. ไมมีการแพยา โดยมียา 2 ตัว คือ Antacid และ Norfloxacin - นาจะเนนเรื่องของการกินในเรื่องของชวงเวลานาจะเปนคะแนนหลัก เนื่องจาก Antacid อาจจะทําใหเกิด impair absorption ดังนั้นตองใหผูปวยทานยาทั้งสองชนิดนี้หางกันอยางนอย 2 ชม. เพื่อลดการเกิดปญหา ดังกลาว อื่นๆ เชน Norfloxacin เปนยาที่รักษาโรคบิดไมมีตัวเนื่องจากเชื้อ shigella spp. โดยใหขนาด 400 mg 1x2 pc 3 วัน 4. เขียนฉลากยาของ ergotamine+caffeine และ Funarizine รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 10 ตค 51 ชื่อผูปวย นาง..... ชื่อยา Cafergot® (ergotamine 1 mg + caffeine 100 mg) จํานวน … เม็ด ขอบงใช…รักษาไมเกรน รับประทานครั้งละ 2 เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ…1…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน หรือทุก……-………..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……ปวดหัวไมเกรน………………………………………… ฉลากเสริม…......หามใชในหญิงตั้งครรภ หามรับประทานเกิน 6 เม็ด/วัน และ 10 เม็ด/สัปดาห รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 10 ตค 51 ชื่อผูปวย นาง..... ชื่อยา ดสีกฟ® (Funarizine) จํานวน … เม็ด ขอบงใช…รักษาไมเกรน รับประทานครั้งละ 2 เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ…1…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน หรือทุก……-………..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……………………………………………… ฉลากเสริม….ใชยานี้แลวอาจทําใหเกิดการงวงนอนไมควรขับรถ หรือทํางานที่เกี่ยวกับเครื่องจักร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
162
OSPE
5. ผูปวยมาที่รานยามาถามเรื่องของคา lab ของเดือน ตค. กับ 3 เดือนที่แลวเทียบกัน โดย มีคา lab คือ AST ALT ประมาณ 100 กวา (เกินกวา 3 เทาของเมื่อ 3 เดือนกอน) และมีคา HBsAg positive - บอกวา คา lab AST ALT บงบอกความสามารถในการทํางานนของตับถาเยอะแสดงวา cell ตับถูกทําลาย มาก และ คา lab อีกตัวบงบอกวาผูปวยเปน Hep. B แสดงวาผูปวยคนนี้เปน ไวรัสตับอักเสบ b ในระยะการ อักเสบ ดังนั้นตองแนะนํา 6 อ คือ อาหาร แอลกอฮอล อัลฟาทอกซิน ออกกําลังกาย ไวรัส เอ และอัตราซาวน คือ รับประทานอาหารไดทุกอยางไมจําเปนตองรับประทานวิตามินมากเกินไปและหลีกเลี่ยงยาหรืออาหาร เสริม ที่ไ มจําเปนเชน ยาลูก กลอนหรืออื่น ๆ นอกจากนี้ไ มค วรรั บประทานอาหารที่สุก ๆ ดิบๆ งดการดื่ม แอลกอฮอล ระวังสารอาหารพวกอัลฟาทอกซิน เชน พวกถั่ว ควรออกกําลังกายอยางสม่ําเสมอ ฉีดวัคซีน ปองกันไวรัสตับอักเสบ เอ เพื่อปองกันการติดเชื้อซ้ําซอน ควรตรวจเลือดและอัลตราซาวนสม่ําเสมอ บางครั้ง แมผลการตรวจเปนปกติแตอาจมีการกําเริบเปนชวงๆ โดยอาจไมมีอาการเลยก็ได แต case นี้ควรแนะนําให กลับไปพบแพทยเพื่อทําการรักษา 6. หญิงวัยหมดประจําเดือนอายุนาจะประมาณ 55 มาขอคําแนะนําเกี่ยวกับ ca ที่ขายในรานขายยา แตละชนิด ที่โตะ วางไวทั้งหมด 3 แบบ แตเปน calcium carbonate หมดนะ ไดแก effervescent tablet , tablet และ capsules - หากเปน tablet รับประทานวันละ 1-2 เม็ด กอนนอนแตเนื่องจากยานี้อาจสะสมในรางกายจนทําใหเกิด อันตรายไดจึงไมควรใชเกินขนาดที่กําหนดไวหรือใชติดตอกันเปนเวลานานยกเวนแตแพทยสั่ง - หากเปน ฟองฟู ควรจะแนะนําวาวันละ 1 เม็ด กอนนอนโดนํายาใสในน้ําตมสุกที่ทิ้งไวใหเย็นแลว 1 แกวแลว ใสยา ลงไปแลวทิ้งไวจนฟองหมดหลังจากนั้นจึงคอยดื่ม - หากเปน capsule ก็แนะนําเหมือนยาเม็ด - สิ่งที่ตองแนะนําเหมือนกันคือ ใชเพื่อเสริม calcium และปองกันภาวะกระดูกพรุนการทาน ca อาจทําใหเกิด อาการทองผูก (ไมแนใจนะวาแตละอันที่ตองอธิบายเพิ่มอาจเปนเรื่องของปริมาณของสารประกอบในแตละ ชนิดดวยรึเปลา) 7. พัก 8. ผูปวยมาขอซื้อยาเคยมีอาการแสบรอนยอดอกมา 6 เดือนกอนไดกินยาลดกรดแตไมดีขึ้น มาเปนมากในชวง 1 เดือนนี้ (ซักอะไรเพิ่มและตองจายยาใหผูปวยดวย) - ตองถามเพื่อแยกโรคระหวาง dyspepsia กับ GERD เนื่องจากคลายกันแตอาการเดนของ dyspepsia คือ อาการแนนทอง อิ่มงายกวาปกติ อืดทอง มีลมมาก เบื่ออาหาร คลื่นไสอาเจียน แสบรอนลิ้นป แสบรอน บริเวณหนาอก โดยสาเหตุของ dyspepsia อาจเกิดไดจากหลายสาเหตุเชน ยา (ลองกลับไปอานดู) อาหาร เชน มะเขือเทศ อาหารเผ็ด เหลา อาหารมัน และกาแฟ การทานอาหารเชนทานอาหารมากเกินไป โรคทาง กระเพาะอาหารและลําไส โรคตับ โรคอื่นๆ เชน เบาหวาน ไทรอยด สวน GERD มักมีอาการแสบรอน บริเวณลิ้นปขึ้นมาบริเวณกระดูกลางหนาอกหรือตนคอ และมีอาการเรอเปรี้ยว แสบขมคลายกรดไหลยอน ขึ้นมาบนลําคอ เปนอาการเดนโดยอาการมักจะเกิดในทานอนหรือกมตัวดังนั้นผูปวยควรไดรับยา PPI หรือ H2RA เปนเวลา 2 สัปดาหและหากอาการดีขึ้นใหตอไปอีก 4-6 สัปดาห แตหากไมตอบสนองตอการรักษา พิจารณาจายยา domperidone รวม
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
163
OSPE
9. ชั่ง Gel base จากสูตรตํารับที่ใหมา ยา A 0.3 g Gel base qs to 10 g ดังนั้นชั่ง gel มา 9.7 g 10. เอา gel มาผสมกับยาที่เคาเตรียมไวใหมี wetting agent 2 ตัว คือน้ํา กับ mineral oil แตเขาบอกวายา 1 g ละลายในน้ําได 2 ml - ขอนี้หลายคนใช slap กับ spatula กันเปนแถวแตเทาที่คิดนะนาจะใช stirring rod กับบีกเกอรมากกวา ใชน้ํา ในการ levigate รึเปลาไมรูเดี๋ยวไปถามอาจารยกันเองแลวกัน (ปนี้มันมาแปลก) 11. ยาตอไปนี้เปนยาประเภทใด สามารถจายไดโดยเภสัชกรไดรึเปลา โดยทุกอับ 10 แผง ยกเวนตัวนึง 5 แผง ก. Disnto ข. loratadine ค. Dimenhydrate ง. Cream steroid 12. มีใบสั่งยามาผูปวยเปน TB เพิ่งไดรับยาครั้งแรก มาให แตใหจายเฉพาะ rifampicin B. Rifampin - ชื่อยาและขอบงใช ยาเม็ด rifampin (ไร-แฟม-พิน) ใชในการรักษา…วัณโรคหรือการติดเชื้อ… (ขอบงใช ขึ้นกับโรคที่ผูปวยเปน) - ขนาด วิธีการใช และการเก็บรักษา กินยา rifampin ครั้งละ …… แคปซูล วันละ …… ครั้ง (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย) กินยา 1 ชั่วโมงกอน อาหารหรืออยางนอย 2 ชั่วโมงหลังอาหาร หรือกอนนอน (ตามที่ระบุในใบสั่งยาของแพทย) ตองกินยาทุกวันอยาง ตอเนื่องถึงแมวารูสึกวาอาการดีขึ้นหรือไมมีอาการก็หามหยุดยาเอง โดยไมมีคําสั่งจากแพทย หากลืมกินยา ใหกินยาทันทีที่นึกได แตหากนึกไดเมื่อตองกินมื้อถัดไป ใหขามยามื้อนั้นไปและเริ่มกินมื้อ ถัดไปตามปกติโดยไมตองเพิ่มขนาด เก็บยาในภาชนะปดสนิทปองกันแสงที่อุณหภูมิหอง หลีกเลี่ยงความรอน ความชื้น และเก็บยาใหพน มือเด็ก - ผลขางเคียงและอาการไมพึงประสงคจากการใชยาที่อาจเกิดขึ้น หากเกิดลมพิษ เปนแผลที่ผิวหนังหรือในปาก มีไข ดีซาน (ตัวเหลือง ตาเหลือง) ขณะใชยา rifampin ใหรีบ ปรึกษาแพทยทันที การกินยา rifampin อาจทําใหเกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกลามเนื้อ ปวดแสบที่ลิ้นป คลื่นไส อาเจียน เปน ตะคริวที่ทอง และทองรวงได หากมีอาการดังกลาวรุนแรงควรปรึกษาแพทย สวนปญหาในทางเดินอาหารอาจ บรรเทาไดดวยการกินยาพรอมอาหาร - ขอควรระวังและขอควรปฏิบัติตัวเมื่อเกิดปญหาในการใชยา ระหวางกินยา rifampin อาจทําใหปสสาวะ อุจจาระ น้ําลาย เสมหะ เหงื่อ และน้ําตาเปนสีสมแดง รวมถึง คอนแทคเลนสจะเปลี่ยนเปนสีสมแดงอยางถาวรดวย จึงควรเลี่ยงการใสคอนแทคเลนสขณะใชยานี้ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล เนื่องจากจะเพิ่มพิษตอตับของยานี้ ยา rifampin เกิดปฏิกิริยากับยาหลายตัว เพราะฉะนั้นตองบอกใหแพทยทราบวา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
13. 14. 15.
16. 17.
18. 19.
20.
OSPE
164
กําลังใชยาอะไรอยูบาง เพื่อจะไดปรับขนาดหรือใหหยุดยาอื่นกอน ขณะที่ใชยา rifampin ยา rifampin จะลดประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกําเนิด จึงควรปรึกษาแพทยหรือเภสัชกรเพื่อเลี่ยงไปใชการ คุมกําเนิดวิธีอื่น เชน การใชถุงยางอนามัย ระหวางใชยา rifampin หากตั้งครรภหรือกําลังใหนมบุตรใหแจงแกแพทยกอนการใชยา พัก ใหคาํ นวณตํารับยา cimetidine 200 mg/tsp. โดยใหเตรียม 1 fl.oz. จากยา cimetidine 400 mg - ตอบวา 3 เม็ด โดย 1 fl.oz. = 30 ml และหนึ่งชอนชาเทากับ 5 ml คิดเอาแลวกันงายๆ เอา cimetidine ที่ไดมาทํา cimetidine suspension - ฐานนี้ใหทําการบดเม็ดยาใหแตก หลังจากนั้นเลือก levigating agent แลวกปนผสมหลังจากนั้นใส syrup 15 ml ลงไปปนผสม เปนฐานที่ใหทําการปรับปริมาตร คิดวานะ ยกโกรงมาจากฐานที่แลวแลวคิด ¾ ของน้ําไวในใจ แลวก็ใสไปผสม แลวยกโกรงเทลงใน cylinder แลวทําการปรับปริมาตร ซักประวัติผูปวยในรานยา แมมาขอซื้อยาใหลูก 5 ขวบ ลูกเปนไขมาหลายวัน มีจุดแดงๆ คลายเลือดออกตามตัว เด็กแถวบานก็เปน แมเด็กอยากไดยาที่แรงกวา paracetamol เพราะใชแลวไขไมลง - ขอนี้อาการเดนชัดมากคือเปนไขเลือดออกแนนอนแตเวลาแนะนําเราตองไปฟนธงอาจใชคําวาอาจจะเปน และ แนะนําใหผูปวยนําลูกชายไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คเลือดโดยจะไมทําการจายยาใดๆๆ พัก รูปแบบยาอะไรบางใสในขวดมาใหหามแกะใหดูจากภายนอกแลวบอกมาวามันเปนรูปแบบไหน ก. ยาเม็ดแข็งๆ รีๆ สีแดง sugar coat tablet ข. ขาวๆ ทึบๆ ในขวดเต็มๆ cream ค. ยาใหญๆ แบนๆ vaginal tablet elixir (ไมแนใจ) ง. ยาเม็ดสีน้ําตาล ยาน้ําในขวดแกว จ. ฮัสสันจูจูป สีเขียว plastills (ยาเม็ดนิ่ม) นับยาเม็ด Emulax 30 เม็ด พรอมกับเขียนซองดวย
21. เปดหนังสือหาปริมาณสารบริสุทธิ์ จําชื่อยาไมได แตมี หนังสือ drug infor , MIMs, USP NF - ขอนี้นาจะตอบ drug infor 22. เปดหนังสือหายาที่จะเกิด DI กับยา co trimoxazole มีหนังสือวางไวให คือ Drug infor และก็ matindale มั้ง - เปด drug info นะพี่นองแตขอนี้เขาบอกวาเปด drug infor ไมเจอ เลยตองเปดอีกเลมแลวมีอะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
165
OSPE
23. เขียนฉลากยา amoxycline suspension และ Chlophenilamine syrup รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 10 ตค 51 ชื่อผูปวย เด็กชาย..... ชื่อยา Chlophenilamine syrup 60ml (2mg/5ml) จํานวน … ขวด ขอบงใช…รักษาอาการแพ ลดน้ํามูก รับประทานครั้งละ …2 ชอนชา/เม็ด/ชอนโตะ/ซีซี วันละ…3-4…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน หรือทุก……6-8………..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……………………………………………… ฉลากเสริม…......หามใชในหญิงตั้งครรภ ยานี้อาจทําใหเกิดการงวงซึม และหลีกเลี่ยง alcohol และ ยากดประสาทสวนกลาง รานยา ก.เภสัช เลขที่ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สงขลา โทร 074 212586 วันที่ 10 ตค 51 ชื่อผูปวย เด็กชาย..... ชื่อยา amoxycline suspension 60 ml(125 mg/5ml) จํานวน … ขวด ขอบงใช…ฆาเชื้อ รับประทานครั้งละ 2 เม็ด/ชอนชา/ชอนโตะ/ซีซี วันละ 3…ครั้ง กอนอาหาร หลังอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน หรือทุก……8………..ชั่วโมง เฉพาะเวลา……………………………………………… ฉลากเสริม…หามใชในผูที่แพ penicillin 24. ขอนี้เขียนนะ โดยจะขอซื้อยาไปตางประเทศ มี Pseudoepridine เดี่ยว ๆ (บอกประเภท) Pseudoepridine + tripolidine (บอกประเภท) บอกเหตุผลที่จายไดหรือจายไมได - Pseudoepridine เปนยาที่ออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภทที่ 2 หากจายเดี่ยวๆ ตองมีใบสั่งใชยาจากแพทยจึง จะสามารถจายได สวนสูตรที่เปนสูตรผสมเรารูจักกันดีในชื่อของ Actifed อันนี้สามารถจายไดโดยไม จําเปนตองมีใบสั่งแพทย 25. ผูปวยไดยาคุมกําเนิดจากหมอแลวมาขอแนะนํา โดยกินเปนแผงแรกและเปนชนิด 21 เม็ด (mervelon) - ยา 1 แผง ประกอบดวยเม็ดยาฮอรโมน 21 เม็ด ใหเริ่มกินยาตั้งแตวันที่ 1 ของรอบประจําเดือน (นับวันแรกที่ มีประจําเดือนเปนวันที่ 1) อาจเริ่มกินยาชากวานี้ไดแตตองไมเกินวันที่ 5 ของรอบประจําเดือน กินยา ติดตอกันทุกวันจนหมดแผงและควรกินยาเวลาเดียวกันทุกวัน (เชน หลังอาหารเย็น หรือกอนนอน) หยุดยา 7 วัน ระหวางหยุดยา 2-4 วัน จะมีเลือดประจําเดือนมา เมื่อหยุดยาครบกําหนด 7 วัน ใหเริ่มแผงใหมในวิธี เชนเดิมโดยไมตองสนใจวาประจําเดือนจะยังมีอยูหรือไม 2.1 ลืมกินยา • ลืม 1 เม็ด ใหกินทันทีที่นึกได และกินเม็ดถัดไปตามปกติ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
166
OSPE
• ลืม 2 เม็ดในชวง 14 เม็ดแรกของแผง ใหกินยาวันละ 2 เม็ด เปนเวลา 2 วันติดตอกัน และกินยาตอไปตามปกติ
และใหใชถุงยางอนามัยรวมดวยหรืองดรวมเพศ 7 วัน • ลืม 2 เม็ดในชวงหลังจาก 14 เม็ดแรกของแผง ใหหยุดยาแผงเดิม เริ่มแผงใหมในวันนั้นเลย และใชถุงยาง อนามัยรวมดวยหรืองดรวมเพศ 7 วัน • ลืม 3 เม็ดหรือมากกวา ใหหยุดยาแผงเดิม เริ่มแผงใหมในวันนั้นเลย หรือรอใหประจําเดือนมาและเริ่มแผงใหมใน วันที่ประจําเดือนมา และใชถุงยางอนามัยรวมดวย หรืองดรวมเพศ 7 วัน 2.2. หากมีการอาเจียนหรือทองรวงรุนแรงหลายครั้ง ใหยังคงกินยาตามปกติ แตตองใชวิธีคุมกําเนิดอื่น ๆ รวม ดวย เชน การใชถุงยางอนามัย หรืองดการมีเพศสัมพันธในระหวางนั้น และตอไปอีก 1 สัปดาหหลังจากอาการดังกลาวหาย แลว 2.3. หากตองกินยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กวาง ไดแก ยากลุม tetracyclines, penicillins, quinolones, cephalosporins และ metronidazole ซึ่ง อาจมีผ ลลดประสิ ทธิภาพของยาคุม กํ าเนิ ด ทํา ให อ าจมี เลือ ดออก กระปริบกระปรอยในระหวางที่ยังกินยาไมหมดแผง และอาจเสี่ยงตอการตั้งครรภ ดังนั้นควรใชวิธีคุมกําเนิดอื่น เชน ใช ถุงยางอนามัย รวมดวยระหวางที่กินยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์กวาง หรือเปลี่ยนชนิดของยาเม็ดคุมกําเนิดจากชนิดรวมเปน ชนิดที่มีแต progestin อยางเดียว 2.4. หากตองกินยา rifampicin หรือยาอื่นที่มีคุณสมบัติเปน enzyme inducer ทําใหประสิทธิภาพในการ คุมกําเนิดของยาคุมกําเนิดลดลง ดังนั้นควรใชวิธีคุมกําเนิดอื่นที่ไมใชฮอรโมนเพื่อปองกันการตั้งครรภ เชน ใชถุงยาง อนามัย รวมดวยระหวางที่กินยา และตองปองกันตอไปอีกอยางนอย 4 สัปดาหหลังหยุดยา rifampicin หรือยาอื่นที่มี คุณสมบัติเปน enzyme inducer แลว 3. อาการขางเคียงของยาเม็ดคุมกําเนิดและการปฏิบัติตัว - อาการคลื่นไสอาเจียน มักพบไดใน 2-3 แผงแรก แกไขไดโดยใหกินยาหลังอาหารเย็นหรือกอนนอน ถาปญหายังคงอยู ควรปรึกษาเภสัชกรเพื่อเปลี่ยนชนิดยาเม็ดคุมกําเนิด - อาการเจ็บคัดเตานม พบในระยะแรกของการใชยา ซึ่งผูใชสวนใหญจะมีอาการลดลงหรือหายไปในเวลาตอมา - เลือดออกกระปริบกระปรอย มักพบในผูที่ลืมกินยาบอย ๆ และอาจเกิดไดในระยะแรกของการใชยาเชนกัน ซึ่งผูใชควรกิน ยาอยางสม่ําเสมอ - การขาดประจําเดือนระหวางการใชยา ควรตรวจดูใหแนใจวาไมไดเกิดการตั้งครรภ โดยเฉพาะผูที่กินยาไมสม่ําเสมอ หรือลืมกินยาบอย ๆ - ผลขางเคียงอื่น ๆ ไดแก น้ําหนักตัวเพิ่ม สิว ฝา ผมรวง ปวดศีรษะ เปนตน อาการที่กลาวมานั้นจะเกิดขึ้นในระยะแรกของ การใชยา และสวนใหญหายไดเองเมื่อใชยาไป 2-3 เดือน แตถาหากมีอาการมากหรือเปนอยูนานจนเปนปญหา หรือเกิด ความกังวลใจควรปรึกษาแพทยหรือเภสัชกร ซึ่งอาจแกไขโดยการเปลี่ยนชนิดยา ตลอดจนอาจแนะนําใหใชวิธีคุมกําเนิด อื่น ๆ แทน 26. คํานวณ dose ยาในเด็ก ให dose เปน mg/kg/day โดยมีการแบง q …. hr. โดยใหน้ําหนักเด็ก 10 kg 27. คุยกับหมอเรื่องยาของผูปวย G6PD และผูปวยแพยา penicillin ลองกลับไปทบทวนในผูปวยดวยโรคนี้กันเอง - Co trimazole จายไมไดเพราะมีสวนประกอบของ sulfa เนื่องจากผูปวยแพยา penicillin - Amitriptalline 28. ยา 2 ตัวจัดเปนประเภทใด จายไดไหมในรานยา - Aspirin 81 mg / Simvastatin BY นาย ชนันท กิจทวี 473103 RSU Rx 18 ผูจัดทํา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
167
OSPE Practice For Exam
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
168
OSPE
OSPE Practice I 1.นับเม็ดยา capsule amoxicillin ขนาด 500 mg จํานวน50 เม็ด (บนโตะมี amoxicillin 250 , 500 mg) 2. หาชื่อสามัญทางยาของ ......................... ที่ขายในประเทศไทยวามีกี่ขนาด และจัดอยูใน pregnancy risk factor อะไร และบอกดวยวาเปดจากหนังสือเลมใดหนาอะไร (มี MIMs, drug information, drug use in pregnancy ) 3. อธิบายการใช ยาเทคนิคพิเศษ ที่ผูปวยไดรับ (accuhaler) แนะนําตัว ตรวจสอบผูปวยใหถูกคน แนะนําวิธีใช 4. ผูปวยมาขอซื้อยา Roaccutane® ที่รานยา ขอมูลตอไปนี้จะใหเมื่อมีการซักถามเทานั้น หญิง อายุ 17 ป ตั้งครรภได 2 เดือน มีสิวมา 1 เดือนแลว ผูปวยถามวา จะใชยาอะไรแทนไดบาง ? ให รีบถามกอนปดบทสนทนา เฉลย สวัสดีครับ ผมเภสัชกร............. จะมาซื้อ Roaccutane เพื่อรักษาสิวใชไหมครับ ซื้อใชเองหรือปาวครับ ทางรานเราไมสามารถจายยาตัวนี้ใหกับคุณไดนะครับ เนื่องจากวามันเปนยาควบคุมพิเศษ โดยเฉพาะตัวนี้ตองจาย โดยแพทยเฉพาะทางเทานั้น รานยาไมสามารถขายได การใชยาตัวนี้ตองอยูในการดูแลของแพทย เนื่องจากมีผลขางเคียงมาก โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภหามรับประทาน ยาตัวนี้เลย เพราะจะทําใหทารกในครรภเมื่อคลอดออกมาแลวจะพิการได แพยาอะไรหรือปาวครับ มีโรคประจําตัวหรือเปลา ตั้งครรภอยูหรือเปลา 5. ในการเตรียมตํารับยา Methronidazole 32 mg/ml suspension 25 mlจากยาเม็ด Methronidazole 400 mg ถามวา จะตองใชยา Methronidazole กี่เม็ด พรอมเขียนวิธีทํา สูตรตํารับ : ยาเม็ดDiazepam ขนาด 5 mg จํานวน 2 เม็ด Glycerin qs Vehicle ad qs 25 ml 6.ลงมือเตรียมสูตรตํารับในขอที่แลว วิธีทํา : บดเม็ดยาDiazepam ขนาด 5 mg จํานวน 2 เม็ด ในโกรงกระเบื้อง เติม glycerin ใหสามารถบดได paste เนื้อเนียน นําไปฐานตอไปดวย 7.ทําตอจากขอที่แลว เติม vehicle บดผสมใหเขากัน ปรับปริมาตรดวยน้ํา rinse โกรง เทลงภาชนะปดฝาใหเรียบรอย 8. เขียนฉลากยา และคิดใหเรียบรอย 9. ใหหา DRP ในฉลากยา Rx Lasix® 40 mg hs Aspirin 60 mg QAM glibenclamide 5 mg 1*1 pc
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
169
OSPE
10. กําหนดให S = special control drug E-D = external use – dangerous drug P4 = psychotropic substance schedule 4 D = dangerous drug NDD = nondangerous drug N3 = narcotic drug schedule 3 E = external use – nondangerous drug จงนําตัวยอมาเติมในแตละขอ Phenylbutazone Prednisolone cream Lorazepam Acyclovir Alum milk 11. ซักประวัติ : แพยาแกปวด ( urticaria ) สถานการณ : มาขอซื้อยาแกคัน มาขอซื้อยา ใหเพื่อนผูชาย อายุ 22 ป เปนนักศึกษา มีผื่นแดงขึน้ บริเวณแขนขา คันมาก เมื่อ 2 วันที่แลวปวดเมื่อยกลามเนื้อ จึงไปซื้อยาแกปวดกินแลวมีผื่นขึ้นเมื่อคืน เฉลย แพยาแกอักเสบ ชื่อ..... แบบ urticaria จายยาแกแพ ออกบัตรแพยาให 12. ซักประวัติ : โรค ติดเชื้อไวรัสที่ตา สถานการณ : มาขอซื้อยา Dexoph® ผูป วยหญิง อายุ 26 ป พนักงานธนาคาร มีอาการตาแดง มีไข มีน้ําตามาก ไมมีขี้ตา 13. เตรียม alcohol 20 % 50 ml จาก alcohol 80 % มี กระบอกตวง 100 ,50, 25, 10 ml บีกเกอร 100 500 50 ml volumetric flask pipet stirring rod N1V1 = N2V2 20*50 = 80*V2 v2 = 12.5 ml 14. ผูปวยหญิง อายุ 51 ป เปนโรค ไขมันในเลือดสูง นําผลตรวจหองปฏิบัติการมาใหเภสัชกรชวยดู จงแปลคาใหผูปวย เขาใจ Total cholesterol 267 mg/dl TG 135 mg/dl LDL 167 mg/dl HDL 67 mg/dl มาขอซื้อยา simvastatin 10 เม็ด เนื่องจากทําหาย ยาจึงหมดกอนหมอนัด จะจายหรือไม พรอมแนะนําการปฏิบัติตัว
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
170
OSPE
15. หา Drug interaction แลว consult แพทย และแนะนําผูปวย Rx Erythromycin CPM Theophyline Salbutamol Erythromycin กับ Theophyline เพราะ Erythromycin เปน Enz. Inhibitor จะทําใหระดับ Theophyline ในเลือดสูงขึ้นได จะเสี่ยงตอการเกิดพิษของ Theophyline 16. ชาย อายุ 40 ป มาขอซื้อยา Haldol® กับ Midazolam สําหรับ 1 เดือน โดยมีฉลากเกามาใหดู ถามวาจะขายไดหรือไม Haldol® ขายได แต Midazolam ขายไมได เพราะ เปน P2 17. ใหตอบ dosage form ของยาที่ตั้งอยูบนโตะ เคลือบ film Turbuhaler เคลือบน้ําตาล Effervescent Suppository Lozenges 18. ชั่ง vanishing cream สําหรับเตรียมยาในตํารับตอไปนี้ Chloramphenicol 0.5 g vanishing cream qs 5 g ชั่ง vanishing cream 4.5 g ใสกระดาษไข 19. ผสมยากับ cream base จากขอที่แลว 20. แนะนําการใชยา warfarin พรอมบอก S/E ของยา 21. ยา Theophyline SR หักครึง่ ไดหรือไม 22. หญิง อายุ 18 ป จะไปเที่ยวทะเลวันเสาร ที่4 ส.ค. มาขอซื้อ ยาเลื่อนประจําเดือน วันที่ 25 ก.ค. มีประจําเดือนสม่ําเสมอ ปกติจะมาตนเดือน 23. พยาบาลโทรมาถามวา Amphotericin B ผสม NSS ไดหรือไม ถาไมไดจะทําอยางไร ใหเปดหนังสือตอบ 24. ยาใดตอไปนี้ที่สามารถจัดใหอยูในสวนบริการตัวเองได Paracetamol syrup 120 mg/ml counter pain plus Paracetamol tab 100 tab dimenhydrinate 50 tab Amoxicillin dry syrup T.A. cream 0.1 % ยาแกไอน้ําดําตราเสือดาว 120 ml Mebendazole 100 mg 6 tab ยาหอมตรา 5 เจดีย Aspirin grain 5 10 tab 25. เด็กอายุ 3 ป หนัก 20 kg จงคํานวณขนาดยา amoxicillin dry syrup เขียนฉลาก แนะนําวิธีใช ในรานมี Coamox 125 mg/5ml 60ml , Coamox 250mg/5ml 60ml บอกดวยวาตองจายกี่ขวด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
171
OSPE Practice II 1. conselling ยาคุมกําเนิดชนิด 28 เม็ด กับผูปวยที่ไดรับยาเปนครั้งแรก ซักประวัติผูปวยยาคุมแลวอธิบายไปเลย กินยังงัย หากลืมละ อาการขางเคียงละ แลวตองระวังการทานยารวมกับยาอะไรบาง...พูดไปใหหมดเทาที่ทองมาแลวจําได 2. ใหยามา 5 ตัว ใหบอกวา แตละตัวเปนยาประเภทไหน และสามารถจายไดหรือไมที่รานยา หากมีใบสั่งแพทย 1.codeine (ropec) 2.ORS 3. 4. 5. อันนี้จําไมได เพิ่มเติมใหดวยเดอ 3. ใหยามา 3 แบบ คือ ยา antibiotic dry syrup ยาเม็ด paracetamol และยาหยอดตา choramphenicol ใหบอกวิธีการเก็บ รักษายาเมื่อยังไมเปดใช วันหมดอายุหากยังไมเปดใช วิธีเก็บรักษายาเมื่อเปดใชแลว และหลังจากเปดใชแลวจะสามารถอยู ไดอีกกี่วัน ประมาณนี้ละฐานนี้ โดยที่ชองที่ใหเขียนทั้งหมดจะมี 12 ชอง และชองที่เปนวันหมดอายุ จะใหเขียนใสชองวางอีก ที เชน วัน...เดือน...พ.ศ.... (ในขวดยาที่ใหมามักจะเปน Exp. 16/07/08 เพราะฉะนั้นตองแปลงจาก ค.ศ. เปน พ.ศ. อีกหรือ เปลาหวา???) 4. เปดหนังสือเพื่อหา form ของ erythomycin ที่สามารถละลายในน้ําไดดีเพื่อนํามาเตรียมเปนยา dry syrup ขอนี้เปด remington version เกามากๆ 5. ผูปวยมาขอซื้อยาใหลูกชาย บอกวามีผื่นคันทั่วทั้งตัว ก็ใหซกั ประวัตใิ หครบทั้ง 5 คําถาม แลวจะรูวาผูปวยไดรับยา antibiotic ตัวหนึ่ง เพื่อรักษาไขแลวเกิดอาการอยางนี้ขึ้น ก็ใหซักประวัตวาแพยาจริงหรือเปลา เชน เปนเมื่อไหรหรือเปน หลังไดรับยากี่วัน เคยเปนมากอนไหม เอายามาดวยหรือเปลา ชื่อยาคืออะไร ประมาณนี้แหละ เมื่อแนใจแลววาแพยา ก็ บอกผูปวยวาใหไปพบแพทยที่จายยา เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับอาการของผูปวย อาจจะจายยาแกแพไปดวยก็ไดนะ แตตอนนี้ แนะนําใหผูปวยหยุดยานั้นซะ และรีบไปพบแพทยโดยดวยคะ 6. ผูปวยไดรับยา digoxin ใหแนะนําผูปวยเกี่ยวกับการใชยา อาการขางเคียงที่อาจจะเกิดขึ้น อาการพิษที่ควรระวัง และ คําแนะนําสําหรับยาที่มี therapuetic แคบดวย อธิบายไปตามหนังสือเกณฑสภาเลยละกาน 7. นับเม็ดยา CPM 20 เม็ดใสซองใส โดยตองเขียนฉลากยาดวยคะ 8. เปดหนังสือหาวายา tegaserod เปน preg cat ไหน มีกี่ขนาด อะไรบาง อันนี้เปด MIMS เลมเดียวจบคะ 9. ผูปวยไดรับยาจากโรงพยาบาลมา 2 ตัว แตฟงคําอธิบายของเภสัชกรที่โรงพยาบาลไมเขาใจ จึงมาที่รานยาเพื่อใหทาน อธิบายการใชยา 2 ตัว คือ glipizide และ cholestyramine (queastran)ขอนี้ใหอธิบายการใชยา อาการขางเคียง วิธีการผสม ยา และใหทานหางกันยังงัย ใหเปนความสําคัญตรงนี้ ประมาณนี้แหละ (จํามาถูกหรือเปลาหนอ..) 10. กฏหมายเขียนตอบ ผูปวยมาขอซื้อยา phentermine ตามใบสั่งแพทย ในรานยาของทาน สามารถจายไดหรือไมเพราะ เหตุใด ใหบอกประเภทของยา บอกอาการขางเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นไดมาอยางนอย 2 ขอ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
172
OSPE
11. เขียนฉลากยา cafergot และ fluoxitine คะ 12. ใหคํานวนหาคา LDL จากผลตรวจของผูปวย อันนี้จําแตละคาไมไดนะคะ รูแตวา TG, TC สูง และ HDL เทากับ 40 ให คํานวนจากสูตร TC = LDL+HDL+(TG/5) สูตรไมมีใหนะจะ ใหตอบคา LDL และอธิบายผลแลป พรอมทั้งใหคําแนะนําแก ผูปวยคะ 13. ซักประวัติผูปวยมาของซื้อยาใหลูกชาย 5 ขวบ น้ําหนัก 25 กก. เปน common cold อันนี้ซักอาการใหครบไลตั้งแต ปวดหัวไหม มีไขไหม น้ํามูกมีไหม สีอะไร ไอหรือเปลา มีเสมหะไหม สีอะไร... รวมทั้งคําถามหลัก 5 คําถาม แลวก็จายยา คะ ใหคําแนะนําเกี่ยวกับ ยา โรค และการปฏิบัติตัว จบ.. 14. ใหตรวจสอบใบสั่งยาและ consult แพทย โดยมียามา 2 ตัว คือ ofloxacin และ alum milk ใหอธิบายหมอเกี่ยวกับ วิธีการทานยาทั้ง 2 ตัวนี้รวมกัน ควรจะทานหางกันอยางนอยกี่ชั่วโมง เพราะอะไร ถามหมอดวยวาจําเปนตองใชยาทั้ง 2 ตัวนี้เลยหรือเปลา ถาจะเปลี่ยนยาจะไดไหม แลวโจทยของหมอจะบอกมาวา ถาหมอตองการเปลี่ยนจาก alum milk เปน sucralfate จะตองทานยังงัย ตองทานหางกันเหมือนเดิมหรือเปลา ตอบไปวาเหมือนกันคะ ใหทานยา sucralfate กอน อาหาร 1 ชม. และใหหางจาก oflox อยางนอย 2 ชม. 15. ผูปวยมาขอซื้อยา isotretinoin (Retin-A) เพราะวาใกลจะแตงงานแลวมีสิวขึ้น มาขอซื้อยาในรานยาของทาน ใหแนะนํา โดยใหบอกวาจายไดหรือไม เพราะอะไร ประเภทตามกฏหมายเปน.. และอาการขางเคียงที่เกิดไดคืออะไร 16. ตรวจสอบใบสั่งยา พรอมทั้งแกไขใหถูกตอง โดยมีใบสั่งมาให มียา 3 ตัว ซึ่งตอนนี้จําไมไดแลวอะ ชวยคิดหนอยนะ จํา ไดแตวาผิดอยู 3 ที่นะ...มั้ง 17. มี calcium วางอยูบนโตะ อันนึ่งเปน calcium tablets อีกอันเปน calcium effervescent นะ โจทยถามวา calcium ที่ วางอยูเปนรูปแบบใด และ แบบใดที่ออกฤทธิ์ไดดีกวา เพราะเหตุใด 18. ชั่ง talcum 4 g โดยโจทยจะใหสูตรสําหรับมา มี calamine 1 g และ talc. qs to 5 g หลักๆ คือ triple check และ tech. tapping 19. ทํา calamine dusting powder โดยใหผสมกับ talcum ที่ชั่งมา บนโตะจะมี glycerine มาใหดวย ซึ่งบางคนก็เสียดายที่ เคาอุตสาหใหมาดวย เลยใช..ซะงั้น แตหลักๆ ก็คอื geometric dilution และเลือกโกรงและจับโกรงใหถูก บางคนเลือก slap&spatula เพราะเห็นหนาอาจารย เลยเลือกแบบ reflex ก็กรี๊ดสิคะ เมื่อรูตัวซึ่งมันก็สายไปเสียแลว เห็น อ.จิน บอกวา บางคนก็ยังดื้อนะทําไปทั้งๆที่ชั้นกระแอมไปตั้งหลายครั้ง แหม อ.คะ ที่เบลอแบบนั้น เพราะ SE ของ propanolol นะคะ อยา ถือสาเลย..อิอิ 20. บอก dosage form ของยาตอไปนี้ 1. cotrimazole vagianl supp. ซึ่งบางคนก็แอบคิด 2 step นะ บอกวาเปนยาเม็ดตอกที่ดูเหมือนวาวๆ เลยตอบเปน film coat tablet 2. ยาน้ําใสสีเหลือง ไมหนืดมาก มีกลิ่น alc. เล็กนอย (ไมรูวาจมูกมันจะเพี้ยนเพราะฤทธฺของ propanolol หรือเปลาอะนะ) สันนิษฐานวานาจะเปน อะไรสักอยางอะ...ไมรูสิ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
173
OSPE
3. soft (gelatin) capsules 4. gel สีเหลือง มี bubble เยอะๆ แสดงวาเตรียมมาไมดี...อิอิ 5. นาจะเปน calamine lotion อะนะ เพราะเปนของเหลวขน หนืด มีผงสีชมพูออนกระจายทั่ว ซึ่งตอบวาเปน suspension คะ 21. เปนสถานีตอเนื่อง 3 ฐานนรกแตกคะ ใหสูตรตํารับมาบอกวาใหคํานวณวาจะตองใช metronidazole 400 มก. กี่ม็ดใน การเตรียมตํารับ ซึ่งจําโจทยที่เปนตัวเลขไมไดอะ จําไดลางๆ วา 32*25 = 800 ซึ่งคือ 2 เม็ดคะ 22. ฐานนี้คือเอา metro 2 เม็ดมาบด เลือกโกรงใหถูกแลวบดเม็ดยา ตอนแรกบดไมได ไมมีแรงอะเปนเพราะ propanolol แนเลย เลยแอบตําๆ นิดหนึ่ง ตอน อ.เผลอ... พอบดละเอียดดีแลวใหใส glycerine ใหพอเปยกนะจะ เปนอันเสร็จหลักๆ คือ เลือกอุปกรณใหถูก ซึ่งเห็นเบลไปถามพี่นักวิทยที่คุมฐานนั้นมา เคาบอกวาทีจริงเฉลยคือเลือกโกรงกระเบื้องถึงจะถูกนะ แต เราเลือกโกรงแกวเพราะเห็นวามันมีสีเหลืองนิดๆ นี่หนา..ฮือๆ เศรา หลังจากเลือกโกรงแลว ก็เปนเทคนิคของ การจับโกรง และบดเม็ดยา ไมรูวามี triple check ตอนหยิบ metro ไหมนะ... แตก็ทําอยางบาครั่งละชั้น 23. สุดทายทําเปน suspension คะ โดยใหตวงสาร คือ purified water 10 ml และ vehicle อีก 15 ml เอาหละ โจทยบอกวา ปรับปริมาตรในกระบอกตวงนะจะ ซึ่งดิฉันไมเห็นนี่เลยเททั้ง 2 อยางลงในโกรง คนๆ เปนอันเสร็จ แลวเหลือบไปเหนโจทย ที่บอกใหปรับปริมาตร front ขนาด 100 ไดมั้ง ก็กรี๊ดๆๆ แตไมเปนไรอยากใหปรับใชไหม ได... ยกทั้งโกรงนั้นแหละ เทลง ใน กระบอกตวง อยาลืมเอาแทงแกวนําดวยนะ แลวก็ทําเปนปรับปริมาตร ทั้งๆ ที่มันเกินไปแลว...เศร็าอีกที 24.คํานวณขนาดยา paracetamol ในเด็กอายุ 6เดือน น้ําหนัก.....ขนาด....mg/kg/dose แลวเลือกจายยาพรอมเขียนฉลาก ยา มีใหเลือกเปน para syr 120 mg/5ml และ para drop 25.บอกประเภทของยาตามกฎหมายแลวเลือกวาจายยาไดหรือไมในรานขายยาหากไมมีใบสั่งแพทย(สรุปวามีหรือไมมีกัน แนนะอันนี้เขาใจวาไมมีนะ) ประมาณวามี Lomotil,Ropec,CPZ,Amitriptyline
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
174
OSPE
OSPE Practice III สถานีที่ 1 การคนหาชื่อยา generic name, local made ทานเปนเภสัชกรโรงพยาบาลชุมชนบั้งไฟ มีนักทองเที่ยวชาวอเมริกันมาพบแพทยเพื่อขอใหชวยสั่งยาชื่อ Glyburide สําหรับคุมระดับน้ําตาลในเลือด ซึ่งผูปวยทําหายระหวางเดินทาง แพทยโทรมาถามทานวามียานี้หรือไม หรือจะ ใชยาใดแทนไดบาง ที่โรงพยาบาลมีแตยาเลียนแบบ คําสั่ง 1. ใหทานเลือกหนังสือที่ทานคิดวามีคําตอบ เปดหาคําตอบ แลวตอบในกระดาษคําตอบเฉพาะชื่อยา ใหตอบลงแบบฟอรม ดังนี้ ขอมูลที่พบชื่อ generic/ synonyms จากหนังสือ.............................หนา..................ปที่พิมพ............................. ขอมูลที่พบชื่อยาเลียนแบบ (local made) จากหนังสือ.............................หนา..................ปที่พิมพ............................. ชื่อยาเลียนแบบที่พบ ........................................................................................ 2. ใหหาชื่อยาที่มี synonym ที่มีการใชบอย มา 5 คู สถานีที่ 2 เปดหนังสืออางอิง ถาทานเปนเภสัชกรโรงพยาบาลแลวแพทยถามวา ยา Ketoconazole สามารถใชในเด็กอายุประมาณ 3 ปไดหรือไม ถาได ควรใชในขนาดเทาไร เปน mg/kg/day และถาจะใชรักษา candidiasis ตองรักษานานเทาใด ใหตอบลงแบบฟอรม ดังนี้ ขอมูลที่พบ.......(กรอกคําตอบ).............................จากหนังสือ.............................หนา...............ปที่พิมพ........................... สถานีที่ 3 เปดหนังสืออางอิง มีสูตรตํารับยา และมีตัวยาสําคัญคือ Erythromycin 1g ถามวาตองใชเกลือ Erythromycin Estolate กี่กรัมจึงจะสามารถ เตรียมตํารับดังกลาวได ใหตอบลงแบบฟอรม ดังนี้ ขอมูลที่พบ.......(กรอกคําตอบ)..........................................................จากหนังสือ.............................หนา.................. ปที่พิมพ................................ สถานีที่ 5 การเปดหา pregnancy category ทานเปนเภสัชกรรานยา มีหญิงไทยอายุ 25 ป มาปรึกษาวา มีอาการเจ็บคอมาก และกําลังตั้งครรภอยู 3 เดือน มีประวัติแพ ยา penicillin จะใชยา erythromycin ไดหรือไม ใหตอบลงแบบฟอรม ดังนี้ ขอมูลที่พบ pregnancy category......................จากหนังสือ.............................หนา..............ปที่พิมพ................................ สามารถใชในผูปวยรายนี้........................................................................................ คําตอบ สวนใหคะแนน คําตอบ การเลือกหนังสือ Pregnancy ความหมาย ระบุวาใชไดหรือไม
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
175
สถานีที่ 6 การเปดหา Stability/ Compatibility นักศึกษาพยาบาลที่หอผูปวย โทรศัพทมาถามทานในการผสมยา Phenytoin กับผูปวย อยากทราบวาควรผสมกับ สารละลายใด และเก็บไดนานเทาใด จงเลือกหนังสือที่มีขอมูลดังกลาว พรอมทั้งตอบคําถามใหครบถวน ใหตอบลงแบบฟอรม ดังนี้ สารละลายที่ใช คือ.......................... หากผสมแลวที่ความเขมขน.......................................จะเก็บนาน............................ จากหนังสือ.............................หนา..............ปที่พิมพ................................ สถานีที่ 7 การแปลความหมายของ pregnancy category 1. Acebutolol pregnancy category B; D in 2nd & 3 rd trimester 2. Alfentanil pregnancy category C; D if used for prolonged periods or in high doses at term 3. Aspartam pregnancy category B; C in woman w/phenylketonuria 4. Cotrimoxazole pregnancy category C; D if used near term 5. Folic acid pregnancy category A; C if dose > 0.8 mg/day ใหตอบลงแบบฟอรม ดังนี้ ยา ความหมายของ pregnancy category ที่ ระบุ Acebutolol Alfentanil Aspartam Cotrimoxazole Folic acid
สถานีที่ 8 การรายงานอาการอันไมพึงประสงค คําถามที่เขียนไวที่สถานี: - เด็กชายอายุ 8 ขวบ เคยมีประวัติชักเมื่อมีไขสูง รับประทานวิตามินซี 50 มก. เปนประจํา - ตอมาไดรับยา phenobarbital รับประทานครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง กอนนอนทุกวัน ใหทาน 7 วัน และแพทยใหนัดมาพบอีก หลังจากรับประทานยาผานไป 2-3 วัน มีอาการปวดเมื่อยกลามเนื้อ ออนเพลีย ตอมามีผื่นขึ้นที่หูดานขวา ปากแดง ตาแดง ใบหูบวมแดง ไขสูงมาก คันตามผิวหนัง ใบหูบวมมีน้ําใส ๆ คั่งอยูขางใน คลายถูกไฟไหม - ตอมาอาการรุนแรงขึ้น ที่ริมฝปาก ชองปาก มีแผลเลือดไหลตลอดเวลา เปลือกตาบวมโต ตาขาวแดงเหมือนมีเลือดคั่ง
คําถาม 1. 2. 3. 4.
อาการที่เกิดขึ้นกับผูปวยรายนี้นาจะเกิดจาก ลักษณะอาการที่เกิดขึ้น เรียกวา ควรทํารายงานใด สงไปที่หนวยงานใด
Pharmacy Student Rx’24
................................................. ................................................. ................................................. ...............................................................................
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
176
OSPE
สถานีที่ 9 การจัดประเภทของยาตามกฎหมาย - มีหนังสือ 1 เลม : MIMS คําสั่ง ใหนักศึกษาจัดประเภทของยาตามกฎหมาย โดยเขียนคําตอบลงในกระดาษคําตอบ นักศึกษาสามารถใชหนังสือที่จัด ไว ขื่อยา 1. Prednisolone tablet 2. Triamcinolone acetonide oral paste 3. ยาแกไอน้ําดํา ขนาด 60 มล. 4. Isosorbide dinitrate sublingual 5. ยาฉีด fentanyl 6. ยาแคปซูลฟาทะลายโจร 7. Diazepam tablet 8. Phenobarbital capsule 9. Insulin แบบปากกาฉีด 10. ยาน้ําสตรีเบนโล 11. Lomotil® (diphenoxylate+atropine) 12. Triazolam tablet 13. Cytotec® (prostaglandin E1)
ประเภทยาตามกฎหมาย
สถานีที่ 10 การจัดประเภทของยาตามกฎหมาย - มีหนังสือ 1 เลม : MIMS คําสั่ง ใหนักศึกษาจัดประเภทของยาตามกฎหมาย โดยเขียนคําตอบลงในกระดาษคําตอบ นักศึกษาสามารถใชหนังสือที่จัด ไว ขื่อยา ประเภทยาตามกฎหมาย – จายในรานยาได/ไมได 1. Flunitrazepam tablet 2. Metformin HCl tablet 3. Selegiline HCl 4. ยาแกไอน้ําดํา ที่มีสวนผสมของ codeine ขนาด 125 มล. 5. Roaccutane® Isotretinoin capsule 6. Viagra® sildenafil
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
177
OSPE
สถานีที่ 11 การสื่อสารกับผูปวยถึงอาการไมพึงประสงคจากการใชยา และการกรอกแบบฟอรมรายงานอาการไม พึงประสงคจากผลิตภัณฑสุขภาพ ตัวอยางกรณีศึกษาที่เกิดอาการไมพึงประสงคจากการใชยา และแสดงการกรอกขอมูลลงไปในแบบรายงานอาการ ไมพึงประสงคจากผลิตภัณฑสุขภาพในโรงพยาบาล นางจริงใจ จริงจริง หญิงไทยคู อายุ 22 ป มาพบแพทยที่โรงพยาบาล เนื่องจากเกิดผื่นคันทั่วรางกาย เมื่อซัก ประวัติพบวาเมื่อ 2 วันกอน (9 ต.ค. 47) มีอาการไข เจ็บคอ จึงมาพบแพทยที่โรงพยาบาลและไดรับการวินิจฉัยเปน pharyngitis ไดรับยา paracetamol (Tylenol®) 500 mg 2 เม็ด กินทุก 4-6 ชั่วโมง เวลามีไข และยา amoxicillin (Ibiamox®) 500 mg 1 เม็ด กินวันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเชา-เที่ยง-เย็น เชาวันนี้ (11ต.ค. 47) เริ่มสังเกตเห็นผื่นแดงนูนที่ บริเวณลําตัว จึงหยุดใชยาดังกลาวและมาพบแพทย ผลการตรวจรางกายพบวามีผื่นแบบ maculopapular rash ผูปวย ปฏิเสธโรคประจําตัว หรือใชยาใดเปนประจํา ผูปวยไมมีประวัติแพยามากอน และยังไมเคยไดรับยา amoxicillin มากอน จากลักษณะผื่นแบบ maculopapular rash แพทยวินิจฉัยวาผูปวยเกิดการแพยา Amoxicillin จึงแนะนําใหผูปวยหยุดยาที่ สงสัย และเปลี่ยนเปน roxithomycin พรอมกับสั่งจายยา chlorpheniramine เพื่อรักษาอาการดังกลาว จากกรณีนี้แสดงวานางจริงใจเกิดอาการไมพึงประสงคจากการใชยา amoxicillin โดยเกิดผื่นแบบ maculopapular rash และผลการประเมินอาการไมพึงประสงคอยูในระดับอาจจะใช (possible) ดังนั้นเภสัชกรจึงควรอธิบายใหผูปวยทราบวาแพ ยา amoxicillin และออกบัตรแพยาใหกับนางจริงใจดวยเพื่อปองกันการแพยาซ้ํา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
178
OSPE Practice Final 1. แพทยสั่งจายยาแกผูปวยดังนี้ ชื่อผูปวย ด.ช. มุงมั่น จริงจริงนะ อายุ 2 ป Rx Paracetamol suspension # 50 ml (20 mg/ml) 1 tsp q 6h prn โจทย :โรงพยาบาลไมมียาตํารับนี้ จึงตองเตรียมยานี้จากยาเม็ดที่มีอยู จงคํานวณปริมาณยาเม็ดที่ตองใช จงเขียนฉลากยาใหถูกตอง **** ใหนําขอมูลที่คํานวณไดไปใชในขอถัดไป **** คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน 1.ตองใช Paracetamol tablets 500 mg จํานวน 2 เม็ด 5 คะแนน 2 คะแนน 2.ด.ช. มุงมั่น จริงจริงนะ อายุ 2 ป ชื่อยา Paracetamol suspension (20 mg/ml) 2 คะแนน วิธีใช รับประทานยาครั้งละ 1 ชอนชา ทุก 6 ชั่วโมง เวลามีอาการ 1 คะแนน ( เขยาขวดกอนรินยา ) 2. จงเตรียมตํารับยา Paracetamol suspension จํานวน 50 ml Rx Paracetamol 20 mg/ml Syrup to 50 ml คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน 1.บดยา Paracetamol tablets 500 mg จํานวน 2 เม็ด ในโกรงกระเบื้อง ( ตองบดยาใหละเอียด ใชโกรงแกว ได 0 คะแนน ) 2.- เลือก Cylinder ขนาด 50 ml ( 1 คะแนน ) - ตวง syrup ปริมาตร 3/4 ( ~ 37.5 ml ) แลวเทลงในโกรงปริมาตรเล็กนอยกอนเพื่อ ทําผงยาใหเปยก ( 0.5 คะแนน ) - จากนั้นคอยเติม syrup 3/4 ที่เหลือลงไปจนหมด ( 0.5 คะแนน ) 3.ผสมผงยาในโกรง 4.เทยาที่ไดลงในขวด tare โดยตองใช stirring rod นํา
2 คะแนน 2 คะแนน
5.ปริมาตรในขวด tare ไดถูกตอง
2 คะแนน
คะแนน 2 คะแนน 2 คะแนน
** หมายเหตุ: บางคนเทผงยาลงใน Beaker แลวผสมดวย syrup แลวคนดวย stirring rod (0 คะแนน)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
179
3. จงหาขอมูลตอไปนี้ ของสารประกอบ Gallic acid พรอมทั้งระบุ แหลงขอมูล หนังสืออางอิง โครงสรางทางเคมี 3.2 ชื่อทางเคมีตามระบบ IUPAC คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน 1.เลือกหนังสือไดถูกตอง Merck Index 3 คะแนน 2.เขียนรายงานขอมูลที่ได - โครงสรางทางเคมี
2 คะแนน
- ชื่อทางเคมี 3 ,4,5-trihydroxybenzoic acid
2 คะแนน
- Reference (ชื่อหนังสือ,volume,year,page ) Merck Index 11th edition (1989) p.680
3 คะแนน
4. จงนับเม็ดยา Vitamin B complex จํานวน 100 เม็ด ใสภาชนะบรรจุใหเหมาะสม คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน - ทําความสะอาดถาดนับเม็ดยาดวยสําลีชุบแอลกฮอล - Tripple check (อานฉลากกอนหยิบยา,กอนเทยา และหลังจากเทยาแลว) **หยิบยาใหตรงกับคําสั่ง ถาหยิบผิดจะได 0 ทันที - ขั้นตอนการนับเม็ดยา ปดฝาดานชองเทยา กอนเทยาลงถาดทุกครั้ง เทยา ปริมาณของยาที่เทออกมาตองเหมาะสมที่จะนับ เปดฝาแลวใชที่นับยา นับยาจากถาดลงในชองเทยา โดยนําครั้งละ 5 เม็ด เมื่อครบจํานวน ปดฝา - ปริมาณเม็ดยาถูกตอง (ถานับไมเสร็จจะไมไดคะแนนในขอนี้) - เลือกภาชนะรองรับไดถูกขนาด ปดฝาภาชนะ - ทําความสะอาดถาดนับเม็ดยาและ Spatula
Pharmacy Student Rx’24
คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน
2 คะแนน
2 คะแนน 1 คะแนน 1 คะแนน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
180
5. ผูหญิงรายหนึ่งมาขอซื้อยาคุมกําเนิดแบบฉุกเฉินที่รานยา ใหอธิบายวิธีการรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิดแบบฉุกเฉิน พรอมทั้งใหคําแนะนําอื่นๆที่เหมาะสม คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน 2 คะแนน - แนะนําตัว พรอมถามคําถาม ใครรับประทานยา หรือเคยรับประทานยามากอน หรือไม อายุ โรคประจําตัว รับประทานยาอื่นรวมดวยหรือไม ประจําเดือนครั้งลาสุดวัน ไหน (คําตอบคือ ไมเคยทานมากอนไมมีโรคประจําตัว ประจําเดือนมาเมื่อ 2 อาทิตยกอน ) - จายยาเม็ดคุมําเนิดแบบฉุกเฉิน ซึ่งประกอบดวย levonorgestrel 0.75 mg 2 คะแนน กลไกการออกฤทธิ์ของยา คือจะไปทําใหเยื่อมดลูกไมเหมาะสมในการฝงตัวของไขที่ ไดรับการผสมแลว - ใหรับประทานยาเม็ดแรกหลังจากมีเพศสัมพันธ ภายใน 72 ชม. แตถารับประทาน 2 คะแนน ทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ ประสิทธิภาพในการคุมกําเนิดก็จะดีขึ้น และหลังจาก รับประทานยาเม็ดแรกไปแลว อีก 12 ชม. ใหรับประทานยาเม็ดที่ 2 4 คะแนน - แนะนําผลขางเคียงจากการรับประทานยาดวย - ยานี้มีปริมาณฮอรโมนในขนาดสูง อาจทําใหเกิดคลื่นไส อาเจียน เวียน ศีรษะได - อาจทําใหเกิดเลือดออกกระปริดกระปรอย เลือดออกผิดปกติ ประจําเดือนเลื่อน - หามรับประทานเกิน 4 เม็ด ตอเดือน - ไมควรใชยานี้ในการปองกันการตั้งครรภเปนประจํา เพราะอาจทําให เกิดการทองนอกมดลูกได - หากจะมีเพศสัมพันธอีกใหใชอุปกรณคุมกําเนิดแบบปองกัน
6. ผูชายอายุ 60 ป ไดรับยาตามใบสั่งแพทยดังนี้ Rx Warfarin 3 mg 1 x 1 p.o. (เวนวันอังคารและวันเสาร)
# 30
ใหเภสัชกรอธิบายวิธีรับประทานยาและบอกอาการไมพึงประสงคจากการใชยาใหผูปวยทราบ คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน 1. ยา Warfarin ขนาด 3 mg จํานวน 30 เม็ด
คะแนน 1 คะแนน
2. ขอบงใช : ใชเพื่อตานการแข็งตัวของเลือด ปองกันอันตรายที่เกิดจากลิ่มเลือดอุดตัน
1 คะแนน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
181
3. รับประทานยานี้ ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง โดยรับประทานทุกวัน ยกเวนวันอังคารและวันเสาร
1 คะแนน
4. ตองใชยานี้อยางเครงครัด ไมควรเพิ่มหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไมมี คําสั่งจากแพทย
2 คะแนน
5. ผลขางเคียงและอาการไมพึงประสงค ยานี้อาจทําใหเลือดออกไดงาย สังเกตไดจากจ้ําเลือดใตผิวหนัง เลือดออกที่ตา ขาว เลือดกําเดาไหลนานและมากผิดปกติ ถารุนแรงอาจมีปสสาวะหรืออุจจาระเปน เลือดได หากเกิดอาการเหลานี้ตองรีบกลับมาพบแพทย ควรหลีกเหลี่ยงกิจกรรมที่อาจกอใหเกิดอุบัติเหตุไดงาย และควรพกบัตรที่แสดง วากําลังไดรับยานี้ 6. ไมควรเปลี่ยนแปลงปริมาณการบริโภคอาหารพวกตับ ผักใบเขียวตางๆ เนื่องจากอาหารเหลานี้มีวิตามินเคในปริมาณมากอาจสงผลตอการรักษาดวยยา Warfarin 7. ตองเก็บยาในภาชนะที่ปดสนิทปองกันแสงที่อุณหภูมิหอง และเก็บยาใหพนมือ เด็ก
2 คะแนน
2 คะแนน
1 คะแนน
7. ในการเตรีม 1% iodine solution ปริมาตร 30 ml จาก strong iodine solution ที่มีความเขมขนของ iodine 1% จง คํานวณปริมาตรของ 10% strong iodine solution ที่ตองการใช คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน - ตองใช 10% strong iodine solution จํานวน 3 ml 10 คะแนน 8. นําขอมูลจากสถานีกอนหนานี้มาใชในการเตรียม 1% iodine solution ปริมาตร 30 ml จากสารละลาย 10% strong iodine solution คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน 1. เลือกหยิบสารเคมีไดถูกตอง10% strong iodine solution 2 คะแนน 2. เลือกกระบอกตวงไดถูกตอง 2 คะแนน - เลือก 10 ml สําหรับตวง 3 ml (2 คะแนน) ถาเลือก 25 หรือ 50 ได 0 คะแนน 2 คะแนน - เลือก 50 ml สําหรับตวง 30 ml (2 คะแนน) ถาเลือก 10 หรือ 25 ได 0 คะแนน 3. จัดกระบอกตวงไดถูกตอง 2 คะแนน 4. ตองใชยานี้อยางเครงครัด ไมควรเพิ่มหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไมมี 2 คะแนน คําสั่งจากแพทย 5. ปรับปริมาตรไดถูกตอง 2 คะแนน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
182
9. แพทยสั่งจายยารักษาเชื้อราที่เล็บใหกับคนไข ทานเปนเภสัชกรประจําหองรานยา จงใหคําแนะนําการใชพรอมทั้ง การ ปฏิบัติตัวที่เหมาะสมกับคนไข นางลําดวน สวนกระแส Griseofulvin 1 x 1 pc # 90 ประเด็น คนไขทํางานรานเสริมสวย ตองสัมผัสกับน้ํายาเคมี และน้ําตลอดเวลา คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน 1. ขอบงใช : ยารักษาเชื้อรา 1 คะแนน 2. รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง พรอมอาหาร 1 คะแนน 3. ถาทานพรอมอาหารที่มีไขมัน จะชวยเพิ่มการดูดซึมยา 2 คะแนน 4. ระหวางที่รับประทานยานี้ หามดื่มเครื่องที่มีแอลกฮอล 2 คะแนน 5. ควรหลีกเหลี่ยงไมใหรางกายถูกแสงแดดจัด 2 คะแนน 2 คะแนน 6. ตองหลีกเหลี่ยงการสัมผัสกับน้ํายาเคมี และน้ํา ถาตองสัมผัสอาจจะตองสวมถุงมือยาง เมื่อใชเสร็จแลวตองลางมือ ใหสะอาด พรอมเช็ดมือใหแหงทุกครั้ง
10. คนไขมาขอรับคําแนะนําการใชยาจากทานซึ่งเปนเภสัชกรประจํารานยา รูปภาพ DUOFILM คําตอบ : ประเด็น คนไขไดรับยาจากโรงพยาบาล แตจําวิธีใชไมได ทานชวยอธิบายและแนะนําเกี่ยวกับยาตัวนี้ รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน - ขอบงใช : ยากัดหูด 2 คะแนน - วิธีใช 1. เตรียมผิวหนังกอนทายาโดยแชสวนที่เปนน้ําอุนประมาณ 5 นาที 2. ใชผาสะอาดเนื้อหยาบหรือหินขัดถูเบา ๆ บริเวณที่เปนเพื่อใหหนังที่หนาและ เปนขุยหลุดออกไปแลวซับใหแหง 3. ใชวาสลีนทาบริเวณผิวหนังที่ดีรอบ ๆ สวนที่เปนหูดกอนเพื่อปองกันไมใหยาระ ดายผิว 4. ทายาบริเวณที่เปนเทานั้นแลวรอใหแหง หากเปนในบริเวณกวาง เชนที่เทา หรือ ฝาเทาใหใชลาสเตอรปดไว
Pharmacy Student Rx’24
2 คะแนน 2 คะแนน 2 คะแนน 2 คะแนน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
183
11. หญิงรายหนึ่งมาขอซื้อยารักษาสิวจากทาน ซึ่งเปนเภสัชกรประจํารานยา ทานตองซักประวัติเพิ่มเติม และจายยาที่ เหมาะสมใหกับคนไขรายนี้พรอมทั้งใหคําแนะนําที่เหมาะสม คนไขถือซองยา Roaccutane ® capsule และตัวอยางยา 5% benzoyl peroxide คําตอบ : ประเด็น เภสัชกร ผูปวย
สวัสดีคะ กระผม/ดิฉัน…................. เปนเภสัชกรประจํารานยา มีอะไรใหชวยมั๊ยครับ/คะ จะแตงงานเดือนหนา ตอนนี้สิวเหอมา จึงมาขอซื้อยารักษาสิวคะ เคยไดรับยานี้จากโรงพยาบาลมากอน จึงขอมาซื้อยานี้อีก รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน - ไมสามารถจายยา Rocautane capsule ไดเนื่องจากยานี้เปนยาควบคุมพิเศษที่สั่ง 4 คะแนน จายโดยแพทยเทานั้น จึงมีขายเฉพาะในโรงพยาบาล - คนไขกําลังจะแตงงาน อาจมีการตั้งครรภได ระหวางที่ใชยานี้ตองคุมกําเนิด 2 คะแนน ไมเชนนั้นยานี้อาจจะมีผลกอวิรูป ทําใหทารกพิการ ( teratogennic) หรือหากตองการตั้งครรภ ตองหยุดใชยานี้กอน 1 เดือน 2 คะแนน - การใช 5 % benzoyl peroxide ทาบริเวณที่เปนสิวเทานี้ หามทาบริเวณใกลดวงตา ริมฝปาก หรือเยื่อบุออนเพราะ จะทําใหเกิดระคายเคืองได - ชวงแรกของการใชยาอาจรูสึกระคายเคืองบริเวณที่ทายา ดังนั้น อาจแนะนําคนไข ทายาทิ้งไวที่หนาประมาณ 15-30 นาที แลวจึงลางออก เมื่อทนยาไดมากอาจทายา ทิ้งไวทั้งคืนแลวลางออกในตอนเชา
Pharmacy Student Rx’24
2 คะแนน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
184
12. จากตนตํารับ 10% sulfur ointment Sulfur 0.5 gm Cream base q.s. 5 gm จงเตรียมยาตํารับนี้ นศ. จะไดชั่ง Cream base มาจากสถานีกอนหนานี้ และจะมีผงยาบรรจุซองแจกให คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน - การวาง spatula& slab ที่ถูกตอง และการเลือกอุปกรณ Key : เลือก Slab and spatula , ถาผงยากัดกรอนใหเลือก spatula ที่เปน rubber (ขอนี้ชั่ง sulfur จึงสามารถใชทั้ง rubber หรือ stainless ก็ได ) จากนั้นวาง slab และใชมือขวาจับ spatula ในลักษณะที่คว่ํามือ บดผงยาเบา ๆใหละเอียด - การเลือกใช levigating agent Key : การเลือกใช levigating agent ที่เขากันดีกับครีมเบส (เชน cold cream, ointment ทั่วไป ,W/O cream เลือก mineral oil, สวน vanishing cream,PEG ointment O/W emulsion เลือก glycerin)หยด leviagate จนได smooth paste ถายังไมเนียน อาจหยดเพิ่มได กวาดผงยาใหอยูตรงกลาง
คะแนน 2 คะแนน
- การผสมแบบ geometric dilution Key : กองครีมวางไวมุมขางใดขางหนึ่งของ Slab คอย ๆ แบงครีมเบสปริมาณ ใกลเคียงกับผงยาที่ levigate มาผสม และผสมใหเขากันสม่ําเสมอกอน จึงแบงมา เพิ่มจนกระทั่งครีมเบสทั้งหมดถูกผสมการบดผสมใหหมุนวน spatula ในลักษณะ วนเปนเลขแปด หรือ ขดลวดอยางใดอยางหนึ่ง
2 คะแนน
- ความสม่ําเสมอ และเทคนิคในการผสม และผลิตภัณฑที่ได Key : เปนเนื้อเดียวกันและไมเลอะ ผลิตภัณฑที่ไดตองไมเห็นเปนเม็ด ๆ ของผงยา เหลืออยู - ความสามารถเสร็จทันตามเวลาที่กําหนด
2 คะแนน
Pharmacy Student Rx’24
2 คะแนน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 13. จงเตรียม 1% Glycerin Glycerin 0.5 ml Water q.s. 50
OSPE
185
ml
คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน - เลือกอุปกรณที่ใชในการ Calibrate dropper ไดถูกตอง โดยใช Cylinder 10 ml และ dropper ถาเลือกขนาด cylinder 25, 50 ให 0 คะแนน - dropper ตั้งตรง - การจับกระบอกตวงและดู lower meniscus - calibrate dropper ไดถูกตอง นับจํานวนหยด 2 ml……………………หยด 0.5 ml………………….หยด - ใชกระบอกตวงใหถูกตอง
คะแนน 2 คะแนน
2 คะแนน 2 คะแนน 2 คะแนน
2 คะแนน
14. จงบอกระบุประเภทของยาตามกฎหมาย พรอมทั้งระบุดวยวาขายไดในรานยาหรือไม และยาชนิดใดจะจายไดก็ตอเมื่อ มีใบสั่งแพทย 1. Dexamethasone tablet 2. Diazepam 3. ยาแกไอน้ําดําตราเสือดาว ขนาด 60 ml 4. Lomotil ® 5. Codepect ® คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน Item
ประเภทยาตาม กฎหมาย Dexamethasone tablet ยาควบคุมพิเศษ Diazepam วัตถุออกฤทธิ์ตอ จิตและประสาท ยาแกไอน้ําดําตราเสือ ยาสามัญ ดาว ขนาด 60 ml ประจําบาน Lomotil ® ยาเสพติดใหโทษ ประเภท 3 Codepect ® ยาเสพติดใหโทษ ประเภท 3
Pharmacy Student Rx’24
ขายในรานยา ไดหรือไม ได ได
ใบสั่งแพทย
ได
ไมใช
ได
ไมใช
ไมได
ไมใช
ใช ใช
10 คะแนน หมายเหตุ : ประเภทยาถูก 1 คะแนน ขายได / ไมได 0.5 คะแนน ใบสั่งแพทย 0.5 คะแนน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
186
OSPE
15. ทานเปนเภสัชกรชุมชนโรงพยาบาลบั้งไฟ มีนักทองเที่ยวชาวอเมริกันมาพบแพทยเพื่อขอใหชวยสั่งยาชื่อ Glyburide สําหรับคุมระดับน้ําตาลในเลือด ซึ่งผูปวยทําหายระหวางเดินทาง แพทยโทรมามาถามทานวามียานี้หรือไม หรือจะใช ยาใดแทนไดบาง ที่โรงพยาบาลมีแตยาเลียนแบบ ใหทานเลือกหนังสือที่ทานคิดวามีคําตอบ คําตอบ : • เปด Drug information handbook เพื่อหา synonyms = Glybenclamide • เปด TIMS เพื่อหาชื่อยา local made Benclamin Cytagon Debtan Diabeedol Diabenol Diclanil Diabelet Gliben Glibesyn Glybetic Glybic Gluconil Gluzo 16. คนไขมารับบริการที่รานยา จากการซักประวัติแลว พบวา คนไขเปนโรคปวดศีรษะขางเดียว (migraine) ทานซึ่งเปน เภสัชกรประจํารานไดพิจารณาจายยา 2 ตัวนี้ Cafergot #20 Flunarizine 5 mg #30 จงเขียนฉลากยาพรอมทั้งแนะนําวิธีรับประทานยาและปฏิบัติตัวใหกับคนไขรายนี้ วันที่..................................................................... ชื่อผูปวย.............................................................. ชื่อยา................................................................... ขอบงใช............................................................. รับประทานครั้งละ...........เม็ด วันละ...........ครั้ง กอนอาหาร เชา กลางวัน เย็น กอนนอน หลังอาหาร คําแนะนําเพิ่มเติม ...................รับประทานยานี้ติดตอกันทุกวันจนยาหมด ...................รับประทานยานี้แลวอาจมีอาการงวงซึม ...................รับประทานหลังอาหารทันที ...................รับประทานกอนอาหาร 30 นาที ...................เคี้ยวยาใหละเอียดกอนกลืน ...................หามรับประทานยานี้พรอมกับนม หรือยาลดกรด ...................ดื่มน้ําตามมากๆ คําแนะนําอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
187
17. จากตํารับ 10% sulfur ointment Sulfur 0.5 gm Cold cream q.s. 5 gm จงชั่ง Cream base ที่ใชในการเตรียมตํารับยานี้ คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน - ดูลูกน้ําและทําความสะอาด - การเลือกใชภาชนะสําหรับชั่ง Cold cream ถาเลือกกระดาษธรรมดา 0 คะแนน, กระดาษไข ตองรองกระดาษธรรมดาอีกชั้น 2 คะแนน - ใชอุปกรณในการตักสารไดถูกตอง ถาเลือกใช Spatula หรือ Stirring rod 2 อัน ให 2 คะแนน ถาใชเพียงชิ้นเดียว Spatula หรือ Stirring rod ได 0 คะแนน - ชั่งน้ําหนักใหถูกตอง ตองชั่งใหได 4.5 gm ถาชั่ง 5 gm ได 0 คะแนน - ทําความสะอาด Spatula ดวยกระดาษทิชชู 1 คะแนน เครื่องชั่ง 1 คะแนน ไมทําความสะอาด 0 คะแนน
คะแนน 2 คะแนน 2 คะแนน
2 คะแนน
2 คะแนน 2 คะแนน
18. จงแสดงการกรองใหไดสารละลายใสของ Peppermint Water โดยเทคนิคที่ถูกตอง (10 คะแนน) หมายเหตุ : ใหแสดงวิธีการกรองแตไมตองกรองจริง คําตอบ: รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน - เลือกกระดาษกรองที่พับไวแลวแบบ Plaited filter ถูกตอง 2 คะแนน (หากเลือกแบบ Plain filter 0 คะแนน) - ตั้งอุปกรณถูกตอง คือเอาแบบ filter funnel ที่มีกระดาษกรองวางบน stand 2 คะแนน ( หากไมใช stand แตวาง funnel บน flask หรือ cylinder 0 คะแนน ) - วาง flask รับ filtrate 1 คะแนน (เอา Beaker รับโดยไมปดปาก 0 คะแนน ) - rinse กระดาษกรองโดยหยดน้ําจนเปยก 2 คะแนน (ไมได rinse 0 คะแนน) - เทสารละลายลงใน funnel โดยมี stirrer นําลง 1 คะแนน (หากไมใช stirrer ชวย 0 คะแนน ) - ปด funnel ดวยกระจกนาฬิกากันการระเหยของ oil 2 คะแนน (ไมไดปดกระจก 0 คะแนน )
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
188
19. จงระบุรูปแบบยาเตรียม 1.ENO 2.Vitamin B-complex 3.น้ํามันตับปลาชนิดเม็ด 4.Protosedyl เหน็บ 5.Sara strawberry 6.ยาแกไอน้ําดําตราเสือดาว 7.Adalat CR 8.ORS คําตอบ : รายละเอียด คะแนน 10 คะแนน 1.ENO (Effervescent granules) 2.Vitamin B-complex (Sugar coated tablets) 3.น้ํามันตับปลาชนิดเม็ด (Soft gelatin capsules) 4.Protosedyl เหน็บ (Suppositories) 5.Sara strawberry (Suspensions) 6.ยาแกไอน้ําดําตราเสือดาว (Mixtures) 7.Adalat CR (Controlled release tablets) 8.ORS (Powders) หมายเหตุ : ขอละ 1.25 คะแนน 20. นางสาทร สมจิต นําใบสั่งยาใบนี้มาที่รานยาของทาน Rx Salbutamol MDI 1 puff prn # 1 ………………………………MD. ทานจัดยาเรียบรอยแลว ใหแนะนําวิธีพนยาแกนางสมจิต คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน - เปดฝาครอบปากขวดยาพนออก เขยาขวด
คะแนน 1 คะแนน
- คว่ําขวดพนยาลง ตั้งขวดพนยาตรง
1 คะแนน
- หายใจออกใหสุดเต็มที่ - ใชริมฝปากอมรอบปากขวดพนยาใหสนิท เอนศีรษะไปดานหลังเล็กนอย หรือ อาปาก ใหปากขวดอยูหางจากปาก ประมาณ 3-4 เซนติเมตร หรือ 1-2 นิ้ว เอนศีรษะไปดานหลังเล็กนอย - หายใจเขาลึกๆ ชาๆ ทางปากพรอมๆกับกดที่พนยา 1 ครั้ง (กดพรอมสูด) - เอาขวดพนยาออกจากปาก หุบปากใหสนิท กลั้นหายใจใหนานที่สุดเทาที่จะทําได (410 วินาที) - ผอนลมหายใจออกทางจมูกชาๆ
1 คะแนน 2 คะแนน
Pharmacy Student Rx’24
2 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
189
21. คนไขมีภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือด เมื่อพบแพทยแลวไดรับยาดังนี้ Rx Nifedipin SR ½ x 2 pc #30 ASA gr I 1 tab q 6 h, prn #90 จงตรวจสอบความถูกตองของใบสั่งยานี้ โดยิ่มเติมการโทรถามแพทยเพื่อขอขอมูลเพิ่มเติม คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน ตรวจสอบความถูกตองของใบสั่งยาไดและสามารถใชขอมูลหรือคําแนะนําใหครบถวน ยา Nifedipin SR - Nifedipin SR เปนยารักษาโรคความดันโลหิตสูงที่ออกฤทธิ์เนิ่น ดังนั้นจึงไมสามารถหักหรือแบงเม็ดยาได - แนะนําทางเลือก (คุณหมอนาจะเปลี่ยนเปนครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง) ยา ASA gr I - สอบถามวัตถุประสงคของการจายยา Aspirin(และใหอาจารยตอบวา ปองกันหลอด เลือดอุดตัน) - ASA gr I ใหเพื่อใชปองกันหลอดเลือดอุดตันหัวใจ จึงตองเปลี่ยนวิธีการรับประทาน เปนการรับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารทันที หามรับประทานยา ขณะทองวาง เพราะจะทําใหระคายเคืองทางเดินอาหาร
คะแนน
3 คะแนน 2 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน
22. ผูปวยหญิงอายุ 40 ป เปน Rheumatoid arthritis (RA) ไดรับยาตามใบสั่งแพทยดังนี้ Rx Methotrexate tablet 2.5 mg 3 tab/week ( on Mon. ) #12 ใหเภสัชกรอธิบายวิธีรับประทานยาและบอกอาการไมพึงประสงคจากการใชยาใหผูปวยทราบ คําตอบ : รายละเอียด ขั้นตอน คะแนน - ยา Methotrexate ขนาด 2.5 มิลลิกรัม จํานวน 12 เม็ด 1 คะแนน - ขอบงใช...เพื่อกดภูมิคุมกันในการรักษาโรคขออักเสบรูมาตอยด Rheumatoid
1 คะแนน
- รับประทานยานี้ ครั้งละ 3 เม็ด ในวันจันทร สัปดาหละครั้ง หลังอาหารเชาทันที และควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกครั้ง - ตองใชยานี้อยางเครงครัด ไมควรเพิ่มหรือลดขนาดยาหรือหยุดยาเอง โดยไมมีคําสั่งจากแพทย - ผลขางเคียงและอาการไมพึงประสงค ยานี้อาจทําใหเกิดอาการแพได เชน มีอาการคัน ผื่นลมพิษบริเวณใบหนา และมือ ริมฝปากและคอบวม แนนหนาอก หายใจลําบาก หากเกิดอาการเหลานี้ตองรีบกลับมาพบแพทยทันที - อาการอื่นๆ เชนมีผื่นแดง ตุมน้ําที่ผิวหนัง มีไข ไอ เจ็บหนาอก คลื่นไส อาเจียน ทองรวง เบื่ออาหาร มึนงง ผมรวงและระหวางใชยานี้อาจเกิดแผลในปากไดงาย จึงควร รักษาความสะอาดของ ชองปากระหวางที่ใชยา หากเปนมากใหไปพบแพทย - ตองเก็บยาในภาชนะที่ปดสนิทปองกันแสงที่อุณหภูมิหอง และเก็บยาใหพนมือเด็ก
1 คะแนน
Pharmacy Student Rx’24
2 คะแนน 2 คะแนน
2 คะแนน
1 คะแนน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
OSPE
190
สรุป ประเด็น OSPE เภสัชภัณฑ์ (Pharmaceutics)
เทคนิคที่มีสอบทุกครั้งคือ
1) เทคนิคการชั่ง สวนมากจะใหชั่งพวกครีม เพราะจะเอาไปใชกับเทคนิคการปาดบดตอ 2) เทคนิคการปาดบด ผสมผงยาใหเขากับยาพื้นดวย Slab & Spatula อยาลืมดูหลักการเลือก Levigating Agent ถาผงยา นอยกวา 20% ของตํารับ ตองใช Levigating Agent ชวยปาดบดกอนแลวคอยผสมกับยาพื้น โดยถายาพื้นเปน W/O g=jo Cold Cream เลือกใช Mineral Oil ถาเปน O/W เชน Vanishing Cream เลือกใช Glycerin หรือ Propylene Glycol 3) เทคนิค Aliquot คํานวณจํานวนเม็ดยาที่จะนํามาใชเตรียมเปนยารูปแบบอื่น วาถาจะเตรียมยาความแรงเทานี้ๆ ตองใชยา กี่เม็ด 4) เทคนิคการตวง และการปรับปริมาตร 5) เทคนิคการ Trituration โดยใชโกรงและลูกโกรง 6) บอก Dosage Form ของยาที่เห็น 7) บอกลักษณะเดนของ Dosage Form พวกหัก บด แบง เคี้ยวไดมั้ย มีผลตอการออกฤทธิ์ของยาอยางไร เปนตน 8) บางทีก็มีเทคนิคการกรองดวย
ด้านคลินิกและสังคม (Pharmacy Practice) แนวของขอสอบที่มักจะออกก็มี 1) นับเม็ดยา 2) เขียนฉลากยา 3) ประเภทของยาตามกฏหมาย มักจะมี 1. ใหบอกวายาที่เห็นเปนยาประเภทใดตามกฏหมาย 2. สถานกรณจําลอง ถามี ผูปวยเขามาขอซื้อยาบลาๆๆ ขายใหไดมั้ย ? 4) Consult ยาเทคนิคพิเศษ ตามในหนังสือคูมือสภา 5) Consult ยาที่มี Therapeutic Index แคบ หรือยาที่มีความเสี่ยงตอการเกิด ADR ไดสูง ตามในคูมือสภาเชนกัน 6) Consult แพทยหรือผูปวยเกี่ยวกับ Drug Interaction ประเภทใหยาสองตัวรวมกันไดมั้ย จะเกิดอะไรขึ้นบาง จะตองให ยังไง หรือแกไขยังไง 7) ซักประวัติ หาวาผูปวยเปนอะไร 8) ซักประวัติ เพื่อสงตอแพทย 9) คํานวณ Dose and Regimen เชน ขนาดการใชยาในผูปวยเด็กเปนเทานี้ๆ ผูปวยน้ําหนักเทานี้ ตองไดยา Dose นึงกี่ mL ถาใชยาเปนเวลาเทานี้วันตองจายยาทั้งหมดกี่ขวด 10) เช็ค Medication Error เทียบยาที่จัดแลวกับใบสั่งยา 11) DIS เปดหนังสือหาคําตอบ ควรจะเตรียมมาวาหนังสืออะไรใหขอมูลแบบไหน องคความรูพวกนี้สวนใหญมีในหนังสือคูมือของสภาเภสัชกรรมที่ไดมาตอนสมัครสอบหมดแหละครับ นอกจากการซัก ประวัติที่อาจจะหาแนวทางไดจากแนวขอสอบเกาหรือขอสอบซอมที่ทําในลักษณะเฉลยขอสอบ ขอมูลเกี่ยวกับยาที่คงตอง กลับไปดูชีทหรือหนังสือสมัยเรียน พรบ.ยาวายาอะไรเปนประเภทอะไรตามกฏหมาย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
191
รวบรวมขอสอบ MCQ (Multiple Choice Question) คําชี้แจง ข้อสอบ MCQ ก่อนปี 2549 จะออกเป็น case โดยแบ่งสอบ 2 วัน วันละ 10 case รวม 2 วัน 20 case ออก case ละ 15 ข้อ ทั้งหมด 300 ข้อ ข้อสอบ MCQ หลังปี 2549 ออกเป็น case เช่นเดียวกัน โดยแบ่งสอบ 2 วัน วันละ 15 case รวม 2 วัน 30 case ออก case ละ 10 ข้อ ทั้งหมด 300 และข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 4 ชุด คือ A,B,C,D ซึ่งแตกต่างกันที่การเรียงข้อสอบ ป้องกันการลอกข้อสอบ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
192
ตัวอย่าง MCQ ของสภาเภสัชกรรม กรณีศึกษาเรื่อง เบาหวาน (สภาเภสัชกรรม) ผูปวยชายไทยอายุ 60 ป รูปรางอวนมาพบ เภสัชกรเพื่อขอเปลี่ยนยารักษาเบาหวาน เนื่องจากมี อาการหนามืดคลายจะเปนลม หลังจากทํางานหนัก โดย แจงวา โดยทั่วไปจะไมมีอาการดังกลาว แตหากทํางาน หนักจะมีอาการดังกลาวเกิดขึ้นทุกครั้ง เมื่อตรวจสอบยาแลวพบวายาที่ผูปวยไดรับคือ Glibenclamide 1 tab OD โดยรับประทานยาเปนระยะเวลา 1 ป แลวไปตรวจระดับ น้ําตาลในเลือดที่โรงพยาบาลเมื่อ 2 สัปดาหที่ แลวพบวาอยูในเกณฑที่ควบคุมได 1. ทานคิดวาผูปวยรายนี้นาจะเปนเบาหวานชนิดใดมาก ที่สุด 1 เปนเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 DM) เพราะผูปวยได ยาชนิดรับประทาน ผูปวยอวนและอายุมาก 2 เปนเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 DM) เพราะไดยา รับประทาน ผูปวยมีอาหารหนามืดคลายจะเปน ลม 3 เปนเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 DM) เพราะไดยา รับประทานผูปวยอวนและอายุมาก 4 เปนเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 DM) เพราะไดยา รับประทานผูปวยมีอาการหนามืด 5 ขอมูลไมเพียงพอตอการระบุชนิดของโรค 2 .ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับโรคเบาหวาน 1 ผูปวยสวนใหญเปนเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 DM) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของความทนตอ ระดับน้ําตาล 2 ผูปวยสวนใหญเปนเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 DM) ซึ่งเกิดจากการขาดอินซูลิน 3 ผูปวย Type 2 DM เกิดภาวะ ketoacidosis ไดบอย มาก 4 เบาหวานเปนโรคที่ไมสามารถรักษาใหหายขาดได
Pharmacy Student Rx’24
5 เบาหวานเปนโรคที่รักษาใหหายขาดไดแตกลับเปนซ้ํา อีกได 3. ทานจะเปลี่ยนยาใหกับผูปวยรายนี้หรือไมเพราะเหตุ ใด 1 เปลี่ยนยาใหเพราะอาการหนามืดเปนลม มีอันตราย มากในผูสูงอายุ 2 เปลี่ยนยาใหเพราะระดับน้ําตาลในเลือดของผูปวยอยู ในเกณฑที่ดี 3 ไมเปลี่ยนยาใหเพราะอาการที่เกิดขึ้นสามารถหายเอง ได 4 ไมเปลี่ยนยาใหเพราะยาที่ใชใหผลในการรักษาดีแลว แตใหคําแนะนําในการรับประทานยาและ การปฏิบัติตัวเพิ่มเติม 5 ขอมูลไมเพียงพอ ตองทราบระดับน้ําตาลในเลือด แลวจึงพิจารณา
4 .ผูปวยใหขอมูลเพิ่มเติมวา เคยใชยาที่ผลิตในประเทศ ยี่หออื่นแทน ยาที่เคยใชและถามวา นาจะเปนสาเหตุให เกิดอาการหนามืดคลายจะเปนลม ดังกลาวหรือไม 1 ไมเกี่ยว เพราะยาที่จําหนายในประเทศไทยตองมี คุณภาพผานเกณฑมาตรฐานขั้นต่ําเหมือนกัน 2 ไมเกี่ยว เพราะ ยาที่ผลิตในประเทศไทยเหมาะสมกับ คนไทยมากกวา 3 เกี่ยว เพราะยาที่ผลิตในประเทศไทยไมคอยได มาตรฐาน 4 เกี่ยว เพราะ ยาที่ผลิตในประเทศไทยมีปริมาณยา สูงกวาตางประเทศ 5 เกี่ยว เพราะยาที่ผลิตจากตางประเทศมีคุณภาพสูง กวายาที่ผลิตในประเทศไทย
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
193
MCQ
5. หากมีขอมูลเพิ่มเติมและมีความจําเปนตองเปลี่ยน ยาใหกับผูปวยทานคิดวายาตัวใดเหมาะสมกับผูปวย สูงอายุ ที่มีรูปรางอวน 1 Metformin 2 Chlorproplamide 3 Gliclazide 4 Tolbutamide 5 Insulin
1 ควรอดบุหรี่ทันที เพราะจะไดปองกันโรคถุงลมโปงพอง 2 หามอดบุหรี่ เพราะจะทําใหระดับ nicotine ลดลง กระทันหัน ทําใหอารมณแปรปรวน 3 ควรคอยๆ ลดปริมาณบุหรี่ที่สูบ เพื่อปองกันอาการ ถอนยา 4 ปรึกษาแพทยกอนอดบุหรี่ เพื่อปรับระดับยาให เหมาะสม 5 เพื่อใหไดผลดีที่สุด ควรใช nicotine ชนิดหมากฝรั่ง ควบคูไปดวย
6. ผูปวยรายนี้ ตองระวังในการรับประทานผักชนิดใด ดังตอไปนี้ 1 ยอดสะเดา 2 กระเทียม 3 ดอกแค 4 ผลมะระขี้นก 5 ใบขี้เหล็ก
9. เมื่อนํายาเม็ดจํานวน 10 เม็ดมาทําการควบคุม คุณภาพ ในหัวขอ uniformity of unit dosage form พบวาน้ําหนักเฉลี่ยของเม็ดยาเทากับ 125 มิลลิกรัม คา s (sample standard deviation) เทากับ 5 อยากทราบวา คา RSD(relative standard deviation) จะเทากับเทาไร 1. 2% 2. 3% 3. 4% 4. 5% 5. 6%
7. ในฐานะที่ทานเปนเภสัชกรโรงพยาบาลแหงนี้ ทานต องการผลิตยาสมุนไพรลดน้ําตาลในเลือดเพื่อจําหนาย ในโรงพยาบาล ในรูปแคปซูลและยาชง ทานคิดวา รูปแบบของสมุนไพรทั้งสองชนิดนี้ เหมือนหรือแตกตาง กัน ตามขอกฎหมายของไทย 1 เหมือนกันทั้งสมุนไพรในรูปแคปซูล กับรูปชาชง เป นยาแผนโบราณ 2 เหมือนกัน ทั้งสมุนไพรในรูปแคปซูล กับรูปชาชง เป นยาสมุนไพร 3 เหมือนกัน ทั้งสมุนไพรในรูปแคปซูล กับรูปชาชง เป นอาหาร 4 ไมเหมือนกัน สมุนไพรในรูปแคปซูล เปนยาแผน โบราณ สวนรูปชาชง เปนอาหาร 5 ไมเหมือนกัน สมุนไพรในรูปแคปซูล เปนยาแผน โบราณ สวนรูปชาชงเปนยาสมุนไพร 8 หากผูปวยรายนี้ตองการดูแลสุขภาพตนเองใหดีขึ้น คําแนะนําในการอดบุหรี่สําหรับผูปวยควรเปนเชนใด
Pharmacy Student Rx’24
10. จากโครงสรางของยา glibenclamide เพราะเหตุใด ยาจึงออกฤทธิ์ไดนาน
1. สามารถหมุนแสง polarized ได 2. สามารถวิเคราะหไดโดยวิธี HPLC-UV detection 3. หมูซัลโฟนทําใหโครงสรางมีความเปนกรด 4. หมูยูเรียทําใหโครงสรางมีความเปนเบส 5. วงแหวนอะโรมาติกดานปลาย ซึ่งมีหมูคลอโรในตํา แหนง para กับ methoxy ทําใหยาถูกเมตาบอไลซ โดยกระบวนการออกซิเดชันไมได
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
194
MCQ
กรณีศึกษาเรื่องเบาหวาน สตรีชื่อ นางศรีเวียงอายุ 50 ป มารานยาที่ ภก.ประชา ปฏิบัติงาน โดยแจงวาอยากไดยาแอสไพริน จํานวน 100 เม็ด จากการซักประวัติ พบวา นางศรีเวียงมี โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูงและโรคความดันโลหิตสูง แพทยสั่งใหทานยาเม็ดแอสไพรินมา 2 เดือนแลว 1. ยาที่ตองจายใหนางศรีเวียงและแนะนําวิธีรับประทาน คือ 1. ขนาด 60 มก.วันละครั้ง 2. ขนาด 60 มก. วันละ 3 ครั้ง 3. ขนาด 60 มก. ทุก 4-6 ชม. 4. ขนาด 325 มก.วันละครั้ง 5. ขนาด 600 มก.วันละครั้ง 2. กลไกการออกฤทธิ์ของยาเม็ดแอสไพรินในการ ปองกันการเกิด stroke คือ 1. ขยายหลอดเลือด 2. ทําใหหัวใจบีบตัวไดดีขึ้น 3. ทําใหเกล็ดเลือดบางลง (blood thinner) 4. ปองกันการจับตัวกันของลิ่มเลือด 5. ลดความเขมขนของเลือด 3. นางศรีเวียงเลาใหฟงวา ครั้งที่แลวซื้อยาจากรานยา แหงหนึ่ง ยาเม็ดมีกลิ่นฉุนมาก ทานอธิบายวาอาจ เนื่องจากยาอาจมีการเสื่อมสลายหากเก็บไมดี การ เสื่อมของแอสไพรินเปนปฏิกิริยา 1. auto-oxidation ซึ่งเกิดมากเมื่อมีอากาศ หรือออกซิเจน 2. isomerization ใหรูปที่ไมออกฤทธิ์ 3. hydrolysis 4. liquefaction 5. photolysis
1. ใหเปลี่ยนยาเม็ดแอสไพรินเปน Paracetamol Tablets แทน 2. ใหรับประทานยาเม็ดแอสไพรินพรอมยา ลดกรด 3. ใหรับประทานยาเม็ดแอสไพรินพรอม อาหาร 4. เปลี่ยนเปน delayed-released tablets 5. ใหหยุดยาไปกอน แลวไปพบแพทย 5. ยาแอสไพรินที่อยูในรูป Buffered Aspirin นาจะมี ขอดีคือ 1. ลดการระคายเคือง 2. เพิ่มความคงตัว 3. เพิ่มการดูดซึม 4. ถูกเฉพาะขอ 1 และ 2 5. ถูกทั้งขอ 1, 2 และ 3 6. ที่ขวดบรรจุยาเม็ดแอสไพริน มีขอความวา Exp.Date : Oct 2003 หมายความวา ไมควรใชหลัง วันที่ 1. 30 กันยายน 2546 2. 1 ตุลาคม 2546 3. 15 ตุลาคม 2546 4. 31 ตุลาคม 2546 5. 1 พฤศจิกายน 2546
4. นางศรีเวียงบนวา เมื่อรับประทานยา ชวงหลังนี้มักมี อาการปวดทองบริเวณกระเพาะ ทานจะแนะนําอยางไรที่ เหมาะสมที่สุด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
195
7. การเสื่อมสลายของยาเม็ดแอสไพรินมีลักษณะ ดังนี้ concentration
0
ลักษณะการเสื่อมสลาย ขอใดถูกตอง 1. apparent zero-order kinetics 2. zero-order kinetics 3. apparent first- order kinetics 4. first-order kinetics 5. second-order kinetics
time
Product A
Product B
1/T (deg K) k = degradation rate constant T = absolute temperature A, B = Brands of products
จากกราฟนี้ ขอใดไมถุกตอง 1. การเสื่อมสลายของแอสไพรินมีคาขึ้นกับ อุณหภูมิ 2. กราฟใชทํานายอายุของยาได 3. Product A มีความคงตัวกวา Product B 4. กราฟนี้เรียกวา Arrhenius Plot 5. กราฟนี้ของสารสวนใหญมักมี slope เปน ลบเสมอ
Pharmacy Student Rx’24
9. อายุของยา (shelf-life) มักคํานวณระยะเวลาที่ยา สลายไปไมเกิน 1. 5 % 2. 10% 3. 15% 4. 20% 5. 50% 10. แอสไพรินเปน weak acid drug ซึ่งมีคา pKa เทากับ 3 หากในกระเพาะอาหารมีคา pH เทากับ 1 จาก pH = pKa + log [A-] [HA]
8. ในการพิจารณาขอมูลความคงตัวของยา มีขอมูลดังนี้ log k
MCQ
1. ยาสวนใหญอยูในรูปไมแตกตัว และดูดซึม ไดดีในกระเพาะอาหาร 2. ยาสวนใหญอยูในรูปแตกตัว และดูดซึมได ดีในกระเพาะอาหาร 3. ยาสวนใหญอยูในรูปไมแตกตัว และดูดซึม ไดดีในลําไส (pH 6.8) 4. ยาสวนใหญอยูในรูปแตกตัว และดูดซึมได ดีในลําไส 5. ยาดูดซึมไดดีทั้งในกระเพาะอาหารและ ลําไส 11. หาก ภก.ประชาตองการเตรียม Aspirin Suspension สําหรับใชกับเด็ก มีความแรง 325 mg/tsp หากตองการ ตองการเตรียม 4 fl.oz. จะตองใช aspirin เทาใด 1. 2.6 g 2. 3.9 g 3. 7.8 g 4. 9.75 g 5. 39 g 12. ในการเตรียม Aspirin Suspension หากตองเติม สารบัฟเฟอร ปรับ pH ใหมี pH เทากับ 6.8 ภก.ประชา จะใชบัฟเฟอรใด 1. NaH2PO4 (pKa 7.21)/ Na2HPO4 2. Na2HPO4 (pKa 12)/ Na3PO4 3. Acetic acid (pKa 4.76)/ Sodium acetate 4. Boric acid (pKa 8.24)/Sodium borate 5. HCl/NaOH
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 13. ในการเตรียม Aspirin Suspension หากตองการให ยาตกตะกอนไมเร็วเกินไป สารปรุงแตงที่ตองเติมคือ 1. glycerin 2. Tween 80 3. methylcellulose 4. aluminium chloride 5. sodium citrate 14. ตํารับ Aspirin Suspension ที่เตรียมแลวพบวาเมื่อ ตั้งทิ้งไวเปนกอนแข็ง เรียกปรากฏการณนี้วา 1. flocculation 2. lamination 3. creaming 4. coalescence 5. caking 15. นางศรีเวียงไดรับยา Enteric-coated Aspirin Tablets จํานวน 100 เม็ด ภก.ประชาไดใหคาํ แนะนําวิธี รับประทานยา มียกเวนขอใดที่ไมถูกตอง 1. หามเคี้ยว 2. หามหักแบงครึ่ง 3. ดื่มน้ําตามอยางนอย 1 แกว 4. รับประทานหลังอาหารทันที 5. คําแนะนําถูกตองหมด
กรณีศึกษาเรื่องเบาหวาน นางฉัตรา อายุ 35 ป เขามาพบเภสัชกรเพื่อขอซื้อยา ตามใบสั่งแพทยดังนี้ Chlorpropamide 500 mg 1 tab bid # 60 เมื่อซักประวัติทราบวา นางฉัตราไดรับการ ตรวจวิเคราะหจากแพทยโดยละเอียดและพบวาเปน โรคเบาหวานและเปนการไดรับยาครั้งแรก 1. ในฐานะเภสัชกร ขอมูลใดที่จําเปนที่ตองไดรับจาก นางฉัตรากอนทําการจายยานี้ ก. ประวัติการแพยา ข. โรคประจําตัวอื่น ๆ ค. การอยูในภาวะตั้งครรภหรือใหนมบุตร ง. ระดับน้ําตาลในเลือดของนางฉัตรา
Pharmacy Student Rx’24
196
MCQ จ. ประวัติการเปนโรคเบาหวานของบุคคลใน ครอบครัว 1. ขอ ก และ ข 2. ขอ ก, ข และ ค 3. ขอ ก, ข, ค และ ง 4. จําเปนตองไดรับขอมูลทุกขอกอนการ จายยา 5. เฉพาะขอ ก 2. จากขอมูลที่มีขางตน เภสัชกรควรจายยานี้ในขนาด ดังกลาวใหผูปวยหรือไม 1. ควรจายโดยไมมีขอสงสัย 2. ควรจายหลังจากวัดระดับน้ําตาลใน เลือดใหแกผูปวยที่รานขายยาใน ขณะนั้น 3. ไมควรจายและแนะนําใหผูปวย กลับไปพบแพทยใหม 4. จายยาใหแกผูปว ยหลังจากปรับขนาด ยาเปน 500 mg qd 5. จายยาหลังจากติดตอแพทยเพื่อขอ ขอมูลเพิ่มเติมและปรับขนาดยา 3. ขนาดยา Chlorpropamide ที่เหมาะสมในการใช รักษาผูปวยโรคเบาหวานระยะเริ่มแรกไดแก 1. 500 mg bid 2. 500 mg qd 3. 250 mg bid 4. 100 mg tid 5. 100 mg qd 4. นางฉัตราจัดเปนผูปวยโรคเบาหวานเมื่อ 1. ระดับน้ําตาลในเลือดหลังจากอด อาหารมีคามากกวา 100 mg/dl 2. มีอาการหิวบอย และปสสาวะบอย 3. มีระดับน้ําตาลในเลือดมากกวา 200 mg/DL ในชวงเวลาใดก็ตามโดยไม คํานึงถึงระยะเวลาในการรับประทาน อาหารมื้อสุดทาย 4. ระดับน้ําตาลในเลือดหลังจากการผาน Oral glucose tolerance test หรือ OGT เปนเวลา 2 ชั่วโมงมีคามากกวา 150 mg/DL
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 5. ถูกทุกขอ 5. กลไกการออกฤทธิ์ของยา Chlorpropamide ใน ผูปวยโรคเบาหวานไดแก 1. เพิ่ม Insulin resistance ในผูปว ย 2. ลด Insulin resistance ในผูปวย 3. กระตุนการหลั่งของ Insulin ในผูปวย 4. ขอ 1 และ 3 ถูก 5. ขอ 2 และ 3 ถูก ตอมาประมาณ 2 สัปดาหหลังจากที่เภสัชกรไดจาย ยาใหแกนางฉัตราแลว นางฉัตราไดกลับมาพบเภสัชกร อีกเนื่องจากพบวามีอาการคลื่นไสอาเจียนมากทุกวัน หลังจากรับประทานยาจนทนไมไหว แตเมื่อวัดระดับ น้ําตาลในเลือดทันทีหลังตื่นนอนแลวพบวาอยูในระดับ 100 mg/dl จากการซักถามเพิ่มเติมทราบมาวานางฉัตรา ไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนเมื่อคืนและดื่มไวนไป 2 แกว 6. เภสัชกรควรใหคําแนะนําแกนางฉัตราเพื่อรักษา อาการคลื่นไสอาเจียนอยางไร 1. ใหผูปวยหยุดยาทันทีเนื่องจากมีอาการ แพยา 2. ใหเปลี่ยนขนาดยาเปน 50 mg qd 3. ใหผูปวยรับประทานยาหลังอาหาร 4. ใหผูปวยรับประทานยาลดอาการ คลื่นไสอาเจียนรวมดวย 5. ขอ 2 และ 3 ถูกตอง 7. อาการใดที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผูปวยไดรับยาใน ขนาดสูงเกินไป 1. อาการคลื่นไส อาเจียน 2. ระดับน้ําตาลในเลือดต่ํา 3. มือเทาสั่น หัวใจเตนเร็ว 4. ขอ 2 และ 3 ถูก 5. ขอ 1, 2 และ 3 ถูก 8. เภสัชกรควรใหคําแนะนําแกผูปว ยเรื่องการดื่ม เครื่องดื่มที่มแี อลกอฮอลรวมกับการรับประทานยานี้ อยางไร 1. แนะนําใหผูปวยดื่มไดตามปกติ
Pharmacy Student Rx’24
197
MCQ 2. แนะนําใหผูปวยดื่มไดบางแตจํานวน นอยลง 3. แนะนําใหผูปวยหยุดดื่มจนกวาอาการ คลื่นไสอาเจียนจะหายไป 4. หากผูปวยตองการดื่มแอลกอฮอลให ดื่มอยางนอย 2 ชั่วโมงกอนหรือหลัง รับประทานยา 5. ใหผูปวยหยุดดื่มอยางเด็ดขาด หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน นางฉัตราไดกลับมาพบ เภสัชกรและนําใบสั่งยาใบใหมมาไดแก Tolbutamide 250 mg qd pc #30 เมื่อสอบถามขอมูลเพิ่มเติมพบวาแพทยตองการใหผูปวย เปลี่ยนยาเปนตัวใหมนี้และใหหยุดยาเดิมเนื่องจากผูปวย มีอาการบวมน้ําและ hyponatremia หลังจากรับประทาน ยา chlorpropamide 9. อาการบวมน้ําและ hyponatremia จากยา chlorpropamide เกิดจาก 1. Allergic Reaction 2. Toxic Reaction 3. Overdose 4. ผูปวยไมสามารถควบคุมการ รับประทานอาหารใหเหมาะสมได 5. เปนลักษณะเฉพาะจากการใชยานี้ 10. หลังจากการรับประทานยาตัวใหมนี้ไปเพียง 1 วัน นางฉัตราไดพบวาตนเองมีภาวะ hypoglycemia ตลอดเวลา เภสัชกรอาจคาดการณไดวาภาวะ hypoglycemia นี้มีสาเหตุหลักจาก 1. ขนาดยา Tolbutamide ที่ไดรับมีขนาด สูงเกินไป 2. มีการเสริมฤทธิ์กันระหวางยา chlorpropamide และ Tolbutamide เนื่องจากระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของ ยา Tolbutamide เนิ่นนาน 3. เปนภาวะปกติของผูปวยโรคเบาหวาน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงยา 4. ผูปวยอาจรับประทานอาหารไมตรง เวลา และมีอาการคลื่นไสอาเจียนที่เกิด จากผลขางเคียงจากยา
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 5. ผูปวยวัดระดับน้ําตาลในเลือดตนเอง ผิดพลาด ภาวะ hypoglycemia ไมนา เกิดในขนาดยานี้ 11. เมื่อเปรียบเทียบ Duration of action ของยาในกลุม sulfonylureas พบวาสามารถเรียงลําดับไดดังนี้ 1. Chlorpropamide > Glyburide > Glipizide > Tolbutamide 2. Tobutamide > Glipizide > Glyburide > Chlorpropramide 3. Glyburide > Tolbutamide > Glipizide > Chlorpropramide 4. Glipizide > Glyburide > Chlorpropramide > Tolbutamide 5. Tolbutamide > Chlorpropamide > Glyburide > Glipizide 12. นางฉัตราพบวาหลังจากรับประทานยาดังกลาวไป ชวงหนึ่งพบวามีอาการจุกเสียดแนนทอง นางฉัตรา ขอคําแนะนําจากเภสัชกรเกี่ยวกับสมุนไพรเพื่อ รักษาอาการดังกลาว ในฐานะเภสัชกรทานจะแนะนําใหนางฉัตรา ใชสมุนไพรตัวใดเพื่อรักษาอาการจุกเสียดแนน ทอง 1. ฟาทะลายโจร 2. ขมิ้นชัน 3. พญายอ 4. ชุมเห็ดเทศ 5. หญาหนวดแมว นางฉัตรากลาววาเมื่อเดือนที่แลวไปซื้อยา Tolbutamide จากรายยาอื่น ซึ่งเม็ดยาที่ไดมีลักษณะ แตกตางจากที่ไดรับครั้งนี้ และระดับน้ําตาลในเลือดจาก การรับประทานยาจากรานดังกลาวไมสามารถควบคุม ระดับน้ําตาลในเลือดไดดีนักแมวายาดังกลาวจะยังไม หมดอายุกต็ าม 13. ในฐานะที่ทานเปนเภสัชกรทานจะสามารถอธิบาย การออกฤทธิ์ของยาที่เปนชื่อสามัญเดียวกันแตผลิต จากบริษัทที่แตกตางกันไดดวยเหตุผลใด 1. ปริมาณยาที่มีอยูในเม็ดยาไมเทาเทียม กัน
Pharmacy Student Rx’24
198
MCQ 2. กระบวนการในการผลิตยาเม็ดทั้ง 2 ชนิดแตกตางกัน 3. ยาที่ไดจากรานดังกลาวเปนยาปลอม 4. ขอ 1 และ 2 ถูก 5. ถูกทุกขอ 14. เนื่องจากยาที่ไดรับจากรานอื่นไมมคี ุณภาพในการ รักษาเทาที่ควร นางฉัตรามีความเขาใจวายา ดังกลาวเปนยาปลอม ตามพระราชบัญญัติยากลาว ไววายาปลอมหมายถึงยาที่ผลิตขึ้นไมถูกตองตาม มาตรฐานถึงขนาดที่ปริมาณหรือความแรงของสาร ออกฤทธิ์ขาดหรือเกินกวารอยละเทาใดจากเกณฑ ต่ําสุดหรือสูงสุดซึ่งกําหนดไวในตํารับยาที่ขึ้น ทะเบียนไว 1. 5% 2. 10% 3. 15% 4. 20% 5. 25% 15. ในปตอมา นางฉัตราไมสามารถควบคุมอาการของ โรคเบาหวานไดดวยยาลดระดับน้ําตาลในเลือดแต เพียงอยางเดียว แพทยไดใหนางฉัตราไดรับ Insulin เพิ่ม โดยใหนางฉัตราไดรับชนิด NPH Insulin ซึ่ง เภสัชกรไดอธิบายใหนางฉัตราทราบวา Insulin ชนิดนี้มีการออกฤทธิ์แบบเนิ่นนาน ทานสามารถ อธิบายการออกฤทธิ์แบบเนิ่นนานของยานี้ได อยางไร 1. ยานี้เปนเกลือที่ไมละลายน้ํา 2. ยาดังกลาวอยูในกระสายยาที่เปนน้ํามัน 3. ตําแหนงที่ฉีดของยาทั้ง 2 ชนิดนี้แตกตาง กัน 4. ผูปวยมีการนวดคลึงบริเวณที่ฉีดแตกตาง กัน 5. ตัวยาอยูในรูปของสารประกอบเชิงซอน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
กรณีศึกษาเรื่องโรคติดเชื้อ คุณแมมาขอซื้อยาแกทองเสี ยใหกับลูกอายุ 3 ป ที่รานยาเภสัชกรชุมชน เด็กมีอาการถายวันละ 3-4 ครั้ง ถายเหลวกวาปกติ แตไมเปนน้ํา เมื่อซักประวัติพบวา เด็กมีภาวะพรอง G6PD ไมเคยแพยา ขณะนี้เปนไข หวัดอยูเพิ่งไปพบแพทยและไดรับประทานยาที่แพทยให มาได 1 วัน เมื่อเภสัชกรขอดูยา คุณแมเด็กเลยนํายาใหดู มีดังนี้ Erythromycin estolate suspension (125 mg/ 5 ml) 1 tsp x4 pc Dimetapp® elixir 1 tsp x3 pc Flemex® syrup 1 tsp x3 pc Paracetamol (120 mg/5ml) 1½ tsp q 4 hrs เวลามีไข 1. จากการซักประวัติและขอมูลการใชยา ทานคิดวา อาการทองเสียอาจเกิดจาก 1. ติดเชื้อแบคทีเรียในลําไส 2. ผลขางเคียงของยา Erythromycin estolate 3. ผลขางเคียงของยา Dimetapp elixir 4. ผลขางเคียงของยา Flemex syrup 5. ผลขางเคียงของยา Paracetamol 2. จากการพิจารณายาที่ใช ทานจะ 1. แนะนําใหผปู วยหยุดยาที่คิดวาเปนสาเหตุทําใหทอง เสียและกลับไปพบแพทย 2. แนะนําและจายผงเกลือแร 3. แนะนําและจายยาแกทองเสียที่ทําใหอุจจาระจับตัวเป นกอนเชน Kaolin pectin 4. แนะนําและจายยา Co-trimoxazole 5. แนะนําและจายยา Ciprofloxacin 3. ยาในขอใดตอไปนี้ที่ผูปวยพรองเอนไซม G6PD สามารถรับประทานได 1. Chloramphenicol 2. Sulfonamide 3. Quinine 4. Erythromycin 5. Aspirin
Pharmacy Student Rx’24
199
MCQ
4. ถาเด็กที่มีภาวะพรองเอนไซม G6PD มาดวยอาการ ทองเสีย ไมมี ไข ถายเหลว วันละ 4-5 ครั้ง ยาตัวใดที่ ทานจะแนะนํา ใหรับประทานรวมกับการใชผงเกลือแร 1. Co-trimoxazole 2. Furazolidone+Kaolin+pectin 3. Lactobacillus 4. Norfloxacin 5. Amoxycillin 5. กลไกการออกฤทธิ์ตานจุลชีพของยาในขอใดตอไปนี้ที่ แตกตางจาก Erythromycin 1. Tetracycline 2. Gentamicin 3. Chloramphenicol 4. Roxithromycin 5. Ciprofloxacin 6. มียาหลายชนิดที่มีปฏิกิริยากับ Erythromycin จนอาจ เปนอันตรายได ยกเวน 1. Loratadine 2. Warfarin 3. Ketoconazole 4. Theophylline 5. Cimetidine 7. คาการละลายในน้ําของตัวยา erythromycin ในรูป ตางๆ เปนดังนี้ Erythromycin 2.1 mg/ml Erythromycin estolate 0.16 mg/ml Erythromycin ethylsuccinate very slightly soluble in water Erythromycin stearate 0.33 mg/ml Erythromycin lactobionate 200 mg/ml จากขอมูลขางตน erythromycin ในรูปใดที่ใชในการ เตรียมยาฉีด 1. erythromycin 2. erythromycin estolate 3. erythromycin ethylsuccinate 4. erythromycin stearate 5. erythromycin lactobionate
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
200
MCQ 4. tween80 ชวยเพิ่มการละลายตัวยาสําคัญ 5. benzoic acid ออกฤทธิ์เปน preservative ไดดีถาปรับ pH ของตํารับใหเปนดาง 9. จากขอขางตนขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับสวนประกอบ ของตํารับขางตน 1. methylcellulose ตองเตรียมเปน mucilage กอน 2. sodium lauryl sulfate ใชเปน wetting agent ของตัว ยาสําคัญ 3. aluminium chloride ใชเปน suspending agent 4. benzoic acid เตรียมเปนสารละลายโดยใชน้ํารอน เปนตัวทําละลาย 5. MP&PP เตรียมเปนสารละลายใน propylene glycol กอนใช 10. การโฆษณายา Erythromycin วา ฆาเชื้อแบคทีเรีย กระทําไดหรือไม เพราะอะไร 1. กระทําได เพราะไมมีขอหามใดในกฎหมายยา 2. กระทําได โดยกฎหมายยากําหนดใหตองขออนุญาต กอน 3. กระทําไมได เพราะการโฆษณาฆาเชื้อแบคทีเรีย เป นการโออวดสรรพคุณ 4. กระทําไมได เพราะกฎหมายยาหามโฆษณาโรคที่ รัฐมนตรีประกาศหามโฆษณา 5. กระทําไมได เพราะกฎหมายยาหามโฆษณาสรรพคุณ ยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษ
8. จากสูตรตํารับขางตน ขอใดถูกตอง 1. Rx A คงตัวเทาๆกับ Rx B 2. Rx A คงตัวกวา Rx B 3. ตํารับนี้เปนยาเตรียมรูปแบบยาน้ํา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
201
MCQ 1/2549 สถานการณที่ 1 นายมานะไปบริจาคเลือดที่ โรงพยาบาลแหงหนึ่ง ทางโรงพยาบาลขอใหตรวจ รางกายเพิ่มเติม แตนายมานะไมไปตรวจ การตรวจ รางกายของแพทย: ผูปวยมีรูปรางผอม ปอดมีเสียง ผิดปกติ 1. จากขอมูลที่กลาวมาทั้งหมด ทานคาดวานาย มานะเริ่มตนปวยเปนโรคอะไร a. วัณโรค ( tuberculosis) b. ปอดบวม (pneumonia) c. หนองใน (gonorrhoea) d. เชื้อราแคนดิดา (candidosis) e. เอดส ( HIV) 2. อานไมออก 3. ยา GPOvir ขององคการเภสัชกรรม ประกอบดวย a. Zidovudine + Didanosine + Ritronavir b. Stavudine + Lamivudine + Saquinavir c. Stavudine + Lamivudine + Nevirapine 4. อานไมออก 5. นายมานะไดรับยาจากแพทยและรับประทานยา ติดตอเปนเวลานาน พบวาทําใหมีน้ําตาลใน เลือดสูง ไขมันในเลือดสูง และ lipodystrophy ที่อวัยวะ อยากทราบวาเนื่องจากยาชนิดใด a. Abacavir b. Ritonavir c. Nevirapine d. Lamivudine e. Diravirdine
a. Cotrimazole b. Nystatin c. Claritromycin 7. อานไมออก คนไขไดรับยาจากแพทยรวม 4 ชนิด ไดแก 1. zidovudine 100 mg 2. ritonavir 3. azithromycin tab 150 mg 4. rifampicin มีสูตรโครงสรางทางเคมีดังนี้
1.zidovudine
2. ritonavir
3.azithromycin
4. rifampicin
6. ฝาขาวที่เกิดขึ้นที่กระพุงแกม สามารถรักษา โดยใชยาชนิดใด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 8. จงบอกกลไกออกฤทธิ์ของ zidovudine a. Inhibit protein synthesis b. Inhibit HIV protease c. Inhibit HIV reverse transcriptase d. Inhibit thymidine kinase e. Inhibit cell wall synthesis 9. พิจารณาโครงสรางของ Ritronavir ทานคิดวา ขอใดไมถูกตอง a. เมื่อใหยารวมกับอาหารจะออกฤทธิ์ชาลง b. ยามีการละลายน้ําต่ํา จึงดูดซึมไดไมดีเมื่อ เทียบกับ.... c. เนื่องจากเปน peptide-like จึงสลายตัวได งายใน... d. ไมมี basic functionality จึงไม ionize ในทางเดินอาหาร e. ยามี polar functionality จึงละลายน้ําไดดี 10. เมื่อคนไขหักเม็ดยา Rifampin ซึ่งเปน white sugar-coated tablet พบวาในยาเม็ดเปนสีสม แดงทั้งเม็ด ทานจะอธิบายใหคนไขเขาใจ อยางไร a. ยาเสียเนื่องจาก air oxidation b. ยาเสียเนื่องจาก hydrolysis ของสวน hydrozone c. ยาไมเสีย เปนธรรมชาติของยาเม็ด ชนิดนี้ d. ยาเสียเนื่องจากความชื้นในอากาศ e. ยาไมเสีย สีที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากการ แตงสี สถานการณที่ 2 ผูปวยหญิงคู อายุ 24 ปมาปรึกษา ทานซึ่งเปนเภสัชกรประจํารานยา ผูปวยมีอาการตก ขาวมีสีขาวขุนคลายนม ไมมีกลิ่น มีอาการคัน บริเวณชองคลอดและอวัยวะ มีอาการมา 2 วันแลว ซักประวัติเพิ่มเติมแลวพบวาผูปวยไมมีประวัติแพยา 11. ผูปวยรายนี้ควรจะเปนโรคใด a. Bacterial vaginosis b. Candidiasis c. Gonorrhea d. Herpes genitalis e. Trichomoniasis
Pharmacy Student Rx’24
202
MCQ 12. ทานควรใหการรักษาผูปวยรายนี้อยางไร a. ให Tinidazole ชนิดเหน็บชองคลอด แบบ single dose b. ให Metronidazole ชนิดเหน็บชอง คลอดแบบ single dose c. ให Clotrimazole ชนิดเหน็บชอง คลอดกอนนอน 7 วัน d. ให Ciprofloxacin ชนิดเหน็บชอง คลอดกอนนอน e. ให Cotrimoxazole ชนิดเหน็บชอง คลอดกอนนอน 13. ขอใดไมนาจะเปนสาเหตุของการติดเชื้อของขอ กอนหนานี้ a. รับประทานยา Tetracyclin 250 mg เปนเวลานาน b. รับประทานยาคุมกําเนิดเปนเวลา ติดตอกัน 3 เดือน c. ผูปวยอยูในระยะตั้งครรภ d. ผูปวยติดเชื้อจากเพศสัมพันธ e. ใชผลิตภัณฑสวนลางชองคลอดบอยๆ 14. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยาเม็ดเหน็บชองคลอด a. ตองจุมน้ํากอนใช b. ตองละลายน้ําแลวสวนลางชองคลอด c. เก็บในตูเย็นอุณหภูมิ 8-15 οc เทานั้น d. อาจใชเหน็บหรือใชอมก็ได e. เม็ดยาควรมีน้ําหนักไมเกินเม็ดละ 2g 15. หากตองการเตรียมยาเหน็บชองคลอด เภสัชกร ควรเลือกใช a. Natural fat base b. Synthetic fat base c. Water soluble base d. Emulsion base e. Absorption base 16. หากผูปวยไมสะดวกที่จะใชยาเหน็บชองคลอด ทานจะจายยาอะไร a. Clotrimazole b. Cotrimoxazole c. Itraconazole d. Metronidazole
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 17. อานไมออก 18. หากผูปวยรายนี้ยูในระหวางตั้งครรภ รูปแบบ ยาใดจึงเหมาะสม a. ยาครีม b. ยาเหน็บ c. ยารับประทาน d. ยาน้ําสวนชองคลอด e. ยาฉีด 19. ในชวงเวลาเดียวกันมีผูปวยหลายรอยรายที่มี อาการเหมือนผูปวยรายนี้มาปรึกษาทานที่ราน ยา จนทําใหทานสงสัยวาเชื้อ D อาจเปนสาเหตุ ของการเกิดโรค แตทานตองการวางแผน งานวิจัยทางเภสัชระบาดวิทยาเพื่อวิจัยวาเชื้อ D เปนสาเหตุ ทานคิดวาวิธีการศึกษาแบบใดที่ เหมาะสมที่สุด a. Case control b. Randomized control study c. Case d. Analysis of secular trend 20. หลังจากทานทํางานวิจัยโดยวิธีขางตน ทาน พบวาเชื้อ D เปนสาเหตุของการเกิดโรคจริง ทานจึงสงขอมูลดังกลาวไปบริษัทยาแหงหนึ่ง เพื่อใหผลิตยาชนิดใหมในการรักษาโรคนี้ บริษัทไดผลิตยาชนิดใหมชื่อวา Vanotab® บริษัทตองตัดสินใจตั้งราคายาโดยมีขอมูลดังนี้ วิธีใช ราคาตอ ประสิทธิภาพ เม็ด การรักษา ยา a 2x2pc 1 20 บาท 70% วัน ยา 1 OD 1 ? 90% Vanotab® วัน จากขอมูลขางตน ทานคิดวาบริษัทยาจะตั้งราคา เทาไรจึงไมขาดทุน a. 90 บาทตอเม็ด b. 98 บาทตอเม็ด c. 100 บาทตอเม็ด d. 103 บาทตอเม็ด e. 110 บาทตอเม็ด
Pharmacy Student Rx’24
203
MCQ สถานการณที่ 3 ผูปวยหญิงไทยคู อายุ 32 ป ไดรับ การวินิจฉัยวาปวยเปนโรคลมชักแบบ Partial seizure secondarily to generalized tonic-clonic seizure ไดรับการรักษาดวย Phenytoin sodium (100mg) 3 capsule hs มาพบแพทยตามนัด หลังจากรับประทานยาไปได 1 เดือนพบวาผูปวยไม มีอาการชัก แตเมื่อแพทยตรวจวัดความเขมขนของ ยา Phenytoin ในกระแสเลือดพบวามีระดับความ เขมขน 28 mg/L (เปาหมายของระดับความเขมขน ของยา Phenytoin ในการรักษาโรคลมชัก คือ 1020 mg/L) 21. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการรักษาโรค ลมชัก a. แนะนําใหผูปวยหลีกเลี่ยงปจจัย กระตุนใหเกิดการชัก b. สามารถรักษาโรคลมชักบางชนิดได ดวยการผาตัด c. ควรใชยากันชักเฉพาะชวงที่ผูปวยมี อาการชักเทานั้น d. หากใชยากันชักชนิดเดียวกันจาก ผูผลิตยาที่ตางกัน....... e. หากยากันชักชนิดแรกไมสามารถ ควบคุมอาการชักได ใหใชยาตัวอื่น หรือใชยา 2 ชนิดรวมกัน 22. ยากันชักขอใดที่มีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนกับ Phenytoin Sodium a. Ethosuximide b. Diazepam c. Vigabutrin d. Carbamazepine e. Gabapentin 23. อาการไมพึงประสงคในขอใดที่สัมพันธกับระดับ Phenytoin ในกระแสเลือดของผูปวย a. Glugival hyperplasia b. Hepatitis c. Rash d. Ataxia e. Hyponatremia
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 24. ยากันชักตัวใดมีผลเพิ่มระดับความเขมขนของ ยาซึ่งผานกระบวนการเมตาบอลิซึมจาก เอนไซมตัวเดียวกัน a. Phenytoin b. Valproate c. Phenobarbital d. Carbamazepine 25. ยาในขอใดหากรับประทานพรอมกับ phenytoin จะทําให phenytoin เพิ่มขึ้น a. Erythromycin b. Cimetidine c. Conjugated estrogen 26. เนื่องจาก phenytoin เปนยาที่ไมละลายน้ําจึง ไมควรใชสารใดตอไปนี้ a. Lactose b. Dextrose c. Calcium sulfate d. Pregelatinized starch e. Microcrystalline cellulose 27. สารชนิดใดที่สามารถชวยใหบรรจุยา phenytoin ลงแคปซูล a. Crospovidone b. Croscarmellose c. Sodium lauryl sulphate d. Sodium starch glycolate e. Colloidal silicone dioxide
28. อานไมออก 29. โครงสรางของ phenytoin ขอใดไมถูกตองใน การวิเคราะห a. ใช infrared spectroscopy (IR) ตรวจสอบหมู Benzene b. ใช infrared spectroscopy (IR) ตรวจสอบหมู secondary amide
Pharmacy Student Rx’24
204
MCQ c. ใช infrared spectroscopy (IR) ตรวจสอบหมู carbonyl d. ใช ultraviolet spectrometry (UV) ตรวจสอบหมู Benzene e. ใช ultraviolet spectrometry (UV) ตรวจสอบหมู secondary amide 30. ขอใดไมใชชอบังคับของสภาเภสัชกรรมวาดวย ขอจํากัด......2540 เมื่อเภสัชกรจายยา Phenytoin ใหแกผูปวย a. คําแนะนําในการรับประทานอาหาร b. ขอบงใช c. วิธิการใช d. ผลขางเคียงที่อาจเกิดขึ้น e. ขอควรระวังในการใช สถานการณที่ 4 ผูปวยชาย นายสมคิดอายุ 50 ป ไดรับการวินิจฉัยดวย Non-Small Cell Lung Cancer (NSCLC) Satge IV ซึ่งไมสามารถรักษาได ดวยการผาตัดไดและจะไดรับยาเคมีบําบัดดังนี้ คือ Cisplatin 100 mg/m2 IV drop over 1 hour on day 1 Etoposide 100 mg/m2 IV drip over 1 hour on day 1,2 ผูปวยหนัก 60 kg. สวนสูง 180 cm Surface area= 1.73 m2 การตรวจทางหองปฎิบัติการอื่นๆ เปน ปกติ 31. ขนาดยา Cisplatin ที่ผูปวยจะไดรับเปน มิลลิกรัมเทากับเทาใด a. 150 b. 175 c. 200 d. 225 e. 250 32. ยาใดตอไปนี้เหมาะสมที่สุดในการใชปองกัน Acute Emetic a. Ondansetron b. Dexamethasone c. Metoclopramide d. Ondansetron + Dexamethasone e. Metoclopramide + Dexamethasone
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 33. กลไกการออกฤทธิ์ของยา Cisplatin คือ a. Akylating agent b. Topoisomerase II inhibitor c. Antimetabolite d. Intercalating agent e. Inhibitor of mitosis 34. ยา Cisplatin เปนยาที่มีผลพิษตอไตสูง (Nephrotoxicity) การปองกันสามารถทําได หลายประการตอไปนี้ ยกเวน a. การใหสารน้ําปริมาตรมากกอนและ หลังใหยา b. การใหสารละลายปริมาตรมากพรอม Magnesium c. การให Osmotic diuretic เชน Mannitol d. การเตรียม Cisplatin ดวยสารละลาย Sodium chloride 35. ตองการเตรียมยา etoposide เมื่อทานเปด ขอมูล stability : At temperature in D5W or NS in polyvinyl ≤ 0.2 mg/ml : 96 hours 0.4 - 0.21 mg/ml : 48 hours 0.6 - 0.41 mg/ml : 8 hours 1.0 - 0.61 mg/ml : 2 hours manufacturer does not recommended administration at conc. more than 0.4 mg/ml due to highly unpredictable time to precipitation หากทานเตรียมยา etoposide สําหรับนายสมคิด ในขนาดขางตน (100 mg/m2) ใน D5W ปริมาณ 500 ml โดยใชขอมูลเบื้องตน ยาจะมีความคงตัวได นานเทาไร เมื่อเก็บยาที่ผสมแลวไวที่อุณหภูมิหอง a. 96 ชม. b. 48 ชม. c. 8 ชม. d. 2 ชม. e. ไมสามารถบอกไดเนื่องจากขอมูลไม เพียงพอ 36. องคความรูในเรื่องปจจัยที่มีผลตอการใชยา สม่ําเสมอมีความสําคัญอยางมากในการที่เภสัช
Pharmacy Student Rx’24
MCQ
205
กรจะชวยใหผูปว ยใชยาไดอยางสม่ําเสมอ ขอ ใดเปนความจริง a. ผูหญิงมีพฤติกรรมการใหความ รวมมือในการใชยาดีกวาผูชาย b. การเลือกใชยาบําบัดโดยการ รับประทานยาเพียงครั้งเดียวตอวันมี ผลทําใหผูปวยมีพฤติกรรมใหความ รวมมือตอการใชยา..... c. ผูปวยสูงอายุมีพฤติกรรมใหความ รวมมือในการใชยาไมดีเทากับผูปวย วัยกลางคน d. คนมีการศึกษาสูงใหความรวมมือใน การใชยาดีกวาคนที่มีการศึกษาต่ํา e. การใหยาน้ํา (ถาทําได) จะทําให ผูปวยมีความรวมมือในการใชยา มากกวาการใชยาเม็ด 37. การดัดแปลงโครงสรางของ Cisplatin เพื่อใหมี พิษตอไตนอยลงทําใหไดยาใหมคือ a. Doxorubicin b. Cytarabine c. Melphalan d. Carboplatin e. Metrotrexate 38. กลไกการปลดปลอยตัวยาตามรูปตอไปนี้ + ++ + +++ + +- + + + - -+ - + -+ + +
a. Diffusion controlled b. Dissolution controlled c. Erosion controlled d. Osmotic controlled e. Ion exchange controlled 39. รูปตอไปนี้แสดงลักษณะของไลโซมที่มีผนัง 2 ชั้น ของฟอสโฟไลปด ขอใดตอไปนี้ถูกตอง A c B
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สวน A คือ hydrophobic medium สวน B คือ hydrophilic medium สวน C คือ hydrophobic medium สวน B คือ ที่เก็บของยาที่ละลายใน ไขมัน e. สวน C คือ ที่เก็บของยาที่ละลายใน ไขมัน 40. การเตรียมยาเคมีบําบัดในรูปสารละลายเพื่อให ยาทางหลอดเลือดจะตองเตรียมยาที่ใด a. Clean room class 100,000 b. Clean room class 10,000 c. Clean room class 1,000 d. Horizontal laminar airflow hood e. Biological safety cabinet สถานการณที่ 5 ชายอายุ 53 ป เปนโรคเบาหวานมา นาน 5 ป ไมสูบบุหรี่ ดื่มไวนวันละ 3-4 แกวทุกวัน มาพบ แพทยที่คลินิกผูปวยนอก ผลการตรวจรางกาย BP 138/88 mmHg HR 85 RR 18/min และผลทาง หองปฎิบัติการอื่นๆ ดังนี้ Total cholesterol (<240) 243 mg/dL Triglyceride (<200) 200 mg/dL HDL- C (>40) 33mg/dL FBS (<126) 135 mg% HbA1c (<7) 7.0% จากการซักประวัติเพิ่มพบวาบิดาเสียชีวิตดวยโรค Myocardial infarction เมื่ออายุ 53 ป พี่ชายเสียชีวิตดวย โรคเดียวกันนี้เมื่ออายุ 44 ป ยาที่กินอยูคือ Glibencarmide 10 mg BID 41. ผูปวยมีคา LDL- Cเทาไร a. 130 mg/dl b. 140 mg/dl c. 150 mg/dl d. 160 mg/dl e. 170 mg/dl 42. ขอใดไมใช major risk factor ตอการเกิด Coronary heart disease a. บิดาเสียชีวิตดวย Myocardial infarction เมื่อ อายุ 53 ป
MCQ
206
a. b. c. d.
Pharmacy Student Rx’24
43.
44.
45.
46.
b. พี่ชายเสียชีวิตดวย Myocardial infarction เมื่ออายุ 44 ป c. ดื่มไวน 2 แกวทุกวัน d. มีระดับ HDL-C 33 mg/dl e. ผูปวยเปนชายอายุ 53 ป เปาหมายแรกในการรักษาภาวะ Hyperlipidemia ของผูปวย a. ลดระดับ Total cholesterol b. ลดระดับ Triglyceride c. เพิ่มระดับ HDL-C d. ลดระดับ LDL-C e. ลดระดับ Non-HDL-C การรักษาผูปวยรายนี้จะตองลดระดับ LDL – C ใหไดเทาไร เพื่อปองกัน atherosclerosis a. < 100 mg/dl b. < 130 mg/dl c. < 160 mg/dl d. < 190 mg/dl e. < 200 mg/dl ยาที่คนไขควรไดรับเพื่อใหไดผลตามเปาหมาย ตามขอขางตน a. ยากลุม Statin b. ยากลุม bile acid segvegtrants c. ยากลุม nicotinic acid d. ยากลุม fibric acid e. ยากลุมplant sterols เชน sitosterol campesterol ยาในกลุม Statin สามารถลดระดับ LDL-C ดวยกลไกใด a. ลดการสราง LDL-C receptor ที่ตับ b. ลดการสราง cholesterol และเพิ่ม จํานวน LDL-C receptor c. ลด enterohepatic recycling ของ cholesterol d. ลดการสราง VLDL e. ลดการสราง HDL
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
Simvastatin Pravastatin 47. อานโจทยไมออก a. Cholestyramine ลดการดูดซึมยา Simvastatin เพราะ Simvastatin มี lactone ring ในโครงสราง b. Cholestyramine ลดการดูดซึมยา Pravastatin เพราะ Pravastatin มี carboxylic acid ในโครงสราง c. Simvastatin ลดการดูดซึมยา Cholestyramine d. Cholestyramine ไมมีผลตอการดูด ซึมยา Simvastatin และ Provastatin e. Cholestyramine เพิ่มการดูดซึมยา Simvastatin และ Provastatin 48. โครงสรางที่แสดงขางตนสัมพันธกับการออก ฤทธิ์ของยาอยางไร a. Pravastatin เปน prodrug b. Simvastatin และ Pravastatin เปน prodrug c. Pravastatin มีโครงสรางที่ออกฤทธิ์ใน รางกาย 2 โครงสราง คือ โครงสรางที่ เกิดการเชื่อมเปนวง lactone ring และรูปที่เปน carboxylic acid d. Simvastatin มีโครงสรางที่ออกฤทธิ์ คือ โครงสรางที่ lactone ring เปด e. Simvastatin และ Pravastatin ไมเปน prodrug 49. คณะกรรมการเภสัชกรรมและการบําบัดโรค ของโรงพยาบาลมีนโยบายใหมีกิจกรรม Drug use… ของกลุม statin ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับ วัตถุประสงคของกิจกรรมนี้ a. เพื่อปองกันปญหาจากยา b. เพื่อลดคาใชจายจากยาที่ไมจําเปน
Pharmacy Student Rx’24
207
MCQ c. เพื่อใหมีกระบวนการใชยาที่เปน มาตรฐาน d. ...แนวทางการใชยาโดยสายวิชาชีพ e. เพื่อใหผูปวยมีสวนรวมกับทีมรักษาใน การวางแผนรักษาดวยยา 50. ในการเสนอเกณฑการประเมินการใชยากลุม statin เภสัชกรควร....หลักฐานทางวิชาการที่ นาเชื่อถือ งานวิจัยประเภทใดที่มีความ นาเชื่อถือมากที่สุด a. Cohort study , Case controlled study b. Case report, Cross-sectional study c. Case controlled study, Crosssectional study d. Meta-analysis, Randomized controlled study e. Cross-sectional study, Randomized controlled study สถานการณที่ 6 ชายไทยโสด อายุ 25 ป ปวยดวยโรค หืดมานาน 10 ป ตลอดเวลาที่ผานมาผูปวยรักษาดวย Salbutamol MDI เฉพาะเวลาที่มีอาการ ซึ่งสามารถ ควบคุมอาการของโรคไดดี เมื่อไมนานมานี้เริ่มมีอาการ รุนแรงขึ้นและทําใหตองตื่นนอนตอนกลางคืนเกือบทุกคืน เนื่องจากไอและหอบ 51. ขอใดไมใชเปาหมายการรักษาของผูปวยโรคหืด รายนี้ a. เพื่อใหสามารถดําเนินชีวิตไดปกติ b. เพื่อใหควบคุมอาการของโรคได c. เพื่อหลีกเลี่ยงอาการไมพึงประสงคอัน เนื่องมาจากยารับประทาน d. เพื่อปองกันการเกิดอาการเรื้อรัง e. เพื่อปองกันการทําลายเนื้อเยื่อปอด 52. ขอใดที่มีโอกาสนอยที่สุดในการกระตุนการเกิด อาการหอบหืด a. เดินขึ้นบันได 2 ชั้น b. อากาศรอน c. ขนแมว d. ฝุน e. ควันบุหรี่
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 53. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา Salbutamol MDI a. ตัวยามีฤทธิ์เปน long-acting beta 2 antagonist b. หากใชรวมกับ inhaled steroid ใหพน steroid กอน c. ผูปวยทุกรายควรพกติดตัวไวตลอดเวลา เพราะเปนยาชวยชีวิต d. เวลาเกิด attack ใหพน 2-4 puffs ทุกหนึ่ง ชั่วโมงอยางมากที่สุด 3 ครั้ง e. ที่หองฉุกเฉินเปลี่ยนไปใหเปนรูปแบบยา ฉีดเพื่อใหออกฤทธิ์เร็วและเพิ่ม bioavailability 54. แพทยไดสั่งยาเพิ่ม 2 ชนิดแตผูปวยขอใชแค ชนิดเดียว ขอใดตอไปนี้เหมาะสมที่สุด a. Inhaled fenoterol (100mcg/puff) ครั้งละ 3 puffs กอนนอน b. Zileuton (600mg/tablet) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 4 ครั้ง c. Sustained-released theophylline (200mg) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง d. Inhaled budesonide (200 mcg/puff) ครั้ง ละ 2 puffs วันละ 2 ครั้ง e. Ketotifen (1mg/tablet) ครั้งละ 1 เม็ด วัน ละ 2 ครั้ง 55. สองอาทิตยตอมาผูปวยกลับไปพบแพทยดวย อาการหอบที่ยังควบคุมไมคอยไดผล แพทย เห็นวาตองสั่งเพิ่มยาชนิดที่ 2 ที่เคยแนะนําแต แรก ยานั้นจะเปนยาใดตามหลักการรักษา a. Inhaled Salmeterol DPI (50 mcg/blister) ครั้งละ 1 blister ทุก 12 ชม. b. Inhaled Cromolyn MDI (1mg/puff) ครั้ง ละ 2 puff วันละ 3 ครั้ง c. Inhaled Fluticasone DPI (250 mcg/inhalation) ครั้งละ 2 inhalation วัน ละ 3 ครั้ง d. Prednisolone (5 mg/tab) ครั้งละ 5 เม็ด หลังอาหาร เชา เย็น e. Inhaled Ipratopium MDI (18 mcg/puff) ครั้งละ 2 puff วันละ 3 ครั้ง
Pharmacy Student Rx’24
208
MCQ 56. การใชน้ํากลั้วคอแลวบวนทิ้งหลังพนยา steroid ปองกันผลขางเคียงใดไดมากที่สุด a. Sore throat b. Pharyngitis c. Metallic taste d. Gingivitis e. Oral thrush 57. ยาใดตอไปนี้ไมเกิดปฏิกิริยาเมื่อรับประทาน รวมกับ Theophylline a. Ciprofloxacin b. Fluvexamine c. Cimetidine d. Amoxicillin e. Rifampicin 58. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับ inhaler device a. ประโยชนของ spacer นอกจากจะ ชวยใหผูปวยที่ใช Metered Dose Inhaler (MDI) ไมถูกวิธีไดรับยามาก ขึ้นแลว ยังชวยลดการเกิด oral thrash ไดอีกดวย b. อุปกรณที่เหมาะสมสําหรับพนยาใน เด็กเล็กๆ หรือผูปวยที่อาการหนัก คือ Nebulizer c. การใช Dry powder Inhaler (DPI) สะดวกกวา... ตรงที่ไมตองกลั้น หายใจนานอยางนอย 10 วินาทีหลัง สูดพน d. ขอดีของการใช breath activated device คือ ไมตองอาศัยการ ประสานงานในการกดหลอดยากับ การสูดหายใจเขา e. ขอจํากัดของ Turbuhaler คือ ตองมี แรงเปาลมเขาไปในหลอดยา ซึ่งเปน ปญหาในผูปวยที่มีอาการหนัก ผูปวย เด็ก และผูปวยสูงอายุ 59. ยาที่ใชในการรักษาโรคหืดชนิดใด ซึ่งตาม กฎหมายจัดเปนยาควบคุมพิเศษ a. Turbutaline (2.5mg/tab) b. Prednisolone (5mg/tab)
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review c. Inhaled fermoterol (4.5 mcg/dose) d. Inhaled beclomethasone (250 mcg/puff) e. Theophylline (200 mg sustainedrelease) 60. ขอใดผิดเกี่ยวกับ Evohaler a. เปน metered dose inhaler ชนิดหนึ่ง b. ใช propellant ชวยนําสงยาไปยัง ตําแหนงที่ตองการ c. ใช propellant ชนิด non-CFC จึงมี ความเปนมิตรตอสิ่งแวดลอม d. ใชพนทางจมูกไมใชทางปาก e. สามารถใชไดในกรณีที่ทางเดินหายใจ ของผูปวยตีบ เชน ขณะจับหืด สถานการณที่ 7 หญิงไทยอายุ 33 ปมาที่รานยาที่มี เภสัชกรปฎิบัติงานอยู ผูปวยอยากไดยาเหน็บทวาร เพื่อรักษาโรคริดสีดวงทวาร เนื่องจากมีติ่งยื่น ออกมาที่ทวารหนัก ขณะถายอุจจาระมีอาการปวด บริเวณทวารหนัก และบางครั้งจะมีเลือดสดๆ ไหล ออกมาหลังถายอุจจาระ 61. ขอใดที่ไมใชสูตรยาทีใชในการรักษาโรค ริดสีดวงทวาร a. Prednisolone b. Hydrocortisone, cimetidine c. Hyossacine HCl, Zinc oxide 62. จากการซักถามเพิ่มเติม ทราบวาผูปวยมักมี อาการทองผูก หากทานเปนเภสัชกรประจําราน นี้ทานจะแนะนํายาชนิดใด a. Senna b. Castor oil c. Bisacodyl d. Mineral oil e. Phylium seed 63. จากการซักถามถึงพฤติกรรมของผูปวย ขอใด เปนสาเหตุที่ทําใหเกิดริดสีดวงทวาร a. ผูปวยมักจะดื่มน้ําวันละ 6 แกว b. ผูปวยมักจะออกกําลังกายสม่ําเสมอ c. ผูปวยมักจะหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ
Pharmacy Student Rx’24
MCQ
209
64.
65.
66.
67.
d. ผูปวยมักจะดื่มนม 1 แกวเปนประจํา ทุกวัน e. ผูปวยมักจะนั่งอานหนังสือพิมพใน หองน้ําเปนเวลานาน ขอใดไมใชกลไกการออกฤทธิ์ของยาระบาย a. ชวยหลอลื่นอุจจาระ b. ทําใหอุจจาระออนนุม c. เพิ่มแรงดันออสโมติกภายในลําไส d. ทําใหอุจจาระจับตัวเปนกอน e. เพิ่มการเคลื่อนไหวของลําไสเล็ก หากผูปวยมีประวัติเปนลําไสอุดตันควรใหยาตัว ใด a. Senna b. Castor oil c. Bisacodyl d. Lactulose e. Phylium seed ขอใดไมใชคําแนะนําที่ถูกตองในการใชยาเหน็บ ทวาร a. ฉีกซองพลาสติกกอนใช b. เก็บยาไวในตูเย็นชองแชแข็ง c. ลางมือใหสะอาดกอนเหน็บยา d. ไมตองนํายาเหน็บออกจากรางกาย หลังจากเหน็บ e. เหน็บยาแลวใหนอนพักอยางนอย 15 นาที กอนลุก ถาทานเปนเภสัชกรโรงงานและตองการเตรียม ยาเหน็บซึ่งแตละแทงหนัก 2g และมีตัวยา สําคัญแทงละ 0.3g Displacement valve = 1.5 อยากทราบวาตองใชbase สําหรับยาเหน็บ เทาไร a. 155 g b. 175 g c. 180 g d. 197 g e. 200 g
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 68. ผูปวยเคยไปพบแพทยและไดยาเปนผงที่มี วิธีการใชคือ นําผงยาละลายในน้ําอุนแลวแช ประมาณ 15 นาที ทานคิดวาผงยาที่แพทยจาย คือ ยาอะไร a. Calcium carbonate b. Potassium chloride c. Sodium bicarbonate d. Potassium lichromate e. Potassium permanganate 69. ผูปวยตองการทราบความเห็นของเภสัชกร เกี่ยวกับยาแผนโบราณที่ใชในการรักษา ริดสีดวงทวารชนิดหนึ่งซึ่งมีตัวยาสําคัญ ประกอบดวย เพชรสังฆาต อัคคีทวาร โกฎ..... และโกฎน้ําเตา โดยรับประทานครั้งละ 15 เม็ด วันละ 3 ครั้ง กอนอาหารขอใดถูกตองเกี่ยวกับ ยาดังกลาว a. มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา คือ ชวยระบาย และลดอักเสบ b. ขนาดยาที่ใชรับประทานสูงเกินไปอาจ ทําใหตับอักเสบได c. เปนยาลูกกลอนซึ่งไมสามารถดูดซึม ไดในระบบทางเดินอาหาร d. ตํารับยาแผนโบราณซึ่งเปนยาสูตร ผสมใหผลการรักษาที่ดีกวาสูตรเดี่ยว e. สํานักงานสาธารณสุขมูลฐานไม แนะนําใหใชสมุนไพรรักษาอาการ ริดสีดวงทวาร 70. ผูปวยเคยอานเอกสารวิชาการพบวา การ ขับถายอยางสม่ําเสมอจะชวยลด “อุบัติการณ” ของริดสีดวงทวารได จึงสอบถามทานวา “อุบัติการณ” มีความหมายวาอยางไร a. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอ จํานวนประชากรทั้งหมด ในพื้นที่ ในชวงเวลาหนึ่ง b. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอ จํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่จะ เกิดโรคริดสีดวงทวาร c. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอ จํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่จะ
Pharmacy Student Rx’24
210
MCQ เกิดโรคริดสีดวงทวาร ในชวงเวลา หนึ่ง d. จํานวนครั้งของการเปนริดสีดวงทวาร ตอจํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่ จะเกิดโรคริดสีดวงทวาร ณ จุดเวลา ใดเวลาหนึ่ง e. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอ จํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่จะ เกิดโรคริดสีดวงทวาร ณ จุดเวลาใด เวลาหนึ่ง สถานการณที่ 8 ผูปวยชายไทย อายุ 60 ป หนัก 48 kg สูง 170 cm เขารับการรักษาใน โรงพยาบาลดวยอาการขาบวมทั้งสองขาง เหนื่อย ออนเพลีย และเบื่ออาหาร คาผลตรวจทาง หองปฎิบัติการเปนดังนี้ Blood urea nitrogen = 60 mg/dl (normal 7-20 mg/dl) Serum creatinine concentration = 3 mg/dl (normal 0.5-1.4 mg/dl) Serum potassium concentration = 6.5 mEq/l (normal 3.5-5.2 mEq/l) นอกจากนั้นผูปวยมีประวัติปวยเปนโรคไตมา นาน 5 ป มี creatinine clearance 18 ml/min 71. เมื่อพิจารณาจากประวัติความเจ็บปวย อาการ แสดงและคา Creatinine clearance แสดงวา การทํางานของไตอยูในภาวะใด a. Acute renal failure b. Renal insufficiency c. Chronic renal failure d. Uremia e. End-state renal failure 72. ยาในขอใดสามารถแกไขอาการ hyperkalemia ในผูปวยรายนี้ a. Potassium chloride b. Sodium chloride c. Sodium polystyrene sulfonate d. Calcium chloride e. Calcium phosphate
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 73. แพทยควรใหยาขับปสสาวะชนิดใดกับผูปวย รายนี้ a. Hydrochlorothiazide b. Spironolactone c. Furosemide d. Amiloride e. Indapamide 74. ขอใดไมใชเหตุผลในการเลือกใชยาขับปสสาวะ ในขอขางตน a. ลดอาการบวมคั่งน้ํา b. ปองกัน renal shut down c. ออกฤทธิ์ไดแมในผูปวยที่ไตมีภาวะ บกพรองในการทํางานอยางรุนแรง d. ไมมีผลรบกวนสมดุลกรด-ดาง ใน รางกาย e. ออกฤทธิ์เร็วและแรง ขอมูลเพิ่มเติม แพทยพบวาผูปวยเกิดภาวะ acidosis จึงสั่งจาย sodium bicarbonate เพื่อใหได bicarbonate 2.8 mmol/l ใน sterile water for injection 100 ml 75. จากขอมูลขางตนเภสัชกรตองเตรียมสารละลาย ดังกลาวจาก sodium bicarbonate จํานวนกี่แอ มพูล เมื่อ sodium bicarbonate ขนาดบรรจุแอ มพูลละ 5 ml และมีความเขมขน 2 mg/ml (Mw ของ Na=23, H=1, C=12, O=16) a. 2 Amp b. 3 Amp c. 4 Amp d. 5 Amp e. 6 Amp 76. บริเวณที่ใชในการเตรียมยาขอขางตนนี้ตอง เปน a. Clean room class 10 b. Clean room class 100 c. Clean room class 1000 d. Clean room class 10,000 e. Clean room class 100,000 77. การเตรียมยาขอขางตนไมจําเปนตองคํานึงถึง
Pharmacy Student Rx’24
211
MCQ a. Sterility b. Osmolarity c. Microbial limit test d. Particulate matter e. Preservative 78. กรณีที่โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประสงคที่จะซื้อยา Sodium bicarbonate injection ซึ่งเปนยาในบัญชียาหลักแหงชาติที่ องคการเภสัชกรรมผลิต ขอใดถูกตอง a. จัดซื้อดวยเงินงบประมาณเทานั้น b. จัดซื้อดวยวิธีกรณีพิเศษจากองคการ เภสัชกรรมถาวงเงินเกิน 50,000บาท c. จัดซื้อโดยวิธีตกลงราคาจากองคการ เภสัชกรรมเทานั้น ไมจํากัดวงเงิน d. จัดซื้อโดยวิธีตกลงราคาจากบริษัทใด ก็ไดถาวงเงินไมเกิน 50,000 บาท e. จัดซื้อดวยวิธีกรณีพิเศษจากองคการ เภสัชกรรม ไมจํากัดวงเงิน 79. ถาบริษัทที่จําหนายยา A ซึ่งเปนยาในกลุม diuretic ตัวหนึ่งตองการเปรียบ....... ปองกัน การสูญเสียโพแทสเซียมในคนไขโรคไตไดไม แตกตางจาก HCTZ วิจัยแบบใดดีที่สุด ถาการ วิจัยนี้เริ่มดําเนินการกอนที่ยา A……… a. Case control b. Cohort c. Meta-analysis of case control studies d. Deseriptive e. Randomized control trial 80. ในกรณีที่ผูปวยตองการใชสมุนไพร สมุนไพรใด ที่มีสรรพคุณขับปสสาวะ a. ปบ b. ทองพันชั่ง c. มะขามปอม d. ขมิ้นชัน e. หญาหนวดแมว
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สถานการณที่ 9 นายเอกไดรับการวินิจฉัยจากแพทยวา เปน generalized anxiety disorder เนื่องจากมีอาการ วิตกกังวลเกี่ยวกับภรรยาและลูกตลอดเวลาจนไม สามารถดําเนินชีวิตประจําวันและทํางานไดเปนเวลา 6 เดือน 81. ทานคิดวายาที่เหมาะสมสําหรับผูปวย คือ a. Lithium carvonate b. Clozapine c. Chlorpromazine d. Haloperidol e. Diazepam 82. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา fluoxetine a. จัดอยูในประเภทยาอันตราย เภสัชกร สามารถจายไดในรานยา b. จัดอยูในประเภทยาควบคุมพิเศษ เภสัชกรไมสามารถจายได c. จัดอยูในประเภทยาอันตราย จายได เฉพาะในโรงพยาบาล d. จัดอยูในประเภทยาเสพติดใหโทษ ประเภท.... ตองทําบัญชีรายงาน คณะกรรมการอาหารและยา e. จัดอยูในประเภทวัตถุออกฤทธิ์ตอจิต ประสาท 83. นองชายของนายเอกมีอาการซึมเศรา ตลอดเวลา นายเอกพาไปพบแพทย แพทย วินิจฉัยวาเปน major depressive disorder และสั่งจายยาตัวหนึ่งให หลังจากที่รับประทาน ยาแลวเกิดอาการงวงนอน ปากคอแหง หนามืด บอยๆ เวลาลุกขึ้น ทานคิดวายาที่นองชายนาย เอกไดรับ คือ a. Venlofaxine b. Paroxetine c. Amitriptyline d. Bupropion e. Sertraline 84. หากนองชายของนายเอกทนอาการขางเคียง ของยาขางตน คือ อาการงวงนอน ปากคอแหง หนามืดบอยๆ เวลาลุกขึ้นไมได แพทยจึงมา
Pharmacy Student Rx’24
212
MCQ ปรึกษาทาน ทานจะใหคําแนะนําเปนการสั่งยา ใด a. Imipramine b. Elomipramine c. Amitriptyline d. Doxepin e. Sertraline 85. คําแนะนําในการใชยากลุม antidepressant ที่ สําคัญเพื่อชวยเพิ่มความรวมมือในการใชยา ของผูปวย คือ a. ควรแนะนําใหผูปวยใชยาหลังอาหารเทานั้น จะไดไมลืมใชยา b. ควรแนะนําผูปวยวาในการใชยาสวนใหญ จะ เริ่มเห็นผลลดอาการซึมเศราไดตองใชเวลา 2-3 สัปดาห เพื่อใหผูปวยใชยาอยางตอเนื่อง c. ควรแนะนําใหผูปวยดื่มน้ํามากๆ เพื่อลดการ ระคายเคืองกระเพาะอาหาร d. ควรแนะนําการเพิ่มและลดขนาดยาใหผูปวย เพื่อใหผูปวยสามารถปรับขนาดยาไดเองตาม อาการ e. ควรแนะนําใหผูปวยหยุดยาทันทีเมื่อเกิด อาการขางเคียง เชน นอนไมหลับ 86. กรณีที่ผูปวยไดรับยากลุม benzodiazepine ซึ่ง ผูปวยรับประทานอยางสม่ําเสมอเปนเวลา 6 เดือน อาการของผูปวยกลับมาเปนปกติ หาก ทานตองการหยุดยาดังกลาวควรทําอยางไร a. สามารถหยุดไดทันทีโดยไมตอง ปรับเปลี่ยนขนาดของยาใหม b. ให Triazolam กอนแลวคอยๆ ลด ขนาดยาที่ผูปวยรับอยูสปั ดาหละ 25% ของขนาดยาที่ใหผลรักษา c. ให Olanzapine กอนแลวคอยๆ บด ขนาดของยาที่ผูปวยไดรับอยูสัปดาห ละ 75% ของยาที่ใหผลในการรักษา d. คอยๆ ลดขนาดยาที่ผูปวยไดรับอยู สัปดาหละ 25% ของขนาดยาที่ใหผล ในการรักษา
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
87.
88.
89.
90.
e. ใหผูปวยรับประทานยาที่ไดรับตอไป อีก 1 สัปดาห จากนั้นจึงสามารถหยุด ยาไดทันที สมุนไพรขอใดที่แสดงฤทธิ์ตอจิตประสาททําให เกิดอาการประสาทหลอนได a. ฝน b. กัญชา c. ยาสูบ d. กาแฟ e. ชา Risperidone เปนยาสําหรับโรคจิตประสาทมี ลักษณะเปนสีขาว ละลายในน้ําบริสุทธิ์ไดนอย มาก ละลายไดดีมากใน เมทธีลีนคลอไรด และ ละลายไดใน methanol และ HCl เขมขน 0.1 normal และตัวยามีความคงตัวดี หากทาน ตองการผลิตเปนยาเม็ดเคลือบฟลมควรใชสาร ใดเปนสารเคลือบ a. Shellac b. Cellulose acetate phthalate c. Hydroxypropyl methylcellulose d. Polyvinyl acetate phthalate e. Polyvinyl pyrroridone หากตองการตั้งตํารับยาที่ออกฤทธิ์ไดนาน 1 เดือน ควรตั้งตําหรับยา a. ยาเม็ดรับประทานแบบ matrix b. ยาเม็ดรับประทานแบบ osmotic c. ยาฉีดเขาเสนเลือดแบบสารละลาย d. ยาฉีดเขาใตผิวหนังแบบ matrix สารใดตอไปนี้ทําหนาที่เปนทั้งสารเพิ่มปริมาณ( bulking agent) และสารชวยแตกตัว( disintegrant ) a. Lactose b. Magnesium sulfate c. Microcrystalline cellulose d. Corn starch e. Sodium lauryl sulfate
Pharmacy Student Rx’24
213
MCQ สถานการณที่ 10 สตรีรายหนึ่งอายุ 28 ป มีผลการตรวจ การทํางานของตอมไทรอยดดังนี้ Thyroid stimulating hormone (TSH) ต่ําเกิน คาชวงปกติ Thyroxine สูงเกินคาชวงปกติ 91. กลุมอาการใดสอดคลองกับผลสรุปที่ไดจากการ ตรวจการทํางานของตอมไทรอยดดังกลาว a. Goiter, constipation, lethargy, dry skin b. Goiter, depression, puffy face, lethargy c. Goiter, cold intolerance, decreased sweating, bradycardia d. Goiter, loose bowels, insomnia, irritability e. Goiter, fatigue, weight gain, decreased appetite แพทยเริ่มการรักษาดวยยารับประทานตอไปนี้ Propanolol 20 mg QID for 3 weeks Propylthiouracil 100 mg TID for 6 weeks ผูป วยรับประทานยาตามแนะนําและเมื่อ ถึงเดือนที่ 2 ของการักษาพบวาผูปวยตั้งครรภ ไดประมาณ 1 เดือน แพทยสรุปวาสภาวะทาง คลินิกของภาวะตอมไทรอยดของผูปวยดีขึ้น แตยังไมเขาสู cuthyroidal state 92. Propylthiouracil จัดอยูในบัญชียา ก ตามบัญชี ยาหลักแหงชาติป 2542 ยาที่อยูในบัญชี ก หมายถึงขอใด a. รายการยาที่ตองใชโดยผูเชี่ยวชาญ b. รายการยาที่จําเปนตองใชใน สถานพยาบาลบางระดับ c. รายการยาสําหรับใชเฉพาะโครงการ พิเศษของกระทรวง d. รายการยาที่มีความจําเปนสําหรับ สถานพยาบาลทุกระดับ e. รายการยาที่อาจมีความจําเปนตองใช สําหรับชวยชีวิตผูปวยบางราย แต อาจทําใหเกิดอันตรายตอผูปวยควรมี
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
93.
94.
95.
96.
การทํา drug use evaluation เพื่อ ประเมินการใชยา การปฏิบัติในขอใด เหมาะสมเกี่ยวกับการรักษา ตอไปในผูปวยรายนี้ a. เปลี่ยนยา Propylthiouracil เปน methimazole ในขนาดรับประทานที่ สมมูลกัน b. แนะนําใหผูปวยรับประทานยา Propylthiouracil ในขนาดดังกลาว ตอไป c. หยุดยารับประทาน เปลี่ยนวิธีการ รักษาเปนการผาตัดตอม d. หยุดยารับประทาน ใหการรักษาดวย การทาน iodine e. เพิ่ม propranolol ใหรับประทานตอ รวมกับยา propylthiouracil อาการไมพึงประสงคใดเกิดขึ้นจากการใช thiouracil a. ปวดขอ b. เม็ดเลือดขาวต่ํา c. งวงนอน d. SLE like syndrome e. Metallic taste ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา Propylthiouracil a. เปนอนุพันธของ thiourea b. ยับยั้งการหลั่งของ thyroid hormone c. ใชรักษา hypothyroid d. กระตุนเอนไซม thyroid peroxidase e. เพิ่มการสราง T3 Propylthiouracil: White, crystalline sub that has a bit ?? water มีการผลิตเปน...ขนาด 50 mg เปนเม็ดสีขาว โครงสรางของยา 3 ชนิด ดังนี้
Pharmacy Student Rx’24
MCQ
214
methimazole
carbimazole
propylthiouracil ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา methimazole, carbimazole และ propylthiouracil a. methimazole, carbimazole และ propylthiouracil ถูก metabolized โดยปฏิกิริยา desulfunation กอนจึง จะไดสารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา b. propylthiouracil จะถูก metabolized โดยปฏิกิริยา dealkylation ซึ่งจะตัด Propyl group ออกกอนจึงจะไดสารที่ มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ตองการ c. methimazole จะถูก metabolized โดยปฏิกิริยา conjagation ไดเปน carbimazole จึงจะไดสารที่มีฤทธิ์ทาง เภสัชวิทยาที่ตองการ d. ตองเกิดปฏิกิริยา amide hydrolysis กับโครงสราง carbimazole จึงจะได สารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ตองการ e. ตองเกิดปฏิกิริยา ester hydrolysis กับโครงสราง carbimazole จึงจะได สารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ตองการ
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 97. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการใชยา propanolol รวมกับ propylthiouracil a. Propanolol เปน alpha-adrenergic blocking agent ชนิดหนึ่ง b. Propanolol ชวยลดอาการตางๆ เชน tremor และ tarchycardia ที่เกิดจาก thyrotoxicosis c. Propanolol มีความสําคัญตอ pharmacokinetic ของ propylthiouracil ทําใหการดูดซึมและ ฤทธิ์ของยา propylthiouracil ดีขึ้น d. Propanolol ชวยลดอาการขางเคียง จากการใชยา propylthiouracil e. Propanolol ออกฤทธิ์เสริมกับ propylthiouracil โดยลดการ สังเคราะห T4 98. ขอใดผิดเกี่ยวกับ goiter a. Ion บางชนิด เชน thiocyanate อาจมี ผลทําใหเกิด goiter b. Thiocyanate อาจไดจากการ metabolize สารจาก... เชน กะหล่ําปลี c. Lithium สามารถลด secretion ของ Thyroxine และ thiiodothyroxine และสามารถชวยในการรักษา hyperthyroidism d. Goitrin สามารถยับยั้ง thyroid peroxidase e. Percholate เปน ion ที่ชวยเพิ่มการ uptake iodide และเพิ่มระดับ iodide ใน thyroid 99. ชุมชนที่มีคนเปน toxic goiter มากบงบอกวา ชุมชนนั้นมีลักษณะอยางไร a. ไดรบั iodine ต่ําเกินไป b. ไดรับ iodine มากเกินไป c. แหลงน้ําดื่มมีการปนเปอนของสารหนู d. แหลงน้ําดื่มมีการปนเปอนของสาร ตะกั่ว
Pharmacy Student Rx’24
215
MCQ e. กินอาหารที่มี thiocyanide มาก เกินไป 100.Lugol’s solution ประกอบดวยสารชนิดใดเปน สวนประกอบ a. Iodine + KI b. Manganese c. Methimazole d. Thiocyanate e. Propylthiouracil สถานการณที่ 11 หญิงอายุ 55 ป มีอาการรอนวูบวาบ คันชองคลอด หงุดหงิดงาย นอนไมคอยหลับ เหงื่อออก ตอนกลางคืน ไปพบแพทยแลวไดรับยาสูตรผสมซึ่งมี องคประกอบของ estradiol valerate 2 mg + norgestrel 0.5 mg 101.ขอใดเปนขอดีที่เหนือกวาของยาสูตรผสมที่ ผูปวยไดรับเมื่อเปรียบเทียบกับยาฮอรโมน เดี่ยว a. จะชวยใหผลดีตอระบบหัวใจและ หลอดเลือด b. จะชวยทําใหไมมีเลือดออกจากชอง คลอด c. จะชวยลดความเสี่ยงของการเปน มะเร็งเยื่อบุมดลูก d. จะชวยลดความเสี่ยงของการเกิด มะเร็งเตานม e. จะชวยลดความเสี่ยงของการเกิด มะเร็งปากมดลูก 102.ตอมาเนื่องจากผูปวยลืมรับประทานยาบอยๆ แพทยจึงตองการทราบขอมูลเกี่ยวกับยาแผน แปะ (transdermal patch) วามีขอดีที่เหนือกวา การรับประทานอยางไร a. การใหยาแบบแผนแปะจะไมมี first pass metabolism ที่ตับ b. การใหยาแบบแผนแปะจะมีผลการดูด ซึมที่ดีกวาแบบรับประทาน c. การใหยาแบบแผนแปะจะมี ผลการรักษาอาการรอนวูบวาบได ดีกวา
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review d. การใหยาแบบแผนแปะจะมี ผลการรักษาชองคลอดแหงไดดีกวา e. การใหยาแบบแผนแปะจะมี ผลการรักษา osteoperosis ดีกวา 103.สําหรับผูปวยที่ตัดมดลูก ควรใชฮอรโมน ทดแทนแบบใด a. estradiol valerate 2 mg + norgestrel 0.5 mg b. medroxyprogesterone acetate 5 mg c. ethimylestradiol 30 mcg + cypoterone acetate 2 mg d. conjugated estrogen 0.625 mg e. conjugated estrogen 0.625 mg + medroxyprogesterone 5 mg 104.ขอใดเปนอาการไมพึงประสงคที่รายแรงของยา ที่เลือกใชในขอ103 a. Hyperlipidemia b. Osteoperosis c. Hyperbilirubinemia d. Congestive heart failure e. Thromboembolism 105.ตัวยาที่มีความเปนไปไดที่จะนํามาพัฒนาให เปน Transdermal มีคุณสมบัติตอไปนี้ ยกเวน a. เปนตัวยาที่มีความแรงสูง b. สามารถดูดซึมผานทางผิวหนังได c. เปนตัวยาที่มีคาครึ่งชีวิตสั้น d. เปนตัวยาที่มีคา partition coefficient ใกลเคียงกับ 1 e. เปนตัวยาที่มี therapeutic index ต่ํา 106.สมุนไพรหรือผลิตภัณฑธรรมชาติตัวใดที่ แนะนําใหหญิงที่อยูในภาวะหมดประจําเดือนใช เพื่อบรรเทาอาการที่เกิดจากภาวะหมด ประจําเดือน a. วานชักมดลูก b. ถั่วเหลือง c. บอระเพ็ด d. มะเขือเทศ e. ขมิ้นชัน
Pharmacy Student Rx’24
216
MCQ 107.จากรูปแสดง spectrum ของ phytoestrogen ชนิดหนึ่ง
ใชวิธีใดในการวิเคราะหสารดังกลาว a. UV-visible spectrophotometer b. 1H-NMR spectrometer c. 13C-NMR spectrometer d. FT-IR spectro e. Mass spectrometer 108.สตรีวัยหมดประจําเดือนไดรับใบสั่งยาจาก แพทยมา 5 รายการ ขอใดเปนยาแผนปจจุบัน บรรจุเสร็จซึ่งมิใชยาอันตรายหรือยาควบคุม พิเศษ a. B1-6-12 tablet b. Doxycyclin capsule c. Senna tablet d. Antacid gel e. Premarin 0.625 mg 109.สตรีวัยหมดประจําเดือนมาขอซื้อยาบรรเทา อาการปวดเขา สามารถจายยารับประทานชนิด ใดแกผูปวยรายนี้ a. Ibuprofen 400 mg b. Dexamethasone 0.5 mg c. Indomethazin 25 mg d. Piroxicam 10 mg e. Celebrex 200 mg 110.ยาบรรเทาอาการปวดในสตรีวัยหมด ประจําเดือนขอใด ไมสามารถจายแกผูปวยได แมมีใบสั่งแพทยก็ตาม a. Diazepam 10 mg b. Diclofenac inj 75 mg c. Methadone tab 10 mg d. Pentazocine tab 25 mg e. Voltaren SR tab 100 mg
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สถานการณที่ 12 หญิงอายุ 22 ป มาที่รานยาเนื่องจาก ผื่นขึ้นบริเวณใบหนาหลังจากไปวายน้ําที่ชายหาดพัทยา ผูปวยใชยาทาแกผื่นคันซึ่งมีอยูที่บานมา 2 วัน แตอาการ ยังไมดีขึ้นจึงมาขอคําปรึกษาจากเภสัชกร จากการ สัมภาษณพบวานอกจากอาการดังกลาวแลว พบวา นอกจากอาการดังกลาวแลว ผูปวยมีอาการขอติด และ ปวดบวมบริเวณขอมือ ออนเพลีย และมีไข ในฐานะเภสัช กรทานไดพิจารณาแลวคาดวานาจะเปน Systemic Lupus Erythematosus (SLE) ซึ่งเปนโรคซึ่งควรสงตอ จึงแนะนําและสงตอผูปวยไปยังโรงพยาบาล 111.ขอมูลซึ่งเภสัชกรรานยาควรถามเพื่อให คําแนะนําเพราะอาจเปนตัวกระตุนการเกิด SLE ยกเวนขอใด a. ประวัติการสูบบุหรี่เพราะสาร hydrazine ในบุหรี่กระตุนอาการ Lupus ได b. การใช sunscreen SPF 15 ขึ้นไป กอนออกแดด c. ประวัติความเจ็บปวยดวยโรคติดเชื้อ ในอดีต d. ประวัติการใชยาเพราะยาบางตัว เชน hydralazine chorpropamide หรือยา ในกลุม anticonvulsant สามารถ กระตุนการเกิด lupus ได e. ประวัติการไดรับเลือดในอดีต 112.ผูปวยมีผื่นขึ้นผิวหนาตองการใช topical steroid จะเลือก topical steroid ที่อยูในยาขี้ผึ้ง พื้นชนิดใดที่เหนอะหนะนอยที่สุด a. Hydrocarbon base b. Oleaginous base c. Absorption base d. O/W emulsion base e. W/O emulsion base 113.Topical steroid ควรมีการไหลเปนแบบใดจึงจะ เหมาะสมกับยา a. Psuedoplastic flow b. Psuedoplastic flow with thixotropy c. Dilantant flow with thixotropy d. Antithixotropy
Pharmacy Student Rx’24
217
MCQ e. Newtonium flow ตอมาผูปวยไดรับการวินิจฉัยวาเปน SLE จากแพทยที่ โรงพยาบาลและไดรับยา hydroxychloroquin 200 mg 114.ผูปวยรายนี้ควรไดรับการตรวจในขอใดกอน ไดรับยา a. Ocular examination b. Chest x-ray c. Liver function test d. Urinalysis e. EKG จากการสัมภาษณเพิ่มเติมพบวา เมื่อสองวันกอนผูปวย ไดไปซื้อยา aspirin บรรเทาอาการปวดบวมที่ขอมือ 115.หากเภสัชกรทําการประเมินผลความคงตัวของ ยา aspirin tab จากหลายบริษัท โดยวัดความ เขมขนคงเหลือของ aspirin ที่เวลาตางๆ และ ไดผลการทดลองดังนี้ Product A Product B Product C Aspirin tab ของบริษัทใดที่มีความคงตัวดีที่สุด a. Product A b. Product B c. Product C d. ทั้งสามมีความคงตัวเทาๆ กัน e. ไมสามารถประเมินไดจากขอมูล ดังกลาว 116.คาคงที่อัตราเร็วการเสื่อมสลาย (rate constant, K) ของ aspirin tab นี้สามารถคํานวณไดจาก a. ความชันของกราฟ (slope) b. สวนกลับของความชันของกราฟ (slope) c. Intercept ของกราฟ d. สวนกลับของ Intercept ของกราฟ e. ผลบวกของ Intercept และ slope ของกราฟ
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 117.ขอสรุปใดที่ไดจากกราฟการสลายตัวของ aspirin tab a. คาครึ่งชีวิต (half life) ของการ สลายตัวของ aspirin b. อายุบนหิ้ง (shelf life) ของการ สลายตัวของ aspirin c. ….ของการสลายตัวของ aspirin มี คาคงที่ d. ….ของการสลายตัวของ aspirin ขึ้นกับความเขมขนของตัวยา e. …การสลายตัวของ aspirinเปน first order rxn 118.หากผูปวยอาการไมดีขึ้น แพทยเปลี่ยนเปนยา steroid และcytotoxic drug สอบถามประวัติ ผูปวยพบวาผูปวยติดเชื้อTBและเคยไดรับยา Isoniazid, Rifampin, Pyrazinamide, Ethambutol ยาในขอใดที่สามารถกระตุน SLE ได a. Isoniazid b. Rifampin c. Pyrazinamide d. Ethambutol e. Pyrazinamide รวมกับ Ethambutol 119.แพทยสั่งจาย Prednisolone แตโรงพยาบาลมี ยา Dexamethasone เทานั้นในฐานะเภสัชกร ควรทําอยางไร a. ใหยา Dexamethasone แทนได เพราะยาทั้งสองตัวเปน steroid ประเภท short acting steroid เหมือนกัน b. ใหยา Dexamethasone แทนได เพราะยาทั้งสองตัวเปน steroid ประเภท long acting steroid เหมือนกัน c. ตองคํานวณ equivalent dose ของยา ทั้งสองตัวกอนทําการเปลี่ยนยา เนื่องจากยาทั้งสองตัวมี Potency ตางกัน
Pharmacy Student Rx’24
MCQ
218
d. ไมสามารถใหยาแทนกันไดเพราะ Prednisolone เปน glucocorticoid แต dexamethasone เปน mineralocorticoid e. ไมสามารถใหยาแทนกันไดและควร แจงใหแพทยทราบ 120.เกี่ยวกับ amcinonide และ prednisolone ขอใด ผิด
amcinonide
a. b. c. d. e.
prednisolone ทั้งสองมีโครงสรางหลักเปน Pregnane Amcinonide มี antiinflamatory activity มากกวา prednisolone Amcinonide มี lipophilicity มากกวา prednisolone Amcinonide มี salt และ water retention มากกวา prednisolone โครงสรางของ Amcinonide ซึ่งมี 9-F และ 11-OH ทําให amcinonide มี glucocorticoid activity สูงกวา prednisolone
สถานการณที่ 13 ผูปวยชาย อายุ 45 ป มีอาการ ปวด บวมแดง ที่ขอนิ้วหัวแมเทาขางซาย มานาน 1 วัน ตองการซื้อยาแกปวด paracetamol จากการซัก ประวัติเพิ่มเติมพบวาเมื่อวานผูปวยรับประทาน หนอไมและเครื่องในสัตว และมีอาการในตอนเชา
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 121.จากขอมูลขางตนทานคิดวาผูปวยรายนี้นาจะ เปนโรคใด a. Rheumatoid arthritis b. Osteoarthritis c. Osteoporosis d. Acute gout e. Osteomalacia 122.ใหยาใดในการรักษา a. Paracetamol b. Probenacid c. Colchicine d. Tramadol e. Allopurinol 123.สมุนไพรที่มีสารสกัดที่รักษาอาการขางตน คือ a. ไพล b. ขา c. ดองดึง d. ยอ e. ขมิ้น 124.เมื่อผูปวยหายจากอาการปวด บวมแดง ทานจะ ใหยาตัวใดในการปองกันการกลับมาเปนซ้ํา a. Prednisolone b. Indomethacin c. Allopurinol d. Paracetamol e. Tramadol 125.ยากลุมใดที่ไมสามารถนํามาใชรักษาอาการของ ผูปวยรายนี้ได a. Corticosteroid b. Xanthine oxidase inhibitor c. Uricosuric agent d. NSAID e. Para-aminophenol derivatives 126.ผูปวยมาพรอมใยสั่งยาซึ่งเขียนวา Rx Diclofenac 25 mg # 30 Sig: 2 tab p.o. tid pc ผูปวยนํายาที่ไดรับไปตรวจวิเคราะหที่กรม วิทยาศาสตร พบวามี % labeled amount
Pharmacy Student Rx’24
219
MCQ เทากับรอยละ 60 ตองจัดยานี้เปนยาประเภทใด ตาม พรบ. ยา พ.ศ. 2510 a. ยาปลอม b. ยาสิ้นอายุ c. ยาเลื่อมคุณภาพ d. ยาผิดมาตรฐาน e. ยาต่ํากวามาตรฐาน 127.ควรเตรียมยาในรูปแบบใด a. Uncoated tablet b. Enteric coated tablet c. Efervessant tablet d. Filmed coated tablet e. Sugar coated tablet 128.เหตุผลที่ตองเตรียมยาในรูปแบบขางตน (enteric coated tab) คือ a. เพื่อใหยาออกฤทธิ์ไดรวดเร็ว b. เพื่อใหกลบกลิ่นและรสที่ไมดีของยา c. เพื่อปองกันการเสื่อมสลายของตัวยา d. เพื่อลดอาการขางเคียงของยา e. เพื่อใหยาออกฤทธิ์ไดยาวนานและ ตอเนื่อง 129.ยาในขอใดที่เภสัชกรสามารถจายไดเมื่อไดรับ ใบสั่งยาจากแพทยเทานั้น a. Celecoxib b. Tramadol c. Meloxicam d. Prednisolone e. Indomethacine 130.ถาเภสัชกรจายยาขางตนโดยไมมีใบสั่งแพทย จะมีความผิดในขอใด a. จายยาควบคุมพิเศษโดยไมมีใบสั่งยา b. จายยาอันตรายโดยไมมีใบสั่งยา c. จายยาประเภทวัตถุออกฤทธิ์ตอจิต ประสาทโดยไมมีใบสั่งยา d. จายยาประเภทยาเสพติดใหโทษ ประเภท 2 โดยไมมีใบสั่งยา e. จายยาประเภทยาเสพติดใหโทษ ประเภท 3 โดยไมมีใบสั่งยา
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สถานการณที่ 14 ผูปวยหญิงอายุ 19 ป มาพบแพทย ดวยอาการ ปวด แสบ คันตาเฉพาะขางขวาและคัน ตลอดเวลา มีเปลือกตาบวม มีขี้ตามากเฉพาะเวลาตื่น นอนและขี้ตามีสีเหลือง และตาขางขวานั้นมีสีแดงเมื่อ เทียบกับตาอีกขาง 131.อาการที่เกิดขึ้นนาจะเกิดจากเชื้อใดมากที่สุด a. Staphylococcus aureus b. Staphylococcus epidermidis c. Streptococcus pnuemoniae d. Neisseria gonorrheae e. Chlamydia tracamatis 132.จากขอมูลขางตนทานคิดวาแพทยควรจายยา ตัวใดใหแกผปู วยรายนี้ a. Dexamethazone eye drop b. Oxymethazoline eye drop c. Idoxuridine eye drop 133.กลการออกฤทธิ์ของยาในขอขางตน คือ a. ยับยั้งการสังเคราะห DNA ของเชื้อ b. ยับยั้งการสรางโปรตีนของเชื้อ c. ยับยั้งการสังเคราะห RNA ของเชื้อ d. ยับยั้งการเคลื่อนที่ของ leucocytes e. ยับยั้งการสราง cell wall 134.ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการเก็บยาในขอขางตน หลังจากเปดใชแลในแง... สามารถเก็บได a. อุณหภูมิ 25c เก็บได 6-8 week b. อุณหภูมิ 25c เก็บได 3-4 week c. อุณหภูมิ 2-8c เก็บได 6-8 week d. อุณหภูมิ 2-8c เก็บได 3-4 week e. อุณหภูมิ 8-15c เก็บได 3-4 week 135.จากโครงสรางที่กําหนดใหยานี้ละลายน้ําได คอนขางนอยสามารถดัดแปลงโครงสรางให ละลายน้ําไดมากขึ้นโดยการเตรียมในรูปแบบ ของ C-3 hemisuccinoyl ester ซึ่งจะสามารถ ทําใหอยูในรูปของ เกลือโซเดียม และละลายน้ํา ได ในกรณีที่ตองการเตรียมยาตาซึ่งมีปญหา เรื่องความคงตัวและความสามารถในการ ละลายจะสามารถใชสารในรูป ester นี้ได หรือไม เพราะเหตุใด C-3 hemisuccinoyl ester
Pharmacy Student Rx’24
220
MCQ a. ไมไดเพราะยารูปนี้ไมคงตัว b. ไมไดเพราะยารูปนี้ไมสามารถออก ฤทธิ์ที่ตา c. ไมไดเพราะยารูปนี้ไมละลายในตัวทํา ละลายของยาตา d. ไดเพราะยาในรูปนี้ละลายน้ําไดดีและ มีความคงตัวดี e. ไดถึงแมวาความคงตัวไมดีขึ้นเพราะ ยาอยูในรูปที่ละลายน้ําไดดี 136.แพทยตองการใหเภสัชกรเตรียมยาตา 2% ของ ยา A ปริมาตร 180 ml ใหได isotonicity เภสัช กรตองใชความเขมขนของเกลือแกงเทาใด (Freezing point ของน้ําตา = -0.52 o c, freezing point ของ A 1% = -0.12 o c, freezing point ของเกลือแกง = -0.58 o c) a. 0.28% b. 0.38% c. 0.48% d. 0.58% e. 0.68% 137.ยา A เปนกรดออนที่ละลายน้ํายากและสลายตัว โดยปฏิกิริยา hydrolysis เทคนิคใดตอไปนี้ไม ชวยเพิ่มการละลายและความคงตัวของยา A a. ใช complexing agent b. ปรับ pH ใหนอยกวา pKa c. ทําใหยาเปนรูปเกลือของกรดออน d. ใช cosolvent e. ทําใหอยูในรูป lyophilized powder 138.เมื่อเตรียมยาตา A ไดแลวพบวายาที่ไดมีความ หนืดต่ํา ควรเลือกใชสารเพิ่มความหนืดในขอใด ตอไปนี้ กอนนําไปทําการปราศจากเชื้อดวย วิธีการกรอง a. สารในกลุม clay b. สารในกลุม polysaccharide c. สารในกลุม cellulose d. สารในกลุม hydrated silicate e. สารในกลุม colloidal silicone dioxide 139.อานไมออก
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 140.ยาหยอดตาชนิดหนึ่งฉลากแจงวามีปริมาณ สารสําคัญ polymycin B sulfate 10,000 units/ml วันหมดอายุ คือ 12 เม.ย. 2548 แต เมื่อตรวจวิเคราะหพบวามีปริมาณเพียง 8,500 units/ml ยาดังกลาวจัดเปนยาประเภทใด a. ยาปลอม b. ยาแปรสภาพ c. ยาผิดมาตรฐาน d. ยาเสื่อมคุณภาพ e. ยาเทียม สถานการณที่ 15 ผูปวยอายุ 25 ป มีผื่นแดงคัน ขอบเขตไมมี เปนมัน (greasy scale) ปกคลุมที่บริเวณ nasolabial folds คิ้ว หนังศีรษะ คลายกับรังแค เปนมา นาน 10 ปโดยเปนๆ หายๆ รักษาดวยยาตานเชื้อราแลว อาการไมดีขึ้น ไมมีสัมผัสสารที่กอใหเกิดอาการระคาย เคืองหรือการรักษาแบบ psoriasis จึงมาปรึกษาเภสัชกร 141.ทานคิดวาผูปวยรายนี้นาจะปวยเปนโรคใด a. Contact dermatitis b. Psoriasis c. Saborrheic dermatitis d. Dandruff e. Tinea vesicolor 142.ยาใดไมสามารถใชรักษาภาวะดังกลาวได a. Selenium sulfide shampoo b. Tar shampoo c. Salicylic acid d. Topical steroid e. Ketoconazole shampoo 143.กรณีที่เภสัชกรเลือกจายยา topical steroids สําหรับผื่นในผูปวยรายนี้ ขอใดเปนการ เรียงลําดับความแรงของ topical steroids จาก ความแรงนอยที่สุดไปมากที่สุดไดอยางถูกตอง a. 0.1% betamethasone valerate < 0.05% betamethasone dipropionate < 0.05% clobetasone propionate b. 0.05% clobetasone propionate < 0.1% betamethasone valerate <
Pharmacy Student Rx’24
221
MCQ 0.05% betamethasone dipropionate c. 0.05% betamethasone dipropionate < 0.05% clobetasone propionate < 0.1% betamethasone valerate d. 0.1% betamethasone valerate < 0.1% triamcinolone acetonide < 0.05% clobetasone propionate e. 0.05% clobetasone propionate < 0.1% betamethasone valerate < 0.1% triamcinolone acetonide 144.ขอใดผิด a. Ketoconazole shampoo ไมควรใช ในเด็ฏอายุต่ํากวา 12 ป b. Dandruff สามารถรักษาไดดวย Topical corticosteroid c. Sulfur ออกฤทธิ์เปน keratolytic agent d. ผลขางเคียงของ coal tar คือ photosensitivity e. Selenium sulfide ชวยลด hyperproliferation ของ cell 145.ointment each g contains: Betamethasone 0.5 mg and salicylic acid 30 mg in a paraben – freez ointment base of white petroleum and mineral oil ทานคิดวา ointment base ของยาชนิดนี้ตามที่ระบุไวเปน แบบใด a. water soluble ointment base b. oleaginous ointment base c. emulsion ointment base d. absorption ointment base e. acidic ointment base
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 146.จากตํารับยาในขางตน ขอใดกลาวถูกตอง เกี่ยวกับ salicylic acid a. เปนตัวยาสําคัญในการออกฤทธิ์ทําให ผิวหนังชุมชื้น b. เปนตัวยาสําคัญในการออกฤทธิ์ลด การอักเสบ โดยลดเอนไซม phospholipase A2 c. เปนตัวยาสําคัญในการออกฤทธิ์เปน Keratolytic agent d. เปนสารชวยทางเภสัชกรรม โดยทํา หนาที่เปน antioxidant e. เปนสารชวยทางเภสัชกรรม โดยทํา หนาที่เปน emulsifying agent 147. จากขอมูลและโครมาโตแกรมของยา Ketoconazole ทานคิดวาผูวิเคราะหใชเทคนิค ใด a. Gas chromatography b. UV/visible spectrophotometer c. IR spectroscopy d. High performance liquid chromatography e. High performance thin layer chromatography 148.แพทยสั่งจายยาสระผมชนิดหนึ่ง มีลักษณะเปน ขวดพลาสติกสีน้ําตาล ทานพบวาที่ฉลากมี ขอความ Reg. no. 2C802/45 ขอความนี้มี ความหมายวาอยางไร a. ยานี้ผลิตในประเทศไทย ไดรับ อนุญาตทะเบียนยาในป พ.ศ.2545 b. ยานี้ผลิตในประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2545 c. ยานี้ผลิตในประเทศไทยและจะ หมดอายุในวันที่ 8 ก.พ. 2545 d. ยานี้นําเขามาจากตางประเทศ ไดรับ อนุญาตทะเบียนยาในป พ.ศ.2545 e. ยานี้นําเขามาจากตางประเทศและ ผลิตเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2545
Pharmacy Student Rx’24
222
MCQ 149.ยาที่ฉลากมีขอความดังขอขางตน (Reg. no. 2C802/45) อาจมี ชนิดตัวยาสําคัญที่ออกฤทธิ์ ดังตอไปนี้ยกเวนขอใด a. 1 ชนิด b. 2 ชนิด c. 3 ชนิด d. 4 ชนิด e. 5 ชนิด 150.ยาที่ใชในโรคผิวหนังของชายผูนี้ รายการใดที่ ผูปวยไมสามารถเรียกซื้อไดจากเภสัชกรหาก ไมมีใบสั่งยาจากแพทย a. Coal tar shampoo b. Dexamethasone cream c. Betamethasone + salicylic ointment d. Hydroxyzine tablet 25 mg e. Methotrexate tab 2.5 mg
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ขอสอบใบประกอบ 1/2549 (วันที่ 2) สถานการณที่ 1 ผูปวย อายุ 44 ป มาดวยอาการ ปสสาวะขัดแสบ มีไข แพยา penicillin 1. จงเลือกใชยาใหเหมาะสมกับผูปวยรายนี้ ก. Norfloxacin ข. Ciprofloxacin ค. Erytromycin ง. Chloramphenical จ. Amoxycillin 2. ยาใดตอไปนี้ เหมาะสมในการใชรักษาผูปวย อายุ 10 ป มีประวัติ แพยา penicillin ( anaphylaxis ) ก. Erytromycin ข. Levofloxacin ค. Azithromycin ง. Chloramphenical จ. Amoxycillin 3. ยาในขอใดเปนยาที่มีประสิทธิภาพ และควรเลือกใช เปน ก. Tetracyclin ข. Dicloxacillin ค. Erytromycin ง. Cotrimazole จ. Amoxycillin 4. ขอใดคือขอเสียของการใชยา griseofulvin ตอบ ผิวหนังไวแสง 5. หากทานตองออกแบบทางคลีนิก เพื่อทดสอบ ประสิทธิภาพ โรคติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปสสาวะ การทดลองดังกลาวควรมีรูปแบบใด ก. ควรเปนการทดสอบแบบสุมและขามสลับ ( randomized cross) ลักษณะนี้สามารถควบคุมความ แปรผันทางชีวภาพของอาสาสมัคร ข. ควรเปนการทดลองแบบสุมและคูขนาน ( randomized parallel) ของโรค เปนโรคเฉียบพลัน อาจ ไมสามารถขามสลับได ค. ควรเปนการทดสอบโคฮอท ( cohort study design) เนื่องจากตัวอยางและสามารถทดลองใน ประชากรกลุมใหญได ง. ควรเปนการทดลองแบบเปดขางเดียว( single binded design ) เปนที่ครบถวนเกี่ยวกับการรักษาที่คน
Pharmacy Student Rx’24
223
MCQ ไดรับและการปกปดผูทําการทดลองเพียงพอสําหรับการ วิจัยในหัวขอนี้ 6. ผูปวยมาปรึกษาทานวามีญาติแนะนํา ใหใชสมุนไพร ขับปสสาวะ ยาดังกลาวทําจากสมุนไพร 5 ชนิด นํามาบด ผสมกินเชาเย็น ตามพรบ.ยา พ.ศ. 2510 ก. ยาสุมนไพร ข. ยาสามัญประจําบาน ค. ยาแผนโบราณ ง. ยาปลอม จ. ยาแผนไทย ในขณะเดียวกันผูปวยไดนํายาที่ญาติผูปวยไดรับมา ยา ดังกลาวเปนยาน้ําแขวนตะกอน 7. ยาที่ไดรับดังกลาวมีลักษณะเปน flocculation ขอใด แสดงลักษณะของยาแขวนตะกอน ก. อัตราการตกตะกอนเกิดขึ้นอยางชา ข. ความสูงของตะกอนมีความสูงมาก ค. หากเขยาขวดอีกครั้งยาจะสามารถกลับมาเปน เหมือนเดิม 8. เภสัชกรทานหนึ่งทําการทดสอบคุณภาพยาน้ําแขวน ตะกอนและคํานวณคาsedimentation ratio ไดเทากับ 0.60 ขอใดกลาวถูกตอง ก. sedimentation ratio เปนคาที่ใชบอกระดับการเกิด ข. sedimentation ratio ไดจากการคํานวณอัตราสวน ของตะกอนระยะเวลาหนึ่งและปริมาตรตะกอนเริ่มตน ค. ผลการประเมินในเบื้องตน พบวาเปนตํารับที่ยอม ง. ตํารับที่มีคา sedimentation ratio สูงกวานี้มี แนวโนม 9. แพทยสั่งจายยา Cloxacillin sodium for oral solution sig. 1 tsp. qid ac & hs ขอใดไมถูกตอง ก. เปนตํารับแบบใชไดทันที ( ready to use) ข. ตํารับประกอบดวยตัวยาและสารปรุงแตงเพิ่ม ค. รับประทานครั้งละ 1 ชอนชา วันละ 4 ครั้ง กอน นอน ง. เปนตํารับที่โดยทั่วไป ที่ตัวยามักเสื่อมได จ. เปนตํารับที่โดยทั่วไปที่เก็บหลังผสมได
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สถานการณที่ 2 แมของเด็กชายอายุ 12 ป มาขอซื้อยา ไปใหลูก โดยมีอาการซีดมาได 3 วันแลว 11. แมของเด็กใหขอมูลเพิ่มเติมวา ลูกไมเคยมีอาการ แบบนี้มากอน กินแตเนื้อสัตว ไมชอบกินผัก ชอบกินยา เม็ดวิตามินซี และไมไดกินอาหาร มีอาการปวดฟน ไปที่ คลินิกทันตกรรมแหงหนึ่ง และไดรับยา Aspirin อุจจาระสี ปกติ แตปสสาวะสีคล้ําเปนสีน้ําตาล ก. จายยา folic acid ข. จายยา vitamin B 12 ค. จายยา ferrous gluconate ง. แนะนําใหพาผูปวยไปโรงพยาบาลทันที จ. จายยา ferrous sulfate และ folic acid 12. ในกรณีหากพอเด็กตัดสินใจนําผูปวยไปตรวจที่รพ. พบวาเปน G6PD อาการซีดในผูปวย ก. aplastic anemia ข. hemolytic anemia ค. pernicious anemia ง. chronic renal failure จ. iron deficiency failure 13. ขอใดควรใชในการรักษาผูปวยรายนี้ในโรงพยาบาล ก. platelet ข. folic acid ค. vitamin B12 ง. ferrous sulfate จ. packed red cell 14. ปจจัยใดที่นาจะเปนสาเหตุทําใหเกิดอาการซีดใน คนไข ก. aspirin ข. Vit. c ค. amoxy ง. Amitryptyline จ. กินแตเนื้อสัตว ไมชอบกินผัก 15 -18 ไมมี 19. เมื่อเด็กชายคนนี้โตขึ้นและจะแตงงาน ก. แตงงานกันไดแตไมควรมีลูก เพราะ ข. แตงงานกันได และหากตั้งครรภเปนลูกชายใหทํา แทง แตถาเปนหญิงไมเปนไร ค. แตงงานกันได และหากตั้งครรภเปนลูกผูหญิงให
Pharmacy Student Rx’24
224
MCQ ทําแทง แตถาชายเปนไมเปนไร ง. ทุกคนเปนโรคนี้ได ไมวาชายหรือหญิง จ. แตงไมได จะทําใหไมมีคณ ุ ภาพชีวิตมีความทุกขไป ตลอดชีวิต เปนการทําบาป 20. ตอมาผูปวยไดรับยาชนิดหนึ่งจากรานยา แตคราวนี้ ผูปวยมีอาการรุนแรงจนถึงแกชีวิต เภสัชกรไมไดถาม ขอมูลการแพยาและโรคประจําตัวของผูปว ย เภสัชกรมี ความผิดอยางไร ก. ผิดจรรยาบรรณแหงวิชาชีพ ข. ผิดกฎหมายยา ค. ละเมิดสิทธิ์ของผูปวย ง. ผิดขอบังคับสภาวาดวยขอจํากัดและเงื่อนไขการ ปฏิบัติหนาที่ จ. ไมทําตามประกาศเรื่องการเลือกสรร สถานการณที่ 3 สุดารัตน เปนเภสัชกรประจํารานยา แผนปจจุบันแหงหนึ่ง ปญหาที่พบในรานก็คือ ตองการ เก็บผลิตภัณฑเขาบนชั้น โดยแยกกันระหวางผลิตภัณฑ เสริมอาหารและยา พบวามีผลิตภัณฑบางชนิดที่ไม สามารถแยกไดวาเปนอาหารหรือเปนยา 21. ทานคิดวาผลิตภัณฑชนิดใดที่กอใหเกิดปญหานี้ ก. Ginkgo , มี Tanakan เปนยาชวยเพิ่มการ ไหลเวียนของเลือด ข. chitosan ค. hydroxyl citric acid ง. medium chain triglyceride oil จ. conjugated linoleic acid 22. ถาทานเปนสุดารัตน ทานจะใชเกณฑขอใดในการ จําแนกผลิตภัณฑ ก. ราคา ข. ขอบงใช ค. dosage form ง. ขนาดที่ใช จ. เลขสารบบอาหาร 13 หลัก 23. ชวงสายมีหญิงคนหนึ่งเขามาในราน เพื่อขอซื้อยาลด น้ําหนัก สูง 145 ซม. และมีน้ําหนัก 61 กก. จะมีคาดัชนี เทาใด (BMI) ก. 26 ข. 27 ค. 28 ง. 29 จ. 30
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 24. หญิงสาวดังกลาว นําตัวอยางยาซึ่งบรรจุในซองยาที่ มีไปพบแพทยที่โรงพยาบาล เพื่อปรึกษาเรื่องยาลด น้ําหนัก Phentermine โดยบอกวาเมื่อเธอรับประทาน ยาดังกลาวแลวมีอาการขางเคียง ทานคิดวาอาการ ขางเคียงดังกลาวคือ ก. ปวดแสบกระเพาะ ข. นอนไมหลับ หัวใจเตนเร็ว ค. ซึมเศรา เหงาหงอย ง. ปวดกลามเนื้อ จ. ความดันเลือดต่ํา 25. เภสัชกรสามารถจายยา phentermine ไดหรือไม เพราะเหตุใด ก. ได ถามีใบสั่งแพทย เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ ข. ได ถามีใบสั่งจากแพทย เพราะเปนยาเสพติดให โทษประเภทที่ 2 ค. ถึงแมจะมีใบสั่งแพทย ก็จายไมได เนื่องจากเปน วัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาทประเภท2 26. กลไกการออกฤทธิ์ของ phentermine คือ 1. ออกฤทธิ์กระตุนตอระบบประสาทสวนกลาง 2. ยับยั้งการทํางานของเอนไซมไลเปส 3. เพิ่มการเผาผลาญของไขมันสวนเกิน 4. เพิ่มอัตราการเกิด thermogenesis 27. ขอหามใชสําหรับ phentermine คือ 28. หญิงสาวคนหนึ่งมีคนแนะนําใหลองใชผลิตภัณฑ เสริมอาหารชนิดหนึ่งโดยบอกวาจะชวยลดนน.ได ซึ่งเธอ นําผลิตภัณฑเสริมอาหารชนิดนี้ไปถามเภสัชกร ทานคิด วาผลิตภัณฑเสริมอาหารดังกลาวคืออะไร ก. conjugated linoleic acid ข. chitosan ค. hydroxyl citric acid ง. Catechin 29. ผลิตภัณฑเสริมอาหารในขอใดมีคุณสมบัติคลาย dietary fiber ก. chitosan ข. evening primrose oil ค. collagen ง. conjugated linoleic acid จ. Lecitin ฝายวิจัยและพัฒนาของโรงงานยาแหงหนึ่ง ไดรับ
Pharmacy Student Rx’24
225
MCQ มอบหมายใหพัฒนาสูตรตํารับ tablet ขนาดรับประทาน 37.5 mg ดานกรรมวิธีการทําแกรนูลแบบสูตรตํารับที่ พัฒนาโดยประกอบดวยสารชวยตางๆดังนี้ Tapioca starch, confectionness sugar 8% PVP in 50% ethanol , magnesium stearate, colloidal silicon dioxide,flavors and colors อาศัย ขอมูลขางตนตอบคําถามตอไปนี้ 30. สารชวยตัวใด ที่ควรมีปริมาณมากที่สุดในสูตรตํารับ ก. Tapioca starch ข. Confectionness sugar ค. Sodium starch glycolate ง. magnesium stearate จ. colloidal silicon dioxide สถานการณที่ 4 ผูปวยหญิงไทยคูอายุ 28 ป มาพบ เภสัชกรที่รานยาเพื่อซื่อยารักษาสิว 31. ขอใดสัมพันธกับการเกิดสิวนอยที่สุด ก. พันธุกรรม ข. ยาsteroid ค. ฮอรโมนเพศไมสมดุล ง. ภาวะเครียด จ. อาหารประเภทไขมันสูง 32.ขอใดผิดเกี่ยวกับวิธีการรักษาสิว ก. การลดการทํางานของตอมไขมัน ข. สิวอักเสบและสิวไมอักเสบ มีวิธีการรักษาแตกตาง กัน ค. การรักษาสิวที่ดีตองเริ่มดวย systemic antibiotic เทานั้น ง. มีฮอรโมนบางชนิดใชรักษาสิวได จ. การใช antibiotic รักษาสิวตองใชติดตอกันเปน ระยะยาว 33-38 ไมมี 39. ขอใดผิดเกี่ยวกับ Isotretinoin ก. เปนอนุพันธุของ Vitamin A ที่ดูดซึมดีในทางเดิน อาหาร ข. จัดเปน Drug of choice สําหรับการรักษาสิว ค. ใชไดกับสิวที่ไมตอบสนองตอการรักษาดวยวิธีอื่น ง. หามใชในคนไขที่ตั้งครรภ จ. ทําใหระดับ serum triglyceride สูงขึ้น
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 40. ยาครีม Isotretinoin 0.05% จัดเปนยาประเภทใดตาม พรบ.ยา ก. ยาใชภายนอกที่ไมใชยาอันตราย ข. ยาใชภายนอกและยาอันตราย ค. ยาใชภายนอกและยาควบคุมพิเศษ ง. ยาใชเฉพาะที่และยาอันตราย จ. ยาใชเฉพาะที่และยาควบคุมพิเศษ สถานการณที่ 5 นายสมยศอายุ 57 ป มีประวัติ stable angina เมื่อ 2 ป แพทยใหยาตัวหนึ่ง ตั้งแต พ.ศ. 2542 มีประวัติทองผูกบอยครั้ง ผูปวยไดรับการวินิจฉัยวาเปน Acute myocardial infraction (AMI) Atenolol 50 mg PO OD Ramipril 10 mg PO OD Aspirin (ASA) 51 mg PO OD Clopidogrel 75 mg PO OD SL Isosorbide dinitrate (ISDN) 5 mg Prn เจ็บอก วันนี้ผูปวยมาพบแพทยตามนัดและออกกําลังกาย มาแลว 6 เดือน เปนดังนี้ TC 250 mg/dl TG 245 mg/dl 41. ขอแนะนําใดตอไปนี้เหมาะสมที่สุดสําหรับผูปวยราย นี้ ก. เริ่มการรักษาโดยใช Simvastation 20 mg ทุก เย็น และ flollow up ข. ผูปวยมีปจจัยเสี่ยงเพียง 1 ปจจัย ดังนั้นควรใช การควบคุมอาหาร รักษาตอไป ค. เริ่มการรักษาโดยใช Niacin 1gm BID และ follow up ในอีก 6 เดือน ง. เริ่มการรักษาโดยใช Cholestyramine 4 gm BID จ. เริ่มการรักษาโดยใช Gentibozil 600 mg BID 42. ความเสี่ยงของการเกิดภาวะกลามเนื้ออักเสบและ กลามเนื้อละลาย (Rhabdo) จากการใชยากลุม statin จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อใชรวมกับยาชนิดใด ก. genfibrozil ง. propanolol ข. Niacin จ. enalapril ค. cholertyramine . 43. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับของอาการไมพึงประสงค ก. Atenolol ภาวะการหอบหืด ข. Ramipril ภาวะ hypokalemia
Pharmacy Student Rx’24
226
MCQ ค. Cholestyramine กลามเนื้อออนแรง ง. Gentibrosil ตามัว (blurred vision) จ. Isosorbide mononitrate ปวดศรีษะ 44. กลไกการออกฤทธิ์ของ Atenolol (ยากลุม β- block) ก. เพิ่ม heart rate ลดแรงบีบตัวของหัวใจทําให cardiac output เพิ่มขึ้น ข. ลด heart rate ลดแรงบีบตัวของหัวใจทําให cardiac output เพิ่มขึ้น ค. ลด heart rate ลดแรงบีบตัวของหัวใจทําให cardiac output ลดลง ง. กระตุนการหลั่ง rennin ที่ไต จ. ทําใหเกิด negative feedback และ compensatory outflow จากระบบประสาทสวนกลาง 45. ทานจะแนะนําการใช Sublingual isosorbide dinitrete แกผูปว ย ก. รับประทานยาแลวดื่มน้ําตามมากๆ เวลามีอาการ ข. เคี้ยวยานี้ใหละเอียดกอนกลืนเวลามีอาการ ค. เมื่อลืมรับประทานยา ใหรับประทานยาเพิ่มเปน 2 เม็ดได ง. เมื่อมีอาการอมยาไวใตลิ้นจนกวายาจะละลายหมด โดยพยายามไมกลืนน้ําลาย จ. เมื่อมีอาการอมยาไวปากระหวางเหงือกและ กระพุงแกมจนยาละลายหมด ไมกลืนน้ําลาย 46. กรณีที่แพทยสั่งใหใช isosorbide mononitrate 20 mg. จะเขียนคําแนะนําในการใชยาอยางไร จึงจะ เหมาะสมที่สุด ก. รับประทานวันละ 2 ครัง้ เชา-เย็น ข. รับประทานวันละ 2 ครั้ง เชา-บาย (3 โมง) ค. รับประทานวันละ 2 ครัง้ เชา-กอนนอน ง. อมใตลิ้น วันละ 2 ครั้ง เชา-เย็น จ. อมใตลิ้น วันละ 2 ครั้ง เชา-บาย (3 โมง) 47. ขอใดตอไปนี้ถูกตองเกี่ยวกับยาที่ผูปวยไดรับ ก. Atenolol ไมควรใชเพื่อปองกันการเกิด AMI ใน อนาคตเนื่องจาก intrinsic sympathomimetic activity ข. Ramipril นี้ชวยไปลดหรือปองกันการดําเนินของ โรค heart failure ของ stroke องผูปวยได ค. Clopidogrel จัดเปนยาในกลุม Platelet glycoprotein I receptor antagonist
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ง. การใช ASA รวมกับ Clopidogrel ตองมีการ ติดตามคา PT/ID อยางสม่ําเสมอ จ. ISDN ลด Myocardial oxygen demand เนื่องจาก ลด HR และ BP 48. เภสัชกรที่มีหนาที่คัดเลือกยาที่ดีใหแกโรงพยาบาล เรื่องราคายาออก ทานจะกําหนดคุณลักษณะของยา โดยมี Enalapril ที่ใชเปนเกณฑในการคัดเลือกยา ยกเวน ก. กําหนดคา dissolution ข. กําหนดสีของยาเม็ด ค. กําหนดปริมาณ Active ingredient ง. กําหนดขีดจํากัด (limit) ของ Enalaprilat จ. กําหนดขีดจําหัด (limit) ของ piperazine diketone 49. มีปจจัยอะไรที่ไมมีผลตอการออกฤทธิ์ในดาน onset และ duration ของยา ก. Volatility ของยา ข. route of administration ของยา ค. metabolisum ของยา ง. Structure ของยา (ชนิดของ oxide ของ nitrogen จ. ปริมาณ alcohol ที่มีในยา 50. กลุม Angiotensin-converting enzyme (ACE) inhibitor ตัวหนึ่งมีปญหา pH ในกระเพาะอาหาร และมีการดูดซึมไมดีที่ลําไสเล็ก ทานควรจะพัฒนา อยางไรใหมีประสิทธิภาพในการรักษาดีที่สุด ก. Soft elastic capsule ข. Enteric coating tublet ค. Plastic natrices tablet ง. Gastric floating tublet จ. Methods unit tablet สถานการณที่ 6 ผูปวยชายอายุ 20 ป มาพบแพทยดวย อาการหวัด มีน้ํามูกใส คัดจมูก คันจมูก จาม ซึง่ เปนมา ประมาณ 5 วัน 51. จากอาการดังกลาว อยากทราบวาผูปวยรายนี้นาจะ เปนโรคอะไร ก. Sinusitis ข. Allergic rhinitis ค. Cystitis ง. Common cold จ. Bronchitis
Pharmacy Student Rx’24
227
MCQ 52. หลังการตรวจวินิจฉัย แพทยไดสั่งจายยารวม 4 รายการ เมื่อผูปวยไปรับยาที่หองยาพบวามียาหมดคือ Pseudoephredrine ขนาด 60 มิลลิกรัม เภสัชกรจึงได เขียนใบรับรองยาหมดให โดยบอกวายานี้ไมมีจําหนาย ในรานยา ขอใหผูปวยมารับยาที่โรงพยาบาลในภายหลัง อยากทราบวาทําไมยานี้จึงไมมจี ําหนายในรานยา ก. เนื่องจากจัดเปนยาควบคุมพิเศษ ข. เนื่องจากจัดเปนยาที่ลงทะเบียนแบบมีเงื่อนไข ตองติดตามการใชในโรงพยาบาล ค. เนื่องจากจัดเปนยาเสพติดใหโทษ ประเภท 2 ง. เนื่องจากจัดเปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตประสาท จ. เนื่องจากจัดเปนยาอันตราย 53. เนื่องจากผูปวยมีอาการคัดแนนจมูกมาก เภสัชกร หองยาจึงติดตอปรึกษาแพทยเพื่อหายาอื่นทดแทน แพทยไดสั่งยา ephedrine มาให จากสูตรโครงสราง ของ ephedrine อยากทราบวามีความแตกตางจาก Pseudoephedrine อยางไร
ก. ตางกันเฉพาะตําแหนงที่ 1,2 ข. ตางกันเฉพาะตําแหนงที่ 1,3 ค. ตางกันเฉพาะตําแหนงที่ 2,3 ง. ตางกันเฉพาะตําแหนงที่ 2,4 จ. ตางกันเฉพาะตําแหนงที่ 3,4 54. ในใบสั่งยาที่แพทยเขียนมาทดแทนคือ ephedrine 0.5 1 drop bid แนะนําอยางไรจึงจะถูกตองสมบูรณ ก. ใหรับประทานครั้งละ 1 หยด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหาร เชา ข. ใหรับประทานครั้งละ 1 หยด วันละ 2 ครั้ง กอน อาหารเชา-เย็น ค. ใหหยอดยาทางจมูก ครั้งละ 1 หยด วันละ 2 ครั้ง เชาเย็น ง. ใหหยอดยาทางจมูกทั้ง 2 ขาง ครั้งละ 1 หยด วันละ 2 ครั้ง เชา-เย็น
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 55. ในระหวางจายยา เภสัชกรไดใหคําแนะนําแกผูปวย เกี่ยวกับการใชยาวาไมควรใชยาติดตอกันนานเกิน 7 วัน อยากทราบวาเพราะเหตุใด ก. เพื่อปองกันปญหาการดื้อยา ข. เพื่อปองกันการเกิด hypertension ค. เพื่อปองกันการเกิด hyperglycemia ง. เพื่อปองกันการเกิด rebound congestion จ. เพื่อไมใหเกิดปญหา insomnia 56. สารใดตอไปนี้ไมพบในตํารับยาหยอดจมูก ก. Preservative ข. Coloring agent ค. Buffering agent ง. Antioxidant จ. Toxicity adjusting agent 57. ตามใบสั่งแพทยสั่งจายยา ephedrine 0.5% แตใน หองยามี ephedrine 1.0% ทานจะเตรียมยาอยางไรใหได ตามใบสั่งแพทย ก. นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml ml เจือจางดวยน้ํา 2.5 ml ข. นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวย NSS จนครบ 5 ml ค. นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวย acetate buffer 2.5 ml ง. นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวยน้ําจน ครบ 5 ml จ. นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวย NSS 5 ml 58. ตอมาผูปวยเริ่มมีอาการไอแหงๆ จึงไปซื้อยาที่ราน ขายยา อยากทราบวา ยาใดซื้อไดในรานยาแผน ปจจุบัน (ขย. 1) ก. ยาแกไอน้ําดําองคการเภสัช ขนาด 60 ml ข. ยาแกไอน้ําดํา องคการเภสัช ขนาด 120 ml ค. Cofeed ® (Diphenhydramine and ammonium chloride ง. Terco-D ® (Dextromethrophan and terpin hydrate) จ. Godlpect ® (Codeine phosphate and glyceryl guaicolate
Pharmacy Student Rx’24
228
MCQ 59. หลังจากไดรับยาแกไอแลว ผูปวยไดสอบถามเภสัช กรวาสามารถใชสมุนไพรตัวใดเพื่อลดอาการไอได บาง ทานจะแนะนําใหใชสมุนไพรขอใด ก. ฟาทะลายโจร ข. ไพล ค. ขิง ง. ชุมเห็ดเทศ จ. เสลดพังพอน 60. สมุนไพรแกไอตัวอื่นนอกจากสมุนไพรขอขางตน ก. ขา ข. ตะไคร ค. ดีปลี ง. กระเทียม จ. กระเพรา สถานการณที่ 7 ผูปวยชายอายุ 30 ป มาขอคําปรึกษา จากเภสัชกรโดยเลาวาประมาณ 2 สัปดาหที่ผานมา มี อาการอึดอัด ปวดแสบยอดอกในชวงกลางวัน ตอมา 2-3 วันมีอาการในตอนกลางคืนดวย เมื่อมีอาการดังกลาว หลังอาหารหรือถาปวดมากจะกินยาลดกรดเพื่อบรรเทา อาการ สุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงดีไมเคยมีอาการแบบนี้ มากอน ปกติดื่มสุราบางเมื่อมีงานสังสรรคครั้งละ ประมาณ 2-3 ขวด นอกจากดื่มสุราแลว สูบบุหรี่วันละ ซอง มีอุปนิสัยนอนดึกและตื่นสาย การซักประวัติ เพิ่มเติม พบวาผูปวยมีความเครียดจากการทํางาน กิน อาหารไมตรงเวลา อาหารที่กินสวนใหญไดแก ผักและ ผลไม ทานซึ่งเปนเภสัชกรคาดวาผูปวยจะเปนโรค กระเพาะ 61. ขอใดตอไปนี้ ถูกตอง เกี่ยวกับการรับประทานยาลด กรดเพื่อรักษาโรคกระเพาะ ก. ยาชนิดเม็ดสวนใหญตองกลืนยาทั้งเม็ด หามเคี้ยว ข. ยาอาจทําใหทองเสีย เพราะมีตัวยาสําคัญคือ Aluminium hydroxide ค. ในผูปวยที่เปนโรคไตรวมดวย ควรใหยาลดกรดที่ มี Magnesium เปนองคประกอบ ง. ควรรับประทานยากอนอาหาร 1 ชม. และกอน นอนเพื่อใหยามีฤทธิ์อยูไดนาน จ. ในผูปวยที่มีอาการรุนแรง
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 62. หากพิจารณาตามกฎหมาย ยาใดที่ผูปวยสามารถซื้อ ไดดวยตนเอง ก. ยาลดกรดชนิดน้ําทุกชนิดที่ไมมี.............. ข. ยาสมุนไพรเปลานอย ขนาดบรรจุ 10 เม็ด ค. ยาเม็ดอะลูมินา-แมกนีเซียม ขนาดบรรจุ 20 เม็ด ง. ยา Cimetidine 200 mg ขนาดบรรจุ 10 เม็ด จ. ยาโปรตามีน ขนาดบรรจุ 100 เม็ด .63. ผูปวยไดรับยาลดกรดชนิดน้ําแขวนตะกอน ลักษณะ ใดที่บงชี้ถึงความไมคงตัว ก. ผงยาสามารถแขวนตะกอนอีกดวยแรงเขยาปาน กลาง ข. ผงยาแขวนตะกอนอยูไดในสารละลายโดยไมตอง ออกแรงเขยา ค. ผงยามีขนาดโตขึ้นภายหลังจากเก็บไวเมื่อเวลา ผานไประยะหนึง่ ง. ผงยาจับกันอยางหลวมๆ ไมอัดตัวกันแนนที่กน ภาชนะ จ. ผงยาไมเกิดการเปลี่ยนแปลงการละลายเมื่อเวลา ผานไป 64. ระบบยาแขวนตะกอนควรจะมีลักษณะการไหล (rheology) อยางไร ก. มีความหนืดไมเปลี่ยนแปลงเมื่อออกแรงเขยาหรือ เมื่อตั้งทิ้งไว ข. มีความหนืดลดลงเมื่อออกแรงเขยาและความหนืด ลดลงเมื่อตั้งทิ้งไว ค. มีความหนืดเพิ่มขึ้นเมื่อออกแรงเขยาและความ หนืดเพิ่มขึ้นเมื่อตั้งทิ้งไว ง. มีความหนืดลดลงเมื่อออกแรงเขยาและความหนืด เพิ่มขึ้นเมื่อตั้งทิ้งไว จ. มีความหนืดเพิ่มขึ้นเมื่อออกแรงเขยาและความ หนืดลดลงเมื่อตั้งทิ้งไว 65. ถายาน้ําแขวนตะกอนมีอัตราเร็วในการตกตะกอน (Sedimentation rate) สูง ควรแกไขอยางไร ก. เติมผงยาเพิ่มขึ้น ข. ใชผงยาที่มีขนาดอนุภาคใหญขึ้น ค. เติมแอลกอฮอลเพื่อเพิ่มการละลายของผงยา ง. เติมสารเพิ่มความหนืด เชน methylcellulose จ. เติมสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) เพื่อใหผงยาจับ ตัว
Pharmacy Student Rx’24
229
MCQ การวิเคราะห Aluminum hydroxide gel ตาม USP 26 โดยละลาย Aluminum hydroxide ดวย HCl หลังจาก ปรับปริมาตรจนไดตามที่ตองการแลวจะเติมสารละลาย 0.05 M disodium ethylendiamine (diNaEDTA) ปริมาณมากเกินพอใหความรอน 5 นาที จากนั้นเติม Alcohol และสารละลาย dithis….. TS ทําการไตเตรท ดวยสารละลาย 0.05 M Zn SO4 กจากขอมูลขางตนจง ตอบคําถาม 66. การวิเคราะหนี้เปนการไตเตรทแบบใด ก. redox แบบ direct titration ข. acid-base แบบ back titration ค. Precipitation แบบ back titration ง. Complexation แบบ back titration จ. Diazotization แบบ direct titration 67. อานไมออก 68. ผูปวยไมตองการกินยาลดกรดอีกตอไป อยากให เภสัชกรแนะนํายารักษาโรคกระเพาะ เภสัชกรแนะนํา H2-blocker ขอใดถูกตองสําหรับการใชยากลุมนี้ ก. โดยทั่วไประยะเวลาที่ใชรักษาคือ 8-12 wk. ข. ระยะเวลาที่ใชรักษา duodenal ulcer ยาวกวา gastric ulcer ค. ยากลุมนี้สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ H. pytori ได ง. สามารถใหผูปวยรับประทานยากลุมนี้ครั้งเดียว กอนนอนได จ. ยาที่เปน prototype ของกลุมนี้เกิดปฏิกิริยากับยา อื่นนอย เภสัชกรไดพิจารณาแนะนํายาจากสมุนไพร เชน แคปซูลขมิ้นชัน เพื่อใชรักษาโรคกระเพาะ อาหารของผูปวย สารสําคัญของขมิ้นชันที่ออกฤทธิ์ ในการกระตุนการหลั่งเยื่อเมือกออกมาเคลือบ กระเพาะอาหาร ไดแก 69. สารสําคัญของขมิ้นชันที่ออกฤทธิ์ในการกระตุนการ หลั่ง ก. Lupeol ข. Curcumin ค. Stignasterol ง. andrographolide จ. hydroxyanthracens
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 70. สําหรับแคปซูลขมิ้นชันไดถูกคัดเลือกใหบรรจุใน บัญชียาหลัก ก. ยาแผนไทย ข. ยาแผนโบราณ ค. ยาตํารับตามตํารายาไทย ง. ยาจากสมุนไพรที่มีการพัฒนา จ. ยาจากสมุนไพรที่มีการใชองคความรูแบบดั้งเดิม สถานการณที่ 8 หญิงไทยเดี่ยวอายุ 29 ป มาที่รานขาย ยาดวยอาการปวดศีรษะแบบตุบๆ มีอาการปวด 1-2 ครั้ง ตอเดือน เปนมา 3-4 เดือนแลว กอนที่จะมีอาการปวด ศีรษะจะมีอาการเห็นแสงระยิบระยับนํามากอน อาการ ปวดศีรษะจะเปนขางเดียวและมักจะมีอาการคลื่นไส อาเจียนรวมดวย อาการปวดศีรษะจะลดลงถาไดนอน หลับ ในหองที่เงียบและมืด 71.ผูปวยมีอาการปวดศีรษะแบบนี้ แสดงวาเปนโรคใด ก. T ข. C ค. Migraine ง. T จ. M 72.ผูปวยรายนี้ควรไดรับยาชนิดใดเปนขนานแรก ในการ รักษาอาการปวด ก. Methylergotamine ข. Sunatriptane ค. Amitriptyhline ง. Naproxen จ. Verapamil ตอมาผูปวยไดกลับมาหาทานเนื่องจากอาการปวดเพิ่ม มากขึ้น จึงจาย ergotamine และ Caffeine 100 mg ใหแกผูปวย. 73. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับยาที่ผูปวยไดรับในครั้งนี้ ก. ขนาดเริ่มตนคือ 1-2 เม็ด รับประทานเมื่อมีอาการ ข. รับประทานยาซ้ําไดเมื่ออาการไมดีขึ้นภายใน 30 นาที ค. ถามีอาการชาที่ปลายมือปลายเทาใหหยุดยา ง. ไมควรรับประทานยาเกิน 6 เม็ด ตอวัน 74. Ergothamine จัดเปนสารสําคัญกลุมใด ก. Alkaloids
Pharmacy Student Rx’24
230
MCQ ข. Flavonoids ค. Phenolics ง. Tannins จ. Terpenoids 75. ในเดือนถัดมาผูปวยมีอาการปวดศีรษะและกินยา ergotamine พรอมทั้งมีอาการหวัด เจ็บคอ จึงไดซื้อ ยาปฏิชีวนะ erythomycin จากรานยา หลังกินยา ผูปวยมีอาการคลื่นไส อาเจียน และชาตามปลายมือ ปลายเทา ทานคิดวาปฏิกิริยาระหวางยาที่เกิดขึ้น เกิดจากกระบวนการใด ก. Absorption . ข. Distribution . ค. Biotransformation 76. วิธีการใดที่นิยมใชในการวิเคราะหระดับยาในเลือด ของยา ergotamine ก. HPLC ข. Ultra-Violet spectophotometry ค. Potentiometry ง. fluorometry จ. Polamography 77. ผูปวยรายเดิมกลับมาหาทานอีกและบอกวามีอาการ ปวดศีรษะบอยขึ้น เพิ่งเปลี่ยน งานใหมและงาน คอนขางยุง ขอใดเปนการประเมินวาผูปวยควรไดยา เพื่อการปองกัน ก.ผูปวยปวดศีรษะมากกวา 2-3 ครั้ง/เดือน ข. อาการปวดศีรษะคอนขางรุนแรง ค. ผูปวยมีอาการปวดนาน 12 ชม. และอายุที่เปน ครั้งแรกมากกวา 55 ป ง. ผูปวยทนตออาการไมพึงประสงคของยาบรรเทา การปวดศีรษะไมได จ. ระยะเวลาที่จะมีอาการปวดศีรษะสามารถ คาดการณลวงหนาได 78. ยาในขอใดที่นาจะเหมาะสมและใชไดผลดีในการ ปองกันอาการปวดศีรษะในผูปวยรายนี้ ก. Indomethacin ข. Ergotamine ค. Sumatriptan ง. Propranolol จ. Verapamil
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 79. การใชยาปองกันอาการปวดศีรษะของผูปวยรายนี้ ควรไดรับ ก. อยางนอย 6 เดือน หลังจากการปวดศีรษะครั้ง สุดทาย ข. อยางนอย 6 เดือน หลังจากความถี่และอาการ ปวดศีรษะลดลว ค. กินยาตอไปจนกวาผูปวยจะทนอาการไมพึง ประสงคไมได ง. กินยาเดือนเวนเดือน จนกวาจะไมมีอาการ จ. กินไดตลอดไป 80. ยาในขอใด ไมควร ใชปองกันอาการปวดศีรษะใน ผูปวยที่มีอาการ ก. Amitriptyline ข. Fluoxetine ค. Propranolol ง. Ketotifen สถานการณที่ 9 ผูปวยหญิงไทยคูอายุ 58 ป มี BMI = 28 kg/m2 มาพบแพทย เนื่องจากมีปสสาวะบอย เจ็บ หนาอก น้ําหนักลด ออนเพลีย แพทยวินิจฉัยวาผูปวย เปนหัวใจขาดเลือด มาวันนี้ผูปวยมาพบแพทยตามนัด และแพทยไดจายยาเพื่อรักษา (1) glibenclamide tablet (5) 1x2 AC (2) metformin tablet (500) 1x3 AC (3) Isoserbide mononitrate tablet (20) 1x2 AC (4) Aspirin tablet (300) 1x1 PC 81. จากขอมูลดังกลาว อาการใดตอไปนี้ของคนไขไมใช อาการ DM ก. หิวน้ําบอย ข. ปสสาวะบอย ค. เจ็บหนาอก ง. น้ําหนักลด จ. ออนเพลีย 82.ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับคําแนะนําของยาที่ ผูปวยไดรับ ก. ยา glibenclamide ควรรับประทานกอนอาหาร ประมาณ 30 นาที ข. ยา aspirin ควรรับประทานหลังอาหารทันที ค. อาการไมพึงประสงคของยาที่อาจพบสําหรับยา glibenclamide คือ weight gain
Pharmacy Student Rx’24
231
MCQ ง. อาการไมพึงประสงคของยา metforin ไดแก … จ. ไมควรดื่ม alcohol รวมกับยา glibenclamine 83. กรณีที่ผูปวยรายนี้ไมสามารถใชยา Metforminได และเปน glaucoma ควรใชยาใดแทน Metformin ก. glucoside ข. rosiglitazone ค. Chlorpropamide 84. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของ glibenclamide ก. กระตุนการหลั่ง glucagon ข. กระตุนการหลั่ง Insulin จากตับออน ค. ลดการทําลาย Insulin ที่ตับ ง. กระตุนการหลั่ง somatostatin 85. ขอใดเปนผลที่อาจเกิดขึ้นไดจากการใชยา Glibenstermine เปนระยะเวลานาน ก. desensitization of sulfonylureas receptor ข. up-regulation of sulfonylureas receptor ค. down-regulation of sulfonylureas receptor ง. hyperinsulinemia จ. increase insulin sensitivity 86. ผูปวยมาขอคําแนะนําในการทานใบแปะกวยรวม ดวย อยากทราบวา ใบแปะกวยจะมีผลกับยาที่ไดรับ จากโรงพยาบาลหรือไม ก. มีผลโดยเสริมฤทธิ์ยับยั้งการแข็งตัวของเกร็ดเลือด ของ aspirin ข. มีผลโดยเสริมฤทธิ์ลดน้ําตาลในเลือดของ metformin ค. มีผลโดยลดประสิทธิภาพการจับของยา isosorbide mononitrate ง. มีผลโดยลดประสิทธิภาพการลดน้ําตาลในเลือด ของ glibenclamide จ. ไมมี อันตรกิริยากับยาที่ไดรับจากโรงพยาบาล 87. เมื่อนํายาเม็ดจํานวน 10 เม็ด มาทําการควบคุม คุณภาพ ในหัวขอ uniformity น้ําหนักเฉลี่ยของเม็ด ยาเทากับ 125 mg. คา S (Sample standard deviation) RSD (relative standard deviation) จะ เทากับเทาไร ก. 2% ข. 3% ค. 4% ง. 5% จ. 6%
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 88. ถาสีของยาเม็ด aspirin มีลักษณะดาง เรียกการเกิด ความไมสม่ําเสมอของสีนี้วา ก. faking ข. paling ค. picking ง. mottling จ. capping 89. ถาตองการเปดรานขายยาใน อ.สองพระยา จ. อางทอง จะตองติดตอหนวยงานใด ก. สภาเภสัชกรรม ข. สํานักงานสาธารณสุขอําเภอ ค. สํานักงานสาธารณสุขจังหวัด ง. สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา 90. จากโครงสรางของยา glibenclamide เพราะเหตุใด
ก. สามารถหมุนแสง polarized ได ข. สามารถวิเคราะหไดโดยใชวิธี HPLC-UV detection ค. หมูซัลโฟนทําใหโครงสรางมีความเปนกรด ง. หมูยูเรียทําใหโครงสรางมีความเปนเบส จ. วงแหวนอะโรมาติกดานปลาย ซึ่งมีหมูคลอโรในเม ตาบอไลซโดยกระบวนการออกซิเดชันไมได สถานการณที่10 สตรีรายหนึ่งเพิ่งเริ่มรับประทานยา คุมกําเนิดประกอบดวย Ethinyl estradiol 30 µg + Levonorgestrel 0.15 mg เปนวิธีแรก โดยรับประทาน เม็ดแรกของแผง ในวันที่ 5 ของรอบเดือน เมื่อเวลา 18.00 น. หลังอาหารเย็น ตอมาสตรีรายนี้หยุด รับประทานยาคุมกําเนิดเพื่อตองการตั้งครรภ เมื่อคลอด บุตรได 2 สัปดาห ไดปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับการ คุมกําเนิดตอไปอีก เพราะตองการเวนระยะการมีบุตร 3 ป ขณะนี้กําลังใหนมบุตร 91. ยาคุมกําเนิดรับประทานขณะใหนมบุตร คือ ก. Lynestrenol ข. Levonorgestrel ค. Ethinyl estradiol + Levonorgestrel ง. Ethinyl estradiol + Desogestrol
Pharmacy Student Rx’24
232
MCQ จ. Ethinyl estradiol + Gestodene 92. ตอมาสตรีรายนี้ไดเปลี่ยนวิธีการคุมกําเนิดเปนให สามีใชถุงยางอนามัยและการคุมกําเนิดฉุกเฉินเพราะ ถุงยางอนามัยขาด การซักประวัติเพิ่มเติมไดขอมูล ดังนี้ มีเพศสัมพันธเมื่อ 3 วันที่ผานมา มีประจําเดือน เมื่อ 2 สัปดาหที่ผานมา รอบเดือน 30 + 2 วัน ไม เคยใชวิธีการคุมกําเนิดฉุกเฉินมากอน คําแนะนํา การจายยารับประทานยาคุมกําเนิดฉุกเฉิน ในขอใด เหมาะสม ก. ไมจําเปนตองคุมกําเนิดฉุกเฉิน เพราะชวงเวลาที่มี เพศสัมพันธนั้นอยูในระยะปลอดภัย ข. ใหรอทดสอบการตั้งครรภ เพราะเลยระยะเวลาที่ ยาคุมกําเนิดฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพ ค. Ethinyl estradiol 2.5 mg วันละ 2 ครั้งเปนเวลา 3 วัน ง. Levonorgestrel 0.75 mg 2 ครั้งหางกันไมเกิน 12 ชม. จ. ยาคุมที่มี Ethinyl estradiol 50 µg + Levonorgestrel 0.25 mg2 ครั้งหางกันไมเกิน 12 ชม. 93. พัฒนาสูตรโครงสรางของ Levonorgestrel ที่ ตําแหนง 17 โดยการทําปฏิกิริยา จะมีเภสัช จลนศาสตรอยางไร ก. ไมถูกดูดซึมในทางเดินอาหาร ข. ถูกทําลายในทางเดินอาหารเร็วมาก ค. คาครึ่งชีวิตสั้นลง ง. ออกฤทธิ์ไดนานขึ้น จ. ถูกขับในรูปไมเปลี่ยนแปลง การควบคุมคุณภาพ Levonorgestrel 0.75 mg โดยนํายา 20 เม็ด ละลายดวยตัวทําละลาย กรองแลว นํามาวิเคราะหปริมาณดวยเทคนิด HPLC Levonorgestrel ความเขมขน 0.15 mcg/ml ไดผล การทดลองดังตาราง 1 2 3 avarag s e d standar 12500 12400 12450 124500 5 d 0 0 0 sample 12800 12850 12750 12800 5 0 0 0
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 94. คา Labeled amount ของ Levonorgestrel มีคา เทาใด ก. 98.8 ข. 99.8 ค. 100.8 ง. 101.8 จ. 102.8 95. ในการควบคุมมาตรฐานวัตถุดิบหัวขอใด แสดงถึง ความสามารถในการออกฤทธิ์ของ Levonorgestrel ก. Identification ดวยเครื่อง IR spectorphotometry ข. Specific rotation ค. Related substance ง. UV analysis จ. Loss on drying 96. โดยปกติแลวยาคุมกําเนิดมักจะมีขนาดที่ใช dose ต่ําที่สุด ขอใดตอไปนี้ถูกตอง ก. ใชวิธี wet granulation ข. ใชวิธี dry granulation ค. ใชวิธี direct compression ง. ใชวิธี wet หรือ dry granulation จ. ใชวิธี wet granulation หรือ direct compression 97. ใชยาคุมที่มี Ethinyl estradiol ไมมปี ญหาในการ เกิดปฏิกิริยาระหวางยา กรณีใดบาง ก. ในผูปวยวัณโรคที่ใช rifampin อยางตอเนื่อง ข. ในผูปวยที่ไดรับยา corticosteroid เปนเวลาหลาย เดือน ค. ในผูปวยที่ไดรับยา barbiturate อยางตอเนื่อง ง. ในผูปวยที่ใชยา phenyltoin ปองกันการชัก จ. ในผูปวยที่ไดรับยา aspirin อยางตอเนื่อง 98. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับ Ethinyl estradiol + Levonorgestrel ก. Ethinyl estradiol เปนยาในกลุม estrogen ข. Levonorgestrel เปนยาในกลุม progestins ค. การให Ethinyl estradiol 0.03 mg + Levonorgestrel 0.15 mg ในทุกเม็ดของการใหแบบ biphasic combination โดยมียา 2 ชนิดในแผง ง. Levonorgestrel อาจใชเปนยาเดี่ยวสําหรับการ คุมกําเนิดโดยไมตองใชรวมกับ Ethinyl estradiol จ. Levonorgestrel เปน isomer หนึ่งของ Norgestrel
Pharmacy Student Rx’24
233
MCQ 99. ขอใดผิดเกี่ยวกับยาคุมกําเนิด 2 ชนิดนี้ - Lynestrenol - Norethindrone ก. Lynestrenol เปนยาในกลุม estrogen ข. Norethindrone เปนยาในกลุม progestins ค. Norethindrone เปนผล androgenic effect เพราะ มีโครงสรางคลายกับ Testosterone ง. Lynestrenol มีผล androgenic effect ต่ํากวา Norethindrone จ. กลุม C=CH ในโครงสรางยาทั้ง 2 ชนิดนี้จะ ขัดขวางการเกิด oxidation ของกลุม OH ไปเปน ketone 100.ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ยารับประทานคุมกําเนิด จัดอยูในขอใด ก. ยาที่จายตามใบสั่งแพทยเทานั้น ข. ยาที่จายไดโดยเภสัชกร ค. ยาที่จายไดในรานยาแผนปจจุบันบรรจุเสร็จ ง. ยาประเภท over the counter จ. ยาควบคุมพิเศษ สถานการณที่ 11 ผูปวยหญิงอายุ 27 ป มาพบ เภสัชกรที่รานยาดวยอาการปวดบิดเปนพัก ๆ ที่บริเวณ ทองนอยและมีประจําเดือนเปนวันแรก ผูปวยบอกวา มักจะมีอาการปวดกอนมีประจําเดือนไมกี่ชั่วโมง และ เปนอยูตลอด 2-3 วันแรกของประจําเดือน เภสัชกรจึง จายยา paracetamol และ Ibuprofen อยางละ 20 เม็ด โดยถาปวดไมมาก ใหรับประทาน Paracet ครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง แตถาปวดมากใหรับประทาน Ibuprofen ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร วันละ 3 เวลา 101. ขัอใดตอไปนี้ไมใชลักษณะอาการของ Primary dysmenorrhea ก. เริ่มมีอาการปวดทองเมื่ออายุ 27 ป ข. ปวดบิดเปนพัก ๆ ที่บริเวณทองนอย ค. ปวดทองกอนมีประจําเดือนไมกี่ชม. ง. ปวดทองตลอดชวง 2-3 วันแรกของการมี ประจําเดือน จ. อาการปวดทองดีขึ้นเมื่อรับประทานยา paracet หรือ Ibuprofen
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 102. เภสัชกรไมควรใหคําแนะนําขอใดแกผูปวยรายนี้ ก. ประคบบริเวณทองนอยดวยถุงน้ํารอนอาจชวย บรรเทาและอาการปวดทอง ข. ควรนอนพักผอนมาก ๆ ระหวางมีประจําเดือน ค. ควรรับประทานยา Ibuprofen หลังอาหารทันที ง. ควรรอใหมีอาการปวดทองกอนถึงรับประทานยา Ibuprofen จ. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลระหวาง รับประทานยา Ibuprofen 103. ยา Ibuprofen ออกฤทธิ์ยับยั้งการสรางสารใดใน รางกายซึ่งมีผลระงับอาการปวดได ก. Serotonin ข. Prostaglandin ค. Cycloxygenase ง. Leukotriene จ. thromboxane 104. หากผูปวยรายนี้รับประทานยา Ibuprofen แลว ประมาณ 1 ชม. ยังมีอาการปวด จะแนะนํายาชนิดใดเพื่อ เสริมฤทธิ์แกปวดทอง ก. mefenamic acid ข. hyoscine-n-butylbomide ค. estradiol+ levonorgertrel ง. orphenadine จ. tolperisone 105. ยาใดที่ไมสามารถใชรักษาอาการปวดประจําเดือน ก. aspirine ข. colcicine ค. naproxen ง. celecoxib จ. mefenamic acid 106. โครงสรางใดเปน major metabolite ของ paracetamol
ตอบ
Pharmacy Student Rx’24
234
MCQ
107. ระหวางที่มีอาการปวดประจําเดือน ผูปวยควร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสวนประกอบ ก. ขมิ้นชัน ข. ชาเขียว ค. ลูกเดือย ง. กวาวเครือ จ. มะขามแขก 108. ขอใดกลาวถึงยาชนิดเม็ดเคลือบฟลม Ibuprofen ไดัถูกตอง ก. มีน้ําหนักหลังเคลือบฟลมขึ้น 2 เทา ข. รูปรางคงเดิมหลังเคลือบ ค. เคลือบเพื่อใหมีผลตอการปลดปลอยยา ง. เคลือบไดเฉพาะฟลมใส ไมมีสี 109. ถาทานพบวายาเม็ด Paracet มีการแยกตัว ออกเปนชั้น แกปญหาดังกลาวอยางไร ก. ใหใช punch ที่มีความโคงมาก (deep concave punch ) ข. ใหใช die ที่มีชองดานบนใหญกวาดานลาง ค. ลดความเร็วในการตอกลง ง. เติมสารพวก hygroscopic ลงไปเพื่อไมใชแกร นูลชื้นเกิน จ. อาจเพิ่มปริมาณสารยึดเกาะเพื่อใหแกรนูลจับกัน ไดดี 110. ผูปวยสงสัยวายา Ibuprofen ที่ซื้อจากรานยาเปน ยาปลอมจึงนํามาใหเภสัชกรดู เมื่อตรวจสอบแลวพบวา ยาดังกลาวไมจัดเปนยาปลอม ดังนั้นยาตองมีขอมูลที่เปน ความจริงดังตอไปนี้ ยกเวนขอใด ก. ชื่อยา ข. สารออกฤทธิ์ ค. ที่ตั้งสถานที่ผลิตยา ง. วันเดือนปที่ยาสิ้นอายุ จ. เลขที่ทะเบียนโฆษณายา สถานการณที่ 12 นางสํารวย พาบุตรสาววัย 8 เดือน ชื่อ ด.ญ. สาย มาพบทานซึ่งเปนเภสัชกรที่รานยาแหง หนึ่งดวยอาการไข ไอ น้ํามูลไหล และทานอาหารไมคอย ไดมาเปนเวลา 1 วันแลว ทานจึงจาย para syrup ยาแก ไอ และ amoxicillin dry powder 3 วันตอมา นางสํารวย พา ด.ญ. สาย มาพบทานอีก โดยอาการไขของ ด.ญ.สาย
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ลดลง แตมีผื่นขึ้นที่หนาและลําตัว โดยนางสํารวยเลาวา เปนผื่นขึ้นที่หลังแลวลามมาที่ลําตัว ขณะนี้เริ่มเห็นผื่น ลามมาที่แขนและขาเล็กนอย ลักษณะผื่นเปนจุดกลมสี แดง บางจุดราบ บางจุดมีนูนเล็กนอย 111. ทานคิดวา คําถามขอใดจําเปนนอยที่สุดที่จะใช ประกอบการประเมินผูปวย ก. สอบถามประวัติการแพยา ข. สอบถามโรคประจําตัว ค. สอบถามประวัติการไดรับวัคซีน ง. สอบถามการไดสัมผัสกับสัตวปกที่มีชีวิต จ. สอบถามเกี่ยวกับผูใกลชิดที่มีอาการผื่นแดง จากการสอบถามขางตน สมมุติวาทานไดถามทุกขอ โดย นางสํารวยตอบวา ด.ญ.สาย ไมเคยไดรับวัคซีนใดมา กอน เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ด.ญ. สาย ไมมี โรคประจําตัว ตนเองตองทํางานนอกบานจึงไมไดสังเกต วาบุตรไปสัมผัสสัตวปกหรือไม มีอาการผื่นเมื่อเชานี้ 112. ทานคิดวา ด.ญ. สาย นาจะเปนโรค/อาการอะไร ก. หวัดนก ข. หัด ค. อีสุกอีไส ง. โรคภูมิคุมกันบกพรอง จ. โรคภูมิแพ 113. ทานไดแนะนํานางสํารวยใหพา ด.ญ. สายไปรับ วัคซีนตามโปรแกรมสรางภูมิคุมกันของกระทรวง สาธารณสุข การรับวัคซีนตามโปรแกรมสรางเสริม ภูมิคุมกันในศูนยบริการสาธารณสุขนั้น ก. ไมเสียคาใชจาย ในสถานพยาบาลอื่นมีคาใชจาย หากผูปกครองไมนําบุตรไปรับวัคซีนตาม โปรแกรมถือวามีความผิดตามกฏหมาย ข. ไมเสียคาใชจาย ในสถานพยาบาลอื่นมีคาใชจาย หากผูปกครองไมนําบุตรไปรับวัคซีนตาม โปรแกรมถือวาไมมีความผิดตามกฏหมาย หลังจากไดขอมูลจากทาน นางสํารวยตัดสินใจวา จะ พา ด.ญ. สาย ไปรับวัคซีนตามโปรแกรมสรางเสริม ภูมิคุมกัน หลังจากอาการของ ด.ญ. สาย กลับสู ปกติ เมื่อ ด.ญ. สาย 9 เดือน และมีสุขภาพแข็งแรง ดี นางสํารวยพา ด.ญ. สาย ไปรับวัคซีนตาม โปรแกรมของเด็กวัย 9 เดือน ไดแก DTP และ MMR หลังจากฉีดวัคซีนได 1 วัน ด.ญ.สาย มีอาการ
Pharmacy Student Rx’24
235
MCQ ไขสูงและรองไหบอย นางสํารวยพามาพบทานที่ราน ยา 114. ทานคิดวาจะแกปญหานี้ไดอยางไรใหเกิดผลดีที่สุด ก. ไมตองตกใจ เปนอาการขางเคียงของวัคซีน ข. จายยาลดไข ถาไขไมลด ใหมาที่รานยาอีกครั้ง ค. ใหเช็ดตัวเด็กเปนระยะ ๆ ถาไขไมลดลง นําสง ร.พ. ง. ใหเช็ดตัวเด็กเปนระยะ ๆ จายยาลดไขและโทร รายงานแพทยหรือพยาบาล ปรึกษาและบันทึก ประวัติการแพวัคซีน จ. จายยาลดไขและใหเช็ดตัวเด็กเปนระยะ ๆ อาการ จะดีขึ้น 115. DTP และ MMR Vaccine มีความแตกตางกันทั้ง ประเภทของจุลินทรียที่ใชเตรียม ประเภทของวัคซีน ขอ ใดไมถูกตอง ก. DTP vaccine เตรียมจากไวรัส สวน MMR vaccine เตรียมจากแบคทีเรีย ข. DTP vaccine ผลิตโดยนําจุลินทรียเลี้ยงใน สภาวะที่ทาํ ใหจุลินทรียออนฤทธิ์ลงจนไมสามารถ กอโรคได สวน MMR vaccine ผลิตโดยทําใหจุลิ นทรียหมดฤทธิ์ดวยสารเคมีหรือ/และความรอน ค. DTP vaccine เปน inactivated vaccine สวน MMR เปน live-attenuated vaccine ง. DTP vaccine เปน toxoid ทั้งหมด สวน MMR vaccine เปน subunit vaccine ทั้งหมด จ. DTP vaccine เปน subunit vaccine สวน MMR vaccine เปน toxoid 116. อานไมออก 117. ในโปรแกรมสรางภูมิคุมกัน วัคซีนบางประเภทเปน live-attenuated vaccine มีขอดีกวาวัคซีนประเภทอื่น อยางไร ก. ปลอดภัยมากกวา ข. กระตุนภูมิคุมกันระยะยาว ค. อาการขางเคียงนอยกวา ง. เปนภูมิคุมกันสําเร็จรูป คือเกิดภูมิคุมกันทันที จ. กระตุนภูมิคุมกันเร็วกวา
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 118. ในโปรแกรมสรางภูมิคุมกัน ไมครอบคลุมวัคซีน ปองกันโรคใด ก. หัด ข. โปลิโอ ค. อีสุกอีใส ง. บาดทะยัก จ. คางทูม 119. ตอมา ด.ญ. สายเขาสูวัย 4 ขวบ วันหนึ่งนาง สํารวยไดพาไปหาเภสัชกรเพราะมีตุมน้ําใส และมีอาการ ไขรวมดวย หาก ด.ญ. สายเปนโรคอีสุกอีใส ด.ญ. สาย ไมควรไดรับ ก. Chlorphenimine maleate tablet ข. Hydroxyzine HCI tablet ค. Neomycin/bacitracin ointment ง. Calamine lotion จ. Prednisolone cream 120. ในการศึกษาความเหมาะสมในการใหวัคซีนชนิด หนึ่งวาสมควรทําการศึกษาทั้งในดานตนทุนคาใชจายที่ จะเกิดขึ้น และผลไดในรูปอัตถประโยชน ในเรื่องการให และไมใหวัคซีน การศึกษาดังกลาว เรียกวา ก. Cost Minimization Analysis ข. Cost Effectiveness Analysis ค. Cost benefit Analysis ง. Cost Utility Analysis จ. Cost outcome Description สถานการณที่ 13 ผูปวยหญิง อายุ22 ป น้ําหนัก 75 kg. สูง 155 cm อาชีพเกษตรกรรม มาพบ แพทยที่โรงพยาบาลดวยอาการปวดเขาดานขวาเปนมา นานหลายป อาการปวดคอย ๆ มากขึ้น ถาทํางานหนัก ยิ่งมีอาการปวดมากขึ้น บางครั้งหลังจากทํางานมีอาการ ปวดรุนแรง นอกจากนี้ยังมีอาการขอติดขัดเคลื่อนไหวไม สะดวก หลังจากนั่งหรือนอนนานๆ มีเสียงดังในขอเวลา เดิน ไมมีประวัติ มีไข น้ําหนักลด แพทยวินิจฉัยวาเปน โรคขอเสื่อม มีประวัติเปนแผลในกระเพาะ โรคความดัน โลหิตสูง ผูปวยมีประวัติทางการทํางานของไตเสื่อม กอนที่จะมาโรงพยาบาล เคยซื้อยา Diclofenac gel เพื่อ นวดบริเวณที่ปวดและพบวาอาการไมดีขึ้น 121. ขอใดจัดเปนยาหรือผลิตภัณฑเสริมอาหารในกลุม ชะลอความเสื่อมสลายของกระดูกออน
Pharmacy Student Rx’24
236
MCQ ก. glucosamine sulfate ข. hydroxychloroquine ค. aruanofin ง. Prednisolone จ. methotrexate 122. ขอใดเปนขอแนะนําที่ไมเหมาะสมสําหรับผูปวย ก. ลดน้ําหนัก ข. ใหอออกกําลังกาย ค. โรคนี้ไมสามารถรักษาใหหายขาดได ง. หลีกเลี่ยงการฉีดยาเขาขอในและติดตอกัน จ. รับประทานยา codeine และ para เมื่อมีอาการ ปวดรุนแรง 123. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับตํารับ diclofinac emulsion gel ก. ใช carbopol เปนสารกอเจล ข. ตํารับนี้ไมจําเปนตองมี preservative เนื่องจากไม มีน้ําเปนสวนประกอบ ค. ในขั้นตอนการพัฒนาตําหรับ อาจทดสอบความ คงตัวทางกายภาพดวยวิธี freeze- cycle ง. ตํารับ emulsion gel ลางออกดวยน้ํางายกวา ตํารับ cream เมื่อใชทาที่ผิวหนัง จ. ในตํารับตองมี emulfying agent 124. ทานคิดวาผลิตภัณฑจากสมุนไพรในขอใด มีขอบง ใชใกลเคียงกับ diclofinac emulsion gel มากที่สุด ก. เจลพลู ข. ครีมชุมเห็ดเทศ ค. เจลวานหางจระเข ง. ครีมไพล จ. ครีมพญายอ 125. อานไมออก 126. ขอใดถูกตอง ก. เมื่อโรคขอเสื่อมเกิดการอักเสบรวมดวยควร เลือกใชยา opioid analgesic จะเหมาะสมกวา กลุม NSAIDs ข. opioid analgesicไมควรใชติดตอกันนานเพราะ จะทําใหเกิดการติดยา ค. การใชยา NSAIDs ควรเริ่มในขนาดที่สูงกอน เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดทันทีกอน
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ง. ผลขางเคียงของการใชยากลุม opioid analgesic ที่พบบอย คือ ทองเสีย จ. ยากลุม cox-2 มีผลตอการเกาะกลุมของเกล็ด เลือดมากกวายากลุม cox-1
127. เมื่อแพทยพิจารณาแลวจึงจายยากลุม cox-2 selective inhibitor ขอใดถูกตองเกี่ยวกับ cox-2 selective inhibitor ก. ในโครงสรางของยากลุม Cox-2 inhibitor มี Carboxyl group เปนสวนสําคัญที่ใชในการจับกัน ของ enzyme cox-2 ข. ยากลุม cox-2 inhibitor ไมมีผลขางเคียงตอ กระเพาะอาหาร เนื่องจากยับยั้งเอ็นไซม cox-2 ที่ กระเพาะอาหาร ค. ยากลุม cox-2 inhibitor แตละตัวมี cox-2/cox-1 Selective ratio ที่แตกตางกัน ง. ยากลุม cox-2 inhibitor ทุกตัวไมสามารถใหใน ผูปวยที่แพยากลุม sulfonamide ได จ. ยากลุม cox-2 inhibitor ออกฤทธิ์จับกัน Cox-2 เทานั้น โดยไมสามารถจับกับเอนไซม cox-1 ได 128. Diclofenac มี pKa = 4.5 ดังนั้นในกระเพาะอาหาร (pH=1) …. เทาใด ก. 1000/1 ข. 100/1 ค. 1/1 ง. 1/1000 จ. 1/100 129. ยาบรรเทาอาการปวดขอเขาของผูปวยรายนี้ รายการใดไมสามารถไปเรียกซื้อได แมมีใบสั่งแพทย ก. Diclofenac injection 75 mg/3 ml ข. Dexanethasone injection ค. Methadone tablet 10 mg ง. Prednisolone tab 5 mg จ. Rofecoxib tab 25 mg 130. เภสัชกรรานยา สามารถจายยาแกผูปวยรายนี้ ตาม กรณีใดได โดยไมผิด ตาม พ.ร.บ. ยา 2510 ก. จายยา Diclofenac tab 25 mg ที่เลยวันหมดอายุ ตามฉลากไปแลว 2 วัน
Pharmacy Student Rx’24
237
MCQ ข. จายยา Piroxicam cap 10 mg ที่ยังไมถึงวัน หมดอายุตามฉลาก แตลักษณะเม็ดยา กระดํากระดาง ค. จายยาเม็ด Tolperisone 50 mg และ Diclofenac 25 mg ใสในซองเดียวกัน อยางละ 1 เม็ด หลัง อาหาร ง. นํายาเม็ด Piroxicim 20mg ซึ่งเปนยาตัวอยางอยู ในแผง 4 เม็ด มาแกะแผงออก ลงในกระปุกยาตัว เดียวกัน ซึ่งซื้อมาจากบริษัทผลิตตางกัน 3 เดือน จ. นํายา Rofecoxib 25 mg ซึ่งซื้อมาจากรานคา ปลอดภาษีที่สิงคโปรและมีราคาถูกกวาทําใน ประเทศไทยมาขายที่รานยา สถานการณที่ 14 ผูชายสูงอายุคนหนึ่งเขามาขอซื้อยา หยอดตาเนื่องจากมีอาการตามัวในชวง 4 วันที่ผานมา มี อาการปวดตามากตาสูแสงไมได ไมมีโรคประจําตัวอื่น 131. หลังจากที่เภสัชกรไดทําการซักประวัติแลว ทานคิด วาอาการที่ผูปวยเลาสัมพันธกับโรคใด ก. โรคตอกระจก ข. โรคตาแดง ค. โรคตอเนื้อ ง. โรคตากุงยิง จ. โรคตอหิน 132. เภสัชกรจึงไดใหคําแนะนําแกผูปวย อยากทราบวา ขอใดไมถูกตอง ก. เกิดจากความดันโลหิตสูงกวาปกติ ข. สามารถพบไดในผูปวยที่มีการใช steroid เปน ประจํา ค. หากไมรับการรักษาจะทําใหเกิดตาบอดได ง. การรักษาสามารถใชยาหยอดตา Atropine เพื่อ ควบคุมอาการได จ. แพทยจะพิจารณารักษาตาอีกขาง (ในกรณีที่เปน ตาขางเดียว) เฉียบพลันในอนาคตได 133. สารชนิดใดที่สามารถใชรักษาไดโดยมีฤทธิ์ลด aqueos humer ภายในลูกตา ก. Timolol ข. Pilocarpine ค. Mannitol ง. Thiazide จ. Carbachol
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 134. ยาชนิดใดตอไปนี้ที่ไมมีขอหามใช หรือขอควรระวัง ในผูปวยโรคตอหิน ก. 0.1% Diclofinac ED. ข. 0.1% Fluorometholone ED ค. 0.1% Dexamethasone ED ง. 0.5% Atropine ED จ. 0.05% Naphazoline ED 135.ตํารับยา 0.5 % Atropine ED เมื่อหยอดแลวมี อาการแสบตา นาจะเกิดอะไรขึ้น ขอมูล 7% Atropine sulfate solution เทียบเทา 0.9 % NaCl ยาประกอบดวย Atropine sulfate 0.5 g NaCl 8.3 g H2O 100 ml ก. Hypotonic solution ข. Hypertonic solution ค. Isotonic solution ง. Atropine sulfate 136. รูปแบบใดที่ไมสามารถเตรียมเปนยาสําหรับยาตา ก. Solution ข. Suspension ค. Ointment ง. Cream จ. Ocular insert 137. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการเตรียมยาหยอดตา ก. สามารถนําไปผานความรอนแหงที่ 170 οC 2 ชม. ข. สามารถนําไปอบควันแกส ค. ทําใหปราศจากเชื้อโดยกรองผาน sterile membrane ง. ตองผานการทดสอบ LAL test จ. ตองมีเชื้อ E.coli ไมเกิน 10 cfc/ml 138.อานไมออก 139. ยาหยอดตาที่เปดใชแลว โดยทั่วไปแนะนําใหผูปวย ทิ้งไปใน ก. ระยะเวลา 24 ชม. ข. ระยะเวลา 5 วัน ค. ระยะเวลา 7 วัน ง. ระยะเวลา 1 เดือน จ. ระยะเวลา 3 เดือน
Pharmacy Student Rx’24
238
MCQ 140. ยาตาขอใดตอไปนี้ เปนยาสามัญประจําบาน ก. Diclofenac ED ข. Chloramphenicol eye ointment ค. Timolol ED ง. Dexamethazone ED จ. Tetracycline eye ointment\ สถานการณที่ 15 เภสัชกรสําเร็จใหม เขาทํางานที่ โรงงานยาแหงหนึ่ง ไดรับมอบหมายใหพัฒนายาทา ผิวหนัง triamcinolone 0. % ชนิดที่เปนโลชันประเภท อิมัลชัน ซึ่งมีสูตรที่ใชเตรียมดังนี้ % by weight Triamcinolone acetonide 0.1 Lanolin ( HLB for o/w) 1.0 Stearic acid ( HLB for o/w) 2.0 Propylene glycol 8.0 Liquid paraffin ( HLB for o/w) 5.0 Tween 80 ( HLB for o/w) 2.5 เมื่อเตรียมโลชันตามสูตรขางตน และตั้งทิ้งไวเพื่อสังเกต ความคงตัวพบวาโลชันแยกเปน 2 ชั้น เมื่อเขยาพบวา สามารถกลับมาเปนอิมัลชันที่สม่ําเสมอและไมแยกชั้น 141. ปรากฏการณแยกชั้นที่เกิดขึ้นกับอิมัลชันเรียกวา ก. Breaking ข. Cracking ค. Caping ง. Phase inversion จ. Phase seperation 142. สาเหตุความไมคงตัวดังกลาวคือ ก. อนุภาคมีขนาดใหญเกินไป ข. วัตภาคน้ํามันมีปริมาณมากเกินไป ค. ความหนืดของวัตภาคนอกสูงเกินไป ง. ไมมีสารกออิมัลชัน(emulsifier)ในตํารับ จ. ความหนาแนนของวัตภาคในและนอกมีคา ใกลเคียงกัน 143. คา required HLB ในการเกิดเปน o/w emulsion ของวัตภาคน้ํามัน stearic acid และ liquid paraffin ใน ตํารับขางตนมีคาเทากับ ก. 9.5 ข. 10.75
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ค. 11.04 ง. 12.13 จ. 14.0
144. สัดสวนที่เหมาะสมของสารกออิมัลชันที่ใชสําหรับ ตํารับนี้ เพื่อใหเกิดเปน o/w ก. Tween 80 : Span 80 = 8.43 : 2.87 ข. Tween 80 : Span 80 = 2.87 : 8.43 ค. Tween 80 : Span 80 = 15.0 : 3.7 ง. Tween 80 : Span 80 = 3.7 : 15.0 จ. Tween 80 : Span 80 = 1.5 : 2.5 145. อิมัลชันที่เตรียมไดตามสูตรขางตนควรเปนอิมัลชัน ชนิด o/w ก. มีปริมาตรวัตภาคน้ําสูงกวาวัตภาคน้ํามัน และ ระบบสารกออิมัลชัน ( emulsifier system) มีคา HLB ที่สูง ข. มีปริมาตรวัตภาคน้ําสูงกวาวัตภาคน้ํามัน และ ระบบสารกออิมัลชัน ( emulsifier system) มีคา HLB ที่ต่ํา ค. มีปริมาตรวัตภาคน้ํามันสูงกวาวัตภาคน้ํา และ ระบบสารกออิมัลชัน ( emulsifier system) มีคา HLB ที่สูง ง. มีปริมาตรวัตภาคน้ํามันสูงกวาวัตภาคน้ํา และ ระบบสารกออิมัลชัน ( emulsifier system) มีคา HLB ที่ต่ํา จ. มีปริมาตรวัตภาคน้ํามันและวัตภาคน้ําเทาๆกัน และระบบสารกออิมัลชัน ( emulsifier system) มี คา HLB ที่สูง 146. จงเรียงความแรงของ steroid ชนิดทาผิวหนังจาก ความแรงมากไปนอย A. Hydrocortisone cream 2.5% B. Clobatasol ointment 0.05 % C. Triamcinolone 0.1% D. Betametasone cream ก. B>D>C>A ข. D>A>C>B ค. A>D>B>C ง. C>D>A>B
Pharmacy Student Rx’24
239
MCQ จ. D>B>C>A 147. จากโครงสรางทางเคมีของยาในกลุม glucocorticoids สวนประกอบสําคัญในการ..... conjugated 3- ketone (b)11-OH group และ(c)17 B – ketol side chain ในกรณีของการทําใหอยูในรูป acetonide ที่ตําแหนง 16 และ 17 มีประโยชนอะไร
triamcinolone acetonide ก. เพื่อลดความเปนพิษของยาโดยลดความเปนกรด ของ steroid ข. ทําใหยาจับกับ receptor ดวย van der waal force ค. เพื่อเพิ่มการดูดซึมยา เพราะทําใหมี lipophilicity มากขึ้น ง. เพื่อเพิ่มการละลายยา เพราะทําใหมี hydrophiliciy มากขึ้น จ. ทําใหเกิด sodium retention เพิ่มมากขึ้น 148. ในการวิเคราะหปริมาณ triamcinolone acetonide ดวยวิธี HPLC โดยมี และใช internal standard คือ fluoxymesterone ในการทดลอง peak ของ triamcinolone ซอนกับ peak ของ fluoxymesterone ดัง chromatogram แนวคิดใดถูกตองหากตองการให peak ของทั้งสองแยกจากกัน โดย ก. เพิ่ม flow rate ข. ลด injection volume ค. ลดความยาว column ง. ใช guard column ใน system จ. เปลี่ยนแปลงสัดสวนของ mobile phase 149. หากเภสัชกรคนนี้ยังไมไดเปนผูประกอบวิชาชีพ เภสัชกรรม ขอใดกลาวถูกตอง ก. เขาจะไมสามารถพัฒนาตํารับ triamcinolone lotion นี้ขึ้นมาได ข. เขาจะไมสามารถเปนเจาของโรงงานผลิต triamcinolone lotion นี้ได
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
240
ค. เขาจะไมสามารถระบุชื่อวาเปนผูพัฒนา triamcinolone lotion ตํารับนี้ได ง. เขาจะไมสามารถทําหนาที่เปนเภสัชกรควบคุม การผลิต triamcinolone lotion ตํารับนี้ได จ. เขาจะไมสามารถทําหนาที่เปนผูเดินเรื่องเพื่อขอ ขึ้นทะเบียนตํารับนี้ได 150. เจาของโรงงานผลิต triamcinolone cream 0.1 % จําหนายในขนาดบรรจุ 15 g จะจัดเปนยาพวกใด ก. ยาอันตราย ข. ยาควบคุมพิเศษ ค. ยาสามัญประจําบาน ง. ยาแผนปจจุบันบรรจุเสร็จ จ. ยาใชภายนอกที่ไมใชยาอันตราย
Note : Case ที่มักจะออกข้อสอบบ่อยๆ - เบาหวาน - ยาคุมกําเนิด - ยาแก้ปวด - สิว - UTI - มะเร็ง - MI (acute coronary syndrome) - Dyslipidemia - ภูมิแพ้ - วัคซีน - Hypothyroidism
Pharmacy Student Rx’24
- Asthma -GERD and PU/DU - ตาแดง - ไต - ไมเกรน - Hormone replacement therapy - เกลื้อน - ผื่นแพ้ - HIV infection - Pharyngitis - Paracetamol toxicity - Hypertension - Constipation and Diarrhea - ต้อหิน - ซึมเศร้า
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
241
MCQ
MCQ 3/2549 by P’สมชาย CMU กรณีศึกษาที่ 1 Ishmic Hearth Disease ผูปวยชาย เปน HTN มา 5 ป ไดรับยา HCTZ + Metoprolol จูๆเกิด เจ็บหนาอกขึ้นมาคาLab ที่ใหมา BP 125/85 BUN Scr ปกติ 1. ผลระยะยาวของการทาน Metoprolol - เพื่อปองกันการเกิด heart attack 2. ผูปวยทํายา Metoprolol หายไป 5 วันเกิดอะไรขึ้น 3. ผูปวยควรไดรับยาใดเมื่อเกิด heart attack - NTG 4. การเก็บ NTG ขอใดผิด - เกี่ยวกับการระเบิด ( หามเปลี่ยนภาชนะบรรจุจากเดิม ) 5. ขอใดจําเปนนอยที่สุดในการตรวจสอบคุณภาพ NTG 1. ASSAY 2. Disolution 3. Dissintigration 4. Uniformity 6. ให สูตร ตํารับอะไรไมรูมา ถามวาจะทําเปน อะไร ( Dosage form) กรณีศึกษาที่ 2 Asthma ผูปวยหญิงวัยกลางคน เปนหืด ปกติได Salbutamol MDI แบบ PRN อยางเดียว สูดพนเปนครั้งคราวตอน มีอาการอยูๆ เกิด เปนมากกวาเดิมทั้งกลางวันกลางคืน 1. ขอใดไมใช เปาหมายในการรักษาของผูปวยรายนี้ - ตาม GINA guideline ตองไปศึกษาดูนะ ( Update ตลอด ) 2. ปจจัยในขอใดกระตุนใหเกิดอาการหืดนอยที่สุด 1. ฝุน 2. ควันบุหรี่ 3. ขนแมว 4. อากาศรอน 5. เดินขึ้นบันได 3. หมอสั่งเพิ่มยาให 2 ตัว แตผูปวยอยากไดตัวเดียว อยากทราบวาควรจะไดยาอะไร - steroid แบบพน 4. จากนั้น อาการของผูปวย เปนหนักกวาเดิมแพทยคนเดิมจึงเพิ่มยาใหอีกตัวอยากทราบวาเปนยาอะไร - long acting Beta2 agonist (อันไหนออกฤทธิ์สั้น,ยาว ไปศึกษาดู) 5. การกลั้วปากทําเพื่อจุดประสงคใด - ปองกันการเกิด Oral thrush 6. ยา Prednisolone tablets เปนยาประเภทใดตามกฏหมาย - special control drug
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
242
MCQ
7. เกี่ยวกับ อุปกรณในการชวยพนขอใดผิด - เกี่ยวกับการใช spacer และ nebulizer (ลองไปทบทวนดู) 8. ขอใดผิดเกี่ยวกับระหวาง MDI กับ DPI (dry powder inhaler) - Turbuhaler ตองออกแรงมากกวาในการเปาลมเขาเครื่องพน 9. เกี่ยวกับ Evohaler ขอใดผิด - เปนเครื่องมือที่ใชพนเขาทางจมูก กรณีศึกษาที่ 3 Glaucoma แพทยสั่ง Betaxolol ใหผูปวยหญิงรายนึง ซึ่งมีอาการ….อาการของตอหิน 1. กลไกการออกฤทธิ์ของยาตัวนี้ - Decrease aqueous humor production 2. ยาใดไมสามารถใชในผูปวยรายนี้ได - Atropine 3. ผูปวยอาการแยลงความดันในลูกตาไมลด เพราะ ใชยาใด - Hyoscine 4. การใชยานี้ควรระวังเรื่องใด 5. เมื่อใชไปนานๆอาการไมพึงประสงคของยานี้ คือ……… 6. ขอใดเปนคําแนะนําการใชยาตาที่ถูกตอง - ไมยาก ตัดตัวเลือกทีผิดได อานจากคูมือเลย 7. การแนะนําขอใดเพิ่ม Compliance ใหกับผูปวย 8. หากเกิดอาการ……….ไมรีบรักษาจะสงผลในเรื่องใด - ตาบอด 9. จะแนะนํายาตาตัวนี้เขาบัญชียาใน โรงพยาบาลที่ไมมีจักษุแพทยจะแนะนําเขาบัญชีใด 1. ก ข 2. ก ค 3. ก ข ค 4. ก ข ค ง 5. ทุกบัญชี กรณีศึกษาที่ 4 Otitis Media แมพาลูก อายุ 6 ขวบ ไป หา หมอ เพราะอาการ เจ็บหู ได ยา พารา + แกอักเสบ ทานหมดแลว จําชื่อไมได เจ็บหูชั้นกลาง วันนี้มาหาเภสัชกร 1. อาการดังกลาวเกิดจากเชื้อใด - Strep pneumo. 2. เภสัชกรจะใชยาอะไรเปน First choice - Amoxycillin 3. เชื้อดื้อยาจะใชอะไรแทน - Erythromycin 4. ใหตํารับยาหยอดตาที่ใชหยอดหูไดดวย ยาวประมาณครึ่งหนา ถามวา ถาจะทําเปนตํารับหยอดหูอยางเดียวไม ตองเติมสารในขอใด - Purified water 5. Preservative ขอใดไมนิยมใชในยาหยอดตา - Paraben 6. เกิดกับอายุชวงไหน…………… จากนั้นคุณ แม ก็เปนหวัดตอ หมอสั่งจาย pseudoephedrine 7. Pseudoephedine เดี่ยวเปนยาประเภทใดตามกฎหมาย - P2
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
243
MCQ
8. เภสัชกรจายไดหรือไมอยางไร - ไมได เพราะ……….. 9. ใหสตู รโครงสราง pseudoephedrine มา แลวถามความแตกตางกับ ephedrine 10. ใหภาษาอังกฤษ ประมาณ 3 บรรทัดคงเปนขอความใน ฟารมาโคเปย แลวใหเราหา % LA - ไมตกเลข ก็ทําไดทุกคน หาแลวบอกดวยวาเขามาตรฐานหรือไม กรณีศึกษาที่ 5 Anxiety / Depression ผูปวยเปนภรรยา นอนไมหลับ กังวล 1. จะจายยาอะไรใหดี - diazepam จากนั้น สามีเปน นอนไมหลับ 2 สัปดาห ตองใชเวลาประมาณ 1 ชม. จึงจะหลับได 2. จะจายยาอะไร ใหสามี - Zolpidem แลวสามีก็เปนโรคซึมเศรา 3. สามีทานยาแลวงวงซึม เกิด ปสสาวะ แสบขัด ตาพรา คาดวาเกิดจากยาตัวไหน - Amitriptyline 4. จะเปลี่ยนเปนยาตัวไหน ใหสามี - Sertaline 5. สูตรโครงสรางยานอน หลับสักตัวนี่ แลวก็ถาม ( ดูเรื่อง metabolism of BZD) 6. fluoxetine เปนยาประเภทใดตามกฏหมาย - ยาอันตราย 7. สารชวยขอใดชวยแตกตัว - แปงขาวโพด กรณีศึกษาที่ 6 Parkisonism ผูปวยสูงอายุ ไดรับการวินิจฉัยวาเปน พารกินสันได ? ป ยาที่ไดรับประจํา คือ levodopa/Carbidopa Ibuprofen 400 mg เวลาปวด MTV คะ 1. ขอใดไมใชเหตุผลในการให Levodopa/Carbidopa 2. ขอใดผิดจะพูดเกี่ยวกับ On – Off phenomena 3. ให แตสูตรโครงสรางยามาถามวากลไก การออกฤทธเปนอยางไร 4. กินยาแลวอยูๆ ก็เปน Psychosis ขึ้นมาถามวาเกิดจากยาตัวไหน .................... 5. เปนสูตรโครงสราง แลวถามเปรียบเทียบ SAR กรณีศึกษาที่ 7 Oral Contraceptives ผูปวยหญิงเพิ่มจะเริ่มกินยาคุมกําเนิด 1. จําโจทยไมได แตตอบ PhytoEstrogen 2. ลืม 3 เม็ด ทําอยางไรดี 3. จะพูดเกี่ยวกับ EE ที่มีจําหนายในไทยในแงขนาดและชนิด 4. จะพูดเกี่ยวกับ Progestogen ที่มีจําหนายในไทยในแง ขนาดและชนิด เชนกัน 5. ขอใดไมใชอนุพันธของ โปรเจสโตเจน - Diethyl… 6. ใหสมการและกราฟ ไคเนติกมาใหคํานวณเลยใชความรูทางคณิตศาสตรอยางเดียว กรณีศึกษาที่ 8 Primary dysmennrhea + ตกขาว หญิงไทยตกขาว+เจ็บทองเมนส เคสละ 5 ขอ 1. ถามเกี่ยวกับการตกขาววามีลักษณะอยางไร 2. ขอใดทําใหเกิดการตกขาว ยกเวน 3. อาการคันชองคลอดเกิดจากสาเหตุใดไดบาง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
244
MCQ
4. หาปริมาณ ยาพื้น ให คา Displcement Value = 2 น้ําหนัก ผงยา 1 กรัม เตียม 20 แทงจะใชยาพื้นเทาไหรใน การเตรียมยาเหน็บ 5. การทดสอบคุณภาพยาเหน็บชองคลอด ใชวิธีเดียวกับยาอะไร- ตัวเลือกเปนยาเม็ดแบบรับประทานหมดเลย 6. เกี่ยวกับ กลามเนื้อมดลูก ถามอะไรสักอยาง กลไกการปวดทองเมนสมั้ง กรณีศึกษาที่ 9 Cysitis ผูปวยหญิง 1. จะจายยาอะไร - Norfloxacin 400 mg 1*2 ac 5-7 days 2. ขอใดไมใชสาเหตุที่ทําใหเกิดโรคนี้ 3. Norfloxacin เปนยาประเภทใดตามกฏหมาย 4. 1 gr / 2 flz คือการจายแบบใด - เทียบบัญญัติไตรยางคเอา 5. เหตุใดจึงหามกินรวมกับ ยาลดกรด - เกิด complexation ลดการดูดซึม กรณีศึกษาที่ 10 Gout ผูชายวัยกลางคน ระดับ ยูริก 20 กวา มีคาLab และอาการอีก เยอะแยะ แตจับใจความไดวาเปน gout 1. อาหารขอใดที่ ผูปวยคนนี้ ทานได 1. กระเพาเครื่องในไก 2. ยํายอดผักกะเฉด 3. แกงสมชะอม 4. หนอไมฝรั่งผิดกุง 5. ตมจืดเตาหูหมูสับ 2. เวลา gout attack ยาขอใดกินไมได - Allopurinol 3. ยาตัวไหนที่ผูปวยไมควรทานเพื่อระงับอาการปวด - Low dose aspirin 4. พยาธิสภาพของโรค มันจะถามขอใดผิด 5. ขอใดผิดเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของยา 1. Para inhibit COX 2. Colchicineทําอะไรไมรูกับยูริก มันเปน ภาษาอังกฤษหมด 3. ………. 6. สมุนไพรขอใดที่มีสารเหมือน Colchicine - ดองดึง 7. ใหสูตรโครงสราง Colchicine มา แลวถามอะไรจําไมได 8. บอกคา K มาอยางเดียวแลว หา Shelf-life ดีนะขอนี้จําสูตรได - 0.104/K ตั้งหารยาวเลย ทวนดวยนะ ไดคะแนนงายๆเลย กรณีศึกษาที่ 11 Diabetes Miletus คนแก เปน DM type II ปกติได ยาเม็ดลดน้ําตาล อยูๆ ก็หนามืด วิง เวียน เปนลม 1. อาการอยางนั้นเกิดจากภาวะอะไร- hypoglycemia 2. ใชอะไรรักษา - Glucose 3. ใหรูปการ Shift electron มา แลว ใหโครงสรางของ Chlopropamide แลก Tolbutamide แลว ถามขอใดถูกตอง 4. การใช Insulin ขอใดไมถูกตอง - เขยาขวดกอนใช
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
245
MCQ
5. ถามเกี่ยวกับ ฮอรโมน Insulin กับ Glucagon ระบุความแตกตาง 6. ถามรูปแบบวา NPH เปนยารูปแบบใด ยากอยูนะ จะแบบวาของแข็งแขวนตะกอนในน้ํามัน อะไรประมาณนั้นอะ แตไมเอาสารละลายแนนอน 7. วิธีการเก็บ Insulin เกี่ยวกับอุณหภูมิ 8. ผูปวย ไดยา Sulfonylurea สักตัวนี่แหละแลวเกิด น้ําตาลต่ํามาก บอย เกิดจากอะไร……. 9. จะเปลี่ยนเปนตัวไหนไดในกลุม Sulfonylurea เหมือนเดิม - Glipizide เพราะ ขอตอไปถามถึง Glipizide!? 10. ใหรูปโครงสราง Glipizide มาแลวถามวาอยูกลุมไหน 1. Sulfonylurea----ตอบขอนี้ 2. Sulfone 11. ผูปวยเปนโรคไต โจทยจะประมาณวา ใหคา Scr ที่ผิดปกติมา เราก็ตองรูนะวาเขาผิดปกติเกี่ยวกับไตอะ จะใช ยาตัวไหนแทน 12. เกี่ยวกับระดับน้ําตาลตอนเชาคุมไมได ถามสาเหตุ 13. ทําไม ใช Thiazolidinedione ใน Type I ไมได - ตองอาศัยการทํางานของตับออน 14. Thiazolididione เกิดผลขางที่อันตรายอยางไร - Hepatotoxicity 15. วิธีการปฏิบัติตนของผูปวยเบาหวาน กรณีศึกษาที่ 12 Peptic Ulcer ผูปวยเครียดจากการทํางาน เปนตอนกลางคืนมากขึ้น อาการของโรคกะเพาะอาหารอะ โจทยก็ รายยาว มาประมาณ 3-5 บรรทัด 1. วิธีให Antacid ขอใดถูกตอง - ตอบที่เปนวันละ 7 ครั้ง 2. ยาสามัญประจําบานที่ใชเปนยาลดกรด - ไปดูยาสามัญประจําบานกันเอง 3. ถาทานพรอมกับยาอื่นจะแนะนําอยางไร - กอนหรือหลัง 2 ชั่วโมง 4. ตํารับยาน้ํา Antacid เขยายาก จะใสสารอะไรดี 5. เกี่ยวกับ GU, DU เปรียบเทียบกันแลวถามขอใดถูก 6. วิทยากระแสไหลของ ยาลดกรด เปนการไหลแบบใด 7. การทาน H2 Block ขอใดถูก - ทานวันละครั้งกอนนอนได 8. Triple therapy ออกแทบทุกป - 3 ตัวนั้นแหละ จําเลย 9. ขมิ้นชันมีสารใดในการรักษาโรคกระเพาะ - curcumin 10. ขมิ้นชันแคปซูลอยูในตํารับใดของบัญชียาหลักแหงชาติ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
246
MCQ
กรณีศึกษาที่ 13 Hypersensitivity หญิงวัยกลางคนรับประทานกุงเขาไป แลวแพ เกิด ผื่น อาการ อีกเยอะแยะ ฯลฯ 1. อาการแพ เปน Type ไหน 2. ควรไดรับยาอะไร - Hydroxyzine 10 mg 1 x 3 3. ถาอาการรุนแรง - เกี่ยวกับ สเตียรอยด ชนิดรับประทาน 4. ถามเกี่ยวกับ สเตียรอยดชนิดทา 5. คาลาไมนโลชั่นมีสารสําคัญ อะไร 6. คาลาไมนโลชั่นตกตะกอน เกี่ยวกับสารอะไร 7. ขอแนะนําการปฏิบัติตัวหลีกเลี่ยงการแพ กรณีศึกษาที่ 14 Vitamin A Deficiency ประชากร ขาด วิตามิน เอ แต โจทยจริงๆ ยาว ประมาณ 5-6 บรรทัดแตสรุปไดวา ขาดวิตามิน เอ 1. ในฐานะที่ทานเปนเภสัชกร จะสงเสริมใหคนหันมาทานอาหารที่มีวิตามินเอ เพื่อปองกันภาวะดังกลาวแทนการรักษาได อยางไร 2. อาการใดเปนอาการ ของ การขาดวิตามิน เอ - เกร็ดกะดี่ ไมรูถูกไหม 3. อาหารชนิดใดมีปริมาณวิตามิน เอ สูงทั้งคู - ฟกทอง ตับ 4. วิตามิน เอ ไมควรรับประทานคูกับยาขอใดตอไปนี้ - Cholestyramine 5. โจทยใหตํารับ Cod liver oil มา ยาวประมาณเกือบเต็มหนา แลวถามวาเตรียมเปนยารูปแบบไหน- อีมัลชั่น 6. Preservative ในตํารับ 7. วิตามิน เอ เปน ยาประเภทไหน - เปนยาอันตราย หรือ ผลิตภัณฑเสริมอาหาร ตองดูที่ขนาดวากี่ IU เทียบกับ RDA 8. โจทยบอก % RDA มา แลวถามวาตองกินเทาไหร ถึงจะไดเทากับ RDA - เทียบบัญญัติไตรยางคเอางายๆ กรณีศึกษา ที่ 15 Vaccine and Biologics เด็กนอยโดนหมากัด ที่หนา คุณแมพามาใหคุณหมอ ฉีดวัคซีน 1. หมอ ฉีดวัคซีนหมาบาใหแลว ตอง ฉีดอะไรอีก - Immunoglobulin คูกับ tetanus วัคซีน 2. วัคซีนหมาบาเปนชนิดใด - เชื้อตาย 3. การไดรับ Imunoglobulin เปนการกระตุนการสรางภูมิคุมกันแบบใดผานระบบไหน - Active ผาน HMI 4. แมตองพาลูกมาฉีดกี่ครั้ง - 5 ครั้ง 5. ถาครั้งที่ 2 ของการฉีดวัคซีนเด็กไมสามารถมาตามตารางนัดใดขอใดสามารถ ทําไดเพื่อใหเด็กมีภูมิคุมกันไดอยู - พามาทีหลังไมควรพามากอน ตารางนัด 6. อีก 5 ขอ ที่เหลือเปน ชีววัตถุ ขอ 6 ถามถึงการ ทําใหปราศจากเชื้อของ ชีววัตถุทําอยางไร - ผานรังสีเลย เพราะวา ชีววัตถุนี่มันนาจะกลัวความรอน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
247
7. ขอใดถูกเกี่ยวกับชีววัตถุ 8. Dry freeze ของ ชีววัตถุเตรียมอยางไร 9. ให หา Pka ของ ระบบบัฟเฟอรวาจะใชบัฟเฟอรที่มี Pka เทาไหร สําหรับชีววัตถุที่มี pH …. - เปนตารางบัฟเฟอร ออกมาเลย นึกไมออก
ขอสอบใบประกอบ 3/2549 (วันที่ 2) กรณีศึกษา ที่ 1 Heart Failure หัวใจ ไขมัน ความดัน เบาหวาน ไมตอง ทิ้ง ผูปวย เปน HF ไดยา HCTZ ขอนี้ไมถามเกี่ยวกับโรค เทาไหร 1. ถามเกี่ยวกับการลดอัตราการตายอะไรแบบนั้นอะ 2. ผูปวยโรคอะไรใช HCTZ ไมได - Gout 3. Cross allergy เกี่ยวกับ การแพ Sulfa ในผูปวย ที่ไดรับ HCTZ มีสูตรโครงสรางมาให 4. ถามเกี่ยวกับเครื่องสากบนสากลาง ถามเกี่ยวกับการทํางานของมันอะ 5. ยาเม็ด HCTZ ตอกออกมาแลว ราวสวนบนจะแกไขอยางไร 6. กฎหมายการตั้งโรงงานผลิต HCTZ 7. ผูปวยเปนฝรั่ง ทาน ยานอก ขนาด 25 mg วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด ผูปวยสามารถนํายามาในไทยไดกี่เม็ด- 30 กรณีศึกษา ที่ 2 Hyperlipidemia ผูปวย เพศหญิง มีผล Lab มาใหดู ผิดปกติหมด ไมอยูในชวงสักอยาง อันที่สูงอยางเห็นไดชัด คือ LDL จริงๆ โจทย + คาLab ประมาณ 7-8 บรรทัด 1. ยาใดที่ผูปวยควรไดรับ - atorvastatin ตัวเลือกที่เหลือเปนยากลุมอื่น 2. ตัวเลือกเปนรูปสูตรโครงสรางยา ถามวา ขอใดเปน Prodrug 3. ทานยากลุม Statin ระวังเรื่องใด - hepatotoxic ถาตอบไมได ดูขอขางลาง จากนั้นผูปวยก็ ควบคุมไขมันไมคอยได หมอเลยเพิ่มยาให แลวใหผลLabมา ปรากฏวาไขมันก็ลดลง แตมีคา ผิดปกติ คือ aminotransferrase 4. คาดวาหมอเพิ่มยาตัวใด - Gemfibrozil 5. ตาม Guideline ขอใดไมเปนปจจัยความเสี่ยงสูง 6. สมุนไพรในการลดระดับไขมัน - กระเทียม 7. จะวัดคุณภาพชีวิตในการกินยาไขมันจะใชวิธี - CUA กรณีศึกษาที่ 3 DM
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
248
กรณีศึกษาที่ 4 ปวดเอว Æ Renal ผูปวยหญิง เจ็บเอว มาขอซื้อยา ได Diclofenac และยาอะไรไมรูอีก 1. ขอแนะนําการรับประทานยาการปฏิบัติตัว 2. สมุนไพรใดชวยบรรเทาอาการได - ครีมไพล 3. Diclofenac เปนยาอะไร - ยาอันตราย ใชไปใชมา อยูๆ ฉี่ไมออก ไปหาหมอ ไดผล Lab 4. ความผิดปกตินี้เกิดจากอะไร - Diclofenac 5. ถามเกี่ยวกับกลไกการเกิดความผิดปกติ 6. ถามเกี่ยวกับยาขับปสสาวะ 7. ฟอสเฟต สูงใชอะไร- แคลเซียม 8. กลไกของแคลเซียม-ฟอสเฟต - จับกันเปนสารประกอบที่ไมละลายถูกขับออกกับอุจจาระ อะไรประมาณนี้ละ กรณีศึกษาที่ 5 HRT โจทยก็พูด อาการ ของ หญิงหมดประจําเดือน 1. ขอใดเปน ไมใชคําแนะนําในการปฏิบัติตนที่เหมาะสม 2. ยาหรือสารขอใดไมสามารถใชรักษา vasomotor symptom ได 3. ลืมไปหมดแลวนึกไมออกจริงๆ ออ ขอใดเปน EE จากธรรมชาติ กรณีศึกษาที่ 6 Osteoartritis ผูปวยปวดขอมาซื้อยา Glucosamine เปนหญิง รางเล็ก อายุ 40 กวา น้ําหนัก 40 กวา ประจําเดือน หมดแลว พอเสียชีวิตดวย………เมื่ออายุ ………… 1. พยาธิสภาพของโรค 2. ปจจัยในขอใดทําใหเปน OA มากสุด - รูปรางเล็ก, กรรมพันธุ, เพศหญิง 3. ปจจัย/ยาในขอใดทําใหเปน OA 4. Glucosamine ออกฤทธิ์อยางไร 5. Glucosamine เปนยาประเภทใด 6. ทาน Calcium carbonate xx mg / tab กี่เม็ด ถึงจะได ปริมาณ calcium yyy mg 7. ขอแนะนําการรับประทาน Calcium 8. การออกฤทธของ specific cox 2 กรณีศึกษาที่ 7 Opportunistic Infections ผูปวยเพศหญิง เปนตกขาว hiv +ve , CD4 cout 154 1. ใชยาอะไรรักษา - ยาเหน็บ 2. ยาเหน็บชองคลอดผูหญิงเรียกอีกชื่อวา - pessaries 3. เบส ของ ยาเหน็บชองคลอด - PEG 4. จะใชยาอะไร Prophylaxis OIs บาง 5. ถามเกี่ยวกับโรคติดเชื้อฉวยโอกาส 6. ใหคา CI มา ซึ่งครอม 1 ถามขอใดถูก – ขอที่ไม significant
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
249
กรณีศึกษาที่ 8 กลาก ผูปวยชายไทย เปนบริเวณ…. คัน ขอบสีแดง เปนเพิ่มเรื่อยๆ ขยายวงกวาง 1. เกิดจากเชื้อตัวไหน 2. ใชยาอะไรรักษา - ketoconazole 3. จะจายอยางไร - 200 mg OD 4. Ketoconazole มีกลไกการออกฤทธิ์อยางไร - ยับยั้งการสรางเยื่อหุมเซลล 5. ใหสูตรโครงสราง ยา ตานเชื้อรา มา 5 ตัว ถามวาตัวไหนละลายน้ําดีสุด 6. ยา Ketoconazole แตละบริษัท มีประสิทธิภาพเทากัน จะใชวิธีทางเศรษฐศาสตรใด - CMA 7. โจทยบอก pKa pH หา %การแตกตัว กรณีศึกษาที่ 9 มะเร็ง โจทย+คา Lab +ยาที่ผูปวยไดรับ +BSA ครึ่งหนา 1. หา ขนาดยา เทียบกับ BSA 2. ทําไม ตอง ใช BSA กรณีศึกษาที่ 10 Pregnancy เปนสิว 1. Isotretinoin อยู cat ใด - X 2. มีคุณสมบัติอยางไร - teratogenic 3. ทําไม Insulin ถึงใหในหญิงทองได 4. หญิงทองเปนเบาหวานลูกเกิดมาจะเปนยังไง 5. ปจจัยในขอใดไมมีผลตอการผานรกของทารกในครรภมารดา กรณีศึกษาที่ 11 Allergy หญิงทอง อีกแลว ไปเก็บเห็ด แลวตัวบุงเกาะ เปนผื่นคัน บริเวณแขน ขา 1. Mediator ที่หลั่ง 2. พยาธิสภาพเกิดกับผิวหนังชั้นไหน 3. ใชยาอะไรได อยาลืมดูโจทยนะวาทองอยู- CPM 4. สเตียรอยดแบบทา จะใชขอใด - แขนขา เอาอัน แรงสุดอีก 4 ตัวที่เหลือ เปนแบบ Low 5. ใหสูตรโครงสรางสเตียรอยดแบบทา มา 3 ตัว ใหเรียงความแรง 6. ประเภทยาสเตียรอยดแบบทา 7. ตํารับครีมอะไรสักอยาง ถามวา Cetyl acohol ทําหนาที่อะไร กรณีศึกษาที่ 12 Migraine 1. ยาแกปวดชนิดใดถึงแมจะมีใบสั่งแพทยก็ซื้อไมได - Rofecoxib 2. ยาอะไรเปนยารักษา 3. การรับประทาน Ergotamine อะไรสักอยาง 4. Ergotamine เปนสารพวกใด เอาสูตรโครงสรางมาให - อัลคาลอยด 5. ใชยาอะไรปองกันได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
250
MCQ
กรณีศึกษาที่ 13 Bacteria Pharyngitis ผูปวยหญิง เจ็บคอ เสมหะเหลือง ไดยา Amoxy พารา แกไอละลายเสมหะ แลวก็ ยาพนจมูก 1. ขอใดไมถูกตอง - ยาทุกชนิดทานตามอาการ 2. ขอใดไมเปนการบอกถึงอาการติดเชื้อ 3. อยูๆ เกิด Rhinitis medicament คืออะไร 4. จะแกปญหาขอ 4 อยางไร - หยุดยา กรณีศึกษาที่ 14 Bacteria conjunctivitis 1. เกิดจากเชื้ออะไร 2. รูปแบบยาหยอดตา 3. ใหสูตรตํารับยาหยอดตามา หา meq/L ของอะไรสักอยาง กรณีศึกษาที่ 15 Diarrhea เด็ก 2 ขวบ ถายเหลว พุง คุณแมพามา พบเภสัชกร 1. ยาใดไมควรจาย- Loperamide 2. สมุนไพรใดใชรักษาอาการทองเสียได- เปลือกมังคุด 3. ยา 5 ตัวจะใชสถิติใดทดสอบ- anova ตอไปเปนอื่นๆ ไมรูวาอยู กรณีไหนนะ 1. Thiethanolamine ทําหนาที่ใดในตํารับ 2. Zeta Potential ขอใดถูกตอง 3. Rx สาร X 0.5 ml E = 0.23, NaCl x ml E = 0.1, q.s water 100 ml, Mft ad 30 ml จงหาปริมาณ X 4. สารละลาย NaCl 0.45 % 500 ml จงหา meq 5. เทียบบัญญัติไตรยางค ความหนาแนน ยา 6. สารที่ทําใหเม็ดยาแข็ง 7. Theobroma oil สกัดมาจากสารธรรมชาติใด 8. ให ขอมูลใน ฟารมาโคเปยมา ใหสารมาเยอะแยะ ถามวาเปนปฏิกิริยาใด 9. จากขอ 8 จะใชเครื่องมือ Assay .ใดวิเคราะห สรุปอีกที 1. ความรูเรื่องโรคก็มีบาง สวนใหญโจทยเจาะไปที่ ยา กลไกการออกฤทธิ์ ขอควรระวังผลขางเคียง 2. ขาวลือที่วา สาย Science จะเยอะขึ้นไมเปนความจริง สายไซนก็มีพอสมควรแตนอยเมื่อเทียบกับสาย Care 3. สมุนไพร ทองสาธารณสุขมูลฐานพอ ทําไดเลย 4. Law ประเภทยา เอาใหไดเลย มันไมยาก มีมาเยอะอยู 5. Economics ออก 2 ขอ Epidermiology ออก 1 Research 1 ขอ เพราะฉะนั้นก็อยาลืมวิชาพวกนี้ละกัน 6. medchem – assay ถาคนไหนไมไดเลยแบบพี่ไมตองไปเสียเวลาอาน มันยากหรืออานเฉพาะ เรื่องเดนๆพอ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
251
MCQ 1/2550 By POOK & MAI
Rx 17 SU Case 1 PU 1. กลไกของ cisapride คืออะไร Case 2 vaccine 1. vac. เชื้อเปนคือ....... (BCG) 2. คนที่หามไมใหรบั vac. 3. คนที่รับ vac. ได 4. เด็กเคยฉีด DTP แลวไขขึ้น (ประมาณ 40 องศามั้ง) แลวก็ชักดวย แผนการให vac. ครั้งตอไปคือ 5. pt. โดนหมากัดแตเคยฉีด rabies vac. ครบแลว จะตองใหการรักษาอยางไร อันนี้ choice จะเปนขอตอเนื่อง เชน ก. ลางแผล + betadine ข. ขอ ก + ฉีด tetanus ค. ขอ ข + ฉีด rabies 6. เทคนิคที่ใชในการผลิต vac. คือ Case 3 Migraine รูสึกวาผูปวยจะมาดวยอาการ ปวดหัวขางเดียว สูแสงจาไมไดนะ 1. ผูปวยเปนอะไร (ตองรูนะวา case นี้ with or without aura) หลังๆจะมีรายละเอียด Case เพิ่มขึ้น นาจะบอกวา pt. มีอาการคลื่นไส อาเจียน หมอให metoclopramide + Ibuprofen 2. หมอให metoclopramide เพื่ออะไร 3. ยาที่ใชปองกันการเกิดโรคนี้คืออะไร Case 4 Cystitis Pt. มาดวยอาการ ไมมีไข ปสสาวะไมออก ปสสาวะไมสุด ปวดทองนอย ไมแนใจวาปสสาวะแสบดวยปาว 1. จายยาอะไร กินยังงัย กินกี่วัน 2. pt. เปนอะไร Pt. กลับมาเปนอีก หลังจากอาการหายไปแลว ประมาณ 1 เดือน แตคราวนี้มีไขต่ําๆดวย 3. จายยาอะไร กินยังงัย กินกี่วัน 4. คําแนะนําที่จะใหกบั pt. คือ 5. การควบคุมคุณภาพของ capsule ตองดูอะไรบาง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
252
MCQ
Case 5 Cancer Pt. ไดรับยาสูตร CHOP บอก regimen ที่ใชมา, นน.ตัว pt. รวมๆก็ถามเกี่ยวกับปริมาณยาที่ใช ก็คํานวณงายๆ แลวก็ถาม s/e ของยา แตไมมีกลไกยาแนๆ Case 6 renal Pt. ทองเสียมั้ง มีคาlab มาให (บอกคาปกติมาดวย ยกเวนคาปกติของ urine) 1. เปนโรคอะไร (เขาอยากรูวาเราจําขอแตกตางของ prerenal, intrinsic ไดปาว เชน BUN/Scr >20:1 เปน อะไร) 2. อานคา lab แลวดูวามีโอกาสเปนอะไรไดบาง เชน hypokalemia , azotemia 3. ถามวาปสสาวะมีปริมาณเปนงัย (poly / oligo / normal/ anuria/….) ขอนี้เขาอยากรูวาเราจําคาปกติของ urine ไดปาว Case 7 Bacterial conjunctivitis 1. คํานวณ isotonic ตองเติมเกลือเทาไหร 2. คํานวณ isotonic ดูวาเปน hypo / hyper / isotonic แลวเกิดผลอยางไรกับ RBC Case 8 Acne case นี้ออกทุกปเลยนะ Case 9 Asthma Case 10 Allergic rhinitis Case 11 DM ออก 2 วันเลย จําไดวาตอนดูขอสอบเกาก็เปนแบบนี้ Case 12 Ishemic heart disease Case 13 Hyperlipidemia (ปจจัยเสี่ยงของโรคนี้) Case 14 NSAIDs Case 15 ยาคุม + HRT
ขอสอบใบประกอบ 1/2550 (วันที่ 2) Case 1 ริดสีดวง 1. ถามวาสูตรยาขอใดไมใชรักษาโรคนี้ แตละ choice ก็จะเปนสวนประกอบของยาแตละตัวที่ขายอยู 2. ใชสารอะไรในการแชกน KMnO4 3. ปจจัยเสี่ยงของ pt. รายนี้ (พิจารณาจาก case) 4. คํานวณ DV 5. ขอนี้เปนขอสอบเกา Pt. ตองการทราบความคิดเห็นของเภสัชกรเกี่ยวกับยาแผนโบราณที่ใชรักษาโรคนี้ ปกด. เพชรสังฆาต อัคคีทวาร โกฏกักกรา โกฏน้ําเตา กินครั้งละ 15 เม็ด วันละ 3 ครั้ง กอนอาหาร ขอใดถูก เกี่ยวกับยาดังกลาว ก. ฤทธิ์ทาง P’co คือ ชวยระบายและลดการอักเสบ ข. ขนาดยาที่ใชสูงเกินไป อาจเกิดตับอักเสบได ค. เปนยาลูกกลอนไมสามารถดูดซึมไดทาง GI ง. ยาแผนโบราณสูตรผสมใหผลการรักษาที่ดีกวาสูตรเดี่ยว จ. สนง.สาธารณสุขมูลฐาน ไมแนะนําใหใชสมุนไพรรักษาอาการริดสีดวงทวาร 6. นี่ก็ขอสอบเกา รายโจทยประมาณ 2 บรรทัด แลวถามวา อุบัติการณ มีความหมายวาอยางไร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
253
MCQ
Case 2 Hypothyroid รูสึกวาจะมีคา Lab มาใหนะ ดูแลวจะพบวาคา FT4 มีคาต่ํา TSH มีคาสูง 1. เปนโรคอะไร 2. ถาเปนมากๆ / ไมรักษาจะเปนอะไร (Myxo……) 3. โรคนี้เกี่ยวของกับ / เกิดจากอะไร (Hashimoto….) 4. drug of choice (levothyroxine) 5. สูตรโครงสรางของสารที่จับกับ receptor ไดดีที่สุด (I ตองอยูที่ตําแหนงไหนบาง, กรดอะมิโนตองอยูในรูป D หรือ L หรือ DL form) 6. สารที่ออกฤทธิ์ไดดที ี่สุด (ชื่อเต็มของ T3 ดูดวยนะวา 3’ หรือ 5’ หรือ.......) 7. ถามวาขอใดถูก (รูสึกวา choice จะเกี่ยวกับ therapy นะ เชน ติดตามการรักษาจากระดับ TSH หลังใหยา 4-6 อาทิตย และปรับขนาดยา) Case 3 Glaucoma Pt. มีอาการตามัว ปวดตามาก สูแสงไมได ไมมีโรคประจําตัว 1. pt.เปนอะไร 2. คําแนะนําที่จะใหกับ pt. เชน เกิดจากอะไร , ใชยาใดไดบาง 3. ถามวาจะจายยาใด / ถามกลไกยา ( ไมแนใจอะ) 4. ยาที่ไมมีขอหามใชใน pt.รายนี้ 5. sterile ยาตาดวยวิธีใด 6. ยาตาที่เปนยาสามัญประจําบานคือ........... 7. ใหคาการละลาย, pKa ของ atropine, atropine sulfate มาถามวาขอใดถูก (อันนี้ก็ดูจากขอมูลที่เขาใหมา แต ตองรูวา pH ตองมากกวา / นอยกวา pKa สารจึงจะแตกตัว) Case 4 Depression โจทยบอกมาเลยวาเปนอะไร หมอจายยาอะไรบาง (รูสึกจะจาย 3-4 ตัว) กินยังงัย เทาที่จําไดก็มี fluoxetine กินกอนนอน / ตอนเย็นนี่แหละ แลวก็ amitrip. หลังจากนั้น pt. ก็กลับมาบอกวานอนไมหลับ 1. ยาที่นาจะทําใหเกิดปญหาคืออะไร 2. จะแกไขอยางไร (ใหเราปลี่ยนวิธีการกินยานะ) 3. กลไกของ SSRIs คือ.............. 4. ถามเกี่ยวกับกฎหมายประมาณวา ยานี้จายไดไหม ถาไมไดเพราะอะไร ตองมีใบสั่งแพทยไหม (ขอนี้มี fluoxetine ดวย ออกทั้ง MCQ & OSPE เลย) Case 5 Toxicology บอกอาการของ Pt.มา แตไมแนใจวาบอกมาเลยปาววาเปนพิษของ para. 1. มีกราฟมาให ถามวาพิษที่เกิดอยูชวงไหน 2. Antidote คือ 3. func. Group ที่ออกฤทธิ์ของ antidote 4. ใหสูตรยามาถามวา เปนยารูปแบบไหน (ตอบ effervescent อะ) 5. Dead mixture คือ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
254
MCQ
Case 6 DM + hyperlipidemia 1. pt.เปนทั้ง 2 โรคตองจายยาลดไขมัน กับยาเบาหวานตัวไหน 2. ทําไม NPH ถึงเปน intermediate 3. pt. ตองระมัดระวังสมุนไพรตัวใด (คิดวาตองระวังสมุนไพรที่ลดระดับน้ําตาลในเลือดนะ) Case 7 HIV + TB บอกอาการมาเกือบครึ่งหนา แตพอสรุปไดวาPt. มีอาการลิ้นเปนฝา และเปนเอดส 1. Opportunistic infection จากเชื้อ 2. ภูมิคุมกันตอนแรกที่ติดเชื้อเอดสเปนงัย เชน CD4/ CD8 ที่มีคาสูงขึ้น???? 3. ยาตัวไหนที่มีผลตอ metabolic (กลุม PIs) อยาลืมนะวา abacarvir อยู NRTIs Case 8 ผื่นแพ 1. เภสัชกรตองจาย Calamine lotion แตเมื่อหยิบยาจากชั้นพบวายาเปนกอนแข็งอยูดานลาง ดานบนเปน ของเหลวคอนขางใส เขยาเทาไหรก็ไมกระจายออกมา ปรากฏการณนี้เรียกวา........ 2. ปรากฏการณขางตนมีสาเหตุมาจาก ก. สัดสวนของผงยาตอน้ํากระสายยาไมเหมาะสม ข. ใชผงยาที่เปนกอนหยาบไมละเอียดพอในการเตรียมยา ค. Emulsifier ไมเหมาะสมหรือไมเพียงพอที่จะแขวนตะกอนได ง. ไมไดใช flocculating ในตํารับ หรือใชผิดชนิด จ. เก็บรักษาไมดี เชนเก็บไวในที่อากาศรอน Case 9 กลาก / เกลื้อน Case 10 Traveler diarrhea (เกิดจากเชื้ออะไรมากสุด, จายยาอะไร) Case 11 HRT Case 12 HTN Case 13 RA + OA Case 14 Sinusitis Case 15 URI วันที่สองคอนของออกทางกฎหมายเยอะมากมาย ก็ดูประเภทของยามาไวละกันเพราะ OSPE ก็ใชไดนะ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
255
MCQ
MCQ 7 มีนาคม 2550 By…Phung Case 1 ผูปวยเปน angina จะเจ็บหนาอกตอนออกกําลังกาย แพทยวินิจฉัยวาเปน stable angina 1. แพทยควรจายยาใหผูปวยอยางไร 1) แผนแปะ NNT 24 hrs. 2) Nitrate 2 เวลา เชา – เย็น 3) Nitrate 4 เวลา 4) Nitrate sublingual เมื่อมีอาการ 5) Nitrate + Sublingual เมื่อมีอาการ 2. ขอใดถูกตองในการกิน Nitrate 1) หยุด Nitrate เมื่อปวดหัว 2) หากปวดหัวใหกินตอ และ add para เสริม 3) เคี้ยว Subling ใหละเอียดกอนกลืน 4) ถาใหออกฤทธิ์เร็ว เคี้ยว IS mononitrate ใหละเอียดกอนกลืน 3. กลไกของ Nitrate 1) ลด preload และ ลด afterload เพื่อใหหัวใจทํางานดีขึ้น 2) ลด preload & ลด afterload เพื่อใหหัวใจทํางาน.... 4. มาขอซื้อยาใหเพื่อนที่เปนเหมือนกันที่รานยาของเรา - ไมจายนะตองใหไปหาหมอ 5. ยา Sublingual (Nitrate) เปนยาประเภทใด จายไดอะปาว - เปนยาอันตราย จายไดโดยเภสัชกรครับ 6. ขอใดผิด - หัก Isosorbide mononitrate SR กิน 7. ถาผูปวยตองผาตัดเปลี่ยนหัวใจ แตไมมีเงินจะแนะนําอยางไร ผูปวยมีบัตรทองนะ - บอกใหไปโรงพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนไว แลวไปเอาใบสงตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ ๆ ที่สามารถผาให เสียเฉพาะคาธรรมเนียม Case 2 ผูหญิงคนหนึ่งไดรับยาเยอะมาก ๆ เกี่ยวกับสิว ทั้ง Isotretinoin (Roacc) , Benzoy peroxide ทา, Doxycyclin กิน , Clinda ทา , Erythro cream , Ratin A 1. Erythro cream ขอใดผิด 1) เปน emulsion 2) มีทั้งชอบน้ํา & ชอบน้ํามัน 3) เหนอะหนะ ลางออกยาก 2. Doxycycline ออกฤทธิ์อยางไร - จับกับ 30 S. 3. ถาผูปวยเคยแพ Spiramycin มีโอกาสแพยาตัวใด – Erythro cream 4. ถาเอาใบสั่งมาซื้อที่รานขายยาจะเปนอยางไร – ไดยาไมครบ เนื่องจากมียาควบคุมพิเศษ (Isotretinoin) 5. ถาไมมี Doxy จะจายอะไรใหแทนดี 1. Clinda 6. คนขางบานอายุ 56 ป มี Mens เปน ๆ หาย ๆ มา 3 ป ชองคลอดแหง จายอะไรดีที่สุด 1) HRT แบบกิน 2) estrogen ทาชองคลอด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
256
Case 3 เกี่ยวกับยาคุม 1. ขอใดผิด 1) estrogen & progesterone ทําใหมดลูกไมเหมาะกับการฝงตัว 2) estrogen ทําใหมูกปากมดลูกขน อสุจิผานยาก 2. ไดยาคุมไปใชแลวสิวขึ้น เจ็บหนาอก กลับมาหาใหม จายอะไรดี ผูปวยไมมีโรค แตมีประวัติคนในครอบครัวเปนมะ เร็วเตานม 1) ใหไปคุมกําเนิดดวยวิธีอื่น 2) EE 35 mcg + Cyproterone acetate 2 mg. 3. Progestin ตัวไหนใชรักษาสิว : Cyproterone acetate กับ Drospirenone 4. Progestin ที่เปนอนุพันธของ Spirolactone : drospirenone. 5. Phytoestrogens มีในไหน 1) กวาวเครือแดง + ถั่วเหลือง 2) กวาวเครือแดง + กวาวเครือขาว + ถั่วเหลือง 3) กวาวเครือแดง + แครอท 4) กวาวเครือขาว + ถั่วเหลือง 6. ยาคุมเปนยาประเภทใด : ยาอันตราย จายโดยเภสัชกร Case 4 หญิงฉี่กระปริดกระปรอย อั้นฉี่บอย 1. เปนโรคอะไร : Cystitis 2. เกิดจากเชื้อ : E-coli 3. จะจายยาอันไหน 1) TMP / Sulfamethoxazole 80/400 2 x 2 …..days. 2)TMP / Sulfamethoxazole 160/400 1 x 2 3 days. 3) TMP / Sulfamethoxazole 160/400 1 x 2 3 days. 4. หลัง 1 เดือน กลับมาหาใหมดวยอาการเดิมควรให : Norfloxacin 400 mg. 1 x 2 7 days. Case 5 ผูปวยไดยา Enarapil & ยาเบาหวาน admit ดวยอาการทองเสีย ถายมา 5 ครั้ง หลังตรวจไดคา Lab Bun สูง..... Urea 600 กวา ๆ / day 1. ผูปวยเปนอะไร 1) intrinsic renal failure 2) function renal failure 2. ผูปวยอยูในภาวะใด 1) anuria 2) Oliguria 3) non-oliguria 3. รักษาเบื้องตนอยางไร 1) Furosemide 2) Fluid repla cement 3) peritoneal dialysis 4. ใหคํานวณเกี่ยวกับ Calcium gluconate Case 6 Vaccine 1. Vaccine ที่เด็กไทยทุกคนตองฉีด ยกเวนขอใด choice 1. MMR , 2. Hep B , 3…
MCQ 8 มี.ค. 50 ที่พอจะนึกออกนะ 1. ถามวาผูปวย AIDS ระยะเริ่มตนจะเปนอยางไร ≈ วา CD4 , CD8 , T-helper อะไรเพิ่ม - ลด 2. ถามสูตร GPO vir วาประกอบดวยอะไรบาง ----- อยาลืมดูชื่อเต็มดวยนะ 3. ยาตัวไหนที่ S/E
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
1. 2. 3. 4. 5. 6.
7.
8. 9. 10. 11. 12. 13.
14.
MCQ
257
ขอสอบ MCQ แบบไมเรียงเปน case การทําเจลที่ใชคารโบพอลเปนสารกอเจล ควรใชสารเพิ่มความหนืดตัวใด ตอบ Triethanolamine case DM type II ผูปวยอวน (คํานวณ BMI เอง) และเปนโรคไต (คํานวณ CrCl เอง) ควรใชยาตัวใด ตอบ Metformin กับ Rosiglitazone Case thyroid ผูปวย TSH สูง T3 , T4 ต่ํา ถามวาถาปลอยระดับ Thyroid เปนแบบนี้จะมีความเสี่ยงตอโรคใด ตอบ Myxedemqa storm สมุนไพรขี้เหล็ก เลิกใชเพราะ เกิดพิษขอใด ตอบ Hepatotoxic ขอใดเปนโครงสรางของ Dexamethasone choice จะมีโครงสรางมาใหก็เลือกตัวที่มันมีโครงสราง Steroid (มันมีตวั เดียวใน choice) ใหโครงสรางของ enalapril และ enalaprilat มา แลวถาม 6.1 โครงสรางใดเปนโครงสรางที่ออกฤทธิ์ในรางกาย 6.2 enalapril ถูก met ดวย enzyme ใด ตอบ cholinesterase Choice มันมี 1) Amidase 2) Cholinestenese 3) Amidase และ Cholinesterase อีก 2 choice มันไมนาจะเกี่ยวเลย เพราะมันมีแค COOH กับ CO NTT ที่นาจะถูกตัดได ถาถูก 6.2) ก็จะถูก 6.1 ดวย ขอใดมี phytoestrogen 1) ถั่วเหลือง กวาวเครือแดง 2) กวาวเครือขาว กวาวเครือแดง 3) กวาวเครือขาว ถั่วเหลือง 4) กวาวเครือขาว กวาวเครือแดง ถั่วเหลือง Choice 5 จําไมไดแตมันผิด สมุนไพรใดชวยในการเจริญอาหาร ตอบ บอระเพ็ด (choice อื่นจําไมได) หองผลิตวัคซีน Class ใด ตอบ เลือกเองระหวาง 100 กับ 10,000 บุคคลในขอใดหามฉีดวัคซีน ตอบ อาน sheet วัคซีนดี ๆ บุคคลในขอใดหามฉีดวัคซีนที่มีชีวิต ตอบ อาน sheet วัคซีนดี ๆ ถาจะตองฉีดวัคซีน DDT (คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก) และหยอด OPV แตเด็กมีไขตองทําอยางไร ตอบ ฉีด DT ไดเลย แต P ตองรอใหหายไขกอน สวน OPV หยอดไดเลย Case HIV ถามวาขอใดเปนเชื้อที่ทําใหเกิด OI ในผูปวย HIV ตอบ Candida albicans ใน case OI ที่เปนคือ TB แตคําถามมันไมเกี่ยวกับ Case มีคนตอบ Mycoplasma avium เยอะเหมือนกัน GPO VIR ประกอบดวยยาอะไรบาง ตอบ Stavudine (d4T) , Lamivudine (3 Tc) , Nevirapine (NVP)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
258
MCQ
15. case DM สมุนไพรใดมีผลตอระดับน้ําตาลในเลือด ตอบ มะระขี้นก 16. ใหโครงสราง Ritronavir มา มี N H เยอะมาก ถามวาขอใดผิด ตอบ ที่มันมีละลายน้ํานอย 17. คาการละลาย 4 : 1 หมายถึงอะไร ตอบ ยา 4 g ละลายไดหมดในน้ํา 1 ml ตัวหลอกเปน 4 g ละลายในน้ํา 1 g อะไรประมาณนี้ 18. ขอใดถูกเกี่ยวกับยากลุมควิโนโลน ตอบ ยากลุมควิโนโลน จับกับ ion 2+ , 3+ แลวทําใหยาถูกดูดซึมไดนอยลง (ประมาณนี้) 19. ยาตามขอใดเปนยาสามัญประจําบาน ตอบ Sulfacetamide Na eye drop 20. กลไกการออกฤทธิ์ของ Cisapride (Prokinetic) คําตอบยาวมากแตตอบวา เกี่ยวกับ A.ch ( block 5-HT2 receptor จริงแตในคําตอบยังไมพูดถึง receptor และกลไกของกลุม Prokinetic มันเกี่ยวกับ A.ch) 21. การควบคุมคุณภาพ Capsale มีอะไรบาง จํา choice ไมได หาเอาเอง 22. คํานวณการปรับ isotonicity ออก 2 ขอ ทั้งแบบที่เติม 0.9% NaCl จน Solution เปน isotonicity และ แบบที่เติมน้ํากี่ cc เพื่อใหได Solution เปน isotoricity 23. คํานวณหาจํานวน capsule ที่จะตองนํามาทําเปน Solution (จําไดวา ตอบ capsule) 24. คํานวณ A= ahc (เรื่อง UV-spectro) หา % label amount (ตอบ 90%) 25. คํานวณปริมาณยาตอ 1 ชอนชา ของ Amoxy dose เทาไหร 26. คํานวณการแทนที่ยาพื้น หาปริมาณยาพื้นที่ตองเติมลงไปในยาเหน็บ ระวังอยาจําสับสนกับการคํานวณ isotonicity 27. NSAIDS มีผลตอเสนเลือดใดในไต ตอบ efferent arteriole 28. สิ่งใดเปนตัวที่ทําให NPH ออกฤทธิ์ยาวนานขึ้น ตอบ protamice 29. Case ยาคุม กินยาคุมที่มี EE (ปริมาณเทา dian-35) + Levonorgestrel แลวอวน และมีสิว จะแกไขอยางไร เพื่อน ๆ มันตอบกันวา เปลี่ยนเปน EE dose เทาเดิม + cyproterne acetate แตบางคนก็ตอบ ลด dose EE ลง + Levonorgestrel เพิ่มขึ้น 30. เภสัชกรจายยา cytotec (mesoprostol) ในรานยาผิดจรรยาบรรณขอใด ตอบตางกัน หาคําตอบเองละกัน 31. Case para overdose มีกราฟใหหาชวง status ของผูปวยขอหนึ่ง อีกขอถามวา สารพิษที่เปนอันตรายตอตับเกิดจากกระบวนการใด = glucuronidation 32. Case UTI เปนแบบ Lower UIT จายยา กี่วัน (3 วัน) หายแลวกลับมาอีกครั้งดวยอาการไขออน ๆ ผูชายคนนี้เปน อะไร Choice ก็ประมาณวา 1) uncomplicated lower-UTL , 2) complicated Lower UTI , 3) uncomplicated upper UTI , 4) complicated upper UTI จํา choice 5) ไมไดแลว ขอตอไปก็ถามวาจะจายยาอะไร choice จะเปนชื่อยา dose (ถูกตอง) และวันตาง ๆ กัน 3วัน, 5 วัน , 7 วัน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
259
MCQ
Case ที่ออก AIDS UTI DM type I Hemorrhoid DM type II มี Hypertension ปน โรคผิวหนัง : เกลื้อน Open angle glaucoma common migraine Thyroid : Hypothyroidism สิว Vaccine : case เปนคนถูกหมากัด (Rabies) ยาคุม และ HRT Paracetamol overdose 33. Case Hemorrhoid 1.1 จะรักษาโดยการนั่งแชน้ําที่ผสมดวยสารใด ตอบ KMnO4 1.2 ขอใดไมใชสูตรยาเหน็บรักษาริดสีดวงทวาร มันมี choice ที่ประกอบดวย ยาชา/พวก flavonoid ทั้งนั้นแหละ แตมีขอหนึ่งมันมีพวกเผ็ดรอน เชน capsicin เลย ตอบขอนี้เลย 34. Case HRT ผูปวยหญิงในชวง menopause นี่แหละมาดวยอาการชองคลอดแหงจะรักษาอาการผูปวยนี้อยางไร ตอบ ใหฮอรโมนแบบเฉพาะที่
MCQ 1/2551 กรณีศึกษา: ผป.หญิงอายุ 45 ป มีประวัติเปนแผลในกระเพาะอาหาร มีอาการของ Rheumatoid Arthritis ไดรบั การวินิจฉัย วาเปน RA การรักษาที่ควรไดรับคือ...... 1. NSAIDs ตัวใดที่ผป. ควรไดรับ? [Celecoxib] 2. ยาที่เปน Enteric coated มีการออกฤทธอยางไร a) แตกตัวในสภาวะเปนกรด ไมแตกตัวในสภาวะเปนดาง b) แตกตัวในสภาวะกรดกลาง ไมแตกตัวในสภาวะเปนดาง c) ไมแตกตัวในสภาวะเปนกรด แตกตัวในสภาวะเปนดาง d) ไมแตกตัวในสภาวะเปนกรด กลางและดาง e) แตกตัวในสภาวะเปนกรด และดาง 3. อาการไมพึงประสงคชนิดใดไมใชจากกการไดรบั Gold a) Bone marrow suppression b) Proteinuria c) Stomatitis d) เหงือกโต e) เปนพิษตอไต
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
260
• เพราะเหตุใด Cetirizine จึงไมทําใหงวงนอน a) เนื่องจากไมผาน BBB เขาสูสมอง b) จําเพาะตอ H1 Receptor จึงไมมีฤทธิ์ทําใหงวง c) ออกฤทธิ์ที่เฉพาะทางเดินหายใจ d) ............................................................ • Dextromethrophan D-form ที่เปนอนุพันธของ..................ทําไมจึงนิยมทําเปนรูปเกลือ Hydrobromide a) เพิ่มคาการละลาย b) เพื่อใหเกิดเปนสารประกอบเชิงซอน c) เพื่อใหคงตัวในสารละลาย d) ลดการเกิด Isomerization e) ........................................................... • ผูที่กิน มังสาวิรัติ เปนประจําจะขาด Vitamin ใด [B12} • Calcium ใน form ไหน ให Calcium มากที่สุด
[Ca carbonate]
• ยาใดทําใหเกิดฝา • กลไกการออกฤทธิ์ของ Ergotamine (choice ยาวมากจําไมได จําไดแตมี 5 ขอ....ลองอานดูละกันนะ) • โครงสรางของ Ergotamine กับ Ergorine คุณสมบัติตางกันอยางไร (ขอนี้ใหสูตรโครงสรางของทั้งสองตัวนั้นมา แลว ถามวาที่มันตางกันนะ มันทําใหมีคุณสมบัติตางกันอยางไร......จําโครงสรางไมไดคะ) • จงคํานวณ Odd Ratio (ใหเปนตารางมาเลยพี่นอง ใครคํานวณเปนสบายมาก) • SE ของ a) b) c) d) e)
Phenytoin ขอใดที่สัมพันธกับระดับยาในเลือด Gingival hyperplasia Hepatitis Rash Ataxia Hyponatremia
• ยากันชักตัวใดมีผลเพิ่มระดับยาตัวอื่น ใองจากใชเอนไซมตัวเดียวกัน a) Phenytoin b) Valproate c) Phenobabital d) Carbamazepine e) Gabapentin
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
261
• ขอใดคือผลขางเคียงที่สําคัญของ Haloperidol a) งวงนอน b) คอแหง ปากแหง c) Extrapyramidal reactions d) Postural hypotension e) คลื่นไส อาเจียน • ทําไมตองจาย Benhexol (สงสัยจายรวมกับ Halo นะ) a) ชวยรักษาโรคจิตใหดีขึ้น b) ชวยลดอาการขางเคียงจากยา คือ ปากแหง คอแหง c) ชวยลดอาการ Extrapyramidal d) ชวยลดอาการ Postural hypotension e) ชวยลดระยะเวลาการรักษาใหส้ันลง • กรณีศึกษา: ผป.มีอาการเปน cystitis ธรรมดาๆๆ. 1. เรียกวาเปนอาการของโรคอะไร 2. เกิดจากเชื้อใด
[Uncomplicate cystitis] [E. coli]
• สูตร GPO-vir ประกอบดวยอะไรบาง
[d4T + 3TC + NVP]
• Saquinavir 200 mg สามารถซื้อไดจากที่ไหนบาง a) คลินิก รานยา โรงพยาบาล b) รานยา โรงพยาบาล c) คลินิก โรงพยาบาล d) โรงพยาบาล e) – (คนพิมพไมเขาใจเหมือนกันวาไมมีที่ไหนซื้อไดเลย หรือจําไมได) • ผูปวยรายนี้มีอาการแผลในปาก ขอใดไมใชการรักษาอาการขางตน a) Cotrimazole b) Nystatin c) Metronidazole d) Ciprofloxacin e) Ketoconazole • การละลายของยา_______________________ที่มี Propyline glycol, Sorbitol, Tween 80, ...........................................จัดวาเปนสารละลายแบบใด a) Cosolvent b) Complexation
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
• จาก Sedimentation date ตํารับยา A, B ที่เภสัชเตรียม ขอใดถูกตอง Day Drug A 1 98 ± 0.1 15 84 ± 1.1 30 80 ± 0.2 a) b) c) d)
MCQ
262
Drug B 98 ± 0.1 95 ± 0.2 92 ± 0.1
ไมควรนํายา A และ B ที่ขายตามทองตลาดมาเตรียมเปนยาน้ํา ตํารับ A คงตัวกวาตํารับ B ยา A เมื่อเวลาผานไป 15 วัน ยา A ยังสามารถใชไดอยู โดย % ตองอยูในมาตรฐาน ยา B สามารถเก็บไดมากกวา 30 วัน โดย % ตัวยายังอยูในมาตรฐาน
• โอกาสการเกิด ADR ของยา Norfloxacin 1% หมายความวาอยางไร c) Incidence d) Prevalence e) Mortality rate f) Morbidity rate g) Incidence + Morbidity rate • ขอใดผิด In
1/T (K)
a) b) c) d) e)
เปนอาริเนียส อีเควชั่น ใชคํานวณอายุของยา ใชทํานายการคงตัวของยาเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิหนวยเปน องศาเซลเซียส เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น คาคงที่ของการสลายตัวของยาจะเพิ่มขึ้น
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review • Dissolution 1 S1 65 S2 65 S3 65 65
2 44 44 70 65
MCQ
263
3 66 66 65 64
4 65 65 65 66
5 70 70 70 65
6 67 67 67 64 คาเฉลี่ย 12 tabs = 62.5 คาเฉลี่ย 24 tabs = 65
ตามมาตรฐาน USP 27 Q = 60% S1 ตอง Q + 5% ทุกเม็ด S2 12 tabs (S1 + S2) ตองมี Q นองกวา Q – 15 ไมเกิน 2 tabs S3 24 tabs ตอง.................................................................................. ขอใดถูก? ( ดูตาม USP ที่ใหมาเลยคา) a) ไมผาน S1 b) ผาน S1 c) ผาน S2 d) ผาน S3 e) ขอมูลไมเพียงพอ Case SLE 1. ในฐานะที่ทานเปนเภสัชกร ทานมีขอแนะนําคนไขในการลดหรือปองกันผื่นแดงบนใบหนา 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด 2. ใชครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป 3. หยุดใชเครื่องสําอางค 4. 1 และ 2 5. 2 และ 3 2.ในฐานะที่เปนเภสัชกร หากคนไขมีอาการนอนไมหลับ ทานจะแนะนําอยางไร 1.ใช sedative antihistamine 2.ใช TCA 3.(เพื่อนลืม) 4.ใช antihypnotic 5.ไมจายยาแนะนําใหไปพบแพทย 3. สมุนไพรใดที่ชวยใหนอนหลับ 1. มะขามแขก 2. ฟาทะลายโจร 3. ชุมเห็ดเทศ 4. ขี้เหล็ก 5. สะเดา 4..ตามกฎหมายไทยในปจจุบันยากลุมใดที่ตองใชใบสั่งแพทยในการจายยา (เพื่อนฝากพิมพอีกเชนเคย) 1.antipsychotic drugs 2.hypnotic drugs กลุม BZD 3.antidepressant กลุม SSRI 4.Melatonin receptor agonist 5.ถูกทุกขอ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
264
Case TB 1. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการรักษาวัณโรค 1.การตรวจเสมหะเปนวิธีที่งาย ประหยัด แตไมเฉพาะเจาะจง 2.ผุที่ควบคุมเบาหวานไมดีเปนสาเหตุทําใหเกิดความชุกของวัณโรคมากขึ้น 3.ผุที่ใชยากดภูมินานๆจะมีสิทธิติดเชื้อวัณโรคไดงาย 4.หลักการรักษาวัณโรคคือปองกันไมใหติดตอไปสุคนอื่น+ลองทดสอบประสิทธิภาพยาโดยใชเวลาสั้น 5.การรักษาวัณโรคคือใชยาขนาดสูงสุด+ใชเวลานานๆ 2.ถานางเกวลิน ไดรับยาดังกลาวจากขอขางตน และเปนผูปวยไตวาย ยาที่ไดรับในขอใด ไมตองปรับขนาดยา 1.Isoniazid, Rifampicin, Pyrazinamide 2.Rifampicin, Pyrazinamide, Streptomycin 3.Isoniazid, Pyrazinamide, Ethambutol 4.Rifampicin, Ethambutol, Streptomycin 5.Isoniazid, Streptomycin, Ethambutol 3..ยารักษาวัณโรคในหญิงทองและใหนมบุตร ผูหญิงกินยาคุมกําเนิด ขอใดไมถูกตอง 1.ผูหญิงทองให PZA ได 2.ถากิน cat 1 ใหเลือกยาคุมที่มีเอสโทรเจนต่ํา 3.หญิงใหนมบุตรกินยารักษาวัณโรคไดทุกชนิด 4.หญิงทองคิดขนาดยาตามน้ําหนักกอนทองและใหวิตามินบี 6 รวมดวย 5.หญิงทองไมใช streptomycin Case contraceptive 1. ขอตอไปนี้ ขอใดไมตองนํามาพิจารณาในการตัดสินใจใช ฮอรโมนคุมกําเนิด 1. สูบบุหรี่ 2. เบาหวาน 3.ภูมิแพ 4.ไมเกรน 5.เคยผาตัดcyst ที่เตานม Case RA Case นางกวิตา อายุ 58 ป ปวดขอเขาซายจากขอเสื่อม กิน Diclofenac 25 mg 1x3 1. นางกวิตาควรปฏิบัติอยางไร เพื่อลดการเกิดขอเขาเสื่อม 1.) ลดการกินเครื่องในสัตว 2.) ลดการกินผลไมรสเปรี้ยว 3.) ลดการกินผักดิบ 4.) กินผักใบเขียวใหมากขึ้น 5.) กินนมและผลิตภัณฑจากนมใหมากขึ้น 2.ขอใดกลาวไมถูกตอง 1.โรค RA จะมีอาการปวดบวมแบบ symmetry inflammation 2.โรค OA มักเกิดกับขอใหญ เชนขอเขา 3.การตรวจโรคเกาตจะตรวจผลึกที่บริเวณ joint fluid 4.ยา colchicine สามารถใชไดในผูปวย RA 5.ผูปวย RA จะมีคา RA factor เพื่มขึ้น 3) ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับขอระวังในการใช Diclofenac 1. ระวังการใชในผูปวย peptic ulcer เนื่องจากอาจทําใหมีเลือดออกในกระเพาะมากขึ้น 2. หามใชในผูปวยที่กําลังตั้งครรภ 3. หามใชในผูปวยโรคไตที่มี Crcl < 30 ml/min
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
265
4. หามใชในคนที่เปนโรคหัวใจ เนื่องจากเพิ่มการตายจาก MI 5. ทุกขอเปนขอควรระวัง 4. ถาไมจาย Prednisolone จาย antimaralial แทน เพราะอะไร ก. autoantibody ข. immunosuppressive ค. antiinfect ง. ลดปวด ลดผื่นแดง จ. ไมมีขอถูก 5.จากตารางการละลายขางตนทานจะแนะนําผูปวยอยางไร 1. หามรับประทานพรอมนม 2.(เพื่อนลืม) 3.หามทํางานที่เกี่ยวกับเครื่องจักร (ประมาณวาทําใหงวงซึมมั้ง) 4.หามรับประทานพรอมยาลดกรด 5.รับประทานน้ําตามมากๆ Case IBS นายสมัคร อายุ 28 ป มาดวยอาการปวดทอง ไมสบายทอง ทองอืด ถายที่ผิดปกติ 1. ไมควรสั่งจายยาใดใหกับผูปวยรายนี้ 1. Lactulose 2. Psyllium 3. Tegaserod 4. Cisapride 5. Lipochol 2. ขอใดไมใชคาํ แนะนําสําหรับผูปวยโรคลําไสแปรปรวน ก. หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน ข. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล ค. หลีกเลี่ยงการรับประทานไยอาหาร ง. เรียนรูวิธีการจัดการกับความเครียด ง. ออกกําลังกายสมําเสมอ 3. case ผูปวยชาย เปน IBS เราจํารายละเอียดไมไดอะ ประมาณวา ทองอืด ระบบขับถายไมปกติ ถามวาอาหารใดไมใชสิ่งตองหาม(ถามกวนทีนมาก แทนที่จะถามวาอาหารใดควรทาน) 1.Fructose 2.Sorbitol 3.Isphasigula(ไมแนใจสะกดถูกปาว) 4.นม 5.Gluten Case DM 1. ผูปวยหนัก 70 kg. Vd ของ metformin = 0.1 L/kg., T1/2 = 6 hrs. หา การขจัดยาออกจากรางกายทั้งหมดสําหรับ metformin (total body clearance) 1. 1 ml/min 2. 13 ml/min 3. 26 ml/min 4. 80 ml/min 5. 100 ml/min 2. Glyburide มีผลการรักษาเทียบเทา Tolbutamide แตใชขนาดต่ํากวา 100 เทา 1. Glyburide มี efficacy ดีกวา Tolbutamide 2. Glyburide มี efficacy นอยกวา Tolbutamide 3. Glyburide มี potency ดีกวา Tolbutamide 4. Glyburide มี potency เทากับ Tolbutamide 5. สรุปไมได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
266
MCQ
3. recombinant insulin ตางกับ animal insulin อยางไร 1. animal insulin จะแพงายกวา 2. recombinant insulin ออกฤทธิ์นานกวา animal insulin 3. recombinant insulin แรงกวา animal insulin 4. recombinant insulin ตนทุนต่ํากวา animal insulin 5. ถูกทุกขอ 4.เภสัชกรควรแนะนําการบริหารยา insulin แบบฉีดอยางไร 1.สามารถฉีด IV ใตทองแขนเพื่อใหออกฤทธิ์ดีขึ้น 2.เขยาแรงๆ เพื่อใหยากระจายดี 3.เก็บในตูเย็น เพื่อกันการสลายตัว 4.เก็บในที่เย็นพนแสงเพื่อลดการสลายตัว 5. เพื่อนคงลืม 5. Insulin มีหลายบริษทั ถาทานเปนเภสัชกรทานจะเลือกจากมาตรฐานใด ก. ที่มาของ Insulin ข. ราคา ค. ประสิทธิภาพการรักษา ง. เปรียบเทียบราคากับประสิทธิภาพการรักษา จ. มาตรฐานโรงงาน 6. ขอใดไมใชหนาที่ของเภสัชกรที่ปฏิบัติการในสถานที่ผลิตยาแผนปจจุบัน ก. ขายยาตามที่กฎหมายกําหนด ข. อยูที่สถานผลิตยาตลอดเวลาที่กําหนด ค. ปฏิบัติเกี่ยวกับฉลากที่กฎหมายกําหนด ง. ผลิตยาใหถูกตองตามตํารับยาที่ขึ้นทะเบียนไว จ. ทุกขอเปนหนาที่ของเภสัชกรในการปฏิบัติการในสถานที่ผลิตยาแผนปจจุบัน Case Malaria นายสมชายพาเพื่อนชาวอเมริกามาพบเภสัชกรวา เพื่อนตองการเดินทางไปจังหวัดจันทรบุรี ตองการปรึกษาเกี่ยวกับโรค มาลาเรีย 1. ขอใดไมใชเชื้อที่กอใหเกิดโรคมาลาเรีย 1. P. vivax 2. P. falcipalum 3. P. ovalae 4. P. malariae 5. P. Bergae 2. citronella oil spray solvent อะไร 1. purified water 2. acetone 3. ethyl alcohol 4.(เพื่อนคงลืม) 5.chloroform 3. การรักษาโรคมาลาเรีย แพทยบางทานใชยา tetracycline รวมกับ quinine สําหรับผูปวยที่ติดเชื้อมาลาเรียที่ดื้อตอยา หลายชนิด (multi-drug resistance) สารเจือจาง (diluent) ในการตั้งสูตรตํารับยาแคปซูลชนิดแข็งของ tetracycline 250 mg 1. spray dried lactose 2. microcrystalline cellulose 3. tapioca starch 4. Dibasic calcium phosphate 5. mannitol 4. โรงงานผลิตยาแหงหนึ่งใชเครื่องบรรจุแคปซูลกึ่งอัตโนมัติ มีกําลังการผลิตต่ํา(ประมาณ 20000 แคปซูลตอวัน) และปรรจุ ไดเฉพาะผงยาเทานั้น สูตรตํารับยาแคปซูลชนิดแข็งดังกลาว ควรมีคุณสมบัติที่สําคัญดังตอไปนี้ ยกเวน 1. ผงยามีการกระจายจนาดอนุภาคในชวงแคบ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
267
MCQ
2. ผงยามีคา Angle of repose ต่ํา 3. สารเจือจางมีความหนาแนนใกลเคียงตัวยาสําคัญ 4. ปริมาณของตัวยาและสารชวยรวมกัน ควรบรรจุ body ของเปลือก capsule ไดเต็มหรือเกือบเต็ม 5. สารชวยการไหลที่ใชมีคุณสมบัติเปน true lubricant มากกวา glidant 5. ตองการเปลี่ยน dosage form จาก cream ไปเปน gel ที่มีลักษณะสวยใส ควรใสสวนประกอบในขอใด (เดิมเคาทํา cream ตะไครหอม) 1. stearic acid + triethanolamine 2. cabopol + triethanolamine 3. acacia + tragacanth 4. microcrystalline cellulose + tween 80 5. glyceryl monostearate + PEG 4000 6.ในฐานะที่ทานเปนเภสัชกร ทานจะแนะนําใหนางสาวจิตตราเลือกใชยาในขอใด เพื่อรักษาอาการผื่น แดง คัน ดังกลาว (... กอนหนานี้ หญิงผูนี้ไดทาครีมตะไครไลยุงแลวเกิดผื่นแดง) 1. Antihistamine tablet 2. Calamine lotion 3. Corticosteriod cream 4. Diclofenac gel 5. Diazepam tablet Case anxities 1. ขอใดไมใชในตัวทําละลายสําหรับ Diazepam injection 1. Water for injection 2. IPA 3. Ethanol 4. Propylene glycol 5. Olive oil 2. ถาผูปวยใหทานเลือกยาจาก 2 บริษัท โดยวิธีทางเศรษฐศาสตรเปรียบเทียบยา fluoxetine ทานจะเลือกใหยาตัวใด ? 1. ตนทุนการผลิต 120 บาท ประสิทธิภาพในการรักษา 70 % 2. ตนทุนการผลิต 150 บาท ประสิทธิภาพในการรักษา 80 % 3. ตนทุนการผลิต 130 บาท ประสิทธิภาพในการรักษา 85 % 4. ตนทุนการผลิต 180 บาท ประสิทธิภาพในการรักษา 90 % 5. ตนทุนการผลิต 135 บาท ประสิทธิภาพในการรักษา 95 % Case Pharyngitis เคส ชายมาซื้อยาอม เพราะกลืนน้ําลายไมลง 1.จายอะไร 1. strepsil เพราะ antiseptic รสหวาน รับประทานงาย คนไขตองการ 2. cepacol เพราะ antiseptic ลดอาการระคายเคือง 3. Mybacin เพราะ antiseptic ใชไดใน tolsilitis และ margin สูง 4. ไมจายยาอม เพราะไมรูวาคนไขเปนอะไร ซักถามเพิ่ม 5. ไมจายยาอมเพราะ margin นอย ซักถามเพิ่ม เพื่อจายยาที่ถูกตอง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
268
MCQ
2.ผูปวยบอกวาแพยาเม็ดสีขาว รูปรางรี โดยมีอาการผื่นขึ้นหนา ปากบวมคล้ํา โดยยานี้มีฉลากชวยระบุวา "ใหดื่มน้ําตา มมากๆ" โดยใหรับประทาน 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเชาและเย็น หากทานเปนเภสัชกรประจํารานยานี้ ทานคิดวายา ที่ผูปวยคนนี้แพคือยาอะไร 1. Curam (Amoxi 875mg+clav 125mg) 2. Roxitin (Roxithromycin 150mg) 3. Metrim-F (Sulfamethoxazole 800mg+Trimethoprim 160mg) 4. Colcine (Colchicine 0.6mg) 5. Norflox (400mg) 3)ผูปวยเปน ทอลซิลอักเสบ มาขอซื้อยาอม กรณีดังกลาวจากการวินิจฉัยเบื้องตน เมื่อพิจารณาอุบัติการณการเกิดโรค ทาน คิดวาเชื้อที่นาจะเปนสาเหตุของคนไขรายนี้คือ 1.Heamophilus influenzae 2.Moraxella cathalaris 3.Streptococcus pyogenes 4.Mycoplasma pneumoniae 5.Streptococcus pneumonia Case HTN and Dyslipid นางสมสมัย อายุ 40ป ทอง 2 เดือน วัดความดันได 150/90 mmHg แพทยวินิจฉัยวาเปน essentail HTN และ Dyslipidemia มารับยาที่หองยา 1. ขอใดไมถูกตองในการใหคําแนะนําแกนางสมสมัย 1)แนะนําใหลดน้ําหนัก 2)แนะนําใหงดสูบบุหรี่ 3)แนะนําใหลดอาหารที่มี K มาก เชน กลวย สม 4)แนะนําใหลดอาหารเค็ม 5)แนะนําใหรับประทานอาหารพวกผักผลไมเพิ่มขึ้น 2.ถานางสมสมัยเคยเปนโรคไต ตรวจ creatinine > 2.5 mh/dL ยาขับปสสาวะกลุมใดที่ใชไดผลดีในโรคไต ที่ทําใหสามารถ คุมความดันได 1. Chlorothiazide 2. Flurosemide 3. Spinolonelactone 4. ไดหมด 5. ไมไดหมด 3.สูตรตํารับ ยาอะไรซักอยางที่ตองควบคุมการปลดปลอย สารควบคุมการปลดปลอยที่ดีที่สุด 1. HPMC 2. Cellulose acetate 3. Titanium dioxide 4. Sodium Chloride 5. Polyethylene Glycol 3350 4.การออกฤทธิ์ของ atenolol ซึ่งเปนbeta-blocker ตัวหนึ่งในการลดความดันโลหิตเกี่ยงของกับ 1. ยาออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่ง sympathetic mediators จากระบบประสาทสวนกลาง 2. ลดการทํางานของหัวใจทั้ง rate และ force 3. ยับยั้งการหลั่ง renin ที่ไต 4. ลด cardiac output จากการยับยั้ง beta-adrenoceptor 5. ถูกทุกขอ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
269
MCQ
5.ca blocker แบบ dihydropyridine และ non dihydropyridine ตางกันอยางไร ก.ชนิดของเนื้อเยื่อที่ไปออกฤทธิ์ ข.ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ ค.dihydropyridine ออกฤทธิ์ที่ L-type non dihydropyridine ออกฤทธิ์ที่ T-type 6. การพัฒนายาเม็ดลดความดันใหออกฤทธิ์นาน ซึ่งมีสารในตํารับดังนี้ HPMC, PEG, Cellulose acetate, NaCl, Mg state,…. ถามวาเปนยาออกฤทธิ์นานแบบใด 1. erosion CR 2. diffusion CR 3. ionex resin CR 4. osmosis CR 7. ยา ACEI มีหลักการในการยับยั้ง Enzyme อยางไร 1. เลืยนแบบ Substrate ที่ transition state ทําใหจับไดแนน 2. คลาย substrate 3. คลาย product 4. คลาย enzyme zctive site 5. คลาย angiotensin Case Cancer 1. ขอใดจัดวาเปนการตรวจรางกายเบื้องตนในผูปวยมะเร็งเตานม ที่ยังไมมีอาการแสดง 1. Stool occult blood test 2. Papanicolaou (paps) smear 3. Tumor biopsy 4. Mammography 5. Computed tomography (CT) scan 2.Tamoxifen เปนยารักษามะเร็งในกลุมใด ก. Antimetabolite ข. Antibiotic ค. Alkylating agent ง. Antiestrogen จ. Topoisomerase Inhibitors 3.. สารตานมะเร็งจากธรรมชาติที่ไดรับการยอมรับโดย FDA เพื่อใชเปนยาตานมะเร็งในปจจุบัน สวนใหญเปนสารประเภท alkaloid ยกเวน 1) Etoposide (Vepesid®) 2) Topotecan (Hycamtin®) 3) 9-nitro camtothecin (จําชื่อในวงเล็บไมไดอะ R….tecan อะไรซักอยาง) 4) Irinotecan (Campto®) 4. สมุนไพรที่ใชในการรักษามะเร็งที่เปนแหลงของ Paclitaxel คือ... 1) Camtotheca 2) Pacific Yew 3) Periwinkle 4) Mayapple 5) Tabebuia Case EENT 1. สารในขอใดทําใหระคายเคืองตาเมื่อหยอดตามากที่สุด 1. น้ํากลั่น 2. 0.2 NaCl 3. 0.9 NaCl 4. 1.2 NaCl 5. ทั้ง ขอ 3 และ ขอ 4 2 ) otitis media เปนความผิดปกติที่สวนใด 1. External ear canal 2. Middle ear 3. Inner ear 4. Cochea 5. Auricle
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
270
MCQ
Case anemia 1) อาการสําคัญรวมกับ iron deficiency anemia 1. painless glostitis 2. jaunduce 3. sterility 4. tinnitus(hearing lose) 5. malasma 2.นางสาวอมรศรี อยากทราบวาเด็กขางบานเคยทาน Ferrous sulfate ของแม แลวเกิดพิษขึ้นตองเขารพ. ยาที่ใชรักษา อาการพิษดังกลาวคือ 1.) phenopthelein + caster oil emulsion 2.) liqiud parafin emulsion 3.) EDTA 4.) desferoxamine 5.) dimercaprol Case Skin infection 1. ขอใดไมใชเชื้อที่เปนสาเหตุของเชื้อราในเล็บ 1.Trichophyton spp. 2.candida spp. 3.microsporidium spp. 4.Actinobacter spp. 5.Epidermophyton spp. 2.ยาลดกรดใหรับประทานหลัง ketoconazole อยางนอย 2 ชม. เพราะเกิดปฏิกิริยาอะไร 1. adsorption 2. complexation 3. enz. inducer 4. enz. inhibitor 5. การเปลี่ยนแปลงคา pH :o 3. ยาโซเดียมไธโอซัลเฟตรักษาโรคเกลื้อนไดอยางมีประสิทธิภาพเภสัชควรเเนะนําใหผูปวยปฏิบัติตนอยางไรขณะใชยานี้ 1. หลีกเลี่ยงเเสงเเดดเพราะยานี้อาจทําใหไวตอเเสงมากขึ้น 2. กินหลังอาหารทันที 3. ความคงตัวสั้นจึงควรผสมกอนใชเทานั้น 4. ยานี้อาจทําใหระคายเคืองที่ผิวหนังจึงควรลางผิวหนังใหสะอาดทันทีหลังจากสัมผัสกับยา 5. ยานี้ละลายน้ําไดนอยควรดื่มน้ําตามมากๆหลังรับประทานยา 4. ยารักษาเกลื้อนตัวใดจัดเปนยาสามัญประจําบาน 1 Benzoic acid 5 g 2 Salicylic acid 15 g 3 Na thiosulfate 15 g + H2O 60 ml 4 Ketoconazole 5 g 5 Na benzoate + Salicylic acid 5 g 5. ขอใดไมถูกตอง เกี่ยวกับ paraben concentrate 1.ประกอบดวย metyl paraben และ ethyl paraben 2. ตัวทําละลายที่นิยมคือ propylene glycol 3. เปนpreservative ในตํารับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
271
4. เปน ester ของ p-aminobenzoic acid 5. ใชไดทั้งยาเม็ดรับประทานและยาทาภายนอก 6. prenancy risk factor ของ Isotretinoin คือ class ใด 1. A 2. B 3. C 4. D 5. X 7. benzyl peroxide lotion มี hydrous benzyl peroxide ในsuitable non-greasy vehicle ขอใดเปน vehicle ที่เหมาะสม 1 water miscible 2 oil in water emulsion 3 oleagenous base 4 aqueous base 5 จําไมไดแลว Case Menopause 1.ขอใดเปน drug -induced insomnia 1. anticholinergic agent 2.antidepressant: SSRI 3. antiparkinson : livodopa 4. antihypertensive agent 5. ถูกทุกขอ 2. ถาหากแมผูปวยใช conjugate estrogen 0.625 mg.+ medoxyprojesterone acetate 2.5 mg. ดวยเหตุผลใด 1. ใชในหญิงหมดประจําเดือนที่มีมดลูก 2. ใชเพื่อปองกันโรคหัวใจในหญิงหมดประจําเดือน 3. ใชเพื่อรักษาโรคกระดูกพรุน ที่เกิดเนื่องจากขาดฮอรโมน 4. ใชเพื่อรักษาอาการ vasomotor symptom 5. มีprojesterone เพื่อชวยปองกันมะเร็งมดลูก 3. ในสตรีที่ไมมีมดลูก และมีอาการเฉพาะที่ทอปสสาวะและชองคลอดอักเสบ ยาในรูปแบบใดที่นาจะเหมาะสมที่สุด 1. Intramuscular injection 2. Oral tablet 3. Trandermal patch 4. Vagina cream 5. ไดทุกรูปแบบ 4.Progestrogen ที่มีฤทธ Antiandrogen 1 Norethisterone acetate 2 Norethisterone enanthate 3 Cyproterone acetate 4 Levonorgestrel 5 Mestranol 5.stearoid ที่เเสดงฤทธิ์ เปน Antiandrogenic effect ควรมีหมูเเทนที่ที่ตําแหนง 3 ของ stearoid nucleus คือ 1.-OH 2. =O
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
272
3. -OCH3 4. -O-CO-CH3 5.-H Case HIV and OIs ใบสั่งยา นายตะวัน อายุ 29 ป 1. AZT(100) 2*2 pc. #60 2. ddI(100) 4*1 ac. #60 3. Stocrin(Efavirenz)(200) 3 Cap. hs. #45 4. Bactrim 2 tab. O.D. pc. #30 5. Fluconazole (200) 4 tab. O.D. pc. #60 6. Paracetamol(500) 2 tab. PRN. #30 Dx. Aquired immunodeficiency syndrome (AIDS) 1.นายตะวันไดรับ Fluconazole เพื่อ 1. รักษา/ปองกัน Oral candidiasis 2. รักษา/ปองกัน Pneumocystis carinii pneumonia 3. รักษา/ปองกัน Mycobacterium infection 4. รักษา/ปองกัน skin infection 5. รักษา/ปองกัน GI infection 2.ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการรักษาวัณโรค 1.การตรวจเสมหะเปนวิธีที่งาย ประหยัด แตไมเฉพาะเจาะจง 2.ผุที่ควบคุมเบาหวานไมดีเปนสาเหตุทําใหเกิดความชุกของวัณโรคมากขึ้น 3.ผุที่ใชยากดภูมินานๆจะมีสิทธิติดเชื้อวัณโรคไดงาย 4.หลักการรักษาวัณโรคคือปองกันไมใหติดตอไปสุคนอื่น+ลองทดสอบประสิทธิภาพยาโดยใชเวลาสั้น 5.การรักษาวัณโรคคือใชยาขนาดสูงสุด+ใชเวลานานๆ 3.เชื้อฉวยโอกาสชนิดใดที่ไมนาพบในผูปวยโรค AIDS 1. Mycobacterium bovis 2. Candida albican 3. Cryptococcus meningitis 4. Varicella zoster 5. Hepes simplex virus Case GI 1. อาการที่นาจะบงชี้วาเปน DU ยกเวนขอใด 1.) Epigastric pain 2.) ปวดเปนพักๆ มีชวงหายปวด 3.) มักน้ําหนักลด 4.) มักปวดกลางคืน และตื่นกลางดึก 5.) อาการปวดตอบสนองตอการกินอาหารดี 2.ขอใดผิดเกี่ยวกับ PUD 1.NSAID/Aspirin ทําใหเกิดแผลในกระเพาะอาหารเนื่องจากไปเพิ่มสาร prostaglandin 2.อาหารและเครื่องดื่มที่มีสวนผสมของแอลกอฮอล เพื่มการหลั่งกรด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
273
MCQ
3.คนที่มีประวัติคนในครอบครับเปน ulcer มีโอกาสเปนมากกวาผูที่ไมมีประวัติ 4.ความเครียดทําใหหลั่งกรดมากขึ้น 5.ผูปวย silent ulcer มีสาเหตุมาจากใช NSAID เปนเวลานาน 3) จากประวัติการใชยา 11/10/06 ขอใดผิด 1. เปนการรักษา triple therapy 2. ยาทั้ง 3 ทานใหหมดใน 7 วัน 3. ใชยาปฏิชีวนะ 2 ตัวกําจัดเชื้อไดดีขึ้น 4. Clarithromycin .... 5. ใช Lansoprazole แทน Omeprazole ได 4. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับ Domperidone 1. แกอาเจียน 2. กินกอนอาหาร 3. ไมมี EPS 4. ไมทําใหเกิด galactorrhea 5. เพิ่มการเคลื่อนไหวเฉพาะ upper bowel 5. คําแนะนําที่ควรใหแกผูปวยรายนี้ ยกเวน 1. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและเหลาเบียร 2. ควรรับประทานอาหารที่มีกากใยมาก 3. ตองกินยาระบายเปนประจําทุกคืนกอนนอน 4. ไมควรนั่งถายนานๆ 5. อยาใหทองเดินบอยๆ 6. การทํายาเหน็บขอใดเปนที่นิยม 1.) Hand rolling method 2.) mold process 3.) fusion method 4.) compression method 5.) ถูกทุกขอ Case STD and UTI 1.ผูปวย ตกขาวมีกลิ่นคลายปลาเนา สีเทาๆ เปนฟอง ประจําเดือนเพิ่งหมดเมื่อวานนี้ ทานคิดวาผูปวยมีอาการตกขาวจาก การติดเชื้อใด 1. Candida albican 2. Herpes simplex Type II 3. Trichomonas 4. Bacterial Vaginosis 5. Torulopsis grabata 2.ขอมูลทึ่ทานควรแนะนําใหคนไขรายนี้ ยกเวน ก. เมื่อทานยานี้อาจทําใหเกิดอาการไมสบายทองได ข. หามทานรวมกับยาลดกรดที่มีสูตรผสมของ Aluminium และ Mg แตสามารถทานรวมกับยาลดกรดสูตร Omeprazole ค. ควรเพิ่มขนาดยาถาคนไขมี Creatinine Clearance 10-30 ml/min ง. ไมควรใชในหญิงตั้งครรภและใหนมบุตร จ. ถาคนไขเปนหอบหืดและทานยา theophylline อยู การทาน norfloxacinรวมดวย จะทําใหระดับยา theophylline ในเลือด เพิ่มขึ้นดวย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
274
3.การรักษาโรคที่บริเวณจุดซอนเรนที่ดีควร??? 1.ใชยากิน + ยาเหน็บ 2.ใหรักษาคูนอนดวย 3.กิน Antibiotic ตัวใหมที่มีpotency สูงกวา 4.กิน Antibiotic สองตัวผสมกันหวังผล synnergis 5.ใชน้ํายาสวนลางทุกครั้งหลังมี sex Case DM with complication 1.น้ําหนักผูปวย 85 kg. สูง 160 cm. BMI จัดอยูในเกณฑใด 1. very underweight 2. underweight 3. normal 4. overweight 5. Obese 2.ผูปวยมีอาการปวดหัว มึนงง เหงื่อออก เกิดจากยาอะไร 1. Metformin 2. Pseudoephedrine 3. Phenytoin 4. ASA 5. Enalapril 3. ผูปวยกลับมาหาแพทยเนื่องจากคุมน้ําตาลไมได ชอบกินขนมหวานระหวางมื้อ จะใหยาเพิ่ม 1. Chlorpropamide 2. Glybenclamide 3. Pioglitazone 4. Rosiglitazone 5. Acarbose 4. การหา MW ของ Atenolol ใชเครื่องมือใด ก. IR ข. NMR ค. Mass spec ง. UV visible จ. HPLC 5. หากทานนํายา ASA ของบริษัท ABC ในรานทานไปวิเคราะห พบวามีปริมาณยาเหลือเพียง 60% จากปริมาณยาที่ทาง บริษัทไดขึ้นทะเบียนไว แสดงวายานี้จัดเปนยาประเภทใด ก. ยาปลอม ข. ยาผิดมาตรฐาน ค. ยาเสื่อมคุณภาพ ง. ยาหมดอายุ จ. วัตถุมีพิษ 6. จากใบสั่งยา Simvastatin จัดเปนยาประเภทใด ก. วัตถุออกฤทธิ์ตอจิตประสาท ข. ยาเสพติดใหโทษ ค. ยาสามัญประจําบาน ง. ยาควบคุมพิเศษ จ. ยาอันตราย 7. สมมติวาแพทยตองการเริ่มการรักษาโดยใชยารในกลุม statin ขอใดตอไปนี้เปนการประเมินขั้นพื้นฐานกอนที่จะเริ่มใช ยากลุมนี้
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
275
1. Apolipoprotein E concentration 2. Electrocardiogram 3. Creatinine kinase concentration 4. Electrolyte 5. LFT (Liver Function Test) 8. Enalaprilat maleate เปน Ethyl ester ของ Enaraprilat ซึ่งคงตัวในสภาพแหงแตถาอยูในที่อุณหภูมิสูงและความชื้นสูง จะเกิดการเสื่อมสลายโดยเกิด Hydrolysisของ Ethyl ester ตามดวย Cyclization ที่หมู Amino หากตองการเตรียมเปนยา เม็ดแบบออกฤทธิ์เร็วดวยวิธี Wet granulation ตองเลือกสารยึดเกาะตัวใด 1. Tapioca starch paste 2. Polyvinyl pyrolidone 3. Gelatin 4. Ethyl cellulose 5. Acacia Case 1.อยากทราบวาวันหมดอายุของผลิตภัณฑ พิจารณาจาก ? 1. ตัวยาสําคัญหลังเก็บไวเหลือนอยกวา 90 % 2. ตัวยาสําคัญหลังเก็บไวเหลือนอยกวา 50 % 3. ตัวยาสําคัญหลังเก็บไวเหลือนอยกวา 1 % 4. ตัวยาสําคัญลดลงไมอยูในชวงที่ระบุเชน 90-110 %LA 5. ยาเม็ด หมดอายุใน 5 ป ยาน้ําหมดอายุใน 2 ป ถาทานทํางานเปนเภสัชกรประจําโรงพยาบาลรัฐแหงหนึ่งในหนวยเตรียมยา ซึ่งมีตํารับยาที่ทานจะตองเตรียมดังนี้ Lotion P No.1 m-Dihydroxybenzene(Resorcinol) 1.0 g Salicylic acid 1.0 g Borax 3.33 g Zinc Oxide 6.33 g Talcum 13.33 g Rose water to 100.0 ml lotion p. No 1 2.ในการเตรียมตํารับขางตนในปริมาณ 100 ml ขอใดไมถูกตอง 1. ตรวจคุณสมบัติการละลายของสารแตละตัวในตํารับ 2. บดผงยากอนชั่งในโกรงแกว 3. ละลาย salicylic acid ในสารละลาย Borax และ resorcinol ใน rose water 4. ปรับปริมาตรของตํารับดวย rose water 5. เก็บในขวดสีชา 3) ทานจะแนะนําการรับประทาน norfloxacin รวมกับยาแขวนตะกอน kaolin อยางไรเพื่อใหไดรับประโยชนสูงสุด 1.กิน Norflox กอนอาหาร 2.กิน Norflox หลังอาหาร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
276
MCQ
3.กินยาทั้งสองใหระยะหางกัน2-3ชม. 4.กินยาทั้งสองพรอมกันกอนอาหาร 5.กินยาทั้งสองพรอมกันหลังอาหาร 4.จากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ทานคิดวาเปนปฏิกิริยาอันดับใด ก. first order ข. second order ค. third order ง. fourth order จ. cube root law 5.สารใดควรเติมลงในสูตรตํารับ ก.suspending agent ข.sweetening agent ค.emulsifying agent 6) ทานคิดวา โลชั่นที่ไดเปนยาเตรียมรูปอะไร และใชรักษาโรคหรืออาการอะไร 1)Solution รักษา Eczema 2)Solution รักษา Urticaria 3)Solution รักษา Fungal infection 4)Suspension รักษา Acne 5) Suspension รักษา Dermatitis 7. สารสําคัญในขอใดออกฤทธิ์เปน Keratolytic 1. Resorcinol และ Salicylic acid 2. Salicylic acid และ Borax 3. Borax และ Zinc oxide 4. Zinc oxide และ Talcum 5. Talcum และ Rose water 8.ขอใดเปนลักษณะทางกายภาพที่สังเกตไดเปนอันดับแรกของสูตรตํารับนี้ 1. Discolouration 2. Sedimentation 3. Precipitation 4. Odor Change 5. Caking 9.หากเราไมแนใจในคุณภาพน้ําที่จะนํามาเตรียมยา ใหแกโดยเติมสารใด 1. Viscosity enhancing agent 2. Coloring agent 3. Chelating agent 4. Fragrance 5. Flocculating agent 10. ขอใดไมถูกตอง 1. Borax (Sodium) เปน Buffer salt ชวยใหตํารับมี pH เปนกรด 2. Borax ชวยในการละลายของ Salicylic acid ใน Rose water 3. Resocinol มีคุณสมบัติเปน antiseborrheic และ antipruretic ดวย 4. Zinc oxide มีคุณสมบัติเปน mild astringent และ protective ดวย 5. Salicylic acid มีฤทธิ์ comedolytic และ fungicidal ดวย case Gout ภก. กิตติ เปนเภสัชกรโรงพยาบาลแหงหนึ่ง แผนกผูปวยนอก ขณะที่กําลังปฏิบัติหนาที่ในแผนกจายยามีผูปว ยทานหนึ่งมา รับยาและขอคําปรึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดของโรคที่เปน เนื่องจากเกรงใจแพทยจึงไมกลาถามเมื่อ ภก. กิตติ ดูขอ มูลจาก ประวัติการรักษาและยาที่ไดรับในวันนี้ พบวา ผูปวยอายุ 45 ป เปนโรคเกาท
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
277
1. ทานคิดวาคาชีวเคมีคลินิกจากการตรวจทางหองปฏิบัติการขอใดเปนตัวบงชี้วาผูปวยรายนี้เปนโรคเกาท 1. คาglycosylated hemoglobin ต่ํากวารอยละ 7.0 2. คาglycosylated hemoglobin สูงกวารอยละ 8.0 3. กรดยูริคในเลือดมีคาต่ํากวา 2.0 มิลลิกรัมตอเดซิลิตร 4. กรดยูริคในเลือดมีคาสูงกวา 7.0 มิลลิกรัมตอเดซิลิตร 5. คาglycosylated hemoglobin สูงกวารอยละ 8.0 และ กรดยูริคในเลือดมีคาสูงกวา 7.0 มิลลิกรัมตอเดซิลิตร 2. สารตอไปนี้สารใดอยูใน Film coat แลวทําให film มีคุณสมบัติเปน enteric coat 1. methyl cellulose 2. hydroxy propyl methyl cellulose 3. microcrystalline cellulose 4. cellulose acetate pthalate 5. carboxy methyl cellulose sodium 3.ผูปวยบอกวานอกจากเกาตที่เปนแลวยังมีอาการปวดศีรษะ เครียด นอนไมหลับมาเปนเวลาหลายเดือนแลว เพื่อนใหยา มารับประทานแลวรูสึกดีขึ้น อยากจะขอซื้อยานี้เพิ่มเติมไดไหม เมื่อ เภสัชกรกิตติ ดูตัวอยางยา พบวานาจะเปนยา Diazepam 2 mg (โรงพยาบาลนี้ เภสัชกรสามารถขายยาไดเองบางรายการเหมือนรานยาทั่วไป) หากทานเปนเภสัชกรประจําโรงพยาบาลนี้ ทานจะแนะนําผูปวยอยางไร 1. สามารถขายใหไดแค 20 เม็ด เพราะเปนยาตลายเครียด เภสัชกรจายใหไดไมเกินจํานวนที่โรงพยาบาลกําหนด 2. ใหกลับไปพบแพทย เพื่อใหแพทยจายยาให เนื่องจาก เปนยาออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภท 4 ตองมีใบสั่งแพทย 3. ยารายการนี้ไมสามารถจายได ตองมีใบ ยส. 5 จากแพทยจึงจะจายได 4. ยารายการนี้ไมสามารถจายไดตามนโยบายของโรงพยาบาล ซึ่งแนะนําใหซื้อที่รานขายยาหนาโรงพยาบาล 5. สามารถขายใหได และแนะนําใหรับประทานเมื่อจําเปนเทานั้น Case Asthma 1.ผูปวย(ชื่ออะไรจําไมได ชื่อสมปองมั้ง) มีอาการหอบกําเริบมากกวา 1 ครั้งตอ 1 สัปดาห แตไมไดเกิดอาการทุกวัน 2 วัน ตอมาไปพบแพทย ตรวจวัด คา PEF > 85% จัดอยูใน Stage ใดตาม GINA Guideline 1. stage I Intermittent 2. stage II Mild Persistent 3. stage III Moderate Persistent 4. stage IV Severe Persistent 5. ไมสามารถระบุ stage ได 2. ตอมาอีก 2 เดือน นายสมปองมาขอซื้อยา Theophylline SR 200 mg ที่รานขายยา จากการซักถามเพิ่มเติมทราบวา นายสมปองไมสามารถซื้อยา Inflamide Inhaler ที่ใชประจําได เนื่องจากยามีราคาแพง แพทยจึงเปลี่ยนใหรับประทาน Theophylline SR 200 mg ทานจะแนะนําวิธีการใชยานี้แกนายสมปองอยางไร 1)ยานี้อาจทําใหเกิดเชื้อราในชองปาก เสียงแหบได จึงควรบวนปากหลังการรับประทานยาทุกครั้ง 2)ยานี้อาจทําใหเกิดอาการคลื่นไส อาเจียน ปวดศีรษะ ใจสั่น ชัก 3)ยานี้อาจทําใหเกิดอาการซึมเศรา เวียนศีรษะ กระวนกระวาย ชัก 4)ยานี้อาจทําใหเกิดพิษตอตับ คลื่นไส hypokalemia ใจสั่น 5)ยานี้อาจทําใหเกิดพิษตอไต hyperglycemia เชื้อราในชองปาก
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
278
3. dosage form หรือเทคนิคใดที่[u]ไม[/u]สามารถใชเตรียม theophylline เปน sustained released tablet ได 1) Microencapsulation 2) Polymer coating 3) Matrix tablet 4) Osmotic pump 5) Copolymer with B-cyclodextran Case Vaccine 1.ขอใดไมใช live-attenuated vaccine 1. BCG 2. MMR 3. DTP 4. Varicella vacine 5. Polio 2) วัคซีนใดไมไดอยูในโปรแกรมเสริมสรางภูมิคุมกัน 1. หัด 2. คางทูม 3. โปลิโอ 4. อีสุกอีใส 5. บาดทะยัก
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.
MCQ
279
ขอสอบประมวลความรู ครั้งที่ 1/2549 คณะเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วันที่ 9 ตุลาคม 2549 เวลา 09.00-12.00 น. เนื้อหา กลุมโรคหัวใจและหลอดเลือด : โรคความดันโลหิตสูง กลุมโรคผิวหนัง : โรคกลาก กลุมโรคติดเชื้อ : โรคพยาธิ กลุมโรคระบบภูมิคุมกัน : การสรางเสริมภูมิคุมกัน (วัคซีน) โรคมะเร็ง กลุมโรคตา หู จมูก คอ : โรคหูอักเสบ กลุมโรคตอมไรทอและตอมมีทอ : โรค Hyperthyroid กลุมโรคทางเดินปสสาวะและไต : กรวยไตอักเสบ กลุมโรคระบบเลือด : โลหิตจาง กลุมโรคทางเดินหายใจ : โรคหอบหืด
รวบรวมโดย นศ.ภ.สัญญา ยือราน โดยความรวมมือจากนักศึกษาเภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี รุนที่ 9
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
280
MCQ
สถานการณที่ 1 กลุมโรคหัวใจและหลอดเลือด : โรคความดันโลหิตสูง ชายไทยอายุ.....ป มีอาการวิงเวียนศรีษะ จึงไดรับการตรวจวัดความดันเพื่อยืนยันผลในครั้งที่สอง มีความดัน เทากับ 155/105 mmHg และปวยเปนโรคเบาหวานชนิดพึ่งอินซูลินมา 5 ป 1. ตาม JNC VII จัดผูปวยรายนี้อยูใน stage ไหน 1. Prehypertension 2. Stage I 3. Stage II 4. Stage III 5. ……….. 2. อาหารที่ไมควรรับประทานคือ / ใหกินอาหารที่มีโซเดียมสูง 3. ยาใดที่ไมควรใหในผูปวยรายนี้ 1. Amlodipine 2. Propanolol 3. HCTZ 4. Valzatan 5. Verapamil 4. ความดันเปาหมายของผูปวยรายนี้คือ 1. 130/80 2. 130/85 3. 120/80 4. ……… 5. ……… 5. แพทยทําการพิจารณาจายยา Enalapril อาการขางเคียงที่พบบอยของยาตัวนี้คือ / ไอ 6. จากการรับประทานยา Enalapril ควรทําการติดตามคาใด / Potassium 7. จากการที่ยา Enalapril ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม ACE โดยใชการยับยั้งเชนไร / ยาเปนเหมือนซับเสตรตของเอนไซม ACE 8. หากตองการเตรียมยาเม็ด Enalapril กอนการเตรียมผลิตยาเม็ด (preformulation) ขอใดไมตองคํานึงถึงในการเตรียม / Serface tension 9. หลังจากการผลิตยาเม็ด ไดนําไปทดสอบหาคา disintegration time พบวายาเม็ดไมสามารถแตกตัวสมบูรณไดภายใน เวลา 30 นาที ลักษณะเชนนี้เกิดจากสาเหตุใด .............................................................................. 10. ผูปวยไดทานยาหมดกอนที่จะไปพบแพทยครั้งตอไปจึงไปซื้อยา Enalapril ที่รานยา เภสัชกรรานยาสามารถจายยานี้ได หรือไม 1. จายได เพราะเปนยาอันตราย 2. จายไมได เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ 3. จายไมได เพราะเปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาทประเภท 2 4. ……….. 5. ………..
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
281
MCQ
สถานการณที่ 2 กลุมโรคผิวหนัง : โรคกลาก ผูปวยชายอายุ 19 ป มาพบเภสัชกรที่รานขายยา มาดวยอาการเปนผื่นหลายวง บริเวณลําตัว หลัง หนังศรีษะ ลักษณะผื่นเปนผื่นนูนแดง มีสะเก็ด คัน 11. ลักษณะผื่นที่ผูปวยเปนบริเวณหนังศรีษะเรียกวา 1. Tinea capitis 2. Tinea caporis 3. Tinea curis 4. Tinea ……. 5. Tinea pedis 12. เภสัชกรจายยา Griseofulvin ระยะเวลาที่ใชในการรักษาดวยยานี้เปนอยางนอยกี่เดือน 1. 14 วัน 2. 2 เดือน 3. 3 เดิอน 4. 4 เดือน 5. 5 เดิอน 13. ขอใดคือ กลไกการออกฤทธิ์ของยา Griseofulvin 1. ยับยั้ง..... รบกาวนการสังเคระห ergosterol 2. ยับยั้งการสราง mycocilic acid ใน cell wall 3. ยับยั้งการสราง mitosis ของ dermatophytes 4. จับกับ phospholipids ยับยั้งการสราง cell wall 5. จับกับ sterol ยับยั้งการสรางผนังเซลล 14. ถาตองการใชสมุนไพรในการรักษาอาการดังกลาว สมุนไพรที่เลือกใชคือ 1. พญายอ 2. ทองพันชั่ง 3. มะแวงตน 4. ……… 5. ……… 15. ที่ฉลากยา Griseofulvin มีคําวา Micronized form ขอดีของ Micronized form คือขอใด 1. เพื่อเพิ่มการกระจายตัวไปยังตําแหนงที่ออกฤทธิ์ 2. เพื่อลด first pass metabolism 3. เพื่อใหยาอยูในรางกายนานขึ้น 4. เพื่อปองกันการดื้อยาของเชื้อรา 5. เพื่อเพิ่มการดูดซึมของยาจากทางเดินอาหาร 16. การทดสอบอาการขางเคียง ของยา Griseofulvin ในกลุมทดลองสามกลุม ใชสถิติใดในการทดสอบ 1. Unpair t-test 2. T-test 3. Chisquare test 4. Analysis of variance 5. Correlation 17. จากสูตรตํารับ ( เปน oil ทั้งหมด) จะพัฒนาสูตรตํารับใหเหมาะสมไดอยางไร 1. ………
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
282
2. ……… 3. เพิ่ม emollient 4. เพิ่มสารที่เพิ่มความชื้น 5. พัฒนาตํารับใหเปน o/w emulsion 18. หลังจากนั้นผูปวยไดกลับมาหาเภสัชกรดวยอาการเดิม เภสัชกรจึงทําการเปลี่ยนเปนยา Itraconazole ขอใดเปนขอดี ของยา Itraconazole หรือยาในกลุม azole 1. มีเฉพาะยาฉีดเทานั้น 2. มีเฉพาะยาใชภายนอก 3. มีอาการขางเคียงนอย 4. ถูกเมตาบอไลทชา อยูในรางกายไดนาน 5. มีปฏิกิริยาระหวางยาลดลง
19. จากโครงสรางยา Itraconazole สารนี้มีคุณสมบัติเปนอยางไร N N
N
O N N Cl
Cl O N
N
O
O H
N
1. เปนกรดออน 2. เปนเบสออน 3. ละลายไดดีในน้ํา 4. ละลายไดดีใน methanol 5. ละลายไดดีในสารละลายเบสแก 20. Itraconazole เปน hige hydrophilic at pH 8.1 Log P = 5.96 (Octanol/water) pKa= 3.7 การเพิ่ม Dissolution ขอใดผิด 1. ใช Crystalline Itraconazole 2. ใช Micronized Itraconaole 3. SLS ในตํารับ 4. เตรียมแบบ Solid dispersion 5. ………
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
283
สถานการณที่ 3 กลุมโรคติดเชื้อ : โรคพยาธิ ผูปวยหญิงไทยคูอายุ 30 ป น้ําหนัก 50 กิโลกรัม มาพบแพทยดวยอาการทองอืดบอยๆ จากการซักประวัติพบวา ผูปวยมักจะรับประทานอาหารสุกๆดิบๆ และเมื่อถายอุจจาระมักมีเสนใยขาวๆ แบนๆ คลายเสนกวยเตี่ยวปนออกมาดวย แพทยจึงสงตรวจอุจาระ พบวาผูปวยติดพยาธิ taenia solium แพทยจึงจายยา Praziquantel 21. ผูปวยรายนี้ติดเชื้อพยาธิชนิดใด 1. พยาธิปากขอ 2. พยาธิเสนดาย 3. พยาธิไสเดือน 4. พยาธิใบไมในตับ 5. พยาธิตัวตืด 22. พยาธิที่เปนไดจากสัตวชนิดใด 1. วัว 2. หมู 3. ปลา 4. ไก 5. .......... 23. การใชยา Praziquantel ในผูปวยรายนี้ มีวิธีการใชยาอยางไร 1. 1000 mg 1x3, 1 day 2. 1000 mg 1x3, 2 day 3. 600 mg 1x3, 14 day 4. 600 mg 2x1, 1 day 5. 600 mg 2x3, 1 day 24. สมุนไพรใดที่อาจแนะนําในผูปวยรายนี้ คือ 1. เมล็ดฟกทอง 2. เมล็ด........... 3. เปลือกมังคุด 4. เปลือกทับทิม 25. ขอแนะนําการใชยาสําหรับผูปวยใหนมบุตรคือขอใด 1. สามารถใชไดเพราะไมสามารถขับออกทางน้ํานม 2. สามารถใชไดเพราะไมมีอาการขางเคียงที่รายแรง 3. สามารถใชไดเพราะไมเกิดเมตาบอไลทที่เปนพิษ 4. ไมสามารถใชไดเพราะขับออกทางน้ํานม 5. ไมสามารถใชไดขณะใหนมบุตร และหยุดใชยาอีก 2-3 วัน เพราะเมตาบอไลทชา 26. จากสูตรโครงสรางของ Praziquantel ตําแหนงนี้เรียกวา และมีคุณสมบัติอยางไร 1. Quinoline, base N 2. Isoquinoline. base 3. Guanine, acid 4. Pyramidine, acid
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
284
MCQ
5. .......... 27. จากการทดสอบยาเม็ด Praziquantel มีลักษณะกรอน แตกหักงาย มีสาเหตุมาจากอะไร 1. สารชวยไหลไมเหมาะสม 2. แรงตอกอัดมากเกินไป 3. สารยึดเกาะนอยเกินไป 4. .......... 5. .......... 28. องคการเภสัชกรรมมีการผลิตและมีจําหนายยา Praziquantel เภสัชกรประจําโรงพยาบาลควรทําการสั่งซื้อยาอยางไร 1. ตงลงราคาถาวงเงินไมเกิน 100,000 บาท 2. สอบราคาถาวงเงินไมเกิน 100,000 บาท 3. ประกวดราคาถาวงเงินไมเกิน 100,000 บาท 4. วิธีพิเศษไมจํากัดวงเงิน 5. วิธีกรณีพิเศษไมจํากัดวงเงิน 29. Praziquantel ความเขมขน 1.5x10-4 วัด Absorbance ที่ λ=370 nm ความหางของชอง cell เทากับ 2 cm ไดคา Ab = 0.08445 อยากทราบวามีคา Absorbance molarity (ε) เทาใด 1. 295 2. 300 3. 307 4. 395 5. ...... สถานการณที่ 4 กลุมโรคระบบภูมิคุมกัน : การสรางเสริมภูมิคุมกัน (วัคซีน) นางแกวอายุ 26 ป มาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลแหงหนึ่ง พบวาไดบุตรชาย ปจจุบันมีบุตรสาวมาแลว 1 คน อายุ 2 ป นางแกวไมมีโรคประจําตัวใดๆ 31. วัคซีนที่ใหตั้งแตแรกเกิดคือ 1. BCG และ HBV 2. BCG และ OPV 3. OPV และ MMR 4. HBV และ MMR 5. DTP และ OPV 32. ตอมาตรวจพบวาเด็กมีภาวะภูมิคุมกันบกพรอง วัคซีนในขอใดตอไปนี้ไมควรแนะนําใหในเด็กรายนี้ 1. IPV vaccine 2. MMR vaccine 3. HBV vaccine 4. Hemofilus Influenza B vaccine 5. Japanease Encephalitis vaccine 33. ควรฉีดวัคซีนที่กลามเนื้อชิดใด 1. Deltoid 2. Gluteus maximus 3. Gluteus medis 4. Gastocnemius 5. Anterolateral 34. การฉีดวัคซีนกระตุนเข็มแรก จะมี antibody ชนิดใดเริ่มสรางตัวแรก 1. Immunoglobulin A 2. Immunoglobulin D 3. Immunoglobulin E 4. Immunoglobulin G 5. Immunoglobulin M
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
285
MCQ
35. การผลิตวัคซีนชนิดผงแหง มีวัตถุประสงคหลักในการผลิตรูปแบบนี้เพื่ออะไร 1. ละลายไดดีขึ้น 2. ทําใหความแรงมีความสม่ําเสมอ 3. เพื่อใหใชไดสะดวก 4. เพื่อใหความคงตัวดี 5. เพื่อใหขนสงไดสะดวก 36. ขอใดผิดเกี่ยวกับการใหวัคซีนในเด็ก 1. วัคซีนที่มีชีวิตสามารถใหพรอมกันในวันเดียวกันได 2. ถามาฉีดวัคซีนในวันนัดไมได ใหมากอนจะดีกวามาฉีดชากวากําหนด 3. วัคซีนชนิดกินเปน IgA 4. ถาเด็กเปนไขสูงยังไมฉีดวัคซีนให แตถาเปนหวัด ไอ สามารถใหวัคซีนได 5. ในการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2,3 สามารถเปลี่ยนยี่หอบริษัทอื่นไดถาจําเปน 37. เด็กทารกไดรับการฉีดวัคซีน หลังจากนั้นเด็กมีอาการไขสูง 39 C ชัก จะมาเรียกรองคาเสียหายไดหรือไม เพราะเหตุใด 1. ได ผูบริโภคมีสทิ ธิที่จะไดรับการพิจารณาและไดรับคาเสียหาย 2. ได ผูบริโภคมีสิทธิที่จะปฏิเสธไมรับวัคซีน 3. ไมได เนื่องจากผูบริโภคมีสิทธิที่จะทราบผลดี ผลเสีย แตไมทํา 4. ไมได เนื่องจากอาการขางเคียงที่เกิดขึ้นพบนอย 5. ไมได เนื่องจากไมมีความผิดในการรักษา 38. วัตถุประสงคในการเติม adjuvant คือขอใด 1. เพื่อเพิ่มการละลาย 2. เพื่อทําใหไวรัสออนฤทธิ์ลง 3. เพื่อเพิ่มความคงตัว 4. เพื่อเปนสารตานจุลชีพ 5. เพื่อเพิ่มการตอบสนองตอภูมิคุมกัน 39. ตามแนวทางชีววัตถุขององคการอนามัยโลก (WHO) ไดกําหนดใหการทดสอบโดยการฉีดวัคซีนเขาเสนเลือดที่หู กระตาย กอนและหลังการฉีดวัคซีน 3 ชั่วโมง ดูวาอุณหภูมิของกระตายมีการเปลี่ยนแปลงไปเทาไร เรียกการทดสอบนี้วา 1. Identity test 2. ……………. 3. Pyrogen test 4. Toxicity test 5. Sterility test 40. หากทานเปนเภสัชกรคลังเวชภัณฑ ทานจะเก็บวัคซีนชนิดใดในชองแชแข็ง เพื่อเพิ่มอายุยาใหนานขึ้น 1. DTP vaccine 2. OPV vaccine 3. HBV vaccine 4. Typhoid vaccine 5. Rabies vaccine
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
286
MCQ
สถานการณที่ 5 โรคมะเร็ง ผูปวยชายไทยอายุ 50 ป น้ําหนัก 50 กิโลกรัม สวนสูง 180 เซนติเมตร CC : มีอาการไอ หอบเหนื่อย เจ็บแนนหนาอก PMH : 5 เดือน PTA มีอาการไอมาก ซื้อยากินเอง 2 เดือน PTA SH : มีประวัติสูบบุหรี่ 30 มวนตอวันเปนเวลานาน ตั้งแตอายุ 17 ป ดื่มเหลาเปนครั้งคราว มาพบแพทยไดรับการ วินิจฉัยวาเปน non-small lung cancer IIIA เปน miastedia แพทยพิจารณาสั่งจายยา Cisplatin 50 mg/m2 1,8 Vinblastin 6 mg/m2 1,8,15,21 ( 1 cycle เทากับ 28 วัน ให 4 cycle) 41. ในแตละวันชายคนนี้จะไดรับยาทั้ง 2 ตัว อยางละเทาใด 1. Cisplatin 50 mg และ Vinblastin 6 mg 2. Cisplatin 100 mg และ Vinblastin 12 mg 3. Cisplatin 125 mg และ Vinblastin 18 mg 4. Cisplatin 150 mg และ Vinblastin 24 mg 5. Cisplatin 175 mg และ Vinblastin 48 mg 42. ขอใดคือกลไกการออกฤทธิ์ของยา Cisplatin 1. ยับยั้งการสราง mitotic spindle 2. ยับยั้งเอนไซม topoisomerase II 3. แทนที่ลําดับเบสบน DNA หรือ RNA 4. เขาแทรกบนสาย Doublestraine DNA 5. เปนอนุมูลอิสระรบกวน DNA 43. ยา Vinblastin มีกลไกการออกฤทธิ์ อยางไร 1. ยับยั้ง RNA หรือ DNA 2. ยับยั้งการสราง mitotic spindle 3. ทําลายเอนไซม topoisomerase II 4. ................................................. 5. เปนอนุมูลอิสระรบกวน DNA 44. อาการอาเจียนที่เกิดขึ้นจาก Cisplatin ปองกันไดดวยวิธีใด 1. ให Metoclopamide Inj แบบ IV ครึ่งชั่วโมงกอนใหยา Cisplatin 2. ควรฉีด Cisplatin แบบ IV push 3. ให Diphenhydramine แบบ Oral กอนให Cisplatin 4. ให NSS กอนให Cisplatin 5. ให D5W กอนให Cisplatin หลังจากนั้นแพทยไดทําการเปลี่ยนยา Vinblastine เปน Gemcitabine
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
287
MCQ
45. จากโครงสรางของยา Gemcitabine เปนอนุพันธของอะไร NH2
HN
O
N
HO O F
HO
F
1. Acyclonucleoside analog 2. Pyrimidine nucleotide analog 3. Pyrimidine nucleoside analog 4. Purine nucleotide analog 5. Purine nucleoside analog 46. จากโครงสรางของยา ตัวที่ออกฤทธิ์คือ 1. …………… monophosphate 2. …………… diphosphate 3. …………… triphosphate 4. ...................................... 5. ...................................... 47. จากการศึกษาปจจัยการสูบบุหรี่และการเกิดโรคมะเร็งปอด ดังตารางขางลางใหคํานวนหาความสัมพันธระหวางปจจัย การสูบบุหรี่และการเกิดโรคมะเร็งปอด สูบบุหรี่ ไมสูบบุหรี่ เปนมะเร็ง 200 300 500 ไมเปนมะเร็ง xxx xxx xxx xxx xxx 1000 1. 2 2. 4 3. 6 4. 8 5. 10 48. หากทานตองการเตรียมการผลิต แบงบรรจุยาเคมีบําบัด ควรเตรียมยาในหองที่มีสภาวะแบบใด 1. ตูปลอดเชื้อ class 100 ในหองสะอาด class 1000 2. ตูปลอดเชื้อ class 100 ในหองสะอาด class 10,000 3. ตูปลอดเชื้อที่มีการไหลของอากาศในแนวนอน อยูในหองสะอาด class 100 4. ตูปลอดเชื้อที่มีการไหลของอากาศในแนวนอน อยูในหองสะอาด class 1,000 5. ตูปลอดเชื้อที่มีการไหลของอากาศในแนวนอน อยูในหองสะอาด class 10,000 49. จากการใชยาเคมีบําบัด หากมีความผิดปกติของตับ จะ monitor จากคา lab ใด 1. Serum creatinune 2. BUN 3. Serum albumin 4. ......................... 5. ......................... 50. มีการโฆษณาสมุนไพรในหนังสือพิมพฉบับหนึ่ง มีสรรพคุณรักษามะเร็งใหหายไดภายใน.... ฉลากยาบอกถึงเลข ทะเบียนตํารับ และบอกถึงประสิทธิผลการใชจากคนที่หาย จากโฆษณานี้มีความผิดหรือไม ...............................
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
288
MCQ
สถานการณที่ 6 กลุมโรคตา หู จมูก คอ : โรคหูอักเสบ เด็กชายอายุ 5 ป หนัก 15 กิโลกรัม เปนหวัดมาแลว 3 วัน มาพบแพทยที่โรงพยาบาล ซักประวัติเพิ่มเติมพบวามี อาการปวดในหู และมีหนองไหลจากหู 51. ผูปวยเด็กรายนี้เปนโรคอะไร 1. Pharyngitis 2. Otitis media 3. …………… 4. .................. 5. .................. 52. เชื้อที่มีโอกาสทําใหเกิดโรคตามขอ 51. ยกเวนเชื้อใด 1. H. Influenza 2. Moraxella Catharalis 3. Mycoplasma Pneumoniae 4. Strep. Pneumoniae 5. Strep. Sapophyticus 53. ยาที่ควรเลือกใชเปนอันดับแรกในผูปวยรายนี้คือ / Amoxycillin dry syrup 54. ควรใชยาหยอดหูตามขอใด 1. Chloramphenicol ear drop 2-3 หยด วันละ 3-4 ครั้ง 5 day 2. Dexamethasone + Neomycin ear drop……. 10 day 3. Polymycin B + Oxytetracycline……… 7 day 4. Ofloxacin……………… 7 day 5. Polymycin ...................... 7 day 55. ตํารายาใชภายนอก Chloramphenicol 500 mg Sodium Chloride qs. Purified water 100 ml กําหนดคา Isotonic value ของ chloramphenicol เทากับ 0.15 จงคํานวณหาปริมาณ NaCl ที่ใชในตํารับใหเปน Isotonic กับ 0.9% NaCl 1. 75 2. …. 3. .... 4. … 5. 825 56. จากการศึกษาประสิทธิภาพของยาปฏิชีวนะในรูปแบบยากิน และยาใชภายนอกในกลุมตัวอยาง 2 กลุม กลุมละ 50 คน โดยใหยาในระดับเลือดใกลเคียงกัน ศึกษาถึงประสิทธิภาพและระยะเวลาของยาทั้งสองชนิด ควรใชรปู แบบการศึกษาใด 1. Cohort study 2. Crossover study 3. Controll study 4. Case – Controll study 5. Crossection study
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
289
MCQ
57. จากการวิจยั เพื่อศึกษาการเปรียบเทียบการติดเชื้อที่อวัยวะ โดยคณะผูวิจัยเลือกกลุมตัวอยางโดยเลือกผูปวยที่ไดรับการ วินิจฉัยวาเคยเปนหวัดจํานวน 50 คน และผูปวยที่ไมเคยไดรับการวินิจฉัยวาเปนหวัดจํานวน 50 คน ใหหาปริมาณปจจัย เสี่ยงที่จะติดเชื้อที่หู ภาวะการติดเชื้อ การเปนโรคหวัด เปนหวัด ไมเปนหวัด ติดเชื้อที่หู 20 10 ติดเชื้อที่อวัยวะอื่น 25 15 ไมติดเชื้อที่อวัยวะอื่น 25 30 1. 0.33 2. 1.5 3. 1.67 4. 2 5. 3 58. เภสัชกรตองการเตรียมยาฆาเชื้อ โดยตองการตัวยาที่มีคุณสมบัติเปนกรดออน หากตองการทําใหการละลายของยา เพิ่มขึ้นควรทําอยางไร................................................................................... 59….. 60…. สถานการณที่ 7 กลุมโรคตอมไรทอและตอมมีทอ : โรค Hyperthyroid ผูปวยหญิงไทยอายุ 27 ป น้ําหนัก 50 กิโลกรัม มาโรงพยาบาลดวยอาการนอนไมหลับ เหงื่อออก ใจสั่น มือสั่น วัด ความดัน 180/90 mmHg ชีพจร 110 ครั้ง/นาที การหายใจ 24 ครั้ง/นาที ตอมไทรอยดมีขนาดโตกวาปกติ 4 เทา แพทยทํา การตรวจวินิจฉัยวาเปน Active hyperthyroidism และ Grave disease 61. จากการวินิจฉัยพบความผิดปกติของ paramitor ใด 1. Free T3 สูง TRH สูง 2. Free T3 สูง TRH ต่ํา 3. Total T4… TSH … 4. Total T4… TSH … 5. Free T4… TSH … 62. แพทยสั่งตรวจ Radioactive Iodine อยากทราบวา Radioactive Iodine ที่นิยมใชคืออะไร และระดับคา Radioactive uptake เปนอยางไร 1. I123, สูงกวาคนปกติ 2. I123, ต่ํากวาคนปกติ 3. I123, ไมตางจากคนปกติ 4. I131, สูงกวาคนปกติ 5. I131, ต่ํากวาคนปกติ 63. หลังจากที่ผูปวยรับประทานยาไดซักระยะหนึ่งแลวมีอาการ มือสั่น ใจสั่น กระสับกระสาย อาการเหลานี้เรียกวาอาการ อะไร 1. Akathisia 2. Hyperthropic…….. 3. Pheochromocytoma 4. Tetralogy spells 5. Thyrotoxicosis
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
290
MCQ
64. สาเหตุของการเกิด hyperthyroidism คือ / จากภูมิคุมกันตนเอง 65. ยาใดที่เหมาะสมในผูปวยรายนี้ 1. PTU 2. PTU + Propanolol 3. …… 4. …… 5. …… 66. ในการศึกษาอัตราการสลายตัวของ Iodine ซึ่งมีการสลายตัวแบบ first order มีคา K1= 0.0005 hr-1 จงคํานวณหา Shelf life 1. 1347 hr 2. 550 hr 3. 168 hr 4. 220 hr 5. 150 hr 67. วิธีการทดสอบ PTU 1. HPLC-UV 2. HPLC-MS 3. Radioimmunoassay 4. AA 5. AE 68. จากโครงสรางของยารักษา hyperthyroidism หากดัดแปลงตําแหนงใดในโครงสรางจะทําใหยาหมดฤทธิ์ O
HN
S
N H
H
...................................................................................... 69. ทําการเก็บขอมูลความพึงพอใจของผูเขารับบริการ กอนและหลังการปรับปรุง ไดคาเฉลี่ยความพึงพอใจ คือ กอนการ ปรับปรุงเทากับ 53 และหลังการปรับปรุงเทากับ 62 กําหนดคา p-value=0.02 ใหอภิปรายผลที่ไดจากการเก็บขอมูล ......................................................................................... 70. ….. สถานการณที่ 8 กลุมโรคทางเดินปสสาวะและไต : กรวยไตอักเสบ ชายไทยอายุ 60 ป น้ําหนัก 70 กิโลกรัม มาขอซื้อยาลางไต มีอาการไข หนาวสั่น ปวดสีขาง ปสสาวะมีสีน้ําลาง เนื้อ มา 1 วัน 71. ขอใดเปนขนาดยาที่ใช (Dose regimen) ในผูปวยรายนี้ 1. Ciprofloxacin 250 mg 1 tab bid pc 3 day 2. Ciprofloxacin 250 mg 1 tab bid pc 14 day 3. Ciprofloxacin 500 mg 1 tab bid pc 14 day 4. Ciprofloxacin 500 mg 2 tab bid pc 5 day 5. Ciprofloxacin 500 mg 2 tab bid pc 7 day
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
291
MCQ
72. กลไกการออกฤทธิ์ของยา Ciprofloxacin คือขอใด / DNA gyrase 73. การติดเชื้อสวนใหญ เกิดจากเชื้อสาเหตุใดบอยที่สุด 1. Clamydia 2. Mycoplasma neumoniae 3. E. coli 4. Strep…….. 5. Strep…….. 74. ผูปวยมาขอซื้อยาลางไต หรือ Phenazopyridine ที่ทําใหปสสาวะมีสีแดง เภสัชกรพิจารณาแลวพิจารณาไมจายยา เพราะเหตุใด 1. เนื่องจากยาไมมีฤทธิ์ฆาเชื้อ 2. เนื่องจากยาทําใหตองใชขนาดยาปฏิชีวนะสูงขึ้น 3. เนื่องจากยาทําใหตองใชยาในขนาดที่สูงขึ้น 4. เนื่องจากยาทําใหเกิดปฏิกิริยาตอกัน 5. เกินความจําเปน และผูปวยไดรับยาที่เหมาะสมแลว 75. จากการศึกษาผลการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปสสาวะ โดยศึกษายาแกอักเสบ 2 ชนิด ที่แตกตางกัน คือยา A และยา B โดยเปรียบเทียบคาใชจายในการรักษา อาการขางเคียง คุณภาพชีวิต การใหความรวมมือในการใชยา จากการศึกษาเปน การวิเคราะหแบบใด 1. Unit Cost Analysis 2. Cost Effectiveness Analysis 3. Cost Minimization Analysis 4. Cost Benefit Analysis 5. Cost Utility Analysis 76. การพิจารณายาในโรงพยาบาล ยาใดจะไมถูกพิจารณาเขาโรงพยาบาล เมื่อเปรียบเทียบกับ Utility 1. ยา A เปนเงิน 25,000 บาท Utility เทากับ 0.5 2. ยา B เปนเงิน 50,000 บาท Utility เทากับ 0.5 3. ยา C เปนเงิน 55,000 บาท Utility เทากับ 0.6 4. ยา D เปนเงิน 70,000 บาท Utility เทากับ 0.7 5. ยา E เปนเงิน 80,000 บาท Utility เทากับ 0.8 77. ยา Ciprofloxacin ถูกกําจัดออกทางเดินปสสาวะ 50 % มี t1/2 4 ชั่วโมง Vd 2.5 lite/Kg มีการกําจัดยาเปนแบบอันดับ หนึ่ง จงหาอัตราการกําจัด (CL) กําหนดให ln 2 เทากับ 0.693 ........................................ 78. ตัวยา Ciprofloxacin เกณฑมาตรฐานกําหนดใหมีปริมาณรอยละ 85-115 แตจากการทดสอบตัวยามีปริมาณรอยละ 78 จัดเปนยาลักษณะใด 1. ยาผิดมาตรฐาน 2. ยาปลอม 3. ยาหมดอายุ 4. …….. 5. …….. 79. ยา Ciprofloxacin จัดอยูในบัญชี ง ขอใดผิด / มีอยูในโรงพยาบาลทุกระดับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
292
MCQ
80. จากโครงสรางยา Ciprofloxacin มีคา pKa=2 ถายาอยูในลําไสสวน duodenum มี pH=4 ยา Ciprofloxacin จะอยูในรูป ใด O F N H
N
COOH C H2
N cyclopropyl
................................................................................. สถานการณที่ 9 กลุมโรคระบบเลือด : โลหิตจาง ผูปวยรายหนึ่งแพทยทําการตรวจและวินิจฉัยวาเปน CA stomach ไดรับการผาตัดสวน antrum ออก มาพบแพทย มีอาการซีด เหนื่อยหอบ หายใจไมอิ่ม รูสึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทงที่ลําตัว จากผลการตรวจทางหองปฏิบัติการ Hct 27, Hb 9 และ MCV 125 81. ภาวะโลหิตจาง (anemia) ที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุใด 1. ขาด intrinsic factor 2. จากการที่ผาตัดกระเพาะอาหาร 3. ลําไสดูดซึม Vitamin B12 ไดนอยลง 4. .... 5. ... 82. จากผลทางหองปฏิบัติการ ควรใหยาใดในผูปวยรายนี้ 1. Ferrous 2. Folic acid 3. Vitamin C 4. Vitamin K 5. Zinc 83. การรักษาแบบ maintanace Vitamin B12 ในผูปวยรายนี้ 1. Vitamin B12 Oral….. 2. Vitamin B12 IV….. 3. Vitamin B12 IM….. 4. .... 5. ... 84. กลไกการทํางานของ Vitamin B12 / Replicate and ………. 85. การเตรียมยาฉีด Single dose Vitamin B12 ยามีคาการละลายน้ํา 1 ตอ 80 in water, sparingly soluble in alcohol ตัว ยา hygroscopic และไมทนตอแสง การตั้งตํารับยาฉีดขางตน สารในขอใดไมจําเปนตองใชในตํารับ 1. Antioxidant 2. Preservative 3. Chelating agent 4. .... 5. Tonicity adjustment 86. การทําใหปราศจากเชื้อของยาตํารับดังกลาว ทําไดโดย 1. Filtration 2. การอบดวยความชื้นแหง 3. การอบดวยความรอนแหง 4. .... 5. ...
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
293
MCQ
87. ทําการทดลองหาวิธีการทําใหปราศจากเชื้อเปรียบเทียบกัน 4 วิธี คือวิธี A, B, C, D แลวทําการเพาะเชื้อ พบวาคาเฉลี่ย การเจริญเติบโตของเชื้อที่เพาะเปน 90, 85, 75 และ 50 ตามลําดับ กําหนดคา p-value = 0.044 สามารถแปรผลการทดลอง นี้ไดอยางไร ................................................................... 88. ทําการทดลองทางคลินิก โดยการทดลองฉีด Vitamin B12 ในอาสาสมัคร / อาสาสมัครตองรับทราบขอมูลการทดลองและใหคํายินยอม 89. ผูปวยเดินทางกลับจากเมืองนอก ซื้อ Vitamin B12 อมใตลิ้นกลับมาจํานวน 4x500’s อยากทราบวาผิดกฎหมาย หรือไม / ผิด เพราะ Vitamin B12 เปนยาตองขึ้นทะเบียนตํารับยา 90. .... สถานการณที่ 10 กลุมโรคทางเดินหายใจ : โรคหอบหืด 91. สาเหตุของการเกิดหอบหืด ในผูปวยรายนี้คือ 1. จากสิ่งกระตุน 2. จากภาวะภูมิไวเกิน 3. .... 4. .... 5. ... 92. พารามิเตอรที่ใชวัดคือ / PEF 93. การใชยา Albuterol inh ในผูปวยรายนี้ / ใช 3-4 puff หางกัน 5 นาที จนกวาจะหาย 94. การเก็บรักษายา Albuterol inh / เก็บที่อุณหภูมิหอง 95. การตั้งตํารับยา Dry powder ไมตองคํานึงถึงขอใด / Solubility 96. จากโครงสรางยา β-agonist Albuterol ตรงตําแหนงไหนจึงทําให selective กับ β มากกวาα / β - OH 97. จากผลของการ specific ทําใหเกิดผลดีคือ / ไมมีผลตอหัวใจ 98. หากนําปบมาใชในการรักษา จากการสองกลองจุลทรรศน จะเห็นสวนใด 1. Cork 2. Mesophyll 3. Pollen gain 4. Stomach 5. Vessel 99. ยา Albuterol ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม COMT ตรงตําแหนงใด 1. β 2. 2,3 …. 3. ….. 4. …. 5. …. 100. ไดรับยา Albuterol syrup 2 mg/5 ml รับประทานครั้งละ 2 ชอนชา ใหคา bioavability เทากับ 0.7 อยากทราบวาเด็กมี ยาในกระแสเลือดเทาไร ..........................................
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
294
ขอสอบประมวลความรอบรูทางเภสัชศาสตรครั้งที่ 1/2550 วันเสารที่ 15 ธันวาคม 2550 ขอสอบมี 100 ขอ เวลา 3 ชั่วโมง มี 4 ชุด A, B, C และ D สถานการณที่ 1 : โรคระบบทางเดินหายใจ หญิงไทยอายุ 19 ป พบแพทยดวยอาการหอบเหนื่อย มีอาการไอ จาม มีน้ํามูก มีไข ชวงนี้อยูในชวงรับนองทําให ไดรับฝุนมากกวาปกติ แพทยตรวจทาง lab และปอด วินิจฉัยวาเปนโรคหอบ Rx Ventolin® syrup 1 teaspoon tid 1. สาเหตุที่ทําใหเกิดอาการหอบของผูปวย คือ 1. สิ่งกระตุน (triggers) ตางๆ เชน เสียง แสง ความรอน เปนตน 2. การตอบสนองตอสิ่งเราของภูมิคุมกันรางกายที่มากเกินไป 3. เปนอาการรวมเมื่อผูปวยเกิดอาการไข 4. ความผิดปกติของปอด 5. การออกกําลังกาย 2. คา lab ที่ใชติดตามภาวะโรคของผูปวย คือ 1. CK 2. MCHC 3. GFR 4. PaO2 5. PEF 3. ขอดีของยา Beta 2-Selective คือ 1. ลดอาการขางเคียงตอระบบประสาท 2. ลดอาการขางเคียงตอหัวใจ 3. ลดอาการขางเคียงทางผิวหนัง 4. พิษตอตับนอย 5. พิษตอไตนอย 4. ถาเภสัชกรตองการสืบคนแนวทางการรักษาโรคหอบหืดจะคนจากแหลงใด 1. JNC 7th 2. GINA 3. GOLD 4. NCEP III 5. Stanford 5. Salbutamol syrup 2 mg/ 5 ml ทาน 2 ชอนชา ยามี bioavailability = 0.7 ถามวาจะมีระดับยาในเลือดเทาใด ตอบ ใหยา 2 ชอน คือ 10 ml เทากับมียา 4 mg คา F = 0.7 หรือ ยาดูดซึม 70% ของ Dose ที่ให วิธีคิด 4 x 0.7 = 2.8
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
295
6. สูตรโครงสรางใดของ salbutamol ที่ทําให selective ตอการจับกับ Beta receptor มากกวา Alpha receptor 1. β-Hydroxy 2. 3-Methylhydroxy 3. 4-hydroxy 4. secondary amine 5. t-butyl group จากนั้นผูปวยอาการไมดีขึ้นแพทยสั่งจาย Sulbutamol MDI 3-4 puff prn #1 7. วิธีใช Sulbutamol MDI ขอใดถูกตอง 1. พน 3-4 puff กอนนอน 2. เมื่อมีอาการกําเริบพน 3-4 puff 3. สามารถพนหลังรับประทานอาหารทันทีได 4. พน 1-2 puff กอนและหลังออกกําลังกาย 5. เพื่อปองกันการกําเริบพน 3-4 puff กอนออกกําลังกายอยางนอย 30 นาที 8. วิธีการเก็บรักษายา Sulbutamol MDI ขอใดถูกตอง 1. เก็บไวที่อุณหภูมิหอง 2. เมื่อเปดใชแลวตองใชใหหมดภายใน 7 วัน 3. เมื่อเปดใชแลวสามารถเก็บไวใชได 14 วัน 4. เก็บในลักษณะหงายหรือปากขวดชี้ขึ้น 5. เก็บในตูเย็นที่อุณหภูมิ 2-8 oC หลังจากนั้นผูปวยอาการไมดีขึ้น แพทยสั่งจาย Budesonide (200) 1 puff OD Amoxicillin 1x3 pc Loratadine 1x1 pc 9. ฝาขาวที่ลิ้นเกิดจาก 1. Sulbutamol MDI 2. Budesonide 3. Amoxicillin 4. Loratadine 5. Sulbutamol Syrup 10. ตําราสมุนไพรไทย สามารถใชปปในการรักษาอาการหอบได เมื่อสองกลองจุลทรรศนจะไมพบสิ่งใด 1. Cork 2. Mesophyll 3. Pollen grain 4. Stomata 5. Vessel
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
296
MCQ
สถานการณที่ 2 : โรคระบบทางเดินอาหาร ผูปวยมีอาการปวดแสบทอง มักเปนเวลาเครียดและหลังรับประทานอาหาร มีประวัติแพยากลุม penicillin 1. ผูปวยมีอาการดังกลาว ควรใหการรักษาเบื้องตนอยางไร 1. Lansoprazole + misoprostal 2. Antacid + Ranitidine 3. Antacid + Omeprazole + Ranitidine 4. Amitriptyline + Omeprazole + Misoprostal 5. Amitriptyline + Sucralfate + Misoprostal 2. วิธีรับประทานยาในขอที่ผานมา ขอใดไมถูกตอง 1. ________________________________________ 2. ยาน้ําใหเขยาขวดกอนเทยา 3. การรับประทานยาเม็ดและยาน้ําใหทานหางกัน 2 ชั่วโมง 4. ยาลดกรดทําใหทองผูก 5. ถาอาการดีขึ้นใน 1 สัปดาห ใหหยุดรับประทานยาได 3. ถายา Antacid วิเคราะหพบวา มียา 3.05 mg/100 ml แตในตํารับระบุวาตองมี 4.4 mg/100 ml ถามวาเปนยาเชนไร 1. ยาปลอม 2. ยาปนเปอน 3. ยาผิดมาตรฐาน 4. ______________________ 5. ______________________ 4. ผูปวยปวดแสบอก ปวดยอดอก เวลาเครียด ผูปวยรายนี้ควรไดรับยาใดเพิ่มเติม 1. Domperidone 2. Cisapride 3. ____________________________ 4. ยาชวยยอย 5. Hyoscine 5. หากตองการรักษาเพื่อกําจัดเชื้อ H.pylori ควรเลือกใหการรักษาอยางไร ตอบ ใหยาสูตร Omeprazole 20 mg 1x2 + Clarithromycin 500 1x2 + Metronidazole 500 1x2 จะไมใหสูตรที่มียา Amoxicillin เพราะผูปวยมีประวัติแพยากลุม penicillin 6. คํานวณการไตเตรต โดยใหคา Absorbance ตอบ 0.18 7. ยาสมุนไพรที่ใชไดในการรักษาโรคกระเพาะอาหาร ตอบ ขมิ้นชัน 8. สวนของสมุนไพรที่นํามาใชจากขอขางบน ตรวจไมพบสวนใด 1. epidermis 2. vessel 3. stomata 4. …. 9. กลไกการออกฤทธิ์ของยา Antacid ตอบ เกิดปฏิกิริยาเชิงซอนกับกรดในกระเพาะอาหาร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
297
สถานการณที่ 3 : โรคความดันโลหิตสูง ผูปวยมีอาการปวดศีรษะ มีประวัติเปนโรคไต, stroke ผลวัดความดันได 149/100 mmHg 1. ควรใหการรักษาอยางไรในผูปวยรายนี้ 1.ใหยาลดความดันโลหิตรักษาทันที 2. ใหใชเครื่องชวยหายใจ 3. ใหมาวัดความดันโลหิตซ้ําในอีก 1 อาทิตย 4. ใหมาวัดความดันโลหิตซ้ําในอีก 2 เดือน 5. ใหมาวัดความดันโลหิตซ้ําในอีก 1 เดือน 2. ขอใดเปนอาการขางเคียงของยา HCTZ 1. hypokalemia 2. hypercalciuria 3. hypernatrimia 4. hyperuric 5. hyperalbumin 3. สมุนไพรที่ควรแนะนําในผูปวยความดันโลหิตสูง 1. ชาหญาปกกิง่ 2. ขาหญาหนวดแมว 3. ชาดอกคําฝอย 4. ชาใบเตย 5. ชากระเจี๊ยบแดง 4. โครงสรางของยาใดที่ละลายในไขมันมากที่สุด เรียงจากมากไปนอย
A = Nifedipine B = Felodipine C = Amlodipine ตอบ B > C > A 5. รพ.มีการสั่งใช CCB ในปริมาณสูงตองการทําการวิจัยเพื่อตัดยาออก ขอใดมีผลในการตัดสินใจนอยที่สุด 1. Drug use evaluation 2. Drug use review 3. Cost minimize analysis 4. Cost effective analysis 5. Cost benefit analysis
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
298
MCQ
6. การคิด Utility ขอใดที่จะตัดออกไปกอนเปนอันดับแรก 1. Cost 25,000 มี Utility 0.5 2. Cost 50,000 มี Utility 0.5 3. Cost 55,000 มี Utility 0.6 4. Cost 77,000 มี Utility 0.5 5. Cost 88,000 มี Utility 0.8 7. ขอใด คือ กลไกการออกฤทธิ์ของยากลุม ตอบ ลดความตานทานของหลอดเลือดสวนปลาย เนื่องจากเปนกลุม Dihydropyridine ซึ่งจะออกฤทธิ์เดนที่หลอด เลือด เดนมากในเรื่องการขยายหลอดเลือดและลดความตานทานหลอดเลือดสวนปลาย (ลด TPR resistant) 8. ขอใดเปนอาการขางเคียงของยา Nifedipine ตอบ พวก reflex tachycardia คือ มีอาการหนาแดง ใจสั่น - ไมใชทองผูก เนื่องจากทองผูกเกิดไดจากยา Verapamil ที่เปนอนุพันธของฝน 9. Nifedipine Modified release สามารถหักแบงไดหรือไม ตอบ หักแบงไมได เพราะมีผลตอการปลดปลอยของยา 10. การใหคําแนะนําผูปวยมีภาวะความดันโลหิตสูง ขอใดไมถูกตอง 1. จํากัด โซเดียม 2. จํากัด โพแทสเซียม 3. ลดการสูบบุหรี่ สถานการณที่ 4 : โรคติดเชื้อ หญิงไทยอายุ 30 ป อายุครรภ 25 สัปดาห สามีตรวจ HIV ผลบวกเมื่อ 2 สัปดาหกอน จึงมาขอตรวจ HIV พบ ผลบวก แตยังไมแสดงอาการ (CD4 400 cell/mm3) 1. ผูปวยรายนี้ควรไดรับยา เพื่อปองกันการติดเชื้อจากแมสูลูก 1. เริ่มใข GPO vir ทันที 2. เริ่มใช AZT ทันที 3. เริ่ม GPO vir เมื่ออายุครรภ 28 สัปดาห 4. เริ่ม AZT ทันทีเมื่อครบ 28 สัปดาห 5. เริ่มให GPO vir เมื่อ CD4 < 200 cell/mm3 2. N3 หรือ Azido group จากสูตรโครงสรางของ AZT มีผลใหเกิดสิ่งใด 1. เพิ่มคาครึ่งชีวิตใหยาวขึ้น 2. เพิ่ม_________________________ 3. เพิ่มการดูดซึม 4. เพิ่มการ phosphorylation 5. มีผลตอการตั้งสูตรตํารับ 3. เมื่อหญิงมีครรภ HIV ปวดทองคลอด จะใหยาอยางไร 1. AZT q 3 hr 2. NVP q 3 hr 3. AZT OD NVP q 3 hr 4. AZT q 3 hr NVP OD 5. AZT + NVP q 3
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
299
4. ยา ARV ตัวใด ไมควรใชในหญิงตั้งครรภ ไตรมาสที่ 3 ตอบ Efavirenz ไมควรใชในไตรมาสที่ 3 สวน Stavudine ไมควรใชใน ไตรมาสที่ 1 5. ยาใดที่เปนพิษตอตับ ตอบ Nevirapine 6. เมื่อผูปวยคลอดบุตรแลว จะใหยาใด และใชอยางไรใน 2 สัปดาหแรก ตอบ ให D4T + 3TC 1x2 และ NVP once daily 7. นอกจากยาตานไวรัสที่ใหแลว จะใหยาใดอีกเพื่อปองกัน ตอบ Bactrim เพื่อปองกัน PCP เนื่องจาก CD4 เทากัน 190 (นอยกวา 200 cell/mm3) 8. การระบุลักษณะทางยา (Identification) ควรใชหนังสือเลมใด ตอบ MIMs สถานการณที่ 5 : โรคเบาหวาน ผูปวยมาดวยอาการปสสาวะบอย ดื่มน้ําบอย ปากแหง ผิวแหง ทานอาหารไดตามปกติ แพทยสั่งตรวจปสสาวะ และเลือด วินิจฉัยวาเปน DM ใหยา Chlopropamide (250) 1 tab ac qd # 30 1. ผลการตรวจทางหองปฏิบัติการ ขอใดบงบอกวาเปน DM 1. Blood glucose > 150 mg/dL 2. HbA1c > 7% 3. ปสสาวะมากกวา 3 ลิตร/วัน 4. Insulin ในเลือดต่ํา 5. Glucose tolerance > 200 mg/dL 2. คลินิกเบาหวาน เหตุใดจึงมีการตรวจ HBA1c 1. เพื่อติดตามผลตกคางจากยาลดระดับน้ําตาล 2. เพื่อติดตามผลลดระดับน้ําตาลภายใน 2 เดือนผานมา 3. ผูปวยมีอาการใจสั่น เหงื่อออก เรียกวาอะไร 1. hypoglycemia 2. hyperglycemia 3. hypervolumia 4. hypovolumia 4. แกไขภาวะนี้อยางไร 1. หยุดยา แลวไปพบแพทย 2. ลดขนาดยา 3. ใหดื่มน้ําหวาน 4. เพิ่มขนาดยา 5. งดการดื่มกาแฟ 5. ขอใด ไมใช ภาวะแทรกซอนของโรคเบาหวาน 1. retinopathy 2. nephropathy 3. neuropathy 4. glaucoma 5. atherosclerosis
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
300
MCQ
6. มี glipizide MR 30 mg แพทยตองการใช 15 mg สามารถแบงไดหรือไม 1. แบงได เพราะไดปริมาณยาเทากัน 2. แบงได หักแบงแลวละลายน้ํา 3. แบงไมได มีผลตอการปลดปลอยยา 4. แบงไมได เพราะตัวยาที่ไดอาจไมเทากัน 5. แบงไมได เพราะยาสลายตัวเมื่อสัมผัสสิ่งแวดลอม 7. ผลิต glipizide film coat tablet ปจจัยใดที่มีผลตอการปลดปลอยยา 1. particle size 2. Solubility 3. crystalinity 4. ___________________________ 5. film thickness 8. ขอใดไมใชการตรวจ HBA1c 1. ion-exchange chromatography 2. electropholosis 3. Gas chromatography 4. Electro focusing 5. ___________________________ 9. ขอใดไมใชกลไกการออกฤทธิ์ของยา Chlropropamide 1. กระตุนการหลั่งอินซุลิน 2. เพิ่มความไวของอินซุลินที่กลามเนื้อ 3. ลดการดูดซึมในทางเดินอาหาร 4. ยับยั้งเอนไซม lipase ในทางเดินอาหาร 10. ยาฉีดอินซุลินใด ที่ออกฤทธิ์แบบ intermediate 1. Inter insulin 2. Neutral insulin 3. Isophane 4. Lispro 5. glargine สถานการณที่ 6 : โรคมะเร็ง ผูปวย เปนมะเร็งเตานม เนื่องจากไวตอ estrogen อายุ 65 ป 1. ผูปวยไดรับยา morphine IV ฉีด จะเปลี่ยนเปนยากิน ตอบ การคิดใหคิด Dose ยา morphine ฉีด ดูวา 1 วัน ผูปวยไดรับยารวมเทาไร เมื่อได Dose ยารวมแบบฉีดแลว พอจะ เปลี่ยนมาเปนแบบกิน ใหเอา 3 มาคูณ เพราะยากินตองใช Dose มากวา 3 เทา 2. Antidote ของ morphine คืออะไร 1. Activated charcoal 2. Atropine 3. Methadone 4. Naloxone
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
301
5. Ipecac syrup 3. Vincristine ยับยั้งที่ phase ใดของ cell cycle 1. S phase 2. G1 phase 3. G2 phase 4. M phase 5. G0 phase 4. ผลขางเคียงของยา Doxorubicin มีผลขางเคียง ตอสิ่งใดมากที่สุด ตอบ Cardiac toxicity 5. จากโครงสรางของ Doxrubicin ที่เกิด intercalate DNA จากสวนใดของโครงสราง
1. Anthracycline ring 2. กลุม N 3. Methoxy 4. Hydroxyl 5. น้ําตาล glycoside 6. Doxorubicin ตองเก็บที่สภาวะ cool temperature ทานจะเก็บยาที่อุณหภูมิเทาใด 1. (-10) - (-25) oC 2. 2- 8 oC 3. 8 -15 oC 4. 15- 20 oC 5. 25- 30 oC 7. Cisplatin ให 4 cycle (cycle ละ 28 วัน) เริ่มให 3 มิย 50 จะให cisplatin day 4 รอบ 2 วันที่เทาไร 1. 6 มิ.ย. 2. 10 มิ.ย. 3. 2 ก.ค. 4. 3 ก.ค. 5. 4 ก.ค. 8. โครงสรางนี้ เรียกวา อะไร
1. Nucleotide ของ Purine 3. Nucleoside ของ Purine
Pharmacy Student Rx’24
2. Nucleotide ของ Pyridine 4. Nucleoside ของ Pyridine
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
302
9. หากจะใหยาเพื่อลดอาการรอนวูบวาน จากการหมดประจําเดือน ควรใหยาใด 1. Androgen 2. Conjugates estrogen 3. Combined contraceptive 4. Tamoxifen 5. Testosterone สถานการณที่ 7 : โรคภูมิแพ ยา A 1.2 g (E = 0.1) Chloramphenical 0.2 g (E = 0.3) NaCl q.s. Water q.s. to 30 ml 1. ถาตองการเตรียมเปน isotonic solution ตองใชปริมาณ NaCl เทาไร ตอบ 0.09 วิธีคิด ถามหมู 2. ในยาตาไมตองมีสารใด 1. tonicity 2. Preservative 3. Antiadhesive 4. sterile water 3. คําแนะนําการใชยาตา ขอใดถูกตองที่สุด ตอบ ลางมือใหสะอาด 4. ถายา prednisolone มีคา E1% 1cm (243 nm) = 415 อยากทราบวา E1%, 1cm คือคาอะไร 1. absorptivity ของยา 1%w/v 2. absorptivity ของยา 1%v/v 3. absorptivity ของยา 1 m 4. extinction coefficient ของยา 1 m 5. extinction coefficient ของยา 1%v/v ผูปวยมีประวัติเปนโรคภูมิแพ คัดจมูก จาม มีน้ํามูก มักมีอาการเมื่อเลนกับแมว ผูปวยถือซองยา มาขอซื้อยาที่ราน 5. ที่ซองยาเขียนวา Prednisolone 5 mg เภสัชกรควรปฏิบัติอยางไร ตอบ จายไมได เนื่องจากเปนยาควบคุมพิเศษ 6. ขอใดไมใชอาการขางเคียงของยา prednisolone 1. glaucoma 2. moon face 3. osteoporosis 4. peptic ulcer 5. renal failure 7. ควรจายยาใดเพื่อบรรเทาอาการเบื้องตน ตอบ Anti-histamine1 8. เมื่อใชแลวอาการไมดีขึ้น ยาใดที่เหมาะสมที่สุดกับสภาวะโรคของผูปวยรายนี้ 1. Chloramphenical 2. tripolidine + pseudoephredine 3. tripolidine + pseudoephredine + prednisolone 5 mg 4. chloramphenical + prednisolone 5 mg
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
303
MCQ
5. tripolidine + pseudoephredine + Budesonide inhaler 9. นอกจากนี้ ควรแนะนําผูปวยอะไรเพิ่มเติม ตอบ ใชผาปดจมูก สถานการณที่ 8 : ฮอรโมน 1. การทํายาคุมกําเนิดแบบ transdermal ขอใดผิด 1. ยา Polarity มาก จะมีการดูดซึมมากขึ้น 2. ชั้น limiting step คือ subcutaneous 3. ___________________________________ 4. ___________________________________ 5. transdermal ประกอบดวย semi-permeable 2. ฮอรโมนคุมกําเนิดไมใชในการรักษาอะไร 1. สิว 2. ประจําเดือนมามากเกินไป 3. ฝา 4. ประจําเดือนมากระปดกระปอย 5. เลื่อนประจําเดือน 3. ขอแนะนําในการใช postinor 1. กินครั้งเดียว 2 เม็ด 2. กินเม็ดแรก 1 ชม. เม็ดที่ 2 ภายใน 48 ชม. 3. กิน 1 เม็ดแรก ภายใน 72 ชม. เม็ดที่ 2 ภายใน 12 ชม. 4. กิน 1 เม็ดแรก ภายใน 72 ชม. เม็ดที่ 2 ภายใน 24 ชม. 5. กินไมเกินเดือนละ 4 กลอง 4.ทุกขอเปนประโยชนของ progestogen ทุกขอ ยกเวนขอใด 1. ยับยั้งการตกไข 2. ฆา sperm 3. กระตุนการตกไข 4. ทําใหมดลูกเหนียวขอ 5. ทําใหทอนําไขบีบตัว 5.ขอใดกลาวถึง Progesterone ไดถูกตอง 1. มีเฉพาะแบบฉีดเทานั้น 2. การฉีดหนึ่งครั้งจะปองกันการตั้งครรภได 3 เดือน 6. เภสัชกรสามารถจายยาคุมกําเนิด ชนิดฮอรโมนรวมได ในผูรายใดตอไปนี้ ตอบ ในผูหญิงสูบบุหรี่ ที่มีอายุ < 35 ป 7. สาร CMC ในตํารับยาที่ควบคุมการปลดปลอย Osmotic pump มีหนาที่อะไร ตอบ Semipermeable membrane 8. ทําการศึกษาขอมูล 2 กลุม เปรียบเทียบกอนและหลัง โดยตัวแปรมีความสัมพันธกัน ใชสถิติใดในการวิเคราะห ตอบ Pair t-test
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
304
9. ทําการศึกษาขอมูล คือ กลุม A และ B ไดคา Odd ratio 1.25 ….% จะแปรผลอยางไร ตอบ หากคา Odd ratio > 1 แสดงวา ขอมูลทั้ง 2 ไมมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญ 10. การเขยาแลวไมกลับคืน ของ suspension คือ อะไร ตอบ caking สถานการณที่ 9 โรคขอ ไดรับวินิจฉัยวาเปน gout 1. colchicine มีขนาดยาตอเม็ดนอยมาก จึงไมควรผลิตยาโดยวิธใี ด 1. direct compression 2. ผูปวยชายเปนเกาต มีระดับ serum uric acid 12 mg/dl ปวดบวมขอนิ้วหัวแมเทา ขอใดกลาวผิด 1. ควรให allopurinol เพื่อลดการสรางกรดยูริก 3. ขอใดเปนอาการขางเคียงของยา colchicine 1. ทองเสีย 2. ทองผูก 3. __________________________ 4. __________________________ 5. __________________________ 4. เมื่อผูปวยมีอาการดีขึ้น หากตองการใหยายับยั้งการสรางกรดยูริก ควรใชยาใด ตอบ Allopurinol 5. จากแผนภาพขางลาง แสดงเมตาบอลิซึมของยา Indomethacin ขอใดกลาวถูกตอง
ตอบ. เกิดกระบวนการ O-demethylation โดยอาศัยเอนไซม 6. สารแกปวด Colchicine พบไดในพืชชนิดใด ตอบ ดองดึง 7. การบรรจุยาแคปซูล ไมตองคํานึง ถึงสิ่งใด 1. ปริมาณยาที่บรรจุ 2. ขนาดของแคปซูล 3. ความหนาแนนของสารที่บรรจุในแคปซูล 4. การไหล (flow ability) 8. การตอกยา แลวมียาติดที่ die ขอใดเปนการแกปญหาที่ไมถูกตอง ตอบ การเพิ่มความชื้นใหกับสารในตํารับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
305
9. การผลิตยาที่ไมทนแสง ความรอน ความชื้น ควรใชวิธีใด ตอบ dry granulation 10. ผูปวยกินยากลุม sulfa แลวพบวามีอาการแพแสง หากผูปวนไดรับยาใดตอไปนี้อาจทําใหเกิดอาการแพได 1. โครงสรางกลุม Quinolone 2. โครงสรางยากลุม Sulfa 3. โครงสรางยากลุม เตตตราไซคลิน สถานการณที่ 10 : อื่นๆ 1. ผูปวยกินยาลดน้ําหนักมีอาการใจสั่น รอนวูบวาบ เกิดจากยาใด 1. furosemide 2. HCTZ 3. levothyroxine 4. senoside 5. ______________________________________________ 2. หากจะใหยาควบคุมน้ําหนักผูปวย ควรใหยาใด ตอบ Olistat 3. เหตุใดยา Difenfluramine จึงถูกถอน ตอบ พิษตอลิ้นหัวใจ 4. คาใดที่ใชประเมินวาผูปวยมีภาวะน้ําหนักเกิน ตอบ คา BMI 5. การจําหนายยาชุดในรานยาที่มีเภสัชกรประจําราน ผิด พรบ.ยา หรือไม 1. ไมผิด เพราะเปนยาอันตราย 2. ไมผิด เพราะจายใหผูปวยเฉพาะราย 3. ไมผิด เพราะมีเภสัชกรเปนคนจัดยาให 4. ไมผิด เพราะ ผูปวยรองขอ 5. ผิด เพราะ ผิด พรบ.ยา 6. ขอกลาวถูกตองเกี่ยวกับกฎหมายยา ตอบ เภสัชกร ไดรับโทษ 1 ป เนื่องจากจําหนายยา Vioxx ที่ถูกถอนทะเบียนไปแลว 7. การไทเทรต 0.1 ml 0.05M EDTA สมมูลกับ 2.9 g ของสารตัวอยาง Flask 1 Flask 2 Blank 1 16.3 16.2 0.15 1. 46.40
Blank 2 0.25
8. สารในพืชสมุนไพรใด ที่สามารถยับยั้ง เอนไซม......... ในรางกายได 1. มะขามแขก 2. สมแขก 3. กลวยแขก
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
306
ขอสอบ MCQ แยกตามเรือ่ ง
คําแนะนํา : ควรอานเนื้อหาจากหนังสือ Comprehensive Pharmacy Review by Rx’24 KKU กอน แลวจึงทดลอง ทําแบบฝกหัดทีละเรื่อง หมายเหตุ : ดัดแปลงจากเอกสารประกอบการติวสอบรวบยอดและสอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม – Rx’23 KKU
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
307
MCQ เรื่อง Infectious disease Case HIV and OIs Case ผูหญิงอายุ 35 ปมาเขารับการรักษาในโรงพยาบาลดวยอาการปสสาวะมีเลือดปนสีแดง จากการซักประวัติพบวามี ประวัติเปนแผลในปากเรื้อรัง ผูปวยเคยขอซื้อยา Triamcinolone in oral paste เพื่อรักษาแผลในปากแตอาการไมดีขึ้น ผูปวยไดรับการวินิจฉัยเมื่อสองอาทิตยที่ผานมาและไดรับการรักษาดวยยา cyclophosphamide(50mg) 1*2 pc, prednisolone(5 mg), CaCO3 1*3 pc, Obimin AF 1*1 pc แลมีภาวะความดันโลหิตสูง(6เดือนที่ผานมา) และไดยา enalpril 5 mg 1*1 1. ทานคิดวาอาการดังกลาวที่เกิดขึ้นนาจะสัมพันธกับการใชยาใดมากที่สุด ก prednisolone ข cyclophosphamide ค enalapril ง CaCO3 จ Obimin 2. อาการไมพึงประสงคดังกลาวสามารถปองกันไดดวยวิธีใด ก ใหผูปวยกินยาหลังอาหารทันที ข ใหผูปวยกินยาตอนเชาและกอนนอน ค หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเย็นจัด ง พยายามปสสาวะใหเปนเวลา จ ดื่มน้ําตามมากๆ อยางนอยวันละ 2-4 ลิตร 3. ตอมาผูปวยไดรับการวินิจฉัยเปน AIDS และไดรับบา Bactrim 2*1 และ Fluconazole 200 mg วันละครั้ง หลังกินยามา ได 12 วันเริ่มมีผื่นขึ้นลุกลามไปทั่วรางกาย จากการตรวจรางกายพบแผลในปาก เยื่อบุตาอักเสบ มีผื่น papulo vesicular with bleb อาการไมพึงประสงคดังกลาวเรียกวาอะไร ก Steven-Johnson Syndrome (SJS) ข Toxic epidermal necrolysis (TEN) ค Fixed drug eruption ง Urticaria จ Exfoliative dermatitis 4. อาการไมพึงประสงคดังกลาวนาจะเกิดมาจากสาเหตุใด ก เกิดจากภาวะแพภูมิตนเอง ข การติดเชื้อฉวยโอกาสในผูปวย AIDS ค การแพยา Bactrim ง การแพยา Fluconazole จ การแพยา Fluconazole หรือ Bactrim 5. ยาที่ใชในการรักษาโรคของผูปวยรายนี้ ตัวใดที่มีคุณสมบัติเปน prodrug ก Cyclophosphamide ข Prednisolone ค Enalapril ง Calcium carbonate จ Fluconazole 6. ยาตัวใดสามารถวิเคราะหไดดวยเครื่องมือ Atomic absorption spectrophotometer ก Cyclophosphamide ข Prednisolone ค Enalapril ง Calcium carbonate จ Fluconazole 7. ในการศึกษาประสิทธิผลของ enalapril เทียบกับยา captopril พบวายาทั้งสองมีตนทุนในการรักษาที่เทากันแตมี ประสิทธิผลทางคลินิก คือ สามารถลด systolic blood pressure ไดแตกตางกัน การศึกษาดังกลาวเปนการศึกษาแบบใด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
308
MCQ
ก Cost effectiveness analysis (CEA) ข Cost minimization analysis (CMA) ค Cost benefit analysis ง Cost utility analysis จ ถูกทุกขอ 8. ขอความตอไปนี้ 2A 33/28 นาจะปรากฏอยูบนฉลากของยาใด ก prednisolone ข Cyclophosphamide ค Enalapril ง Calcium carbonate จ Obimin AF 9. เมื่อแพทยวินิจฉัยผูปวยรายนี้ติดเชื้อ HIV ในการทําลายเชื้อดังกลาว น้ํายาฆาเชื้อชนิดใดมีฤทธิ์ทําลายเชื้อ HIV ไดนอย ที่สุด ก 70% ethyl alcohol ข Glutaraldehyde (Cidex) ค Iodine Tincture ง Hypochlorite (Chlorox) จ Chlorhexidine + cetrimide (Savlon) 10. ยารับประทานในขอใดตอไปนี้ ตองใชใบสั่งแพทยการซื้อจากรานยา ก Prednisolone ข Prednisolone + Cyclophosphamide ค Prednisolone + enalapril ง Prednisolone + CaCO3 จ Prednisolone + Obimin A Case ชายไทยโสด 39 ป อาชีพรับจาง น้ําหนัก 48 กิโลกรัม ไดรับการวินิจฉัยวาติดเชื้อ HIV เมื่อ 6 เดือนกอนโดยเมื่อ 5 เดือนที่ผานมา ปวยเปนโรค Cryptococosis ปจจุบันไดรับยา Fluconazole 400 mg สัปดาหละครั้งและไมมีประวัติการไดรับ ยาตานไวรัสเอดสมากอน รวมทั้งไมมีประวัติการแพยา มาพบแพทยเนื่องจากมีอาการไอหลังเขารับการตรวจแพทยวนิ ิจฉัย วาผูปวยเปนโรค Pneumocystis carinii Pneumonia (PCP) 1. จงบอกอาการตางๆ ที่สําคัญของโรค Pneumocystis carinii pneumonia ก อาการไข ไอแบบมีเสมหะ รูสึกหอบเหนื่อยหอบ รวมกับมีภาวะโลหิตจาง ข อาการไอแบบมีเสมหะเรื้อรัง รูสึกหอบเหนื่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน ค อาการไอแหงๆ รูสึกหอบเหนื่อย นอนราบไมได แขนขาบวม ง อาการไข ไอแบบมีเสมหะ รูสึกหอบเหนื่อย ฟงปอดมีอาการผิดปกติ จ อาการไข ไอแบบมีเสมหะ มีน้ํามูกขน เจ็บคอ และปวดศีรษะ 2. จงบอกยาหลักที่ใชในการรักษา Pneumocystis carinii pneumonia ก zidovudine ข cotrimoxazole ค ceftriaxone ง acyclovir จ ciprofloxacin 3. กอนผูปวยจะกลับบาน เภสัชกรควรจะใหคําแนะนําแกผูปวยเรื่องการใชยา (discharge counseling) ในการปองกันโรค Pneumocystis carinii pneumonia อยางไรจึงจะเหมาะสม ก หามรับประทานยารวมกับนมหรือยาลดกรด ข รับประทานยาอยางสม่ําเสมอและปสสาวะอาจมีสีแดงได ค รักษาสุขภาพใหแข็งแรงและทําจิตใจใหสดชื่นแจมใส ง ใหกินยาหลังอาหารทันที เนื่องจากมีผลระคายเคืองกระเพาะ จ อาจทําใหเกิดผื่นชนิดรุนแรง ควรสังเกตอาการและแจงใหแพทยทราบทันที
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
309
4. สมุนไพรตอไปนี้สงผลดีตอผูปวยเอง ยกเวนขอใด ก โสม เห็ดหลินจือ พลูคาว ข กระเจี๊ยบ สมแขก มะขามแขก ค พลูคาว ชาพลู ดีปลี ง สมแขก แมงลัก วานหางจระเข จ มะขามแขก พริกไทย ขิง 5. หลังจากผูปวยไดรับยารักษาวัณโรค PCP เปนที่เรียบรอยแลว และมีอาการดีขึ้นแลว อยากทราบวาทําไมผูปว ยรายนี้ควร ไดรับการรักษาดวยยาตานไวรัสเอดสหรือไมเพราะเหตุใด ก ไมควรใหยาตานไวรัสเอดส เนื่องจากผูปวยเพิ่งเปน HIV ไดเพียง 6 เดือน ข ไมควรใหยาตานไวรัสเอดส เนื่องจากผูปวยไดรับยาหลักที่ใชในการรักษา PCP และยาปองกัน Cryptococcus meningitis มาตลอดจึงไมตองหวงเรื่องการเกิด recurrent ของโรค ค ไมสามารถตอบได เนื่องจากตาม guideline ของประเทศไทยหรืออเมริกาตองทราบคา CD4 หรือ viral load เพื่อ พิจารณารวมวาควรใหรวมหรือไม ง ควรใหยาตานไวรัสเอดส เนื่องจากผูปวยมีประวัติเปน Cryptococcus meningitis และเพิ่งไดการรักษา PCP แสดงวา ผูปวยเปนเอดสตาม guideline ตองใหการรักษา จ ควรใหยาตานไวรัสเอดส เนื่องจากผูปวยเปน PCP จึงคาดวาผูปวยมี CD4 นอยกวา 200 cells/mm3 ดังนั้นตาม guideline ตองใหการรักษา 6. ขอใดเปนหลักในการพิจารณาหยุดยาปองกันสําหรับโรคติดเชื้อฉวยโอกาสสําหรับผูปวยรายนี้ ก ไดรับการรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาสนั้นๆ เปนที่เรียบรอยแลวเปนระยะเวลา 6 เดือน ข มีคา CD4 cell count มากกวา 200 cells/mm3 นานเกิน 6 เดือนติดตอกัน ค เมื่อไมพบอาการของโรคเปนระยะเวลาอยางนอย 6 เดือน ง ไดรับยากลุมตานไวรัสเอดส (HAART) และ CD4 cell count เพิ่มขึ้นอยางนอย 6 เดือน จ ไดรับกลุมยาตานไวรัสเอดส (HAART) และมีคา viral load เพิ่มขึ้นเปนเวลาอยางนอย 6 เดือน
Effect of food metabolism elimination ADR
stavudine No effect 50% ขับออก ทาง urine Neuropathy
NRTI didanosine ลด AUC 55% 20% ขับออก ทาง urine Pancreatitis
lamivudine No effect 70% ขับออก ทาง urine N/V
NNRTI nevirapine No effect inducer 80% ขับออก ทาง urine rash
PI ritonavir เพิ่ม absorption 15% Potent inhibitor 86% ขับออกทาง feces N/V, lipodystrophy
คําถามขอที่ 7 จากขอมูลดานบนนี้ใหพิจารณาวาขอใดไมถูกตอง เกี่ยวกับยาตานไวรัสเอดส (antiretroviral) ก ถาผูปวยไดรับยา stavudine, lamivudine, nevirapine รวมกันสามารถใหรับประทานหลังอาหารโดยไมตองติดตาม อาการปวดชาของปลายมือปลายเทาคลายเข็มทิ่มและผื่นตามตัว ข ผูปวยที่ไดรับยา stavudine, lamivudine, nevirapine รวมกันและมีคา Creatinine clearance นอยกวา 50 ml/min ควร พิจารณาปรับลดขนาดยา lamivudine และ nevirapine ค ถาผูปวยไดรับยา didanosine, lamivudine, ritonavir รวมกัน สามารถใหรับประทานหลังอาหารโดยชวงแรกผูปว ยอาจมี อาการคลื่นไส อาเจียนมาก ง ถาผูปวยไดรับยา didanosine, lamivudine, ritonavir รวมกันตองระวังการใชยาอื่นๆ รวม เชน cisapride ซึ่งมีขบวนการ metabolism ผาน CYP 450
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
310
MCQ
จ ถาผูปวยไดรับยา didanosine, lamivudine, ritonavir รวมกัน ถามีปญหา hepatic impairment ตองปรับลดขนาดยา ritonavir ลง 8 ritonavir ขับออกทาง feces ในรูป unchanged ถึง 86% หากตองการเพิ่ม absorption นาจะทําโดยวิธีใดตอไปนี้ ยกเวน ก ลดขนาดของผงยา ข ทําเปน prodrug ค ใส absorption enchancer ง ใส lubricant เพิ่มขึ้นในตํารับยา จ เพิ่ม solubilizing agent ในตํารับยา 9 ถาตองการเตรียมยา didanosine ในรูปแบบยาน้ําที่ใชสําหรับเด็กเราควรเตรียมอยางไร ขอมูลที่กําหนดให ขอมูลยา didanosine - tablet undergo rapid degradation when exposed to acidic environment - tablet dispersed in water are stable for 1 hour at room temperature - reconstituted buffered solution is stable for 4 hours at room temperature จากขอมูลยาขอใดถูกตอง ก เตรียมยา didanosine ใน buffer solution pH 4 ข buffer ที่เหมาะสม เชน acetate buffer ค เตรียมยา didanosine ใหผูปวยรายนี้ไดจากรูปแบบยาผงเทานั้น ง ตํารับนี้ไมเหมาะสมที่จะเตรียมเปน liquid extemporaneous preparation ไวเนื่องจากมีความคงตัวต่ํา จ ตํารับที่ใชน้ําเปน vesicle จะคงตัวดีกวาตํารับที่ใช buffer solution 10 สูตรโครงสรางตอไปนี้หมายถึงยาชนิดใด ก zidovudine ค ceftriaxone จ ciprofloxacin
ข cotrimoxazole ง acyclovir
11 ใหโครงสราง ritonavir มา มี NH เยอะมาก ถามวาขอใดผิด ตอบ.. ที่มันมีละลายน้ํานอย(เฉลยจากคนที่ไปสอบ) แตเปดดู martindale บอกวา ritonavir practically insoluble in water 12 คาการละลาย 4:1 หมายถึงอะไร ตอบ ยา 4 กรัมละลายไดหมดในน้ํา 1 mL ตัวหลอกเปน 4 กรัมละลายในน้ํา 1 กรัมอะไรทํานองนี้ 13 หากตองการพัฒนายาสมุนไพรในการตาน HIV ยานั้นไมควรมีคุณสมบัติใด ก ยับยั้งการเจริญของจุลชีพ ข ยับยั้งการแบงตัวของ T-cell ค กระตุนการสราง interleukin-2 ง ยับยั้งการทํางานของ protease จ ยับยั้งการทํางานของ reverse transcriptase 11 ตรวจผูปวยโรค AIDS ขอใดบกพรอง ก CD4 cell ข T-cell ค Leukocyte 12 เด็ก 2 ป เปน HIV ฉีดวัคซีน ยกเวน ก MMR ข Hepatitis ค H influenzae type B ง BCG จ DPT
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
311
MCQ
13.ขอใดเปน first choice ใน Cryplocossosis ก Flucytosine ข Amphotericin B ค Fluconazole ง Griscofulvin จ Haloprogin 14. Probenecid ทําใหยาปฏิชวี นะตัวใดถูกขจัดลดลง 1. Tetracycin 2. Erythromycin 3. Ampicillin 4. Gentamycin 15. สาเหตุที่ทําใหผูปวยปวดปวดศีรษะมาก และอาเจียนพุงคือขอใด ก. Lung TB ข. CMV retinitis ค. Cryptococcal meningitis (ชัก / คอแข็ง. Proten 750 % Sugar ใน CSF < 50 mg / dl.) Case ผูปวยนําใบสั่งยามาขอซื้อยาจากรานขายยาที่ทานเปนเภสัชกรประจํา ดังนี้ โรงพยาบาลขอนแกน แผนก อายุศาสตร เลขที่ 135 HN” 1275/2546 ชื่อ นายสมพล อายุ 29 ป Rx AZT (100) 2 x 2 pc # 60 ddt (100) 4 x 1 ac # 60 strocin (efavirenz) (200) 3 tab hs # 45 bactrim 2 tab OD pc # 30 fluconazole (200) 4 tab OD pc # 60 paracetamol (500) 2 tab prn # 30 แพทย สุวรรณา 26425 1. จากใบสั่งยานี้ ทานคิดวาคุณสมพลนาจะปวยเปนโรคอะไร 2. เชื้อที่เปนสาเหตุของโรคในขอ 1 ไดแกอะไรบาง 3. อธิบายถึงวงจรชีวิตของเชื้อที่เปนสาเหตุหลักในขอ 2 4. อธิบายกลไกการออกฤทธิ์ของยาที่สามารถทําลายเชื้อในขอที่ 3 มาทั้งหมด 5. นอกจากการใชยาแลว ในปจจุบันมีการใชวัคซีนในการปองกันความรุนแรงของโรค ชนิดใดบาง (บอกประเภทวัคซีน) 6. ปจจุบันมีการใชอาหารเสริม V1 มาชวยลดความรุนแรงของโรคในขอ 1 อาหารที่วานี้คืออะไร มึคุณสมบัติเปนอะไร 7. คุณสมพลเลาใหฟงวา มีไขติดตอกันมา 1 เดือนแลว บางครั้งมีอาการปวดศีรษะมาก ถาอาเจียนแลวจะมีอาการดีขึ้น ชวง 2 - 3 เดือนที่ผานมาน้ําหนักตัวลดลงประมาณ 5 kg นอกจากนี้ยังมีอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน คันคอและไอบอยมากจน นอนไมได มีเสมหะสีเขียวปนขาวเปนจํานวนมาก ทานคิดวานอกจากโรคในขอ 1 แลว คุณสมพลนาจะเปนโรคอะไร 8. คุณสมพลตองการยาแกไอ ทานจะจายยาแกไอชนิดใด วิธีใชเปนอยางไร และทานจะจาย codeine ไดหรือไม อยางไร 9. ยกตัวอยางชื่อยาที่ใชในการรักษาโรคในขอ 7 พรอมกลไกการออกฤทธิ์ของยามา 4 ชนิด 10. นอกจากนี้ยังมีเชื้อฉวยโอกาสชนิดใดบาง ที่สามารถกอโรคใหแกคุณสมพลได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
312
Case TB 1. INH,Rifam, Ethambutol ไมควรแนะนํา ก ไมควรใช soft lens ใหใสแวนตา (จาก Rifam ) ข ปสสาวะเปลี่ยนสี Rifam ค กินยาตอเนื่องทุกวัน ง กินยาหลังอาหารทันที 2. กลไกการออกฤทธิ์ของ Isoniazid คือขอใด ? 1. ยับยั้งการสราง Cell wall ของเชื้อวัณโรค 2. ยับยั้งการสราง RNA ของเชื้อวัณโรค 3. ยับยั้งการสราง DNA ของเชื้อวัณโรค 4. ยับยั้งการสราง Mitchondria ของวัณโรค 5. ยับยั้งการสราง Folate ของเชื้อวัณโรค 3. ขอใดตอไปนี้คือ adverse effect ที่เกิดขึ้นจากการใชยา Rifampin ? 4. Nephotoxicity 1. G – 6 PD deficiency ( เปลี่ยน choice เปนอาการ 5. Leukopenia อยางอื่นที่ไมใชโรคพันธุกรรม ) 2. Hepatotoxicity 3. Hypoglycemia 4. Pyazinamide ไมควรใชในผูป วยที่เปนโรคใดอยูกอนแลว ? 1. โรคหัวใจ 4. โรคเกา 2. โรคหอบหืด 5. โรคซึมเศรา 3. โรคเบาหวาน 5. ยาในขอใดสามารถใชเพื่อปองกัน peripheral neuropathy จากการใช Isoniazid 1. pyridoxime 4. riboflavin 2. thiamine 5. folic acid 3. scopolamine 6. ผูปวยที่ไดรับยา Isoniasid เปนเวลานานควรไดรับ ........ เสริมเพื่อปองกันการขาด 1. Vitamin A 4. Pyridoxine ( B6 ) 2. Ascorbic acid 5. Niacid ( B5 ) 3. Thiamin ( B1 )
Case พยาธิ 1. ขอใดผิดเกี่ยวกับยา praziquantel 1. ใชรักษาการติดเชื้อพยาธิตัวกลมไมไดผล 4. ทําใหงวงนอน 2. ออกฤทธิ์เปน cestocidal 5. ฆาไขพยาธิ (ovicide) 3. ใชรักษาติดเชื้อพยาธิใบไมในตับได 2. ผลขางเคียงขอใดที่เปนขอจํากัดในการใชยา emetine มากที่สุด 1. local reaction 4. GI-side effect 2. cardiotoxicity 5. Neuromuscular side effect 3. neurotoxicity 3. Thiamphenical เปนอนุพันธของ chloramphenical แต Thiamphenical มีขอดีกวา Chloramphenical โดยที่ Thiam ไม เกิด 1. aplastic anemia 4. Psuedomembranous colitis 2. Hemolytic anemia 5. Steven-Jonson syndrome 3. Fanconi syndrome
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
313
MCQ
4. ขอใดเปนยาที่ใชใน DNA dependent RNA dependent 1. PAS 4. pyranzinamide 5. Thiethinamide 2. streptomycin 3. rifampicin 5. สมุนไพรที่มีฤทธิ์ขับพยาธิปากขอ 1. เมล็ดฟกทอง 4. กระทือ 2. ขา 5. ผลมะเกลือ 3. เปลือกสะเดา 6. สมุนไพรที่มีการใชประโยชนเหมือน niclosamide 4. เถายานาง 1. รากสะแกนา 2. เปลือกทับทิม 5. แกนมะหาด 3. ผลเล็บมือนาง 7. พืชที่ใชเปนยาพยาธิไดแกขอใด ก. กลวยดิบ ค. ชุมเห็ดเทศ ข. ตําลึง ง. มะเกลือ ขอ 8 ยาตานโปรโตซัว ชนิด nitroimidazole คือ metronidazole มีขอดีอยางไร และมีขอจํากัดในทางเภสัชกรรมอยางไร บาง มีกลไกการออกฤทธิ์อยางไร
Case 2 ผูปวยมาขอซื้อยาถายพยาธิ 2.1 ซักประวัติอะไร ตอบ ใครกิน นน. ทานเนื้อวัวสุกๆติดบ เห็นปลองพยาธิตอนถาย 2.2 ติดพยาธิอะไร ตอบ ตัวตืด 2.3 doc ตอบ niclosamide 2.4 regimen ตอบ 2 กรัม single dose (500mg/tab) 2.5 พอหรือไม ตอบ ไม ตองให MgSO4 15-30 ml หลังให niclosamide 2 ชั่วโมง 2.6 เพราะเหตุใด ตอบ ปองกัน cysticerosis 2.7 แนะนําการปฏิบัติตัว ตอบ กินอาหาร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
314
MCQ
Case Malaria Case 1 นายสุเทพเปนพนักงานขายสินคาของบริษัท ปลายปไดรับโบนัสหนึ่งหมื่นบาท เขาไดวางแผนวาจะไปเที่ยว พักผอนที่อําเภอแมสะเรียง เพื่อดูธรรมชาติ เขาไดเตรียมตัวตางๆพรอมทั้งซื้อยา จึงไดเภสัชกรที่ราน จงตอบคําถามตอไปนี้ 1. นายสุเทพไดพบขาววามีเชื้อไขมาเลเรียระบาดอยูที่อําเภอแมสะเรียง จึงไดถามเภสัชกรวาเชื้อไขมาลาเรียที่ระบาด มากที่สุดในประเทศไทยเปนเชื้ออะไร a. Plasmodium vivax d. Plasmodium malariae b. Plasmodium ovalae e. Plasmodium berghei c. Plasmodium falciparum 2. จะทราบไดอยางไรวาเปนไขมาเลเรีย d. ตรวจอุจจาระ a. ดูอาการไข หนาวสั่น b. ทองเสีย ปวดศีรษะ e. ตรวจหาเชื้อในปสสาวะ c. ตรวจเชื้อในเลือด 3. เชื้อมาเลเรียชนิดใดที่ถาเปนแลวไมรักษาจะทําใหถึงแกชีวิตได d. Plasmodium malariae a. Plasmodium vivax e. Plasmodium berghei b. Plasmodium ovalae c. Plasmodium falciparum 4. ถานายสุเทพตองการจะปองกันการติดเชื้อไขมาเลเรีย ทานจะใหคําปรึกษาในขอใดที่คิดวาเหมาะสมที่สุด ยกเวน d. กอไฟเพื่อใหควันไฟไลยุง a. ใชยากันยุงทาตามลําตัว แขน ขา b. ใสเสื้อผาสีขาว ปกปดรางกายมิดชิด e. รับประทานยาปองกันไขมาเลเรีย เชน c. นอนในมุง คลอโรควิน 5. ยาที่ออกฤทธิ์ฆาเชื้อขณะที่เจริญในตับ a. Quinine d. Primaquine b. Cholroquine e. Pyrimethamine c. Artesunate 6. นายสุเทพกลับจากอ.แมสะเรียงแลวพบวามีอาการไข หนาวสั่นจึงไปพบแพทย แพทยวินิจฉัยวานายสุเทพเปนไข มาลาเรีย และจากการตรวจเชื้อพบวาเกิดจากเชื้อ Plasmodium vivax การใชยาในขอใดเหมาะสมที่สุด ก. Mefloquine ง. ใช Chloroquine รวมกับ Mefloquine ข. Primaquine จ. Quinine ค. ใช Mefloquine รวมกับ Primaqine Case 2. ผูปวยชายอายุ 35 ป มีไขสูง หนาวสั่น กินอาหารไดตามปกติ ผล lab เปนดังนี้ Splenomegaly : Geimsa stain : P. falciparum Hb 10 g/dL (12 – 16 ) Hct 34 % Serum BUN 50 mg/dL ( 5 – 25) Scr 2 mg /dL ( 0.6 - 1.3) การใชยาในขอใดเหมาะสมกับชายผูนี้ ก. Oral mefloquine ข. Oral artesunate ค. Oral primaquine ง. Quinine sulfate injection จ. Chloroqine injection
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
315
ขอ 2. เกี่ยวกับโครงสรางของสารดังรูป ทุกขอตอไปนี้ถูกตอง ยกเวนขอใด CH3O N N(CH2)nNR2 R
ก. เปนสารในกลุม 8-Aminoquinoline ข. ตัวอยางของยาในกลุมนี้ไดแก Primaquine ค. ถามี Cl ที่ตําแหนง 7 จะทําใหไดฤทธิ์สูงสุด และมีพิษนอย ง. Dialkylamino alkylamine side chain จะใหฤทธิ์สูงสุดเมื่อ n = 2,5 หรือ 6 จ. Quinoline ring system และอนุพันธุใหผลที่ดีกวา Acridine ring system ขอ 3 เกี่ยวกับสมุนไพรที่ใชในการรักษามาลาเรีย ขอใดไมใชสารที่สกัดไดมาจาก Cinchona bark ก. Quinine ข. Chloroquine ค. Cimchonine ง. Quinidine
Case STD and UTI ขอ 1 นางฝาย อายุ 45 ป มาโรงพยาบาลดวยอาการถายปสสาวะบอย และรูสึกปวดเบงเล็กนอยเหมือนถายไมหมดแทบทุก ครั้งเมื่อถายเสร็จ ไดประวัติเพิ่มเติมวา เดินทางไปทัศนาจรตางจังหวัดไมคอยไดดื่มน้ําและกลั้นปสสาวะหลายครั้ง เนื่องจาก หองน้ําไมสะดวก - ทานคิดวาแพทยจะซักขอมูบอะไรเพิ่มเติมบาง - แพทยสั่งตรวจปสสาวะ พบ pyuria แพทยวินิจฉัยวานางฝายเปน cystitis อาการแสดงที่บงชี้วา นางฝายเปน cystitis คืออะไร - เชื้อกอโรคที่คาดวานาจะเปนสาเหตุมากที่สุดคืออะไร - ทานคิดวานางฝายควรไดรับการรักษาดวยยาปฏิชีวนะใด - ขอดี ขอเสียในการเลือกใชยาแตละชนิด - ถา 2 เดือนตอมานางฝายกลับมาพบแพทยดวยอาการเดิม การดูแลผูปวยควรทําอยางไร Case น.ส. นัดดา อายุ 27 ป มารานยาดวยเรื่องตกขาว เปนกอนๆ สีขาวๆ ไมมีฟอง มีกลิ่นเปรี้ยว และมีอาการคันบริเวณ ชองคลอดมา 2 วัน ซื้อมาทาจากรานขายยาที่ไมมีเภสัชกร อาการไมดีขึ้นจึงมาที่รานยา - สิ่งที่เภสัชกรควรซักถามเพิ่มเติม คืออะไร - ทานคาดวาอาการของ น.ส. นัดดา เกิดจากอะไร อาการนี้แตกตางจาก veginitis ประเภทอื่นอยางไร - ทานจะพิจารณาจายยาอะไรให น.ส. นัดดา เพราะเหตุใด - เภสัชกรควรแนะนําการใชยาเหน็บชองคลอดอยางไร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
316
MCQ
Sexual Transmission Disease 1.ในสตรีที่มีอาการกระเพาะปสสาวะอักเสบ และชองคลอดอักเสบแตไมมีอาการอื่นรวมดวยควรจายยาในรูปแบบใด 1.IM 2. Oral 3. Trasdermal 4.Vaginal suppository 2. นาย ก อายุ 35 ป มีอาการเปนแผล ขอบชัดเจนบริเวณอวัยวะเพศบีบแลวมีน้ําเหลืองไหล จากการซักประวัติ พบวาเมื่อ 3-5 สัปดาหที่แลวไปเที่ยวกลางคืน ลืมใสถุงยางอนามัยหมอไดให Benzathine pen G ถามวา Benzathine pen G ดีกวา penicillinตัวอื่นอยางไร 1. ระยะเวลาในการออกฤทธิ์นานกวา 4. การกระจายสูเปาหมายดีกวา 2. ขอบเขตการออกฤทธิ์กวางกวา 5. ปริมาณที่ฉีดนอยกวา 3. การดูดซึมและการละลายมากกวา 3.ขอใดผิดเกี่ยวกับ penicillin 4. B-lactamase ถูก Hydrolyze ดวยกรด 1. PenGมีchain เปน Benzoyl group 5. Procain penicillin G ถูกดูดไดดีในทางเดิน 2. Pen G potassium ละลายไดดีกวา PenG อาหาร 3. Benzathine PenG เปนเกลือของ Pen G 4.หญิงอายุ 25 ปเปน UTI เขาโรงพยาบาลหมอให cotrimoxazole 2 tab bid 3 วันตอมาวันที่ 4 ให Norfloxacin 400 mg bidให Urispas 1 tab q 6 hr ,Diphenhydramine 1 tab prn q 6 hr, Imiprmine 1 tab hs แลวเกิดอาการ alerting order เกิดจาก ADR ของอะไร 1. Co-trimazole 4. Diphenhydramine 2. Norfloxacin 5. Uripas 3. Imipenem 5. หญิง 50 ป 50 kg เปน Glomerulonephritis,Menigitis หมอสั่งตรวจ Scr,BUNแพทย็สั่งจาย Amikacin จะmonitor อะไรเพิ่ม 1. Chol,Trigyceride 3. Vestribular function 2. AST,ALT 4. Optic nerve 6.ชายไทย 38 ปมาขอซื้อ Ganamycin ที่รานถาทานเปนเภสัชกรจะจายยานี้หรือไม 1. ไมจาย เพราะ Ganamycin ไมมีจําหนายในรานยาในรูปยาเม็ด 2. ไมจาย เพราะ Ganamycin เปนยาควบคุมพิเศษ ตองจายในรานขายยาเทานั้น 3. จายได เพราะผูปวยใหขอมูลวาทานมาหลายครั้งแลว 4. จายไดเพราะ Ganamycin เปนยาอันตราย จายไดโดยใชดุลพินิจของเภสัช 5. ไมจาย เพราะ ยังไมทราบขอมูลวาผูปวยเปนโรคอะไร ตองซักประวัติเพิ่ม 7.ผูปวยเลาใหฟงวา กอนหนานี้ไปเที่ยวมา กลับมาบานได 3-4 วัน เกิดมีน้ํามูกหรือน้ําหนองไหลจากปลายอวัยวะเพศ รวมกับฉี่แสบขัด เลยปรึกษาเภสัชกร จากประวัติคิดวาเกิดจากเชื้ออะไร 1.หนองในแท C.trachomatis 4.หนองในเทียมC.trachomatis 2.หนองในเทียมN. gonorrhea 5.หนองในผสมT.vaginalis 3.หนองในแท N.gonorrhea 8.จากขอ 7 ผูปวยรายนี้ควรไดรับการรักษาอยางไร 1.Cotrimazole 4.Ciprofloxacin 2. Norfloxacin 5.Doxycycline 3.Ofloxacin
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
317
9. จากขอ 8 ADR ในกลุม Fluoroquinolone ที่พบบอยคือ 1. SJS 2.Liver failure 3. prolong QT interva 4.Diarrhea 5. Visual 10.จากขอ 7 ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับเภสัชกรคําแนะนําของผูปวยรายนี้ 1.หากมีภรรยาตองใหภรรยารักษาดวย 2.ควรงดมีเพศสัมพันธในระหวางเปนโรค 3.หากมีเพศสัมพันธควรสวมภุงยางอนามัย 4.ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธกับหญิงที่ไมใชภรรยา 5. ควรงดของดองในระหวางเปนโรค 11. ยาในขอใดที่เหมาะสมที่จะทําในรูปแบบออกฤทธิ์เนิ่น( sustain release) 4.Ciprofloxacin 1. Cotrimazole 2.Norfloxacin 5.Doxycycline 3.Ofloxacin 12.sustain release tablet ไมจาํ เปนตองทดสอบคุณสมบัติใด 1.Friability 4. Weight variation 2.Disintegration 5. Hardness 3.Dissolotion test 13. ยาใดไมสามารถแบงรับประทานได 4.effervescent tablet 1.Matrix sustain release tablet 2.Buccal tablet 5.caplet 3.Enteric coat tablet 14. Cotrimazole vagianal จัดเปนยาประเภทใด 1. ยาควบคุมพิเศษ 3. ยาสามัญประจําบาน 2.ยาอันตราย 4.ยาสําหรับใชเฉพาะที่ 15. Doxycycline เปนยากลุมเดียวกันกับยาใด
1.tetracycline 4.Sulfamethoxazole 2.Penicillin 5.Amoxycillin 3.Cotrimazole 16.ชายอายุ 35 ปมีขอบแข็งที่อวัยวะเพศบีบไมเจ็บและมีหนองที่มือก็เปนลักษณะเดียวกัน ไปเที่ยวเมา ไมใสถุงยาง หมอให Benzathine Pen G ผูปวยเกิดจากเชื้ออะไร -Treponema pallidum 17 กลไกกการออกฤทธิ์ ของ Pen G 1. ยับยั้งการสรางcell wall 2.ยับยั้ง DNA 3.Inhibit Ribosome 30s 4.Inhibit Ribosome 50
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
318
MCQ
Infectious disease Case: ผูปวยชายไทยอายุ 60 ป มาโรงพยาบาลดวยอาการไข ไอ หอบ หายใจถี่ แพทยวินิจฉัยวาเปนโรคติดเชื้อที่ปอด (CAP)ไดรับการรักษาดังตอไปนี้ 1. Augmentin 625 mg 1*3 pc#21 2. Paracet 500 mg po prn # 20 1. Augmentin มีกลไกการออกฤทธิ์เปนอยางไร ก. ขัดขวางการสรางผนังเซล ง. ขัดขวางการสังเคราะห nucleic acid ข. ขัดขวางการสรางผนังหุมเซลล จ. ขัดขวางการสังเคราะห polypeptide ค. ขัดขวางการสราง folic acid 2. ยาปฏิชีวนะขอใดที่ไมมีโครงสราง B-lactam ring ง. Cloxacillin ก. ciprofloxacin จ. Cefazolin ข. Amoxycillin ค. Imipenam 3. เพราะเหตุใดจึงผสม Clavulanic acid and Amoxycillin ในยา Augmentin ก.เพื่อเพิ่มการละลายของยา Amoxycillin ข.เพื่อใหครอบคลุม G-, สวนAmoxycillin ครอบคลุม G+ ค.เพื่อปองกันไมใหถูกทําลายดวย B-lactam ง.เพื่อยับยั้ง CYP2D6 ที่ตับลดการทําลายของ Amoxycillin จ.เพื่อลดการขับถาย Amoxycillin ออกจากรางกาย 4. อาการขางเคียงที่พบมากที่สุดของ Amoxycillin ง. Pseudomembranous colitis ก. Constipation ข. Diarrhea จ. Thrombocytopenia ค. Headache 5. เนื่องจากยา Augmentin 625 mg ในทองตลาดหมดมีแตขนาด 375 mgเภสัชทําอยางไร ก. จาย Augmentin 375 mg 1*3 pc =21 ข.จาย Augmentin 375 mg 2*3 pc =21 ค.จาย Augmentin 375 mg 2*3 pc =42 ง.จาย Augmentin 375 mg 1*3 pc =21+Amoxycillin 250 mg pc=21 จ.จาย Augmentin 375 mg 1*3 pc =21+Amoxycillin 500 mg pc =21 6. Augmentin เปนยาประเภทใดตามกฎหมาย ก. ยาอันตราย ง.วัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาท ข. ยาควบคุมพิเศษ จ.ยาเสพยติดใหโทษ ค.ยาสามัญประจําบาน 7.ญาติโทรมาถามวาผูปวยไมสามารถกลืนยา Augmentinได จะบดใหผูปวยไดหรือไมเพราะเหตุใด(เปน film coated tablet) ก.ไมได เพราะ จะทําใหเสียสภาพความคงตัวของยา ข.ไมได เพราะทําใหเสียคุณสมบัติในการออกฤทธิ์เนิ่นของยา ค.ไมได เพราะจะทําใหยาถูกทําลายโดยกรดในกระเพราะอาหารไดงาย ง.ไดเพราะไมทําใหการออกฤทธิ์ของยาเปลี่ยนแปลง จ.ได เพราะการบดไมทําใหเสียคุณสมบัติในการออกฤทธิ์เนิ่นของยา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
319
8. จากสูตรโครงสรางของยา Amoxycillin นี้ตําแหนงไหนที่ถูกทําลายไดงายและมีผลตอการดื้อยา 4 1 2
3 5
ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 จ. 5 9. สาร polymer ตัวใดนิยมใชในการทํา Film coat tablet ง. Carbopol ก. HPMC 4000 ข. CMC จ. Veegum ค. Polymeric methacrylates 10. ผูปวยมีประวัติแพยาในกลุม penicillin จะพิจารณาเปลี่ยนยา Augmentin เปนยาใด ก. ofloxacin ง. Cephalexin ข. Clarithromycin จ. Cotrimoxazole ค. Doxycycline 11. Cephaloporin third gen มีคุณสมบัติ ยกเวน ง.ไมทนกรด ก. ผาน BBB ไดดี ข.ทนตอ B-lactamase จ.บางตัวถูกทําลายดวยตับ ค.ใชกับ S.aureas 12.Cepharosporin กลุมใดไมทําใหเกิด Hypothombonemia ก. Cepamandole ง. Cefotaxime ข. Cefoperazone จ.Moxelactam ค.Cefoxitin 13. Aminogycloside ตัวใดที่ยังใชอยูแมจะดื้อตอ Gentamycin ก. streptomycin ค.Neomycin ข. Amikacin ง. Tobramycin 14.Tetracycline หมดอายุมีผลขางเคียงอะไร -Fanconi syndrome 15. Antibiotic ตัวใดที่ใชในเด็กทารกไดอยางปลอดภัยที่สุด 1. Chloramphenical 4. Ciprofloxacin 2. Ampicillin 5. Co-trimoxazole 3. Tetracycline 16. ชายอายุ 30ปเปนโรค All มี ANC=200 รักษาตัวอยูในโรงพยาบาลเกิด sepsis ตรวจblood count พบ E.coliใชยาอะไร เปน empirical TX 1. Tetracycline 4.Thiamphenical 2. Erythromycin 5.Cefotaxime 3.Choramphenical
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
320
MCQ
17. Sulfonamide เปน competitive antagonist ของสารใด 1. PABA 2. PAS 3.Folic acid 4.B5 5. THF 18. กลไกการออกฤทธิ์ของpenicillin ตอmicroorganism 1. ยับยั้ง cell wall linking 4.ยับยั้ง protein stntesis 2.ทําลาย nucles 5. ทําใหเกิด cell lysis 3.Bacteriosatatic 19. ยาทาสิวที่เปน Antibiotic 1. Clindamycin 4. 1,2 2. Erythromycin 5. 1,2,3 3. Tretioin 20.Norfloxacin มีคา Bioavairability ต่ําเหมาะที่ใชรักษาภาวะใด 1. Traveller diarrhea 2. Otitis media 21. ยาใดปลอดภัยที่สุดสําหรับ teratogenic 1. Erythromycin 3. Gentamycin 2. Sulfadiazine 4. Ciprofloxacin 22.ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา penicillin 1. อาหารไมมผี ลตอการดูดซึม Amoxycillin 4.Amoxycillin เปน broad spectum>Ampicillin 2 อาหารไมมีผลตอการดูดซึม Ampicillin 5.การดื้อยาของ Ampicillin< Amoxycillin 3. อาหรไมมีผลตอการดูดซึม penicillin V 23.ผูที่พยา Penicillin อยางรุนแรงควรระมัดระวังในการรักษาดวยยาอะไร 1. Cefazolin 4. Vancomycin 2. Gentamycin 5. Cotrimoxazole 3. Clindamycin 24.การกินยากลุม Quinolone รวมกับนมมีผลอยางไร ก. เพิ่มการดูดซึมเพราะนมมันจะไป ตอเยื่อบุทางเดินอาหาร ทําใหการดูดซึมงายขึ้น ข.ลดการดูดซึม เพราะนมมันจะไป ตอเยื่อบุทางเดินอาหาร ทําใหการดูดซึมยากขึ้น ค.เพิ่มการดูดซึม เพราะ นมมันไป chelate กับยาทําใหการละลายเพิ่มขึ้น ง.ลดการดูดซึม เพราะ นมมันไป chelate กับยาทําใหการละลายลดลง จ.นมไมมีผลตอการดูดซึม 25.ผูปวยแพยา หลังจากให Amoi+clav ทําไง 1. ให Amoxy-Clav+Antihis 4.เปลี่ยนยาเปน Clarithro+Antihis 2.ใหAmoxi-Clav+prednisolone 5.เปลี่ยนยาเปนCiproflox+Antihis 3.หยุด Amoxi-Clavแลวให Antihis 26. Vancomycinขอใดผิด 1.Inhibit cell wall 4.เปน Glycoprotein 2.Metabolite at Renal 5.อาจสลายตัวในกระเพาะอาหาร 3.ไมมีพิษตอหู
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
321
MCQ
27. จากโครงสรางของAmoxycillin ขอใดไมถูกตอง 1.เปน Zwitter ที่ pH ของ duodenum 2.ทนตอการ hydrolysisที่กระเพาะ 3.ทนตอ ENZ beta lactamase 4โครงสราง Beta-lactamase มีผลตอการแพยา 5.ยับยั้งการสราง cell membrane 28. ชายอายุ 30 ปมี ANC=200 รักษาตัวในโรงพยาบาลเกิด sepsis ตรวจblood count พบ E.coliใชยาอะไรเปน empirical 1. Tetracycline 4. Thiamphenical 2. Erythromycin 5. Cefotaxime 3. Choramphenecal 29.ชายไทอายุ 30 ป เปน CAP ผลการวินิจฉัยเปนเชื้อ H-influenzae Drug of choice คือ 1. Erythromycin 3. Gentamycin 2. Cephazolin 4. Ciproflocxacin 30. ขนาดยาที่ใชคือจากขอ 29 1. 1-2 g IV q 6 hr 4. 1.7 m/kg/d IV q 8 2.600-900 mg IV q 6 hr 5. 250-500 IV mg q 8 3.1-2 g IV q 12 31. การติดตามและประเมินผลในผูปวยคือ 4.ควรระวังเรื่องภาวะแทรกซอนที่อาจเกิดขึ้น 1. ควรไดรับยาปฏิชีวนะดังกลาว 10-14 วัน 2.ประเมินอาการแสดง และภาพฉายรังสี เชน lung adscess 3.แนะนําผูปวยกลับมาหาแพทยตามที่นัด 5. ทุกขอ 32. นาย ก มาพบแพทยดวยอาการคัดจมูก และติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจสวนตน ทานคิดวายา ATB และAntihistasmine คูไหนจายได 1. Ampi+CPM ในผูปวยไดรับ Antacid 2. Amoxy+Loratadine ในผูปวยไดรับ Cimetidine 3. Erythro+Terfenadine ในผูปว ยไดรับ ASA 4.Roxithro+theophylline ในผูปวยไดรับ Antacid 33. ผูปวยเปน renal จําเปนตองใช tetracycline ควรแนะนําใชยาตัวไหน 1. Meclocycline 4.Oxytetracycline 2.Doxycycline 5.Tetracycline 3.Tinocycline 34.ยาใดใชเปน first choice ใน empiric Tx 1.sepsis จาก K.pneumonia ใช Cetraxidime 2.Pneumonia จาก P. auruginosa ใช Imipenam 3.Urithritis จาก E.coli ใช Aztreonam 4.Endocarditis จาก S.viridan ใช Cetri+genta 5.Early syphilis ใช Pen G 35. Ostitis media เด็ก 3 ขวบใชอะไร 1. Amoxy 3.Cephalexin 2.Ampicillin 4.Erythromycin
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
322
MCQ
36.ขอใดถูกตองเกี่ยวกับ tonicity ของยาฉีด 1.จัดเปน colligative property 2.การฉีด hypertonic solution กอใหเกิด cell lysisได 3.สามารถปรับไดโดยเติมสารบางชนิดเชน Phosphate,Acetate ซึ่งนิยมใชกันมาก 4.การฉีดยาที่เปน Isotonic ตอระบบเลือดมักจะเปน Isotonic ตอระบบเนื้อเยื่ออื่นในรางกายดวย 5. NSS เปนทั้ง Isotonic และ Iso-osmotic 37.ผูปวยหญิงใชยา Tetracycline รักษาสิวมา 3 เดือนมาขอคําปรึกษาจากเภสัชที่รานยาถึงอาการตกขาวที่เปนมาใน 2-3 สัปดาหที่ผานมาโดยไมเคยเปนมากอนและยาที่ผูปวยใชอยูเปนประจํา คือยาคุมชนิดเม็ด จะใหคําปรึกษากับผูปวยเกี่ยวกับ การใชยารักษาสิว 1. ใหเปลี่ยน tetracycline เปน erythromycin 2. ใหเปลี่ยน Tetracycline เปน topical clindamycin 3.ใหเปลี่ยน tetracycline เปน topical benzyl benzoate 4.หยุดการใชยาจนกวาอาการตกขาวจะดีขึ้น 38. ผูปวยอายุ 44 ป มาดวยอาการปสสาวะแสบขัด มีไข แพ penicillinจะเลือกยาใดเหมาะสมกับผูปวยรายนี้ 1. Norfloxacin 4. Chloramphenical 2. Ciprofloxacin 5. Amoxycillin 3. Erythromycin 39. เด็ก 10 ป แพยา penicillin ใหยาใดแทน 3. Azithromycin 1. Erythromycin 2. Levofloxacin 4. Amoxycillin 40. เด็กติดเชิ้อ H.influenza ที่ไมทํา senstitvity test อายุ 3 ขวบ ควรใหยาอะไรกอน ก. erythromycin ค. gentamycin ข. ampicillin 41. ยาที่กระจายเขาสูเนื้อเยื่อ (intracellular) เพื่อรักษาคือยาอะไร ก. penicillin ข. Erythromycin ค. streptomycin 42. Norfloxacin ซึ่งเปนยาในกลุม fluoroquinolone มีคา bioavailability ต่ํา เหมาะที่จะใชในการรักษาโรคใด ก. travell’s diarrhea ข. Otitis media ค. Non-gonorrhea 43. sulfonamide หามใชในทารกจะทําใหเปน ก. Gray syndrome ข. Kernicterus ค. Faconi syndrome ง. Beri beri 44. Quinine นอกจากรักษามาลาเรียแลวใชรักษาอะไร ก. Parkinson ข. Leg cramp ค. antiarrhymi ง. CHD 45. mebendazole ก. ใชรักษาการติดเชื้อพยาธิตัวกลมไดมากกวาชนิด pyrantel pamoate ข. ใชรับประทาน 100 mg ครั้งเดียว รักษาอาการติดเชื้อพยาธิทุกชนิด ค. ใชรักษาอาการติดเชิ้อพยาธิตัวกลมในน้ําเหลือง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
323
46. ตัวอยาง Drug related problem ก. เปนงูสวัด มีอาการปวดแสบปวดรอน ไปซื้อยาไดรับ prenisolone ข. แพ penicillin มีอาการไข ไอ เจ็บคอ ได ampicillin 5 วัน ค. ชอบไปซื้อยามากินเอง 47.ขอเสียที่เดนชัดที่สุดของ phynylbutazone ก. ความเปนพิษสูง ข. activity ต่ํา ค. ความคงตัวต่ํา ง. ดูดซึมเขาสูรางกายไดไมดี จ.มีระยะในการออกฤทธิ์สั้น 48. ผูปวยที่ไดรบั ยา Ethambutal อาจพบ ADR อะไร ก. ototoxicity ค. increase uric acid ข. peripheral neuritis ง. urticalla 49. การดูอาการ photosensitivity ที่เกิดขึ้นเปนผลจากยาที่ใชอยูดูไดจาก ก. ใชยาที่ทําใหเกิด photosensitivity เชน amiodarone, sulfonamide ข. หลังจากใชยาแลวไปโดนแสงจะมีอาการ sun burn หรือฝนแดงบริเวณที่ถูกแสง เชน หนา คอ หลังมือ ค. มีอาการ SLE รวมดวย ง. อาการไมหายแมไมถูกแสงแดดแตหยุดยาอาการจะคอยๆหายไป จ. จะเกิดอาการแมแตโดนแสงจากหลอดไฟธรรมดาที่อยูในบาน 50. ทานจะใหคาํ แนะนําตอผูปวยที่ไดรับยาเคมีบําบัดใหสังเกตตัวเองไดอยางไร วามีเม็ดเลือดขาว ต่ํา ซึ่งเปนอาการ ขางเคียงที่สําคัญในการรักษาดวยยาเคมีบําบัด ก. ผมบางลงจนถึงผมรวง ข. มีอาการคลื่นไสอาเจียน ปวดศีรษะบอย ค. มีอาการติดเชื้อไดงาย เชน เปนหวัด เจ็บคอ ทองเสีย ง. ซีด มี hemoglobin และ hematocrit ต่ํา จ. มีจ้ําเลือดตามผิวหนัง 51. หญิงมีอายุ 16 ป CC : มีไข เจ็บคอ คอแดง ไอมีเสมหะ คัดจมูก Allergy : aspirin rash. Phenylpropaolamine Medical : Penicillin C, ยารวม (tripolidine, pseudoephidine, Bromhexine), Dequalium CL ยาขอใดที่ทําใหเกิด drug related theory ก.ยารวมของ tripolidine, pseudoephidine 52. ผลขางเคียงขอไหนที่เปนขอจํากัดในการใชยา emetine มากที่สุด ก. Local reaction ง. GI-side effect ข. Cardiotoxicity จ. neuromuscular side effect ค. neurotoxicity 53. isotetioin ขอใดถูกตอง ก. ควรระมัดระวังในหญิงตั้งครรภหรืออยูในระหวางตั้งครรภเพราะอาจทําใหเกิด teratogenicity ข. สามารถทําใหผิวนุมได ค. กระตุนการหลุดลอกของ sebum ง สามารถบํารุงผิวและใหการปองกันผิวจากแสงแดด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
324
MCQ
54. probenecid ทําใหยาปฏิชีวนะตัวใดถูกขจัดลง ก. tetracycline ง. gentamycin จ. pefloxacin ข. erythromycin ค. ampicillin 55. ยาที่ไมควรใชในคนที่ใส contact lens ก. quinax ข. Timolol ค. Diamox 56. ยาแกปวดเก็บมาไวพักหนึ่ง ตอมามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเลยหยุดใช (เก็บไวในขวดสีชา) เกิดจากอะไร ก. ตัวยาเกิด oxidation ข. ตัวยาเกิด hydrolysis ค. ตัวยาเสื่อมจากแสง ง. ตัวยาเสื่อมจากความรอน จ. ตัวยาเปลี่ยนรูปผลึก 57. นางนอยอายุ 60 ป เขาโรงพยาบาลดวยหอบกําเริบ Diagnosis: asthma, Gastro hyperacidity, pneumonia ยาที่ใชอยู : Beclotemical inhalation, Aluminium hydroxide ตอมาพบฝาขาวในปาก ตรวจพบ pseudohyhea ยาที่ใช ก. nystatin suspension ค. Griseofulvin table นํามาทําเปน solution ข. Tolnaflate cream ง. metronidazole นํามาทําเปน solution 58 antibiotic ตัวใดที่ใชในเด็กทารกไดอยางปลอดภัยที่สุด ง. ciprofloxacin ก. Chloramphenical ข. ampicillin จ. Co-trimoxazole ค. tetracycline 59. นาย วนา อายุ 28 ป มีประวัติแพยา sulfisoxazole แบบ Steven Johnson Syndrome มีแผลที่อวัยวะเพศหลังจากไป เที่ยวผูหญิงบริการมา 5 วัน ตอนแรกเปนรอยนูนแดง ตอมารอยนูนแดงแตกเปนแผลรูสึกปวดแผลมาก ขอบแผลไมเรียบ และปวดตอมน้ําเหลืองบริเวณขาหนีบ ทานจะใหยาใดในการรักษาแบบ empirical therapy ที่เหมาะสมสําหรับผูปวยรายนี้ มากที่สุด ก. Acyclovir ง. Erythromycin ข. Cloxacillin จ. Providone iodine ค. Co-trimoxazole
โรคติดเชือ้ CASE I ผูปวยชายไทยคูอายุ 35 ป เขารับการรักษาในโรงพยาบาลดวยอาการไขสูง หนาวสั่นกอนมา 3 วันกอนมา โรงพยาบาล ผูปวยมีอาการไอมีเสมหะ ปสสาวะแสบขัด ถายเหลว ผลการตรวจรางกายพบไข 380C , HR 100 , RR 20 ฟงเสียงปอดพบ crepitation both lung ขอ 1. ลักษณะทางคลินิกของผูปวยรายนี้จัดอยูในขอใด ก. Acute infection ง. Systemic infection ข. Chronic infection จ. Subacute infection ค. Multifocal infection
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
325
MCQ
ขอ 2. จากอาการดังกลาวคลองกับโรคติดเชื้อใดชนิดนอยที่สุด ก. Urinary tract infection ค. Pneumonia ข. Infective diarrhea ง. ไมมีขอใดถูก ขอ 3. การสงตรวจทางหองปฏิบัติการในขอใดจําเปนนอยที่สุดสําหรับการวินิจฉัยโรคติดเชื้อ ผูปวยรายนี้ ก. Sputum examination ง. White blood cell differentiation ข. Urinalysis จ. Stool examination ค. Chest X – ray ขอ 4. หากพบวาผูปวยรายนี้มีการติดเชื้อแกรมบวก (Streptococcus pneumoniae จากเสมหะซึ่งดื้อ ตอยา Penicilin G ยาตานจุลชีพที่สามารถใชในการรักษาสําหรับผูปวยรายนี้คือขอใด ก. Azithromycin ง. Linezolid ข. Co – amoxiclav จ. ถูกทุกขอ ค. Levofloxacin ขอ 5. หากพบวาผูปวยรายนี้มีการติดเชื้อแกรมลบ Escherichia coli ในเลือกและปสสาวะซึ่งดื้อ ตอยา Penicillin G ยาตานจุลชีพที่สามารถใชในรักษาสําหรับผูปวยรายนี้คือขอใด ก. Clarithromycin ง. Vancomycin ข. Ceftriaxone จ. ผิดทุกขอ ค. Norfloxacin ขอ 6. หากพบวาผูปวยรายนี้มีการติดเชื้อแกรมลบ Escherichia coli ในปสสาวะและในเลือดและ ผูปวยมีประวัติแพยา Penicillin แบบ anaphylaxis ยาตานจุลชีพที่สามารถใชในการรักษาผูปวยรายนี้คือขอใด ก. Chloramphenicol ง. Erythromycin ข. Ciprofloxacin จ. Norfloxacin ค. Cotrimoxazole ขอ 7. หากผูปวยเด็กอายุ 10 ป มีการติดเชื้อ H.influenzae ในระบบทางเดินหายใจ และผูปวยมี ประวัติแพยา Penicillin แบบ anaphylaxis ยาที่ควรเลือกใชสําหรับผูปวยรายนี้คือยาใด ก. Erythromycin ง. Chloramphenicol จ. Cephalexin ข. Levofloxacin ค. Azithromycin CASE II ผูปวยชายไทยอายุ 30 ป มาโรงพยาบาลดวยอาการไขสูง ไอมีเสมหะ เสมหะมีเลือดปนบางเล็กนอย เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย มานาน 3 วัน ผลการตรวจรางกายพบอุณหภูมิกาย 390C อัตราการหายใจ 30 ครั้ง / นาที ผล การถายภาพรังสีทรวงอกพบ pulmonary infiltration both lung แพทยรับผูปวยเขารับการรักษาโรงพยาบาลผูปวยให ขอมูลเพิ่มเติมวาเมื่อ 1 ป ที่แลวผูปวยไดติดตอกลับไปที่โรงพยาบาลอีก ขอ 1. เหตุผลในการปฏิเสธเลือดที่บริจาค ยกเวนขอใด ก. ตรวจพบ HBsAg ในกระแสเลือด ข. ตรวจพบ AntiHBs Ab ในกระแสเลือด ค. ตรวจพบ AntiHIV ในกระแสเลือด ง. ตรวจพบ HIV antigen ในกระแสเลือด จ. ทุกขอขางตนเปนเหตุผลของการปฏิเสธเลือดที่บริจาค
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
326
MCQ
ขอ 2. ลักษณะทางคลินิกในขอใดที่สอดคลองกับโรคปอดอักเสบมากที่สุด ก. ไขสูง ง. หายใจหอบเหนื่อย จ. ภาพถายรังสีทรงอก ข. ไอมีเสมหะมีเลือดปน ค. เจ็บคอ ขอ 3. เชื้อที่เปนสาเหตุของภาวะปอดอักเสบนอกโรงพยาบาล (community – acquired pneumonia) ที่พบไดบอยที่สุดคือเชื้อใด ก. Staphylococcus arreus ง. Influenzae virus ข. Strepococcus pneumoniae จ. Mycobacterium tuberculosis ค. Pseudomonas aeruginosa ขอ 4. ยาในขอใดที่เหมาะสมที่สุดสําหรับรักษาการติดเชื้อสําหรับผูปวยรายนี้ ก. Doxycycline ชนิดรับประทาน ข. Levofloxacin ชนิดรับประทาน ค. Penicillin G ชนิดฉีด รวม erythromycin ชนิดรับประทาน ง. Levofloxcin ชนิดฉีด รวมกับ erythromycin ชนิดรับประทาน จ. Cefazolin ชนิดฉีด รวมกับยา gentamicin ชนิดฉีด ขอ 5 . หากแพทยสงสัยการติดเชื้อวัณโรค ผลการตรวจในขอใดที่จําเพาะจะจงมากที่สุดที่ชวยใน การวินิจฉัยวาผูปวยเปนวัณโรค ก. การฟงไดยินเสียง creptitaion ที่ยอดปอดทั้ง 2 ขาง ข. ภาพถายรังสีทรวงอก พบ infiltration ในปอดสวนบน ค. การยอมสี acid fast stain พบเชื้อ AFB ง. ผลการเพาะเชื้อ และทดสอบความไว (culture and sensitiveity) พบเชื้อวัณโรค จ. การทดสอบภูมิคุมกัน โดยการทดสอบ tuberculin test ใหผลบวก ขอ 6. หากผูปวยไดรับการวินิจฉัยวาเปนวัณโรค และพบวาผูปวยมีภาวะตับอักเสบจากยา pyrazinamide สูตรยาใดที่ควรเลือกใชในผูปวยรายนี้ ก. INH/RIF/ EMB นาน 2 เดือน ตามดวย INH/RIF 7 เดือน ข. INH / RIF นาย 9 เดือน ค. INH / EMB นาย 9 เดือน ง. STM / RIF / Ofloxacin นาน 18 เดือน จ. STM / EMB นาน 24 เดือน ขอ 7. คุณสมบัติของยาตานวัณโรคในขอใดถูกตอง ก. isoniazid เปนยาที่ออกฤทธิ์ตอเชื้อวัณโรคทั้งที่อยูในเซลและนอกเซล และเปนยาเดียวที่ใชเปนยาปองกัน การติดเชื้อวัณโรค ข. rifampicin เปนยาที่ออกฤทธิ์ตอเชื้อวัณโรคที่อยูนอกเซล และเปนยาที่จําเปนในสูตร short course therapy ค. pyrazinamide เปนยาที่ออกฤทธิ์ตอเชื้อวัณโรคที่อยูในเซล และเปนยาที่มีความจําเปนมากใน 2 เดือน แรก แตหากผูปวยแพยาสามารถทดแทนไดดวย ethambutol ง. ethambutol เปนยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ และสามารถใชไดอยางปลอดภัยในผูปวยที่มีภาวะไตทํางานบกพรอง (ไมตองปรับขนาดยา)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
327
MCQ
จ. ยากลุม fluoroqoinolone ที่สามารถใชในการรักษารักษาวัณโรคได ไดแก norfloxacin, ciprofloxacin และ olfloxacin ขอ 8. หากผูปวยไดรับการวินิจฉัยวาเปนวัณโรคปอดโดยผล AFB เปนบวก และพบวาผูปวยมีการ ติดเชื้อเอชไอวีโดยมีคา CD4+cell count เทากับ 210 cell/mm3 การรักษาที่ผูปวยรายนี้ควรไดรับในขอใด ถูกตอง ก. ควรใหการรักษาวัณโรคดวยยาสูตร short course therapy เพียงอยางเดียวจนกวาจะ หายจากวัณโรคกอนจึงเริ่มยาตานไวรัสเอสด ข. ควรใหการรักษาวัณโรคดวยยาสูตร short course therapy รวมกับยาตานไวรัสเอดสโดยเลือกใชสูตรยาที่ มี efavirenz แทน nervirapine ค. ควรใหการรักษาวัณโรคดวยยาสูตร short course therapy เพียงอยางเดียวกอนเมื่ออาการทางคลินิกของ ผูปวยโรคดีขึ้น หรือผลการตรวจเสมหะใหมี AFB เปนลบจึงใหยาตานไวรัสเอดส โดยควรใหยาตานไวรัส เอดสภายใน 2 เดือน ง. ควรใหการรักษาดวยยาตานไวรัสกอนจนคา CD4 cell count มากกวา 350 cell / mm3 จึงเริ่มการรักษา วัณโรค จ. ควรใหการรักษาดวยยาตานไวรัสเอดสกอนเปนเวลา 2 เดือน จึงเริ่มใหการรักษาวัณโรคโดยหลีกเลี่ยงกาใช ยา rifampicin CASE III ผูปวยหญิงอายุ 25 ป มารับยาที่คลินิกโรคติดเชื้อเอชไอวี แพทยผูรักษาไดแจงใหทานทราบวาเปนผูปวยใหม และใหทานใหคําแนะนําปรึกษาเรื่องการใชยาแกผูปวยรายนี้ ผลการตรวจทางหองปฏิบัติการไดคา CD4 T – cell 140 cell / mm3 คา viral load 110,000 copies / mm3 ผลการตรวจ pregnancy test เปนบวก แพทยสั่งจายไดแก GPOvir รับประทานวันละ 1 ครั้งเวลา 7.00 น. และ d4T (30 mg) และ 3 – TC (150 mg) รับประทานอยางละ 1 เม็ด วันละครั้งเวลา 19.00 น. นอกจากนี้มีการสั่งใชยา cotrimoxazole DS รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง กอนนอน clotrimazole lozenge ใหผูปวยวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ขอ 1. ผูปวยรายนี้ปวยเปนโรคติดเชื้อเอสไอวีจัดอยูในขั้นใด ก. Acute HIV infection (AI) ง. Primary infection (AI) ข. Asymtomatic HIV (BII) จ. Symptomatic HIV (CI) ค. Clinical latency (BIII) ขอ 2. ยา GPO – vir ที่ผูปวยไดรับประกอบดวยยาใดบาง ก. nervirapine, stavudine, lamivudine ข. stavudine, lamivudine, indinavir / ritonavir ค. zidovudine, lamivudine, indinavir / ritonavir ง. stavudine, lamivudine, efavirenz จ. Zidovudine, lamivudine, stavudine ขอ 3. กลไกการออกฤทธิ์ของ efavirenz คือขอใด ก. ยับยั้ง reverse transcriptase แบบ reversible ข. ยับยั้ง reverse transcriptase แบบ irreversible ค. ยับยั้ง HIV protease ง. ยับยั้ง integrase จ. ยับยั้ง thymidine kinase
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
328
MCQ
ขอ 4. อาการไมพึงประสงคที่พบไดบอยของยาตานไวรัสตามโครงการของ NAPHA ขอใดไมถูกตอง ก. d4T : peripheral neuropathy, lipoatrophy ข. AZT : anemia, neutropenia, GI intolerance ค. NVP : hepatotoxicity, skin rash ง. 3TC : CNS toxicity, teratogenicity จ. IDV/r : nephrolithiasis or nephrotoxicity ขอ 5. อาการใดเปนขอบงชี้ใหหยุดยาตานไวรัส GPO – vir ก. Steven Johnson syndrome ง. SGPT > 5X ข. Toxic epidermal necrolysis จ. ถูกทุกขอ ค. Rash with blisters ขอ 4. ยาตานเชื้อราที่สามารถใชในการรักษา oral candidiasis ยกเวนขอใด ก. clotrimazole lozenge ง. Ketoconazole tablet ข. Nystatin suspension จ. Fluconazole tablet ค. Miconazole oral gel ขอ 5. ผูปวยรายนี้ควรไดรับ fluconazole สําหรับปองกัน cryptococcal meningitis อยางไร ก. ยังไมจําเปนตองให ง. 200 mg วันละครั้ง ข. 400 mg สัปดาหละครั้ง จ. 400 mg วันละครั้ง ค. 400 mg สัปดาหละ 2 ครั้ง ขอ 6. ผูปวยกลับมาพบแพทยในอีก 1 สัปดาหตอมาพบวาผูปวยมีอาการตาเหลือง ตัวเหลือง ปวดชายโครงขวา ผลการตรวจทางหองปฏิบัติการพบระดับของเอนไซม ALT 300 unit (คาเดิม 50 unit) ผูปวยรายนี้นาจะมีอาการไมพึงประสงคจากยาใด ก. indinavir ง. stavudine ข. lamivudine จ. zidovudine ค. nervirapine ขอ 7. จากขอ 3 สูตรยาตานไวรัสที่ผูปวยรายนี้ควรไดรับที่เหมาะสมที่สุดคือสูตรใด ก. nervirapine, stavudine, lamivudine ข. stavudine, lamivudine, indinavir/ritonasir ค. zidovudine, lamivudine, indinavir / ritonavir ง. stavudine, lamivudine, efavirenz จ. Zidovudine, lamivudine, stavudine ขอ 8. ในอีก 3 เดือนถัดมาผูปวยมีอาการไขต่ํา ไอมีเสมหะมีเลือดปน ผลการตรวจ CD4 ได 180 cell / mm3 ยอม เสมหะใหผล AFB positive ผลเพาะเชื้อใชเสมหะพบ Mycobacterium tuderculosis แพทยไดวินิจฉัยวาผูปวยเปนวัณ โรคปอด แนวทางการรักษาผูปวยรายนี้เปนอยางไร ก. หยุดยาตานไวรัสทุกตัว แลวรักษาวัณโรคใหหายกอน ข. ใหยาตานไวรัสจน CD4 > 200 แลวจึงเริ่มรักษาวัณโรค ค. ใหยาตานไวรัสจน CD4 > 300 แลวจึงเริ่มรักษาวัณโรค ง. ใหยาตานไวรัสรวมกับยารักษาวัณโรค จ. เปลี่ยนสูตรยาตานไวรัสเปน stavudine, lamivudine, efavirenz แลวใหรวมกับยารักษาวัณโรค
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
329
MCQ
ขอ 9. ในอีก 6 เดือนตอมาผูปวยมีอาการไขสูงปวดศรีษะ ผลการตรวจรางกายพบ stiffneck positive การยอมน้ําไขสันหลังใหผล India ink positive ผลการตรวจ Cryptococcus antigen ในเลือดให ผลบวก แพทยจึงวินิจฉัยวาผูปวยรายนี้เปน Cryptococcus meningitis ทานคิดวาผูปวยรายนี้ควรไดรับการ รักษาอยางไร ก. ใหยา fluconazole ชนิดรับประทาน 200 มก. วันละ 2 ครั้ง ติดตอกันนาน 8 สัปดาห ตามดวย 400 มก. สัปดาหละครั้งตลอดชีวิต ข. ใหยา fluconazole ชนิดรับประทาน 200 มก. วันละ 2 ครั้งติดตอกันนาน 8 สัปดาห ตามดวย 200 มก. วันละครั้งตลอดชีวิต ค. ใหยา amphotericin B 0.7 – 1 mg / kg / day นาน 14 วัน ใหยา fluconazole ชนิดรับประทาน 200 มก. วันละ 2 ครั้งติดตอกันนาน 8 สัปดาห ตามดวย 400 มก. สัปดาหละครั้งตลอดชีวิต ง. ใหยา amphotericin B 0.7 – 1 mg / kg / day นาน 14 วันใหยา fluconazole ชนิดรับประทาน 200 มก. วันละ 2 ครั้ง ติดตอกันนาน 8 สัปดาห ตามดวย 200 มก. วันละครั้งตลอดชีวิต จ. ใหยา amphotericin B 0.7 – 1 mg / kg / day นาน 14 วัน รวมกับยา fluconazole ชนิดรับประทาน 200 มก. วันละ 2 ครั้ง ติดตอกันนาน 14 วัน จากนั้น fluconazole 200 มก. วันละครั้ง หรือ 400 มก. สัปดาหละครั้งตลอดชีวิต ขอ 10. หากผูปวยมาขอซื้อยาที่รานขายยาตานไวรัสเอดสที่รานขายยาของทาน ทานจะแนะนํา ผูปวยอยางไร ก. ยานตานไวรัสเปนยาอันตราย สามารถซื้อไดตามรานยาทั่วไปที่มีเภสัชกร ข. ยาตานไวรัสเอสเปนยาอันตราย แตสามารถซื้อไดเฉพาะโรงพยาบาลเทานั้น ค. ยาตานไวรัสเปนยาควบคุมพิเศษ สามารถซื้อไดตามรานยาทั่วไปที่มีเภสัชแตตองนําใบสั่งยาจากแพทยไปซื้อ จ. ยาตานไวรัสเปนยาควบคุมพิเศษ สามารถซื้อไดเฉพาะโรงพยาบาล เทานั้น ขอ 11. พืชสมุนไพรชนิดใดบางมีผลยับยั้งการเจริญของไวรัสเอชไอวีในหลอดทดลอง ก. มะระจีน ง. โสม ข. มะระขี้นก จ. ฟาทะลายโจร ค. แฮม Case IV นางสาวรวยริน อายุ 33 ป น้ําหนัก 52 กก. มีประวัติติดเชื้อ HIV มาประมาณ 5 ป ขณะนี้มีอาการไข พบตุมคันทั่วตัว น้ําหนักลด จากการซักประวัติพบวามีอาการมาประมาณ 4 เดือน ไมไดรับการรักษาที่ใด จากการตรวจรางกายพบ BT 38 องศาเซลเซียส, skin rash with PPE, CD4 cell count 250/mm3 SGPT 28 U/L (4-36 U/L) แพทยไดใหการรักษาดวยยา GPO-vir แกคนไข 1. อาการขางเคียงจากการใชยาในกลุม Non-nucleoside reverse transcriptase inhibitor (NNRTI) คืออะไร ง. Hyperlipidemia และ hyperglycemia ก. Peripheral neuropathy และ Lactic จ. Lipodystrophy และ peripheral acidosis neuropathy ข. Bone marrow suppression ค. Rash และ hepatotoxic 2. จุดมุงหมายในการรักษาโดยการใหยาตานไวรัสแกคนไข ตองการใหระดับ CD4 เปนอยางไร ก. CD4 มากกวา 50 cill/mm3 ง. CD4 มากกวา 250 cill/mm3 ข. CD4 มากกวา 100 cill/mm3 จ. CD4 มากกวา 500 cill/mm3 ค. CD4 มากกวา 200 cill/mm3
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
330
MCQ
3. ยาที่นิยมใชเพื่อการปองกันการติดเชื้อฉวยโอกาส Pneumocystis carinii pneumonia แบบ primary prophylaxis ในผูใหญที่ติดเชื้อ HIV คือขอใด ก. Cotrimoxazole ( 80 TMP/400 SMZ) 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ข. Cotrimoxazole ( 80 TMP/400 SMZ) 2 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ค. Cotrimoxazole ( 80 TMP/400 SMZ) 2 เม็ด สัปดาหละ 3 ครั้ง ง. Clotrimazole (100) vaginal tablet ครึ่งเม็ด วันละ 3 ครั้ง จ. Fluconazole (200 mg) 2 เม็ด/สัปดาห 4. สมุนไพรใดมีฤทธิ์ยับยั้ง HIV ไดในหลอดทดลอง และเริ่มมีการใชในผูปวย HIV บางแลว ก. ฟาทะลายโจร ง. หญาปกกิ่ง ข. มะระขี้นก จ. ดาวเรือง ค. ปลาไหลเผือก
MCQ เรื่อง URI โรคติดเชือ้ ระบบทางเดินหายใจสวนบน Case I 1. นางสุขสบายพาเด็กชายแดงมาที่รานขายยาดวยอาการไข 37.8 C เจ็บคอเล็กนอยมา 1 วัน มีน้ํามูกไหล คอแดง เล็กนอย - สิ่งที่เภสัชกรควรซักถามเพิ่มเติม คืออะไร - ทานคาดวาเด็กคนนี้เปนโรคอะไร โดยพิจารณาจากอาการใด - เด็กชายแดงจําเปนตองไดรับยาปฏิชีวนะหรือไมเพราะเหตุใด และเภสัชกรควรแนะนําวิธีปฏิบัติตัวอยางไร 2. 2-3 วันตอมา เด็กชายแดงมีอาการไอมาก มีเสมหะ น้ํามูกขนเขียว - ทานคิดวาผูปวยเกิดโรคอะไร เพราะเหตุใด - ทานจะพิจารณาใหยาปฏิชีวนะแกผูปวยหรือไม เพราะเหตุใด - สิ่งที่ตองพิจารณาในการเลือกใหยาปฏิชีวนะมีอะไรบาง 3. จากการซักประวัติพบวาเด็กชายแดงไมเคยแพยา ทานจะจายยาชนิดใด จายในขนาดและระยะเวลาเทาใด ยานี้มีวิธีใช และวิธีเก็บอยางไร 4. ถาจากการซักประวัติพบวาเด็กชายแดงแพยา penicillin ทานจะจายยาใดแทน ใหบอกขนาดยา วิธใี ช และระยะเวลา 5. ถาที่รานขายยามียา erythromycin 3 บริษัท คือ Erysil (erythromycin estolate) Ilosone (erythromycin estolate) Servitrocin (erythromycin ethylsuccinate) ยาทั้งสามนี้ตางกันหรือไม อยางไร ในดานการดูดซึมและอาการไมพึงประสงค 6. คําแนะนําที่ตองเนนเกี่ยวกับการรับประทานยาปฏิชีวนะ คืออะไร 7. เหตุใดจึงตองเก็บยา penicillin หรือ amoxilcillin dry syrup ซึ่งไดผสมน้ําแลวไวในตูเย็น
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
331
MCQ
8. ภายหลังจากที่ทานไดจายยาและใหคําแนะนําเรียบรอยแลว นางสุขสบายขอซื้อยาลดน้ํามูกไปใหเด็กขางบาน อายุ 14 ป มีน้ํามูกใสไหลตลอดเวลา มีไขรุมๆ ไมไอ ไมเจ็บคอ เพิ่งมีอาการเมื่อคืนนี้ ยังไมไดรับประทานยาใดๆ โดยไดนํา ตัวอยางยามาแสดงใหดูดวยเปนยาแคปซูลชนิดแข็ง - ใหทานระบุเกณฑในการพิสูจนเอกลักษณของยาแคปซูลชนิดแข็ง - เมื่อพิสจู นเอกลักษณแลวพบวายาดังกลาวประกอบดวย Chlorpheniramine meleate 2 mg และ Pseudoephedrine hydrochloride 30 mg ทานคิดวาเปลือกแคปซูลที่ใชบรรจุยาตํารับนี้มีขนาดเทาไร - ถาในรานขายยาของทานไมมียาดังกลาว แตมียาที่ผลิตจากบริษัทอื่นซึ่งมีชนิดและขนาดยาตามที่ระบุไวบน ฉลากเหมือนกัน ทานจะใหคําอธิบายอยางไรแกนางสุขสบายซึ่งยาทั้งสองมีความเหมือนหรือความเทาเทียม กันของคุณภาพและประสิทธิภาพระหวางยาที่ผลิตจากทั้งสองบริษัท ใหทานอธิบายวิธีการเก็บรักษายา แคปซูลชนิดแข็งที่ถูกตองและเขาใจงายแกนางสุขสบายและใหกับผูปกครองของเด็กขางบานตอไป 9. หลังจากที่นางสุขสบายไดรับยาและออกจากรานไปแลว เภสัชกรไดซักถามนักศึกษาที่มาฝกงานถึงสูตรตํารับของยา ปฏิชีวนะที่เหมาะสําหรับเด็กและผูที่รับประทานยาเม็ดไมได ใหนักศึกษาตอบคําถามเกี่ยวกับสูตรตํารับ 3 ตํารับ ดานลาง 10. หลังการไดรับคําตอบเกี่ยวกับสูตรสํารับแลวเภสัชกรอาจารยแหลงฝกไดมอบหมายใหนักศึกษาทํารายงานเกี่ยวกับ Physicochemical properties ของ penicillins และความสัมพันธระหวาง Physicochemical properties และ Physicochemical actions ของ penicillins Question Rx1 (Ampicillin 250/ 1 tsp) Use Ampicillin trihydrate …….. ………………………………….. Sodium benzoate 0.2% ………………………………….. ………(a)………….. 0.08% ………………………………….. ………(b)………….. 1.5% ………………………………….. Citric acid 0.051% ………………………………….. Sodium citrate 0.125% ………………………………….. Sucrose 60% ………………………………….. M.Q.100 ml 1.1. จงคํานวณปริมาณ ampicillin trihydrate ………………………………………………………………………………………….. 1.2. สารที่ควรเติมลงในชองวาง (a) คือ a. Tween 80 b. Aluminium chloride c. Sodium CMC d. Methyl paraben e. Glycerin 1.3. สารที่ควรเติมลงในชองวาง (b) คือ a. Tween 80 b. Aluminium chloride c. Sodium CMC d. MC 4500 e. Glycerin 1.4. รูปแบบของตํารับนี้เรียกวา a. Emulsions b. Solutions c. Suspensions d. Magmas e. Reconstitutable suspensions 1.5. pH ของตํารับนี้ประมาณ………..แสดงวิธีคํานวณ……………………………………….. ………………………………………………………………………………………..
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
332
MCQ
1.6. ถาเปลี่ยนตัวยาเปน Ampicillin ทานคิดวาจะทําใหมีผลดีอยางไรบาง จงอธิบาย ………………………………………………………………………………………… 1.7. จงเขียนวิธีเตรียมของตํารับนี้……………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… . 1.8. จงอธิบายวิธีใชของตํารับนี้และขอแนะนําตางๆ ตอคนไข……………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….... 1.9. USP ระบุวา “เก็บในตูเย็น” หมายถึงเก็บไวที่อุณหภูมิ…………… องศาเซลเซียส 1.10. จงอธิบายวิธีการประเมินผลของตํารับนี้……………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.11. Dry powders ที่มีคุณสมบัติการไหลดีควรมีคา angle of repose เทากับ a. ≤ 38 องศา b. 38-42 องศา c. ≥ 42 องศา d. ≥ 50 องศา e. 40-50 องศา 1.12. ตํารับ Pen. V Dry Syrup ซึ่งประกอบดวย Penicillin V Potassium 125 mg/ml เมื่อผสมน้ําแลวควรอยูในรูปแบบ a. Suspensions b. Solutions c. Emulsions d. Elixirs e. Tinctures 1.13. ตํารับในขอ 1.12 จะมีความคงตัวดีตองประกอบดวย a. Antioxidant b. Buffer (pH 5-8) c. Chelating agent d. Preservatives e. Complexing agent 1.14. เหตุใดคนไขบางคนจึงตองใช Augmentin แทน Amoxicillin จงอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.15. ในตํารับ Augmentin oral Suspension ตองประกอบดวยสาระสําคัญคือ………………….. เพราะ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………. Rx2 (Erythromycin 250/1 tsp) Use ………………….... ………….. ……………..…………………… Sodium benzoate 0.2% …………………………......... ……(a)…………… 0.12% ……………………………….. ……(b)…………... 1.5% ……………………………….. ……(c)…………… 60% ……………………………….. M.Q.100 ml 1.1. ทานคิดวาจะใชรูปใดของยา a. Erythromycin estolate b. Erythromycin lactobionate c.Erythromycin gluceptate d. Erythromycin stearate e. Erythromycin ethylsuccinate 1.2. จงคํานวณปริมาณ Active ingredient ……………………………………………………………………………………
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
333
1.3. สารที่ควรเติมลงในชองวาง (a) คือ a. Tween 80 b. Aluminium chloride c. Sodium alginate d. Sucrose e. Glycerin 1.4. สารที่ควรเติมลงในชองวาง (b) คือ a. Tween 80 b. Aluminium chloride c. Sodium alginate d. Sucrose e. Glycerin 1.5. สารที่ควรเติมลงในชองวาง (c) คือ a. Tween 80 b. Aluminium chloride c. Sodium alginate d. Sucrose e. Glycerin 1.6. ทานคิดวาตํารับนี้ยังขาดสารใดอีก จงระบุชื่อพรอมอธิบายผล ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………….. 1.7. ถาในฉลากระบุวา “หมดอายุ สิงหาคม 2004” ทานจะแนะนําคนไขวาควรใชไดจนถึง a. 1 ส.ค. 2004 b. หลังจากวันที่กําหนด 6 เดือน c. 15 ส.ค. 2004 d. หลังจากวันที่กําหนด 7 วัน e. 31 ส.ค. 2004 1.8. หลังจากวันที่หมดอายุ แสดงวาผลิตภัณฑสูญเสียตัวยาไป a. ≤5% activity b. ≤30% activity c. ≤10% activity d. ไมเขามาตรฐานที่ระบุในเภสัชตํารับ e. ≤20% activity 1.9. USP ระบุวา “Protect from light” หมายถึง……………………………………………. 1.10. จงอธิบายภาวะที่ใชในการประเมินตํารับนี้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… .. Rx3
W.F. Trimethoprin Methylcellulose 1500 Methyl paraben Propyl paraben Syrup USP Propylene glycol Purified water to M.Q. 60 ml 1.1. รูปแบบของตํารับนี้เรียกวา a. Emulsion d. Magmas
Pharmacy Student Rx’24
40 mg/ 1 tsp 1% 0.2% 0.02% 5% 2% 100%
Use ……….. ………………………….. ……….. ………………………….. ……….. ………………………….. ……….. ………………………….. ……….. ………………………….. ……….. ………………………….. ……….. …………………………..
b. Solution c. Suspensions e. Dry powder for suspensions
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
334
MCQ
1.2. จงเขียนวิธีเตรียมของตํารับนี้ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ .......................................................................................................................................... 1.3. การบดผงยาใหละเอียดเรียกวา a. Spaturation b. Macceration c. Trituration d. Sublimation e. Pulverization by intervention 1.4. รูปแบบนี้ไมเหมาะกับการใหยาทางใด a. SC b. IV c. IM d. Ophthalmic e. Intra-articular 1.5. ทานคิดวาตํารับนี้ยังขาดสารใดอีก จงระบุชื่อและอธิบายเหตุผล ……………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………… 1.6. คุณสมบัติใดที่ตองการในรูปแบบนี้ a. Caking b. Cracking c. Creaming d. Dilatant e. Thixotropy 1.7. การเสื่อมของยารูปแบบนี้เปน a. Zero order b. First order c. Second order d. Third order e. Cube rute law 1.8. Propyl paraben 12 mg ไมสามารถชั่งไดอยางแมนยํา ทานจะแกปญหานี้อยางไร จงแสดงวิธีคํานวณ ดวย………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………….
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
335
Case ที่ 2 : นางสาวจิต ใจดี นําใบสั่งยาที่ดรับจากโรงพยาบาลเพื่อขอซื้อยาจากรานขายยาที่ทานเปนเจาของกิจการ โรงพยาบาลคณะเภสัชศาสตร ใบสั่งยา คลินิกโรคตา หู คอ จมูก นายสาวจิต ใจดี อายุ 26 ป
HN1568/46
เลขที่ 125
Rx .Iliadin Nasal spray (Oxymetaxolin 0.05% ) Cetericine Beclomethasone Nasal spray (50mcg/spray)
1 puff OD 1 tab OD 1 puff OD
แพทยศักดิ์สิทธิ์ 2856
1. จากใบสั่งยาทานคิดวาผูปวยรายนี้ปวยเปนโรคอะไร 2. กลไกการเกิดโรคนี้ คือ ก. Alicrgen จับกับ lgE บน mast ทําใหเกิด mast cell degranulation ทําใหเกิด vasodilation smooth muscele contraction ข. Alicrgen จับกับ lgE บน mast ทําใหเกิด mast cell degranulation ทําใหเกิด vasodilation smooth muscele relaxation ค. Alicrgen จับกับ lgE บน mast ทําใหเกิด mast cell degranulation ทําใหเกิด vasoconstriction smooth muscele relaxation ง. Alicrgen จับกับ lgE แลวฝงตัวบน mast cell ทําใหมีการปลดปลอยของ vasoactive mediators ทําให เกิด allergie inflammation 3. ปจจัยที่เปนสิ่งกระตุนที่อาจทําใหเกิดโรคนี้ ไดแก ก. Penicillin salicylate ง. Outdoor allergen เชน เกสรดอกไม ข. Mold spore จ. ถูกทุกขอ ค. Indoor allergen เชน duct mules nuild speeres 4. กลไกการออกฤทธิ์ของยากลุม Nasal decongentant คือ ก. ออกฤทธิ์ตอ Adrencrgie receptors ที่ Nasal mucosa ทําใหเกิด vasoconstriction ข. ออกฤทธิ์ตอ Adrencrgie receptors ที่ Nasal mucosa ทําใหเกิด vasexlilation ค. Block mast cell degranulation ง. Block Ca influx
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
336
MCQ
5. เมื่อเปรียบเทียบ relative scdative effect ของยาในกลุม antihistamine สามารถเรียงลําดับจากมากไป นอย ไดดังนี้ ก. brampheniramine larataJine ceterizine ข. brampheniramine ceterizine loratadine ค. ceterizine loratndine brompheniramine ง.ceterizine brompheniramine loratadine จ. loratadine brompheniramine ceterizine 6. หนึ่งสัปดาหตอมานางสาวจิต มาพบทานที่รานยา และบอกวา ชวง 2-3 วันที่ผานมา อาการของโรคภูมิแพแยลง โดยเฉพาะอาการคัดจมูกที่เปนมากขึ้น ผูปวยจึงพนยา oxymetazoline เพิ่มเปนวันละ 3 ครั้ง แตอาการยังไมดีขึ้นจึงมา ปรึกษาเภสัชกรเพื่อขอคําแนะนําในฐานะเภสัชกรทาน ควรแนะนําผูปวยอยางไร ก. แนะนําใหผูปว ยเพิ่มขนาดยาพนจมูกเปน 2 spay วันละ 3 ครั้ง ข. แนะนําใหผูปว ยใชยาพนจมูกที่มีตัวยา ephredine รวมดวย ค. แนะนําใหผูปว ยเปลี่ยนไปใชยาพนจมูกยี่หออื่น ง. แนะนําใหผูปวยหยุดใชยาพนจมูกชั่วคราว จ. แนะนําใหผูปว ยรับประทานยาที่บรรเทาอาการคัดจมูกรวมดวย 7. ใหแนะนําวิธีการใชยาพนจมูกที่ถูกตอง 8. ทานคิดวาหลักการ Immunotherapy ที่นํามาใชในการรักษา / ปองกัน โรคภูมิแพคลายกับคําสุภาษิตขอใด และจง อธิบายหลักการ ก. น้ํามาปลากินมด ข. All are well end well ค. น้ํารอนปลาเปน น้ําเย็นปลาตาย ง. หนามยอกเอาหนามบง จ. เขียนเสือใหวัวกลัว 9. สิ่งที่ดีที่สุดในการรักษา / ปองกันโรคภูมิแพที่ทานจะแนะนําใหกับผูปวยไดแก ง. Immunotherapy ก. Allergen avoidance ข. Antihistamine จ. Exercise + good nutrition ค. Cromolyn Sodium 10. จงอธิบายขอดี และขอเสียในแตละตัวเลือกของขอ 9. 11. ถานางสาวจิต มีอาการจาม น้ํามูกไหลมา 3 วันแลว มาขอซื้อยาที่รานยา ซึ่งทานเปนเภสัชกรประจําอยู ทานจะ ซักอาการเพิ่มเติม เพื่อใหแนใจวาผูปวยเปนโรคภูมิแพ ก. มีอาการคัดจมูก หายใจสะดวกหรือไม ข. มีอาการคัดจมูก และหรือมีน้ําตาไหลหรือไม ค. มีอาการแสบจมูก จมูกบวมหรือไม ง. น้ํามูกมีสีอะไร ใสหรือขุน จ.มีอาการเจ็บคอและมีไขรวมดวยหรือไม
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
337
MCQ
Case ที่ 3 ผูปวยชายอายุ 36 ป มาที่รานขายยาที่ทานเปนเภสัชกรดวยอาการ มีน้ํามูกขนเหนียว คัดจมูก มีเสมหะ มาก ปวด / กดเจ็บบริเวณโหนกแกม จากการซักประวัติเพิ่มเติมทราบวาผูปวยรายนี้เปนเรื้อรังมานานประมาณ 10 วัน แลว โดยอาการเริ่มจากมีน้ํามูกใส ไอ และมีไข 1. ผูปวยรายนี้เปนโรคอะไร 1. Infuenza 2. Infectious rhinitis 3. Sinusitis 4. Allegic rhinitis 5. Allergic asthma 2. โรคนี้เกิดจากสาเหตุใด 1. Bacteria ไดแก ......................................................... 2. Viruses ไดแก ......................................................... 3. Allergic inflammations 3. ในกรณีถาผูปวยไมเคยไดรับยาใดมากอนและไมเคยแพยา ทานจะแนะนําใหผูปวยรับประทานยา antibiotic หรือไม ถาใหตัวใดไดบาง อยางไร และนานเทาไร 4. ทานควรจายยากลุม antihistamine หรือไม เพราะเหตุใด 5. ทานควรจายยากลุม nasai cocongestant หรือไม เพราะเหตุใด และมีขอหามใชในคนที่เปนโรคอะไรบาง 6. ทานควรจายยากลุม nasocomstion spay หรือไม เพราะเหตุใด และมีขอหามใชอยางไร Case 4 1 นาย ก มาพบแพทยดวยการคัดจมูกและติดเชื้อ URI ทานคิดวาการจายยา antibiotic & antihistamine คูใดอาจ ทําใหผูปวยมีปญ หา a) Ampicillin & CPM ในผูปวยไดรับยา antacid b) Amoxicillin& Loratadineในผูปวยไดรับยา cimetidine c) Erythromycin & Terfenadineในผูปวยไดรับยา aspirin d) Roxithromycin & Theophyline ในผูปวยไดรับยา antacid 2. ยาที่ใชรักษา COPD ขอใดที่ไมทําใหเกิด cardiac asthma a) metropolol d) cumolyn b) ipratropium e) metaproterenol c) zileron 3. ฤทธิ์ไมพึงประสงคของ terfenadine a) งวงนอน d) parkinsonism b) เหนี่ยวนํา enz. ตับ e) anaphylaxis c) รบกวนการทํางานของหัวใจ 4. ขอใดคือการรักษา asthma ยกเวน a) การขัดขวางการหลั่ง mediator ของ inflammatory cell b) การขัดขวางการทํางานของ enz. Phospholipase A2 c) ออกฤทธิ์เปน Interleukin receptor antagonist d) ออกฤทธิ์เปน muscarinic receptor antagonist e) ออกฤทธิ์เปน adrenergic agonist
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
338
MCQ
5. ยา antihistamine ตัวใดที่ไมทําใหเกิด sedative a) cyelizin c) astemazole b) tripclensamine d) looratadine 6. Ticlopidine กลไกออกฤทธิ์อยางไร d) stimulant platelet a) inh.COX e) block fibrinogen receptor b) inh.TXA2 c) inh CAMP 7. Ipratopium ขอใดถูกตอง a) ใชในรูปยาพน เปน bronchodilator d) ลดความดันโลหิต b) ฤทธิ์ระงับการอักสบ e) ลดการบีบตัวลําไสใหญ c) ฤทธิ์ระงับปวด 8. ยาใชแกไอโดยไมเสพติด a) codeine d) naloxone b) dextro. e) methadone c) morphine 9. ชายไทยอายุ 30 ป เปน TB ALL มี ANC 200 ระหวางรักษาในรพ. เกิดภาวะ sepsis จาก blood culture พบ E.coli ยาใดเหมาะสําหรับเปน empric Tx สําหรับผูปวยรายนี้ c) erythromycin a) tetracycline b) chloramphenical d) thiamphenical 10. นางนอยอายุ 60 ป เขารพ.ดวยอาการหอบกําเริบ Dx; asthma, gastroacidity, pneumonia ยาที่ใช: beclometacone inhalation, AlOH ตอมาพบฝาขาวในปากตรวจพบ pseudohyphae ยาที่ใช? a) nystatin suspension c) griseofulvin table นํามาเปน solution b) tolnaftate cream e) metronidazole นํามาทําเปน solution 11. ยากดภูมิคุมกันสามารถนํามาใชประโยชนดานใด a) AIDs d) leprosy b) COPD e) organ tissue transplant c) TB 12. ขอความที่เกี่ยวของกับการรักษาขอใดไมถูกตอง a) เปนโรคที่รักษาไมหายแตมีเปาหมายที่จะทําใหผูปวยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น b) หยุดสูบบุหรี่ c) รักษา reversible airflow obstruction โดยใชยาขยายหลอดลมและ corticosteroid d) on supplement oxygen therapy e) on PSF เพื่อกระตุนการทํางานของปอด 13. ขอความที่เกี่ยวของกับโรคหืดขอใดไมถูกตอง a) เปนการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม b) ตัวกระตุนเปนสาเหตุสําคัญในการทําใหเกิดภาวะจับหืดในผูปวยที่หลอดลมมีความไวตอการกระตุน c) หลอดลมมีความไวตอการกระตุนทําใหมีการตีบของหลอดลมทั่วปอด d) การตีบของหลอดลมสามารถกลับสูภาวะปกติไดเองหรือหายไดดวยการใชยาขยายลอดลม e) steroid เปน drug of choice
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
339
MCQ
14. ยาแกไอที่ดีที่สุดมีความปลอดภัยสูงใชไดกับทุกวัย a) Guaiaphenesin d) dextro b) Glycerrhicin e) Bromhexine c) Codeine 15. ยาแกแพตัวใดที่ออกฤทธิ์นานและทําใหงวงนอยมาก a) CPM d) Diphenhydramine b) brompheniramine e) Loratadine c) Tripolidine 16. สูตรตํารับยาแกไอน้ําดํา Brown mixture ตอบ glycerrhiza 12 ml Camphorate opium 12 ml Purified water add 100 ml 17. ขอใดผิด a) glycerrhyza มี glycerrhicin เปนสารแตงรสหวาน b) camphorate opium เกิดจกปฏิกิริยาของ camphor and opium c) ใน 1 ชอนโตะมี camphorate opium 0.6 ml d) glycirrhiza fluid extract เตรียมโดยวิธี percolation e) camphorate opium ลดการไอโดยกดศูนยการไอที่สมอง 18. นาง จับหืดทุกวันโดยจะเปนในชวงเชาหลังตื่นนอน เมื่อสองวันที่ผานมาไปพบแพทย ตรวจคาPEF=75% ของคา ทํานาย ทานคิดวาผูปวยรายนี้มีความรุนแรงของโรคระดับใดตาม GINA guideline a) intermittent d) severe persistant b) mild persisitant e) ไมสามารถระบุความรุนแรงได c) moderate persitant 19. Therapeutic range ของ theophyline คือ a) 0-1 mcg/ml d) 30-40 mcg/ml b) 10-20 mcg/ml e) 40-50 mcg/ml c) 20-30 mcg/ml 20. ยาใดเกิด drug interaction with theophyllne a) ciprofloxacin c) cimetidine b) erythromycin d) loratadine 21. ทานใชยาตัวใดเปน first line therapy ในการรักษาหอบหืดเฉียบพลันที่แผนกฉุกเฉิน a) theophylline d) cromolyn sodium b) beta2-agonist e) antihistamine c) corticosteroid 22. หญิงไทยโสดอายุ 30 ปมาพบเภสัชที่รานยาดวยอาการไอ มีเสมหะเหนียวขนสีขาว ดื่มน้ําอุนบรรเทาอาการ 3-4 วัน แตอาการไมดีขึ้น จะขอซื้อยาบรรเทาอาการทานจะเลือกยาใด a) dextro 15 mg tid b) dextro 15 mg tid + amoxicillin 500 mg tid c) acetylcysteine 200 mg ละลายน้ําหนึ่งแกวแลวดื่ม tid d) acetylcysteine 200 mg ละลายน้ําหนึ่งแกว+ amoxicillin 500 mg tid e) codeine 10 mg tid
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
340
MCQ
Case 5 1. เภสัชกรควรแนะนํายาแกแพตัวใดที่รับประทานแลวไมงวง ก. Brompheniramine ค. Fexofenadine ข. Hydroxyzine ง. Mebhydrolin 2. ยาในขอ 1 สามารถใชรวมกับ erythromycin ไดหรือไม เพราะเหตุใด ก. ได เพราะ ไมมีการเกิดปฏิกิริยาระหวางยาตอกันที่รายแรง แมวาระดับยาจะเพิ่มขึ้นก็ตาม ข. ได เพราะไมมีการยับยั้ง metabolism ของยาดังกลาว ค. ได เพราะ erythromycin ไมมีผลตอระดับยาดังกลาว ง. ไมได เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงตอการเกิดโรคหัวใจเตนผิดจังหวะอยางมาก 3. ถาผูปวยไดรับยา Pseudoephedrine เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก ควรระมัดระวังการใชยานี้ในกรณีใด ก. Hypotension, Diabetes mellitus, Renal failure ข. Hypotension, Diabetes mellitus, Arrhythmia ค. Hyperthyroidism, Hypotension, Arrhythmia ง. Peptic ulcer, Hypotension, Arrhythmia จ. COPD, Asthma, Hypotension ตอมาผูปวยมีอาการบอยครั้งขึ้น มีอาการแสบจมูก เยื่อบุโพรงจมูกบวม หายใจขัดบอย ๆ และไมยอมเอาแมวไปทิ้ง จึง ไดรับยา Rhinocort® 4. ขอใดเปนกลไกการออกฤทธิ์ของยาพนจมูกนี้ ก. ออกฤทธิ์ยับยั้งการสราง prostaglandin จึงมีฤทธิ์ตานการอักเสบ ข. ออกฤทธิ์กระตุน alfa-receptor ที่เยื่อบุโพรงจมูกทําใหมีฤทธิ์ลดการอักเสบ ค. ออกฤทธิ์กระตุน alfa-receptor ที่เยื่อบุโพรงจมูกทําใหมีเสนเลือดในโพรงจมูกหดตัว ง. ออกฤทธิ์ยับยั้ง cyclooxygenase enzyme จึงมีฤทธิ์ตานการอักเสบ จ. ออกฤทธิ์กระตุนการสราง leukotriene จึงมีฤทธิ์ตานการอักเสบ 5.จากการศึกษาเภสัชระบาดวิทยาของยาแกโรคหอบหืดชนิดหนึ่ง พบวา ยาสามารถลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดภาวะหอบหืด เฉียบพลัน เมื่อเปรียบเทียบกับยามาตรฐาน โดยใหคา relative risk (RR) = 0.5 โดยใหชวงคาความเชื่อมั่น 95%CI = 0.2-2 จากขอมูลดังกลาว จงแปลผล ก. ยามีผลในการปองกันการเกิดภาวะหอบหืด ไดมากกวายามาตรฐาน ข. ยามีผลในการปองกันดารเกิดภาวะหอบหืด ไดนองกวายามาตรฐาน ค. ยามีผลในการปองกันการเกิดภาวะหอบหืด ไดไมแตกตางกันกับยามาตรฐาน ง. ยามีผลในการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะหอบหืด จ. ถูกทั้ง ก และ ค 6.Pseudoephedrine ที่ไดจากธรรมชาติ จัดเปนสารกลุมใด ก. alkaloid ง. triterpene ข. steroid จ. glycoside ค. flavonoid
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
341
MCQ
7.ชายคนดังลาวตองการใชสมุนไพรเพื่อชวยบรรเทาอาการไอ ระคายคอ จากเสมหะ ทานคิดวาสมุนไพรชนิดใดจะใช บรรเทาอาการดังกลาวไดดีที่สุด ง. ปบ ก. ชาพลู ข. พริกขี้หนู จ. มะแวงเครือ ค. พิลังกาสา 8.ขอใดไมใชหลักการในการพัฒนายาแกแพเพื่อลดผลขางเคียงของยา ก. พัฒนาสูตรโครงสรางใหสามารถเพิ่มการผาน blood brain barrier ไดดีขึ้น ข.พัฒนาสูตรโครงสรางให lipophilicity ลดลง ค.พัฒนานาที่มี high HI receptor affinity ง.พัฒนาใหยาจับกับ cholinergic receptor และ adrenergic receptor ไดลดลง จ.พัฒนาทําใหยาจับกับ peripheral receptor ไดมากกวา central HI receptor ทําใหลดอาการงวงได 9.ยาแกแพกลุม ตัวใดที่ถูกถอนทะเบียนออกแลว ก. Cetirizine ง. Flexofenadine ข. Loratadine จ. Hydroxyzine ค. Terfenadine 10.สาเหตุที่สําคัญที่ถูกถอนทะเบียนของยาในขอ 9 คือ...... ก. มีพษิ ตอตับ ง. เกิด agranulocytosis จ. มีพิษตอระบบสืบพันธุ ข. เกิด anaphylaxis อยางรุนแรง ค. มีผลตอระบบหัวใจและหลอดเลือด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
342
MCQ เรื่อง Asthma and COPD 1. สมุนไพรที่ใหสารออกฤทธิ์ขยายหลอดลม ก. มะแวง ง. กระเจี๊ยบ ข. พลู จ. บอระเพ็ด ค. กาแฟ 2. สมุนไพรที่ใหสารออกฤทธิ์ขยายหลอดลม แตหามใชในหลอดลม ก. มาฮวง ง. ชวงปวย ข. อึ้งเนย จ. เก็กฮวย ค. ปแป 3. เกี่ยวกับ aerosol ขอใดถูก ก. ขนาดการใหยาคอนขางแปรปรวน ข. ตัวยาถูกดูดซึมและออกฤทธิ์ชากวายาเม็ดเคลือบ ค. ยาถูกทําลายโดย First-pass metabolism ง. มีลักษณะการใชยายุงยาก จ. อาศัยการขับเคลื่อนตัวยาตามแรงโนมถวงของโลกและความดันบรรยากาศ 4. ขนาดอนุภาคในรูปแบบ inhalation เชน aerosol, MDI ควรอยูในชวงใด ก. Molecular dispersion ง. Suspension ข. Colloidal dispersion จ. Emulsion ค. Coarse dispersion 5. กลไกการออกฤทธิ์ของ salbutamol คือขอใด ก. ยับยั้ง enzyme phosphodiesterase ง. กระตุน a2-adrenergic receptor ข. Antagonism of muscarinic receptor จ. Antagonism of leukotriene receptor ค. กระตุน B2-adrenergic receptor 6. ขอใดตอไปนี้เปน S/E จากการใชยา salbutamol ก. Coughing ง. Tachycardia ข. Dry mouth จ. Orthostatic hypotension ค. Sedation 7. ขอใดเปนผลจากการใช inhaler ไมถูกวิธี ก. Dry mouth ค. Moon face ข. Oral candidiasis ง. Gingivitis 8. หากมารดาของผูปวยขอซื้อยา prednisolone tab 5 mg จากทานเพิ่มเติม เนื่องจากลูกพนยาไมถูกวิธี การกินยา นาจะดีกวา ทานจะขาย Pred. ไดหรือไม ก. ไมได เพราะวายานี้เปนยาควบคุมพิเศษ ข. ได เพราะวายานี้เปนยาอันตราย ค. ไมได เพราะวายานี้เปนยาอันตราย ง. ได เพราะวาจะทําใหผลการรักษาดีขึ้น จ. ไมได เพราะวาเปนยาวัตถุออกฤทธิ์
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
343
MCQ
9. ไดรับเอกสารการโฆษณายาใหมจากบริษัทยาวา steroid inhaler ตัวใหมของบริษัทมีประสิทธิภาพไมตางอยางมี นัยสําคัญทางสถิติ(p=0.052) จากยา steroid inhaler ในบัญชียาหลักแหงชาติ ขอมูลจากเอกสารการโฆษณายา นั้นเชื่อถือไดหรือไม ก. เชื่อถือได เพราะเปนเอกสารจากบริษัทยาที่มีชื่อเสียง ข. เชื่อถือได เพราะเปนเอกสารการวิจัยที่ไดรับการตีพิมพในวารสารมาแลว ค. เชื่อถือไมได หากขนาดตัวอยางมีนอยเกินไป ง. เชื่อถือไมได เพราะไมมีเอกสารรับรองจาก อ.ย. จ. เชื่อถือไมได เพราะคา p-value มีคาใกล 0.05 มาก เด็กชายอายุ 6 ปมีประวัติหอบหืด อาการไมรุนแรง (เปนบอยชวงอากาศเปลี่ยน) มาที่รานยาพรอมมารดาขอซื้อยาพนหอบ หืด จงตอบคําถามตอไปนี้ 10. ขอใดถูกตอง ก. แนะนําใหผูปวยไปพบแพทยที่โรงพยาบาลทันที ข. ซักถามประวัติการใชยารักษาหอบหืดที่ผปู วยเคย ค. ใหใชยาในขนาดของผูใหญได เพราะเปนเด็กโต ง. แนะนําใหใชยากินจะดีกวา เพราะออกฤทธิ์เร็ว จ. ไมจําเปนตองจายยาในขณะนี้ ควรเฝาดูอาการผูปวยตอไป 11. เนื่องจากผูปวยใหประวัติการใชยา ventolin และ budesonide ในชวงที่มีอาการหอบหืด ขอความใดถูกตองเกี่ยว การใชยาพน ก. ใหพนยา ventolin พรอมกับพนยา budesonide ข. ใหพนยา budesoonide กอน แลวจึงพน ventolin เพราะทําใหตัวยา Ventolin ทํางานขึ้น ค. หลังพนยา Budesonide แลวควรแนะนําใหผูปวยบวนปาก เพราะอาจเกิดเชื้อราชองปากได ง. การใชยาพนไมจําเปนตองเขยาขวดยากอนเสมอไป ขึ้นกับวาเปนยาชนิดใดที่ใชอยู 12. ขอใดตอไปนี้ถูกตองเกี่ยวกับการดูแลตนเองของผูปวยหอบหืด ก. ควรหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยงที่กอใหเกิดอาการหอบหืด เชน ฝุน อากาศเย็น อาหารบางชนิด ฯลฯ ข. ผูปวยหอบหืดควรหลีกเลี่ยงการออกกําลัง เพราะอาจทําใหเกิดอาการหอบงาย ค. ผูปวยหอบหืด ควรหลีกเลี่ยงรับประทานยากลุม NSAIDs หรือ Aspirin เพราะอาจสงผลใหอาการหอบหืด กําเริบ ง. กรณีที่อาการหอบกําเริบ ควรใชยา Beta2-agonist ชนิดรับประทาน เพราะออกฤทธิ์ไดเร็วและนาน จ. ผูปวยควรพกบัตรผูปวยหรือปายเตือนวา “ผูปวยโรคหอบหืด” เฉพาะกรณที่เปนประเภทรุนแรง Case II 1. ชายไทยอายุ 32 ป มีอาการแนนหนาอก หอบ มีเสียงหวีด เปนหอบ 1 ครั้ง/เดือน a) Beta-agonist ชนิดพนออกฤทธิ์สั้นใชเปนครั้งคราว b) Beta-agonist ชนิดพนออกฤทธิ์ยาวใชเปนครั้งคราว c) Beta-agonist ชนิดพนออกฤทธิ์สั้นแบบกินใชเปนครั้งคราว d) ไมใชยาอะไรเลย e) Beta-agonist ชนิดพนออกฤทธิ์สั้นแบบกิน 3 เดือน 2. เมื่อไรยาขอ 1 แลวอาการไมดีขึ้น แตกลับมีอาการหอบมากกวา 1 ครั้ง/เดือน และตอนกลางคืน มากกวา 2 ครั้ง/ สัปดาห ใชอะไร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
344
a) Beta-agonist ชนิดพนออกฤทธิ์สั้นตอเนื่อง b) Beta-agonist ชนิดพนออกฤทธิ์สั้นใชเปนครั้งคราว c) Beta-agonist ชนิดพนออกฤทธิ์ยาวตอเนื่อง d) ใช 2 สวนกินกับ beclomethazone ตอเนื่อง e) ใช steroid รวมกับ beclomethazone ตอเนื่อง 3. ทําไมแพทยจึงให beta agonist a) กระตุนการสราง adenylate cyclate เพิ่มการสราง cyclic AMP b) ยับยั้งการสราง adenylate cyclate ลดการสราง cyclic AMP c) กระตุนการสราง adenylate cyclate เพิ่มการสราง cyclic CMP d) ยับยั้งการสราง adenylate cyclate ลดการสราง cyclic CMP 4. ขอใด Beta agonist ออกฤทธิ์ยาว a) Salbutamol d) Proceterol b) Terbutaline e) Fenoterol c) Salmeterol 5 S/E ของ beta-agent a) มือสั่น d) b) ใจสั่น ปากแหง e) มือสั่น ปวดศีรษะ c) Hypertension 6. หายใจหอบลึก ฉี่บอย หิวน้ําบอย FBS340 HCO18 keto positive 7. ตรวจพบวาเปน microalbumin ควรใชยาใด 8. ผูปวยมาดวยอาการไอ มีเสมหะ ยาตัวใดออกฤทธิ์ละลายเสมหะ a) Quafersin qaicolate d) Brompheniramine b) Ammonium chloride e) Dextro c) N-acetylcysteine 9. รพ.ใหเราเตรียมยาละลายเสมหะเขมขน 0.5% w/v ขนาดยาที่เหมาะสมคือ 1mg/kg QID ผูปวยควรไดรับยาตอ ครั้งเปนเทาใด a) 1 ชอนชา d) 2 ชอนโตะ b) 2 ชอนชา e) 3 ชอนโตะ c) 1ชอนโตะ Case ที่ 3 : จากขอมูลใบสั่งยาดานลาง จงตอบคําถามตอไปนี้ โรงพยาบาลคณะเภสัชศาสตร คลินิกโรคตา หู คอ จมูก นายสมชาย สุขใจ อายุ 26 ป Rx 1.Theophylline SR (200 mg ) 1 tab bid 2. Turbutaline Turbuhaler 1 puff prn 3. Beclometasone inhaler 1 puff OD แพทยศักดิ์สิทธิ์ 2856
Pharmacy Student Rx’24
ใบสั่งยา HN1567/46
เลขที่ 125
# 30 #1 #1
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
345
MCQ
1. Therapeutic range ของยา theophyline ไดแก ก. 0-10 mcg /ml ง. 30-40 mcg/ml จ. 40-50 mcg/ml ข. 10-20 mcg/ml ค. 20-30 mcg/ml 2. toxicity ของยา Theophylline เมื่อระดับยาในเลือดสูงเกิน therapeutic range คือ ก. เกิดเชื้อราในชองปาก เสียงแหบ ใจสั่น ชัก ข. คลื่นไสอาเจียน ปวดศีรษะ ใจสั่น ชัก ค. ซึมเศรา เวียนศีรษะ กระวนกระวาย ชัก ง. Hyperglycemia มือสั่น กระวนกระวาย นอนไมหลับ จ. Hypokalemia hepatotoxicity ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ปสสาวะขัด 3. ยาที่มีผลทําใหระดับยา Theophylline ในเลือดสูงขึ้นเมื่อรับประทานรวมกัน ไดแก 1. Ciprofloxacin 2. Erythromycin 3. Cimetidine 4. Loratadine ก.1,2 ข. 2,3 ค.3,4 ง. 1,2,3 จ. ถูกทุกขอ 4. กลไกการออกฤทธิ์การตานปฏิกิริยาภูมิแพของยา Theophylline คือขอใด ก. ปดกั้นตัวรับ H1 และ H2 บน target cells ข. ปดกั้น calcium influx เขาสู mast cell ค. Prolong high CAMP level ใน mast cell โดยการยับยั้ง phhosphatediesterase ซึ่งเปลี่ยน CAMP เปน S-AMP ง. Stimulate CAMP production โดยการจับbeta- adrenergic receptor บน mast cell จ. ลด histamine level โดยการยับยั้งการเปลี่ยน histidine เปน histamine 5. ในการตั้งตํารับยา Theophylline syrup ทานจะมีวิธีเตรียมใหไดยาน้ําเชื่อมใสอยางไร 6. หากเปน ด.ช.สมชาย สุขใจ ซึ่งมีอายุ 6 ป การบริหาร Theophylline SR เปนอยางไร ก. นําเม็ดยามาบด แลวแบงเปนสัดสวนที่เหมาะสม แบงใสซองๆละ 1 dose ละลายน้ําดื่ม ข. ละลายเม็ดยาในน้ํา แบงดื่มตาม dose ที่เหมาะสม ค. หักเม็ดยาเปนสัดสวนที่เหมาะสม แลวกลืนพรอมน้ํา 7. อาการขางเคียงที่อาจเกิดจากการใชยา turbutaline ไดแก อาการขางเคียงที่อาจเกิดจากการใชยา beclomethazone ไดแก Case ที่ 4 : นาง ก อายุ 35 ปมาขอซื้อยา Beclotide Inhaler ( Beclomethason) และ Ventolin (Salbutamol) Evohaler จากรานขายยาที่ทานเปนเจาของกิจการ ซักประวัติเพิ่มเติมทราบวาผูปวยรายนี้เปนโรคหืดมานานประมาณ 15 ปแลว 1. ปจจัยที่กระตุนที่ทําใหเกิดการจับหืด ไดแก ก. ความเย็น ง. กรรมพันธุ ข. ควันบุหรี่ จ. ถูกทุกขอ ค. การออกกําลังกาย 2. ลักษณะอาการของผูที่เปนโรคหอบหืดคือ ก. หายใจมีเสียงหวีด, หายใจขัด, ไอ ง. ไอแหงๆ, เจ็บหนาอก, หายใจขัด ข. แนนจมูก, ไอมีเสมหะ, มีมูกใส จ. ไอแหงๆ,หายใจไมออก, มีน้ํามูกขน ค. หายใจถี่, ไอมีเสียงกอง, หายใจขัด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
346
MCQ
3. พยาธิสภาพของหลอดลมในผูปวยที่เปนโรคหอบหืด ไดแก ก. มีอาการอักเสบเรื้อรังของถุงลมในปอด ทําใหถุงลมไวตอสิ่งกระตุนมากกวาปกติ ซึ่งเปนแบบ reversible ข. มีอาการอักเสบเรื้อรังของถุงลมในปอด ทําใหถุงลมไวตอสิ่งกระตุนมากกวาปกติ ซึ่งเปนแบบ irreversible ค. มีอาการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทําใหถุงลมไวตอสิ่งกระตุนมากกวาปกติ ซึ่งเปนแบบ reversible ง. มีอาการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม ทําใหถุงลมไวตอสิ่งกระตุนมากกวาปกติ ซึ่งเปนแบบ irreversible จ. มีอาการอักเสบแบบเฉียบพลันของหลอดลม ทําใหถุงลมไวตอสิ่งกระตุนมากกวาปกติ ซึ่งเปนแบบ irreversible 4. ขอใดเปนกลไกที่ถูกตองของการเกิดโรคหอบหืด ก. Allergen กระตุนการสราง IgE ทําใหเกิด early phaser allergic reaction ข. Allergen กระตุนการสราง IgE ทําใหเกิด late phaser allergic reaction ค. Allergen จับกับ IgE บน mast cell ทําใหเกิดการหลั่ง mediator นําไปสู early phaser allergic reaction ง. Allergen จับกับ IgE บน mast cell ทําใหเกิดการหลั่ง mediator นําไปสู late phaser allergic reaction จ. Allergen form complex กับ IgE ฝงตัวบนเนื้อเยื่อของหลอดลมและกระตุนใหเกิดการอักเสบ 5. จากการซักประวัติเพิ่มเติมพบวานาง ก มีการจับหืดทุกวันโดยจะเปนในชวงเชาหลังตื่นนอน เมื่อ 2 วันที่ผานมาได พบแพทยจากการตรวจพบวาคา PEF = 75 % ของคาทํานาย ทานคิดวาผูปวยรายนี้มีความรุนแรงของโรคอยูใน ระดับใดตาม GINA Guideline ก. ระดับ 1 intermittent ง. ระดับ 4 severe persistent ข. ระดับ 2 mild persistent จ. ไมสามารถบอกระดับความรุนแรงของ ค. ระดับ 3 Moderate Persistent โรคได 6. ทานจะแนะนําการใชยาพน Becotide Inhaler ใหแกนาง ก อยางไร ก. หลังพนยาควรบวนปากทุกครั้ง ง. ยาออกฤทธิ์โดยการขยายหลอดลม ข. ไมควรใชยารวมกับ spacer จ. ถูกทุกขอ ค. ใชเฉพาะเวลาที่มีการจับหืด 7. อาการขางเคียงที่เกิดขึ้นจากการใชยาพน Becotide ไดแก ก. เชื้อราในชองปาก เสียงแหบ ง. มีสั่น นอนไมหลับ ข. คลื่นไส อาเจียน จ. ถูกทุกขอ ค. เวียนศรีษะ ใจสั่น 8. ยากลุมใดตอไปนี้ใชปนยาสําหรับควบคุมอาการหอบหืด ค. Nedocromyl, Glucocorticiod, ก. Glucocorticoid, Ketofen, ShortLeukotriene antagonist acting beta-2 agonist ง. Short-acting beta-2 agonist ข. Leukotriene antagonist, จ. ถูกทุกขอ Cromolyyn, Anticolinergic 9. หนึ่งเดือนตอมา นาง ก ผูปวยคนเดิมไดมาที่รานขายยาของทาน เพื่อขอซื้อยาเม็ดPrednisolone(5mg) จากการ ซักประวัติเพิ่มเติมทราบวา นาง ก มีการจับหืดบอยกวาเดิม บางวันจับหืดตลอดเวลาจนไมสามารถทํางานไดจึง ไดไปพบแพทย แพทยจึงจายยา Prednisolone(5mg) มาใหรับประทานโดยใหรับประทานครั้งละ 1เม็ดวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร แตยาหมดแลวจึงมาขอซื้อยาเพิ่ม ในฐานะเภสัชกรทานจะจายและใหคําแนะนําในการใชยาแก ผูปวยรายนี้อยางไร ก. จายยาพรอมใหคําแนะนํา ใหรับประทานยานี้หลังอาหารทันที ข. จายยาให พรอมใหคําแนะนําใหกลับไปพบแพทย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
10.
11.
12.
13.
14.
15.
347
MCQ
ค. ไมจายยาแตแนะนําใหผูปวยเพิ่มขนาดยาพน glucocortoicoid ง. ไมจายยา แตแนะนํา ใหแนะนําใหผูปวยกลับไปพบแพทย จ. ไมจายยาให แตแนะนําใหผูปวยเพิ่มขนาดยาพนขยายหลอดลมที่ใชอยู ในกรณีทารก ทานคิดวาจะสามารถลดอาการขางเคียงจากการใชยา Prednisolone(5mg) ไดอยางไร ง. เปลี่ยนเปนยารับประทานวันละครึ่ง ก. รับประทานแบบวันเวนวัน ข. รับประทานเวลาเดียวกันทุกมื้อ เม็ด ค. รับประทานเมื่อมีอาการรุนแรง จ. รับประทานกอนนอน ตามกฎหมายยา Prednisolone tablet จัดเปนยาประเภทใดและเภสัชกรจายไดหรือไม ก. เปนยาอันตรายเภสัชกรสามารถจายยาไดโดยไมตองมีใบสั่งแพทย ข. เปนยาอันตรายเภสัชกรจายยาเมื่อมีใบสั่งแพทยเทานั้น ค. เปนยาควบคุมพิเศษ เภสัชกรสามารถจายยาไดโดยไมตองมีใบสั่งแพทย ง. เปนยาควบคุมพิเศษ เภสัชกรจายยาไดเมื่อมีใบสั่งแพทยเทานั้น จ. เปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาท เภสัชกรจายยาไดเมื่อมีใบสั่งแพทยเทานั้น ขอแตกตางของยาพน Meter- dose inhaler (MDI) กับ turbuhaler คือ ก. MDI บรรจุยาที่เปน powder ใชวิธีกดแลวหายใจเขาชาๆ turbuhaler บรรจุตัวยาที่เปน solution ใชวิธี สูดแรงๆ ข. MDI บรรจุยาที่เปน powder ใชวิธีสูดแรงๆ turbuhaler บรรจุตัวยาที่เปน solution ใชวิธีกดแลว หายใจเขาชาๆ ค. MDI บรรจุยาที่เปน solution ใชวิธีสูดแรงๆ turbuhaler บรรจุตัวยาที่เปน powder ใชวิธีกดแลว หายใจเขาชาๆ ง. MDI บรรจุยาที่เปน solution ใชวิธีกดแลวหายใจเขาชาๆ turbuhaler บรรจุตัวยาที่เปน powder ใชวิธี สูดแรงๆ จ. ไมมีขอแตกตางระหวาง Meter- dose inhaler (MDI) และ turbuhaler ขอดีของการใช spacer คือ ก. ชวยใหละอองยามีขนาดใหญขึ้น และความเร็วมากขึ้น ข. ชวยใหยาไมตกคางที่ปากและคอ ค. ชวยลดขนาดการใชยา ง. ชวยลดขั้นตอนในการพนยาทําใหสามารถพนยาไดงายขึ้น จ. ถูกทุกขอ เปาหมายในการรักษาผูปวยโรคหอบหืด ไดแก ก. ผูปวยสามารถควบคุมอาการของโรคได ไมเกิดการกําเริบของโรค ข. ผูปวยสามารถดํารงชีวิตไดตามปกติ ค. สามารถยกระดับสมรรถภาพการทํางานของปอดใหเพิ่มมากขึ้น ง. หลีกเลี่ยงอาการแทรกซอนจากการใชยาใหเกิดนอยที่สุด จ. ถูกทุกขอ 2 เดือนตอมา นาง ก ผูปวยคนเดิม พาลูกชายอายุ 7 ป มาที่รานยาของทานเพื่อมาซื้อ ยาพน inflammide (Budesonide )ทานคิดวาขนาดยาที่เหมาะสําหรับผูปวยรายนี้คือเทาไหร ถาผูปวยมีควมรุนแรงของโรคจัดอยูใน ระดับ Moderate persistent ข. 100-400 mcg/day ค. 400-600 mcg/day
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
348
MCQ
ง. 600-800 mcg/day ฉ. 1000-1200 mcg/day จ. 800-1000 mcg/day 16. ใหบอกวิธีการใชยาพน MDI, Turbuhaler , accuharler ที่ถูกตอง 17. Asthma กับ COPD( or COLD ) ตางกันอยางไร ก. COPD ใช supportive treatment ไมใชยา ข. สาเหตุสําคัญของการเกิด Asthma คือการสูบบุหรี่ ค. ยาหลักที่ใชใน COPD คือยาพน corticosteroid Case ที่ 5: ผูปว ยหญิงไทย อายุ 50 ป มีประวัติการเปนหอบหืด เขามารับการรักษาที่โรงพยาบาลดวย acute asthma attack หลังจากพนยาแลว แพทยไดใหยาไปใชตอที่บานดังนี้ Beclomethasone inhaler (250 mcg) 1X2 #1 Salbutamoi inhaler 2X prm #1 Theophylline 200 mg SR 1X1 pc #30 1.ขอใดตอไปนี้ไมใชอาการของ acute asthma attack ก. ไอ (coughing) ง. หายใจมีเสียงวี๊ด (wheezing) ข. หอบ จ. จุกแนนหนาอก ค. หัวใจเตนชา (bradycardia) 2.ยาใดตอไปนี้เปน Drug of choice ที่ใชบรรเทาอาการ acute asthma attack ง. Bromnexine ก. Beclomethasone ข. Salbutamol จ. Theophylline ค. Theophylline SR 3.หากมีอาการตอไปนี้ ระหวางที่ไดรับยา theophylline ควรสงผูปวยเพื่อตรวจระดับยาในเลือด ยกเวน ง. เปนไข ก. ปวดศีรษะ ข. หัวใจเตนเร็ว จ. คลื่นไส อาเจียน ค. หอบหืด 4.หากทานเปนเภสัชกรฝายวิเคราะห และไดรับผิดชอบวิเคราะหหาปริมาณตัวยาสําคัญใน theophylline tablet ทานจะเลือก วิธีเคราะหที่เหมาะสมในขอใด ก. TLC ง. AAS จ. IR ข. HPLC ค. Titraction 5.ในการควบคุมคุณภาพการผลิตยา Theophylline tablet กรณีที่ผลการตรวจวิเคราะหปริมาณตัวยาสําคัญ Theophylline ไดคาต่ํากวาที่ขึ้นทะเบียนไว แคต่ํากวาไมเกินรอยละยี่สิบ กรณีนี้จะพิจารณาวาเปนยาตามขอใด ก. ยาผิดมาตรฐาน ง. ยาปลอม ข. ยาเสื่อมคุณภาพ จ. ยาเถื่อน ค. ยาคุณภาพต่ํา 6.ปญหาในผูปวยโรคหือขอใดที่สามารถปองกันไดดวยการใหคําแนะนําเทคนิคการใชยาที่ถูกตอง ก. ผูปวยเกิดอาการใจสั่นหลังจากเริ่มใช และมีอาการนานประมาณ 1 สัปดาหจึงหายไป ข. ผูปวยเกิดลิ้นเปนฝาขาว เสียงแหบ หลังจากใชยาเปนเวลา 3 เดือน ค. ผูปวยเขาโพงพยาบาลแผนกฉุกเฉิน เนื่องจากการหอบ 2-3 ครั้งในชวง 1 เดือนที่ผานมา ง. เภสัชกรพบวาผูปวยใช Inhale bronchodilator หมดกอนเวลานัดพบแพทยเพื่อรับยาตอเนื่อง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
349
MCQ
จ.
เภสัชกรพบวาผูปวยเหลือยา Inhale corticosteroid จํานวนมากกวาที่ควรเปนเมื่อมาพบแพทย ตามเวลาที่นัด 7.การใชยาแบบ Combination therapy ในผูปวยรายนี้มีขอดีหลายประการยกเวน ก. ชวยเพิ่มความรวมมือในการใชยาของผูปวย ข. ทําใหไดประสิทธิภาพในการควบคุมอาการหืดไดดีกวาการใชยาเดี่ยว ค. ใชระยะเวลาสั้นกวาในการควบคุมอาการหืด หรือจนสามารถควบคุมหืดได ง. ทําใหสามารถลดขนาดการใชยาของ inhale corticosteroid ลง จ. ไมมีขอใดถูก 8.ยาในขอใดที่ผูปวยสามารถซื้อตามรานขายยาแผนปจจุบันไดเมื่อมีใบสั่งแพทยเทานั้น ก. Terbutaline tubuhaler, beclometnasone inhaler ข. Budesonide inhaler, Salbutamol injection ค. Theophylline injection, Salmeterol inhaler ง. Budesonide tubuhaler, Theophylline injection จ. Budesonide inhaler, beclomethasone inhaler 9.ขอใดที่ไมใชคําแนะนําที่ถูกตอง เกี่ยวกับสมุนไพรที่จะใชในผูปวยรายนี้ ก. สมุนไพรที่จะสงผลดีตอผูปวยหอบหืดไดแก ชา เนื่องจากมีสารในกลุม xanthine alkaloids ที่มี ผลในการขยายหลอดลม ข. สมุนไพรอีกชนิดหนึ่งคือ ปป ที่แตโบราณมาไดใชบําบัดอาการจับหืด และปจจุบันพบวามีสารที่ ออกฤทธิ์คลาย xanthine alkaloids แตมีประสิทธิภาพในการขยายหลอดลมสูงกวา ค. สมุนไพรที่ใชกันตามครัวเรือนอีกชนิดที่หางายคือ ขิง ที่จะสงผลดีตรงที่ลดการหลั่ง histamine และยังมีฤทธิ์ตานอักเสบ ซึ่งมีการใชในผูปวยหอบหืดมานาน โดยเฉพาะในคํารายาจีน ง. อาหารเสริมกลุมอัลฟาฟา (alfafa) และผลหวาย (sage) ที่ไปชวยใหระบบภูมิคุมกันดีขึ้นอัน นาจะสงผลดีตอผูปวย จ. น้ําดื่มสมันไพรที่จะสงผลดีในการขยายหลอดลมอีกชนิดหนึ่งคือน้ําโกโก (cocoa) ซึ่งมีสาร theobromine อยู 10.ขอใดผิดเกี่ยวกับการตั้งตํารับยาที่ใหทาง respiratory ก. อนุภาคผงยาที่เล็กกวา 0.5 mcg จะถูกขับออกทางการหายใจ ทําใหไมเกิดฤทธิ์ในการรักษา ข. อนุภาคผงยาที่ใหญกวา 10 mcg เกาะติดกับ upper respiratory tract ค. อนุภาคขนด 1-5 mcg เทานั้นที่จะสามารถเกาะติดที่บริเวณ lower respiratory tract ง. การดูดซึมยาที่ไมชอบน้ํา (hydrophobic drug) ขึ้นกับ o/w partition coefficients จ. ยาที่ชอบน้ํา (hydrophilic drug) จะดูดซึมไดดีกวายาที่ไมชอบน้ํา (hydrophobic drug) Case6 : COPD+Pneumonia 60 ป หญิง สูบบุหรี่ 1. หากยา Cefazolin inj เปนยาในบัญชียาหลักแหงชาติที่องคการเภสัชผลิตและจําหนาย หากทานเปนเภสัชรพ. สังกัดกระทรวงสาธาฯ ทานจะดําเนินการจัดซื้ออยางไร a) จัดซื้อดวยวิธีตกลงราคาหากวงเงินไมเกิน 1 แสนบาท b) จัดซื้อดวยวิธีพิเศษไมจํากัดวงเงิน c) จัดซื้อดวยวิธีประกวดราคาหากวงเงินเกิน 1 แสนบาท d) จัดซื้อดวยวิธีสอบราคาหากวงเงินไมเกิน 1 แสนบาท
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
350
MCQ
2. หากแพทยในรพ.ตองการออกแบบการวิจัยเพื่อเปรียบเทียบผลากรรักษาพยาบาลโรค pneumonia ดวยยาใหมที่ บริษัทยาใหการสนับสนุน เทียบกับยามาตรฐานที่มี และขอคําแนะนําจากทานวารูปแบบการวิจัยที่เหมาะสมควร เปนเชนไร ทานจะแนะนํารูปแบบการวิจัยแบบใด a) randomized double blind controlled trial d) meta-analysis b) case-control e) quasi-experimental c) cohort 3. สมุนไพรที่มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ a) บอระเพ็ด d) เพกา b) มะระขี้นก e) ฟาทะลายโจร c) ทับทิม 4. สมุนไพรบรรเทาการไอ a) มะนาว d) มะเฟอง b) มะละกอ e) กระเจี๊ยบแดง c) ฝรั่ง 5. ขอใดกลาวผิดเกี่ยวกับยารูปแบบเม็ด a) การเตรียมยา solution ทําไดโดยการใชตัวทําละลายรวมที่เปน organic solvent เพื่อชวยละลาย b) ยารูปแบบ solution มักมีคาความตานทานการไหลและแรงดึงดูดภายในสารละลายใกลเคียงกับน้ํา c) Suspension ใชเปนยาแดเขาหลอดเลือดได ถาขนาดอนุภาคเล็กมากๆ d) Emulsion ใชเปนอาหารทางหลอดเลือดดําไดแตควรเปนการเตรียมใหมๆ e) การลดความเจ็บปวดเมื่อฉีดทําไดโดยเติมสารบางชนิดเชน buffer 6. ขอใดถูกตองสุดเกี่ยวกับ tonicity ของยาฉีด a) จัดเปน colligative property b) สามารถปรับไดโดยเติมสารบางชนิดเชน phosphate acetate ซึ่งนิยมมาก c) การฉีด hypertonic solution กอใหเกิด cell lysis ได d) การฉีดยา isotonic ตอระบบเลือด มักเปน isotonic ตอเนื้อเยื่ออื่นดวย e) Normal saline เปนทั้ง isotonic และ iso-osmotic 7. ยาใดตอไปนี้มีขอบเขตฆาเชื้อใกลเคียง Ampicillin มากที่สุด a) Penicillin G d) Carbenicillin b) Cloxacillin e) Methicillin c) Amoxicillin 8. กลไกการออกฤทธิ์ ampicillin คือขอใด a)ยับยั้งการสราง cell wall ของแบคทีเรีย d)ยับยั้ง DNA transcriptionของแบคทีเรีย e)ยับยั้ง DNA replicationของแบคทีเรีย b)ยับยั้ง enz. β-lactamaseของแบคทีเรีย c)ยับยั้ง RNA translationของแบคทีเรีย 9. ขอใดตอไปนี้เกี่ยวกับ cefazolin ผิด d)ผูปวยที่แพ Penicillin สามารถใช Cefazolin ได a) ถูกทําใหหมดฤทธิ์โดน enz. β-lactamase e)จัดอยูในกลุม first generation cephalosporin b)มีขอบเขตการฆาเชื้อใกลเคียงกับ Penicillin c) มีรูปแบบที่ใชเปนยาฉีด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
351
MCQ
MCQ เรื่อง CVS 1. ยาในขอใดสามารถทําใหเกิดอาการ Angina pectoris ได ก. Diltiazem ข. ISDN ค. Pseudoephredine ง. Propanolol จ. Verapamil 2.ผูปวยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงควรหลีกเลี่ยงการใชยา HCTZ ยกเวนมีภาวะแทรกซอนในขอใด ก. เบาหวาน ข.โรคเกาท ค. โรคหืด ง. ภาวะไตวาย จ. แพยา sulfonamide 3.ขอใดไมใชปจจัยเสี่ยงตอการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary heart disease) ก. DM ข. สูบบุหรี่ ค. กินเค็ม ง. คนแก จ. HDL< 35 mg/dl 4.แพทยตองการใชยาลดความดันสําหรับชายอายุ 50 ปที่มีโรคหืด เภสัชควรแนะนําใหหลีกเลี่ยงยาใด ก. ACEI ข. ß Block ค. Calcium channel block ง. Diuretic จ. Vasoconstrictor 5.ยาตัวใดที่ทําใหเกิด syncope เมื่อใชยาใน dose แรกๆควรแนะนําแพทยใหเริ่มขนาดต่ําๆกอนและแนะนําใหทานกอน นอน ก. Atenolol ข. Clonidine ค. Hydralazine ง. Prazozin จ. Verapamil 6.ผูปวยชายอายุ 75 ป เปนโรคความคันโลหิตสูงและมีภาวะ Benign prostate hypertrophy รวมดวย ไมมีการแพยาใดๆ ยากลุมใดเหมาะสมที่สุด ก. α blocker ข. ß blocker ค. Calcium channel block ง. Diuretic จ. ARB 7.ขอใดมีหลักฐานยืนยันวาสามารถ recurrent ของ MI ได ก. ลดการสูบบุหรี่ ข. ลด HDL ค. ควบคุมความดันโลหิต ง. ลดน้ําหนัก จ. กินยา anticoagulant 8.ผูปวยเปนฝรั่งทานยาลดความดันของเมืองนอก ขนาด 25 mg วันละครั้ง สามารถนํายาเขามาที่ไทยไดกี่เม็ด ก. 20 ข. 30 ค. 40 ง. 50 จ. 60 9.ผูปวยที่ไดรับ MAOI เมื่อรับประทานปลาราหรือเนยแข็ง อาจเกิด acute hypertension เนื่องจากอาหารนี้มีสารประเภทใด ก. Tyramine ข. Glutamine ค. Phennelzine ง. Tyrosine จ. Phenylamine 10.Clofibrate มีฤทธิ์อยางไร ก. ตับโต ตับแข็ง ตับอักเสบ ข. ลด LDL ไดดีกวา VLDL เพิ่ม HDL ค. มีฤทธิ์แรงกวา Gemfibrozil ง. เพิ่ม incidence tumor ในคนและสัตว 11.ขอใดตอไปนี้เปนอาการขางเคียงที่เกิดขึ้นไดบอยจากการใชยาในกลุม antihyperlipidemia ก. ความดันโลหิตสูง ข. รบกวนการทํางานของระบบทางเดินอาหาร ค. ความผิดปกติของระบบประสาท ง. ใจสั่น จ. ปวดศีรษะขางเดียว 12.ยาในขอใดตอไปนี้ใหผลดีที่สุดในการลด variant angina ก. Propanolol ข. Nitroglycerine ค. sodium nitropusside ง. Nifedipine จ. isosorbide dinitrate 13.ยาในขอใดตอไปนี้สามารถการเกิด palpitation ได ยกเวน ก. กินยาแกปวดที่มี phenylpropanolamine ข. ภาวะ thyroid toxicosis ค. ดื่ม alcohol ง. กินยา aspirin จ. ภาวะครรภเปนพิษ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
352
Case: หญิงคูอายุ 32 ป ตั้งทองคนที่สามเมื่ออายุได 8 เดือนเศษ พบที่คลินิกวาความดัน 180/100 mmHg แตยังไมไดรับยา ลดความดัน แพทยไดสงคนไขไปโรงพยาบาลวัดความดันได 195/137 mmHg พบวาผูปวยไมไดยาลดความดันแตไดยาเรง คลอด โดยผูปวยมีอาการปวดหัวตาพรา แนนหนาอกและเสนเลือดในสมองแตก จนเสียชีวิต สวนลูกผาตัดรอกชีวิตได ถาผูปวยทองได 7 เดือน ตรวจพบโปรตีนในปสสาวะ 2+ มีอาการบวมและความดันโลหิตสูง ไดรับการวินิจฉัยวาเปน preclaemsia 1.ผูปวยควรไดรับการรักษาอยาไร ก. ให bed rest และสังเกตอาการ ข. ให nitroglycerine ค. ควรไดรับ ACEI ง. ให diuretic และจํากัดสารน้ําและเกลือ จ. ใหทําแทงเพื่อปองกันการเกิด severe stroke, liver damage, convulsion 2.ใน second และ third trimester ไมแนะนนําใหใชยาลดความดันโลหิต ยกเวนในกรณีที่ DBP>90 ซึ่งกรณีนี้อาจ จําเปนตองใชยาลดความดัน จะเลือกยาตัวใดที่ใชไดอยางปลอดภัย ก. Enalapril ข. Nifedipine ค. Atenolol ง. HCTZ จ. Methyldopa 3.ยาตัวใดที่มีขอหามใชเนื่องจากมีผลทําใหเกิด animal teratogenicity และ acute renal failure ก. ACEI ข. ß Blocker ค. Diuretic ง. Calcium channel blocker จ. Alpha blocker 4.ถาพบวาผูปวยมี Cholesterol 200 mg/dl ควรไดรับการรักษาหรือไม ถาควรจะเลือกใชยาตัวใด ก. ไมจําเปนตองใหยา ใหควบคุมอาหาร ข. ไมจําเปนตองใหยา ไมตองควบคุมอาหาร เพราะเปนภาวะปกติ ค. จําเปนตองใหยา โดยเลือกใช simvastatin ง. จําเปนตองใหยา โดยเลือกใช gemfibrozil จ. จําเปนตองใหยา โดยเลือกใช niacin 5.ถาทานตองการเลือกใชยา simvastatin (20) 1x1 ทานจะแนะนําใหรับประทานยาอยางไร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ ออกฤทธิ์ของยา ก. หลังอาหารเชา ข. หลังอาหารเที่ยง ค. หลังอาหารเย็น ง. กอนนอน จ. เมื่อไหรก็ไดที่สะดวก 6.ยาตัวใดมีคุณสมบัติเปน prodrug ก. Cyclophosphamide ข. Prednisolone ค. Enalapril ง. Niacin จ. Fluconazole 7. จากสูตรโครงสรางมีหมู carboxyl group กี่หมู ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 จ. 5
8. ในการวิเคราะหหาหมู carbonyl gr. ในสูตรโครงสรางของ simvastatin เทคนิดใดตอไปนี้บอกวามีหมูดังกลาวอยูใน โครงสรางไดดีที่สุด ก. IR ข.NMR ค.HPLC ง. Mass spectro. จ. UV 9.สมุนไพรในขอใด มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตและมีหลักฐานทางวิชาการมากพอ ก. ปลาไหลเผือก ข. ระยอมนอย ค. ยานาง ง. ชุมเห็ดเทศ จ. โสม 10.หากตองการวิเคราะหดวยเครื่องมือ Atomic absorption spectrophotometer ก. Prednisolone ข. Bactrim ค. CaCO3 ง. Fluconazole จ. Enalapril
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
353
MCQ
Case: ผูปวยชายอายุ 74 ป มาโรงพยาบาลดวยอาการเจ็บหนาอกมา 13 ชั่วโมง ผูปวยมีประวัติเปนโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน Type 2 มาประมาณ 10 ป เปนไขมันในเลือดสูงมา 5 ป ควบคุมความดันโลหิตและระดับน้ําตาลในเลือด ไดบางไมไดบาง ลาสุด BP 150/100 mmHg FBS 150 mg/dl HbA1c 9% ไมเคยมีอาการแนนหนาอกมากอน ตรวจสุขภาพ ประจําปมานาน 5 ป 13 ชั่วโมงกอนมาโรงพยาบาลมีอาการแนนหนาอกซายนาน 30 นาที มีเหงื่อออกมากญาติจึงนําตัวสงโรงพยาบาล จังหวัด ไดยาอมใตลิ้น และเคี้ยวยาเม็ดกลมสีชมพูบานเย็น ไดรับการวินิจฉัยวาเปน Acute MI with CHF จึงสงตัวมารักษา ตอที่รพ.มหาวิทยาลัย ยาเดิมที่เคยไดรับเปนยารักษาความดันโลหิตสูงและยารักษาเบาหวาน ผูปวยดื่มสุราปละ 2-3 ครั้ง ตามเทศกาล ครั้งละ ½-1 ขวดเบียร สูบบุหรี่มา 20 ป เลิกสูบแลว 5 ป ชอบซื้อยาระบายรับประทานเองเปนประจํา 1.ขอใดไมใชปจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกลามเนื้อหัวใจขาดเลือดของผูปวยรายนี้ ก. ความดันโลหิตสูง ข. ไขมันในเลือดสูง ค. โรคเบาหวาน ง. การสูบบุหรี่ จ. โรคไตจากภาวะเบาหวานและความดันที่เปนอยู 2.เมื่อผูปวยมาถึงโรงพยาบาล แพทยไดใหผูปวยเคี้ยวยาชนิดหนึ่งเพื่อชวยเรงกลามเนื้อหัวใจขาดเลือด ทาคิดวานาจะเปน ยาใด ก. Aspent gr.V ข. Orfarin (warfarin) ค. Ticlid (ticlopidine) ง. Persantin (dipyridamole) จ. Plavix (clopidogrel) 3.ยาที่แพทยใหเคี้ยวจากขอ 2 ทานคิดวามีรูปแบบอยางไร ก. Plain tablet ข. Film coat tablet ค. Enteric coat tablet ง. Sugar coat tablet จ. Sustain release tablet 4.เนื่องจากผูปวยมีไขมันในเลือดสูงเพื่อปองกันการเกิด Acute MI ทานจะเลือกใชยาขอใด ก. Cholestyramine ข. Gemfibrozil ค. Nicotinic acid ง. Simvastatin จ. ถูกทุกขอ 5.ยาลดความดันที่ผูปวยรายนี้ควรไดรับเพื่อปองกันความเสื่อมของไตและดีตอภาวะหัวใจลมเหลวคือยาใด ก. Atenolol ข. Enalapril ค. Furosemide ง. HCTZ จ. Spironolactone Case: ชายไทยคูอายุ 61 ป สูง 170 cm หนัก 70 kg มาพบแพทยที่โรงพยาบาลตรวจพบวามีความดันเลือดสูง 165/102 mmHg ผูปวยสูบบุหรี่วันละ 10 มวน ดื่มสุราเล็กนอยเปนครั้งคราว ผลการตรวจรางกายพบหัวใจหองลางซายโตเล็กนอย ผลตรวจทางหองปฏิบัติการปกติ ผูปวยไมมีประวัติโรคหืดและเบาหวาน แตเคยไดรับการรักษาอาการซึมเศราและนอนหลับ ยากเมื่อปที่แลว แพทยสั่งจายยา HCTZ 25 mg OD และ Enalapril 10 mg OD 1.คาความดันโลหิตของผูปวยจัดอยูในระดับใดตาม JNC 7 ก. Normal ข. Prehypertension ค. Hypertension stage 1ง. Hypertension state 2 จ. Hypertension stage 3 2.ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของ Enalapril คือ ก. เพิ่มการขับน้ํา เกลือโซเดียมและโปแตสเซี่ยม ข. ลดการกระตุนระบประสาทซิมพาเทติก ค. ยับยั้งการทํางานของ Angiotensin converting enzyme ง. ลดการสรางเรนิน จ. ลดการหลั่ง antidiuretic hormone 3.การใชยา HCTZ และ Enalapril รวมกันในผูปวยรายนี้อาจกอใหเกิดปญหาที่สําคัญ คือ ก. ทําใหระดับโซเดียมในเลือดสูงขึ้น ข. ทําใหการไอจากการใช Enalapril รุนแรงมากขึ้น ค. ความดันเลือดลดลงต่ําเกิน และเปนลมหนามืดในการใหยาครั้งแรก ง. ไตทํางานลมเหลว จ. ทําใหระดับโปแตสเซียมในเลือดต่ํา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
354
4.ผูปวยรายนี้ควรจะไดรับคําแนะนําเพิ่มเติมจากการใชยาอยางไร ก. แนะนําใหผูปว ยรับประทานผลิตภัณฑเสริมอาหารเพิ่มเติม ข. ใหคําแนะนําผูปวยเรื่องการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจําวันใหเหมาะกับโรค ค. นัดผูปวยมาเจาะเลือดซ้ําภายหลังจาก 1 สัปดาหเพื่อตรวจยืนยัน ง. แนะนําใหผูปวยรับประทานยาสมุนไพรของหมอพื้นบานที่คนทั่วไปนิยม จ. ถาผูปวยลืมทานยาแนะนําใหเพิ่มขนาดเปนสองเทาในครั้งถัดไป 5.การวิจัยเชิงทดลองเปรียบเทียบอุบัติการณอาการอันไมพึงประสงคจากการใชยา Lisinopril จํานวน 3 กลุมใหผลดังตาราง ควรใชสถิติใดสําหรับการวิเคราะหดังกลาว Percent of patient in controlled study Enalapril (n= 1349) Enalapril/HCTZ (n=629) Placebo (n= 207) incidence incidence incidence Dizziness Cough
5.4 3.5
9.2 4.6
1.9 1.0
ก. Unpaired t test ข. Paired t test ค. Chi-square test ง. Analysis of variance จ. Correlation 6.ผูปวยบนวาหลงทานยามีปสสาวะบอยจนรูสึกรําคาญ แพทยผูทําการรักษาอยูจึงปรึกษาทาน ทานจะใหคําแนะนํากับ แพทยวาอยางไร ก. ใหผูปวยทานยาอยางเดิมเนื่องจากเปนผลจากยา HCTZ ข. ปรับลดขนาดยา HCTZ ในชวงแรกของการรักษาแลวคอยๆเพิ่มขนาดขึ้น ค. เปลี่ยนเปนยาขับปสสาวะที่มีฤทธิ์ออนในกลุม K+ sparing diuretic ง. ลดขนาดของยา Enalapril จ. หยุดยา HCTZ แลวเปลี่ยนไปใชยาลดความดันกลุมอื่น 7.สามเดือนตอมาผูปวยกลับมาพบแพทย เนื่องจากมีอาการบวมตามบริเวณใบหนา ริมฝปาก ซึ่งแพทยวินิจฉัยวาเปน angioedema แพทยจึงเปลี่ยนไปใชยาตัวใหม จากประวัติผูปวยยาใดไมควรเลือกใช ก. Losartan ข. Metroprolol ค. Nifedipine ง. Prasozin จ. Verapamil 8.ในการศึกษากอนการตั้งตํารับยาเม็ด Enalapril ขอมูลใดไมจําเปนสําหรับการตั้งตํารับยาชนิดนี้ ก. Compressibility ข. Density ค. Solubility ง. Stability จ. Viscosity 9.หากเภสัชตองการเตรียมตํารับยาเม็ด Enalapril โดยวิธีตอดโดยตรง ขอใดเปนขอดีของวิธีการดังกลาว ก. ประหยัดเครื่องมือ โดยมีการลงทุนเกี่ยวกับเครื่องจักรต่ํา ข. มีสารแตงสีใหเลือกหลายชนิด ค. เหมาะกับยาที่ไมคงตัวตอความรอนและปริมาณตัวยาสําคัญต่ํา ง. เหมาะกับยาที่สลายตัวดวยปฏิกิริยา hydrolysis จ. การละลายของยาเม็ดงายกวาเพราะตัวยาไมเคยเปยกชื้นมากอน 10.จากโครงสรางทางเคมีของ Chlorothiazide ดังรูปเมื่อทําการวิเคราะห พบวายานี้มีคุณสมบัติเปนกรดออนและมี pKa สองคา คือ 6.7 และ 9.5 ในกรณีที่ปสสาวะ มีคา pH 8 ถามวายาจะถูกขับออกในรูปใด?
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
355
11.ขอใดเปน Beta – Blocker ในกลุม cardioselective ก. Timolol ข. Metoprolol ค. Pindolol ง. Nadolol จ. Labetalol 12.ผูปวยเพิ่งเริ่มมีอาการแสดงทางคลินิกของ MI จะพบผลตรวจของเอนไซมใด ก. Acidic phosphate ข.alkaline phosphatase ค. Amylase ง. Creatine kinase 13.ยา calcium blocker ที่ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดที่สมองไดดีที่สุด ก. Flunarizine ข. Ditiazem ค. Verapamil 14.ถาแพทยตองการเปลี่ยนยา nifedipine เปน verapamil อยากทราบวา verapamil เปนยากลุม ก. ACEI ข. Ca++ blocker ค. Diuretic ง. Beta-blocker จ. Alfa- blocker 15.Side effect ที่สําคัญของ verapamil คือ ก. Constipation ข. Tachycardia ค.N/V ง. Hyperkalemia จ. Hypocalemia 16.ขอใดเปนของ simvastatin ก. ลด TG, LDL เพิ่ม HDL ข. เพิ่ม TG,LDLและHDL ค. ลด TGเพิ่ม LDL,HDL 17.ผูปวยชายอายุ 55 ป แพทยวินิจฉัยวาเปน angina pectoris ระยะเริ่มตน ยาใดใดที่เหมาะสําหรับสําหรับผูรายนี้ ก. Ditiazem – propanolol ข. Isosorbide dinitrat – propanolol ค. Nifedipine - Isosorbide dinitrat ง. Propanolol – Nifedipine จ. Verapamil – Nifedipine 18.คําแนะนําสําหรับผูปวยในการลดไขมันในเลือดยกเวน ก. กิน cholesterol 200mg/วัน ข. ออกกําลังกาย ค. ลดน้ําหนัก ง. ลดการกินไขมันไมอิ่มตัว เพิ่มการกินไขมันอิ่มตัว จ. เปลี่ยนแหลงโปรตีน Cr โปรตีนจากปลา เตาหู 19.2 ปตอมา ผูปวยเกิด aterial filbilation ตองไดรับ wafarin คําแนะนําขอใดควรยกเวน ก. กินผักสีเขียว ข. ไมกิน NSAID พร่ําเพรื่อ ค. สังเกตจุดเลือดออกตามตัว ง. ตองแจงแพทยวาได wafarin ทุกครั้งที่พบแพทย จ. แนะนําการรับประทานวิตามิน E สูง เพื่อเพิ่มฤทธิ์ของ wafarin 20.ขอมูลเกี่ยวกับ clopidodrel ขอใดถูกตอง ก. ยับยั้ง prostaglandin ไมใหสราง TXA2 ข. เปนยาในกลุม II b/IIIa inhibitor ค. ตองตรวจ PT / INR อยางใกลชิด ง. หามใชรวมกับ aspirin เพราะจําทําใหเลือดไหลไมหยุด จ. ถูกทุกขอ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
356
MCQ
21.ยาที่ใชรวมกันในขอใด ที่ลดอัตราการตายของผูปวยหลังเปน acute myocardial infraction ก. ASA + ISDN + lisinopril ข. ASA + Atenolol + lisinopril ค. ISDN + Atenolol + lisinopril ง. ASA + Nifedipine + lisinopril + Atenolol+clopidogrel 22.การทาน aspirin สามารถลดการเกิด CAD โดยมีคา OR 0.83 หมายความวาอยางไร ก. คนที่กิน aspirin มีโอกาสเปน CAD นอยกวาคนที่ไมกิน 17 % ข. คนที่กิน aspirin มีโอกาสเปน CAD นอยกวาคนที่ไมกิน 83 % ค. คนที่กิน aspirin มีโอกาสเปน CAD มากวาคนที่ไมกิน 17 % ง. คนที่กิน aspirin มีโอกาสเปน CAD มากกวาคนที่ไมกิน 83 % จ. คนที่กิน aspirin มีโอกาสเปน CAD เทากับคนที่ไมกิน 17 % 23.NTG รูแบบใด onset เร็วที่สุด ก. Sustained- release tablet ข. Transdermal patch ง. ค.Oral solution ง. Ointment จ. Sublingual tablet 24.ยา ISDN 041เหมาะกับอาการขณะกําเริบ คือ dosage form ใด ก. Extent release ข. Oinment ค. Solution ง. Sunlingual tablet จ. Transdermal 25.ยาที่ผูปวยไดรับกอนมารพ. คือ Nifedipine SR เปนการปลดยารูปแบบใด ก. ปลดปลอยยาทันทีหลังรับประทานอาหาร ข. ปลดปลอยยาอยางชา ค. ปลดปลอยยาในปริมาณที่แนนอน ง. คอย ๆปลอยยาออกมาดวยอัตรา& ในชวงเวลาที่กําหนด จ. คอย ๆปลดปลอยออกมาในปริมาณนอย ๆ กรณีศึกษา 1 ผูชายอายุราว 60 ป น้ําหนัก 90 kg สูง 170 cm มาปรึกษาที่รานขายยาเพื่อซื้อยาแกทองผูก พรอมกับนําผล BP ที่วัดไดจากโรงพยาบาลและยาลดความดันโลหิตที่เพิ่งรับประทานในชวง 1 เดือนที่ผานมา ยาที่ผูปวยรับประทานคือ Isoptin 40 mg 1x3 pc ผูปวยไมมีประวัติแพยาใดๆ รับประทานยาลดความดันไมสม่ําเสมอเพราะยุงกับการขายของตลอดทั้งวัน ความดันโลหิต ครั้งที่ 1 170/110 mmHg (วัดเมื่อ 1 มิ.ย.46) HR 95/min ครั้งที่ 2 150/95 mmHg (1 ก.ค. 46 หลังทานยาได 1 เดือน) HR 80/min คําถาม 1. ทานคิดวาความดันโลหิตผูปวยอยูในระดับควบคุมไดดีหรือไม เปาหมายคือเทาใด 2. ทานจะซักอะไรเพิ่มเติมจากผูปวยและจะแกปญหาเรื่องทองผูกอยางไร 3. ทานคิดวายาลดความดันที่เหมาะสมกับผูปวยรายนี้ คือยาอะไร รูปแบบใด 4. ทานคิดวาสามารถเปลี่ยนยา Isoptin 40 mg 1x3 pc เปน SR tablet 240 mg ครึ่งเม็ดไดหรือไม 5. Non pharmacological therapy สําหรับผูปวยโรคความดันโลหิตสูงโดยทั่วไปมีอะไรบาง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
357
กรณีศึกษา 2 ผูปวยชายอายุ 55 ป มาขอซื้อยาแกบวม ที่รานยาของทาน ประวัติที่บันทึกไวที่รานยาของทานดังนี้ วันที่ Diagnosis Medication Amount BP 2 มิ.ย. 46 CHF, HTN Enalapril(5) 1x2 pc 100 140/85 Lasix(40) 1x1 pc 50 ทานจะซักประวัติอะไรเพิ่มเติมและจะจายยาอะไรใหผูปวยเพื่อลดบวม ยา Enalapril มีปญหาเรื่องความคงตัวหรือไม และมีวิธีการเก็บรักษาอยางไร กรณีศึกษา 3 ผูปวยหญิงมีประวัติเปนโรคกลามเนื้อหัวใจขาดเลือด นําใบสั่งยามาซื้อยาที่รานยาของทานดังนี้ Isordil 5 mg SL prn Ismo (20) 1x2 ASA (60) 1x1 จงอธิบายกลไกการออกฤทธิ์ของยาในกลุม Nitrate Isordil 5 mg ตองเก็บรักษาอยางไร และวิธีการใชอยางไร จําเปนตองเคี้ยว Isordil กอนหรือไม จงเขียนฉลากสําหรับ Ismo (20) 1x2 ผูปวยถามวาในชวงแรกๆหลังการรับประทานยา Ismo ไปสักพัก มีอาการปวดศีรษะ วิงเวียน อาการเหลานี้แสดง วาผูปวยแพยา Ismo หรือไม จะใช IsoMack spray แทน Isordil 5 mg ไดหรือไมและมีวิธีการใช spray อยางไร จะใชแผนปดหนาอก nitroderm TTS แทน Isordil 5 mg หรือ Ismo (20) ไดหรือไม จงแนะนําวิธีการใช nitroderm TTS ที่ถูกตอง จงเขียนฉลากยาสําหรับ ASA ผูปวยรายนี้ให ASA เพราะเหตุใด จงอธิบายกลไกการออกฤทธิ์ หากมีอาการดีขึ้นแลว ไมเจ็บแนนหนาอกอีกยังจําเปนตองรับประทานยาที่แพทยใหมาตลอดหรือไม กรณีศึกษา 4 ผูปวยชายอายุ 50 ป ซึ่งเปนลูกคาประจําของรานยาทาน ไดนําใบแสดงผลการตรวจรางกายประจําปมาใหทานชวยอานผล ดังนี้ FBS 190 (70-110) HbA1c 9 (4-6%) Total CHOL 250 (50-200) HDL-C 30 (30-80) Triglyceride 155 (<150) BUN 18 (0.5-20) Scr 0.5 (0.5-2) ทานซักประวัติไดดังนี้ สูบบุหรี่สัปดาหละ 1-3 ซอง ไมไดออกกําลังกาย บิดาเปนโรคกลามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เมื่ออายุ 63 ป น้ําหนักตัว 85 kg สวนสูง 160 cm จาก Lab ผูปวยมีคาใดผิดปกติบาง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
358
MCQ
ผูปวยรายนี้มี risk factor ตอการเกิดกลามเนื้อหัวใจขาดเลือด อะไรบาง จงคํานวณ BMI ของผูปวยรายนี้ Lifestyle modification ที่ตองแนะนําใหกับผูปวยรายนี้ หากผูปวยรายนี้ควบคุมอาหารแลวแตยังไมสามารถไขมันในเลือดได ทานคิดวาควรเลือกใชยาในกลุมใดเพื่อลด ระดับไขมันในเลือดของผูปวยรายนี้ กรณีศึกษา 5 ผูปวยหญิงอายุ 45 ป มาปรึกษาถึงจ้ําเลือดที่เกิดขึ้นบริเวณแขน 2-3 แหง ผูปวยรับประทานยาwarfarin (5) 1 tab hs สําหรับ prophylaxis of venous thrombosis (desire INR = 2.0-3.0) และในชวง 2 wk. ที่ผานมาผูปวยมีอาการปวดทอง แพทยสั่งจาย Cimetidine (400) 1x2 pc ทานจะใหคําแนะนําอยางไรเกี่ยวกับอาการจ้ําเลือดที่เกิดขึ้น DRP ในผูปวยรายนี้มีอะไรบาง คา INR เมื่อได cimetidine รวมดวย ควรจะมีคาเพิ่มขึ้นหรือลดลง ถาผูปวยตองการเปลี่ยน warfarin ไปใชของบริษัทอื่น ทานจะแนะนําผูปวยอยางไร ทานจะแนะนําเรื่องการรับประทานสําหรับผูปวยที่รับประทานยา warfarin อยางไร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
359
MCQ เรื่อง DM Case: CC: ชายไทยคูอายุ 68 ป นําผลทางหองปฏิบัติการจากโรงพยาบาลมาขอคําปรึกษา HPI:ผูปวยมีปสสาวะบอยตอนกลางคืน PMH:เบาหวานและความดันโลหิตสูง 18 ป รักษาที่โรงพยาบาลใกลบานดวยยาลดระดับน้ําตาลในเลือด MED: Voglibose 1x3 pc Glipizide 1x2 ac Enalapril 1x1 pc เชา FH: มารดามีประวัติเปนโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง SH: ไมสูบบุหรี่ไมดื่มเหลา ชอบรับประทานอาหารรสหวาน ไมออกกําลังกาย LAB: BP 160/90 mmHg, FPG 160 mg/dl, HbA1c 8.2% 1. เปาหมายของระดับน้ําตาลในเลือดของผูปวยควรเปนเทาใด ก. FPG 90-130, HbA1c < 10 ข. FPG 90-150, HbA1c < 7 ค. FPG 90-130, HbA1c < 7 ง. FPG 90-150, HbA1c < 10 2. ขอใดเปนการใหคําแนะนําที่ถูกตองในการรับประทานยา Voglibose ก. รับประทานหลังอาหารทันทีและดื่มน้ําตามมากๆ ข. รับประทานกอนอาหาร 30 นาทีและใหอยูในทานั่งหามนอน ค. รับประทานพรอมอาหารคําแรก ง. รับประทานหลังอาหารไขมันเพื่อเพิ่มการดูดซึม Case: ผูปวยชายไทยคู อายุ 65 ป รูบรางทวม มาพบทานที่รายยาดวยอาการหนามืด ผูปวยเลาวาอาการดังกลาวเปนมาได 2 วัน หลังจากทําความสะอาดหองเก็บของ จากการซักประวัติผูปวยเลาวา เมื่อปที่แลวไดรับการวินิจฉัยจากแพทยที่ โรงพยาบาลวาเปนเบาหวาน ไดรับการรักษาโดยการใหยารับประทานชนิดเม็ด Diamicron®(Gliclazide 80 mg) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง เชา – เย็น 1. ทานคิดวาผูปวยรายนี้เปนเบาหวานชนิดใด ก. Type 1 เพราะเปนผูปวยสูงอายุและเพิ่งไดรับการวินิจฉัยวาเปนเบาหวาน ข. Type 1 เพราะมีอาการหนามืด ซึ่งอาจเปนผลมาจากภาวะ DKA ค. Type 2 เพราะเปนผูปวยสูงอายุ และไดรับการรักษาดวยการรับประทานยา ง. Type 2 เพราะมีอาการหนามืดซึ่งเปนอาการแสดงหลักของเบาหวานชนิดนี้ จ. ยังไมสามารถระบุได 2. ทานจะใหคําแนะนําอยางไรแกผูปวยรายนี้ ก. แนะนําใหหยุดรัปบระทานยา เพราะอาการหนามืดเปนเพราะรับประทานยาตัวนี้ ข. แนะนําใหเพิ่มยา metformin เพราะ ยาที่ไดรับอยูอาจไมเพียงพอตอการรักษา ค. แนะนําใหเปลี่ยนเปนยากลุมอื่นที่ไมทําใหเกิดอาการหนามืด ง. แนะนําใหผูปวยรับประทานยาเดิมตอไป โดยแนะนําการปฏิบัติตัวเพื่มเติมใหกับผูปวย จ. แนะนําใหผูปวยเปลี่ยนเปนยาฉีดอินซูลิน ซึ่งรักษาจําเพาะเจาะจงในผูปวยรายนี้
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
360
MCQ
3. ภาวะแทรกซอนใดที่ไมจําเปนตองแนะนําใหผูปวยเบาหวานเฝาระวัง ก. ความดันโลหิตสูง ง. โรคตอกระจก จ. โรคเกาต ข. ไขมันในเลือดสูง ค. โรคหลอดเลือดหัวใจสูง 4. จากการศึกษาของ UKPDS (United Kingdom Prospective Diabetes Study) ไดแนะนําวายาใดมีผลชวยลด macrovascular complications ในผูปวยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่อวน ก. Acarbose ง. Repaglinide ข. Pioglitazone จ. Glipizide ค. Metformin 5. ในผูปวยที่เปนเบาหวานชนิดที่ 2 และไมสามารถควบคุมอาการได (FPG = 200 mg/dL, HbA1c = 8.2%) และมี ARF ไดรับการรักษาดวยยาGlipizideและRosiglitazoneแลวทานคิดวาควรจะพิจารณาการรักษาอยางไรตอไป ก. เพื่ม metformin ข. หยุดยา glipizide แลวเปลี่ยนเปน nateglinide แทน ค. เปลี่ยน rosiglitazone เปน 70/30 insulin BID ง. หยุดยา glipizide และให insulin แทน จ. ไมมีขอใดถูกตอง 6. จากสูตรโครงสรางดังตอไปนี้ของยา Glipizide จัดวาเปนยากลุมใด ก. Biguanides จ. Sulfones ข. Nicotinic acids ค. Sulfonylurea compounds ง. Nucleoside analogue 7. ขอใดไมใชขอดีในการเตรียมยา glipizide เปนแบบ Extended Release Tablet ก. เพื่อควบคุมอัตราความเร็วในกานําสงยาในระบบทางเดินอาหาร ข. ทําใหยาออกฤทธิ์ไดนานขึ้น ค. ทําใหยาละลายไดดีในกระเพาะ ง. ปองกันการดูดซึมของยาเร็วเกินไป จ. ทําใหสะดวกในการรับประทานยาเพียงวันละครั้งเทานั้น 8. เกี่ยวกับยา glipizide ขอใดผิด ก. glipizide มีคุณสมบัติคอนขาง non polar ข. glipizide เมื่อละลายในดางละลายไดดี ค. การเตรียมยา glipizide แบบ Extended Release Tablet ไมจําเปนตองทําในรูป salt form ง. Glipizide มีสูตรโครงสรางคลายกับ metformin จ. Glipizide จัดอยูในกลุม second generatino drug ของการรักษา type 2 diabetes 9. Rosiglitazone เปนยาลดระดับน้ําตาลในเลือดที่ หามใช ในโรคเบาหวานชนิดที่ 1 เพราะ ก. ลดระดับน้ําตาลในเลือดไดนอยเมื่อใหรวมกับ insulin ข. ลดระดับ insulin ค. ทําให insulin ไมสามารถออกฤทธิ์ไดเต็มที่ ง. อาจทําใหระดับน้ําตาลในเลือดลดลงจนเกิด hypoglycemia จ. ตองอาศัย insulin ในการออกฤทธิ์
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
361
MCQ
10. ผลขางเคียงสําคัญที่ตองมีการเผาระวังเปนพิเศษสําหรับการใชยาในกลุม Thaizolidinediones คือ ก. Renal toxicity ง. Hemolytic anemia จ. Cardiotoxicity ข. Retionpathy ค. Hepatotoxicity 11. ทําไม insulin ตองใหแบบฉีด ก. เพื่อใหไรเชื้อ ง. เพื่อออกฤทธิ์ตอเนื่อง ข. เพื่อความคงสภาพ จ. เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทําลายใน ค. เพื่อออกฤทธิ์เร็ว ทางเดินอาหาร 12. ขอใดผิดเกี่ยวกับ insulin ก. Lispro คือการสลับตําแหนงของอะมิโน(amino acid) pholine เปน lysine เพื่อใหออกฤทธิ์เร็ว ข. Protamine ใน NHP ทําใหออกฤทธิ์เร็ว ค. ใน phosphate buffers ไมสามารถผสม Lente ง. Insulin ในทองตลาด มักจะเปนแบบกึ่งสังเคราะหของหมูและวัว จ. Heramen จะ inactive monomendiactive 13. ขอใดเปนขอบงใชของ Acabose ก. กระเพาะปสสาวะอักเสบ ง. เบาหวาน ข. ไต จ. ความดันโลหิตต่ํา ค. ตับอักเสบ 14. เกิด hyperglycemia และ hypokalemia ยกเวน ก. hydrocortisone ง. Bumetanide ข. Chloperpamide จ. Prednisone ค. Hydrochlorothiazde 15. ภาวะใดควรรักษาดวย Glibenclamide ก. ภาวะ Ketoacidosis ง. DM type 1 ที่เปนโรคตับ ข. DM type 2 ที่ตั้งครรภ จ. DM type 2 ที่เปนโรคไต ค. DM type1or2ที่น้ําตาลปานกลาง 16. คุณสมบัติของ insulin preparation เปนดังนี้ ก. regular insulin เปน amorphous insulin ข. ultralente insulin สามารถใหโดยการฉีดได ค. semilente insulin เปน amorphous precipitate insulin ซึ่งเตรียมจาก insulin กับ zinc ion ใน accate buffer ง. isophine insulin เปนชนิดหนึ่งของ lente insulin จ. preinsulin มีฤทธิ์สูงกวา insulin เนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้ง Gluconeogenesis 17. พยาธิวิทยาของเบาหวาน ก. ความผิดปกติทางพันธุกรรรม ข. เกิดการทําลาย beta cell ที่ตับออน ค. Insulin resistance ง. ติดเชื้อ Craxaxis B4 จ. เกิด autoimmune ที่ตับออน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
362
MCQ
18. หญิงไทยคูรายหนึ่งเปนโรคเบาหวาน Type I เชานี้มาหาหมอดวยอาการหอบเหนื่อย หนามืดจะเปนลม ไดฉีด NPH insulin ในตอนเชาแลว แตไมไดรับประทานอาหารเชา เนื่องจากรีบรอนไปทํางาน ตรวจวัด FBS = 40 mcg/dl (70-100) ปกติฉีด NPH 20 mcg/dl กอนอาหารเชา และ NPH insulin 10 mcg/dl กอนอาหารเย็น จากปญหาของหญิงรายนี้จะแกไขโดยใชสารตัวใด ง. Regular insulin ก. NSS จ. Lispro insulin ข. Sodium bicarbonate ค. Glucose 19. NPH insulin จัดอยูในประเภทใด ก. Rapid acting insulin ง. Long acting insulin ข. Short acting insulin จ. Ultralente insulin ค. Intermediate acting insulin 20. ปจจัยใดที่ไมสัมพันธกับระยะเวลาการออกฤทธิ์ของ insulin ก. particle size ง. site of injection ข. solubilizing จ. site of action ค. cristalinity 21. ภาวะ hypoglecemia จัดอยูในประเภทใดของ DRPs ก. Low dose ง. Non-compliance ข. High dose จ. ADR(Adverse Drug Reaction) ค. Uncessary therapy drug 22. ผูปวยหญิงไทยอายุ 58 ป มี BMI = 28 kg/m2 มาพบแพทย เนื่องจากมีปสสาวะบอย เจ็บหนาอก น้ําหนักลด ออนเพลีย แพทยวินิจฉัยวาผูปวยหัวใจขาดเลือด มาวันนี้ผูปวยมาพบแพทยไดจายยาเพื่อรักษา 1. Glibenclamide (5) 1x2 ac 2. Metformin (500) 1x3 pc 3. Isosorbide mononitrate (20) 1x2 ac 4. Aspirin (300) 1x1 pc จากขอมูลดังกลาว อาการใดตอไปนี้ของคนไขไมใชอาการ DM ก. polydipsia ง. weight loss ข. polyuria จ. fatigue ค. chest pain 23. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับคําแนะนําของยาที่ผูปวยไดรับ ก. ยา glibenclamide ควรรับประทานกอนอาหารประมาณ 30 นาที ข. ยา ASA ควรรับประทานหลังอาหารทันที ค. อาการไมพึงประสงคของยาที่อาจพบสําหรับยา glibenclamide คือ weight gain ง. อาการไมพึงประสงคของ metformin คือ hypoglycemia จ. ไมควรดื่ม alcohol รวมกับ glibenclamide 24. กรณีที่ผูปวยรายนี้ไมสามารถใชยา metformin ไดและเปน glaucoma ควรใชยาใดแทน metformin ก. glucoside ข. rosiglitazone ค. chlorpropamide
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
363
MCQ
25. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของ glibenclamide ก. กระตุนการหลั่ง glucagon ข. กระตุนการหลั่ง insulin จากตับออน ค. ลดการทําลาย insulin ที่ตับ ง. กระตุนการหลั่ง somatostatin 26. ขอใดเปนผลที่อาจเกิดขึ้นจากการใชยา glibenstermine เปนระยะเวลานาน ก. desensitization of sulfonylureas receptor ข. up-regulation of sulfonylureas receptor ค. down-regulation of sulfonylureas receptor ง. hyperinsulinemia จ. increase insulin sensitivity case: นายมาดี อายุ 65 ป รูปรางคอนขางอวน เขามาขอซื้อยารักษาโรคเบาหวานในรานยา โดยใหขอมูลแกเภสัชวารูสึกมี อาการออนเพลีย บางครั้งหนามืด คลายจะเปนลม หิวน้ําบอย และปสสาวะถี่ ซึ่งอาการดังกลาวเกิดในชวง 1 เดื่อนทีผานมา ผูปวยคิดวาตนเองเปนโรคเบาหวาน จากการซักประวัติพบวาเขายังเปนโรคความดันโลหิตสูงรวมกับโรคหลอดเลือดหัวใจ ตีบ ยาที่ใชประจําไดแก ASA 325 mg/d, nifedipine 30 mg/d, metoprolol 50 mg bid and nitroglycerine patch 0.2 mg/h 27. ขอใดตอไปนี้ ไมใช ลักษณะอาการที่เขาไดกับโรคเบาหวาน ก. polyphagia ง. myalgia ข. polydipsia จ. weight loss ค. polyuria 28. เภสัชกรประจํารานยาควรจายยาลดระดับน้ําตาลในเลือดใหผูปวยทันทีหรือไมเพราะเหตุใด ก. ควรจายยาลดระดับน้ําตาลในเลือดใหผูปวยทันที เพราะลักษณะอาการของผูปวยเปนอาการสําคัญ ของเบาหวานไดแก polydipsia and polyuria ข. ควรจายยาลดระดับน้ําตาลในเลือดใหผูปวยทันที แตควรซักประวัติเพิ่มเติมกอนใหยา เชนน้ําหนัก ตัวของผูปวยที่ผานมาในชวง 1 เดือนที่ผานมา, การดื่มเหลา สูบบุหรี่ ซึ่งเปนปจจัยเสี่ยงของการเกิด โรค ค. ไมควรจายยาลดระดับน้ําตาลในเลือดใหผูปวย ควรแนะนําใหผูปวยไปพบแพทย เพื่อตรวจวินิจฉัย เพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับน้ําตาลในเลือดในภาวะอดอาหาร ง. ไมควรจายยาลดระดับน้ําตาลในเลือดใหผูปวย เนื่องจากอาการที่กลาวมาไมไดบงบอกถึง โรคเบาหวาน จ. ไมควรจายยาลดระดับน้ําตาลในเลือดใหผูปวย เนื่องจากยาเบาหวานจัดเปนยาอันตรายที่ตองจาย ตามใบสั่งแพทยเทานั้น 29. จากรายการยาที่นายมาดีไดใชอยูและยาลดระดับน้ําตาลในเลือดตอไปนี้ขอใดที่จัดเปนยาประเภทเดียวกัน ตามกฏหมาย ก. ASA, Nifedipine, glucophage ข. ASA, metoprolol, glucophage ค. Nifedipine, metoprolol, glucophage ง. Nifedipine, nitroglycerine patch, insulin จ. Metoprolol, nitroglycerine patch, insulin
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
364
MCQ
อีก 1 สัปดาหถัดมา นายมาดีกลับมาที่รานยาพรอมใบสั่งยาจากแพทยโดยแพทยวินิจฉัยวาเปนโรคเบาหวานชนิดที่ 2 30. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตองเกี่ยวกับยา metformin ก. กลไกการออกฤทธิ์ของยาโดยการกระตุนใหตับออนหลั่งอินซูลิน৺ ข. กลไกการออกฤทธิ์ของยา ในการลดระดับน้ําตาลในเลือดคือ การเพิ่มการใชกลูโคสในรางกาย ค. ควรรับประทานยาหลังอาหาร 15 นาที เนื่องจากในผูปวยบางรายอาจมีอาการคลื่นไสอาเจียน ง. ไมควรใชยานี้ในผูปวยโรคไต (Reanl disease) เนื่องจากเปนการเพิ่มการสราง lactic ในรางกาย จ. สามารถใชยารวมกับยากลุม sulfonylurea และ insulin ได 31. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับการใหคําแนะนําสําหรับผูปวยโรคเบาหวาน ก. ควรควบคุมอาหารและออกกําลังกายอยางสม่ําเสมอควรทําควบคูกับการรับประทานยาลดระดับ น้ําตาลในเลือด ข. ควรตรวจสอบระดับน้ําตาลในเลือดเปนระยะในระหวางรับประทานยาอยางนอยเดือนละ 1 ครั้ง ค. ควรพกลูกอมที่มีน้ําตาลไวติดตัวเมื่อใชในภาวะน้ําตาลในเลือดต่ํา เชน หนามือ เวียนศีรษะ ง. การเลือกรับประทานอาหารประเภทคารโบไฮเดรต ควรเลือดรับประทานอาหาร ประเภทน้ําตาล โดยตรงมากกวาประเภทแปง เนื่องจากชวยชะลอระยะเวลาการยอยและดูดซึมน้ําตาลในรางกาย จ. ควรหมั่นดูแลทําความสะอาดเทาเปนประจํา หลังจากใชยา metformin ไดนานประมาณ 1 เดือน นายมาดี มีอาการผิดปกติ ผลตรวจรางกายพบคาดังนี้ serum bicarbonate 19 mEq/L, anion gap 21 (12±2), serum lactic acid 3.6 mEq/L (0.3-1.3) 32. ผลตรวจทางหองปฏิบัติการขางตน อาการผิดปกติของนายมาดี นาจะเกี่ยวของกับยาใด ก. ASA ง. Nifedipine ข. Metformin จ. Nitroglycerine ค. Metoprolol 38. อาการผิดปกติของนายมาดี ที่พบจัดเปนกลุมอาการที่เรียกวา ก. Drug hypersensitivity ง. lactic acidosis ข. Drug interactions จ. respiratory alkalosis ค. Drug induced hypoglycemia 39. โครงสรางตอไปนี้เปนโครงสรางของยากลุมใด ก. Iodoperoxidase inhibitor ข. Sulfonylurea ค. Thyroid hormone ง. Biguanide จ. Insulin analog 1 ปตอมา นายมาดีไมสามารถควบคุมระดับน้ําตาลได แพทยจึงปรับแผนการรักษาโดยจายยาดังนี้ Glucophage 1x2 pc, Monotard SC 20-0-0 40. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง เกี่ยวกับคําแนะนําในการใชยารักษาเบาหวานที่นายมาดีไดรับ ก. ควรรับประทาน Glucophage หลังอาหารเชา-เย็น ข. ควรฉีดอินซูลิน กอนอาหารเชา 15-30 นาที ครั้งละ 20 ยูนิต ค. ควรเก็บอินซูลินในตูเย็น ง. หากลืมรับประทานยา เมื่อถึงยามื้อตอไปก็เพิ่มขนาดยาเปน 2 เทา৺ จ. ไมควรเก็บอินซูลินในชองแชแข็ง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
365
MCQ
41. ทานคิดวายารักษาโรคเบาหวานเหมาะในการเตรียมยาออกฤทธิ์เนิ่นหรือไม เพราะเหตุใด เลือกขอที่ถูกตอง ที่สุด ก. เหมาะ เพื่อรักษาระดับน้ําตาในเลือดใหสม่ําเสมอตลอดเวลา ข. ไมเหมาะ เพราะยาควรจะลดระดับน้ําตาลในเลือดหลังจากรับประทานอาหารเสร็จใหมๆ เทานั้น ค. เหมาะ เพราะสะดวกในการใชยา ง. ไมเหมาะเพราะเม็ดยาจะมีขนาดใหญ กลืนลําบาก จ. ไมมั่นใจ ตองการขอมูลมากกวานี้กอนตัดสินใจ Case: นางสมศรี อายุ 53 ป ปวยเปนโรคเบาหวานนาน 10 ป รักษาดวยยา glipizide 10 mg bid มานาน 2 ปแลววันนี้มา พบแพทยตามนัด จากการตรวจรางกาย BP 125/80 mmHg, Wt 65 kg, Ht 160 cm จากการตรวจเลือดพบ FBS 240 mg/dl, HbA1c 10.2% เดือนกอน 6.9%, TC 185 mg/dl, LDL 104 mg/dl, HDL 45 mg/dl, TG 179 mg/dl 42. ขอมูลที่ทานตองซักถามเพิ่มเติมเพื่อประเมินสภาวะโรคของนางสมศรี 43. ระดับ HbA1c ที่ตองการสําหรับนางสมศรี แพทยปรับยาใหนางสมศรี เปน glipizide 20 mg bid 6 เดือนตอมาตรวจเลือดพบ FBS 145 mg/dl, HbA1c 9.2%แพทยจึง ปรับยาอีกครั้งเปน glipizide 20 mg bid และ metformin 500 mg bid 44. ทานจะแนะนําใหนางสมศรีตรวจวัดระดับน้ําตาลของเธออยางไร 45. การติดตามผลการรักษาดวย metformin ทานจะแนะนําวิธิใชยาแกผูปวยอยางไร และตองติดตามผลตรวจ lab อะไรบางหลังจากปรับยาแลว 9 เดือน ปจจุบันยาสําหรับนางสมศรี คือ glipizide 20 mg bid + metformin 1000 mg bid วันนี้ตรวจ HbA1c ได 8.7% แพทยจึงปรึกาทานวาอยากเพิ่ม insulin ใหนางสมศรี 46. ทานคิดวาควรเพิ่มยา insulin ใหนางสมศรีไหมและอยางไร 47. วันนี้ นางสมศรีมาพบแพทยตามนัด พรอมขอคําแนะนําจากทานเกี่ยวกับการใชโสม เพราะเพื่อนซี้อมาฝาก จากตางประเทศ ทานจะแนะนํานางสมศรีอยางไร 48. เหตุผลในทางเภสัชวิทยา ที่แพทยเพิ่ม metformin ในการรักษานางสมศรี ก. นางสมศรี อาจแพยาที่มี sulfa เปนองคประกอบทําใหใชยากลุม sulfonylurea ไมได แพทยจึงตอง เลือกใช metformin ใน combination therapy ข. Metformin และ glipizide จะเสริมฤทธิ์กันในการกระตุนการหลั่ง insulin ค. Metformin และ glipizide จะเสริมฤทธิ์กันในการควบคุมระดับน้ําตาล โดย metformin ไปกระตุน กระบวนการ glycolysis ของกลามเนื้อ และอวัยวะตางๆ৺ ง. Metformin ทําให glipizide ออกฤทธิ์ดีขึ้น โดย metformin กระตุน beta-cell ของตับออน เพิ่มการ สราง glucose transporter จ. Metformin เสริมฤทธิ์ของการลดระดับน้ําตาลในเลือดของ glipizide โดย metformin ยับยั้งการ ทํางานของ glucosidase ในระบบทางเดินอาหาร 49. เมื่อพิจารณากลไกการออกฤทธิ์ของยาแลว แพทยอาจเลือกใชยาใด ตอไปนี้ในการรักษา จึงใหผลทางเภสัช วิทยา เชนเดียวกับการใช metformin ก. Repaglinide ง. Acarbose ข. Insulin Lispro จ. เลือกใชไดทุกขอขางตน ค. Rosiglitazone
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
366
50. Premixed insulin 30/70 หมายถึง ขอใด ก. Regular insulin ที่ตองผสมน้ํากอนฉีด ในอัตราสวน 3:7 ข. Insulin ผสมระหวาง semilente 30% กับ Ultralente 70% ค. Insulin ผสมระหวาง Regular insulin กับ NPH insulin ในอัตราสวน 3:7৺ ง. Insulin ผสมระหวาง Regular insulin กับ Lispro ในอัตราสวน 3:7 จ. Insulin ผสมระหวาง Lispro insulin กับ NPH insulin ในอัตราสวน 3:7 51. ปญหาจากการใช insulin ที่อาจเกิดขึ้นได ไดแกขอใด ก. Hypoglycemia ข. Lipoatrophy ค. ผื่นคัน ลมพิษ ง. ตามัว จ. ถูกทุกขอ
MCQ เรื่อง Thyroid กรณีศึกษาที่ 1นางอารี อายุ 66 ป เพิ่งไดรับการวินิจฉัยวาเปน Hypothyroidism หลังมีอาการ Subclinical hypothyroidism อยูระยะเวลาหนึ่ง แพทยสั่งจาย Thyroxine 50 mcg/day ยาที่เธอใชประจําคือ carbamazepine 200 mg tid และ Ferrous sulfate 200 mg/day ทานจะแนะนําการใชยาแกเธออยางไร กรณีศึกษาที่ 2สตรีรายหนึ่ง อายุ 28 ป มีผลการตรวจการทํางานของ Thyroid gland ดังนี้ - Thyroid stimulating hormone (TSH) ต่ําเกินกวาชวงปกติ - Thyroxine สูงเกินกวาชวงปกติ 2.1 กลุมอาการใดสอดคลองกับผลสรุปที่ไดจากการตรวจการทํางานของ Thyroid gland ก. Goiter, Constipation, Lethargy, Dry skin ข. Goiter, Depression, Puffy face, Lethargy ค. Goiter, Cold intolerance, Decrease sweating, Bradycardia ง. Goiter, Loose bowels, Insomnia, Irritability จ. Goiter, Fatigue, Weight gain, Decrease appetite กรณีศึกษาที่ 3 จากโครงสรางตอไปนี้
ก.
ข.
ค.
แพทยเริ่มการรักษาคนไขดังกลาวดวยยาตอไปนี้ Propanolol 20 mg QID for 3 weeks ยา A 100 mg TID for 6 weeks
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
367
คนไขรับประทานยาตามคําแนะนํา และเมื่อถึงเดือนที่ 2 ของการรักษา พบวาคนตั้งครรภไดประมาณ 1 เดือน แพทย สรุปวา Thyroid disorder ของคนไขดีขึ้น แตยังไมเขาสู Euthyroidal stage 3.1 ยา A จัดอยูในบัญชียา ก. ตามบัญชียาหลักแหงชาติ ป 2542 ยาที่อยูในบัญชียา ก. หมายถึงยาในขอใด ก. รายการยาที่ตองใชผูเชี่ยวชาญ ข. รายการยาที่จําเปนตองใชในสถานพยาบาลบางระดับ ค. รายการยาสําหรับใชเฉพาะในโครงการพิเศษของกระทรวง ง. รายการยาที่มีความจําเปนสําหรับสถานพยาบาลทุกระดับ จ. รายการยาที่ควรประเมินการใชยา เนื่องจากตองใชดวยความระมัดระวังเพื่อชวยชีวิตคนไขบางราย 3.2 การปฏิบัติในขอใด เหมาะสมกับผูปวยรายนี้ ก. เปลี่ยนยา A เปนยา B ในขนาดที่สมมูลกัน ข. แนะนําใหคนไขใชยาเหมือนเดิม ค. หยุดรับประทานยา แลวเปลี่ยนเปนการรักษาดวยการผาตัด ง. หยุดรับประทานยา แลวเปลี่ยนเปนการรักษาดวย Radioactive Iodine จ. เพิ่มขนาดยา Propanolol 3.3 คนไขอาจเกิดอาการไมพึงประสงคในขอใด ก. Agranulocytosis ง. SLE like syndrome ข. Arthritis จ. Metallic test ค. Dizziness กรณีศึกษาที่ 4 Hypothyroid รูสึกวาจะมีคา Lab มาใหนะ ดูแลวจะพบวาคา FT4 มีคาต่ํา TSH มีคาสูง 4.1 เปนโรคอะไร 4.2 ถาเปนมาก ๆ แลวไมรักษาจะเปนอะไร 4.3 โรคนี้เกี่ยวของกับอะไร และเกิดจากอะไร 4.4 Drug of Choice 4.5 สูตรโครงสรางของสารที่จับกับ receptor ไดดีที่สุด (I ตองอยูที่ตําแหนงไหนบาง, กรดอะมิโนตองอยูในรูป D หรือ L หรือ DL form) 4.6 สารที่ออกฤทธิ์ไดดีที่สุด (ชื่อเต็มของ T3) 4.7 ถามวาขอใดถูก (รูสึกวา choice จะเกี่ยวกับ therapy เชน การติดตามการรักษาจากระดับ TSH หลังจากใช ยา 4-6 weeks และปรับขนาดยา) กรณีศึกษาที่ 5 นางสา อายุ 30 ป ไดรับการวินิจฉัยจากแพทยวาเปนโรคตอมธัยรอยดทํางานมากเกินไป แพทยสั่งยา นาง สานําใบสั่งแพทยมาซื้อที่รานขายยาเภสัชชุมชน ดังนี้ Methimazol (5) 2 tab bid #120 1.กอนจายยาใหนางสา เภสัชกรควรซักถามขอมูลประวัตินางสา ขอใดตอไปนี้ไมมีความจําเปนตองซักถาม ก. ตั้งครรภอยูหรือไม ข. อยูระหวางใหนมบุตรหรือไม ค. ใชยาตานการแข็งตัวของเลือดอยูหรือไม ง. เคยไดรับยานี้มากอนและเคยแพยานี้หรือไม จ. เปนโรคไตหรือไม
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
368
MCQ
2. เภสัชกรควรใหคําแนะนําขอมูลเหลานี้แกนางสาขณะจายยาให ยกเวนในขอใดตอไปนี้ ก. หลังจากเริ่มใชยาถามีอาการไข เจ็บคอ มีแผลในปาก ควรรีบไปพบแพทยและรีบหยุดยา ถาสาเหตุเกิด จากยา ข. ควรไปพบแพทยและตรวจเม็ดเลือดขาวเปนระยะๆ ค. ถาระหวางใชยาเกิดตั้งครรภใหไปพบแพทย ง. ยานี้ตองใชติดตอกันเปนระยะเวลา 1 ป แลวหยุดยา จ. ถามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เชน ดีซาน ปวดขอ ปวดกลามเนื้อ ขออักเสบ ใหไปพบแพทย 3. ขอใดตอไปนี้ถูกตอง ก. methimazole และ propylthiouracil เปนยาตานธัยรอยดกลุมเดียวกัน มีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนกัน ข. methimazole ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม peroxidase ซึ่งมีบทบาทสําคัญในกระบวนการสรางฮอรโมนธัย รอยด ค. สารกัมันครังสีไอโอดีน ใชรักษาอาการธัยรอยดเปนพิษไดดวยกลไกการทํางายเซลลในตอมธัยรอยด โดยตรง ง. การผาตัดเปนอีกวิธีหนึ่งในการรักษาผูปวยธัยรอยดเปฯพิษ ในกรณีที่ผูปวยมีตอมธัยรอยดโตมาก ผูปวย ที่ไมสามารถทนยาตานธัยรอยดืได สตรีมีครรภที่แพยาตอนธัยรอยด จ. ไอโอดีนขนาดสูง ใชรักษาผูปวยที่ตอมธัยรอยดทํางานนอยเกินไป ไอโอดีนจะชวยกระตุนใหมีการสราง ฮอรโมนธั้ยรอยดเพิ่มขึ้น หลังจากใชยาไปได 3 สัปดาห นางสารูสึกไมสบายมากจึงไปพบแพทย แพทยืตรวจพบวา นางสา มีอาการ agranulocytosis รุนแรงจากยา จึงรักษาภาวะดังกลาว และเปลี่ยนวิธีการรักษาอาการธัยรอยดเปนพิษดวยการให Lugol’s solution รับประทาน 2 หจด วันละ 1 ครั้ง โดยผสมในน้ําผลไมเปนเวลา 10 วัน และให propanolol รวมดวย กอนการผาตัด 4. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง ก. Lugol’s solution เปนสารละลายกัมมันตรังสีไอโอดีน ข. แพทยให propanolol เพื่อคุมอาการทางระบบซิมพาเทติก ไดแก อาการใจสั่น มือสั่น เหงื่อออก วิตก กังวล เปนตน ค. ฤทธิ์ไมพึงประสงคของ Lugol’s solution เชน เจ็บเหงือกและฟน ปฏิกิริยาภูมิไวเกิน เปนตน ง. กลไกการออกฤทธิ์ของ สารกัมมันตรังสี ไอโอดีน คือการทําลายเซลลของตอมธัยรอยด จ. Lugol’s solution มี่ความแรงนอยกวา supersaturated potassium iodide solutio (SSKI) หลังจากการผาตัด 1 ป นางสา มีอาการของตอมธัยรอยดทํางานนอยเกินไป แพทยสั่งยาดังนี้ L-thyroxine sodium 10 microgram 1x1 OD #100 5. ประวัติการเปนโรคหรือไดรับยาบางชนิดอาจมีผลกระทบลหรือคตวรระวังเมื่อนางสาไดรับยานี้ ยกเวนขอใด ตอไปนี้ ก. โรคตับ ข. โรคเบาหวาน ค. โรคหัวใจ ง. รับประทาน cholestyramine เพื่อคุมระดับไขมันเลือด จ. รับประทานยาตานการแข็งตัวของเลือด 6. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง ก. L-thyroxine sodium คือเกลือโซเดียมของ isomer ของ T4
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
369
MCQ
ข. L-liothyronine sodium ออกฤทธิ์เร็วกวา แรงกวา แตระยะเวลาในการออกฤทธิ์สั้นกวา L-thyroxine sodium ค. T4 เปนยาที่เลือกใชในกรณีที่ผูปวยตองรับยาทดแทนเปนเวลานาน ในขณะที่ T3 เปนยาที่นิยมใชในภาวะ myxoedema coma ง. Liotrix คือ ยาเตรียมที่สกัดไดจากตอมธัยรอยดของสัตวมีปริมาณตัราสวนของ T4 และ T3 ที่เหมาะสม৺ จ. ทั้ง T4 และ T3 ใชในสตรีมีครรภและทารกแรกเกิด 7. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง ก. T4 active กวา T3 ข. T4 มีคา pKa นอยกวา T3 ค. T4 จับกับ protein มากกวา T3 ง. T4 แตกตัวมากกวา T3 จ. T4 มี phenolic hydroxy group นอยกวา T3 8. Propylthioouracil มีสูตรโครงสรางดังตอไปนี้ ก. เปน 3-Thiouracil derivative ข. เกิด Tautomerization ได โดยเปลี่ยนจาก Keto form เปน Thioenol form ค. ออกฤทธิ์ไดเร็วเพราะเกิด Tautomerization ไดงาย ง. Enolic hydroxy gr. อยูที่ carbon ตําแหนงที่ 4 จ. 6-Propylthiouracil มีฤทธิ์ สูงกวา 6-Methylthiouracil เพราะมี Hydrophilicity สูงกวา กรณีศึกษาที่ 7 สตรีรายหนึ่ง อายุ 28 ป มีผลการตรวจการทํางานของ Thyroid gland ดังนี้ - Thyroid stimulating hormone (TSH) ต่ําเกินกวาชวงปกติ - Thyroxine สูงเกินคาชวงปกติ 7.1 กลุมอาการใดสอดคลองกับผลสรุปที่ไดจากการตรวจการทํางานของ Thyroid gland ก. Goiter, Constipation, Lethargy, Dry skin ข. Goiter, Depression, Puffy face, Lethargy ค. Goiter, Cold intolerance, Decrease sweating, Bradycardia ง. Goiter, Loose bowels, Insomnia, Irritability จ. Goiter, Fatigue, Weight gain, Decrease appetite แพทยเริ่มการรักษาดวยยารับประทานตอไปนี้ Propanolol 20 mg QID for 3 weeks Propylthiouracil 100 mg TID for 6 weeks ผูปวยรับประทานยาตามคําแนะนํา และเมื่อถึงเดือนที่ 2 ของการรักษาพบวาผูปวยตั้งครรภไดประมาณ 1 เดือน แพทย สรุปวาสภาวะทางคลินิกของภาวะตอมไทรอยดของผูปวยดีขึ้น แตยังไมเขาสู Euthyroidal state 7.2 Propylthiouracil จัดอยูในบัญชียา ก ตามบัญชียาหลักแหงชาติป 2542 ยาที่อยูในบัญชียา ก หมายถึงขอใด ก. รายการยาที่ตองใชผูเชี่ยวชาญ ข. รายการยาที่จําเปนตองใชในสถานพยาบาลบางระดับ ค. รายการยาสําหรับใชเฉพาะในโครงการพิเศษของกระทรวง ง. รายการยาที่มีความจําเปนสําหรับสถานพยาบาลทุกระดับ จ. รายการยาที่ควรประเมินการใชยา เนื่องจากตองใชดวยความระมัดระวังเพื่อชวยชีวติ คนไขบางราย
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
370
7.3 การปฏิบัติในขอใด เหมาะสมกับผูปวยรายนี้ ก. เปลี่ยนยา Propylthiouracil เปนยา methimazole ในขนาดรับประทานที่สมมูลกัน ข. แนะนําใหผูปวยรับประทานยา Propylthiouracil ในขนาดดังกลาวตอไป ค. หยุดรับประทานยา เปลี่ยนวิธีการรักษาเปนการผาตัดตอม ง. หยุดรับประทานยา ใกการรักษาดวยการทาน Radioactive Iodine จ. เพิ่มขนาดยา Propanolol ใหรับประทานตอรวมกับยา Propylthiouracil 7.4 อาการไมพึงประสงคใดเกิดขึ้นจากการใช thiouracil ก. ปวดขอ ง. SLE like syndrome ข. เม็ดเลือดขาวต่ํา จ. Metallic test ค. งวงนอน 7.5 ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา Propylthiouracil ก. เปนอนุพันธของ thiourea ข. ยับยั้งการหลั่งของ thyroid hormone ค. ใชรักษา hypothyroid ง. กระตุนเอนไซม thyroid peroxidase จ. เพิ่มการสราง T3 7.6 Propylthiouracil: White, crystalline sub that has a bit?? Water มีการผลิตเปน...ขนาด 50 mg เปนเม็ดสีขาว โครงสรางของยา
Carbimazole
Propylthiouracil
Methimazole
ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา methimazole, carbimaole และ propylthioyuracil ก. methimazole, carbimaole และ propylthioyuracil ถูก metabolize โดยปฏิกิริยา desulfunation กอนจึงจะได สารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ข. Propylthiouracil จะถูก metabolize โดยปฏิกิริยา dealkylation ซึ่งจะตัด Propyl group ออกกอนจึงจะไดสาร ที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ตองการ ค. Methmazole จะถูก metabolized โดยปฏิกิริยา conjugation ไดเปน carbimazole จึงจะไดสารที่มีฤทธิ์ทาง เภสัชวิทยาที่ตองการ ง. ตองเกิดปฏิกิริยา amide hydrolysis กับโครงสราง carbimazole จึงจะไดสารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ ตองการ จ. ตองเกิดปฏิกิริยา ester hydrolysis กับโครงสราง carbimazole จึงจะไดสารที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ตองการ 7.7 ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการใชยา propanolol รวมกับ propylthiourcil ก. Propanolol เปน alpha-adrenergic blocking agent ชนิดหนึ่ง ข. Propanolol ชวยลดอาการตาง ๆ เชน tremor และ tarchycardia ที่เกิดจาก thyrotoxicosis ค. Propanolol มีความสําคัญตอ Pharmacokinetic ของ propylthiouracil ทําใหการดูดซึมและฤทธิ์ของยา propylthiouacil ดีขึ้น ง. Propanolol ชวยลดอาการขางเคียงจากการใชยา propylthiouracil
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
371
จ. Propanolol ออกฤทธิ์เสริมกับ propylthiouracil โดยลดการสังเคราะห T4 7.8 ขอใดผิดเกี่ยวกับ goiter ก. Ion บางชนิด เชน thiocyanate อาจมีผลทําใหเกิด goiter ข. Thiocyanate อาจไดจากการ metabolized สารจาก....เชน กะหล่ําปลี ค. Lithium สามารถลด secretion ของ thyroxine และ thiiodothyroxine และสามารถชวยในการรักษา hyperthyroidism ง. Goitrin สามารถยับยั้ง thyroid peroxidase จ. Percholate เปน ion ที่ชวยเพิ่มการ uptake iodine และเพิ่มระดับ iodine ใน thyroid 7.9 ชุมชนที่มีคนเปน toxic goiter มาก บงบอกวาชุมชนนั้นมีลักษณะอยางไร ก. ไดรับ iodine ต่ําเกินไป ข. ไดรับ iodine มากเกินไป ค. แหลงน้ําดื่มมีการปนเปอนสารหนู ง. แหลงน้ําดื่มมีการปนเปอนสารตะกั่ว จ. กินอาหารที่มี thiocyanide มากเกินไป 7.10Lugol’s solution ประกอบดวยสารชนิดใดเปนสวนประกอบ ก. Iodine + KI ข. Manganese ค. Methimazole ง. Thiocyanate จ. Propylthiouracil
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
372
MCQ เรื่อง bone and Joint Disorder Case: ชายไทยอายุ 55 ป มีโรคประจําตัวโรคเกาท มาที่โรงพยาบาลเนื่องจากโรคเกาทกําเริบ จากการซักประวัติทราบวา เมื่อคืนผูปวยดื่มเหลาและรับประทานเปดยางเปนกับแกลม สําหรับยาเดิมที่เคยไดรับคือ Indomethacin 1. ขอใดบงบอกอาการทางคลินิกของโรคเกาท ก. ขอฝดยามเชา (Morning stiffness) อยางนอย 1 ชม. ข. มี nodule ขึ้นบริเวณขอที่อักเสบ ค. มักเกิดกับขอใหญๆที่รับน้ําหนักมาก ง. อาจพบนิ่วตกตะกอนที่ไตได มีขอเทาบวม จ. อาการปวดเกิดขึ้นที่ขอเดียวกับทั้งสองขางของรางกาย 2. ขอใดเปนแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับผูปวยในลักษณะนี้ ก. Indomethacin ข. Colchicine ค. Indomethacin + Colchicine ง. Colchicine + Allopurinol จ. Indomethacin + Colchicine + Allopurinol 3. ขอใดเปนอาการไมพึงประสงคที่สําคัญของ Colchicine ง. กดการทํางานของไขกระดูก ก. ถายดํา ข. ทองเสีย จ. ฟนเปลี่ยนเปนสีเหลือง ค. ปสสาวะมีสีแดง Case: หลังจากการรักษาอาการจนหายแลว ผูปวยไดยาเดิมกลับไปรับประทานที่บานเปนเวลา 2 สัปดาห เมื่อมา โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อติดตามผลการรักษาแพทยวินิจฉัยวาผูปวยมีโรคกระเพาะอาหารเปนแผล (Peptic ulcer) รวมดวย จึงสั่งเปลี่ยนยา Indomethacin เปนยาชนิดอื่น 4. ยาในขอใดที่เหมาะสมที่สุดในการใชทดแทน Indomethacin ในผูปวยรายนี้ ก. Meloxicam ง. Celecoxib ข. Nabumetone จ. Sulindac ค. Loxoprofen 5. ขอใดที่ไมใช Non-steroidal anti-inflammatory drug (NSAIDS) 6. หากตองการลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารจากยาเภสัชกรควรเลือกจายในรูปแบบใด ก. จายยาที่มีรูปแบบที่ไมละลายน้ํา ข. จายยาที่อยูในรูป enteric coated tablet ค. จายยาที่เปน film coated tablet ง. จายยาที่เปน sugar coated tablet จ. จายยาที่เปน controlled release tablet 7. การออกกําลังกายประเภทใดที่เหมาะสมสําหรับผูปวยรายนี้ ง. บาสเกตบอล ก. เทนนิส ข. รักบี้ จ. ยิมนาสติก ค. จอกกิ้ง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
373
MCQ
8. อาหารประเภทใดที่เหมาะแกผูปวยรายนี้ ก. ปกไกเหลาแดง ง. แกงจืดเตาหูหมูสับ จ. เกาเหลาเครื่องในหมู ข. ยอดมะพราวผัดกุง ค. ซุปหนอไม Case: หลังจากนั้นอีก 2 สัปดาหยาที่ไดรับหมด ผูปวยไมอยากไปโรงพยาบาลจึงนําตัวอยางยาเดิมที่ไดรับไปซื้อยาที่ราน ขายยาแผนปจจุบัน และบอกเภสัชกรวาตนเองเปนโรคเกาทตอนนี้มีขอบวมและปวดมากเภสัชกรจึงจายยาใหดังนี้ A. Indomethacin capsule #15 tabs B. Ranitidine tablet # 10 tabs C. Paracetamol tablet #1แผง D. Prednisolone tablet #15 tabs E. Diclofenac gel # 1 หลอด 9. ขอใดตอไปนี้ถูกตองที่สุด ก. เภสัชกรสามารถจายยาทุกตัวไดเพราะเปนยาอันตราย ข. เภสัชกรไมสามารถจายยา Allopurinol ไดเพราะเปนยาอันตราย ค. เภสัชกรไมสามารถจายยา Prednisolone ไดเพราะเปนยาอันตราย ง. เภสัชกรไมสามารถจายยา Ranitidine ไดเพราะเปนยาควบคุมพิเศษ จ. เภสัชกรไมสามารถจายยา Prednisolone ไดเพราะเปนยาควบบคุมพิเศษ 10. จากขอมูลขางตน ขอใดตอไปนี้เปนยาประเภทเดียวกันตามกฎหมาย ง. C และ E ก. A และ B ข. A และ D จ. B และ C ค. C และ Case 1. แพทยเปลี่ยนยา diclofenac sodium แบบ enteric coated เภสัชกรแนะนําอยางไรกับการทานยารวมกับ antacid 1. ใหกินคูกันได 2. ให antacid กอน 10 นาที 3. ให antacid กอน 30 นาที 4. ให antacid หลัง 30 นาที 5. ปรึกษาแพทยเพื่อหยุด antacid 2. การแนะนําผูปวยโรครูมาตอยดเกี่ยวกับการรับประทานอาหารอยางไร 1. ควรหลีกเลี่ยงเครื่องในสัตว 2. ควรหลีกเลี่ยงผลไมเปรี้ยว 3. ควรทานผักใบเขียว 4. ควรทานอาหารที่เปนผลิตภัณฑจากนม 3. neutral-acid test หองยาไมมี diclofenac sodium หมอเปลี่ยนเปน piroxicam 20 mg tid เภสัชกรควรทําอยางไร 1. ไมควรใชกับ AR 2. เปลี่ยนเปน prn เฉพาะปวดแบบเฉียบพลัน 3. ไมเกิน 10 วัน 4. เปลี่ยนเปนวันละ 1 ครั้ง 5. ไมควรใช piroxicam เพราะราคาแพง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
374
MCQ
4. ยา RA ที่เปนยาควบคุมพิเศษในโรงพยาบาล 1. celecoxib 2. methrotexate 3. mefenemic acid 4. naproxen 5. prednisolone Case: ผูปวยชายไทย อายุ 60 ป หนัก 48 kg สูง 170 cm เขารับการรักษาในโรงพยาบาลดวยอาการขาบวมทั้งสองขาง ออนเพลีย และเบื่ออาหาร คาผลตรวจทางหองปฏิบัติการมี ดังนี้ Urea nitrogen = 60 mg/dl (normal 7-20 mg/dl) Creatinine concentration = 3 mg/dl (normal 0.5-1.4 mg/dl) Potassium concentration = 6.5 mEq/l (normal 3.5-5.2 mEq/l) นอกจากนั้นผูปวยมีประวัติเปนโรคไตมาเปนเวลานาน 5 ป creatinine clearance = 18 ml/min 5. จากประวัติความเจ็บปวย อาการแสดงและ คา creatinine clearance แสดงวาการทํางานของไตอยูในระดับ ใด 1. acute renal failure 4. uremia 2. renal insufficiency 5. end-state renal failure 3. chronic renal failure 6. ยาในขอใดสามารถแกไขอาการ hyperkalemia ในผูปวยรายนี้ 1. potassium chloride 4. calcium chloride 2. sodium chloride 5. calcium phosphate 3. sodium polystyrene sulfonate 7.
แพทยควรใหยาขับปสสาวะใดกับผูปวยรายนี้ 1. HCTZ 2. spironolactone 3. furosemide 4. amiloride 5. indapamide 8. ขอใดไมใชเหตุผลในการเลือกยาขับปสสาวะในขางตน 1. ลดอาการบวมคั่งของน้ํา 2. ปองกัน renal shut down 3. ออกฤทธิ์ไดแมในผูปวยที่มีการทํางานของไตบกพรองในการทํางานอยางรุนแรง 4. ไมมีผลรบกวรสมดุล กรด-ดาง ของรางกาย 5. ออกฤทธิ์เร็วและแรง ขอมูลเพิ่มเติม แพทยพบวาผูปวยเกิดภาวะ acidosis จึงสั่งจาย sodium bicarbonate เพื่อใหได bicarbonate 2.8 mmol/l ใน sterile water for injection 100 ml 9. จากขอมูลขางตน เภสัชกรตองเตรียมสารละลายดังกลาวจาก sodium carbonate จํานวนกี่แอมพูล เมื่อ sodium carbonate ขนาดบรรจุละ 5 ml และมีความเขมขน 2 mg/ml (Mw ของ Na=23, H=1, C=12, O=16) 1. 2 Amp 2. 3 Amp 3. 4 Amp 4. 5 Amp 5. 6 Amp
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
375
MCQ
10. บริเวณที่ใชในการเตรียมยาขางตนคือ 1. clean room class 10 2. clean room class 100 3. clean room class 1000 4. clean room class 10,000 5. clean room class 100,000 11. การเตรียมยาขางตนไมตองคํานึงถึง 1. sterility 2. osmolarity 3. microbial limit test 4. particular matter 5. preservative 12. กรณีที่โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขประสงคที่จะซื้อ sodium bicarbonate injection ซึ่งเปนยาในบัญชีหลัก แหงชาติที่องคกรรมเภสัชกรรมผลิต ขอใดถูกตอง 1. จัดซื้อดวยเงินงบประมาณเทานั้น 2. จัดซื้อดวยวิธีกรณีพิเศษจากองคการเภสัชกรรมถาวงเงินเกิน 50,000 บาท 3. จัดซื้อโดยวิธีตกลงราคาจากองคการเภสัชกรรมเทานั้น ไมจํากัดวงเงิน 4. จัดซื้อโดยวิธีตกลงราคาขากบริษัทใดก็ไดถาวงเงินไมเกิน 50,000 บาท 5. จัดซื้อดวยวิธีกรณีพิเศษจากองคการเภสัชกรรม ไมจํากัดวงเงิน 13. กรณีที่ผูปวยตองการใชยาสมุนไพร สมุนไพรใดที่มีสรรพคุณเปนยาขับปสสาวะ 1. ปป 2. ทองพันชั่ง 3. มะขามปอม 4. ขมิ้นชัน 5. หญาหนวดแมว สถานการณ ผูปวยหญิงอายุ 22 ป นน. 75 kg สูง 155 cm อาชีพเกษตรกรรม มาพบแพทยที่โรงพยาบาลดวยอากรปวด เขาดานขวามาเปนเวลาหลายป อาการปวดคอยๆมากขึ้น ถาทํางานหนักยิ่งมีอาการปวดมากขึ้น บางครั้งหลังจากทํางานมี อาการปวดรุนแรง นอกจากนี้ยังมีอาการขอติดขัดเคลื่อนไหวไมสะดวก หลังจากนั่งหรือนอนมากๆ มีเสียงดังในขอเวลาเดิน มีประวัติเปนแผลในกระเพาะอาหาร โรคความดันโลหิตสูง ผูปวยมีประวัติการทํางานของไตเสื่อม กอนที่จะมาโรงพยาบาล เคยซื้อยา diclofenac gel เพื่อนวดตรงที่ปวดแตอาการไมดีขึ้น 14. ขอใดเปนยาหรือผลิตภัณฑเสริมอาหารในกลุมชะลอความเสื่อมสลายของกระดูกออน 1. glucosamine sulfate 2. hydroxychloroquine 3. auranofin 4. prednisolone 5. methrotexate 15. ขอใดเปนคําแนะนําที่ไมเหมาะสมสําหรับผูปวย 1. ลดน้ําหนัก 2. ออกกําลังกาย 3. โรคนี้ไมสามารถรักษาใหหายขาดได 4. หลีกเลี่ยงการฉีดยาเขาขอในและติดตอกัน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
376
MCQ
5. รับประทานยา codeine และ para เมื่อมีอาการปวดรุนแรง 16. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับตํารับ diclofenac emulsion gel 1. ใช carbopal เปนสารกอเจล 2. ตํารับนี้ไมจําเปนตองมี preservative เนื่องจากไมมีน้ําเปนสวนประกอบ 3. ในขั้นตอนการพัฒนาตําหรับ แจทดสอบความคงตัวทางการยภาพดวยวิธี frezze-cycle 4. ตํารับ emulsion gel ลางออกไดงายกวา cream เมื่อใชทาที่ผิวหนัง 5. ในตํารับตองมี emulsifying agent 17. ทานคิดวาผลิตภัณฑจากสมุนไพรในขอใด มีขอบงใชใกลเคียงกลับ diclofenac gel มากที่สุด 1. เจลพลู 2. ครีมชุมเห็ดเทศ 3. เจลวานหางจระเข 4. ครีมไพล5. ครีมพายอ 18. ขอใดถูกตอง 1. เมื่อโรคขอเสื่อมเกิดการอักเสบรวมดวยควรเลือกใชยา opioid analgesic จะเหมาะสมกวากลุม Nsaid 2. opioid analgesic ไมควรใชตดิ ตอกันนาน เพราะจะทําใหเกิดการติดยา 3. การใชยา Nsiad ควรเริ่มในขนาดที่สูงกอนเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดทันทีกอน 4. ผลคางเคียงของการใชยากลุม opioid analgesic ที่พบบอยคือ ทองเสีย 5. ยากลุม cox-2 มีผลตอการเกาะกลุมของเกล็ดเลือดมากกวากลุม cox-1 19. เมื่อแพทยพิจารณาแลวจึงจายยากลุม selective cox-2 ขอใดถูกตองเกี่ยวกับ cox-2 selective inhibitor 1. ในโครงสรางของยากลุม cox-2 inhibitor มี carboxyl group เปนสวนสําคัญที่ใชในการจับกันของ enzyme cox-2 2. ยากลุม cox-2 inhibitor ไมมผี ลขางเคียงตอกระเพาะอาหาร เนื่องจากยับยั้ง enzyme cox-2 ที่ กระเพาะอาหาร 3. ยากลุม cox-2 inhibitor แตละตัวมี cox-2/cox-1 selective ratio ที่แตกตางกัน 4. ยากลุม cox-2 inhibitor ทุกตัวไมสามารถใหผูปวยที่แพยากลุม sulfonamide ได 5. ยากลุม cox-2 inhibitor ออกฤทธิ์จับกับ cox-2 เทานั้นโดยไมสามารถจับกับ enzyme cox-1ได 20. diclofenac มี pKa=4.5 ดังนั้นในกระเพาะอาหาร (pH=1)…..เทาใด 1. 1000/1 2. 100/1 3. 1/1 4. 1/1000 5. 1/100 21. ยาบรรเทาการปวดขอเขาของผูปวยรายนี้ รายการใดไมสามารถไปเรียกซื้อไดแมมีใบสั่งแพทย 1. diclofenac injection 75mg/3 ml 2. dexamethasone injection 3. methadone tablet 10 mg 4. prednisolone tab 5 mg 5. rofecoxib tab 25 mg 22. เภสัชกรรานยาสามารถจายยาแกผูปวยรายนี้ ตามกรณีใดไดโดยไมผิด ตาม พรบ. ยา 2510 1. จายยา diclofenac tab 25 mg ที่เลยวันหมดอายุตามฉลากไปแลว 2 วัน 2. จายยา piroxicam cap 10 mg ที่ยังไมถึงวันหมดอายุตามฉลาก แตลักษณะเม็ดยากระดํากระดาง 3. จายยาเม็ด tolperisone 50 mg และ diclofenac 25 mg ใสในซองเดียวกัน อยางละ 1 เม็ดหลังอาหาร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
377
MCQ
4. นํายาเม็ด piroxicam 20 mg ซึ่งเปนตัวยาอยูในแผง 4 เม็ดมาแกะแผงออก ลงในกระปุกยาเดียวกัน ซึ่งซื้อมา จากบริษัทผลิตตางกัน 3 เดือน 5. นํายา refecoxib 25 mg ซึ่งซื้อมาจากรานคาปลอดภาษีที่สิงคโปรและมีราคาถูกกวาทําในประเทศไทย มาขายที่รานยา 23. คนไขที่ปวยเปน RA ไมควรไดรับยาใด 1. colchicines 2. prednisolone 3. diclofenac 4. celebrex 5. methrotexate 24. ขอใดคือความแตกตางระหวาง aspirin กับ Nsaid 1. aspirin มีผลปองกันหลอดเลือดอุดตัน แต Nsaid ไมมี 2. Nsaid ยับยั้ง lipooxygenase แต aspirin ยับยั้ง cox 3. apirin ยังยั้ง TXA 4. aspirin เปน non-selective สวน Nsaid เปน cox-2 inhibitor 25. ผูปวยเปน RA ใช aspirin แกปวดมาแลวหลายปแลว แพทยสั่งยา omeprazole รวมดวย และชวงนี้มีอาการ ปวดฟน จึงไดเพิ่มขนาด aspirin เมื่อถอนฟนเลือดจึงไหลออกมาเนื่องจากสาเหตุใด 1. aspirin ยับยั้งการสังเคราะห thromboxane 2. Antacid induced deficiency of vitamin K 3. antacid induced thrombocytopenia 26. aspirin มีกลไกการออกฤทธิ์ลดไขไดอยางไร 1. ยับยั้ง endotoxin ของเชื้อ 2. ยับยั้ง prostaglandin 3. ยับยั้ง thromboxane 4. ยับยั้งสารที่ถูกหลั่งจากการกระตุนจาก endotoxin ของเชื้อ 27. ขอใดตอไปนี้กลาวเกี่ยวกับ mefenemic acid ผิด 1. เปน non-selective cyclooxygenase inhibitor 2. มี gastric irritation เปน side effect อันหนึ่ง 3. หามใชในสตรีมีครรภ 4. เหมาะสําหรับใชในผูใหญและใชติดตอกันไมเกิน 1 อาทิตย 5. มี duration of action ยาวนาน 28. mefenemic acid มีฤทธิ์ตางๆดังตอไปนี้ ยกเวน? 1. analgesic effect 2. anti-inflammatory effect 3. anesthetic effect 4. antipyretic effect 5. antiplatelet effect 29. พืชที่ใชแกเคล็ดขัดยอกไดแกขอ ใด a. ไพล b. ขี้เหล็ก ( ยาระบาย, เจริญอาหาร ) c. ชุมเห็ดเทศ ( กลาก, เกลื่อน, ยาระบาย ) d. ขึ้นฉาย ( คุมกําเนิด )
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
378
MCQ
30. ยาใดใชเมื่อเปน acute gout a. colchicine b. probenecid c. sulfinpirazone d. allopurinal e. acetaminophen Case : นายเชษฐ อายุ 45 ป มีอาการปวดบริเวณนิ้วหัวแมเทา มีอาการรุนแรงมาก บวม เจ็บบริเวณขอมีอาการครั้งแรก 2 วัน 1. ผูปวยมีภาวะโรคใด a. RA b. OA c. Gout d. Hyperuricemia 2. เหตุผลในการวินิจฉัย a. ตรวจรางกาย b. ตรวจ WBC c. ตรวจ Uric acid 3. อาการใดที่ไมใชในการวินิจฉัย RA a. ขอฝดตอนกลางคืน ( gout) b. ขอบวมมากกวา 3 ขอ c. ขอบวมขอเดียวกันทั้ง 2 ขาง d. พบ Rheumatoid nodle e. พบ Rheumatoid factor ใน plasma 4. ยาใดที่ทําใหระดับ Uric acid ในเลือดสูงขึ้น a. HCTZ b. Furosimide c. Lisinopril d. Simvastatin 5. ยาใดที่ไมใชในผูปวย gout a. ASA b. Allopurinol ( ลดการสราง uric acid ) c. Probenecid ( ขับกรด uric ) d. Colchicine e. Indomethacin 6. ชวง acute attack ของ gout ใชยาอะไรไมได ตอบ Allopurinol 7. ผูปวยมาซื้อ Colchicine 50 เม็ด 7.1 ซักอะไรเพิ่ม ตอบ ใครกิน ? ซักประวัติอาการ ? (อาการอักเสบที่ขอเรื้อรัง) 7.2 จายใหหรือไม กี่เม็ด ตอบ จาย 10 เม็ด ถาวางใหไปร.พ. ตอ 7.3 แนะนํา ตอบ งด อาหารที่มี purine สูง เชน ที่มีมากในเนื้อสัตวปก เครื่องในสัตว และพืชผักยอดออน (หนอไม ถั่วงอก สะเดา ยอดผักออน แตงกวา)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
379
MCQ
โรคกระดูกและขอ 1. osteoporosis ในหญิงหมดประจําเดือนที่มีความดันโลหิตสูง และมีประวัติมะเร็งเตานมในครอบครัว ควรรักษาดวย ก. natural estrogen ข. Estrogen & progesterone ค. androgen ง. Calcitonin จ. GnRH 2. NSAIDs ที่ Induce gastropathy เลือกใช ก. misoprostal ข. omeprazole ค. sucrafate ง. lanzoprazole 3. ภาวะ cholinergic crisis จะสามารถแยกวินิจฉัยจาก myasthenia crisis ในคน myasthenia gravis ไดจากการที่ ก. ในภาวะแรก ถาคนไขไดรับ endrophonium test กลามเนื้อจะยิ่งออนแรงลง ข. ในภาวะหลัง คนไขจะมีอาการดีขึ้นเมื่อไดรับ atropine ค. ในภาวะแรก คนไขมักมีอาการปากแหง ผิวแหง และหัวใจเตนเร็วขึ้น ง. ในภาวะหลัง มักเกิดจากคนไขไดรับ anticholinesterase เกินขนาด จ. ในภาวะหลัง คนไขอาการจะดีขึ้น เมื่อไดรับ d-tubercurarine 4. ยาตอไปนี้ มีฤทธิ์ระงับอาการขออักเสบเฉียบพลันในผูปวย gouty arthritis ก. colchicines ข. Probenecid ค. sulfinpyrazone ง. allopurinol จ. acetaminophen 5. ลักษณะที่สําคัญของ Rheumatoid arthritis ก. เปนโรคระบบภูมิคุมกันที่ผูชายเปนมากกวาผูหญิง ข. อาการปวดขอจะเปน 2 ขาง พรอมกันเกิดกับขอเล็ก ๆ ค. เปนโรคเรื้อรัง ซึ่งสามารถรักษาใหหายขาดได ง. มีลักษณะเปนผื่นแพเมื่อโดนแสง จ. อาการปวดจะเกิดกับขอเล็ก ๆ ขอเดียวกอน 6. ระงับการอักเสบที่ไมไดนํามาใชในโรค rheumatoid arthritis คือขอใด ก. penicillamine ข. Colchicines ค. chloroquine 7. paracetamol ใชไดผลดีที่สุดในภาวะใดตอไปนี้ ก. บรรเทาอาการปวดในผูปวยมะเร็งระยะสุดทาย ข. บรรเทาอาการปวดกลามเนื้อ ค. บรรเทาอาการปวดหลังการผาตัด ง. การตานการอักเสบในผูปวย โรค rheumatoid arthritis จ. การตานการอักเสบในผูปวย gout arthritis 8. morphine มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ยกเวน ก. ลดปวด ข. กดการหายใจ ค. การเคลื่อนผานทางเดินอาหารของอาหารชา ง. รูมานตาขยาย จ. เคลิ้มสุข 9. ผูหญิงอายุ 24 ป มาขอซื้อยาแกปวดศีรษะ กอนมีอาการปวดศีรษะจะมีอาการตาพรา ตาลาย เมื่อ 5 วันกอนรับประทาน paracetamol 2 เม็ด พอเริ่มมีอาการจึงมาหาเภสัชกรที่รานขายยา ทานควรแนะนําอยางไร ก. ให flunarizine 1 เม็ด ถาไมดีขึ้น ใหกินเพิ่มอีก 1 เม็ด ข. ให cafegot 2 เม็ด ถาไมดีขึ้น ใหกินเพิ่มอีก 1 เม็ด ในครึ่งชั่วโมง ถาไมดีขึ้นใหกินเพิ่ม ได แตวันหนึ่งไมเกิน 6 เม็ด อาทิตยหนึ่งไมเกิน 10 เม็ด ค. 1, 2 ถูก
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
380
MCQ
กรณีศึกษา โรคกระดูกพรุนในหญิงหมดประจําเดือน นางฉันทนา อายุ 51 ป ไดรับใบสั่งแพทยดังนี้ Raloxifene HCI 60 mg # 60 1 tab OD Calcium carbonate 1000 mg # 60 1 tab OD สอบถามประวั ติน างฉั น ทนา ทราบวา ก อ นหน า มาพบแพทย ประจํา เดื อนมาไม ส ม่ํา เสมอมานาน 1 ป ครั้ ง สุด ทา ย ประจําเดือนขาดหายไป 6 เดือน คิดวานาจะหมดประจําเดือน จึงมาพบแพทยคลินิกวัยทองเพื่อตรวจรางกาย จากการตรวจ ความหนาแนนของกระดูก คา Z score อยูระหวาง -2.0 SD ถึง -2.5 SD แพทยจะใหฮอรโมนทดแทน แตนางฉันทนาไม อยากใช ขอใชยาอื่นที่ไมใชฮอรโมน 1. เกี่ยวกับ raloxifene ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง 1. raloxifene จัดเปนยากลุม pure estrogen antagonist ชนิด 2nd generation 2. raloxifene มีฤทธิ์ estrogenic ที่กระดูก และเมแทบอลิซึมของไขมัน 3. ฤทธิ์ antiestrogenic ของ raloxifene พบที่เตานมและเยื่อบุโพรงมดลูก 4. Tamoxifen มีฤทธิ์กระตุนการเจริญเติบโตของเยื่อบุโพรงมดลูกแตกตางกับ raloxifene ที่ไมมีฤทธิ์นี้ a. ไมควรใช raloxifene ในสตรีที่ยังไมหมดประจําเดือน 2. ขอใดตอไปนี้ไมไดอธิบายกลไกการออกฤทธิ์ของ raloxifene ตอกระดูก 1. raloxifene มีกลไกการออกฤทธิ์ตอกระดูกคลาย estrogen 2. เขาใจวา raloxifene ออกฤทธิ์โดยเพิ่มการแสดงออกของยีน TGF-3 ซึ่งมีผลตอจํานวนของเซลล สลายกระดูก 3. raloxifene มีผลยับยั้งเอนไซมใน mevalonate pathway มีผลยับยั้งการสังเคราะห isoprenoid compounds ซึ่งจําเปนตอกระบวนการ prenylation ของ small GTPase ซึ่งควบคุมการทํางานของ osteoclasts 4. raloxifene ออกฤทธิ์โดยการจับกับ estrogen receptor แลวมีผลตอการแสดงออกของยีน 5. AP-1 pathway เปน pathway หนึ่งที่ใชอธิบายการออกฤทธิ์แบบ estrogen agonist ของ raloxifene 3. ขอใดตอไปนี้ถูกตอง 1. ขอดีของ raloxifene เมื่อเปรียบเทียบกับการใช HRT คือ raloxifene ใชในคนไขที่ประวัติเปน/กําลัง เปนโรคหลอดเลือดอุดตันได 2. ฤทธิ์ขางเคียงที่อาจพบไดจากการใช raloxifene คือ อาการรอนวูบวาบ เปนตะคริวที่ขา 3. raloxifene มีขอบงใชคือ ใชปองกันและรักษาโรคกระดูกพรุนในผูหญิงหมดประจําเดือนและโรค กระดูก พรุนจากการใช corticosteroids 4. ใหรับประทาน raloxifene ตอนทองวาง เพื่อไมใหการดูดซึมถูกรบกวนจากอาหาร 5. raloxifene มีผลเพิ่ม BMD และลดอุบัติการณของการเกิด vertebral & hip fractures ไดอยาง ชัดเจนคลาย กับ estrogen นางฉันทนา กลับไปพบแพทยเพราะรําคาญฤทธิ์ขางเคียงที่เกิดจาก raloxifene แพทยจึงเปลี่ยนยาใหใหมเปน Alendronate 10 mg # 30 1 tab OD Calcium carbonate 1000 mg # 30 1 tab OD 4. กอนจายนี้ใหแกนางฉันทนา ทานควรใหคําแนะนําการใชยา ขอใดที่ไมถูกตอง 1. ใหรบั ประทาน alendronate ตอนทองวาง เชน ตื่นนอนตอนเชายังไมไดทาน/ดื่ม อะไร หรือ สองชั่วโมงกอนหรือ หลังรับประทานอาหาร 2. รับประทานกับน้ําเปลาเทานั้น หามรับประทานรวมกับน้ําผลไม นม หรือ เครื่องดื่ม ใดๆนอกเหนือจากน้ําเปลา 3. ไมเอนตัวหรือนอนขณะรับประทานยา หรือหลังรับประทานยาไมเกิน 30 นาที
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
381
MCQ
4. ใหรับประทาน alendronate และยาเม็ดแคลเซียมพรอม ๆ กัน 5. ถามีอาการกลืนอาหารลําบาก ปวดทอง ใหกลับไปพบแพทย 5. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง 1. alendronate จัดเปนกลุมยาในกลุม 2nd generation bisphosphonates ที่มีความแรงนอยกวา risedronate ซึ่ง เปน 3rd generation bisphosphonates 2. ในรายที่มี severe osteoporosis เมื่อใช HRT แลว BMD เพิ่มขึ้นนอยมาก อาจใหรวมกับ bisphosphonates ตัวใดตัวหนึ่ง จะชวยเพิ่ม BMD เพิ่มมากขึ้น 3. ยาในกลุม bisphosphonates ที่มีขอบงใชในการปองกันและรักษา osteoporosis ปจจุบันที่ใชอยูมี 2 ตัว คือ alendronate และ risedronate 4. การเพิ่มขนาดของยา alendronate และลดความถี่ของการรับประทาน เชน ให alendronate 70 mg ทาน สัปดาหละ 1 ครั้ง อาจลดอุบัติการณของการเกิด Oesophagitis ได 5. bisphosphonates มีกลไกการออกฤทธิ์คลายกับ estrogen คือ เพิ่ม apoptosis ของ Osteoclast โดยการเพิ่ม transcription ของ TGF-β3 ความรูเกี่ยวกับการเกิดโรคและการรักษา 1. ขออักเสบที่เปนกันมากในประชากรไทยมีอะไรบาง 2. ทานจะแยกความแตกตางระหวางโรคขออักเสบที่สําคัญ ๆ ตามขอ 1 ไดอยางไร 3. การบําบัดรักษาทําไดกี่วิธี 4. ยาที่ใช : NSAIDs, DMARDs, Colchicines, Allopurinol 4.1 จงอธิบายขอดี – ขอเสียของยา Conventional NSAIDs (Classical NSAIDs) กับ Coxibs family ในประเด็น 4.1.1 Gl adverse effect 4.1.2 Renal effect 4.2 DMARDs : ขอดี - ขอเสีย : ยาใหม Etamercept, Infliximab, Leflunomide ยาทั้งสามตัวมีกลไกการออกฤทธิ์ลดการอักเสบใน RA อยางไร 5. Acute gouty arthritis จะใชยาอะไรในการรักษา 6. Aspirin มีประโยชนหรือโทษในผูปวยโรค gout 7. Topical preparation สําหรับ RA และ OA มีผลิตภัณฑอะไรบาง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
382
MCQ เรื่อง Dermatology Case: นางสาวสมชาย เรียนอยูชั้นปที่1 มหาวิทยาลัยมีชื่อแหงหนึ่ง ไดเขามาที่รานยาที่ทานเปนเภสัชกรผูมีหนาที่ ปฏิบัติการเพื่อขอซื้อยารักษาสิวชนิดรับประทาน isotretinoin(Roaccutane®) รวมกับ benzoyl peroxide 5% และ clindamycin gel ชนิดทาโดยแจงใหทราบวาไดรับยาดังกลาวจากคลินิกโรคผิวหนังชื่อดังเมื่อ 2สัปดาหที่ผานมาแตเนื่องจาก คารักษาที่คลินิกดังกลาวมีราคาแพงมากจึงนําตัวอยางมาซื้อกับรานยา ขอ 1. ยา isotretinoin มีสูตรโครงสรางทางเคมีจัดอยูในกลุมสารประกอบประเภทใด ก. Alkaloid ข. Flavonoid ค. Glycoside ง. Retinoid จ. Terpenoid ขอ2. ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของ isotretinoin คือขอใด ก. anti-inflammatory ข. antimicrobial ค. antioxidant ง. astringent จ. comedolytic ขอ3. ขอใดถูกกตองเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของยารักษาสิว ก. isotretinoin ออกฤทธิ์โดยฆาเชื้อ P.acne ซึ่งเปนแบคทีเรียที่ไปยอยสลาย sebum เปน free fatty acid ซึ่งเปนตัวกระตุนกระบวนการอักเสบ ข. benzoyl peroxide ออกฤทธโดยไปยอย comedone และเรงการแบงตัวของepithelial cell จึงลดการ อุดตันของสิว ค. Doxycyclin ออกฤทธโดยฆาเชื้อ P.acne แตไมมีฤทธตานการทํางานของฮอรโมนเพศชาย ง. Isotretinoin สามารถเสริมฤทธตานการอักเสบของ benzoyl peroxide จ. ไมมีขอใดถูกตอง ขอ4. ยา isotretinoin ชนิดรับระทาน เหมาะสําหรับรักษาสิวที่มีลักษณะในขอใดมากที่สุด ก. coomedonal acne ข. noninflammatory acne ค. popular acne ง. pustule acne จ. nodulocystic acne ขอ5. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับผูปวยที่รับประทานยา isotretinoin ก. ขนาดยารวมในผูปวยปกติคือ 120-150 มก./กก. ข. ผูหญิง ที่รับประทานยานี้ตองคุมกําเนิดโดยวิธีอื่นๆยกเวนการรับประทานยาคุมกําเนิด ค. ผูปวยควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด เนื่องจากอาจเกิดภาวะผิวหนังไวตอแสง ง. อาการขางเคียงที่พบไดบอยไดแก หนาแหง ริมฝปากลอก จ. อาจมีระดับไตรกลีเซอไรดในเลือดสูง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
383
MCQ
ขอ6. ทานสามารถจายยารับประทาน isotretinoin ใหกับนางสาวสมชายไดหรือไม ก. ได เพราะเปนยาอันตราย ข. ได เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ ที่เคยไดรับการสั่งใชยาโดยแพทยมาแลว ค. ไมได เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ ตองมีใบสั่งยาจากแพทยประกอบการจายทุกครั้ง ง. ไมได เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ ที่ขายไดเฉพาะในคลินิกแพทยเทานั้น จ. ไมได เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ ที่ขายไดในโรงพยาบาลเทานั้น ขอ7. ในกรณีที่รานยาของทานไมมี clindamycin gel ยาชนิดอื่นที่ทานสามารถเลือกใชแทนและมีฤทธิ์ใกลเคียง กันมากที่สุดคือ ก. chloramphenical gel ข. erythromycin cream ค. benzoyl peroxide cream ง. benzoyl peroxide hydrophase gel จ. isotretinoin cream Case : ผูปวยหญิงวัยรุนอายุประมาณ 20 ป มาพบทานที่รานยาเพื่อขอซื้อยารักษาสิว ลักษณะสิวที่ พบมีทั้งแบบ papule และ pustule เปนมากบริเวณแกมทั้งสองขาง คาง และหนาผาก จากการซักประวัติผูปวยเปนสิวมาตั้งแตอายุ 13 ป หลังเริ่มมีประจําเดือน ประจําเดือนมาไมตรงกันทุกๆ เดือนๆ หางกันมากกวา 1 เดือนเปนครั้งละ 1-2 วัน ผูปว ยมีผิวมัน และขนตาม แขนขายาว ปฏิเสธโรคประจําตัว เดิมเคยรับประทานยาฆาเชื้อ เพื่อรักษาสิว อาการดีขึ้น บาง แต ยังเปนๆ หายๆ ปจจุบันทํางานในสถานบันเทิงทําใหตองนอนดึก ชอบดื่มน้ําอัดลมเปนประจํา 1. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับสิว ก. สิวเปนความผิดปกติของผิวหนังที่พบการอักเสบของรูขุมขน และตอมเหงื่อ ข. ภาวะที่รางกายมีฮอรโมน androgen สูงขึ้นจะทําใหการหลั่ง chemotactic factors สําหรับ PMN เพิ่มขึ้น ค. P. acnes จะยอยสลาย sebum ใหเปน glycerol และ free fatty acid ซึ่ง glycerol จะระคายเคืองและทํา ใหเกิดอาการอักเสบของผิวนัง ง. สวนประกอบสําคัญในยาคุมกําเนิดที่กระตุนทําใหเกิดสิวคือ ฮอรโมน progesterone จ. กรณีที่ follicular canal มีการขยายตัว จะเปนสิวชนิด open comedone ซึ่งมักมีการอักเสบรวมดวย 2. ผูปวยรายนี้ มีปจจัยเสี่ยงใดที่สําคัญที่สุดที่ทําใหเกิดสิว ก. การับประทานยาฆาเชื้อ ข. การอดนอน ค. การดื่มน้ําอัดลม ง. การมีฮอรโมน androgen จ. การที่ประจําเดือนมาไมสม่ําเสมอ 3. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการรักษาสิว ก. เปาหมายของการรักษาคือเพื่อรักษาสิวใหหายโดยมีแผลเปนนอยที่สุด ข. หลักการรักษาคือ การกําจัดความมันบนใบหนาใหหมดไปโดยสิ้นเชิง ค. ผูป ว ยทุกรายที่เปนสิวควรไดรับยาตานตุลชีพชนิดรับประทาน ง. การใชยาทาเฉพาะที่ตองใชเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงอยางเดียว จ. ผูปว ยหญิงที่เปนสิวทุกรายควรไดรับยาที่มีฤทธิ์ตานฮอรโมนแอนโดรเจน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
384
MCQ
4. ผูปวยรายนี้ควรไดรับยาใดในการรักษาสิว จึงจะเหมาะสมที่สุด ก. รับประทานยา antibacterial รวมกับทายา isotretinoin ข. รับประทานยา antibacterial รวมกับทายา benzylperoxide ค. รับประทานยา tretinoin รวมกับทายา antibacterial ง. ทายา isotretinoin รวมกับทายา antibacterial จ. ทายา isotretinoin รวมกับทายา benzyl peroxide 5. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับรักษาสิว ก. Benzoyl peroxide เปนยาที่มี antibacterial effect เปนหลัก ฤทธิ์รองลงมาเปน comedolytic และ exfoliative effect ข. Isotretinoin และ tretinoin เปนอนุพันธของ retinoid ที่มี comedolytic effect, antiinflammation และ exfoliative effect เปนหลัก โดยไมมี antibacterial effect ค. Systemic antibacterial ที่ไดผลดีในการรักษาสิวอักเสบคือ tetracycline, erythromycin และ clindamycin ง. การใช benzoyl peroxide รวมกับ tretinoin จะชวยเสริมฤทธิ์กัน แตการใชรวมกับ topical antibacterial จะเกิดการตานฤทธิ์กัน จ. Cyproterone acetate เปน progesterone ที่มี anti-androgenic effect เนื่องจากไปแยงจับตัวรับของ dihydrotestosterone 6. คําแนะนําในการรักษาสิวที่ไมเหมาะสมคือ ก. ควรทา benzoyl peroxide ในขณะที่ผิวแหงหรือหลังลางหนาเกินครึ่งชั่วโมง โดยทาทิ้งไวนานประมาณ 15 นาทีแลวลางออก เพื่อลดการระคายเคือง ข. ควรทา antibacterial agents หลังลางหนาเพื่อใหสามารถดูดซึมเขาสูผิวหนังไดดี ค. ควรทา tretinoin ในขณะผิวแหง โดยกรณีที่ผูปวยมีผิวมัน ควรเลือกใชผลิตภัณฑที่เปนครีม ง. ไมควรใหสตรีมีครรภรับประทานยา isotretinoin เนื่องจากอาจมีผลเสียตอทารกในครรภ จ. ผูปวยที่ทายา adaptalene ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และไมควรใชยานี้ในสตรีมีครรภหรือใหนมบุตร 7. ทานจะแนะนําผลิตภัณฑที่ใชทาหนาที่มีสวนผสมจากสมุนไพรในขอใดเพื่อใชทารวมกับยารักษาสิว เพื่อปองกัน ไมใหเกิดแผลเปน ก. บัวบก ง. หมอน ข. ขมิ้นชัน จ. แตงกวา ค. วานหางจระเข 8. อาหารประเภทใดที่ตองแนะนําใหผูปวยรายนี้งด หรือบริโภคใหนอยลง ก. อาหารที่มีไขมันและคารโบไฮเดรตสูง ข. อาหารที่มีโปรตีนและไฟเบอรสูง ค. อาหารที่มีวิตามิน และ แรธาตุสูง ง. อาหารที่มีเกลือและวิตามินสูง จ. อาหารที่มีรสเผ็ดและรสเปรี้ยว 9. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยา benzoyl peroxide ก. เปนยาควบคุมพิเศษ ข. เปนยาแผนปจจุบัน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
385
MCQ
ค. เปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตประสาท ง. เปนวัตถุเสพติดใหโทษประเภท 3 จ. เปนยาสามัญประจําบาน 10. หากผูปวยรายนี้ตองการใชยาคุมกําเนิดเพื่อคุมกําเนิด และตองการใหมีผลดีตออาการสิวที่เปนอยู ทานจะแนะนํา ยาคุมที่มีสวนผสมใดตอไปนี้ ก. norethindrone acetate 3 mg & ethinylestradiol 0.05 mg ข. desogestral 0.15 mg & ethinylestradiol 0.03 mg ค. ethynodiol diacetate 1 mg & ethinylestradiol 0.045 mg ง. cyproterone acetate 2 mg & ethinylestradiol 0.035 mg จ. levenorgestrel 0.15 mg & ethinylestradiol 0.025 mg Acne 1. ยารักษาที่ไมไดมีฤทธิ์ตานจุลชีพแตมีฤทธิ์รักษาสิว 1) Clindamycin 3) Isotretinoin 2) Erythromycin 4) Benzyl peroxide 2. Cyproterone รักษาสิวโดย 1) ยับยั้ง bacterial colonization 2) ฤทธิ์ยับยั้ง androgen เพื่อลดการสราง sebum 3) ขยายตอมไขมัน 4) มีฤทธิ์ชวย ketolysis agent ทําใหหัวสิวหลุดโดยไมกอการอักเสบอยางตอเนื่อง 3. ขอใดผิดเกี่ยวกับการใช Steroid drug 1) ใชรวมกับยาตานเชื้อราไดเพื่อลดอาการติดเชื้อ 2) ใชกันเมื่อมีอาการแพอากาศ แมลงสัตวกัดตอย 3) ออกฤทธิ์ตอ receptor ที่ epidermal cell 4. Isotretinoin ขอใดถูกตอง 1) ควรระมัดระวังในหญิงตั้งครรถหรืออยูในระหวางตั้งครรถเพราะอาจทําใหทารกเกิด teratogenicity ได 2) สามารถทําใหผิวนุมได 3) กระตุนการหลุดลอกของ sebum 4) สามารถบํารุงผิวและใหการปกปองผิวจากแสงแดด สถานการณ ผูปวยหญิงไทยคูอายุ 28 ป มาพบเภสัชกรที่รานยาเพื่อชื้อยารักษาสิว 5. ขอใดสัมพันธกับการเกิดสิวนอยที่สุด 1) พันธุกรรม 4) ภาวะเครียด 2) ยา steroid 5) อาหารประเภทไขมันสูง 3) ฮอรโมนเพศไมสมดุล 6. ขอใดผิดเกี่ยวกับวิธีการรักษาสิว 1) การลดการทํางานของตอมไขมัน 2) สิวอักเสบและสิวไมอักเสบ มีวิธีการรักษาแตกตางกัน 3) การรักษาสิวที่ดีตองเริ่มดวย systemic antibiotic 4) มีฮอรโมนบางชนิดใชรักษาสิวได 5) การใช antibiotic รักษาสิวตองใชติดตอกันเปนระยะยาว
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
386
MCQ
7. ขอใดผิดเกี่ยวกับ Isotretinoin 1) เปนอนุพันธุของ vitamin A ที่ดูดชึมไดดีในทางเดินอาหาร 2) จัดเปน drug of choice สําหรับการรักษาสิว 3) ใชไดกับสิวที่ไมตอบสนองตอการรักษาดวยวิธีอื่น 4) หามใชในคนที่ตั้งครรถ 5) ทําใหระดับ serum triglyceride สูงขึ้น 8. ยาครีม Isotretinoin 0.05% จัดเปนยาประเภทใดตาม พรบ. ยา 1) ยาใชภายนอกที่ไมใชยาอันตราย 2) ยาใชภายนอกและยาอันตราย 3) ยาใชภายนอกและยาควบคุมพิเศษ 4) ยาใชเฉพาะที่และยาอันตราย 5) ยาใชเฉพาะที่และยาควบคุมพิเศษ 9. ยาทาภายนอกของ poeriasis 1) Retinoid 3) Methotrexate 2) Coal tar 4) tarelotnum 10. ยากันแดดที่มี SPF 15 หมายความวา 1) ปองกันแสง UVได 15% 2) ยอมใหแสง UVผานได 15% 3) ผิวหนังที่ทายาสามารถรับแสงแดดไดมากกวาผิวหนัง 15 เทา 4) ผิวหนังปองกันแสงแดดได 85% 5) ผิวหนังปองกันแสงแดดได 15% 11. รังแค 1) เกิดเฉพาะจากการติดเชื้อราที่ศรีษะเทานั้น 2) เกิดจากการแพแชมพู ยายอมผม ยาใสผม 3) แกไขไดโดยใชแชมพูผสมยาตานเชื้อรา 4) จะลดลงอยางรวดเร็วเมื่อใชครีมนวดหลังจากสระดวยแชมพูผสมยาตานเชื้อรา 5) ควรรับประทานไขมันมากๆ เพื่อปองกันหนังศรีษะแหง 12. ผูปวยรายหนึ่งมีประวัติเปน DM type 2, HT,PU มาพบแพทยเพราะมี contact dermatitis หลังจากไปทําความสะอาด บาน ซักผา มีอาการผื่นแดงขึ้นและตุมน้ําขึ้นทั่วมือ งามเทาและลําตัว แพทยจายยา Prednisolone และ Diphenhydramine ไปรับประทาน อยากทราบวาการจายยาทั้งสองจะมีปญหาบางหรือไม 1) ควรใช Prednisolone ชนิดทาแทนชนิดรับประทาน 2) ควรให calamine ทาแกคันไปดวย 3) Diphenhydramine มี sedative effect มากเกินไป อาจเปลื่ยนเปน terfenadine 4) Prednisolone จะทําใหอาการโรคประจําตัวของผูปวยกําเริบทั้ง DM, HTและPU 5) ไมไดให antibiotic ไปอาจทําใหเกิดการติดเชื้อและเปนแผลเปนได 13. การดูอาการ photosensitivity ที่เกิดขึ้นเปนผลจากยาที่ใชใชอยูดูไดจาก 1) ใชยาที่ทําใหเกิด photosensitivity เชน amiodarone, sulfonamide 2) หลังจากใชยาแลวไปโดนแสงจะมีอาการ sun burn หรือผื่นแดงบริเวณที่ถูกแสงเชน หนา คอ หลังมือ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
387
MCQ
3) มีอาการ SLE รวมดวย 4) อาการไมหายแมไมถูกแสงแดดแตหยุดยาอาการจะคอยๆหายไป 5) จะเกิดอาการแมแตโดนแสงไฟจากหลอดไฟธรรมดาที่อยูในบาน 14. คนไขที่บวมที่หนา ลําคอ แขน หลังมือ ตอมาลามไปทั่วรางกายบริเวณที่ไมถูกแสง ประวัติการใชยา 3 ป ทีผ่ านมาใช HCTZ ตอมาเพิ่งเปลื่ยนเปน Furosemide แพทยวินิจฉัยวาเกิด photosensitivity จาก Furosemide แพทยรักษาหาย แลวจะใหครีมกันแดด ยากันแดดใดที่ไมควรจายแกคนไขรายนี้ 15. ยาใดไมสามารถรักษาหิด 1) 1% Gamma benzene hexachroride 2) 25%suspension of benzyl benzoate 3) 5-10% whitfied ointment 4) erotamition 5) topical imidazole derivative agent
กรณีศึกษา กลาก ผูปวยชายไทย เปนบริเวณ ……. คัน ขอบสีแดง เปนเพิ่มเรื่อยๆ ขยายวงกวาง 1. เกิดจากเชื้อตัวไหน 2. ใชยาอะไรรักษา 3. จะจายยาอยางไร 4. Ketoconazole มีกลไกการออกฤทธิ์อยางไร 5. ใหสูตรโครงสรางยาตานเชื้อรามา 5 ตัว ถามวาตัวไหนละลายน้ําดีที่สุด 6. ยา ketoconazole แตละบริษัท มีประสิทธิภาพเทากัน จะใชวิธีทางเศรษฐศาสตรใด 7. เมื่อไดรับยา benzoyl peroxide ในการรักษาสิว คําแนะนําใดที่เภสัชกรไมควรแนะนํา เมื่อผูปวยใชยาเปนครั้งแรก ก. ยานี้มีความไวตอแสงมาก ไมควรออกแดด ข. ใหหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑที่มี alcohol เปนสวนประกอบ ค. ใหทายา 15 – 20 นาทีแลวลางออกทันที ง. ยานี้มีคุณสมบัติลดไขมันที่ผิวหนัง จ. ถามีอาการหนาแดง แหง ใหหยุดยาทันทีแลวกลับไปพบแพทย 8. ยา Isotretinoin จัดเปน pregnancy categories ใด ก. A ง. X ข. C จ. D ค. B 9. ยา isotretinoin ถาตองการตั้งครรภตองหยุดยานานเทาใด ก. 1 เดือน ข. 3 เดือน ค. 6 เดือน ง. 12 เดือน จ. ไมจําเปนตองหยุดยา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
388
10. การใชยารักษาโรคผิวหนัง ขอใดผิด ก. สิวไมอักเสบ – ใช retinoic acid ทาวันเวนวัน ข. สิวอักเสบ – ใช benzoly peroxide ทาวันละครั้ง ค. เชื้อราที่เล็บ – กิน itraconaxole 200 mg วันละครั้ง นาน 2 สัปดาห ง. Herpe simplex – กิน acyclovir 200 mg วันละ 5 ครั้ง นาน 5 วัน จ. Herpe zoster – กิน acyclovir 800 mg วันละ 5 ครั้ง นาน 7 วัน 11. เชื่ออะไร เปนสาเหตุของเกลื้อน ก. Ancylostoma brazilioonse ข. Candida Albicans ค. Mycosporum canis ง. Malassezia furfur จ. Ticophyton rubrum 12. Whitfield ointment มี salicylic acid ทําหนาที่อะไร ก. Anti-inflammatory ข. Analgesic ค. Keratolytic ง. Local anesthetic จ. Antipyretic 13. ยารักษาเชื้อราที่มีฤทธิ์เฉพาะที่เทานั้น ก. Clotrimazole ข. Ketoconazole ค. Grisofluvin ง. Terbinafine จ. Dluconazole โรคผิวหนัง 1. ยาใดไมสามารถรักษาหิด ก. 1% Gamma benzene hexachloride ข.25% Suspension of benzyl benzoate ค. 5-10% Whitfild ointment ง.crotamition จ. topical imidazole derivative agent 2. หิดควรใช ก. benzyl benzoate 25% ข.Gamma benzene hexachloride ค. benzoyl peroxide ง.burrow’s solution จ. ก . ข ถูก 3. ยารักษาที่ไมไดมีฤทธิ์ตานจุลชีพแตฤทธิ์รักษาสิว ก. Clindamycin ข.Erythomycin ค. Isotretinoin ง. Benzyl peroxide 4. Cyproterone รักษาสิวโดย ก. ยับยั้ง bacterial colonization ข.ฤทธิ์ยับยั้ง androgen เพื่อลดการสราง sebum ค. ขยายตอมไขมัน ง. มีฤทธิ์ชวย keratolytic agent
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
389
MCQ
5. MTX อาจนําไปใชประโยชนทางคลินิกเพื่อรักษา ก. Acne ข.Psoriasis ค. Seborrhea ง.Verruca plana 6. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการรักษาเชื้อรา ก. Hair 2-3 week ข. Finger need 2-3 week ค. เมื่อรอยโรคหายแลวตองทานตออีกระยะ ง. เมื่อติดเชื้อราที่ผิวหนังมีแตยาทาไมมียากิน 7. ยากันแดดที่มี SPF 15 หมายความวา ก. ปองกันแสง UV ได 15% ข. ยอมใหแสง UV ผานได 15% ค. ผิวหนังที่ทายานี้สามารถรับแสงไดมากกวาผิวหนัง 15 เทา ง. ผิวหนังปองกันแสงแดดได 85% 8. ยาทาภายนอกของ Psoriasis ก. Retinoid ข. Coal tar ค. Methrotexate ง. Tarclonium 9. เมื่อไดรับ Benzyl peroxide ในการรักษาเภสัชกรไมควรแนะนําเมื่อผูปวยใชเปนครั้งแรก ก. ยานี้มีความไวตอแสงมาก ไมควรออกแดด ข. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑที่มี alcohol เปนสวนประกอบ ค. ทายานี้ 15-20 นาที แลวลางออกทันที ง. ยานี้มีคุณสมบัติลดไขมันที่ผิวหนัง 10. ยาตานเชื้อราใดที่มีผลขางเคียง ทําใหผิวหนังของผูปวยมีความไวตอแสงมาก จนอาจทําใหแสบผิวหนังเมื่อถูกแสงเปน เวลานานได ก. Whitfield ointment ข. Sodium thiosulfate ค. Ketoconazole ง. Itraconazole จ. Griseofulvin 11. สมุนไพรที่ใชรักษาโรคกลากเกลื้อน ก. กระเทียม ข. วานหางจระเข ค. ใบชาพลู ง. ไพล 12. สวนประกอบของ Whitfield ointment = Benzoic acid 6% + salicylic acid 3% 13. ขอใดไมควรใชรวมกับยารักษาเริม ก. Dicloxacilin tablet ข. CPM ค. Calamine lotion ง. Corticosteroid cream จ. Dicloxacilin capsule 14. คุณอนงคเปนตุมคันตั้งแตเมื่อวาน เนื่องจากกินเกาลัดใชปากปอกครึ่งกิโลกรัม ทานคิดวายาตัวใดเหมาะสม ก. Anti histamine tablet ข. Calamine lotion ค. Corticosteroid cream ง. Diclofenac gel จ. Diazepam tablet 15. ขอใดเปนปญหาของเริม ตอบ เชื้อมีการหลบซอนตัวอยูในปมประสาท 16. คุณอนงคมีอาการคันอยางเดียว ควรถามอะไรตอ ก. นอนดึกรึเปลา ข. มีคนสนิทเปนรึเปลา ค. ทานอาหารสุกๆดิบๆรึเปลา ง. เปลี่ยนเครื่องสําอางใหมรึเปลา จ. เปนมานานรึยัง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
390
MCQ
17. สารสกัดยาสมุนไพรแกเริมมีขอดีขอเสียอยางไร ก. ขอดี ไมแพ มาจากธรรมชาติ ข. ขอดี ปลูกงาย ราคาถูก ค. ขอเสีย ทํายาก หลายขั้นตอน ง. ขอเสีย ไมคงตัว ตองเก็บในที่เย็น จ. ถูกทุกขอ กรณีศึกษาที่ 1 สตรีอายุ 23 ป นําใบสั่งแพทยมาขอซื้อยาจากทาน ซึ่งเขียนดังนี้ Roaccutane 20 mg 30 tab Sig One tab OD 1. ทานจะถามขอมูลอะไรเพิ่มเติมบาง 2. สตรีผูนี้กําลังจะแตงงานในอีก 3 เดือนขางหนา ทานจะแนะนําอะไรบาง 3. อาการขางเคียงที่ทานคิดวาจะเกิดขึ้นอยางแนนอนในทุกคนที่ใชยานี้คืออะไร เนื่องจากอะไร และทานมี ขอแนะนําอยางไร กรณีศึกษาที่ 2 มารดาพาบุตรชายอายุ 3 ขวบ มาขอซื้อยาเนื่องจากมีอาการแสดงผิดปกติที่ศีรษะมีลักษณะเปนวง 1 วง ผิวหนังบริเวณนั้นอักเสบ มีเสนผมขาดอยู 1. ทานคิดวาเด็กชายคนนี้เปนโรคอะไร 2. ทานจะใชยารูปแบบใด อธิบายเหตุผล 3. ทานจะเลือกใชยาอะไร เพราะอะไร 4. อาการผิดปกติทางผิวหนังที่บริเวณอื่นๆ ของรางกายที่เกิดจากสาเหตุเดียวกับโรคของเด็กชายคนนี้ สามารถรักษาไดดวยสมุนไพรชนิดใดบาง กรณีศึกษาที่ 3 สตรีอายุ 30 ป มีตุมน้ําใสขึ้นบริเวณริมฝปากมาขอซื้อยาจากทาน 1. ทานจะซักถามขอมูลใดบาง 2. ยาเตรียมที่ใชสําหรับอาการดังกลาวควรอยูในรูปแบบใด 3. มียาอะไรที่ใชรักษาผื่นดังกลาวไดบาง และจะแนะนําวิธีใชอยางไร ( รวมถึงสมุนไพรดวย ) 4. ทานจะแนะนําใหผูปวยปฏิบัติตนอยางไร 5. ผูปวยอยากไดยาทาน ทานจะจายหรือไม กรณีศึกษาที่ 4 มารดาพาบุตรสาวอายุ 8 ป มาขอซื้อยาพรอมใบสั่งแพทยขอใหจายยารักษาหิดใหกับเด็กผูนี้ 1. มารดาเด็กถามวาหิดเกิดจากเชื้ออะไร 2. ทานจะจายยาอะไรไดบาง จายอยางไร 3. ยารูปแบบเจลและครีมที่ขายในทองตลาดมีความแตกตางกันอยางไร 4. ทานจะแนะนําอะไรเพิ่มเติมอีกบาง 5. สมุนไพรที่อาจจะนํามาใชในการรักษาหิดมีอะไรบาง กรณีศึกษาที่ 5 นักศึกษาชายนําใบสั่งแพทยมาขอซื้อยาดังนี้ Retin A 0.05% 20 g Apply as directed 1. ใหทานเขียนฉลากยา 2. ในกรณีที่นักศึกษาพึ่งเริ่มใชยานี้เปนครั้งแรก ทานคิดวาความแรงของยาตามที่ระบุใบสั่งแพทยมีความ เหมาะสมหรือไม เพราะเหตุใด 3. จงใหคําแนะนําเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใชยานี้
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
391
MCQ
4. นักศึกษาถามวาจะใชยานี้รวมกับ panoxyl ไดหรือไม ทานจะแนะนําอยางไร 5. กลไกการออกฤทธิ์ของ Retin A และ Panoxyl แตกตางกันอยางไร 6. ถาทานไดรับมอบหมายใหเตรียมตํารับยาที่มีตัวยาสําคัญเปนชนิดเดียวกับ Panoxyl ขอควรระวังที่ทานตอง คํานึงถึงคืออะไร กรณีศึกษาที่ 6 นักศึกษาชายมาของซื้อยาแกคันในรมผา 1. ทานจะซักถามขอมูลใดบาง 2. ทานคิดวาเขาเปนโรคอะไร จะจายยาอะไร รูปแบบใด 3. ทานจะแนะนําอะไรเพิ่มเติมบาง กรณีศึกษาที่ 7 ชายอายุ 40 ป นําตัวอยางยา Dermovate มาขอซื้อจากทาน 1. ทานจะซักถามขอมูลใดเพิ่มเติมบาง 2. เขาบอกวาจะเอาไปทาแกยุงกัดใหกับบุตรชายอายุ 1 ขวบ และ 4 ขวบ ทานจะจายยาตามที่เขาตองการ หรือไม เพราะเหตุใด ถาไมจาย ทานจะจายยาชนิดใด 3. ขอแนะนําในการใชยากลุมนี้ มีหลักการอยางไร 4. จะซื้อยาแกแพไปทานดวยจะไดหรือไม 5. ถาจะแนะนําสมุนไพร ควรใชสมุนไพรชนิดใด กรณีศึกษาที่ 8 มารดามาขอซื้อยาแกเหาใหบุตรสาวอายุ 7 ขวบ 1. ทานจะซักถามขอมูลใดเพิ่มเติมบาง 2. ทานจะจายยาใด แนะนําวิธีใชดวย 3. ถาจะใชยา anti histamine รวมดวยจะไดหรือเปลา ทานคิดวาควรเลือกใชยาชนิดใด 4. สมุนไพรชนิดใดสามารถใชรักษาเหา และมีวิธีใชอยางไร กรณีศึกษาที่ 9 นักศึกษาคณะเภสัชศาสตรไปเก็บตัวอยางตนไมในสวนของคณะ โดยตัวบุง มีผื่นแพและคันมาก วิ่งมาที่รานยาขอซื้อ ยากับทาน 1. ทานจะแนะนําอะไรบาง และจายยาใด 2. สมุนไพรที่อาจใชในกรณีมีอะไรบาง 3. ถามนักศึกษาผูนี้มีอาการมากถึงขั้นน้ําเหลืองไหล ทานจะใหตําแนะนําอยางไร และจายยาอะไร 4. อีก 4 วันถัดมา เขากลับมาหาทาน บอกวายาที่ใหไปไมชวยใหอาการดีขึ้น ทานจะแนะนําอยางไร เพราะเหตุ ใด 5. กลไกการออกฤทธิ์ตานอาการแพของยากลุม anti histamine และกลุม steroid แตกตางกันอยางไร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
392
MCQ
MCQ เรื่อง GI 1.การใชยาลดกรดในขอใดตอไปนี้ในขนาดสูงติดตอกันเปนเวลานาน จะทําใหเกิด acid rebound ก. Aluminium hydroxide ง. Hydrogen peroxide ข. Sodium bicarbonate จ. Sodium chloride ค. Calcium carbonate 2.ขอใดผิดเกี่ยวกับการใชยา Bisacodyl ก. หามใชในหญิงตั้งครรภ ข. หามใชกับยาลดกรด ค. ใชเตรียมผูปวยกอนการผาตัด ง. มีผลกดระบบประสาทสวนกลาง 3.ถาตองการใชยาระบายเพื่อออกฤทธิ์ทันที ควรใชขอ ใด ค. Bisacodyl ก. Psylium ข. Senna ง. Enema 4.สารอนินทรียใดมีคุณสมบัติเปนยาถายหรือยาระบาย ซึ่งสามารถใหหลังจากที่ไดรับยา niclosamide แลว ก. Mg(OH)2 ง. Na2CO3 ข. Al(OH)3 จ. NaCl ค. Na2SO4 Case : ผูปวยหญิงอายุ 43 ป เปนริดสีดวงทวาร มาขอปรึกษาเรื่องการใชยาและการปฏิบัติตน 1. ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวาร ก. มักมีถายอุจจาระเปนเลือดสีคล้ําดํา ข. ริดสีดวงแบงออกเปน 2 ประเภท คือริดสีดวงภายในและริดสีดวงภายนอก ค. ริดสีดวงภายใน คือ การที่เนื้อเยื่อของทวารหนัก ที่อยูสูงกวา dentate line เลื่อนตัวลงมาทางปาก ทวารหนัก ทําใหเกิดอาการเลือดออกขณะถายอุจจาระ หรือยื่นออกมาจากขอบทวารหนัก ง. ริดสีดวงภายนอก คือเนื้อเยื่อที่อยูใต dentate line ยืดออกเปนติ่งเนื้อ จ. สาเหตุของการเกิดริดสีดวงทวารคือการมีภาวะตาง ๆ ที่ทําใหความดันในหลอดเลือดดําบริเวณ ทวารหนักสูงขึ้น เชน การเบงถายอุจจาระเนื่องจากการทองผูกหรือทองเสียบอย ๆ 2. ผลิตภัณฑยาในขอใดมีขอบงใชเกี่ยวของกับโรคริดสีดวงทวารนอยที่สุด ก. Proctosedyl ง. Essaven ข. Anusal จ. Siduol ค. Bactroban 3. ยารับประทานแกโรคริดสีดวงทวารที่นิยมใชไดแก Daflon 500 mg ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ DAFLON 500 mg, is a Micronized Purified Flavonoic Fraction (MPFF) containing 90% of Diosmin and 10% of flavonoids expressed as Hesperidin. Hesperidin is extracted from a species of Rutaceae aurantieae of the citrus genus, a type of immature small orange harvested and dried in Spain, North Africa, and China. Diosmin, a member of the flavonoid family, is synthesized starting from this raw material.
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
393
MCQ
เหตุผลหลักที่พัฒนาสวนสกัด (fraction) ใหอยูในรูป Micronized form คือ ก. เพิ่มความคงตัว ข. เพิ่มการดูดซึมในทางเดินอาหาร ค. ลดการเกิด drug interaction กับยาอื่น ง. ลดผลขางเคียงที่อาจเกิดจากยานี้ จ. ลด bioavailability 4. ขอใดเปนขนาดใชของยา Daflon 500 mg ในระยะเกิด Hemorrhoidal attacks ก. 2 tablets daily ข. 6 tablets daily for 4 days followed by 4 tablets daily for 3 days ค. 4 tablets daily for 4 days followed by 3 tablets daily for 3 days ง. 1 tab tid pc for 5 days จ. 1 tab OD Case : ผูปวยเด็กชายไทย อายุ 10 ป มีอาการทองเสีย ถายเปนน้ํา ไมมีไข ไมมีคลื่นไสอาเจียน ยาที่ผูปวยไดรับคือ - Disento PF suspension (Per 15 mL Furazolidone 50 mg, Pectin 150 mg, light kaolin 3 g) 1 ขวด - Oreda (Per packet (for150 mL) Glucose anhydrous 3 g, NaCl 0.53 g, KCl 0.23 g, Na citrate dehydrate 0.44 g) 5 ซอง 1. ทานคิดวาผูปวยมีภาวะทองเสียจากสาเหตุใด จําเปนตองใชยาปฏิชีวนะหรือไม ก. ไทฟอยด จําเปนตองใชยาปฏิชีวนะ ข. บิดมีตัว จําเปนตองใชยาปฏิชีวนะ ค. บิดไมมีตัว ไมจําเปนตองใชยาปฏิชีวนะ ง. อหิวาต จําเปนตองใชยาปฏิชีวนะ จ. อาหารเปนพิษ ไมจําเปนตองใชยาปฏิชีวนะ 2. คําแนะนําในขอใดไมถูกตอง ก. สามารถเตรียมผงน้ําตาลเกลือแรเองได โดยใชน้ําตาลทรายผสมกับเกลือแกง ข. เมื่อละลายผงน้ําตาลเกลือแรแลว ควรใชภายใน 24 ชั่วโมง ค. ควรใหดื่มนมที่ชงเขมขนกวาปกติเพื่อชดเชยน้ําที่สูญเสียไป ง. ลางมือดวยน้ํากับสบูทุกครั้งกอนรับประทานอาหาร จ. กินอาหารสุก ไมมีแมลงวันตอม 3. การให Kaolin – Pectin แกผูปว ยเพื่อ ง. ดูดน้ําเขาหาตัว ก. ดูดซับสารพิษ จ. เพิ่มการดูดกลับน้ําและอิเลคโตร ข. บรรเทาการสูญเสียน้ําและเกลือ ไลท แรจากรางกาย ค. มีคุณสมบัติเปนประจุบวก 4. เพราะเหตุใดจึงหามใช Norfloxacin ในเด็กอายุต่ํากวา 12 ป ก. ทําใหคลื่นไส ข. ทําใหปวดศีรษะ ค. ทําใหเกิดความผิดปกติในการเจริญเติบโตของขอกระดูก ง. ทําใหเกิดความผิดปกติในการทํางานของตับและไต จ. ทําใหเกิดภาวะช็อค
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
394
MCQ
จงใชขอมูลจากสมการขางลางนี้ ตอบคําถามขอ 5 และ 6 สมการแสดงปฏิกิริยาของสารที่ใชเตรียม Effervescence ORS 3NaHCO3 + C6H8O7.H2O + 4H2O → C6H5Na3O7 + 3CO2 + 8H2O Sod.Bicarbonate Citric acid monohydrate (MW 84) (MW 210) 2NaHCO3 + C4H6O6 + 4H2O → C4H4Na2O6 + 2CO2 + 6H2O Sod.Bicarbonate Tartaric acid (MW 84) (MW 15o) 5. ในการเตรียม ORS ใช Citric acid monohydrate : Tartaric acid ในอัตราสวนเทากับ 1:2 จงคํานวณหา ปริมาณ sodium bicarbonate ที่ตองการ เมื่อใชปริมาณรวมของ citric acid monohydrate และ tartaricaaicd เปน 3 กรัม ก. 1.20 กรัม ง. 3.44 กรัม ข. 2.24 กรัม จ. 5.64 กรัม ค. 3.00 กรัม 6. เพราะเหตุใดจึงตองเก็บ Effervescence ORS ไวในซองที่ปดสนิท ก. Citric acid สลายตัวไดงายเมื่อถูกแสง ข. ความชื้นจะทําใหเกิดฟองฟูกอนการนําไปใชจริง (premature effervescence) ค. ออกซิเจนทําให Tartaric acid เปลี่ยนไปเปน Tartic acid ง. ออกซิเจนกระตุนใหเกิดปฏิกิริยาระหวาง sodium bicarbonate กับ citric acid จ. อากาศจะทําให citric acid monohydrate สูญเสีย water of hydration 7. จากสูตร ORS ที่กําหนดให จงคํานวณหา mOsmol ของ NaCl (MW NaCl = 58.5) ORS Formulation g/L Sodium chloride 2.6 Glucose anhydrous 13.5 Potassium chloride 1.5 Trisodium citrate dehydrate 2.9 ก. 44.44 ง. 85.00 ข. 75.88 จ. 88.89 ค. 80.58 8. Pectin พบมากในสวนเปลือกของพืชวงศ Rutaceae เชน สมโอ จัดเปนสารประเภทใด ก. Carbohydrate ง. Lipid ข. Glycoprotein จ. Protein ค. Glycolipid 9. ขอใดผิด เกี่ยวกับขอบงใชยาสมุนไพร วิธีรับประทาน ที่สามารถแนะนําใหเด็กไดรับประทานพอบรรเทา อาการทองเสียหากไมสามารถหายาแผนปจจุบันได ก. เปลือกมังคุดตากแหง ตมกับน้ํา รับประทานทุก 2 ชั่วโมง ระวังทองผูก ข. ฟาทะลายโจรสด 1-3 กํามือ ตมน้ําดื่มกอนอาหารวันละ 3 ครั้ง ค. ใบฝรั่งยางไฟใหกรอบ 10-15 ใบ ตมน้ําดื่ม 1 แกว ดื่มตางน้ํา ง. ขิง เหงาสดและแหง ตมกับน้ําดื่มตางน้ํา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
395
MCQ
จ. เปลือกทับทิมแหง ตมกับน้ํา ดื่มวันละ 2 ครั้ง เชาเย็น 10. ขอใดผิด หากผูปวยเลือกซื้อและใชยาที่มีฤทธิ์ระงับการถายเอง ก. ในสังคมไทย คุณแมสามารถเลือกซื้อยา Loperamide ใหลูกไดโดยเสรีตามรานชําทั่วไป ข. หากเด็กใชยา Loperamide เกินขนาดอาจทําใหทองผูกและอาการของโรคยิ่งรุนแรงขึ้น ค. Diphenoxylate ไมมีผลทําใหเสพติด เชนเดียวกับ Loperamide ง. Loperamide เปนยาที่ตามกฎหมายไมสามารถจําหนายในรานยาประเภท ข (ไมมีเภสัชกร)ได จ. การซื้อยา Diphenoxylate ในรานยาที่มีเภสัชกรตามกฎหมาย ตองมีใบสั่งจายยา Case : ชายไทยอายุ 40 ป มีอาการปวด จุกบริเวณใตลิ้นป มาขอซื้อยา ลดกรดในรานยา เภสัชกรไดจาย AlOH3 + MgOH2 suspension 1 ขวด 1. เหตุผลหลักในการตั้งตํารับ ยาลดกรดที่มีทั้ง AlOH3 และ MgOH2 เพราะ ก. ใหยาทั้งสองแตกตัวไดดียิ่งขึ้น ข. ลดผลขางเคียงซึ่งกันและกัน เนื่องจาก AlOH3 ทําใหเกิดอาการทองผูก ค. ลดผลขางเคียงซึ่งกันและกัน เนื่องจาก AlOH3 ทําใหเกิดอาการทองเสีย ง. เพิ่มความคงตัวของตํารับ จ. ลดอาการคลื่นไสอาเจียน เมื่อใชยาลดกรดตัวเดียว 2. ตอมา มีอาการไมดีขึ้น จึงไปพบแพทย ที่โรงพยาบาล แพทยจายยาดังนี้ Omeprazole 20 mg วันละ 2 ครั้ง รวมกับ Clarithromycin 500 mg วันละ 2 ครั้ง และ Amoxycillin 1000 mg วันละ 2 ครั้ง ทานคิดวาแพทยวินิจฉัยวา ชายไทยนี้ ปวยเปนโรคอะไร ก. Dyspepsia ข. Peptic ulcer ค. Heart burn ง. Constipation จ. Malignancy in stomach 3. สาเหตุหลักของโรคดังกลาวในขอที่ 2 ที่ไดรับการวินิจฉัยจากแพทยคือ ก. NSAIDs ง. Alcoholism ข. Zolinger Ellison syndrome จ. Cigarette ค. Helicobacter Pylori 4. ในตํารับยาลดกรดแขวนตะกอน ยี่หอหนึ่ง มีสวนประกอบดังนี้ Aluminium hydroxide , Magnesium hydroxide, Tragacanth, Carboxymethyl cellulose, Glycerin, Syrup , peppermint oil , Paraben conc.,Ethyl alcohol, water “Carboxymethyl cellulose” ทําหนาที่อะไรในตํารับ ก. Preservatives ค. Sweetening agent ข. Suspending agent ง. Coloring agent 5. น้ําที่ใชในการเตรียมตํารับดังกลาว เตรียมไดจากเครื่องมือใด ก. เครื่องทําน้ําดื่ม ข. เครื่องทําน้ําดื่ม เครื่องกรองน้ํา DI ค. เครื่องกรองน้ํา DI , เครื่องกลั่นน้ํา , เครื่อง Reverse osmosis ง. เครื่องกรองน้ําดื่ม เครื่องกรองน้ํา DI เครื่องกลั่นน้ํา เครื่อง Reverese osmosis จ. เครื่องกลั่นน้ํา เครื่อง Reverse osmosis
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
396
6. จากสูตรโครงสรางของ Cimetidine และ Ranitidine พบวา Ranitidine มีฤทธิ์แรงกวา Cimetidine ถึง 10 เทา เนื่องจาก Ranitidine มีโครงสรางที่เรียกวา.... แทนที่สูตรโครงสราง imidazole ring ใน Cimetidine
Ranitidine
Cimetidine ง. Furan ก. Methyl cyanide ข. Nitro จ. Amine ค. Thio 7. สมุนไพรในขอใด มีฤทธิ์รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารไดดีจนพัฒนาไปเปนยาแผนปจจุบัน และสารสําคัญ ของพืชดังกลาวคืออะไร ก. มังคุด – Planotol ข. มะขามแขก – senosoid ค. เปลานอย – curcuminoids ง. ขมิ้นชัน – curcuminoids จ. เปลานอย – planotol 8. ยารักษาโรคกระเพาะตอไปนี้ ขอใดสามารถมีจําหนายในรานขายยาแผนปจจุบันบรรจุเสร็จ ไมได ก. ยาอีโนชนิดซอง ข. ยาขับลมชนิดแผง Dysfatyl ค. ยาลดกรดชนิดน้ํา เชน Mag 77 ง. ยาลดกรดชนิด powder เชน อีโน จ. มีคําตอบที่ตองการมากกวา 1 ขอ 9. Sucralfate เปนยาในบัญชียาหลักแหงชาติ ในหมวดบัญชี ค หมายถึงขอใด ก. รายการยาสําหรับสถานพยาบาลทุกระดับ เปนรายการมาตรฐานที่ใชในการปองกันและแกไขปญหา สุขภาพที่พบบอย มีหลักฐานชัดเจน ข. รายการยาที่ใชสําหรับขอบงใชหรือโรคบางชนิดที่ใชยาในบัญชี ก ไมได หรือไมไดผล หรือเปนยาที่ ใชแทนยาในบัญชี ก ชั่วคราวในกรณีที่จัดหายาในบัญชี ก ไมได ค. รายการยาที่ตองใชในโรคเฉพาะทาง โดยผูชํานาญ หรือผูที่ไดรับมอบหมายจากผูอํานวยการของ สถานพยาบาลนั้น ๆ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
397
MCQ
ง. รายการยาที่มีหลายขอบงใช แตมีความเหมาะสมที่จะใชเพียงบางขอบงใช หรือมีแนวโนมจะมีการ สั่งใชยาไมถูกตอง หรือเปนรายการยาที่มีราคาแพง การสั่งใชยาซึ่งตองใหสมเหตุผลเกิดความคุมคา สมประโยชนจะตองอาศัยการตรวจวินิจฉัยและพิจารณาโดยผูชํานาญเฉพาะ จ. รายการยาสําหรับโครงการพิเศษของกระทรวง ทบวง กรม หรือหนวยงานอื่นของรัฐ ที่มีการกําหนด วิธีการใชและการติดตามประเมินการใชยาตามโครงการ โดยมีหนวยงานนั้นรับผิดชอบ 10.พืชที่ชวยบรรเทาอาการทองอืด แนน จุกเสียดไดแกขอใด ก. บัวหลวง ข. วานหางจระเข ค. กระวาน ง. กลวย 11.พืชที่มีประโยชนชวยยอยไดแกขอใด ก. เปลานอย ข. ตําลึง ค. ฟาทะลายโจร ง. วานหางจระเข 12.พืชที่ใชแกรอนใน กระหายน้ําไดแกขอใด ก. เสลดพังพอน ข. บัวหลวง ค. ไพล ง. กระวาน พืชที่ใชรักษาอาการทองผูกไดแกขอใด ก. แมงลัก ข. หญาหนวดแมว ค. ตําลึง ง. กลวยดิบ 13.พืชที่ใชแกคลื่นไสอาเจียนไดแกขอใด ก. มะกรูด ข. ตะไคร ค. ขิง ง. ขา 14.พืชที่รักษาอาการทองเสียไดแกขอใด มังคุด 15.พืชที่ชวยใหเจริญอาหารไดแกขอใด ก. ลูกเดือย ข. ขี้เหล็ก ค. กลวย ง. ฝรั่ง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
398
MCQ
Case 1.ยาใดที่บริษัทอางวาไมมีผลตอกระเพาะอาหาร ก. Nabutaline ง. Celecoxib ข. Nimesulide จ. Sulindac ค. Meloxicam 2.ฤทธิ์ในการระงับอาเจียนของยาพวก Phenothiazine เชน Chlorpromazine เกิดเนื่องจากการออกฤทธิ์ของยาที่ ก. Glutamate receptor ที่ CTZ ข. GABA receptor ที่ CTZ ค. Dopamine D2 receptor ที่ CTZ ง. Serotonin 5HT ที่ CTZ จ. Adrenergic receptor ที่ CTZ 3.ยาตัวใดตอไปนี้ออกฤทธิ์ไดดีในภาวะกรด ก. Misoprostol ข. Cimetidine ค. Magnesium hydroxide ง. Omeprazole จ. Ranitidine , Bismuth citrate 4.ยาที่ Peptic ulcer ที่ไมมีฤทธิ์เปน Cytoprotective ก. Bismuth comp. ข. Carbenoxolone ค. Misoprostol ง. Omeprazole จ. Sucralfate 5.ยาที่นิยมใชกับโรคกระเพาะอาหารติดเชื้อ H.pylori ก. Amoxicillin + Metronidazole + Omeprazole ข. Roxithromycin + Antacid + Ranitidine ค. Norfoxacin + Omeprazole + Ranitidine ง. Clarithromycin + Antacid + Bismuth จ. Metronidazole + Antacid + Ranitidine 6.ยาที่ไมมีฤทธิ์ Antisecretory drug ก. H2 – antagonist ข. Anticholinergic ค. PPI ง. Sucralfate 7.ขอใดไมถูกตอง ก. Bisacodyl เปน Potent colonic stimulant ข. Methyl cellulose เปน Bulk laxative ค. มะขามแขกเปน irritate laxative ง. Magnesium hydroxide เปน saline laxative จ. Ducosate เปน Stimulant laxative
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
399
MCQ
Case : หญิงไทยอายุ 33 ป มาที่รานยาที่มีเภสัชกรปฏิบัติงาน ผูปวยอยากไดยาเหน็บทวารเพื่อรักษาโรคริดสีดวงทวาร ที่มี ติ่งยื่นออกมาที่ทวารหนัก ขณะถายอุจจาระมีอาการปวดที่ทวารหนัก และบางครั้งจะมีเลือดสด ๆ ไหลออกมาหลังถาย 1. ขอใดไมใชสูตรยาที่ใชในการรักษาโรคริดสีดวงทวาร ก. Prednisolone ข. Hydrocortisone , cimetidine ค. Hyossacine HCl , Zinc oxide 2. จากการซักถามเพิ่มเติม ทราบวาผูปวยมักมีอาการทองผูก หากทานเปนเภสัชกรประจํารานนี้ ทานจะแนะนํา ยาชนิดใด ง. Mineral oil ก. Senna จ. Phylium seed ข. Castor oil ค. Bisacodyl 3. จากการซักถามถึงพฤติกรรมของผูปวย ขอใดเปนสาเหตุที่ทําใหเกิดริดสีดวงทวาร ก. ผูปวยมักจะดื่มน้ําวันละ 6 แกว ข. ผูปวยมักจะออกกําลังกายสม่ําเสมอ ค. ผูปวยมักจะหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ ง. ผูปวยมักจะดื่มนม 1 แกวเปนประจําทุกวัน จ. ผูปวยมักจะนั่งอานหนังสือพิมพในหองน้ําเปนเวลานาน 4. ขอใดไมใชกลไกการออกฤทธิ์ของยาระบาย ก. ชวยหลอลื่นอุจจาระ ข. ทําใหอุจจาระออนนุม ค. เพิ่มแรงดันออสโมติกภายในลําไส ง. ทําใหอุจจาระจับตัวเปนกอน จ. เพิ่มการเคลื่อนไหวของลําไสเล็ก 5. หากผูปวยมีประวัติลําไสอุดตัน ควรใหยาตัวใด ก. Senna ง. Lactulose ข. Castor oil จ. Phylium seed ค. Bisacodyl 6. ขอใดไมใชคําแนะนําที่ถูกตองในการใชยาเหน็บทวาร ก. ฉีกซองพลาสติกกอนใช ข. เก็บยาไวในตูเย็นชองแชแข็ง ค. ลางมือใหสะอาดกอนเหน็บยา ง. ไมตองนํายาเหน็บออกจากรางกายหลังจากเหน็บ จ. เหน็บยาแลวใหนอนพักอยางนอย 15 นาทีกอนลุก 7. ถาทานเปนเภสัชกรโรงงานและตองการเตรียมยาเหน็บซึ่งแตละแทงหนัก 2 กรัม และมีตัวยาสําคัญแทงละ 0.3 g Displacement value = 1.5 อยากทราบวาตองใช base สําหรับยาเหน็บเทาไร (เตรียม 100 แทง) ก. 155 g ข. 175 g ค. 180 g ง. 197 g
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
400
MCQ
จ. 200 g 8. ผูปวยเคยไปพบแพทยและไดยาเปนผงที่มีวิธีการใชคือ นําผงยาละลายในน้ําอุนแลวแชประมาณ 15 นาที ทานคิดวาผงยาที่แพทยจาย คือยาอะไร ก. Calcium carbonate ข. Potassium chloride ค. Sodium bicarbonate ง. Potassium lichromate จ. Potassium permanganate 9. ผูปวยตองการทราบความเห็นของเภสัชกรเกี่ยวกับยาแผนโบราณที่ใชในการรักษาริดสีดวงทวารชนิดหนึ่ง ซึ่ง มีตัวยาสําคัญประกอบดวย เพชรสังฆาต อัคคีทวาร โกฎน้ําเตา และโกฏกักกรา โดยรับประทานครั้งละ 15 เม็ด วันละ 3 ครั้ง กอนอาหาร ขอใดถูกตองเกี่ยวกับยาดังกลาว ก. มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาคือ ชวยระบายและลดอักเสบ ข. ขนาดยาที่ใชรับประทานสูงเกินไปอาจทําใหตับอักเสบได ค. เปนยาลูกกลอนซึ่งไมสามารถดูดซึมไดในระบบทางเดินอาหาร ง. ตํารับยาแผนโบราณซึ่งเปนยาสูตรผสมใหผลการรักษาที่ดีกวาสูตรเดี่ยว จ. สํานักงานสาธารณสุขมูลฐานไมแนะนําใหใชสมุนไพรรักษาอาการริดสีดวงทวาร 10. ผูปวยเคยอานเอกสารวิชาการพบวา การขับถายอยางสม่ําเสมอจะชวยลด “อุบัติการณ” ของริดสีดวงทวารได จึงสอบถามทานวา “อุบัติการณ” มีความหมายวาอยางไร ก. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอจํานวนประชากรทั้งหมด ในพื้นที่ในชวงเวลาหนึ่ง ข. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอจํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคริดสีดวงทวาร ค. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอจํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคริดสีดวงทวารใน ชวงเวลาหนึ่ง ง. จํานวนครั้งของการเปนริดสีดวงทวารตอจํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคริดสีดวงทวาร ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง จ. จํานวนคนที่เกิดเปนริดสีดวงทวารตอจํานวนประชากรที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคริดสีดวงทวาร ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง Case : นายสมบูรณ อายุ 45 ป มาที่รานยาในตอนเชาดวยอาการไขต่ํา ๆ มีอาการปวดทอง รวมกับทองรวง ถายมาแลว 5 ครั้ง ในชวงกลางคืน พรอมทั้งขอใหจัดยาใหลูกสาว คือ ด.ญ.นอย อายุ 8 ป ซึ่งมีอาการคลายกัน สิ่งที่เภสัชกรควรซักถามเพิ่มเติม คืออะไร ผูปวยใหขอมูลเพิ่มเติมวา ไดรับประทานอาหารทะเลในอาหารมื้อเย็น และทั้งสองคนรับประทานปูนึ่งมากกวาคน อื่น ๆ ในบาน ทานคาดวาอาการของผูปวยจัดอยูในกลุมใด เกิดจากสาเหตุใด ทานคิดวาเภสัชกรควรจายยาอะไร ใหผูปวยหรือไมเพราะเหตุใด ถาจาย เภสัชกรควรจายยาอะไร และจายในขนาดและระยะเวลาเทาใด เภสัชกรควรแนะนําผูปวยใหปฏิบัติตัวในการรับประทานอาหารอยางไร อาการทองเสียที่ควรแนะนําใหผูปวยรีบไปพบแพทย คืออะไรบาง Case : นางเลขา อายุ 35 ป มาที่รานยาเพื่อขอซื้อยาแกทองเสีย ถายเปนมูกปนเลือด อาการทองเสียที่ถายเปนมูกเลือดเปนอาการของโรคใดบาง จงอธิบายถึงเชื้อสาเหตุและอาการแสดงของโรคเหลานั้น พรอมทั้งยาที่ผูปวยควรไดรับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
401
MCQ
1.จากผูปวย Peptic ulcer แพทยบางทานมักจะจายยา ลดความวิตกกังวลดวย เชน ยา Lorazepam ถามวายานี้เปนยา ประเภทใดตามกฎหมาย ก. ยาเสพติดใหโทษประเภท 3 ข. ยาเสพติดใหโทษประเภท 4 ค. วัตถุออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภท 3 ง. วัตถุออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภท 4 จ. ยาควบคุมพิเศษ 2.ผูปกครองพาเด็กหญิง อายุ 14 ป มาซื้อยาแกทองเสียสําหรับเด็ก ที่รานยา จากการซักประวัติพบวา ผูปวย นาจะเกิดจากทองเสียและจากการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหาร ยาที่ผูปวยไมสมควรไดรับเปนอยางยิ่ง คือขอใด ก. ผงน้ําตาลเกลือแร ง. Chlortetracycline ข. Norfloxacin จ. Furazolidine ค. Loperamide 3.ในผูใหญ คนปกติ ถาพบวา ผูปวยทองเสียจากเชื้อ Salmonella จะใหยาตานจุลชีพในขอใด ง. Furazolidine ก. Norfloxacin ข. Ofloxacin จ. ไมตองใหยาตานจุลชีพ ค. Chloramphenicol Case : ผูปวยทองเสียอีกคนไปพบแพทยที่คลินิค ไดรับยาแกทองเสียมาดังนี้ ORS , Norfloxacin , Hyoscine ถามวา 1. Hyoscine ออกฤทธิ์ที่ไหน ผลขางเคียงที่พบบอยคืออะไร ก. Nicotinic receptor , ปากแหง ตาพรา ทองผูก ข. Muscarinic receptor , ปากแหง ตาพรา ทองผูก ค. Beta-2 receptor , หลอดลมตีบ ง. Beta-1 receptor , หลอดลมตีบ จ. Alpha 1 receptor , ปากแหง ตาพรา ทองผูก ตอมาพบวาผูปวยคอนขางออนเพลียมาก จึงไปพบแพทยที่โรงพยาบาล แพทยจึงใหสารน้ําเขาเสน คือ D-5-S 1000 cc ซึ่งผลิตใชเองในโรงพยาบาล 2. ในการเตรียม D-5-S จํานวน 100 ขวด (ขวดละ 1000 mL) จะตองใช NaCl หนักเทาใด ก. 45 กรัม ง. 900 กรัม ข. 450 กรัม จ. ไมมีคําตอบใดถูก ค. 90 กรัม 3. หลังจากบรรจุเสร็จ จะนําขวดน้ําเกลือดังกลาวไปฆาเชื้อโดยผานเครื่องมือใด ที่อุณหภูมิในขอใด จึงจะเหมาะสม ก. Hot air over 160 องศาเซลเซียส นาน 3 ชั่วโมง ข. Hot air oven 121 องศาเซลเซียส นาน 20-30 นาที ค. Autoclave 121 องศาเซลเซียส นาน 20-30 นาที ง. Autoclave 160 องศาเซลเซียส นาน 3 ชั่วโมง จ. Autoclave 100 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที 4. ในการควบคุมคุณภาพของการผลิตน้ําเกลือชนิดดังกลาว ขอใดคือการทดสอบหาไพโรเจน ก. LAL test ง. Foam test ข. Sterility test จ. Clarity test ค. Safety test
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
402
MCQ
MCQ เรื่อง EENT Case ผูปวยชายมารานยาดวยอาการตาแดง มาขอซื้อยาหยอดตาที่ราน เภสัชกรซักประวัติเพิ่มเติม พบวา มีขี้ตาและหนัง ตาบวม ไมมีอาการปวดและการมองภาพเปนปกติ เปนมา 3-4 วัน ไปซื้อยา Dexamethasone eye drop มาใชเอง แต หยอดแลวอาการเปนมากขึ้นจึงมาพบเภสัชกร 1. การเลือกใช Dexamethasone ในผูปวยรายนี้ไมเหมาะสมเพราะอะไร ก. Dexamethasone มีฤทธิ์กดภูมิคุมกัน จึงไมควรใชในการติดเชื้อ ข. Dexamethasone เปนยาควบคุมพิเศษตองมีใบสั่งแพทย ค. Dexamethasoneสามารถเพิ่มความดันในลูกตา (intraocular pressure)ได ง. Dexamethasoneทําใหหนังตาบวมมากขึ้นจากฤทธิ์ mineralocorticoid จ. Dexamethasoneทําใหหลอดเลือดบนจอรับภาพมากขึ้น ( revascularization) 2. จากอาการขางตน ทานจะเลือกจายยาตัวใด ก. Prednisolone eye drop ข. Chloramphenical eye drop ค. Antazoline eye drop ง. Boric acid eye drop จ. Hydroxypropyl methylcellulose eye drop 3. กรณีจายยาหยอดตาใหกับผูปวยตองแนะนําเรื่องตอไปนี้ ยกเวน ก. ควรลางมือใหสะอาดกอนใชยา ข. ปรับอุณหภูมิใหเทาอุณหภูมิรางกาย ค. เก็บยาในถาดใตชองแชแข็งของตูเย็น ง. หลังจากเปดใชยาแลว ใชไดไมเกิน 1 เดือน จ. กรณีที่ใชยาปายรวมดวย ใหใชยาหยอดกอนปายตา 4. กรณีใดที่ตองรีบสงตอผูปวยรายนี้ไปโรงพยาบาล ก. ใชยาแลวแสบตา ข. ใชยาแลวมีอาการขมที่ลิ้น ค. การมองภาพ เห็นภาพซอน ง. ใชยา 1 วันและขี้ตาไมหายไป จ. มีอาการปวดศีรษะรวมดวย ถาผูปวยใชยาแลว 4-5 วัน อาการไมดีขึ้น เภสัชกรจึงสงผูปวยไปโรงพยาบาล แพทยตรวจวินิจฉัยและสงตรวจ หองปฏิบัติการ แลวพบวา ติดเชื้อแกรมลบที่ไวตอ Ciprofloxacin แตเนื่องจากโรงพยาบาลไมมียาหยอดตา ciprofloxacin eye drop 5. ทานจะเตรียมยาหยอดตาแบบ extemporaneous preparation ก. Ciprofloxacin tablet ข. Ciprofloxacin injection ค. Ciprofloxacin powder ง. Ciprofloxacin ear drop จ. ไมสามารถเตรียมได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
403
MCQ
6. ขอใดไมใชสิ่งที่ตองคํานึงถึงในการเตรียม Ophthalmic solution ก. ionic strength ง. preservative จ. viscosity ข. sterility ค. isotonicity 7. ขอใดเปน preservative ที่เหมาะสมที่สุดในยาตา ก. Benzalkonium Chloride ข. Paraben ค. Benzoic acid ง. Sodium metabisulfite จ. BHT 8. ในการเตรียมน้ํากระสายยาของตํารับยานี้ ทานควรเลือกสารละลายชนิดใด ก. Normal saline solution ข. Water for injection ค. Deionized water ง. Purified water จ. Water for irrigation 9. เทคนิคใดที่ควรใชในการเตรียมยาตาตํารับนี้ ก. Sterile technique ข. Aseptic technique ค. Pasteurized technique ง. Ultrahigh temperature (UHT) technique จ. UV technique 10. สมมุติเภสัชกรโรงพยาบาลศูนยตองการเตรียมยาตาในปริมาณมาก เพื่อแจกจายแกโรงพยาบาลชุมชน หาก ตองการสงยาที่เตรียมขึ้นเองไปวิเคราะหคุณภาพ เภสัชกรควรจะสงวิเคราะหขอใดตอไปนี้ ก. Disintegration test ข. Percentage ของ preservative ค. Dissolution time ง. Pyrogen test จ. Stability test 11. ใหทานบอกวิธีการใชยาหยอดตา/ปายตาที่ถูกตอง Rx Chloramphenicol ointment ปายตาขางซาย bid Chloramphenicol eye drop หยอดตาขางซาย tid ทานจะแนะนําวิธีการใชยาหยอดตาและยาปายตาตามใบสั่งยานี้ ไดอยางไร 1. ใหผูปวยหยอดตากอน จากนั้นอีกประมาณ 1 นาที จึงปานดวยยาปายตา 2. ใหผูปวยหยอดตากอน จากนั้นอีกประมาณ 5 นาที จึงปายดวยยาปายตา 3. ใหผูปวยปายตาดวยยาปายตากอน อกประมาณ 5 นาทีจึงหยอดยาหยอดตา 4. ใหผูปวยปายตาดวยยาปายตากอน อกประมาณ 1 นาทีจึงหยอดยาหยอดตา 5. หยอดหรือปายอยางไรก็ได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
404
โรคตา หู จมูก และคอ 1. ยาที่ใชใน otitis media ในเด็ก 3 ขวบ empiric theory ก. amoxicillin ข. ampicillin ค. cephalexin ง. erythromycin 2. ยาที่ทําใหเกิดตอกระจก ก. acyclovir ข. pilocarpine ค. physostigmine ง. steroid จ. timolol 3. ขอความตอไปนี้ขอใดที่ไมใชวิธีการรักษา glaucoma ก. ลดการปดกั้นการไหลอออกของaqueous humor โยรูมานตา ข. ลดการสราง aqueous humor ค. ลด intraocular pressure in angle-closure glaucoma ง. ผาตัดเปลี่ยนเลนสตา จ. ใชแสงเลเซอรเปดเปนทางให aqueous humor ไหลออก 4. การกระทําขอใดที่ชวยเพิ่มประสิทธิภาพยาหยอดตา ก. หยอดครั้งละ 2 หยด ข. หยอดครั้งละ 4 หยด ค. กลอกตาไปมา 2-3 นาที ง. นวดที่เปลือกตา 2-3 นาที 5. Pilocarpine รักษา glaucoma โดยออกฤทธิ์เปน ก. carbonic anhydrease inhibitor ข. cyclopioic ค. miotic ง. vasoconstriction 6. กรณีที่คนไขเปน glaucoma แลวความดันลูกในตาสูง ทําใหปวดเฉียบพลัน ควรเลือกใชยาในขอใด A. Prednisolone eye drop B. Timolol C. Terramycin D. Cravit eye drop E. Acetazolamide 7. Nasal decongestant ที่มีสูตรโครงสรางเชนเดียวกับ ephredine แตมีผลกระทบตอ CNS คือ ก. Propylpropanolamine ข. Naphazoline ค. Methexamine ง. Metamphetamine
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
405
MCQ
จ. propylhexadine Case ผูปวยชาย มาปรึกษา CC : ตาแดงมา 1 วัน 1.คําถามใดตอไปนี้ไมจําเปนตองถามเพิ่ม ก. อายุ ง. แพยาอะไร จ. มีอาการอื่นๆอีกหรือไม ข. มีใครเปนบาง ค. กินยาอะไรมาบาง 2.คนไขบอกวา เพื่อนที่ทํางานเปนกันหลายคน มีอาการเคืองตาอยางเดียวไมมีอาการลืมตาไมขื้นตอนเชา ตาไมมีหนอง จากอาการขางตน คาดวาเกิดจากเชื้ออะไร ก. ไวรัส ข. แบคทีเรีย ค. รา 3.ยาหยอกตาชนิดใดที่หามใชในกรณีนี้ ก. Decadron (Dexametasone) eye drop ข. Sulfacetamide eye drop 4.ขอใดเปนคําแนะนําที่ถูกตองเกี่ยวกับยาหยอดตา ก. ยาที่ยังไมเปดใช เก็บไดนานกวา 5 ป ข. ยาที่เปดใชแลว จะเก็บไวได 4 สัปดาห ค. ยาที่เปดใชแลว ใหเก็บในชองแข็งในตูเย็น ง. ยาที่ยงั ไมเปดใชทุกวัน ควรเก็บในตูเย็น 5.ขอใดไมใชคําแนะนําที่ถูกตอง ก. ลางตาบอยๆ ข. ไมไปสถานที่สาธารณที่คนพลุกพลาน ค. ไมใชผาเช็ดหนารวมกับผูอื่น ง. ลางมือทุกครั้งที่สัมผัสดวงตา 6.อาการในขอใดที่ไมจําเปนตองสงตอผูปวยไปหาหมอ ก. ตาปด ลืมตาไมขึ้นในตอนเชา ข. ตามีหนองออกมา ค. มองเห็นไมชัด ง. เลือดออกในตา จ. เจ็บคอ 7.หลังจากเปน 1 เดือน ผูปวยมาดวยอาการ “ตากุงยิง” โดยหลังตาลางบวมอยางเห็นไดชัด ในกรณีนี้ คาดวาเกิดจากเชื้อ อะไร ก. E.coli ค. Clamydria ข. S.aureus ง. Adenorirus 8.การรักษาที่เหมาะสมคือขอใด ก. ไมตองใชยารักษาหายเอง ข. Cloxacillin capsule ค. Dexamethasone eye drop ง. Sulfacetamide eye drop จ. Penicillin
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
406
MCQ
9.ยาตามขอใดเปนยาสามัญประจําบาน ตอบ : sulfacetamide Na eye drop 10.pilocarpine รักษา glaucoma โดยออกฤทธิ์เปน a. Carbonic anhydrase inhibitor d. Mydriasis b. Cycloplegic e. Vasoconstriction c. Miotic 11.ผูปวยตอหินไมควรใชยาหยอดตาอะไร a. antihistamine d. nedocomyl b. cromolyn Na e. ? c. decongestant 12.Dexamethasone & neomycin eye drops มีผลทําใหอาการระคายเคืองตาดีขึ้น จึงอยากมาซื้อยานี้กับเภสัชกร เภสัช กรควรแนะนําอยางไร a. ยานี้สามารถใชในผูปวยโรคตอหินได b. ยานี้ใชแลวทําใหความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น ทําใหตาบอดได c. ? d. ในระยะแรกที่ใชแลวความดันลูกตาจะลดลง e. ใชน้ําตาเทียมแทน 13.จากยาขางตนนี้จัดเปนยาประเภทใดตาม พรบ.ยา a. ยาอันตราย c. ยาสามัญประจําบาน b. ยาควบคุมพิเศษ d. ยาบรรจุเสร็จ 14.และสามารถมอบสงยาโดย a. เภสัชกร b. เภสัชกรตามใบสั่งยา c. ผูที่ไดรับการอบรมขายยา 2 และพยาบาล d. บุคคลทั่วไป 15.ยาใดที่มีกลไกการออกฤทธิ์เหมือน pilocarpine a. carbachol d. codeine b. physostigmine e. cimetidine c. morphine 16.การกระทําในขอใดที่ชวยเพิ่มประสิทธิภาพยาหยอดตา a. หยอดครั้งละ 2 หยด d. กลอกตาไปมา 2 – 3 นาที b. หยอดครั้งละ 4 หยด e. นวดที่เปลือกตา 2 – 3 นาที c. กดที่หัวตา 2 – 3 นาที 17.ยาใดไมควรใชในผูที่ใส contact lens a. quinax d. chloramphenicol b. timolol e. trusopt c. diamox 18.พืชที่รักษาโรคเลือดออกตามไรฟนไดแกขอใด (ฝรั่ง)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
407
MCQ
สถานการณ : เด็กชายอายุ 1 ป 2 เดือน น้ําหนัก 9 กิโลกรัม มีอาการไขหวัด มีไขมา 3 วันยังไมหาย ผูปกครองจึงพามา พบแพทยที่โรงพยาบาล โดยผูปกครองเลาวาเด็กมักจะงอแง รองกวน สังเกตเห็นวาเด็กชอบเอามือดึงใบหูตัวเอง ตลอดเวลา และสังเกตเห็นวามีนี้ขาวขุนไหลออกมาจากหู 1.จากอาการขางตนผูปวยมีอาการของโรคใด a. otitis media b. tinnitus c. influenza d. sinusitis e. tonsillitis 2.อาการที่เกิดขึ้นสามารถเกิดไดจากเชื้อจุลชีพตอไปนี้ ยกเวนขอใด a. Streptococcus pyrogenes b. Streptococcus pneumoniae c. Staphylococcus aureus d. Staphylococcus saprophylicus e. Hemophilus influenza 3.ยาตานจุลชีพที่ควรเลือกใชเปนอันดับแรกสําหรับผูปวยรายนี้คือ a. norfloxacin b. tetracycline c. amoxicillin d. chloramphenicol e. sulfamethoxazole – trimethoprim 4.ขอใดผิดเกี่ยวกับยาที่เลือกใชในขอขางตน a. มีฤทธิ์เปน bacteriostatic b. หากเกิดการแพยา จะพบผื่นแพแบบ erythema multiforme c. กลไกการดื้อยาที่สําคัญคือเชื้อสราง beta – lactamase มาทําลายยา d. โดยทั่วไปยาในกลุมนี้ออกฤทธิ์ตอแบคทีเรียแกรมบวกไดดีกวาแบคทีเรียแกรมลบ e. การไดรับยาในขนาดสูง (toxic dose) ทําใหเกิด neuromuscular hypersensitivity 5.จากยาที่แพทยเลือกจายขางตนนี้ ขนาดยาปกติสําหรับเด็กคือ 20 mg/kg/day และรานยามียาชนิด dry syrup 125 mg/5mL ทานจะแนะนําใหผูปวยรับประทานยานี้อยางไร a. รับประทานยาครั้งละ ¼ ชอนชา วันละ 4 ครั้ง b. รับประทานยาครั้งละ ½ ชอนชา วันละ 3 ครั้ง c. รับประทานยาครั้งละ ¾ ชอนชา วันละ 3 ครั้ง d. รับประทานยาครั้งละ 1 ชอนชา วันละ 3 ครั้ง e. รับประทานยาครั้งละ 1 ชอนชา วันละ 4 ครั้ง 6.จากขอมูลขางตนถาตองการจายยาใหผูปวย 14 วัน ตองใหยาดังกลาวในขนาด 60 mL จํานวนกี่ขวด a. 1 ขวดb. 2 ขวดc. 3 ขวด d. 4 ขวดe. 5 ขวด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
408
MCQ
ขอมูล Rx
NaHCO3 5g Vehicle qs to 100 mL 7.จากตํารับขางตนแพทยตองการใหเภสัชกรเตรียมยาหยอดหูเพื่อละลายขี้หูกอนทําการรักษาการติดเชื้อในชองหู ในปริมาณ 30 mL แตหองยามี 25% NaHCO3 ขนาดบรรจุแอมพูลละ 10 มิลลิลิตร ดังนั้นเภสัชกรตองเตรียมยาจากยาที่มี ในหองยาดังกลาวอยางไร a. ใช 25% NaHCO3 6 mL และปรับปริมาตรใหได 100 mL b. ใช 25% NaHCO3 6 mL และปรับปริมาตรใหได 30 mL c. ใช 25% NaHCO3 20 mL และปรับปริมาตรใหได 100 mL d. ใช 25% NaHCO3 20 mL และปรับปริมาตรใหได 30 mL e. ใช 25% NaHCO3 10 mL และปรับปริมาตรใหได 100 mL 8.เมื่อเตรียมตํารับยาขางตน สวนประกอบใดไมจําเปนในการเตรียมยาใชในชองหู a. Antioxidant b. Buffering agent c. Structure vehicle d. Preservative e. Viscosity agent 9.หากเภสัชกรตองการเตรียมยารักษาอาการติดเชื้อใหอยูในรูปสารละลาย โดยยาดังกลาวมีคุณสมบัติเปนกรดออน เภสัช กรตองทําอยางไรเพื่อเพิ่มการละลาย a. ทําใหอยูในรูปเกลือโดยทําปฏิกิริยากับเบสออน b. ทําใหอยูในรูปเกลือโดยทําปฏิกริ ิยากับกรดออน c. ปรับคาความเปนกรด ดางของตํารับใหมีคานอยกวาหรือเทากับคา pKa d. ปรับคาความเปนกรด ดางของตํารับใหมีคามากกวาคา pKa e. ปรับคาความเปนกรด ดางของตํารับใหมีคานอยกวาคา pKa 10.ขอใดไมใชการควบคุมคุณภาพของการเตรียมยาหยอดหู a. Sterility test b. Viscosity test c. Pyrogen test d. Tonicity test e. Clarity test Case study : ผูปวยชายสูงอายุคนหนึ่งเขามาขอซื้อยาหยอดตาเนื่องจากมีอาการตามัวในชวง 4 วันที่ผานมารวมกับรูสึก ปวดตามาก ตาสูแสงไมได โดยไมมีโรคประจําตัวอื่น คําถามขอที่ 1 : หลังจากที่เภสัชกรไดทําการซักประวัติแลว ทานคิดวาอาการที่ผูปวยเลาสัมพันธกับโรคใด a. โรคตอกระจก d. โรคตากุงยิง b. โรคตาแดง e. โรคตอหิน c. โรคตอเนื้อ คําถามขอที่ 2 : เภสัชกรจึงไดใหคําแนะนําแกผูปวย อยากทราบวาขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับสาเหตุและการรักษา a. เกิดจากความดันโลหิตสูงกวาปกติ b. สารมารถพบไดในผูปวยที่มีการใช steroid เปนประจํา c. หากไมรับการรักษาจะทําใหเกิดตาบอดได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
409
MCQ
d. การรักษาสามารถใชยาหยอดตา atropine เพื่อควบคุมอาการได e. แพทยอาจพิจารณารักษาตาอีกขาง (ในกรณีที่เปนตาขางเดียว) เพื่อปองกันการเกิดโรคเฉียบพลันในอนาคตได คําถามขอที่ 3 : ยาชนิดใดที่สามารถใชรักษาโรคไดโดยมีฤทธิ์ลดaqueous productionภายในตา a. Timolol b. Pilocarpine c. Mannitol d. Thiazide e. Carbachol คําถามขอที่ 4 : ยาชนิดใดตอไปนี้ที่ไมมีขอหามใช หรือขอควรระวังในผูปวยโรคตอหิน a. 0.1% Diclofenac ED b. 0.1% Fluorometholone ED c. 0.1% Dexamethasone ED d. 0.5% Atropine ED e. 0.05% Naphazoline ED คําถามขอที่ 5 : ตํารับยา 0.5% Atropine ED เมื่อหยอดแลวมีอาการแสบตา นาจะเกิดจากสาเหตุใด ขอมูล : 7% Atropine sulfate solution เทียบเทากับ 0.9% Sodium chloride solution ในตํารับประกอบดวย Atropine Sulfate 0.5 g Sodium chloride 8.3 g Water qs to 100 mL a. Hypotonic solution b. Hypertonic solution c. Isotonic solution d. ผงยาที่แขวนลอยมีขนาดมากกวา 10 µm e. ตัวยา Atropine sulfate คําถามขอที่ 6 : ขอใดถูกเกี่ยวกับการเตรียมยาหยอดตา a. สามารถนําไปผานความรอนแหงที่ 170 oC 2 ชั่วโมง b. สามารถนําไปอบไอน้ําที่ 121 oC 15 นาที ความดัน 15 Ibf/in2 c. ฆาเชื้อโดยกรองผาน sterile membrane ขนาด 0.45 µm d. ตองผานการทดสอบ LAL Test e. ตองมีเชื้อ E.coli ไมเกิน 10 cfu/mL คําถามขอที่ 7 : รูปแบบใดที่ไมสามารถเตรียมเปนยาตาได a. Solutions b. Suspensions c. Ointments d. Creams e. Ocular inserts
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
410
คําถามขอที่ 8 : ยาหยอดตาชนิดใดตอไปนี้ที่เปนยาอันตราย a. Dexamethasone eye drop + Chloramphenicol eye drop b. Diclofenac eye drop + Chloramphenicol eye ointment c. Diclofenac eye drop + Sulfacetamide eye drop d. Dexamethasone eye drop + Sulfacetamide eye drop e. Dexamethasone eye drop + Diclofenac eye drop คําถามขอที 9 : สูตรโครงสรางของยาตอไปนี้ขอใดคือ Dexamethasone a.
b.
c.
d.
e.
คําถามขอที่ 10 : ยา ตาขอใดตอไปนี้ เปนยาสามัญประจําบาน a. Diclofenac eye drop b. Chloramphenicol eye ointment c. Timolol eye drop d. Dexamethasone eye drop e. Tetracycline eye ointment
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
411
MCQ
Case ที่ 2 ผูปว ยหญิงอายุ 18 ปมารานขายยาที่ทานเปนเภสัชกรเพื่อขอซื้อยาหยอดตาจากการซักประวัติ ทราบวา ผูปวยมีตุมหนองเปนกอนบริเวณเปลือกตาดานบน ปวด บวม เจ็บ และรูสึกระคายเคืองตา 1. ในฐานะเภสัชกรยาที่เหมาะสมสําหรับผูปวยรายนี้ คือ a) ยาหยอดตา hista-oph + ยากิน chlopheniramine b) ยาลางตา boric acid + การประคบดวยน้ําอุนวันละ 3-4 ครั้ง c) ยาหยอดตา chloramphenicol + ยากิน cloxacillin d) น้ําตาเทียม+ ยากิน cetirizine e) ไมตองใหยาอะไรเลย 2. ในการผลิตยาตาตองมีการทดสอบอะไรบาง 3. ยาหยอดตาที่ใชแลวมีอาการแสบตาเกิดจากสาเหตุใดไดบาง 4. ยาหยอดตาเมื่อเปดใชแลวมีวิธีการเก็บรักษาอยางไร 5. สวนประกอบของยาตามีอะไรบาง 6. สวนประกอบสําคัญของน้ําตาเทียมไดแก 7. คุณสมบัติของยาหยอดจมูก 8. คุณสมบัติของยาหยอดหู 9. ในการเตรียมยาหยอดหู ทําไมจึงตองใช propylene glycol เปน vehicle 10. ยาที่เปน isotonic ควรใชอะไรเปนตัวปรับ tonicity 11. ใหทานบอกวิธีการใชยาหยอดตา/ปายตาที่ถูกตอง a) Chlorampphenicol ointment ปายตาซาย bid b) Chlorampphenicol eye drop หยอดตาซาย bid ทานจะแนะนําวิธีการใชยาหยอดตาและยาปายตาตามใบสั่งนี้ไดอยางไร a) ใหผูปวยหยอดตากอน จากนั้นอีกประมาณ 1 นาทีจึงปายตา b) ใหผูปวยหยอดตากอน จากนั้นอีกประมาณ 5 นาทีจึงปายตา c) ใหผูปวยปายตากอน จากนั้นอีกประมาณ 5 นาทีจึงหยอดตา d) ใหผูปวยปายตากอน จากนั้นอีกประมาณ 1 นาทีจึงหยอดตา e) หยอดหรือปายตาอยางไรก็ได 12. toxicity ของยา theophyllin เมื่อระดับยาในเลือดสูงเกิน therapeutic range คือ a) เกิดเชื้อราในชองปาก เสียงแหบ ใจสั่น ชัก b) คลื่นไส อาเจียน ปวดศีรษะ ใจสั่น ชัก c) ซึมเศรา เวียนศีรษะ กระวนกระวาย ชัก d) Hyperglycemia มือสั่น กระวนกระวาย นอนไมหลับ e) Hypokalemia hepatotoxicity ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ปสสาวะขัด 13. ยาที่มีผลใหระดับ theophyllin ในเลือดสูงขึ้น เมื่อทานรวมกันคือ f) Ciprofloxacin g) Erythromycin h) Cimetidine i) Lorstadine 1. a,b 2. b,c 3. c,d 4. a,b,c 5. ถูกทุกขอ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
412
MCQ
14. กลไกการออกฤทธิ์ในการตานปฏิกิริยาภูมิแพของยา theophyllin คือ a) ปดกั้นตัวรับ H1 และ H2 บน target cell b) ปดกั้น calcium influx เขาสู mast cell c) Prolong high cAMP level ใน mast cell โดยการยับยั้ง phosphate diesterase ซึ่งเปลี่ยน cAMP เปน S’-AMP d) Stimulate cAMP production โดยจับกับ beta-adrenergic receptor บน mast cell e) ลด histamine level โดยยับยั้งการเปลี่ยน histidine เปน histamine 15. ในการตั้งตํารับยา theophyllin syrup ทานจะมีวิธีเตรียมยาน้ําเชื่อมใสอยางไร 16. หากเปนเด็กชายสมชาย อายุ 6 ป การบริหารยา theophyllin SR จะเปนอยางไร a) นํายาเม็ดมาบด แลวแบงเปนสัดสวนที่เหมาะสม แบงใสซองๆ 1 dose ละลายน้ําดื่ม b) ละลายเม็ดยาในน้ํา แบงดื่มตาม dose ที่เหมาะสม c) หักเม็ดยาเปนสัดสวนที่เหมาะสม แลวกลืนพรอมน้ํา Case ผูปวยหญิง อายุ 45 ป มาที่รานขายยาที่ทานเปนเภสัชกร เพื่อซื้อยาหยอดตา จากการสอบถามอาการทราบวา มี อาการตามัว ปวดรอบๆกระบอกตา และหนาผาก คลื่นไสอาเจียน เห็นแสงรุงรอบดวงไฟ ตาแดง เมื่อสังเกตที่กระจกตา จะมีลักษณะขุน 1. จากอาการที่ผูปวยเลามาทานคิดวาผูปวยเปนอะไร a) ตอกระจก b) ตอหิน c) ตอเนื้อ d) สายตาสั้น e) สายตายาว 2. โรคนี้มีกี่ประเภท อะไรบาง มีสาเหตุจากอะไร หลักการรักษาตางกันอยางไร 3. ยาที่นิยมใชในการรักษาตอหินชนิดมุมเปดไดแก a. Beta blocker ED b. Manitol c. Epinephrine ED d. Dipiverin ED e. Parasympathomimetic ED f. Carbonicanhydrase inhibitor 4. ขอใดเปนกลไกการออกฤทธิ์ของยาหยอดตากลุม beta blocker ที่รักษาตอหิน a. เพิ่มการระบาย aqueous humer ทาง trabecular outflow b. ลดการสราง aqueous humer จาก ciliary body c. เพิ่มการระบาย aqueous humer ทาง iris d. เพิ่มการระบาย aqueous humer ทาง lens e. ลดการสราง aqueous humer ทาง iris 5. local effect จากการใชยาหยอดตากลุม beta blocker ไดแก a. stinging d. blurred vision b. dry eye e. ถูกทุกขอ c. corneal anesthesia
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
413
MCQ
6. ยาหยอดตาในกลุม beta blocker มีขอควระวังในผูปวยกลุมใด 7. ขอใดเปนพยาธิสภาพที่เกิดกับผูปวยโรคตอหินชนิดมุมเปด 8. ขอใดจัดเปนกลไกการออกฤทธิ์ของยาหยอดตากลุม Parasympathomimetic ที่ใชในการรักษาตอหิน a. เพิ่มการระบาย aqueous humer ทาง trabecular outflow b. ลดการสราง aqueous humer จาก ciliary body c. เพิ่มการระบาย aqueous humer ทาง iris d. เพิ่มการระบาย aqueous humer ทาง lens e. ลดการสราง aqueous humer ทาง iris 9. อธิบายอาการของโรคในขอยอยขอ 1 มาทุกโรค 10. drug which may induce or potentiate these disease in question 2 are ………… Case ลูกคาเพศหญิง อายุ 30 ป มาขอซื้อยาใหลูกชาย อายุ 6 ขวบ ซึ่งมีอาการปวดหู หูอื้อ และมักจะใชนิ้วแหยเขาในรู หู บางครั้งจะมีไขรวมดวย โดยเริ่มมีอาการมา 4-5 วันแลว 1. จากอาการดังกลาวคิดวาผูปวยรายนี้เปนโรคอะไร 2. ในกรณีนี้ ทานคิดวาควรซักประวัติอะไรเพิ่มเติม a. ผูปวยมีน้ําหนองไหลออกมาจากหูหรือไม b. กอนหนานี้เปนโรคอยางอื่นมากอนหรือไม เชนหวัด c. แพยาอะไรหรือไม d. ไดไปพบแพทยมากอนหรือไม ทานยาอะไรมาแลว 1) a,b 2) c,d 3) a,b,c 4) ถูกทุกขอ 3. โรคที่ผูปวยคนนี้เปนพบมากในชวงอายุใด a) 0-6 ป b) 6-12 ป c) 12-18 ป d) 38-44 ป e) 60-66 ป 4. risk factor ของการเกิดโรคมีอะไรบาง 5. เชื้อที่เปนสาเหตุหลักของการเกิดโรค ไดแก 6. ยาที่ใชในการรักษาโรคนี้ไดแก 7. ทานคิดวาหลักในการเลือกใชยาปฏิชีวนะสําหรับผูปวยโรคนี้มีอะไร จากการซักประวัติเพิ่มเติมพบวา ผูปวยเคยไปพบแพทยมากอนและไดรับยา amoxicillin syrup มาทาน แตอาการไมดีขึ้นเลย 8. ในกรณีถาผูปวยไมเคยแพยา ทานคิดวายาที่เหมาะจะแนะนําผูปวยรายนี้คือ a. Cefaclor ขนาด 40 mg/kg/day b. Trimetroprim/sulfamethoxazole ขนาด 8 mg (trimethoprim)/kg/day c. Amoxicillin/clavulanate ขนาด 40 mg/kg/day d. Azithromycin 10 mg/kg day1 and 5 mg/kg day 2-5 e. ถูกทุกขอ 9. จงอธิบายวิธีผสมยา antibiotic syrup ที่ถูกตอง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
414
MCQ เรื่อง neurology and Psychiatry 1. Carbedopa ใหรวมกับ levodopa เพื่ออะไร 2. Methadone มีประโยชน 3. Morphine ใชกับผูปวยดวยโรคหรือ อาการตอไปนี้ ก Biliary colic ข Head injure ค COPD ง ตับ จ MI 4. Imipramine รักษา ก Hypertension ข Mild anxiety ค Peptic ulcer ง Parkinson disease 5. จะปรับปรุงอนุพันธใด ในยาแกปวด เพื่อใหมีฤทธิ์เสพติด นอยที่สุด ก MU agonist, Delta antagonist ข Delta agonist, Mu and Kappa antagonist ค Kappa agonist, Delta and Sigma antagonist ง Kappa agonist, Mu antagonist จ Mu and Kappa agonist, Sigma antagonist 6. ระบบประสาทสวนกลางควบคุมการทําหนาที่ของอวัยวะตางๆ โดยอาศัยการทํางานที่เกิดจากสวนประกอบตอไปนี้ ก สมอง ข สมอง และไขสันหลัง ค สมอง ไขสันหลัง และเสนประสาท ง สมอง ไขสันหลัง เสนประสาท และเซลลเปาหมาย 7. แมสมองจะทําหนาที่อยางซับซอน และละเอียดออน แตองคประกอบหลักของสมองประกอบดวยเซลลสําคัญเพียงไมกี่ ชนิด ไดแก ก เซลลประสาท ข เซลลประสาท และเซลลค้ําจุน ค เซลลประสาท เซลลค้ําจุน และเซลลบุผิว ง เซลลประสาท เซลลค้ําจุน เซลลบุผิว และเซลลเม็ดเลือด 8. การสงสัญญาณประสาทระหวางเซลลประสาท กับเซลลเปาหมายเกิดโดยวิธี neurotransmission ซึ่งมีลักษณะ สําคัญ ดังตอไปนี้ ก เปนการสงสัญญาณที่อาศัยกระแสไฟฟา ข เปนการสงสัญญาณที่ไมตองอาศัย receptor ค เปนการสงสัญญาณที่อาศัยสารเคมีเปนตัวนําสัญญาณประสาท ง เปนการสงสัญญาณที่อาศัยประจุอิออนเปนตัวนําสัญญาณ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
415
MCQ
9. เซลลประสาทเซลลหนึ่งในสมองจะสงกระแสประสาทตอไปหรือไม ขึ้นอยูกับปจจัยตอไปนี้ ก EPSP (Excitatory postsynaptic potential) ข IPSP (Inhibitory postsynaptic potential) ค Threshold potential ง ถูกทุกขอ 10. โดยทั่วไปศูนยประสาทที่สั่งการทําหนาที่ของสมอง หรือรางกายจะมีระบบควบคุมสองแบบคือ Excitatory control system and Inhibitory control system ศูนยประสาทนี้จะสงกระแสประสาทไปสั่งการอวัยวะเปาหมายมากขึน้ ถาหาก ก Excitatory control system ถูกยับยั้ง ข Inhibitory control system ถูกยับยั้ง ค Inhibitory control system ถูกกระตุน ง ไมมีขอใดถูก 11. สารสื่อประสาท ทําหนาที่เปนตัวกลางในการสงสัญญาณขามซัยแนปส (synap) โดยทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ postsynaptic neurons ในเชิงกระตุนหรือยับยั้งขึ้นอยูกับ receptor ที่เกี่ยวของสําหรับสารสื่อประสาทที่มีคุณสมบัติเปน excitatory neurotransmitter เพียงอยางเดียว ไดแก ก Glutamate ข Gamma-aminobutyric acid (GABA) ค Serotonin ง Dopamine 12. สารสื่อประสาทที่มีคุณสมบัติเปน Inhibitory neurotransmitter เพียงอยางเดียว ไดแก ก Glutamate ข Gamma-aminobutyric acid (GABA) ค Serotonin ง Dopamine 13. ผลบางประการของสารสื่อประสาทที่มีตอ postsynaptic neuron ตองอาศัยสารสื่อที่สอง สารตอไปนี้ ขอใดไมใชสารสื่อที่ สองของการสื่อสัญญาณในระบบประสาทสวนกลาง ก Inositol triphosphate ข Cyclic AMP ค Diacylglycerol ง Triglyceride 14. วิธีการถายทอดสัญญาณชนิดใดที่ไมควรเกี่ยวของกับผลของสารสื่อประสาทตอเซลลเปาหมาย ก สารสื่อประสาทกระตุน receptor on cell membrane ซึ่งเชื่อมกับ ion channel โดยตรงและทําใหเกิดผล depolarization or hyperpolarization ข สารสื่อประสาทกระตุน receptor on cell membrane ซึ่งเชื่อมกับ G-protein ที่ควบคุม second messenger or ion channel แลวจึงเกิดผล ค สารสื่อประสาทกระตุน receptor on cell membrane ซึ่งเปนทั้ง binging site and enzyme tyrosine kinase แลว จึงเกิดผล ง ไมมีขอใดถูก
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
416
MCQ
15. Blood-Brain Barrier (BBB) หมายถึงโครงสรางของหลอดเลือดฝอยในสมองซึ่งปองกันการซึมผานของยาจากเลือดสู สมองโครงสรางดังกลาวประกอบดวย ก Endothetial cells ที่แนนหนา ข สวนหนึ่งของ glial cells ที่หุมรอบหลอดเลือดฝอย ค ถูกทั้ง ก และ ข ง ไมมีขอใดถูก 16. ยามีหลักการออกฤทธิ์ตอระบบประสาทสวนกลางไดหลายรูปแบบ กลไกในขอใดควรทําใหปริมาณสารสื่อประสาทใน synaptic cleft เพิ่มขึ้น ก ยับยั้งการทําลายสารทสื่อประสาทในปลายประสาท ข ยับยั้งการทําลายสารสื่อประสาทกลับที่ปลายประสาท ค ยับยั้งตัวรับชนิด presynaptic autoreceptor ง ถูกทุกขอ 17. ยามีกลไกการออกฤทธิ์ตอระบบประสาทสวนกลางไดหลายรูปแบบกลไกในขอใดทําใหปริมาณสารสื่อประสาทใน synaptic cleft ลดลง ก ยับยั้งการทําลายสารทสื่อประสาทในปลายประสาท ข ยับยั้งการจับระหวางสารสื่อประสาทกับตัวรับชนิด postsynaptic receptor ค ยับยั้งการสังเคราะหสารสื่อประสาทในปลายประสาท ง ถูกทุกขอ 18. ความผิดปกติของระบบประสาทสวนกลางที่เกิดจากความบกพรองทางกายภาพของสมอง โดยมีรอยโรคเห็นชัดเจนจาก การตรวจเนื้อเยื่อสมองเรียกวา ก Behavioral disorder ข Psychological disorder ค Neurological disorder ง Anxiety disorder 19. โรคที่เกิดกับระบบประสาทสวนกลางหลายโรคใชยารักษาหรือใชยาบรรเทาได ยาสวนใหญที่ใชรักษาโรคดังกลาวเปนยา ที่ออกฤทธิ์ ก กระตุนการทํางานของระบบประสาทสวนกลาง ข กดการทํางานของระบบประสาทสวนกลาง ค กระตุนเซลลประสาทใหเจริญงอกงาม ง กระตุน glial cells ใหงอกงาม 20. ยาดมสลบ แตละตัวมีขอดีและขอเสียตางกันไปปจจุบันยาที่ไดผลดีและเปนยาสลบมาตรฐานที่ใชกับการผาตัดทั่วไป คือ ก Ether ค Chloroform ข Halothane ง Cyclopropane 21. Thiopental เปนยาฉีดสลบ ซึ่งทําใหสลบรวดเร็วแตสลบเพียงระยะสั้น สาเหตุที่ยานี้ทําใหผูปวยสลบเพียงะยะสั้น เนื่องจาก ก การทําลายยาโดยตับเกิดขึ้นอยางรวดเร็ว ข การขับถายยาออกจากปสสาวะเกิดอยางรวดเร็ว ค การกระจายยอนกลับสูเลือดเกิดอยางรวดเร็ว ง การจับกับโปรตีนในเลือดเกิดอยางรวดเร็ว
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
417
MCQ
22. ยาดมสลบถูกสูดดมจากภายนอกเขาสูปอด แพรเขาสูกระแสเลือดและเขาสมองในที่สุด ในทางทฤษฎีคา partial pressure ของยาดมสลบในสวนใดของรางกายที่ควรมีความสัมพันธกับระดับความลึกการสลบมากที่สุด ก ถุงลมปอด ข กระแสเลือดแดง ค กระแสเลือดดํา ง สมอง 23. ยาดมสลบที่อยูใน gas phase เปนสวนที่กระจายแทรกเยื่อหุมเซลลไปสูสวนตางๆของรางกาย คาตอไปนี้คาใดมี อิทธิพลตอชวงเวลาการนําสลบมากที่สุด ก Blood: water partition coefficient ข Brain: blood partition coefficient ค Blood: gas partition coefficient ง Brain: water partition coefficient 24. เนื่องจากยาสลบแตละตัว ตางก็มีขอดีและขอเสีย ดังนั้นแนวความคิดการสลบแบบ balance anesthetic จึงมี วัตถุประสงคหลักเพื่อ ก ทําใหผูปวยอยูในสภาวะการสลบที่ราบรื่นสมบูรณสําหรับการผาตัด โดยการใชยาตางๆรวมกันหลายตัวทั้งกอน ผาตัด ขณะผาตัด และหลังผาตัด ข ลดขนาดยาสลบที่ใชตางๆใหนอยลง ใหเปนการประหยัดตอผูปวย ค ยืดระยะเวลาสลบใหยาวนานออกไปโดยไมเกิดอันตรายตอผูปวย ทําใหการผาตัดไมตองเรงรีบ ง ทดลองการตอบสนองของผูปวยตอยาตางๆ 25. โรคลมชักมีทั้งอาการอยางเฉียบพลันชั่วขณะและเปนครั้งคราว โดยอาการที่แสดงออกอาจมีลักษณะตอไปนี้ ก เกิดอาการชัก ข มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือการรับรู ค เกิดภาวะหมดสติสัมปชัญญะ ง ถูกทุกขอ 26. การชักชนิด partial seizure มีลักษณะดังนี้ตอไปนี้ ก เกิดจากการสงสัญญาณประสาทเกินควร ของเซลลประสาทที่จุดใดจุดหนึ่ง ข การชักเกิดขึ้นเฉพาะที่สวนใดสวนหนึ่งของรางกาย ค การชักอาจจะกระจายไปทั่วรางกาย ถาการ over discharge ของเซลลประสาทที่ epileptic focus กระจายวงกวาง ออกไปทั่วสมอง ง ถูกทุกขอ 27. ยาตานลมชักแตละตัวจะมีขอบงใชเฉพาะโรคลมชักแตละประเภท ยาตานลมชัก phenytoin และ carbamazepine เปน ยาที่ใชเปนยาเลือกอันดับแรกสําหรับการชักชนิดใด ก Grand mal seizures ค Status epilepticus ข Petit mal seizures ง การชักจากการติดเชื้อในสมอง 28. การระงับการชักชนิด status epilepticus ควรใชยาตอไปนี้ ก Buspirone ฉีดเขาเสนเลือดดํา ข Diazepam ฉีดเขาเสนเลือดดํา ค Morphine ฉีดเขาเสนเลือดดํา ง ถูกทุกขอ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
418
MCQ
29. ยาตานลมชักแตละตัวจะมีผลขางเคียงแตกตางออกไป อาการขนดก ผิวหนาหยาบกราน เหงือกพอง เปนผลขางเคียงที่ เปนลักษณะเฉพาะของยาใด ก. Phenobarbital ข. Valproic acid ค. Phenytoin ง. Clonazepam 30. ขอความตอไปนี้ ขอใดที่ไมถูกตอง ก. อาการไมพึงประสงคของยาตานลมชักอาจลดลงได ถาใชยาในขนาดที่เหมาะสมถูกตอง ข. การหยุดยาตานลมชักโดยพละการจะมีผลเสียตอผูปวยมากวาอาการไมพึงประสงค ค. ผูปวยโรคลมชักที่เปนหญิงควรงดใชยาตานลมชักระหวางตั้งครรภ เพื่อปองกันพิษของยาตอทารก ง. การชักแตละครั้งมีผลเสียตอสมองของผูปวย โดยทําใหมีโอกาสชักถี่ขึ้นหรือ เกิดอาการสมองเสื่อม 31. Parkinson’s disease เปนโรคของระบบประสาทสวนกลางที่เกิดจากการเสื่อมของเซลลประสาทในสมองสวนหนึ่งคือ ก. Cholinergic neurons ในสมองสวน seto-hippocampal pathway ข. Dopaminergic neurons ในสมองสวน mesolimbic pathway ค. Dopaminergic neurons ในสมองสวน nigrostriatal pathway ง. Dopaminergic neurons ในสมองสวน tuberoinfundibular pathway 32. Parkinson’s disease มีอาการแสดงหลายดาน แตเปนที่อาการแสดงหลักไดแก ก. Bradykinesia ค. Resting tremors ข. Rigidity ง. ถูกทุกขอ 33. การรักษา Parkinson’s disease ดวย Levodopa ออกฤทธโดยกลไกตอไปนี้ ก. เปน dopamine receptor agonist โดยตรง ข. เปน immediate precursor ของ dopamine ค. เปน dopamine reuptake blocker ง. ยั้บยั้งการทําลาย dopamine 34. Levodopa ซึ่งใหโดยการรับประทาน ซึ่งตําแหนงออกฤทธิ์ที่สมองไดนอยเนื่องจาก ก. ถูกทําลายโดยกรดจากกระเพาะอาหาร ทําใหการดูดซึมนอยลง ข. จับกับโปรตีนในเลือดสูงทําใหยาออกจากกระแสเลือดไดนอย ค. Levodopa สวนใหญเปลี่ยนแปลงเปน dopamine ที่เนื้อเยื่อตางๆนอกสมอง ง. Levodopa ผาน BBB ไดนอย 35. การใช Levodopa รักษา Parkinson’s disease อาจเกิดปรากฎการณเหลานี้ขึ้น ซึ่งทําใหการรักษาไมสมบูรณ ก. ภายหลังการรรักษาได 3-5 ป ผลการรักษาจะลดลง ข. ผลการรักษาในแตละคนไมคงที่ (on-off phenomenon) ค. เซลลประสาท dopminergic ที่ nigrostriatal pathway เสื่อมสลายเกือบหมด ง. ถูกทุกขอ 36. การใชยา carbidopa รวมกับ levodopa ในการรักษา Pankinson’s disease มีจุดประสงคเพื่ออะไร ก. เพิ่มการดูดซึมของ levodopa จากทางเดินอาหาร ข. ยับยั้งการขับถาย levodopa ออกทางปสสาวะ ค. เรงการเปลี่ยนแปลง levodopa เปน dopamineที่สมอง ง. ยับยั้งการเปลี่ยนแปลง levodopa เปน dopamine ที่เนื้อเยื่อนอกสมอง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
419
MCQ
37. การใช Selegiline ซึ่งเปน Irreversible MAO-B inhibitor ในการรักษา Parkinson’s disease อาจมีผลดีตอผูปวย มากกวาเพียงปองกันการทําลาย dopamine โดยยาอาจมีผลชะลอการเกิดโรคไดโดยกลไกตอไปนี้ ก. ปองกันการเกิด free radical ซึ่งมีพิษและเปนผลพลอยไดจากการทําลาย dopamine ข. กระตุนการเจริญของ dopaminergic neurons ใน nigrostriatal pathway ค. กระตุนการเจริญของ glial cells ในสมอง ง. ถูกทุกขอ 38. Alzheimer’ disease นั้น ไดแกลักษณะดังตอไปนี้ ก. สมองมีขนาดใหญกวาปกติ ข. เนื้อสมองมี neurofibrillary tangles and senile plaque มากกวาปกติ ค. มีเอนไซม choline acetyltransferase and acetylcholine esterase มากวาปกติ ง. มีปริมาณ choline ในสมองมากกวาปกติ 39. อาการที่พบในผูปวย Alzhemer’ disease นั้น นอกเหนือจากความจําเสื่อมแลวยังมีอาการตอไปนี้อีกดวย คือ ก. อาการทางระบบประสาทอัติโนมัติ เชน ใจสั่น เหงื่อออกมาก ปากแหง ตาพรา ข. อาการทางจิตอารมณและพฤติกรรม เชน ซึมเศรา ประสาทหลอน พฤติกรรมกาวราว ค. อาการทางระบบทางเดินอาหาร เชน ทองเดิน คลื่นไส อาเจียน ง. ถูกทุกขอ 40. การรักษาผูปวย Alzhemer’ disease นั้น ทําไดเพียงการประคับประคองใหผูปวยมีคุณภาพชีวิตในแตละวันดีขึ้น และ เนนที่การบรรเทาอาการความจําเสื่อมโดยการใชยาตอไปนี้ ยกเวน ก. Acetylcholine esterase inhibitors เชน physostigmine ข. Otropics เชน piracetam ค. Cholinergic antagonists เชน atropine ง.Acetylcholine precursors เชน lecithin Case ผูปวยมาพบทานที่รายยา ซักประวัติแลวพบวาในระยะครึ่งปที่ผานมาเปนลมหมดสติหลายครั้ง มีการชักเกร็งระหวาง หมดสติทุกครั้ง ครั้งนี้ผูปวยตองการซื้อยารักษา 1. ในฐานะเภสัชกรประจําราน ทานควรทําอยางไร ก. ซักประวัติเพิ่มเติมพบวา ผูปวยมีแนวโนมเครียดงายจากการทํางาน จึงใหยาคลายกังวลและนัดพบในอีก 1 เดือน ข. ซักประวัติเพิ่มเติมพบวามีสุขภาพออนแอ จึงใหยาวิตามินและนัดมาพบในอีก 1 สัปดาห ค. ใหยาคลายกลามเนื้อเพื่อปองกันอาการชักเกร็งระหวางหมดสติ ง. ซักประวัติเพิ่มเติมพบวามีสุขภาพออนแอ จึงแนะนําใหพักผอนใหเพียงพอ จ. ซักประวัติเพิ่มเติมและแนะนําใหไปพบแพทย
หนึ่งเดือนตอมาผูปวยไดนําใบสั่งยามาซื้อยา ดังนี้ นางสุดใจ อายุเยาว อายุ 25 ป Dx: F/U Epilepsy Rx Dilantin® 100 mg 3 x 1 hs #30 วัน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
420
MCQ
2. ในฐานะเภสัชกรทานจะจาย Dilantin® 100 mg ตามใบสั่งนี้ จํานวนกี่แคปซูล a. 30 แคปซูล b. 45 แคปซูล c. 60 แคปซูล d. 90 แคปซูล e. 120 แคปซูล 3. ในกรณีที่หองยาไมมี Dilantin® 100 mg capsule หากมีทางเลือกดังตอไปนี้ A. จาย Dilantin® 50 mg tabletแทน จํานวน 2 เทา B. จาย Phenytoin 100 mg ยี่หอใดๆ จํานวนเทากัน ทานจะปฏิบัติอยางไร ก. เลือกขอ A เนื่องจากเปนยายี่หอเดียวกัน จึงสามารถจายแทนได โดยแนะนําใหผูปวยรับประทานยา 6 เม็ดกอน นอน ข. เลือกขอ B เนื่องจาก Dilantin® 50 mg มีตัวยาเปน Phenytoin ไมสามารถใหแทน Dilantin® 100 mg ซึ่งมีตัวยา เปน Phenytoin sodium ได ค. เลือกขอ A เนื่องจากเปนยายี่หอเดียวกันจึงสามารถจายแทนกันได แตจะตองเปลี่ยนวิธีรับประทานยาเปน กินครั้ง ละ 2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ง. เลือกขอ B เนื่องจากยาเปน Phenytoin เหมือนกัน จึงสามารถใชแทนกันได จ. เลือกขอ B แตตองทําการติดตามอาการชักของคนไขเพื่อปรับปริมาณยาใหเหมาะสม 4. Phenytoin มีกลไกการออกฤทธิ์ในการรักษาโรคลมชักอยางไร ก. block PTP (post titanic potentiation) ข. decrease post-synaptic excitation ค. increase GABA activity ง. decrease excitatory neurotransmitter จ. inhibit protein kinase-C 5. กอนจายยานี้ ทานจะใหคําแนะนําในการใชยาแกผูปวยรายนี้อยางไร ก. รับประทานยานี้หลังอาหารทันที ข. ดื่มน้ําตามมากๆหลังรับประทานยา ค. เมื่ออาการดีขึ้นสามารถปรับลดขนาดยาได ง. หามรับประทานพรอมนม จ. กินยานี้ติดตอกันเปนประจําทุกวัน 6. นางสุดใจมาถามเภสัชกรที่หองยาโดยสงสัยวาในการรับประทานยาแตละวัน ไมเปนเวลาเดียวกันทุกวันคลาดเคลื่อนไม เกิน 2-3 ชั่วโมง จะเกิดปญหาตอการรักษาหรือไม เภสัชกรใหคําตอบวาไมเปนไร ทานคิดวาปจจัยในขอใดทําใหเภสัชกร ตอบเชนนี้ ก. คาครึ่งชีวิตของ phenytoin ยาว ข. Phenytoin ถูกกําจัดทางไตนอยกวา 5% ค. เภสัชจลนศาสตรของยาเปนแบบไมเปนเสนตรง ง. ยามีผลตอเอนไซม Cytochrome P450 system จ. Phenytoin ไมเกิด first pass metabolism
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
421
MCQ
7. เภสัชจลนศาสตรของ phenytoinที่เปนแบบไมเปนเสนตรง (non-linear pharmacokinetic) หมายความวาอยางไร ก. หาก plot graph ระหวางขนาดยาและความเขมขนจะไมมีสวนที่เปนเสนตรง ข. ยาถูกกําจัดจากรางกายไดหลายกลไก ค. ขนาดยาที่สูงขึ้น จะไดฤทธิ์ยาเพิ่มขึ้นนอยกวาที่ควรจะเปน ง. ความเขมขนของยาในกระแสเลือดที่เพิ่มขึ้นไมเปนสัดสวนโดยตรงกับขนาดยา จ. เมื่อขนาดยาที่สูงขึ้น ณ จุดหนึ่ง ความสัมพันธของขนาดยาและความเขมขนในกระแสเลือดจะเปนสัดสวนผกผัน 8. ขอใดเปนผลขางเคียงจากการใช phenytoin ติดตอกันเปนระยะเวลานาน ก. Gingival hyperplasia ข. Ataxia ค. Mental retardation ง. Blurred vision จ. Hyperactivity 9. ผูปวยมาพบแพทยตามนัด แพทยพบวาผูปวยมีอาการตากระตุก (nystagmus) แพทยสงสัยวาอาการดังกลาวเกิดจาก พิษของยา เมื่อปรึกษาเภสัชกร ทานจะใหคําแนะนําตอไปนี้ ยกเวน ก. ควรตรวจสอบอาการเดินเซ (ataxia) รวมดวย ข. สอบถามประวัติการใชยาของผูปวย ค. ตรวจวัดระดับยาในเลือด ง. ใช Diazepam เพื่อควบคุมอาการ nystagmus กอนใหการรักษาตอไป จ. ผูปวยควรหยุดใชยา phenytoin และรอดูอาการ ตอมานางสุดใจถูกนําตัวสงโรงพยาบาลในสภาพหมดสติ ญาติแจงวากอนมาโรงพยาบาลมีอาการชักและลมลงศีรษะ กระแทกพื้นหมดสติ หลังแพทยใหการรักษาพบวาผูปวยยังมีอาการชักเกร็งเปนระยะ จึงตองการใหยา phenytoin ตอ โดย ใหผานทางสายยาง (nasogastric feeding) 10. ทานคิดวาจะเตรียมยา phenytoin ใหผูปวยรายนี้ในรูปแบบใดที่เหมาะสมที่สุด ก. แกะแคปซูล เทผสมน้ํา ใหผานทางสายยาง ข. แกะแคปซูล เทผสมอาหารเหลว ที่ใหผานทางสายยาง ค. เตรียมในรูปแบบ phenytoin suspension ใหผานทางสายยาง ง. บด phenytoin tablet ผสมน้ํา ใหผานทางสายยาง จ. ใช phenytoin injection ใหผานทางสายยาง Case 1. ขอใดไมถูกตองเกี่ยวกับหลักการใชยากันชัก ก. ควรเริ่มตนการรักษาดวยยาทีละตัว (monotherapy) ข. ควรเริ่มตนดวยขนาดยาต่ําๆ แลวจึงเพิ่มขนาดยาขึ้น ค. การตรวจวัดระดับยาในเลือดอาจไมจําเปนในทางปฏิบัติ ง. ขนาดของยาไมจําเปนตองเทากัน (Fixed dose) ในผูปวยทุกราย จ. ควรเลือกยากันชักชนิดใหมเชน Gabapentin เปนอันดับแรกในการรักษาเนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง 2. ขอใดตอไปนี้คืออาการขางเคียงที่นาจะเกิดจากการไดรับยา phenytoin ก. Gum hyperplasia ง. Gastric irritation ข. Tachycardia จ. Hair loss ค. Dry mouth
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
422
MCQ
3. กลไกการออกฤทธิ์ของ phenobarbital คือขอใด ก. กระตุน Glutamate neurotransmission ง. ยังยั้ง Dopamine neurotransmission ข. กระตุน GABA neurotransmission จ. ยังยั้ง Norepineprine neurotransmission ค. กระตุน Serotonin neurotransmission 4. Phenobarbital ใหผลการรักษา epilepsy ชนิดใดไดดีที่สุด ก. Generalized tonic-clonic (Grand mal) seizure ข. Absence (Petit mal) seizure ค. Atonic seizure ง. Clonic and myoclonic seizure จ. Tonic seizure 5. หากเภสัชกรตองการศึกษาวาผูปวย epilepsy ที่ไดรับ counseling จะมีจํานวนครั้งของการชักในรอบเดือนที่ผานมา นอยลงกวากลุมผูปวยที่ไมไดผานการ counseling หรือไม ทานจะใชสถิติแบใดในการวิเคราะหขอมูล ก. t-test ง. Chi-square test ข. paired t-test จ. Logistic regression ค. ANOVA 6. Lorazepam มีฤทธิ์ตางๆตอไปนี้ ยกเวน ก. Hypnotic effect ง. Antianxiety effect ข. Muscle-relaxing effect จ. Antidepressant effect ค. Anticonvulsant effect 7. ขอความตอไปนี้ เกี่ยวกับ Lorazepam ผิด ก. ออกฤทธิ์โดยการกระตุน GABA neurotransmission ข. Overdose ของ Lorazepam สามารถใช flumazenil ซึ่งเปน antidote รักษาได ค. ถาใชเปนระยะเวลานานแลวหยุดยา จะกอใหเกิด withdrawal symptoms ได ง. เปน hepatic drug-metabolizing enzyme inducer จ. ไมกอใหเกิด hang over effect เหมือน diazepam 8. ในกรณีที่ผูปวยมีปญหานอนหลับยาก (ตองใชเวลานานกวาจะหลับ) ควรเลือกยาในขอใดตอไปนี้ ก. midazolam ง. diazepam ข. temazepam จ. flurazepam ค. lorazepam 9. พืชที่มีฤทธิ์การรักษาอาการนอนไมหลับ ก. Cassia tora จ. Cassia fistula ข. Cassia garettia ค. Cassia siamea ง. Cassia acutifolia 10. หามใชขี้เหล็กกับผูปวยโรคใด ก. กระเพาะอาหาร ง. กลามเนื้อ ข. ตับ จ. เลือด ค. ไต
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
423
MCQ
11. หากผูปวยมาขอซื้อยา Lorazepam tab ในรานขายยาทานสามารถจําหนายยานี้ไดหรือไม ก. ได หากมีใบอนุญาตจําหนายยาอันตราย ข. ได หากมีใบอนุญาตจําหนายวัตถุออกฤทธิ์ ค. ได หากมีใบอนุญาตจําหนายยาเสพติดประเภท 2 ง. ไมไดเพราะยาเสพติดประเภท 2 จ. ไมไดเพราะเปนยาวัตถุออกฤทธิ์ 12. เนื่องจากยาในกลุม Benzodiazepines สวนมากมี therapeutic index แคบ ดังนั้นการควบคุมคุณภาพในการ ปลดปลอยตัวยาจึงมีความสําคัญ การทดสอบคุณสมบัติใดตอไปนี้สามารถบงบอกการปลดปลอยตัวยาได ก. ความแข็ง (Hardness) ง. ระยะเวลาในการแตกตัว (Disintegration time) ข. ความกรอน (Friability) จ. การละลาย (Dissolution) ค. น้ําหนักเม็ดยา (Tablet weight) 13. เกี่ยวกับการศึกษาระยะเวลาในการแตกตัวของเม็ดยาขอใดถูกตอง ก. ยาเม็ดที่ตองการ systemic effect เทานั้น ที่จะตองผานการทดสอบการแตกตัวที่เรียกวา In vitro disintegration ข. เปนวิธีหนึ่งในการตรวจสอบ ความแปรปรวนของการแตกตัวของเม็ดยาระหวาง lot การผลิต ค. ยาเม็ดตอกแบบไมเคลือบทุกชนิด มีระยะเวลาในการแตกตัวประมาณ 30 นาที ง. เครื่องมือทดสอบเรียกวา Disintegration apparatus มี 2 แบบคือ Apparatus 1 และ 2 จ. ยาที่มีการแตกตัวสูง จะมีคาการละลายสูงไปดวย ชายไทยคูอายุ 65 ป ไดรับการวินิจฉัยจากแพทยวามีภาวะ insomnia 14. ยาในขอใดไมใชยาที่ใชในการรักษาภาวะ insomnia ก. Chlorphenilamine maleate ง. Clonazepam ข. Phenobarbital จ. Haloperidol ค. Chloral hydrate 15. ขอใดไมใชประโยชนของการใชยากลุม Benzodiazepine ในทางคลินิก ก. ใชเปนยานอนหลับ ง. ใชเปนยากันชัก ข. ใชเปนยาคลายกังวล จ. ใชเปนยาสลบ ค. ใชเปนยาคลายกลามเนื้อ 16. Ergotamine มี side effect ตางๆตอไปนี้ ยกเวน ก. Nausea and vomiting ง. Hypotension ข. Weakness in legs จ. Bradycardia ค. Angina-like pain 17. ขอความใดตอไปนี้เกี่ยวกับ Ergotamine ผิด ก. เปน drug of choice สําหรับระงับอาการ migraine attack ข. ถาใชในขนาดที่มากเกินไปจะกอใหเกิด gangrene ตามปลายมือปลายเทา ค. ถาใชรวมกับ selective serotonin receptor agonist เชน Sumatriptan จะใหผลดียิ่งขึ้น ง. ไมควรใชในสตรีมีครรภ จ. ใชไปนานๆอาจติดยาได (physical dependence)
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
424
MCQ
18. ขอใดตอไปนี้ไมใชอาการของไมเกรน ก. ปวดตามทายทอยราวไปกลางศีรษะหรือลักษณะคลายวิ่งจี๊ดไปมา ข. ปวดศีรษะขางเดียว ปวดตุบๆ ค. ปวดตุบๆสลับขางหรือทั้ง2 ขาง และมักมีอาการคลื่นไสอาเจียนรวมดวย ง. กอนจะปวดศีรษะมีอาการเห็นภาพผิดปกติ (Visual disturbance) จ. กอนจะปวดศีรษะอาจมีอาการหงุดหงิด ทนแสงหรือเสียงดังไมได 19. ยาในขอใดตอไปนี้ไมใชในการรักษา acute attack migraine ง. Sumatriptan ก. Paracetamol จ. Flunarizine ข. Aspirin ค. Ergotamine จากการซักถามเพิ่มเติม พบวาผูปวยหญิงไทยคูมีอาการปวดศีรษะประมาณ 2-3 ครั้งตอเดือน เภสัชกรจึงแนะนําวาผูปวย นาจะไดรับยาปองกันไมเกรน 20. ยาในขอใดตอไปนี้ควรเลือกใชในการปองกันไมเกรน ก. Ergotamine ง. Propanolol ข. Ergotamine + Caffeine จ. Tramadol ค. Sumatriptan 21. ผูปวยไมเกรนควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานสิ่งเหลานี้ ยกเวน ก. เนยแข็ง ง. เบียร ข. ช็อกโกแลต จ. นม ค. ไวนแดง ผูปวยไมเกรนไดรับยา Diazepam ที่ผูปวยไดรับมาจากโรงพยาบาลมาขอซื้อเพิ่ม 22. ทานจะจายยานี้ไดหรือไม ก. ไมไดเพราะเปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาท ข. ไมไดเพราะเปนยาเสพติดประเภท 2 ค. ไมไดเพราะเปนยาอันตราย ง. ได เพราะผูปวยไดรับการสั่งใชยานี้จากแพทยมาจากโรงพยาบาลอยูแลว จ. ได เพราะผูปวยครอบครองและใชยานี้อยูแลว 23. Caffeine พบในพืชใด ก. ergot ง. cinchona ข. kola จ. tobacco ค. belladonna 24. Ergotamine มีฤทธิ์อยางไร ก. ลดการสราง prostaglandins ข. ทําใหกลามเนื้อหดตัว ค. ทําใหเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ง. ทําใหหลอดเลือดคลายตัว จ. ทําใหกลามเนื้อคลายตัว
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
425
MCQ
Case รวม 1. ขอใดไมใชอาการขางเคียงของยา Carbamazepine ก. Ataxia ค. Steven Johnson syndrome ข. Gingival hyperplasia ง. Diplopia 2. Carbamazepine 400 PO bid ขอใดไมใชอาการขางเคียง ก. Ataxia ง. Diplopia ข. Gingival hyperplasia จ. Agranulocytosis ค. Steven Johnson syndrome 3. Phenobarbital ที่ใชในเด็ก hyperbililubin ก. กันชัก ง. กระตุนประสาทในเด็ก ข. Sedative hypnotic จ. กด CNS ค. Enzyme inducer 4. ขอใดไมใชคุณสมบัติของยาตานอาการซึมเศรากลุม SSRIs ก. มีอาการขางเคียงนอยกวาหรือไมแรงเทายาในกลุม TCA ข. มีฤทธิ์ปดกั้น muscarinic, histaminergic หรือ α-adrenergic receptor นอยกวา ค. มีผล inhibit CYP 450 ที่ตับนอยกวา ง. มีอาการขางเคียงคือทําใหงวงนอน จ. ใชติดตอเปนเวลานานอาจทําใหดื้อยาได 5. การพิจารณาปจจัยประกอบตอไปนี้ในการเลือกยาตานการซึมเศรากับผูปวย โดยปจจัยที่มีความสําคัญนอยที่สุด ไดแก ง. Side effect ก. Cost effectiveness ข. Compliance จ. Strength ค. Tolerability 6. ผูปวยถามวาถารับประทานยา phenytoin ไมเปนเวลาเดียวกันทุกวันเปนอะไรมั้ย เภสัชกรตอบวาไมเปนไร ทานคิดวา อะไรเปนสาเหตุที่เภสัชกรตอบอยางนั้น ก. Phenytoin มี half life ยาว ข. Phenytoin ถูกกําจัดทางไตนอยกวา 5% ค. Phenytoin ยับยั้ง enz CYP 450 ในตับ ง. Phenytoin ไมเกิด first past metabolism 7. Chronic side effect ของ Phenytoin คืออะไร ก. Gingival hyperplasia ง. Hyperactivity ข. Ataxia จ. Steven Johnson syndrome ค. Mental retardation 8. คนเปน Alzhimer จะใชยา ก. Ach E ง. Nooprotin ข. Ach precursor จ. NSAIDs ค. Cholinergic antagonist 9. ขอใดไมใชปจจัยเสี่ยงที่ทําใหเกิดโรคลมชัก ก. พันธุกรรม ค. ตั้งครรภ ข. สมองกระทบกระเทือน ง. โรคทางสมอง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
10.
11.
12.
13.
14.
15.
16.
17.
MCQ
426
จ. น้ําตาลในเลือดต่ํา โรคลมชักใดที่พบบอยที่สุด ก. Tonic-clonic ค. Complex ข. Partial ง. Unclassified ประสิทธิภาพในการรักษาโรคลมชักขึ้นอยูกับอะไรมากที่สุด ก. ความรุนแรงของโรค ง. ขึ้นอยูกับระดับยาในเลือด ข. การเกิดปฏิกิริยากันของยา จ. ความผิดปกติของตับ ไต ค. ระยะการรักษา การใชยา วิธีใดใชปฏิบตั ิกับคนที่กําลังชัก ก. จัดทานั่งใหเหมาะสม ปองกันการสําลัก ค. ระวังศีรษะไมใหกระแทกพื้น ข. กําจัดสิ่งกีดขวางทางเดินหายใจ ง. ไมตานกับแรงจากการชัก สารใดคลายกลามเนื้อ ก. Vinblastin ง. Codeine ข. Cirare จ. Lobeline ค. Colchicine การรักษา Parkinson’s disease อาจทําไดโดยวิธีการตอไปนี้ ก. ลด dopaminergic neurotransmission ข. เพิ่ม dopaminergic neurotransmission ค. เพิ่มทั้ง dopaminergic และ cholinergic neurotransmission ง. ลดทั้ง dopaminergic และ cholinergic neurotransmission จ. เพิ่ม cholinergic neurotransmission การรักษาผูปวยโรค Parkinson’s disease ในระยะเริ่มตนที่อาการยังเบา ไมควรเลือกใชยาตอไปนี้ ก. Selegilline ค. Levodopa ข. Amantadine ง. Trihexyphenidyl BenztropineLevodopa ซึ่งใหโดยการรับประทานเขาถึงตําแหนงออกฤทธิ์ที่สมองไดนอย เนื่องจาก ก. จับกับโปรตีนในเลือดสูงทําใหยาออกจากกระแสเลือดไดนอย ข. Levodopa สวนใหญเปลี่ยนแปลงเปน dopamine ที่เนื้อเยื่อตางๆนอกสมอง ค. Levodopa ผาน blood brain barrier ไดนอย ง. ถูกทําลายโดยกรดในกระเพาะอาหาร ทําใหการดูดซึมนอย จ. รางกายนํา Levodopa ไปใชสรางโปรตีน ในระหวางการรักษาดวย Levodopa ผลไมพึงประสงคตางๆที่อาจเกิดขึ้นไดแก ภาวะตอไปนี้ ยกเวน ก. หัวใจเตนผิดจังหวะ เนื่องจากปริมาณ catecholamine ที่เพิ่มขึ้น ข. อาการออนเพลีย ไมมีแรง ขาดสมาธิ ค. ความผิดปกติของการเคลื่อนไหว ซึ่งพบไดประมาณ 80% ของผูใชยา ง. การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม อารมณฉุนเฉียว ประสาทหลอน จ. อาการคลื่นไสและอาเจียน ซึ่งจะเกิดไดหลังจากใชยาไปแลว 4-6 สัปดาห
18. ปรากฏการณในขอใดไมใชสิ่งที่เกิดขึ้นระหวางการใช Levodopa เพียงตัวเดียวรักษา Parkinson’s disease ซึ่งอาจ นําไปสูความลมเหลวของการรักษาโรค
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
427
MCQ
ก. ข. ค. ง. จ.
หลังจากเริ่มการรักษาผูปวยได 3-5 ป ผลการรักษาจะลดลง ผลการรักษาในแตละวันอาจไมคงที่ (on-off phenomenon) ตัวรับ Dopamine receptor ในสมองเกิด down regulation ลดจํานวนลง Levodopa ซึมผาน blood brain barrier เขาสูสมองไดยากขึ้น อนุมูลอิสระที่เกิดจากการเมทาบอลิซึมของ Levodopa จะทําใหเซลลประสาท dopaminergic ที่ nigrostriatal pathway 19. การใช carbidopa หรือ benserazide รวมกับ Levodopa ในการรักษา Parkinson’s disease มีจุดประสงคเพื่อ ก. กระตุนเอนไซม dapa decarboxylase ที่สมอง ข. ยับยั้งการเปลี่ยนแปลง Levodopa เปน dopamine ที่เนื้อเยื่อนอกสมอง ค. เพิ่มการดูดซึมของ Levodopa จากทางเดินอาหาร ง. ยับยั้งการขับถาย Levodopa ออกทางปสสาวะ จ. เพิ่มการซึมผานของ dopamine จากเลือดสูสมอง 20. อันตรกริยาของยาระหวาง Levodopa กับ pyridoxine (Vit B6) มีลักษณะการเกิดดังตอไปนี้ ก. pyridoxine เปลี่ยนเปน pyridoxal phosphate ซึ่งเปน cofactor ของเอนไซมdapa decarboxylase เรงการเปลี่ยน Levodopa เปน dopamine ที่ภายนอกสมอง ทําใหเหลือเขาสมองนอยลง ข. pyridoxine เปลี่ยนเปน pyridoxal phosphate ซึ่งเปน cofactor ของเอนไซม MAO-B เรงการทําลายdopamine ในสมอง ค. pyridoxine ลดการดูดซึม Levodopa จากทางเดินอาหารเขาสูกระแสเลือด โดยยับยั้ง carrier mediated transport ของ amino acid ง. pyridoxine กระตุน P-glycoprotein ของ blood brain barrier ใหขับ Levodopa ออกจากสมอง จ. pyridoxine กระตุนแบคทีเรียในลําไสใหทําลาย Levodopa ในทางเดินอาหาร จึงลด bioavailability ของยา 21. การใช selegiline ซึ่งเปน irreversible MAO-B inhibitor ในการรักษา Parkinson’s disease นั้น อาจมีผลดีตอผูปวย มากกวาเพียงยาไปปองกันการทําลาย dopamine โดยยาอาจมีผลชะลอการเกิดโรคได โดยกลไกตอไปนี้ ก. ปองกันการเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งมีพิษและเปนผลพลอยไดจากการออกซิไดซ dopamine โดย MAO-B ข. กระตุนการเจริญของ dopaminergic neurons ใน nigrostriatal pathway ค. กระตุนการเจริญของ glial cells ในสมอง ง. กระตุนการสังเคราะห nerve growth factor จ. กระตุนการสังเคราะหสารสื่อประสาท สถานการณ ผูปวยเด็กอายุ 6 ป เขารับการรักษาในโรงพยาบาลดวยอาการชัก แพทยสั่งจายยา Phenobarbital สําหรับเด็ก กําหนดให solubility ของ sodium phenobarbital ในน้ํา ณ อุณหภูมิที่เตรียมคือ 0.005 Molar pKa ของ phenobarbital คือ 7.40 (กําหนดให log 7.4 = 0.8692) 22. เภสัชกรตองการเตรียม phenobarbital elixir โดยใหมีความเขมขน 1% w/v จะตองปรับ pH ใหมีคาไมต่ํากวาเทาใด ยา จึงจะไมตกตะกอน ก. 7.0 ง. 8.20 ข. 7.21 จ. 8.4 ค. 7.40
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
428
MCQ
เนื่องจาก solubility ของ sodium phenobarbital ในน้ํามีคาต่ํามาก เภสัชกรจึงจะใช alcohol มาชวยเปนตัวทําละลายรวม ถาระบบที่เหมาะสมในการละลายตัวยามี alcohol 60% v/v (กําหนดให dielectric constant ของน้ํา คือ 80 และ dielectric constant ของ alcohol คือ 25) 23. จงหาคา dielectric constant ของตํารับนี้ ง. 80 ก. 25 จ. 105 ข. 47 ค. 60 24. ถาเภสัชกรระบุวันหมดอายุในฉลากยาเปน “มกราคม 2548” ยานี้มีอายุจนถึงเมื่อใด ก. 1 ธันวาคม 2547 ข. 31 ธันวาคม 2547 ค. 1 มกราคม 2548 ง. 31 มกราคม 2548 จ. 1 กุมภาพันธ 2548 25. เมื่อ pKa = pH + log [HA]/[A] ที่ pH = 2 ขอความใดถูกตองเกี่ยวกับ phenobarbital ง. สารจะถูก demethylate ก. สารจะอยูในรูป acid ข. สารจะอยูในรูป enol จ. สารจะถูกดูดซึมลดลง ค. สารจะอยูในรูป ionized 26. หากผูปวยเด็กมีภาวะรางกายเปนกรดและไดรับยา phenobarbital ซึ่งมีโครงสรางดังรูป A รวมกับ sodium bicarbonate injection ยังคงมีอาการชักเชนเดิมเนื่องจากสาเหตุใด ก. ยาอยูในรูป ionized จึงถูกขับออกจากรางกายมากขึ้น ข. ยาอยูในรูป unionized จึงถูกขับออกจากรางกายมากขึ้น ค. ยาอยูในรูป ionized เนื่องจากภาวะเปนกรดของรางกาย ง. ยาอยูในรูป unionized เนื่องจากภาวะเปนดางของรางกาย จ. ยาอยูในรูป unionized จึงสามารถจับกับพลาสมาโปรตีนมากขึ้น กรณีศึกษา ( เภสัช จุฬา ) กรณีศึกษาที่ 1 โรคซึมเศรา (Depression) เย็นวันหนึ่งทองฟามือครึ้มและฝนปรอย ชายอายุประมาณ 65 ป แตงกายภูมิฐาน กาวเทาเขารานยาดวยทาทางอิดโรยใบหนา ซีดเซียว ขอพบเภสัชกรเพื่อขอคําปรึกษา เมื่อพบก็ระบายใหฟงวาตนเองเปนขาราชการบํานาญ ระยะสองสามปหลังชอบเลน การพนันจึงถูกภรรยาทอดทิ้ง รูสึกเหงาใจมาก แกปญหาโดยการหันมาดื่มเบียรและสูบบุหรี่แทบทุกวัน ตั้งแตตนปมานี้เริ่มมี อาการความจําเสื่อมหลงลืมบอยครั้ง เมื่อสองเดือนที่แลวไดขาวแฟนเกาซึ่งเคยรักกันมากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต เกิด ความรูสึกหดหูเศราใจอยางหนักติดตอกันหลายสัปดาห เฉื่อยชาหมดเรี่ยวแรง เบื่ออาหาร ไมสนใจความสนุกสนานและหมก ตัวอยูแตในหอง บางครั้งเกิดอาการอยากฆาตัวตายตามแฟนเกา สัปดาหกอนภรรยาสงสารจึงพาไปพบจิตรแพทย ซึ่งเปน เพื่อนสนิดของลูกชาย ระหวางการซักถามตรวจวินิจฉัยรูสึกอับอายอยางยิ่งที่ตองเปดเผยเรื่องราวในอดีตของตน ในที่สุด แพทยวินิจฉัยวาเปนโรคซึมเศราและจายยาตอไปนี้ Fluoxetine (20mg) 120 เม็ด รับประทานครั้งละ 2 เม็ด วันละครั้งหลังอาหารเย็น Ginkgo biloba 180 เม็ด รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละสามครั้ง หลังอาหารเชา กลางวัน และเย็น B1-6-12 12 เม็ด รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละสองครั้ง หลังอาหารเชาและเย็น
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
429
MCQ
หลังจากรับประทานยาดังกลาวไดสองวันก็เริ่มมีอาการนอนไมหลับ โดยหลับยากซึ่งกวาจะเริ่มหลับไดก็เกือบเที่ยงคืน ขณะนี้ รูสึกทุกขทรมานรางกายออนเพลียจนแทบทนไมไหว จึงมาขอความชวยเหลือจากเภสัชกร 1. จากขอมูลดังกลาวทานคิดวาอาการนอนไมหลับของชายสูงอายุผูนี้ควรจะเกิดจากสาเหตุใด 1. เปนอาการอยางหนึ่งของโรคซึมเศราในผูสูงอายุ 2. เปนผลจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องในอดีตของตนที่ถูกเปดเผย 3. เปนปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติตอการสูญเสียสิ่งอันเปนที่รัก 4. เปนผลจากอันตรกิริยาระหวางยา fluoxetine และ Algohol 5. เปนผลไมพึงประสงคของยา fluoxetine 2. ถาทานเปนเภสัชกรผูนั้น จะแกไขปญหานอนไมหลับของชายผูสูงอายุอยางเหมาะสมที่สุดดวยวิธีใด 1. แนะนําใหงดดื่มเบียรในชวงที่รับประทานยาตานซึมเศรา 2. แนะนําใหผอนคลายจิต ทําสมาธิและดื่มนมอุนๆกอนนอน 3. แนะนําใหกลับไปหาจิตแพทยคนเดิม เพื่อขอใหจายยานอนหลับ 4. แนะนําใหเปลี่ยนเวลารับประทานยา fluoxetine เปนหลังอาหารเชา 5. ใหเลิกรับประทานยา fluoxetine แลวจายยา mirtazapine ใหแทน 3. ในกรณีที่ชายสูงอายุผูนี้จําเปนตองใชยานอนหลับเปนครั้งคราว ทานคิดวายานอนหลับในขอใดเหมาะสมที่สุด 1. Alprazolam 2. Trizolam 3. Zolpidem 4. Melatonin 5. Chloral hydrate 4. ในฐานะเภสัชกร ทานคิดวา คําอธิบายเกี่ยวกับยานอนหลับในขอใด มีความสําคัญสําหรับชายสูงอายุมากที่สุด 1. โดยทั่วไปการใชยานอนหลับติดตอกันนานๆ จะกระตุนเอนไซม CYP P450ที่ตับ 2. ยานอนหลับสวนใหญเมื่อใชขนาดต่ําในชวงกลางวันจะมีผลคลายวิตกกังวลได 3. การรักษาอาการนอนไมหลับดวยยาเปนวิธีซึ่งรักษาที่ปลายเหตุ จึงไมควรเลือกใชเปนอันดับแรก 4. ผลไมพึงประสงคของยานอนหลับที่พบบอยและควรระวัง ไดแก อาการมึนงง เวียนศีรษะ ออนเปลี้ย และเดินโซเซ 5. ยานอนหลับสวนใหญออกฤทธิ์โดยจับกับตัวรับที่ตําแหนงจับของ Benzodiazepines และเพิ่ม การซึมผานเขาเซลลของประจุคลอไรด อันเกิดจากการกระตุนโดย GABA 5. ขอความตอไปนี้ขอใดไมใชหลักการรักษาอาการนอนไมหลับ 1. จําเปนอยางยิ่งตองใหการรักษาแกผูที่มีอาหารนอนไมหลับทุกชนิด 2. ควรรักษาปญหาทางกาย ปญหาทางจิต หรือปญหาการใชยาที่เปนสาเหตุแอบแฝงอยูกอน 3. พยายามคนหาพฤติกรรมที่อาจทําใหอาการนอนไมหลับเลวลง และเลิกหรือลดพฤติกรรมดังกลาว 4. อาจใชเทคนิคทางพฤติกรรมเชน Relaxation therapy, Sleep restriction therapy และ การปรับเปลี่ยนสภาพแวดลอมการนอนชวยแกไขอาการนอนไมหลับ 5. เมื่อตองรักษาดวยยานอนหลับ ควรจายยาในขนาดต่ําสุด เปนระยะเวลาสั้นที่สุด เทาที่จําเปนในการ บรรเทาอาการนอนไมหลับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
430
MCQ
6. ขอความตอไปนี้ ขอใดไมใชคุณสมบัติของยาตานซึมเศราประเภท Selective Serotonin Reuptake Inhibition (SSRIs) 1. มีผลขางเคียงนอยกวาหรือไมรุนแรงเทายาตานซึมเศราประเภท tricyclic antidepressants 2. มีฤทธิ์ปดกั้น muscarinic, histaminergic หรือ alpha-adrenergic receptors นอยมาก 3. มีผลยับยั้งเอนไซม CYP P450 ที่ตับนอยมาก 4. มีผลตอการ reuptake ของ norepinephrine หรือ dopamine นอยมาก 5. เมื่อใชยาเกินขนาด มีความปลอดภัยมากกวา tricyclic antidepressants 7. สองเดือนหลังจากเริ่มใชยา อาการซึมเศราของชายสูงอายุลดลงจนเอบเปนปรกติ อยางไรก็ดีผูปวยกลับมาหาเภสัชกรอีก ครั้งดวยความทุกขอยางใหม (จากการใชยา) ทานคิดวาความทุกข 1. ทองผูก ปสสาวะไมออก 2. ความดันเลือดต่ํา รูสึกเวียนศีรษะเมื่อลุกขั้นยืนอยางกระทันหัน 3. ปากแหง คอแหง 4. ตาพรา อานหนังสือใมคอยออก 5. หมดความตองการทางเพศ 8. อีกหนึ่งเดือนตอมา ชายสูงอายุมีอาการปวดศีรษะขางเดียว จึงไปปรึกษาเภสัชกรที่รานขายยาขางบานและไดรับยา Sumatriptan และ Tramadol มารักษาอาการ หลังจากรับประทานยาทั้งคูไดไมนาน เกิดอาการหัวใจเตนเร็ว มานตาเบิกกวาง กลามเนื่อแข็งเกร็ง กลามเนื้อกระตุก ตัวรอน หนาแดง เดินเซ วิตกกังวล กระวลกระวาย และรูสึกสับสน ภรรยาของเขาตกใจ มาก รีบพาสามีขึ้นแท็กซี่มาพบเภสัชกรที่รานยา ในความคิดเห็นของทาน คิดวาอาการดังกลาวควรเกิดจากสาเหตุอะไร 1. Phamacokinetic drug interaction ระหวางยา Fluoxetine กับ Sumatriptan 2. Pharmacodynamic drug interaction ระหวางยา Fluoxetine กับ Sumatriptan 3. Pharmacokinetic drug interaction ระหวางยา Sumatriptan กับ Tramadol 4. Pharmacodynamic drug interaction ระหวาง Sumatriptan กับ Tramadol 5. ทานไมสามารถคาดคะเนสาเหตุไดจากขอมูลตางๆที่มี 9. ในฐานะเภสัชกรที่ดี ทานจะแสดงบทบาทชวยแกไขสถานการณที่เกิดขึ้นกับชายสูงอายุผูนี้ในเบื้องตนอยางไร 1. ชี้แจงวาอยูนอกเหนือภาระหนาที่ของตน และแนะนําใหภรรยาพาสามีไปโรงพยาบาล 2. ใหชายสูงอายุพักในที่สงบ รอจนอาการดีขึ้นจึงใหภรรยาพากลับบานและใหหยุดใชยาแกปวดศีรษะ ขางเดียว 3. ใหชายสูงอายุรับประทานยา Cyproheptadine ขนาด 4 มิลลิกรัมครั้งละ 2 เม็ด ทุก 8 ชั่วโมง และ ใหหยุดใชยาแกปวดศีรษะขางเดียว 4. ใหชายสูงอายุรับประทานยา Cyproheptadine ขนาด 4 มิลลิกรัมครั้งละ 2 เม็ด ทุก 6 ชั่วโมง และ ใหหยุดใชยาแกปวดศีรษะขางเดียว 5. ใหชายสูงอายุรับประทานยา Diazepam ขนาด 5 มิลลิกรัมครั้งละ 1 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมง และให หยุดใชยาแกปวดศีรษะขางเดียว 10. ยาตอไปนี้ เมื่อชายสูงอายุใชรวมกับ Fluoxetine แลว จะทําใหเกิดอาการคลายกับในขอ 8 ยกเวน 1. Amitriptyline 2. Mirtazapine 3. Citalopran 4. Clozapine 5. Moclobemide
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
431
MCQ
11. หลังจากอาการซึมเศราของชายสูงอายุลดลงจนเปนปรกติ แพทยใหยา Fluoxetine ตอไป เพื่อปองกันการหวนกลับมาเปน โรคใหม โดยเปลี่ยนรูปแบบยาเตรียม Fluoxetine ชนิดที่ตองรับประทานทุกวัน เปนชนิดที่ตองรับประทานทุกสัปดาห ซึ่ง สะดวกกวา ทานคิดวา ยาดังกลาวซึ่งชะลอการปลดปลอยตัวยาสูกระแสเลือดควรจะเปน 1. Fluoxetine ชนิด Microencapsulated enteric-coating 90 mg 2. Fluoxetine ชนิด Transfermal patch 90 mg 3. Fluoxetine ชนิด Intestinally disintegrating tablet 90 mg 4. Fluoxetine ชนิด Extended-release capsule 90 mg 5. Fluoxetine ชนิด Fixed-time release tablet 90 mg 12. อยูมาวันหนึ่งภรรยาของชายสูงอายุนําสมุนไพรชนิดหนึ่งมาใหสามีรับประทาน โดยบอกวามีขอมูลและหลักฐานทาง วิทยาศาสตรยืนยันสรรพคุณวาเปนสมุนไพรตานอาการซึมเศรา ทานคิดวาสมุนไพรนั้นคือ 1. Ma huang (Ephedra siensis) 2. St. John’ss wort (Hypericum perforatum) 3. Ginseng (Panax ginseng) 4. Kava kava (Piper methysticum) 5. Pepper (Piper nigrum) 13. ควรพิจารณาปจจัยประกอบตอไปนี้ในการเลือกใชยาตานซึมเศรากับผูปวย โดยปจจัยที่มีความสําคัญนอยที่สุดไดแก 1. ประสิทธิภาพในการรักษาและความคุมคา (Cost-effectiveness) 2. ความสะดวกงายดายในการใหยา (Compliance) 3. ความทนตอการใชยา (Tolerability) ทั้งระยะสั้นและระยะยาว 4. ผลขางเคียงและความปลอดภัยจากการใชยาเกินขนาด 5. ความแรงของยา (ขนาดยา) ที่ใชรับประทาน 14. ในฐานะเภสัชกร ขอใดตอไปนี้ มีความสําคัญนอยที่สุดเมื่อใหคําปรึกษาแกผูปวยเรื่องการใชยาตานซึมเศรา 1. ความสําคัญของการใชยาอยางตอเนื่อง โดยไมควรงดรับประทานยาหรือหยุดการใชอยางกะทันหัน 2. ความสําคัญของการประหยัดเงินดวยการใชยาตานซึมเศราแบบ generic ที่ผลิตภายในประเทศ ซึ่ง มีราคาถูกกวายาตนแบบจากตางประเทศ 3. ความสําคัญของการรักษาระยะยาว (maintenance therapy) ในกรณีผูปวยที่มีโอกาสหวนกลับ เปนโรคซึมเศราอีก 4. ความสําคัญของการรอคอยผลการรักษาของการตานซึมเศราซึ่งเริ่มตนเกิดอยางชาๆ (หลานสัปดาห) 5. ความสําคัญในการสรางความมั่นใจแกผูปวยโรคซึมเศราเปนโรคที่รักษาใหหายขาดได 15. ตามความเห็นของทาน จอความในขอใดที่ไมถูกตองตามหลักการรักษาโรคซึมเศรา 1. ยาตานซึมเศราทุกกลุมและทุกตัวมีประสิทธิภาพการรักษาใกลเคียงกัน 2. ความปลอดภัยและผลขางเคียวเปนปจจัยสําคัญในการตัดสินใจเลือกใชยาตานซึมเศราตัวใดตัวหนึ่ง กับผูปวย 3. ควรใหยาตานซึมเศราแกผูปวยตอไปนี้อีก 16 – 20 สัปดาหหลังจากอาการซึมเศราหายไปแลว เพื่อ ปองกันการหวนกลับมาเปนโรคใหม 4. ถาใชขนาดยาที่สูงพอ ยาตานซึมเศราจะมีประสิทธิภาพการรักษาผูปวยไดทุกราย 5. ผูปวยบางรายอาจจําเปนตองใชยาตานการซึมเศราตอเนื่องเปนเวลานาน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
432
กรณีศึกษาที่ 2 : ความวิตกกังวล (Anxiety) และภาวะนอนไมหลับ (Insomnia) ชวงบายวันหนึ่ง เด็กวัยรุนเพศชาย อายุประมาณ 17 – 18 ป แตงกายดวยเสื้อผาสกปรก ยับยูยี่ ใบหนาหมองคล้ําคลายคนอด นอนมานาน ปากคาบบุหรี่ เดินเลียบเคียงหนารานขายยาแหงหนึ่ง ดวยทาทางเหมือนกลัวคนรูจัก สักพักก็เดินเขาในรานและ รีบตรงรี่ไปหาเภสัชกร วัยรุน : “พี่ๆ ขอซื้อยา Diazepam 5 mg สัก 20 เม็ด หมูนี้เครียดโครต นอนไมหลับมาหลายคืนแลว” เภสัชกร : “เอ! นองมีใบสั่งแพทยมาดวยหรือเปลา ยานี้ตงขายตามใบสั่งแพทยเทานั้นครับ” วัยรุน : “ไมมีหรอก มีแตใบสั่งตํารวจจราจร เอะ! เคยซื้อแถวบานไมเห็นตองใชเลย พี่เลอะเลือนรึเปลานี่” เภสัชกร : “นองเครียดเรื่องอะไรถึงนอนไมหลับ พี่วานองจะเอายาไปใชผิดทางซะมากกวามั้ง” วัยรุน : “แหม! พี่เรื่องมากจัง วาแตวาจะขายหรือเปลา ถาไมขายเดี๋ยวไปซื้อที่รานยาแถวบานก็ได นี่เห็นวามีเภสัชกรเลยลอง มาใชบริการดู” เภสัชกร : “ถาอยางนั้นพี่ขายใหก็ได แตถารับประทานแคเม็ดเดียวกอนนอนและอยาใชประจํา เดี๋ยวจะเกิดการติดยา” 1. จากสถานการณดังกลาว ทานจะทราบไดอยางไรวาวัยรุนผูนั้นมีอาการนอนไมหลับจริง และจําเปนตองใชยาชวย คําตอบ
2. เภสัชกรขายยา Diazepam ใหวัยรุนเพราะเห็นวาถาตนเองไมขายเขาก็คงไปซื้อจากที่อื่น เภสัชกรจึงขายใหเองพรอมทั้ง แนะนําการใชยาอยางละเอียด ซึ่งนาจะเปนประโยชนตอวัยรุนผูนั้นมากกวา ใหทานวิเคราะหวาในสถานการณเชนนี้เภสัชกร ทําถูกหรือทําผิด และแสดงเหตุผลประกอบการวิเคราะหดวย คําตอบ
3. ถาทานเปนเภสัชกรผูนั้น จะแกไขสถานการณใหเกิดประโยชนถูกตองเหมาะสมตอทั้งสองฝายไดอยางไร โปรดแสดงความ คิดเห็น และเสนอแนะทางออกที่เปนรูปธรรมอยางชัดเจน คําตอบ
หลายสัปดาหตอมา เด็กวัยรุนเดินกลับมาที่รานขายยาอีกครั้ง คราวนี้ดูหนาตาสดใส และแตงกายสะอาดเรียบรอย ในมือถือ ขวดยาเปลาขนาดเล็กและยื่นใหเภสัชกรดู วัยรุน : “พี่มียาแบบนี้ไหม? ลุงผมฝากเพื่อนมาใหจากอเมริกา บอกวากินแลวหลับสบาย ไมตองใชใบสั่งยาดวย ถามีขอสอง ขวดเต็มๆเลย” เภสัชกร : “ไหนขอดูหนอยซิ” หลังจากอานฉลากขางขวดเสร็จแลวก็กลาวตอบ “ออ! Melatonin นั่นเอง ยานี้ไมไดขึ้นทะเบียน ในเมืองไทยจึงไมมีขายหรอกนอง” วันรุน : “วา! เสียดายจัง ยานี้เจงมาก กินแลวงวงนอนทันทีเลย สงสัยตองบอกใหลุงสงมาจากอเมริกาอีก” 4. Melatonin คืออะไร มีบทบาทและหนาที่เกี่ยบกับการนอนหลับอยางไร คําตอบ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
433
5. ทานจะคิดอธิบายใหวัยรุนผูนั้นเขาใจอยางถูกตองไดอยางไร เกี่ยวกับการใช Melatonin รักษาอาการนอนไมหลับ คําตอบ
6. ทานจะอธิบายใหวัยรุนผูนั้นเขาใจอยางถูกตองไดอยางไร เกี่ยบกับความแตกตางของสถานภาพ Melatonin รักษาอาการ นอนไมหลับ คําตอบ
หลายเดือนตอมาทานตองเตรียตัวสอบใบประกอบวิชาชีพของสภาเภสัชกร ทานรูสึกวิตกกังวลกลัววาจะสอบไมผานจึง พยายามดูหนังสืออยางหนักและทดลองทําแบบฝกหัดเรื่อง “ยาคลายวังวล-ยานอนหลับ” ที่พี่รหัสหามาให หลังทําเสร็จทาน พบวาเรื่องไมไดยากอยงที่คาดไวและรูสึกดีใจที่เปนรุนบุกเบิกสําหรับเภสัชกรรุนใหม ตองตอสูกับความยากลําบากนานาปร พการ ตอไปนี้เปนสวนหนึ่งของแบบฝกหัดที่ทานทดลองทํา แบบฝกหัดทบทวนความรู : ยาคลายกังวล-ยานอนหลับ 7. การชินยา (drug tolerance) ตอยาคลายกังวลและยานอนหลับหลังจากใชไประยะหนึ่ง อาจมีสาเหตุมาจากกลไกดังตอไปนี้ 1. ยาถูกดูดซึมเขาสูกระแสเลือดนอยลง 2. ยาถูกขับถายทางไตออกจากรางกายมากขึ้น 3. ยาถูกเอนไซมที่ตับทําลายไดเร็วขึ้น 4. ยาผาน Blood-Brain-Barrier ไดนอยลง 5. ตัวรับ (receptor) ลดความชอบ (afinity) ตอยาลง 8. Alprazolarm เปน benzodiazepine ที่มีชวงแกฤทธิ์ปานกลาง (intermediate-acting) และมีขอดีเฉพาะตัว เหนือกวา benzodia 1. มีฤทธิ์สงบระงับ (งวงซึม) นอยกวา benzodiazepines ตัวอื่น 2. เมื่อใชมากเกินไปไมทําใหเกิดอาการชินชาหรือติดยา 3. ไมเสริมฤทธิ์กดประสาทสวนกลางเมื่อใชรวมกับแอลกอฮอลล 4. ไมมี active metabolites 5. ไมมีฤทธิ์ตานชัก 9. Flumazenil เปน antagonists ของ benzodiazepine receptor (แขงขันกับ agonists แยงจับกับตัวรับ) จึงมีประโยชนเพื่อ สําหรับ 1. แกไขผลพิษจากการใช benzodiazepine เกินขนาด 2. ปองกันอาการวิตกกังวลจากความกลัวการแสดงตอหนาฝูงชน 3. เปนยาฉีดสลบ (intravenous anesthetic) 4. ระงับอาการชักชนิดตอเนื่อง (status epilepticus) 5. ปองกันอาการขาดยา benzodiazepine 10. Buspirone เปนยาคลายวิตกกังวลที่มชไดผลดี โดยมีกลไกออกฤทธเกี่ยวของกับ 1. Cholinegicreceptor 4. GABAB receptor 2. Serotonin (S-HT1A) receptor 5. Betaradrenergic receptor 3. GABAA receptor
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
434
MCQ
11. ขอดีของ Buspirone ที่มีเหนือกวาในการรักษาความวิตกกังวล ไดแก 1. Buspirone ออกฤทธิ์รักษาไดเร็วกวา benzodiazepine 2. Buspirone ระงับอาการทางระบบประสาทอัตโนมัตไดดีกวา benzodiazepine 3. Buspirone มีฤทธิ์คลายกลามเนื้อดีกวา benzodiazepine 4. Buspirone ไมทําใหผูปวยเกิดอาการติดยา (drug dependence) 5. Buspirone มีระยาเวลาออกฤทธิ์ (Juration of action) ยาวกวา benzodiazepine ทุกตัว 12. วัตถุประสงคของการใช Beta-blockers เชน prepranolol รักษาความวิตกกังวลจากการตื่นเวที ความหวาดวิตกตอการพูด ตอหนากลุมชน คือ 1. ปองกันภาวะแทรกซอนทางระบบสวนกลาง 2. ปองกันภาวะหอบหืดจากความวิตกกังวล 3. ปองกันภาวะความดันเลือดสูงและภาวะหัวใจขาดเลือด 4. บรรเทาอาการที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติ (symparthic) ทํางานมากเกิน เชน หัวใจเตนเร็ว ตัวสั่น เหงื่อแตก 5. ปองกันอาการตื่นเตนอยางรุนแรงที่เกิดจากการหลั่ง 5-HT มากเกิน 13. Zolpidem และ Zaleplon มีฤทธิ์มีฤทธิ์ทําใหนอนหลับงายอยางจําเพาะเจาะจง โดยคลายกังวล ตานชัก คลายกลามเนื้อ กดการหายใจ และการนอนหลับชวง REM sleep นอยกวายาในกลุม benzodiazepine เนื่องจาก 1. ยาออกฤทธิ์ปดกั้น gluntamate receptor ในสมองสวน reticular formation อยางเจาะจง 2. ยาออกฤทธิ์จับกับตัวรับยอยของ benzodiazepine receptor (BZD, หรือ alpha, receptor) ซึ่งเกี่ยวของกับการนอนหลับอยางเจาะจง 3. ยาออกฤทธิ์จับกับ neurosteroid binding site แลวเสริมฤทธิ์ของ GABAA receptor 4. ยาออกฤทธิ์กระตุน presynaptic binding receptor ที่สมองสวน armygdala ทําใหการหลั่ง 5-HT ลดลง 5. ยาออกฤทธิ์จับกับ Chloride channel โดยตรง เพิ่มการซึมผานของ Cl เขาสูเซลล ทําใหเซลล ประสาทสงบเสงี่ยม 14. ถาจะรับประทานยานอนหลับ ในตอนกลางดึก ควรตองเลือกเวลานอนในคืนนั้นอีกกี่ชั่วโมงหลังรับประทานยา 1. 1 ชั่วโมง 2. 2 ชั่วโมง 3. 4 ชั่วโมง 4. 6 ชั่วโมง 5. 8 ชั่วโมง 15. ขอความเกี่ยวกับการรักษาอาการนอนไมหลับตอไปนี้ ขอใดที่ไมถูกตอง 1. การใชยานอนหลับติดตอกันนานๆ ทําใหเกิดอาการหลงลืมได 2. ยานอนหลับและยาคลายกังวลเปนยาที่ออกฤทธิ์คลายกัน สวนใหญผลของยาขึ้นอยูกับขนาดยาที่ใช 3. การรักษาอาการนอนไมหลับดวยยาเปนวิธีที่ดีที่สุด และควรเลือกใชเปนอันดับแรกมนทุกกรณี 4. ยาประเภท benzodiazepine เปนยาที่คอนขางปลอดภัยและใชรักษาโรคไดหลายประเภท 5. ไมควรใชยานอนหลับประเภท barbiturate ติดตอกันนานเกิน 2-3 สัปดาห
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
435
MCQ
แบบฝกหัดทบทวนความรู โรคอัลไซเมอร (Alzheimer’s disease) และโรคพารกินสัน (Parkinson’s disease) หลังจากทดลองทําแบบฝกหัดเรื่อง “ยาคลายกังวล ยานอนหลับ”เสร็จ ทานรูสึกมั่นใจตนเองมากขึ้น จึงขอใหพี่รหัสหา แบบฝกหัดเรื่องอื่นมาใหอีก ซึ่งพี่รหัสแสนดีก็พยายามไปคนที่บานจนพบแบบฝกหัดเรื่อง “โรคอัลไซเมอร (Alzheimer’s disease)” และโรคพารกินสัน (Parkinson’s disease)” แลวนํามาใหทาน 1. Alzheimer’s disease เปนโรคของระบบประสาทสวนกลางชนิดหนึ่งซึ่งทําใหเกิดอาการความจําเสื่อม (dementia) กอนวัย อันสมควร เซลลประสาทที่พบวามีสภาพเสื่อมอยางเดนชัดคือ 1. Noradrenergic neurons จาก locus ceruleus ไปยัง cerebral cortex 2. Serotoninergic neurons จาก raphe nucleus ไปยัง cerebral cortex 3. Cholinergic neurons จาก septum ไปยัง hippocampus 4. Dopaminergic neurons จาก midbrain ไปยัง limbic system 5. GABAergic neurons จาก striatum ไปยัง substantia nigra 2. ความบกพรองทางพันธุกรรมที่พบในผูปวย Alzheimer’s disease ไดแกความบกพรองตอไปนี้ยกเวน 1. Chromosome 1 – ที่ตําแหนง gene ควบคุมการสราง Presinilin 2 2. Chromosome 4 – ที่ตําแหนง gene ควบคุมการสราง Alpha-synueclein 3. Chromosome 14 – ที่ตําแหนง gene ควบคุมการสราง Presinilin 1 4. Chromosome 19 – ที่ตําแหนง gene ควบคุมการสราง Apolipoprotein E 5. Chromosome 21 – ที่ตําแหนง gene ควบคุมการสราง Amyloid precursor protein 3. พยาธิสภาพที่พบในสมองของผูปวย Alzheimer’s disease นั้น ไดกลักษณะดังตอไปนี้ 1. ปริมาณ choline ในสมองมากกวาปกติ 2. เนื้อสมองมี neurofibrillary tangles และ senile plaque มากกวาปกติ 3. มี enzyme choline acetyltransferase มากกวาปกติ 4. สมองมีขนาดใหญกวาปกติ 5. มีปริมาณ enzyme Monoamine oxidase ในสมองมากกวาปกติ 4. การรักษาผูปวย Alzheimer’s disease นั้น ทําไดเพียงการประคับประคองใหผูปวมีคุณภาพชีวิตในแตละวันดีขึ้นและเนนที่ การบรรเทาอาการความจําเสื่อมโดยอาจใชยาตอไปนี้ ยกเวน 1. Cholonergic antagonists 2. Acetylcholine esterase inhibitors 3. Estrogen hormone 4. Acetylcholine precursors 5. NSAID (Non-Stearoidal Anti-inflammatory Drugs) 5. นายสุรชาติเปนผูปวย Alzheimer’s disease จากการตรวจรางกายพบวา เอนไซมของตับ (aspartate aminotransferase และ alkaline phosphate) ในซีรัมสูงกวาปกติมาก ทานคิดวายาบรรเทาอาการความจําเสื่อมตัวใดไมควรใชกับนายสุรชาติ 1. Galantamine 4. Rivastigmine 2. Tacrine 5. ทุกตัวในขอ 1 – 4 3. Donepezil
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
436
MCQ
6. Parkinson’s disease เปนโรคของระบบประสาทสวนกลางที่เกอดจากการเสื่อมของสมองสวนหนึ่งซึ่งควบคุมการ เคลื่อนไหว ความตึงตัวของกลามเนื้อ และการตอบสนองอัตโนมัติเกี่ยวกับการทรงตัว โดยเซลลประสาทที่เสื่อม ไดแก 1. Dopaminergic neurons ในสมองสวน nigrostiatal pathway 2. Dopaminergic neurons ในสมองสวน tuberoinfundibular pathway 3. Cholinergic neurons ในสมองสวน septo-hippocampal pathway 4. Dopaminergic neurons ในสมองสวน mesolimbic pathway 5. GABAergic neurons ในสมองสวน striatonigral pathway 7. อาการที่ไมใชลักษณะเฉพาะซึ่งเกิดในผูปวย Parkinson’s disease ไดแกอาการในขอใด 1. กลามเนื้อแข็งเกร็ง (Rigidity) 2. สั่นขณะหยุดพัก (Resting tremors) 3. เริ่มตนเคลื่อนไหวลําบาก (Bradykinesia) 4. การทรงตัวผิดธรรมชาติ (Abnormal posture) 5. กลามเนื้อฝอลีบ (Muscular atrophy) 8. การรักษา Parkinson’s disease อาจทําไดโดยวิธีการตอไปนี้ 1. ลด dopaminergic neurotransmission 2. เพิ่ม dopaminergic neurotransmission 3. เพิ่มทั้ง dopaminergic และ cholinergic neurotransmission 4. ลดทั้ง dopaminergic ละ cholinergic neurotransmission 5. เพิ่ม cholinergic neurotransmission 9. การรักษาผูปวยโรค Parkinson’s disease ในระยะเริ่มตนที่อาการยังเบา ไมควรเลือกใชยาตอไปนี้ 1. Selegiline 2. Amantadine 3. Levodopa 4. Trihexyphenidyl 5. Benztropine 10. Levodopa ซึ่งใหโดยการรับประทานเขาถึงตําแหนงออกฤทธิ์ที่สมองไดนอยเนื่องจาก 1. จับกับโปรตีนในเลือดสูงทําใหยาออกจากกระแสเลือดนอย 2. levodopa สวนใหญเปลี่ยนแปลงเปน dopamine ที่เนื้อเยื่อตางๆนอกสมมอง 3. levodopa ผาน blood-brain barrier ไดนอย 4. ถูกทําลายโดยกรดในกระเพาะอาหาร ทําใหการดูดซึมนอย 5. รางกายนํา levodopa ไปใชสราง protein 11. ในระหวางการรักษาดวย levodopa ผลซึ่งไมพึงประสงคตางๆ ที่อาจเกิดขึ้นไดแกภาวะตอไปนี้ยกเวน 1. หัวใจเตนผิดจังหละ เนื่องจากปริมาณ catecholamine ที่เพิ่มขึ้น 2. อาการออนเพลีย ไมมีแรง ขาดสมาธิ 3. ความผิดปกติของการเคลื่อนไหว ซึ่งพบไดประมาณ 80% ของผูใชยา 4. การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม อารามณฉุนเฉียว ประสาทหลอน 5. อาการคลื่นใสและอาเจียน ซึ่งจะเกิดไดหลังจากใชยาไปแลว 4 – 6 สัปดาห
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
437
MCQ
12. ปรากฏการณในขอใดไมใชสิ่มที่เกิดขึ้นระหวางการใช levodopa เพียงตัวเดียวรักษา Parkinson’s disease ซึ่งอาจนําไปสู ความลมเหลวของการักษาโรค 1. หลังจากเริ่มการรักษาผูปวยได 3 – 5 ป ผลการรักษาจะลดลง 2. ผลกรรักษาในแตละวันอาจไมคงที่ (on-off phenomenon) 3. ตัวรับ Dopamine receptor ในสมองเกิด down regulation ลดจํานวนลง 4. levodopa ซึมผาน Blood-brain barrier เขาสูสมองไดยาก 5. อนุมูลอิสระที่เกิดจากการ metabolismของL-dopaจะทําใหเซลลประสาท dopaminergic ที่ nigrostriatal pathway 13. การใช carbidopa หรือ benserazide รวมกับ levodopa ในการรักษา Parkinson’s disease มีจุดประสงคเพื่อ 1. กระตุน enzyme dopa decarboxylase ที่สมอง 2. ยับยั้งการเปลี่ยนแปลง levodopa เปน dopamine ที่เนื้อเยื่อสมอง 3. เพิ่มการดูดซึมของ levodopa จากทางเดินอาหาร 4. ยับยั้ยการขับถาย levodopa ออกทางปสสาวะ 5. เพิ่มการซึมผานของ dopamine จากเลือดเขาสูสมอง 14. อันตรกิริยาระหวางยา levodopa กับ pyridoxine (Vitamin B) มีลักษณะเกิดดังตอไปนี้ 1. pyridoxine เปลี่ยนเปน pyridoxal phosphate ซึ่งเปน cofactor ของ enzyme dopa decarboxylase เรงการเปลี่ยน levodopa เปน dopamine ที่ภายนอกสมอง ทําใหเหลือเขา สมองนอยลง 2. pyridoxine เปลี่ยนเปน pyridoxal phosphate ซึ่งเปน cofactor ของ enzyme MAO-B เรงการทําลาย dopamine ในสมอง 3. pyridoxine ลดการดูดซึม levodopa จากทางเดินอาหารเขาสูกระแสเลือด โดยยับยั้ง cariermediated transport ของ amino acid 4. pyridoxine กระตุน P-glycoprotein ของ blood-brain barrier ใหขับ levodopa ออก จากสมอง 5. pyridoxine กระตุนแบคทีเรียในลําไสใหทําลาย levodopa ในทางเดินอาหาร จึงลด bioavailability ของยา 15. การใช Selegiline ซึ่งเปน irreversible MAO-B inhibitor ในการรักษา Parkinson’s disease นั้น อาจมีผลดีตอ ผูปวยมาก กาวาเพียงยาไปปองกันการทําลาย dopamine โดยอาจมีผลชะลอการเกิดโรคได โดยกลไกตอไปนี้ 1. ปองกันการเกิดอนุมูลอิสระ (free radical) ซึ่งมีพิษและเปนผลพลอยไดจากการออกซิไดซ dopamine โดย MAO-B 2. กระตุนการเจริญของ dopaminergic neurons ใน nigerstiatal pathway 3. กระตุนการเจริญของ glial cells ในสมอง 4. กระตุนการสังเคราะห nerve growth factor 5. กระตุนการสังเคราะหสารสื่อประสาท
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
438
MCQ
Case scenarioผูปวยชายอายุ 30ปเขามาปรึกษาเภสัชกรดวยอาการนอนไมหลับ น้ําหนักเพิ่มเนื่องจากรับประทานอาหาร มากขึ้นผิดปกติ ผูปวยรายงานวาจะรูสึกหิวถาหากมีสิ่งกระตุนใหเกิดความเครียด และไมอยากเขาสังคมสังคมมาเปน ระยะเวลา 2. สัปดาห หลังจากเลิกคบกับเพื่อนสนิท 1. อาการที่กลาวมาขางตนที่ผูปวยรายงานเขาขายเปนโรคอะไร 1.Anxiety Disorder 2.Depressive Disorder 3.Phychosis 4.Mania 5.Butemia 2.ภายหลังจากการสัมภาษณผูปวยเกี่ยวกับประวัติทางสังคม พบวาผูปวยมีภาวะ Alcohol abuse ในอดีตยากลุมใดที่มีขอบง ใชในการรักษา Alcohol abuse 4.Long acting Benzodiazepine 1.Antipsychotics 5.Short acting Benzodiazepin 2.Antidepressant 3.anticonvulsants 3.ในชวงที่ผูปวยไดรับการรักษา Alcohol abuse นั้นผูปวยถูกนําสงโรงพยาบาลดวยอาการ Withdrawal และคุมคลั่งเนื่องจาก ไดยินเสียงใหไปฆาเพื่อนสนิท ผูปวยรายนี้มีอาการที่เขาขายขอใดดังตอไปนี้ 1.Halucination 4.Mania 2.Delusion 5.Anxiety 3.Disorientation 4. ยากลุมใดที่สามารถใชควบคุมอาการในขอกอนหนานี้ไดอยางรวดเร็ว 1.Amitryptyline 2.Chlordiarepoxide 3.Fluoxetine 4.Haloperidol 5.Diazepam 5. เมื่อเกิด Extrapyramidal Effect จากการใชยากลุม antidepressant ควรทําอยางไร 1.ใชยากลุม Antidepressant 2.ใชยากลุม Antihistamine 3.ใชยากลุม Analgesic 4.ใชยากลุม Muscle Relaxant 6.ในกรณีที่ผูปวยตองไดรับยากลุม Antidepressant แพทยแนะนําใหผูปวยใชยาทั้งสิ้น 4-6 เดือน เภสัชกรควรใหเหตุผลอะไร กับผูปวยเพื่อใหเกิด Compliance ในการรักษาชวง 4-6 เดือนที่รับประทานยา 1.เพื่อใหหายขาดจากอาการ 2.เพื่อลดการกําเริบของอาการ 3.เพื่อใหระยะเวลาในการรักษาไมสั้นเกินไป 4.เพราะยาตองใชเวลาในการออกฤทธิ์ 5.เพราะแพทยส่งั 7.ขอใดถูก 1.Amitryptyline จัดเปนยาอันตราย 2.Chlodiazepoxide จัดเปนยาควบคุมพิเศษ 3.Fluoxetine จัดเปนยาควบคุมพิเศษ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
439
4.Haloperidol จัดเปนยาออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภท 2 5.Diazepam จัดเปนยาออกฤทธิ์ตอจิตประสาทประเภท 2 8.ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการเตรียม diazepam injection 1.ตองชั่งตัวยาและเตรียมภายใน Larminar airflow 2.กรองสารละลายโดยใช membrane filter ที่มี pore size 0.45µm เพื่อกําจัดเชื้อ 3.กรองสารละลายโดยใช membrane filter ที่มี pore size 0.22µm เพื่อกําจัดไพโรเจน 4.นํา Ampule ที่บรรจุสารละลายแลวไปอบที่ 170c 2ชั่วโมง 5.นํา Ampule ที่บรรจุสารละลายแลวไปทําใหปราศจากเชื้อโดย Autoclave 9.ขอใดไมใชการควบคุมคุณภาพของ Diazepam Injection 1.Particulate matter test 2.Sterility test 3.Limulus Amebocyte Lysate test 4.Determination of volume of injection in container 5.Determination of weight of injection in container กรณีศึกษา 1. เหตุผลในการใชBarbiturate ในภาวะ Hyperbilirubinemia ในเด็ก A. กันชัก B. Sedative hypnotic C. Enzyme induction D. กดประสาทสวนกลางในเด็ก E. กระตุนประสาทสวนกลาง A. มีประสิทธิภาพสูงกวาMAOI B. อาจเกิดHypertensive crisisเมื่อรับประทานอาหารหรือยาที่เปนSympathomimetic amine C. หามใชกับคนที่มีประวัติชักมากอน D. เกิดPressureเพิ่มขึ้น เพราะยาไปทําใหBiogenic anemiaในสมองเพิ่มขึ้น E. เพิ่ม5-HT receptorในสมองทําใหเพิ่มประสิทธิภาพของReceptor 2. Ionใด ที่ใชปกปองฤทธิ์ของของ lithium ในการรักษา bipolar depression A. Sodium D. Bromine B. Potassium E. Chloride C. Calcium 3. ยากลุม BZDที่สามารถรักษาอาการชัก ไดแก A. Clonazepam+Diazepam B. Lorazepam+Flunazepam C. Alprazolam+Triazolam D. Thioridozine+Misoridazine E. Phenytoin+Ethosuccimide
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
440
MCQ
4. ใหสูตรโครงสรางBDZ ถามวา ขอใดระบุถึง SAR ไดถูกตอง A. X ที่ตําแหนง 7 ไมสําคัญตอการออกฤทธิ์ มีหมูแทนที่หรือไมมีก็ได B. R ที่ตําแหนง 1 ควรเปน alkyl groupขนาดใหญ C. R ที่ตําแหนง 1 ควรเปนEWG D. X ที่ตําแหนง 7 ควรเปนEDG E. X ที่ตําแหนง 7 ควรเปนEWG 5. ผูปวยรายหนึ่งมีประวัติเปนDM type2, HTN, PU มาพบแพทยเพราะมี contact dermatitis หลังจากไปทําความ สะอาดบาน ซักผา มีอาการผื่นแดงขึ้นและตุมน้ําขึ้นทั่วมือ งามเทาและลําตัว แพทยจายยาPrednisoloneและ Diphenhydramineไปรับประทาน อยากทราบวาการจายยาทั้งสอง จะมีปญหาบางหรือไม A. ควรใชPrednisoloneชนิดทาแทนชนิดรับประทาน B. ควรใหCalamineทาแกคันไปดวย C. DiphenhydramineมีSedative effectมากเกินไป อาจเปลี่ยนเปนterfenadine D. Prednisoloneจะทําใหอาการโรคประจําตัวของผูปวยกําเริบทั้งDM, HTN และPU E. ไมไดใหAntibioticไป อาจเกิดการติดเชื้อและเปนแผลได 6. ยากันชักที่ไมใชกับผูปวยที่แพ Tricyclic antidepressant A. Phenytoin D. Carbamazepine B. Ethosuximide E. Phenobarbital C. Acetazolamine 7. ขอใดตอไปนี้ ถูกตองตอยา Imipramine ยกเวน A. เปนยาตัวแรกที่เลือกใชกับmajor depression B. ประสิทธิภาพใกลเคียงกับTCAตัวอื่น C. ผูมีอาการหัวใจเตนผิดปกติใชยานี้ได D. ไมควรใชยานี้ในผูปวยที่มีประวัติลมชัก E. ถูกเปลี่ยนแปลงที่ตับไดactive metabolite 8. ผูปวยหญิงอายุ 52 ป เปนโรคAtypical depression ไดรับ pheneizine(MAOI) 15 mg 1x2 ขอใดถูกตอง A. ไมควรกินเนย B. ควรหยุดยากอน 14 วัน กอนเปลี่ยนเปนยาตายซึมเศราตัวอื่น C. ระวัง ยานี้ทําใหความดันเลือดต่ํา D. ระหวางรับยานี้ ทําใหเกิดgalactorrhea E. ไมควรใชรวมกับsympathomimetic drug 9. ผูปวยลมชักชนิดprimary generalize tonic-clonic ใชยาphenytoin มีรายงานวาเกิด SLE-like syndrome แนใจวา เกิดจากยานี้ ทานคิดวายาใดใหผลการรักษาใกลเคียงมากที่สุด A. Cabazepine C. Tamatrigine B. Ethosuximide D. Gabapectin
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
441
E. Flunazepam 10. ผูปวยไดรับยา amitryptalineเพื่อรักษาภาวะซึมเศรา เภสัชกรควรแนะนําผูปวยอยางไร A. ยาที่ไดรับทําใหติดเชื้องาย B. ตองรอ1-4สัปดาห จึงจะเห็นผล C. ยานี้อาจทําใหเกิด Hirsutism D. หามรับประทานรวมกับอาหารที่มีtyramineสูง E. ควรกินอาหารที่มี protienรวมดวย
MCQ เรื่อง nephrology 1. กรณีศึกษาที่ 1 ผูปวย อายุ 44 ป มาดวยอาการปสสาวะขัดแสบ มีไข แพยา penicillin 1.1 จงเลือกใชยาใหเหมาะสมกับผูปวยรายนี้ ก. Norfloxacin ข. Ciprofloxacin ค. Erythromycin ง. Chloramphenical จ. Amoxycillin 1.2 ยาใดตอไปนี้ เหมาะสมในการใชรักษาผูปวยอายุ 10 ป มีประวัติแพยา penicillin (anaphylaxis) ก. Erythromycin ข. Levofloxacin ค. Azithromycin ง. Chloramphenical จ. Amoxycillin 1.3 ยาในขอใดเปนยาที่มีประสิทธิภาพ และควรเลือกใชเปนอันดับแรก ก. Tetracyclin ข. Dicloxacillin ค. Erythromycin ง. Cotrimazole จ. Amoxycillin 2. ขอใดคือขอเสียของการใชยา griseofluvin 3. หากทานตองออกแบบการวิจัยทางคลินิก เพื่อทดสอบประสิทธิภาพโรคติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปสสาวะ การ ทดลองดังกลาวควรมีรูปแบบใด ก. ควรเปนการทดสอบแบบสุมและขามสลับ (randomized cross) ลักษณะนี้สามารถควบคุมความแปรผันทาง ชีวภาพของอาสาสมัคร ข. ควรเปนการทดสอบแบบสุมและคูขนาน (randomized parallel) ของโรค เปนโรคเฉียบพลัน อาจไม สามารถขามสลับได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
4.
5.
6.
7.
MCQ
442
ค. ควรเปนการทดสอบโคฮอท (Cohort study design) เนื่องจากตัวอยางและสามารถทดลองในประชากรกลุม ใหญได ง. ควรเปนการทดลองแบบเปดขางเดียว (single binded design) เปนที่ครบถวนเกี่ยวกับการรักษาที่คนไดรับ และปกปดผูทําการทดลองเพียงพอสําหรับการวิจัยในหัวขอนี้ ผูปวยมาปรึกษาทานวามีญาติแนะนําใหใชสมุนไพรขับปสสาวะ ยาดังกลาวทําจากสมุนไพร 5 ชนิด นํามาบดผสมกิน เชา-เย็น ตามพรบ.ยา พ.ศ. 2510 ก. ยาสมุนไพร ข. ยาสามัญประจําบาน ค. ยาแผนโบราณ ง. ยาปลอม จ. ยาแผนไทย ในขณะเดียวกันผูปวยไดนํายาที่ญาติผูปวยไดรับมา ยาดังกลาวเปนยาน้ําแขวนตะกอน ยาที่ไดรับดังกลาวมีลักษณะเปนแบบ flocculation ขอใดแสดงลักษณะของยาแขวนตะกอน ก. อัตราการตกตะกอนเกิดขึ้นอยางชา ข. ความสูงของตะกอนมีความสูงมาก ค. หากเขยาขวดอีกครั้งยาจะสามารถกลับมาเปนแบบเดิม เภสัชทําการทดสอบคุณภาพยาน้ําแขวนตะกอนและคํานวณคา sedimentation ไดเทากับ 0.60 ขอใดกลาวถูกตอง ก. Sedimentation ratio เปนคาที่ใชบอกระดับการเกิด ข. Sedimentation ratio ไดจากการคํานวนอัตราสวนของตะกอนระยะเวลาหนึ่งและปริมาตรตะกอนเริ่มตน ค. ผลการประเมินในเบื้องตน พบวาตํารับเปนที่ยอมรับ ง. ตํารับที่มีคา sedimentation ratio สูงกวานี้มีแนวโนม แพทยสั่งจายยา Cloxacillin sodium for oral solution Sig. 1 tsp. qid ac&hs ขอใดไมถูกตอง ก. เปนตํารับแบบใชไดทันที (ready to use) ข. ตํารับประกอบดวยตัวยาและสารปรุงแตงเพิ่ม ค. รับประทานครั้งละ 1 ชอนชา วันละ 4 ครั้ง กอนนอน ง. เปนตํารับที่โดยทั่วไป ตัวยามักเสื่อมได จ. เปนตํารับที่โดยทั่วไปที่เก็บหลังผสมได
กรณีศึกษาที่ 2 สตรีชื่อนางเพ็ญศิริ อายุ 38 ป มารานยาขอซื้อ Norfloxacin เพราะมีอาการปสสาวะบอย 2.1 อาการของนางเพ็ญศิริบงชี้ถึงโรคหรืออาการอะไร ก. โรคติดเชื้อทางเดินปสสาวะ ข. มีการดื่มน้ํามากกวาปกติ ค. เบาหวาน ง. เบาจืด จ. ถูกทุกขอ 2.2 ถานางเพ็ญศิริเปนโรคติดเชื้อทางเดินปสสาวะ ทานจะจาย Norfloxacin ในขนาดเทาไหร ก. 400 มก. วันละ 2 ครั้ง กอนอาหารเชา-เย็น เปนเวลา 3 วัน ข. 400 มก. วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเชา-เย็น เปนเวลา 3 วัน ค. 400 มก. ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 1 ครั้ง กอนอาหารเชา หรือเย็น เปนเวลา 3 วัน ง. 400 มก. ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเชา หรือเย็น เปนเวลา 3 วัน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
443
จ. 400 มก. ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 1 ครั้ง กอนอาหารเชา หรือเย็น เปนเวลา 5 วัน 2.3 เชื้อที่พบบอยในทางเดินปสสาวะคืออะไร ก. Streptococcus pneumoniae ค. Escherichia coli จ. Shigella
ข. Staphylococcus aurous ง. Salmonella
2.4 เมื่อซักประวัติเพิ่มเติม พบวานางเพ็ญศิริไมมีอาการปสสาวะแสบขัด ไมไดรับประทานน้ําเพิ่มมากกวาปกติ นอกจากนี้ยังมีอาการคอแหง หิวบอย มีพอเปนเบาหวาน นางเพ็ญศิริมีโอกาสเปนโรคหรืออาการใด ก. Hyperthyroidism ข. Hypothyroidism ค. Diabetes Meliitus ง. Diabetes insipidus จ. เปนไปไดทุกขอ 2.5 ทานจะใหคําแนะนําหรือทําอยางไรกับนางเพ็ญศิริ ก. จายยา PTU ข. จายยา Thyroxine ค. จายยา Glybenclamide ง. จายยา Vasopresin จ. แนะนําใหไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล 2.6 จากสูตรโครงสรางของ Norfloxacin ตามรูปขางลาง เทคนิคใด ที่มีความสําคัญนอยสุด ในการหาโครงสราง ของสารดังกลาว ก. UV Spectroscopy ข. IR Spectroscopy ค. 1H-NMR Spectroscopy ง. 13C-NMR Spectroscopy จ. Mass Spectroscopy 2.7 ขอใดไมเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพ ยาเม็ด Norfloxacin ก. Content Uniformity ข. Dissolution test ค. Disintegration ง. Weight Variation จ. Limulus Amebocyte Lysate test 2.8 จากขอกําหนดเกณฑขั้นตอนของรานยาคุณภาพของสภาเภสัชกรรม ขอใดไมอยูในเกณฑดังกลาว ก. มีระบบควบคุมยาเสพติดใหโทษ วัตุออกฤทธิ์ตอจิตประสาท และยาควบคุมพิเศษอื่น ๆ ที่รัดกุมและ สามารถตรวจสอบไดตลอดเวลา ข. มีการสอบถามและไดรับความเห็นชอบของผูสั่งจายยาทุกครั้ง เมื่อมีการดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวของกับการ แกไขหรือมีการปรับเปลี่ยนใบสั่งยา ค. มีเภสัชกรเปนผูสงมอบยาใหแกผูมารับบริการโดยตรง ง. หามสงมอบยาอันตรายใหกับเด็กอายุต่ํากวา 12 ป ในทุกกรณี จ. ไมมีคําตอบที่ตองการ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
444
2.9 บริษัทเตรียมสคริปโฆษณายา Norfloxacin เพื่อเตรียมออกอาการศทางทีวี ขอใด กลาวถูกตอง เมื่ออางถึง พรบ. ยา 2510 ก. สามารถมีการรองรําทําเพลงประกอบการโฆษณา Norfloxacin ชนิดเม็ดได ข. สามารถมีเภสัชกรบอกสรรพคุณของยาได ค. การโฆษณานี้ สามารถมีรายการแถม คือซื้อ Norfloxacin 100 เม็ด แถมยา paracetamol 1 แผง ง. ยานี้จะโฆษณาเพื่อแสดงสรรพคุณยาไมไดเลย จ. นายแพทยสาธารณสุขจังหวัดมีอํานาจสั่งเปนหนังสือใหระงับการโฆษณาขายยาที่เห็นวาเปนการโฆษณา โดยฝาฝนพระราชบัญญัตินี้ได 2.10สมุนไพรวนขอใด ที่มีฤทธิ์เปนยาขับปสสาวะ ก. รางจืด ค. หญาหนวดแมว จ. ขอ ข. และ ค. ถูก 3 กรณีศึกษาที่ 3
ข. ขลู ง. ขอ ก., ข. และ ค. ถูก
ผูปวยชายไทย อายุ 60 ป หนัก 48 กิโลกรัม สูง 170 เซนติเมตร เขารับการรักษาในโรงพยาบาล ดวยอาการขาบวม ทั้งสองขาง เหนื่อย ออนเพลีย และเบื่ออาหาร คาตรวจทางหอปฏิบัติการเปนดังนี้ BUN = 60 mg/dL (normal 7-20 mg/dL) SCr = 3 mg/dL (normal 0.5-1.4 mg/dL) K = 6.5 mEq/L (normal 3.5-5.2 mEq/L) นอกจากนี้ผูปวยมีประวัติวาปวยเปนโรคไตมานาน 5 ป มี creatinine clearacne 18 ml/min 3.1 เมื่อพิจารณาจากประวัติความเจ็บปวย อาการแสดง และคา Creatinine clearance แสดงวาการทํางานของไต อยูในภาวะใด ก. Acute Renal Failure ข. Renal insufficiency ค. Chronic renal failure ง. Uremia จ. End-stage renal failure 3.2 ยาในขอใดสามารถแกไขอาการ hyperkalemia ในผูปวยรายนี้ได ก. Potassium chloride ข. Sodium chloride ค. Sodium polystyrene sulfonate ง. Calcium chloride จ. Calcium phosphate 3.3 แพทยควรใหยาขับปสสาวะชนิดใดกับผูปวยรายนี้ ก. Hydrochlorothiazide ข. Spironolactone ค. Furosemide ง. Amiloride จ. Indapamide
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
445
3.4 ขอใดไมใชเหตุผลในการเลือกใชยาขับปสสาวะในขอขางตน ก. ลดอาการบวมคั่งน้ํา ข. ปองกัน renal shut down ค. ออกฤทธิ์ไดแมผูปวยที่ไตบกพรองในการทํางานอยางรุนแรง ง. ไมมีผลรบกวนสมดุลกรด-ดางในรางกาย จ. ออกฤทธิ์เร็วและแรง ขอมูลเพิ่มเติมแพทยพบวาผูปวยเกิดภาวะ Lactic acidosis จึงสั่งจาย Sodium bicarbonate เพื่อใหได bicarbonate 2.8 mmol/L ใน sterile water for injection 100 mL 3.5 จากขอมูลขางตนเภสัชกรตองเตรียมสารละลายดังกลาวจาก sodium bicarbonate จํานวนกี่แอมพูล เมื่อ sodium bicarbonate ขนาดบรรจุแอมพูลละ 5 mL และมีความเขมขน 2 mg/mL ก. 2 Amp ข. 3 Amp ค. 4 Amp ง. 5 Amp จ. 6 Amp 3.6 บริเวณที่ใชในการเตรียมยาขางตนนี้ตองเปน ก. Clean room class 10 ข. Clean room class 100 ค. Clean room class 1,000 ง. Clean room class 10,000 จ. Clean room class 100,000 3.7 การเตรียมยาขางตนไมจําเปนตองคํานึงถึง ก. Sterility ค. Microbial limit test จ. Preservative
ข. Osmolarity ง. Particulate matter
3.8 กรณีที่โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขประสงคที่จะซื้อยา Sodium bicarbonate injection ซึ่งเปนยาใน บัญชียาหลักแหงชาติที่องคการเภสัชกรรมผลิต ขอใดถูกตอง ก. จัดซื้อดวยเงินงบประมาณเทานั้น ข. จัดซื้อดวยวิธีกรณีพิเศษจากองคการเภสัชกรรม ถาวงเงินเกิน 50,000 บาท ค. จัดซื้อโดยวิธีตกลงราคาจากองคการเภสัชกรรมเทานั้น ไมจํากัดวงเงิน ง. จัดซื้อโดยวิธีตกลงราคาจากบริษัทใดก็ไดถาวงเงินไมเกิน 50,000 บาท จ. จัดซื้อดวยวิธีกรณีพิเศษจากองคการเภสัชกรรม ไมจํากัดวงเงิน 3.9 ถาบริษัทที่จําหนายยา A ซึ่งเปนยาในกลุม diuretic ตัวหนึ่ง ตองการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการปองกัน การสูญเสียโพแทสเซียมในคนไขโรคไตไดไมแตกตางจาก HCTZ วิธีวิจัยแบบใดดีที่สุด ถาการวิจัยนี้เริ่มดําเนิน กอนที่ยา A…… ก. Case control ข. Cohort ค. Meta-analysis of case control studies ง. Descriptive จ. Randomized control trial
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
446
3.10ในกรณีที่ผูปวยตองการใชสมุนไพร สมุนไพรใดที่มีสรรพคุณขับปสสาวะ ก. ปบ ข. ทองพันชั่ง ค. มะขามปอม ง. ขมิ้นชัน จ. หญาหนวดแมว 4 กรณีศึกษาที่ 4 ผูปวยมาดวยอาการไมมีไข ปสสาวะไมออก ปสสาวะไมสุด ปวดทองนอย ไมแนใจวาปสสาวะแสบดวยหรือไม 4.1 จายยาอะไร ทานอยางไร และทานกี่วัน 4.2 ผูปวยเปนโรคอะไร ผูปวยกลับมาเปนอีกครั้ง หลังจากอาการหายไปแลว ประมาณ 1 เดือน แตคราวนี้มีไขต่ํา ๆ 4.3 จายยาอะไร ทานอยางไร และทานกี่วัน 4.4 คําแนะนําที่จะใหกับผูปวยคืออะไร 4.5 การควบคุมคุณภาพของ capsule ตองดูอะไรบาง 5 กรณีศึกษาที่ 5 ผูปวยหญิง เจ็บเอว มาขอซื้อยา ได Diclofenac และยาอะไรอีกไมรู 5.1 ขอแนะนําการรับประทานยา, การปฏิบัติตัว 5.2 สมุนไพรใดชวยบรรเทาอาการได 5.3 Diclofenac เปนยาประเภทใด ใชยาไปไดสักพัก อยู ๆ ฉี่ไมออก ไปพบแพทย ไดผล Lab 5.4 ความผิดปกตินี้เกิดจากอะไร 5.5 ถามเกี่ยวกับกลไกการเกิดความผิดปกติ 5.6 ถามเกี่ยวกับยาขับปสสาวะ 5.7 Phosphste สูง ใชอะไร 5.8 กลไกของ Calcium-Phosphate 6 กรณีศึกษาที่ 6 โจทยพูดถึง อาการของหญิงวัยหมดประจําเดือน 6.1 ขอใดไมใชคําแนะนําในการปฏิบัติตนที่เหมาะสม 6.2 ยาหรือสารขอใดไมสามารถใชรักษา vasomotor symptom ได 7 ยาที่ หาม ใชในผูปวยตอมลูกหมากคือขอใด ก. Alfazosin ค. จ. Tolterodine
ข. Doxasozin Prazosin ง. Finasteride
8 พืชที่ใชรักษาโรคนิ่วไดแกขอใด ก. เห็ดหมื่นป ค. ชุมเห็ดเทศ
ข. มะขามแขก ง. หญาหนวดแนว
9 พืชที่ใชรักษาโรคทางเดินปสสาวะอักเสบไดแกขอใด ก. ฟาทะลายโจร ค. พลู
ข. กระเจี๊ยบแดง ง. ฝรั่ง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 10 พืชที่ใชขับปสสาวะไดแกขอใด ก. มะขาม ค. กระเจี๊ยบแดง 11 NSAIDs มีผลตอเสนเลือดใดในไต
MCQ
447
ข. บัวหลวง ง. ฝรัง่
โรคระบบทางเดินปสสาวะและไต 1. กรณีศึกษาที่ 1 ผูปวยชายไทยคู อายุ 48 ป ไดรับการวินิจฉัยวาเปนโรคไตวายเรื้อรังมานาน 2 ป ไดรับใบสั่งยาจากแพทยดังนี้ Rx CaCO3 1×3 pc Sodamint 3×3 pc Folic acid 1×1 pc 1 α-VitD3 1×1 pc Enalapril (5) 1×1 pc จงบอกขอบงใชของ Sodamint (Sodium bicarbonate) ในผูปว ยรายนี้ ก. Antacid ข. Metabolic acidosis ค. Alkalinize urine ง. Phosphate binder จ. Increase absorption of folic acid ในกรณีที่หองยาไมมี CaCO3 ยาใดตอไปนี้ที่ไมสามารถใชทดแทน CaCO3 ในผูปวยรายนี้ได ก. Al(OH)3 + Mg(OH)2 (Alum milk) ข. Al(OH)3 (Alum gel) ค. Mg(OH)2 ง. Ca gluconate จ. Ca lactate 2. กรณีศึกษาที่ 2 ผูปวยมาพบแพทยในเดือนถัดมา พบวา Hct ลดลงเหลือ 21%, Hb 8 mg/dL แพทยจึงสั่งจาย Eprex (Erythropoietin) 4,000 u สัปดาหละ 2 ครั้ง ผูป วยจะรับยาไปฉีดที่โรงพยาบาลชุมชนใกลบาน เกี่ยวกับ Eprex ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง ก. Eprex ใชกระตุนสราง RBC ข. Eprex ผลิตดวยเทคนิค Recombination Technology ค. Eprex ตองเก็บไวที่อุณหภูมิ 2-8oC ง. Eprex ใชฉีดโดยวิธี IV push เทานั้น จ. Eprex สามารถทําใหเกิดความดันโลหิตสูงได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
448
MCQ
คําแนะนําใดที่ไมเหมาะสมสําหรับผูปวยไตวายเรื้อรัง ก. ควรรับประทานกลวย, สม, แตงโม ข. ควรจํากัดการดื่มแอลกอฮอล, น้ําอัดลม ค. ควรจํากัดการรับประทานเนื้อสัตว, เกลือ ง. ควรจํากัดอาหารที่มีไขมันสูง จ. ควรรับประทานอาหารที่มีเสนใยสูง ผูปวยมีอาการทองผูก หลังจากรับประทานยาที่แพทยสั่ง ทานจะแนะนําใหผูปวยใชยาใด ยกเวน ก. Bisacodyl ข. MOM (Milk Of Magnesia) ค. Metamucil (Psyllium seed) ง. Senokot (Senosides) จ. ELPco (Emulsion liquid paraffin compound) 3. กรณีศึกษาที่ 3เนื่องจากผูปวยรายนี้มีภาวะ Hyperkalemia แพทยตองการใช Kayexalate เพื่อรักษาภาวะดังกลาว โดยผสมกับ Sorbitol 20% 3.1 แพทยตองการสั่งจาย Sorbitol 20% 120 mL โดยเจือจางจาก Sorbitol Solution 70% จะตองใช Sorbitol Solution 70% จํานวนเทาใด ก. 24 mL ข. 34 mL ค. 54 mL ง. 68 mL จ. 86 mL 3.2 ผูปวยตองการดื่มน้ําผลไม น้ําผลไมชนิดใดตอไปนี้ที่สามารถแนะนําใหผปู วยรับประทานได ก. น้ําลูกยอ ข. น้ําสม ค. น้ําแตงโม ง. น้ํากระเจี๊ยบ จ. น้ํามะพราว 3.3 ผูปวยมาพบแพทยดวยอาการไอแหง ๆ ไมมีน้ํามูก ไมมีไข ทานคิดวานาจะเกิดจากยาตัวใด ก. Sodamint ข. Enalapril ค. CaCO3 ง. Folic acid 1 จ. α-VitD3 3.4 ผูปวยไดรับไดรับการปลูกถายไตตองใชยากดภูมิคุมกันขอใดตอไปนี้ไมใชยากดภูมิคุมกัน ก. Prednisolon ข. Cyclosporin ค. Tacrolimus ง. Leucovorin จ. Mycofenolic mofetil 3.5 Cyclosporin ไดรับการพัฒนาเปนรูปแบบ micro-emulsion เนื่องจาก ก. ลดความเปนพิษตอไต ข. ทําใหดูดซึมดีขึ้น ค. ลดอาการขางเคียงในระบบทางเดินอาหาร ง. เพิ่มความคงตัวของยา จ. กลบรสยา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
449
MCQ เรื่อง Hematologic disorder Hematology (G-6-PD deficiency) ผูปวยชายไทย อายุ 28 ป แพทยวินิจฉัยวาเปน G-6-PD deficiency anemia พบภาวะไตวายเฉียบพลัน มีโปแต สเซียมสูง Hb 8 g/dL (normal; 12-16), Hct 22% (normal; 38-48), Total bilirubin 4 mg/L (normal; <1) มีอาการเหนื่อย เพลีย ปสสาวะสีคล้ําเหมือนสีน้ําปลา ผูปวยไมเคยมีประวัติแพยา ยาที่ไดรับกอนมาโรงพยาบาล คือ Ranitidine (150 mg) 1 tab bid (สําหรับโรคกระเพาะอาหาร รับประทานมาแลว 1 สัปดาห) และ Cotrimoxazole 2 tab bid (สําหรับติดเชื้อในทางเดิน ปสสาวะ รับประทานมาแลว 3 วัน) 1. ขอมูลของผูปวยในขอใดไมเกี่ยวของกับภาวะ G-6-PD deficiency anemia ก. เปนผูชาย ข. มีโปแตสเซียมสูง ค. มีการติดเชื้อในทางเดินปสสาวะ ง. ไดรับยา Cotrimoxazole จ. ไดรับยา Ranitidine 2. ขอใดไมใชอาการหรืออาการแสดงของภาวะ G-6-PD deficiency anemia ในผูป วยรายนี้ ก. อาการเหนื่อยเพลีย ข. ปสสาวะมีสีคล้ําเหมือนสีน้ําปลา ค. มีประวัติเปนโรคกระเพาะอาหาร ง. Hb 8 g/dL (normal; 12-16), Hct 22% (normal; 38-48) จ. Total bilirubin 4 mg/L (normal; <1) 3. ขอใดไมถูกตองในการเกิด G-6-PD deficiency anemia ก. การติดเชื้อทําใหรางกายมีการสรางอนุมูลอิสระมากขึ้น ข. มี Oxidative stress สูงเนื่องจากมี H2O2 ภายในเซลล ค. H2O2 ทําใหเกิด Sulhydryl-hemoglobin ทําใหเม็ดเลือดแดงแตก ง. ฮีโมโกลบินตกตะกอนในเม็ดเลือดแดง ทําใหถูก Macrophage ที่มามจับกิน จ. การขาดเอนไซม G-6-PD ทําให Reduced glutathione เพิ่มขึ้น ลดการแตกของเม็ดเลือดแดง 4. ยาในขอใดทําใหเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกเฉียบพลันในผูปวย G-6-PD deficiency anemia ก. Heparin ข. Primaquine ค. Cloxacillin ง. Warfarin จ. Penicillin 5. การรักษาภาวะ Acute anemia ในขอใดเหมาะสมกับผูปวยรายนี้ ก. ใหเลือด ข. Ferrous sulfate ค. Ferrous sulfate รวมกับ Folic acid ง. Vitamin B12 จ. Erythropoietin
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
450
MCQ
6.
ขอใดผิดเกี่ยวกับคําแนะนําที่ควรใหแกผูปวยรายนี้ ก. หลีกเลี่ยงการใชยาที่ทําใหเกิดเม็ดเลือดแดงแตก ข. การติดเชื้อทําใหเม็ดเลือดแดงแตกได ค. ใหสังเกตอาการเม็ดเลือดแดงแตก ถาเกิดอีกใหรีบมาพบแพทย ง. หยุดใชยา Ranitidine เพราะเปนสาเหตุของเม็ดเลือดแดงแตก จ. รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเพื่อเสริมสรางการสรางเม็ดเลือด 7. ความเปนพิษตอระบบเลือดแบบใดที่ไมมีสาเหตุจาก Drug induce ก. Autoimmune-induced hemolysis ข. Bone marrow suppression ค. Methemoglobinemia ง. Sickle cell anemia จ. Hemolytic anemia 8. ยาตอไปนี้ตัวใดทําใหถายอุจจาระเปนสีดํา ก. Folic acid ง. Erythropoietin ข. Vitamin B12 จ. Ferrous sulfate ค. Dapsone 9. ยาในขอ 8 เนื่องจากมีลักษณะเปนผงสีเขมดังนั้นจึงเตรียมในรูปเคลือบน้ําตาล คุณสมบัติในขอใดที่ไมตองทดสอบกับ ยาเคลือบน้ําตาล ก. Disintegration time ข. Weight variation ค. Content uniformity ง. Dissolution test จ. Stability test 10. Folic acid จัดเปนยาประเภทใดตามกฎหมาย ก. ยาอันตราย ข. ยาสามัญประจําบาน ค. ยาควบคุมพิเศษ ง. ยาบรรจุเสร็จ จ. ยาที่ใชเฉพาะในสถานพยาบาลที่ไดรับอนุญาต กรณีศึกษา : ผูปวยเพศหญิงอายุ 37 ป มาโรงพยาบาลดวยอาการออนเพลีย วิงเวียน ปวดทอง มีประวัติเปน peptic ulcer ตั้งแต 5 ปที่แลว และมีประวัติมีเลือดประจําเดือนออกมากตั้งแต 15 ปที่แลว ตรวจรางกายพบ guaiac-positive ตรวจ lab พบ Hb 8 (12-15), Hct 27 (36-44), MCV 75 (80-100), MCHC 30 (31-35), serum iron 40 (60-190 mcg/dL), TIBC 450 (250-400 mcg/dL) แพทยวินิจฉัยเปน Iron deficiency anemia ไดรับยา Ferrous sulfate 1*3 pc 11. จากขอมูลขางตน ทานตองแนะนําการรับประทานยา Ferrous sulfate ใหแกผปู วยอยางไร ก. ควรรับประทานรวมกับนม เพื่อเพิ่มการดูดซึมของ Ferrous ข. ควรรับประทานยาในขณะที่ทองวางจะดีที่สุด เพื่อลดอาการคลื่นไส อาเจียนจากยา Ferrous ค. Ferrous มีผลรบกวนการดูดซึมของ Ofloxacin ดังนั้นตองกินยา Ferrous sulfate กอนหรือหลังกินยา Ofloxacin 2 ชั่วโมง ง. อาการขางเคียงที่สําคัญ คือ ทองเสีย คลื่นไส อาเจียน Ferrous stone
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
451
MCQ
จ. สามารถทานยา Ferrous sulfate รวมกับยา Tetracycline เพื่อเพิ่มการดูดซึม Ferrous เมื่อซักประวัติของผูปวยเพิ่มเติมพบวาผูปวยเปน G-6-PD deficiency 12. จากขอมูลขางตน ทานควรแนะนําใหผูปวยเลี่ยงการใชยาในขอใด เพื่อปองกันการเกิด Hemolytic anemia ก. Primaquine, Erythromycin ยาที่ Induced RBC แตก ใน Pt. G-6-PD deficiency ข. Dapsone, Vitamin A - Analgesic = Phenacetin, Aspirin, Probenicid ค. Sulfasalazine, Erythromycin - Antimalarials = chloroquin, Primaquin, Quinine ง. Dapsone, Penicillamine - CVS drug = Procainamide, Quinidine จ. Sulfasalazine, Tetracycline - Sulfinamide = Dapsone, Sulfasalazine 13. ขอใดกลาวไมถูกตอง - Chloramphenicol, Cotrimoxazole ก. Erythromycin ไมทนกรด ข. ผูปวยที่แพยากลุม Sulfonamide ไมควรไดรับยา Dapsone ค. Sulfasalazine เปน Prodrug ที่ใชรักษาการติดเชื้อในกระแสเลือด ง. Tetracycline ไมทนกรดและเบส จ. Tetracycline สามารถเกิดสารประกอบเชิงซอนกับ Divalent cation ได 14. ผูปวยปรึกษาเภสัชกรประจําโรงพยาบาลเรื่องโรค Thalassemia เนื่องจากมีญาติเปนโรคนี้ จึงอยากทราบวาจะกิน Ferrous sulfate เสริมเลือดไดหรือไม จากขอมูลขางตน ทานจะแนะนําวิธีการรักษาโรค Thalassemia อยางไร ก. ควรรับประทาน Ferrous sulfate เสริม เนื่องจากการสรางเม็ดเลือดในรางกายผิดปกติ ข. ควรรับประทาน Vitamin B12 เสริม เนื่องจากการสรางเม็ดเลือดในรางกายผิดปกติ ค. ควรรับประทาน Folic acid เสริม เนื่องจากการสรางเม็ดเลือดในรางกายผิดปกติ ง. ควรใหเลือดรวมกับรับประทาน Ferrous sulfate เสริม เนื่องจากการสรางเม็ดเลือดในรางกายผิดปกติ จ. ควรฉีดยา Deferoxamine เนื่องจากเปน Chelating agent ชวยลดภาวะ Iron overload ผูปวยปรึกษาเภสัชกรเพิ่มเติมวา มีญาติอีกคนหนึ่งเปนโรคไตวายเรื้อรัง ซึ่งไดรับยา Erythropoietin โดยหมอบอกวาเปน ยาบํารุงเลือด จึงอยากทราบขอมูลยานี้ 15. จากขอมูลขางตน ขอใดถูกตองเกี่ยวกับขอมูลยา Erythropoietin ก. อาการขางเคียงที่สําคัญ คือ ความดันโลหิตต่ํา จึงตองระมัดระวังเวลาเปลี่ยนทานั่งหรือเดิน ข. ยามีฤทธิ์กระตุนไขประดูกใหสรางเม็ดเลือดแดง ดังนั้นตองทาน Ferrous sulfate เสริมดวย ค. ควรเก็บยานี้ไวในตูเย็นในชอง Freeze เพื่อปองกันไมใหยาสลายตัวกอนนําไปใช ง. ยาอยูในรูปแบบรับประทานและรูปแบบฉีด สามารถเลือกใชรูปแบบใดก็ได จ. ไตมีหนาที่กระตุนให Erythropoietin ถูกสรางปริมาณมากที่ไขกระดูก ดังนั้นเมื่อไตวายทําใหสรางไดลดลง 16. จากสูตรโครงสรางของ Folic acid ขอใดกลาวไมถูกตอง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
17.
18.
19.
20.
452
MCQ
ก. เปน Water soluble vitamin ข. เรียกอีกอยางหนึ่งวา Vitamin B9 ค. เกี่ยวของกับการสราง DNA และ RNA ง. มนุษยสามารถสังเคราะห Folic acid ได จ. ใน IR chromatogram จะเห็น peak ที่ชัดเจน ที่คาความถี่ประมาณ 1,700 cm-1 Folic acid พบมากในธรรมชาติ ในพืชชนิดใด ก. มะเขือเทศ มะมวง ข. สม บรอกเคอรี่ ค. มะละกอ ลําไย ง. มะละกอ มะมวง จ. สม แครอท ชวงพักรับประทานอาหารกลางวัน เภสัชกรคนดังกลาวจึงไดพูดคุยสนทนาเรื่องคนไขและอาการเจ็บปวยกับเพื่อนคน อื่น ๆ ในโรงพยาบาลอยางสนุกสนาน ผูอํานวยการเดินมาไดยินพอดี จึงไดวากลาวตักเตือนเรื่องการละเมิดคํา ประกาศสิทธิผูปวย ตามขอใด ก. ผูปวยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะไดรับบริการดานสุขภาพ ตามที่บัญญัติไวในรัฐธรรมนูญ ข. ผูปวยมีสิทธิที่จะไดรับบริการจากผูประกอบวิชาชีพดานสุขภาพ โดยไมมีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากความแตกตาง ดานฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา ลัทธิ การเมือง เพศ อายุ และลักษณะของความเจ็บปวย ค. ผูปวยมีสิทธิที่จะไดรับทราบขอมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อรองขอ ทั้งนี้ขอมูลดังกลาวตองไมเปนการละเมิดสิทธิสวนตัวของบุคคลอื่น ง. ผูปวยมีสิทธิที่จะไดรับการปกปดขอมูลเกี่ยวกับตนเอง จากผูประกอบวิชาชีพดานสุขภาพโดยเครงครัด เวนแตจะ ไดรับความยินยอมจากผูปวยหรือการปฏิบัติหนาที่ตามกฎหมาย จ. ผูปวยมีสิทธิที่จะไดรับขอมูลอยางครบถวนในการตัดสินใจเขารวม หรือถอนตัวจากการเปนผูถูกทดลองในการทํา วิจัยของผูประกอบวิชาชีพดานสุขภาพ ผูปวยคนดังกลาวไมสามารถมาโรงพยาบาลไดเพราะติดงาน จึงใหแฟนมารับยาแทนโดยนําบัตรประจําตัวประชาชน ของผูปวยมาดวย อยากทราบวาตามคําประกาศสิทธิผูปวย ผูมารับยาแทนสามารถขอดูขอมูลเกี่ยวกับการรักษาได หรือไม ก. ได เพราะเปนแฟนกัน ข. ได เพราะผูปวยมีสิทธิทราบขอมูล ค. ได เพราะนําหลักฐานของผูปวยมายืนยันดวย ง. ไมได เพราะไมมีคําสั่งจากแพทยเจาของไข จ. ไมได เพราะตองปกปดความลับของผูปวย เมื่อผูปวยคนหนึ่งไดรับยามาจากโรงพยาบาล พบวา Folic acid หมดกอนแพทยนัด จึงมาซื้อยาที่รานยาแหงหนึ่ง โดยตองการซื้อ 15 เม็ด โดยมีเภสัชกรเปนผูขายยาเอง ทานคิดวา Folic acid เปนผลิตภัณฑประเภทใด เภสัชกร สามารถจายในรานยาไดหรือไม ก. เปนยาสามัญประจําบาน เภสัชกรสามารถจายได ข. เปนยาแผนปจุบันบรรจุเสร็จ เภสัชกรสามารถจายได ค. เปนยาอันตราย เภสัชกรจายไมได ตองมีใบสั่งแพทย ง. เปนผลิตภัณฑเสริมอาหาร เภสัชกรสามารถจายได จ. เปนยาอันตราย เภสัชกรสามารถจายได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
453
MCQ
Hematology Scene 1 : ผูปวยชายอายุ 18 ป มีลักษณะซีด ผูปวยบอกวาเคยไปพบแพทยที่โรงพยาบาล ไดรับการวินิจฉัยจากแพทยวา เปนโรคธาลัสซีเมีย และไดรับการรักษามาเปนเวลาหลายปแลว มาขอคําแนะนําเพิ่มเติมบางประการจากเภสัชกร 1. อาการใดของผูปวยธาลัสซีเมียที่อาจพบในผูปวยรายนี้ ก. Iron deficiency ข. Uremia ค. Liver steatosis ง. Peripheral neuropathy จ. Enlarged spleen 2. โรคธาลัสซีเมียจัดเปนโรคโลหิตจางประเภทหนึ่ง ขอใดจัดเปนลักษณะเดนของโรคธาลัสซีเมียที่แตกตางจากโรค โลหิตจางอื่นๆทั่วไป ก. ธาลัสซีเมียเปนโรคทางพันธุกรรม ที่เกิดจากเม็ดเลือดแดงถูกทําลายไดงายเนื่องจากการขาดเอนไซมบาง ชนิด ข. ธาลัสซีเมียเปนโรคทางพันธุกรรม ที่มีระดับเหล็กในเลือดสูงเนื่องจากมีการแตกของเม็ดเลือดแดง ค. ธาลัสซีเมียเปนโรคทางพันธุกรรม ที่เม็ดเลือดแดงมีโครงสรางผิดปกติคลายรูปเสี้ยวจันทร ทําใหแตกได งาย ง. ธาลัสซีเมียเปนโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุมกันที่เม็ดเลือดแดงถูกทําลายไดงาย จ. ธาลัสซีเมียเปนโรคโลหิตจาง ที่เกิดจากการขาดวิตามินที่ชวยในการคงสภาพของเม็ดเลือดแดง Scene 2 : ผูปวยเลาวาญาติเห็นวามีอาการซีดเนื่องจากโลหิตจาง จึงไดซื้อยาบํารุงเลือด Hemovit มาใหรับประทาน และ ผูปวยเกิดความสงสัยวาจะสามารถรับประทานไดหรือไม 3. ในฐานะเภสัชกรทานจะใหคําแนะนําแกผูปวยอยางไร ก. สามารถรับประทานได เนื่องจากเปนยาสามัญประจําบาน จึงมีความปลอดภัยสูง ข. สามารถรับประทานได เนื่องจากมีวิตามินและสารอาหารที่สําคัญที่ชวยบํารุงโลหิตลดอาการโลหิตจาง ค. สามารถรับประทานไดเฉพาะเมื่อผูปวยกําลังอยูในระหวางการรักษาโรคธาลัสซีเมียจากแพทย ง. ไมควรรับประทาน เนื่องจากมีสวนผสมของธาตุเหล็ก จ. ไมควรรับประทาน เนื่องจากมีสวนประกอบที่เกิด drug interaction กับยาที่ใชรักษาประจํา 4. เภสัชกรควรแนะนําใหผูปวยระมัดระวังการใชยาตัวใดเปนพิเศษ ก. FBC ข. Aminoglycosides ค. Paracetamol ง. Vitamin C จ. Calcium supplements 5. ขอแนะนําสําหรับวิธีการรักษาโรคธาลัสซีเมีย นอกเหนือจากการใชยารับประทาน ก. ผูปวยไมควรไดรับเลือดอยางเด็ดขาด เนื่องจากมีโอกาสเกิด agglutination ของเม็ดเลือดแดงสูงกวาปกติ ข. ผูปวยไมควรไดรับเลือดอยางเด็ดขาด เนื่องจากมีความเสี่ยงตอการติดเชื้อ ค. ผูปวยควรไดรับเลือด เพื่อชวยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดง ง. ผูปวยควรออกกําลังกายสม่ําเสมอ เพื่อชวยเพิ่มการสรางเม็ดเลือดแดง จ. ผูปวยควรไดรับ erythropoietin เพื่อเรงการสรางเม็ดเลือดแดง
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
454
Scene 3 : สําหรับผูปวยรายนี้แพทยสั่งจาย Folic acid โดยใหรับประทานทุกวัน 6. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับผลิตภัณฑ Folic acid ก. ใหในรูปยาฉีดเปนระยะๆ สําหรับผูปวยที่มีอาการรุนแรง ข. ใหในรูปแบบ enteric coat เพื่อปองกันการระคายเคืองกระเพาะอาหาร ค. ใหในรูปแบบยาเม็ด ในขนาด 1-5 มิลลิกรัมตอวัน ง. ใหในรูปแบบ emulsion ในผูปว ยเด็ก ในขนาด 50 ไมโครกรัม จ. ใหหลีกเลี่ยงการรับประทานรวมกับนมเพื่อลดการดูดซึม 7. คําแนะนําเรื่องผลิตภัณฑเสริมอาหาร ขอใดเหมาะสมที่สุด ก. สารสกัดตับ เพื่อใหรางกายไดรับ heme ion ทดแทนปริมาณเม็ดเลือดแดงที่สูญเสียไป ข. ผูปวยสามารถใชประโยชนจาก heme ion ไดมากกวา non-heme ion ค. อาหารเสริมจากพืชผัก โดยเฉพาะถั่ว และธัญพืช รวมกับวิตามินซี เพื่อชวยการดูดซึมของธาตุเหล็กที่มี มากในอาหารดังกลาว ง. วิตามินอีในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีคุณสมบัติตานอนุมูลอิสระ จึงชวยลดผลขางเคียงจากปฏิกิริยา ออกซิเดชั่นเนื่องจากภาวะของโรค จ. ผูปวยควรไดรับไฟโตสเตอรอลเพื่อเสริมสรางภูมิคุมกัน H N
H2N
N H N
N N
H N
O
O
COOH H
COOH
Folic acid 8. จากสูตรโครงสรางของ Folic acid ขอใดกลาวไมถูกตอง ก. Folic acid เปนสารที่วองไวตอแสง ข. Folic acid เปนสารประกอบที่สามารถดูดกลืนคลื่นแสง UV-visible ได ค. Folic acid เปนสารประกอบที่คายคลื่นแสง Fluorescene ได ง. Folic acid เกี่ยวของกับการสังเคราะห Thymidylate จ. Folic acid ใชรักษาอาการทางประสาทได 9. ที่ผานมาผูปวยเขาใจวาเลือดไมดี จึงพยายามไปหาซื้อยาบํารุงเลือด ประกอบกับที่รานคาในหมูบานมียาบํารุง เลือด (Ferrous sulfate tablet) ซึ่งระบุวาเปนยาสามัญประจําบาน จึงซื้อยาดังกลาวมาทานบํารุงเลือดประจํา จาก เจาของรานซึ่งก็ไมใชเภสัชกร ขอใดตอไปนี้ถูกตอง ก. รานคาในหมูบานไมสามารถขายยาดังกลาวได เพราะไมใชรานยาตามกฎหมาย ข. ตามกฎหมาย เจาของรานยาซึ่งก็ไมใชเภสัชกร ไมสามารถจําหนายยาดังกลาวได ค. ยาบํารุงเลือด (Ferrous sulfate tablet) ซึ่งระบุวาเปนยาสามัญประจําบาน สามารถขายไดตามรานคา ทั่วไป แตตองมีใบอนุญาตขายยาสามัญประจําบาน
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
455
MCQ
ง. ยาบํารุงเลือด (Ferrous sulfate tablet) ซึ่งระบุวาเปนยาสามัญประจําบาน สามารถขายไดตามรานคา ทั่วไป โดยไมตองมีใบอนุญาตขายยาใดๆทั้งสิ้น จ. Ferrous sulfate tablet ไมสามารถจัดเปนยาสามัญประจําบานได เนื่องจากเปนยาที่มีอันตรายสูง ตอง จัดเปนยาควบคุมพิเศษ 10. เกี่ยวกับอาหารและยา ขอใดตอไปนี้ผิด ก. อาหารตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ไดแกวัตถุทุกชนิดที่คนกิน ดื่ม อม หรือนําเขาสูรางกาย แตไมรวมถึงยา วัตถุออกฤทธิ์ตอจิตประสาท หรือยาเสพติดใหโทษ นอกจากนี้อาหารยังรวมถึงวัตถุที่ใช เปนสวนผสมในการผลิตอาหาร วัตถุเจือปนอาหาร สี เครื่องปรุงแตงกลิ่นรส ข. อาหารแบงออกเปน 4 ประเภท ไดแกอาหารควบคุมเฉพาะ อาหารที่กําหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน อาหารที่ตองมีฉลาก และอาหารทั่วไป ค. ยา เปนวัตถุที่มุงหมายสําหรับใชในการวินิจฉัย บําบัด บรรเทา หรือปองกันโรค หรือความเจ็บปวยของ มนุษยหรือสัตว ง. ผลิตภัณฑยาสามารถแยกออกเปน 2 กลุม คือ ยาแผนปจจุบัน และยาแผนโบราณ จ. ยาแผนปจจุบันแยกออกเปน 3 ประเภท ไดแก ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ และยาสามัญประจําบาน 11.เด็กชายอายุ 12 ป มาขอซื้อยาไปใหลูก โดยมีอาการซีดมาได 3 วันแลว แมของเด็กใหขอ มูลเพิ่มเติมวา ลูกไมเคยมี อาการแบบนี้มากอน กินแตเนื้อสัตวไมชอบกินผัก ชอบกินยาเม็ดวิตามินซี และไมไดกินอาหาร มีอาการปวดฟน ไปที่ คลินิกทันตกรรมแหงหนึ่ง และไดยา aspirin อุจจาระสีปกติ แตปสสาวะมีสีคล้ําเปนสีน้ําตาล ก.จายยา folicacid ข.จายยาวิตามิน B12 ค. จายยา ferrous gluconate ง.แนะนําใหผูปวยไปโรงพยาบาลทันที จ.จาย ferrous sulfate และ folic acid 12.ในกรณีที่พอของเด็กตัดสินใจนําผูปวยไปตรวจที่โรงพยาบาล พบวาเปน G6PD อาการซีดในผูปวย ก.aplastic anemia ข. hemolytic amemia ค. permicious anemia ง. chronic renal failure จ. iron deficiency failure 13.ขอใดควรใชรักษาผูปวยรายนี้ในโรงพยาบาล ก.platelet ข. folic acid ค. vitamin B12 ง. ferrous sulfate จ. packed red cell 14. ปจจัยใดที่นาจะเปนสาเหตุทําใหเกิดอาการซีดในคนไข ก. aspirin ข .Vitamin C ค. amoxicillin ง. amitryptyline
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
456
MCQ
จ. กินแตเนื้อสัตวไมชอบกินผัก 19.เมื่อเด็กชายคนนี้โตขึ้นจะแตงงาน ก.แตงงานกันไดแตไมควรมีลูก เพราะ…. ข.แตงงานกันไดแตหากตั้งครรภเปนผูชายตองทําแทง แตถาเปนผูหญิงไมเปนไร ค.แตงงานกันไดแตหากตั้งครรภเปนผูหญิงใหทําแทง แตถาเปนผูชายไมเปนไร ง.ทุกคนเปนโรคนี้ได ไมวาชายหรือหญิง จ.แตงไมได จะทําใหคุณภาพชีวิต มีความทุกขไปตลอด 20.ตอมาผูปวยไดรับยาชนิดหนึ่งจากรานยา แตคราวนี้ผูปวยมีอาการรุนแรงจนถึงแกชีวิต เภสัชกรไมไดถามขอมูลการแพ ยาและโรคประจําตัวของผูปวย เภสัชกรมีความผิดอยางไร ก.ผิดจรรยาบรรณแหงวิชาชีพ ข.ผิดกฎหมายยา ค.ละเมิดสิทธิ์ของผูปวย ง.ผิดขอบังคับสภาวาดวยขอจํากัดและเงื่อนไขการปฏิบตั ิหนาที่ จ.ไมทําตามประกาศเรื่องการเลือกสรร 21.ผูปวยที่มีอาการออนเพลีย ใจสั่น ซีด เหนื่อยงาย เล็บโคงคลายชอน ผูปวยนั้นขาดสารอาหาร ก. Zinc ข. Vit E ค. Vit B1 ง. Iron จ. Vit C 22.ผูปวยไดรับยา MAOI เมื่อรับประทานปลาราหรือเนยแข็งอาจเกิด acute hypertention เนื่องจากอาหารนี้มีสารพวก ก. Tyramine ข. Glutamine ค. Phanlzine ง. Tyrosine จ. Phenylalanine 23.น้ํามันปลากินไปนานๆแลวเปนอยางไร ก.ปวดหัว ข.ทองเสีย ค.ตาพรามัว ง.ชาตามปลายแขนปลายขา จ.ระยะเวลาการแข็งตัวของเลือดยาวนานขึ้น 24. ผูหญิงตั้งครรภ 6 เดือน ไมเคยไปฝากครรภ แลวไปหาหมอดวยอาการใจสั่นซีด ออนเพลีย หมอวินิจฉัยวาเปน Microcytic and microcytic anemia ควรใหยาอะไร ก. Folic acid+ Ferrous sulfate ข. Folic acid + Pyridoxine ค. Ferrous sulfate + Pyridoxine ง. Ferrous sulfate + Phytonadione จ. Phytonadione + Pyridoxine
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
457
MCQ เรื่อง Immunologic disorder 1. ยากดภูมิคุมกัน (immunosuppression) มีประโยชนกับทุกภาวะ ยกเวน ก. การเปลี่ยนถายอวัยวะ ข. Rh hemolytic disease ในเด็กแรกเกิด ค. Rheumatoid arthritis ง. มะเร็ง จ. SLE 2. ผูปวยหญิงอายุ 30 ป เปนโรค SLE แพทยใหยา Ibuprofen 600 mg qid และ Prednisolone 20 mg tid 3 สัปดาห ปจจุบันอาการดีขึ้นมาก แพทยไดให Prednisolone 60 mg/d ควรจะใหยาอยางไร ก. ใหยาขนาด 24 ชม. ทุกวัน วันละครั้ง ข. ใหยาขนาด 24 ชม. แบงให 2 ครั้ง ทุกวัน ค. ใหยาขนาด 24 ชม. วันเวนวัน วันละครั้ง ง. ใหยาขนาด 48 ชม. วันเวนวัน วันละครั้ง จ. ใหยาขนาด 48 ชม. วันเวนวัน แบงให 2 ครั้ง 3. การให Prednisolone ใหผูปวย SLE เพื่ออะไร ก. ลดปฏิกิริยา antibody immune complex ข. ลดการทําลายของ LE cell ค. ยับยั้งการจับ antigen กับ…………(ในตนฉบับเปนแบบนี้อะ) ง. ลดการสราง………..(ตนฉบับเวนไวแบบนี้อีกแลว) จ. ยับยั้ง Histamine กับ Bradykynin 4. ตัวอยางสารจําพวก Immunoglobulin ก. basophil ข. erythrocyte ค. macrophage ง. leukocyte จ. plasma cell 5. ขอใดเปนโครงสรางของ Dexamethasone (choice จะมีโครงสรางมาใหเลือก ก็เลือกตัวที่มันมีโครงสราง steroid มันจะ มีตัวเดียวใน choice) 6. ยากดภูมิคุมกัน (immunosuppressive) สามารถนํามาใชประโยชนในดานใด ก. AIDs ข. COPD ค. TB ง. Leprosy จ. Organ tissue transplantation
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
458
MCQ
7. Cyclosporin ยากดภูมิคุมกันในขอใดถูกตอง ก. ออกฤทธิ์กดการทํางานของ B-cell อยางเฉพาะเจาะจง ข. คาของ pharmacokinetic profile สม่ําเสมอในผูปวยทุกราย ค. มีฤทธิ์ตอตับและไตนอย ง. ประสิทธิภาพสูงในการปลูกถายอวัยวะ 8. ขอใดเปนผลขางเคียงของ corticosteroid ยกเวน ก. suppression of pituitary-adrenaline ข. increase susceptibility to infection ค. peptic ulceration ง. muscle hypertrophy จ. physiological disturbances 9. หญิงไทย อายุ 35 ป ออนเพลีย ไขสูง 40 องศาเซลเซียส มีน้ํามูก Broteinsia Bt (ตรงนี้อานตนฉบับไมคอยออก มัน จางมาก เลยเดาเอา) แพทยวินิจฉัยเปน SLE ขอใดไมใชสาเหตุที่ทําใหเกิดโรค ก. มีน้ํามูก ข. ปวดขอ ค. มีไข ง. น้ําหนักลด จ. ผีเสื้อที่หนา 10. ถาตองการใชยารักษาโรคในกรณีเฉียบพลัน ใชยา? ก. Indomethacin ข. Ibruprofen ค. Diclofenac or Piroxicam ง. Aspirin จ. Methylprednisolone 11. สมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุมกัน ก. ยานาง ข. หญาใตใบ ค. มะขามปอม ง. เห็ดหลินจือ จ. ชา 12. ยากดภูมิคุมกัน (immunosuppression) มีประโยชนกับทุกภาวะ ยกเวน ก. การเปลี่ยนถายอวัยวะ ข. Rh hemolytic disease ในเด็กแรกเกิด ค. Rheumatoid arthritis ง. มะเร็ง จ. SLE
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
459
MCQ
13. ผูปวยหญิงอายุ 30 ป เปนโรค SLE แพทยใหยา Ibuprofen 600 mg qid และ Prednisolone 20 mg tid 3 สัปดาห ปจจุบันอาการดีขึ้นมาก แพทยไดให Prednisolone 60 mg/d ควรจะใหยาอยางไร ก. ใหยาขนาด 24 ชม. ทุกวัน วันละครั้ง ข. ใหยาขนาด 24 ชม. แบงให 2 ครั้ง ทุกวัน ค. ใหยาขนาด 24 ชม. วันเวนวัน วันละครั้ง ง. ใหยาขนาด 48 ชม. วันเวนวัน วันละครั้ง จ. ใหยาขนาด 48 ชม. วันเวนวัน แบงให 2 ครั้ง 14. การให Prednisolone ใหผูปวย SLE เพื่ออะไร ก. ลดปฏิกิริยา antibody immune complex ข. ลดการทําลายของ LE cell ค. ยับยั้งการจับ antigen กับ…………(ในตนฉบับเปนแบบนี้อะ) ง. ลดการสราง………..(ตนฉบับเวนไวแบบนี้อีกแลว) จ. ยับยั้ง Histamine กับ Bradykynin 15. ตัวอยางสารจําพวก Immunoglobulin ก. basophil ข. erythrocyte ค. macrophage ง. leukocyte จ. plasma cell 16. ขอใดเปนโครงสรางของ Dexamethasone (choice จะมีโครงสรางมาใหเลือก ก็เลือกตัวที่มันมีโครงสราง steroid มันจะ มีตัวเดียวใน choice) 17. ยากดภูมิคุมกัน (immunosuppressive) สามารถนํามาใชประโยชนในดานใด ก. AIDs ข. COPD ค. TB ง. Leprosy จ. Organ tissue transplantation 18. Cyclosporin ยากดภูมิคุมกันในขอใดถูกตอง ก. ออกฤทธิ์กดการทํางานของ B-cell อยางเฉพาะเจาะจง ข. คาของ pharmacokinetic profile สม่ําเสมอในผูปวยทุกราย ค. มีฤทธิ์ตอตับและไตนอย ง. ประสิทธิภาพสูงในการปลูกถายอวัยวะ 19. ขอใดเปนผลขางเคียงของ corticosteroid ยกเวน ก. suppression of pituitary-adrenaline ข. increase susceptibility to infection ค. peptic ulceration ง. muscle hypertrophy จ. physiological disturbances
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
460
MCQ
20. หญิงไทย อายุ 35 ป ออนเพลีย ไขสูง 40 องศาเซลเซียส มีน้ํามูก Broteinsia Bt (ตรงนี้อานตนฉบับไมคอยออก มัน จางมาก เลยเดาเอา) แพทยวินิจฉัยเปน SLE ขอใดไมใชสาเหตุที่ทําใหเกิดโรค ก. มีน้ํามูก ข. ปวดขอ ค. มีไข ง. น้ําหนักลด จ. ผีเสื้อที่หนา 21. ถาตองการใชยารักษาโรคในกรณีเฉียบพลัน ใชยา? ก. Indomethacin ข. Ibruprofen ค. Diclofenac or Piroxicam ง. Aspirin จ. Methylprednisolone 22. สมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุมกัน ก. ยานาง ข. หญาใตใบ ค. มะขามปอม ง. เห็ดหลินจือ จ. ชา กรณีศึกษา น.ส.พร วัย 25 ป มาที่รานยาเพื่อปรึกษาวากําลังแตงงาน และมีแผนที่จะตั้งครรภทันที จึงอยากทราบวา จะตองทําการฉีดวัคซีนชนิดใดบางในการเตรียมเพื่อการมิใหเกิดปญหากับบุตรในอนาคต คําถาม - หากนักศึกษาเปนเภสัชกรผูรับคําปรึกษา นักศึกษาจะซักถามขอมูลใดเพิ่มบาง - ถาตองการทราบแผนการฉีดวัคซีนสําหรับบุตรที่จะเกิดมาดวย นักศึกษาทราบหรือไมวา immunization schedule สําหรับเด็กไทยเปนอยางไร - วัคซีน DTPP คืออะไร นักศึกษาสามารถอธิบายถึงประเภทของวัคซีนแตละชนิดไดหรือไม อยางไร - ในปจจุบันมีการพัฒนาวัคซีนชนิดตางๆ โดยวิธีทาง biotechnology จงอธิบายแนวคิดหรือหลักการในการผลิต วัคซีนเหลานี้
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
461
MCQ เรื่อง Obstretic and Gynecology กรณีศึกษาที่ 1 : นางลี อายุ 50 ป นําใบสั่งยามาซื้อยาที่รานยาเภสัชกรชุมชน ดังนี้ 1. Conjugated estrogen 0.0625 mg 1 tab OD 21 days #84 2. Medroxyprogesterone accetate (MPA) 1 tab OD 12-21 #40 นางลีเลาวาประจําเดือนขาดหายไปหลายเดือน (ประมาณ 4 เดือน) มาพบแพทยเพราะมีอาการวูบวาบ เหงื่ออกมาก ชอง คลอดอักเสบบอยๆ และปสสาวะเล็ดเวลาไอ จาม กลั้นปสสาวะไมคอยอยู ปาทยสั่งตรวจความหนาแนนของกระดูก พบวามี่ คาอยูในเกณฑปกติ 1. นางลีบอกวาเพื่งเคยไดรบั ยาฮอรโมนเปนครั้งแรก ขอใหเภสัชกรชวยอธิบายวิธีใชโดยละเอียด ขอใดเปน คําอธิบายที่ไมถูกตอง ก. รับประทานยาชนิดที่ 1 ครั้งละ 1 เม็ดวันละ 1 ครั้งกอนนอน เปนเวลา 21 วัน ในวันที่ 12 ถึง 21 ให รับประทานยาชนิดที่ 2 ควบกันไปดวย ครั้งละ 1 เม็ด แลวหยุดยาทั้งสองเปนเวลา 7 วัน คอยเริ่ม ทานแบบเดิมตอไปอีก ข. ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกนหรือใกลเคียงกันทุกวัน ค. ถามีอาการคลื่นไส อาเจียน เลือดออกกระปริดกระปรอย ใหหยุดใชยาทันทีแลวไปพบแพทย ง. แมความหนาแนนกระดูกปกติ ก็ควรรับประทานแคลเซียมเสริมเปนประจํา และออกําลังกาย สม่ําเสมอ จ. ชวงนี้ที่หยุดยาฮอรโมนจะมีเลือดประจําเดือน จะเปนอยูระยะหนึ่งแลวคอยๆนอยลง จนหายไป 2. ขอใดตอไปนี้ไมถูกตอง ก. Conjugated estrogen คือ esters ของเอสโตรเจนธรรมชาติหลายๆชนิดรวมกัน ข. ฮอรโมนที่ใชรักษาอาการของการหมดประจําเดือน คือ conjugated estrogen สวน MPA ใหเพือ ปองกันฤทธิ์ของเอสโตรเจนที่ทําใหเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น ค. Estrogen มีกลไกการออกฤทธิ์โดยจับกับ estrogen receptor ภายในเซลล มีผลตอการแสดงออก ของยีน ง. Progesterone มีกลไกการออกฤทธิ์คลายกับ estrogen โดยจับที่ตัวรับและยีนเดียวกัน จ. Ethinyl estrogen เปนเอสโตรเจนสังเคราะหื มีควราแรงมากกวาเอสโตรเจนธรรมชาติ จึงนิยมใชใน ยาคุมกําเนิดมากกวาใชเปนฮอรโมนทดแทน 3. นางลีรับประทานยาได 1 สัปดาห กลับมาที่รายขายยาและบอกวามีอาการคลื่นใส อาเจียน เปนตะคริวที่ขา บอยๆ อยากจะขอเปลี่ยนยา ไมอยากไปพบแพทยเพราะไมมีเวลา ทานจะทําอยางไร ก. แนะนําใหหยุดยาทันทีแลวไปพบแพทย ข. อธายวาอาการคลื่นไส อาเจียนจะเปนอยุระยะหนึ่ง(2-3 เดือน) หลังจากนั้นจะดีขึ้น พาไมดีขึ้นใหไป พบแพทย ค. ลดขนาดของ conjugated estrogen เปนขนาดเมดละ 0.03 มิลลิกรัม ง. ลดขนาดของ MPA เปนขนาดเม็ดละ 2.5 มิลลิกรัม
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
462
MCQ
4. ถานางลีเปนเลาหวาน รูปแบบของ estrogen แบบใดจะมีผลกระทบตอภาวะของโรคเลาหวานนอยที่สุด ก. ยาเม็ด ข. ยาฉีด ค. แผนปะผิวหนัง ง. ครีมสอดชองคลอด จ. แบบฝง 5. นางไมอยากใหกลับมามีประจําเดือนใหมอีกทุกเดือน วิธีการบริหารยาแบบใดที่จําทําใหไมมีประจําเดือนมา ทุกเดือน ก. รับประทานยาทั้งสองชนิดทุกวัน ไมตอ งหยุดยา 7 วัน৺ ข. เวนชวงไมตองรับประทาน MPA 2-3 เดือนแลวกลับมารับประทานเหมือนเดิม 1 เดือน แลวเวนชวง ตอไปเรื่อยๆ ค. ไมตองทาน MPA เพราะเปนสาเหตุใหมีเลือดประจําเดือนเมื่อหยุดยา ง. เปลี่ยนมาใชแบบแผนปะ ปะผิวหนัง 3 สัปดาห เวนไมปะ 1 สัปดาห และรับประทาน MPA ควบไป ดวยในชวงสักาหที่ 2 และ 3 ที่ปะแผนยา จ. บอกนางีวา ไมวาจะใชวิธีใดก็ตองมีเลือดประจําเดือนมาทุกเดือน ไมมีวิธีแก ไข 6. นางลีขอใหเภสัชกรชวยจัดยาเมดแคลเซียมให ขอมูลใดไมถูกตองเกี่ยวกับ แคลเซียม ก. ขนาดแคลเซียมสําหรับสตรีหมดประจําเดือนคือ 1000-1500 มิลลิกรัม/วัน ข. ควรรับประทานแคลเซียมหลังอาหารเพราะชวยใหดูดซึมดีขึ้น ค. พิจารณาชนิดเกลือของแคลเซียม เพราะเกลือตางๆชนิดกัน จะใหปริมาณแคลเซียมตางกัน ง. ควรใหวิตามินดี รวมดวยเสมอเพื่อชวยใหการดูกซึมดีขึ้น৺ จ. ปกติเราจะไดรับแคลเซียมบางสวนจากอาหาร ควรรับประทานอาหารใหครบ และออกกําลังกาย สม่ําเสมอ กรณีศึกษา ที่ 2 1.ขอใดไมใชขอหามของการใชยาคุมกําเนิด ก. มะเร็งปากมดลูก ข. ไมเกรน ค. โรคหลอดเลือดหัวใจ ง. เลือดออกจากชองคลอดโดยไมทราบสาเหตุ 2.ขอใดไมมีผลตอประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกําเนิดชนิด 21 เม็ด ตอบ การกินยายอนศร 3.การใช Hormone replacement therapy หรือ Estrogen replacement therapy ควรระวังในผูปวยประเภทใด ก. คนที่เสี่ยงตอกระดูกพรุน ข. คนที่ตัดรังไขทั้งสองขาง ค. คนที่มีอาการชองคลอดอักเสบ ง. คนที่เปน Hyperthyroid จ. คนที่เปนโรคไขมัน ความดันโลหิตสูง 4.สมุนไพรขอใดมี Phytoestrogen ก. ถั่วเหลือง กวาวเครือแดง ข. กวาวเครือขาว กวาวเครือแดง ค. กวาวเครือขาว ถั่วเหลือง ง. กวาวเครือขาว กวาวเครือแดง ถั่วเหลือง 5.พืชที่มีผลคุมกําเนิดไดแกขอใด ก. ขึ้นฉาย ข.บัวหลวง ค. กระเทียม ง. ขี้เหล็ก
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
463
MCQ
6.ผูปวยหญิงอายุ 23 ป รูปรางอวนทวม หนามัน ขนดกตามแขนขาและใบหนา มาขอซื้อยาเลื่อนประจําเดือนเภสัชจาย Primolute-N ก. Ethinylestradiol 20 ug+ desogestrel ข. Ethinylestradiol 20 ug+ gestodene ค. Ethinylestradiol 50 ug+ ง. Ethinylestradiol 35 ug+ cyproterone acetate 2 mg 7.ขอใดไมใชประโยชนของการนําพลาสติกมาใชบรรจุยาคุมกําเนิด ก. ยอมใหความชื้นและอากาศผาน ข. น้ําหนักเบา ค. ขึ้นรูปได ง. ยืดหยุนดี จ. ทนตอเชื้อจุลินทรีย 8.กินยาคุมที่มี EE 0.035 m+Levonorgertrel แลวอวนมีสวิ จะแกไขอยางไร (เปลี่ยนเปน Dian) กรณีศึกษาที่ 3 1. gonadrotropin releasing hormone ( GnRH ) ขอใดตอไปนี้ผิด ก. รักษามะเร็งตอมลูกหมาก ข.ใชในการชักนําการตกไข ค. รักษา endometriosis ง.ทําใหเกิด hot flush ฉ. ใชไดในสตรีมีครรภ 2. Antiestrogen ที่กระตุนการตกไขในผูหญิงที่มีบุตรยาก ก. oxandrolone ข.clomiphene citrate ค. tibulone ง.tamoxifen จ. progesterone 3. ยาเม็ดคุมกําเนิดใชในการบําบัดรักษาภาวะตางๆยกเวน ก. เลื่อนประจําเดือน ข.เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ ค. ภาวะปวดประจําเดือน ง.ภาวะประจําเดือนผิดปกติ จ. ลดอาการคัดเตานมหลังคลอดบุตร 4. ยาที่มีผลกระตุนการหลั่ง prolactin ยกเวน ก. reserpine ข.domperidone ค. phenothiazine ง.levodopa จ. butylrophenaine 5. อาการขางเคียงขอใดเกิดจากการมี estrogen มากเกินไป ก. เปนฝา ข.เปนสิว ค. noncyclic weight gain ง.hypomenorrhea จ. เตานมเล็กลง 6. ขอใดไมใช clinical use ของ progesterone ก. contraceptive ข.endometriosis ค. dysfunction uterine bleeding ง.การเลื่อนกําหนดการมีประจําเดือน จ. มะเร็งเตานม 7. วิธีคุมกําเนิดชนิดใดมีประสิทธิภาพในการคุมกําเนิดไดดีที่สุด ก. ยาเม็ดคุมกําเนิด ข.ถุงยางอนามัย ค. ใสหวงอนามัย ง.การนับระยะปลอดภัย จ. ใชยาฆาอสุจิ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
464
MCQ
กรณีศึกษาที่ 4 1. ขอใดผิด 1. estrogen & progesterone ทําใหมดลูกไมเหมาะสมกับการฝงตัว 2. estrogen ทําใหมูกปากมดลูกขน อสุจิผานยาก 2. ไดยาคุมไปแลวสิวขึ้น เจ็บหนาอก กลับมาใหม จายอะไรดี ผูปวยไมมีโรค แตมีประวัติคนในครอบครัวเปนมะเร็งเตานม 1. ใหคนในครอบครัวไปคุมกําเนิดดวยวิธีอื่น 2. EE 35 mcg + cyproterone acetate 2 mg 3. progestin ตัวไหนใชรักษาสิว : cyproterone acetate กับ drospirenone 4. progestin ที่เปนอนุพันธของ spironolactone : drospirenone 5. phytroestrogen มีในไหน 1. กาวเครือแดง+ถั่วเหลือง 2. กาวเครือแดง+กราวเครือขาว+ถั่วเหลือง 3. กาวครือแดง+แครอท 4. กาวเครือขาว+ถั่วเหลือง 6. ยาคุมเปนยาประเภทใด : ยาอันตราย จายโดย ภก. 7. สตรีมีครรภควรระมัดระวังในการรับประทานยาที่มีพืชใดเปนสวนประกอบ 1. กลวย 2. ขมิ้นออย 3. ชะเอม 4. มะขาม 5. ลูกทับทิม 8. สามารถนําสารจากพืชใดเพื่อนําไปใชสังเคราะหสเตียรอยดฮอรโมน 1. มันสําปะหลัง 2. ยูคาลิปตัส 3. ปอกระเจา 4. ปานซิซาล 5. วานหางจระเข 9. levonorgestrel สามารถใชในการคุมกําเนิดในผูปวยกลุมใด 1. สตรีมีครรภ 2. ผูปวย ischemic heart disease 3. ผูปวย hypertension 4. ผูปวยมีประวัติ breast cancer 5. ผูปวยโรคหอบหืด 10. ขอใดตอไปนี้เกี่ยวกับ levonorgestrel ผิด 1. มีกลไกการออกฤทธิ์ คือ ยับยั้งการตกไข 2. ประสิทธิภาพในการปองกันการตั้งครรภจะสูงสุด ถากินหลังการรวมเพศทันที 3. ประสิทธิภาพในการปองกันการตั้งครรภจะเทียบเทากับการใชยาเม็ดคุมกําเนิดทั่วๆไป 4. มี side effect คือ ปวดศีรษะ คลื่นไส อาจียน 5. ประสิทธิภาพในการปองกันการตั้งครรภจะลดลง ถาใชยารวมกับ barbiturate ที่เปน hepatic drug metabolizeing enzyme inducer 11. หากมีผลการวิจัยยาใหมของบริษัทแหงหนึ่งเกี่ยวกับการเปรียบเทียบความเสี่ยงในการเกิดอาการขางเคียงจากการใชยา ใหมเทียบกับยา levonorgestrel พบว odd ratio = 1.25, p= 0.07 ทานจะแปลความหมายของผลการวิจัยนี้อยางไร 1. ยาใหมและยา levonorgestrel มีความเสี่ยงในการเกิดอาการขางเคียงไมแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ 2. ยาใหมและยา levonogestrel มีความเสี่ยงในการเกิดอาการขางเคียงแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ 3. ยาใหมมีความเสี่ยงในการเกิดอาการขางเคียงมากกวามากกวายา levonorgestrel 1.25 เทา 4. ยา levonorgestrel มีความเสี่ยงในการเกิดอาการขางเคียงมากกวายาใหม 1.25 เทา 5. ยาใหมและยา levonorgestrel มีความเสี่ยงในการเกิดอาการขางเคียงแตกตางกันอยางไมมีนัยสําคัญทางสถิติ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
465
MCQ
12. หญิงไทยอายุ 25 ป มาขอซื้อยาคุมกําเนิดฉุกเฉิน (postacoital pills) จากรานยาแหงหนึ่ง เมื่อเภสัชกรซักประวัติ เพิ่มเติมพบวา สามีประกอบอาชีพเปนพนักงานขาย ซึ่งในแตละเดือนจะมีเวลาอยูกับครอบครัวเพียงสองสัปดาห วิธีการใช ยาคุมฉุกเฉิน (levonorgestrel) ขอใดถูก 1. รับประทานครั้งละ 2 เม็ด ภายใน 12 ชั่วโมง หลังจากนั้นอีก 12 ชั่วโมง รับประทานอีก 2 เม็ด 2. รับประทาน 1 เม็ด ภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากนั้นอีก 12 ชั่วโมง รับประทานอีก 1 เม็ด 3. รับประทาน 2 เม็ด ภายใน 72 ชั่วโมง ครั้งเดียว 4. รับประทาน 2 เม็ด ภายใน 1 ชั่วโมง 5. รับประทานหนึ่งเม็ดติดตอกันนาน 5 วัน 13. เภสัชกรแนะนําใหผูปวยรับประทานยาคุมชนิด combine pill ควรเลือกยาคุมในขอใด ในกรณีที่เริ่มใชเปนครั้งแรก 1. Ethinyl estradiol 0.05 mg+ethinodiol diacetate 1 ทเ 2. Mestranol 0.05 mg+northisterone 1 mg 3. Ethinyl estradiol 0.03 mg + levonorgestrel 0.15 mg 4. Ethinyl estradiol 0.03 mg + gestrodene 0.075 mg 5. Ethinyl estradiol 0.02 mg + Desogestrel 0.15 mg 14. คําแนะนําในการใชยาคุมกําเนิดขอใดผิด 1. 15 วันแรกที่รับประทานยาคุมกําเนิด ควรคุมกําเนิดโดยการใชถุงยางอนามัยดวย 2. 2-3 แผงแรกของการรับประทานยาคุม อาจมีอาการคลื่นไสอาเจียน จากนั้นอาการจะทุเลาลงเอง 3. ควรรับประทานยาคุมกําเนิดทุกวัน วันละ 1 เม็ด เวลาใดก็ได แตหามลืม 4. การรับประทานยาคุมกําเนิด ควรเริ่มรับประทานในวันที่ 1-5 ของการมีประจําเดือน 5. หากลืมรับประทานยาคุมกําเนิดติดตอกันเกิน 2 เม็ด ควรหยุดยาใชคุมกําเนิดแผงนั้นและใขวิธีการคุมกําเนิด แบบอื่น 15. ภาชนะยาคุมกําเนิด ดังแสดงในรูปเรียกวา 1. strip pack 2. sachet 3. blister pack 4. laminate 5. film-coated pack 10. นอกเหนือจากการใหยาเม็ดยาคุมกําเนิดแลว ยังสามารถใหยาในรูปแบบฝง (implant) ได สารกลุมใดเหมาะที่จะนํามา เตรียมยาคุมกําเนิดชนิดฝง 1. cross-linked polymer 2. hydophillic polymer 3. natural gum 4. gelatin 5. biodegradable polymer กรณีศึกษาที่ 5 หญิงไทยคู อายุ 47 ป เขามาตรวจรางกายที่คลินิกวัยทอง เนื่องจากหมดประจําเดือนมา 2 เดือน แพทยจึงสั่งจายยา 2 ชนิด ไดแก Conjugated estrogen 0.625 mg # 30 Medroxy Progesterone Acetate (MPA) 5 mg # 14
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
466
MCQ
5.1 อาการใดที่พบในสตรีวัยหมดประจําเดือน ซึ่งเปนสาเหตุใหมาพบแพทยบอยที่สุด ก. Cardiovascular disease ข. Osteoporosis ค. Psycosexual symptom ง. Urogenital symptom จ. Vasomotor symptom 5.2 วงจรปกติของการเกิดประจําเดือน (Menstrual cycle) เกิดจากบทบาทการเปลี่ยนแปลงปริมาณของฮอรโมนหลาย ชนิดตอไปนี้ ยกเวน ก. Androgen ข. Estrogen ค. Follicle Stimulating Hormine (FSH) ง. Lutenizing Hormone (LH) จ. Progesterone 5.3 ขอใดตอไปนี้ ถูกตอง ก. การใช MPA รวมดวยเพื่อปองกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ข. การใช MPA รวมดวยเพื่อรักษาอาการรอนวูบวาบ ค. การใช MPA รวมดวยเพื่อปองกันมะเร็งเตานม ง. นิยมใช estrogen รวมกับ MPA กับหญิงที่ตัดมดลูกแลว จ. ในหญิงที่มีมดลูกนิยมใหเอสโตรเจนเพียงอยางเดียว 5.4 ขอใดผิดเกี่ยวกับการใช Tibolone เปนฮอรโมนทดแทน ก. ชวยเพิ่มมวลกระดูกและความรูสึกทางเพศ ข. หามใชยาในผูปว ยที่เปนเนื้องอกหรือครอบครัวมีประวัติเปนมะเร็งเตานมและเยื่อบุโพรงมดลูก ค. ใชรวมกับ Progesterone เสมอเพื่อปองกันมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ง. อาจทําใหเกิดอาการคลื่นไส อาเจียน ปวดศีรษะ ผื่นคัน หรือบวม จ. สามารถปองกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจได 5.5 ควรแนะนําอาหารประเภทใดใหผูปวยรายนี้ ก. นม, เตาหู, ปลาไสตัน ข. น้ํามันตับปลา, มะมวงสุก, กุงแหง ค. มะละกอสุก, หนอไม, ไข ง. ปูอัด, เนื้อไมติดมัน, สลัด จ. น้ํามะพราว, มะเขือเทศ, ปลาทู 5.6 เภสัชกรตองการผลิตยา MPA ใหอยูในรูปแบบยาฉีด จะตองเตรียมหองเพื่อใชในการผลิตอยางไร ก. หองที่ใชเตรียมตองมีสภาวะปราศจากเชื้อใน Class 100 ข. หองที่ใชเตรียมตองมีสภาวะปราศจากเชื้อใน Class 10000 ค. หองที่ใชเตรียมตองมีสภาวะความดันเปนลบ ง. หองที่ใชเตรียมตองมีสภาวะความดันเปนบวก จ. หองที่ใชเตรียมตองมีสภาวะเหมือนกับการเตรียมยาปราศจากเชื้อทั่วไป
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
467
MCQ
5.7 หากเภสัชกรตองตอกยาเม็ดชนิดหนึ่งที่มีคา compressibility ratio 30 และคา angle of repose 50 เภสัชกรตอง วางแผนในการเลือกวิธีการผลิตอยางไร ก. เตรียมโดยวิธี direct compression โดยการเติม starch ข. เตรียมโดยวิธี direct compression โดยการเติม avicel ค. เตรียมโดยวิธี wet granulation โดยการเติม magnesium stearate ง. เตรียมโดยวิธี wet granulation โดยการเติม strach จ. เตรียมโดยวิธี wet granulation โดยการเติม explotab 5.8 ตอมามีการใช Estrogen patch เพื่อใหผูปวยปะติดไวที่ผิวหนัง Estrogen ที่อยูที่ patch จะคอย ๆ ซึมผานผิวหนัง เขาสูกระแสเลือด ทําใหระดบของ Estrogen ในรางกายคอนขางสม่ําเสมอ ถาทานเปนผูที่พัฒนาตํารับยานี้ ปจจัย ขอใดที่มีผลนอยที่สุดในการซึมผานของยานี้เขาสูรางกาย ก. Partition coefficient ของตัวยา ข. Enhancer ที่ใชในตํารับ ค. Crystallility ของผงยา ง. Polymer ที่ใชในการควบคุมการปลดปลอย จ. สารที่ใชทํา adhesive layer 5.9 พืชที่มีฤทธิ์เปน phytoestrogen ไดแกพืชในขอใด ฉ. กระเทียม ช. ขมิ้นชัน ซ. ถั่วเหลือง ฌ. ชุมเห็ดเทศ ญ. ตําลึง Case: หญิงไทยอายุ 24 ป กําลังจะแตงงานในอีก 2 เดือนขางหนา 1. อยากทราบวิธีการคุมกําเนิดแบบชั่วคราว วามีวิธีใดบาง 2. ถาสตรีรายนี้รูสึกกังวลเกี่ยวกับการใชยาคุมกําเนิด มีอะไรบาง และเธออยูในขายที่มีขอหามใชหรือไม ถาเธอ ไมสูบบุหรี่ ไมดื่มเหลา ไมเปนความดันสูง ไมเปนเบาหวาน ไมเปนไมเกรน แตเปนเสนเลือดขอดและมารดา เคยเปนมะเร็งเตานมแตตอนนี้รักษาหายแลว เพราะเพื่อนเคยบอกวาคนเปนเสนเลือดขอดหามใชยาคุม 3. estrogen ที่ใชใน oral contraceptive มีโครงสรางแบบใด และ progestin ชนิดใดที่มีผลต่ํา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
468
MCQ
MCQ เรื่อง oncology Case Scenario ผูปวยสตรีอายุ 45 ป เคยไดรับการวินิจฉัยวาเปนโรคมะเร็งในเตานมระยะที่ 2 (T2,N1,M0) ผูปวยไดรับการผาตัดเตานม ดานขวาและรักษาดวยยาเคมีบําบัดสูตรผสมที่ประกอบดวย Cyclophosphamide และ Doxorubicin เปนเวลา 4 เดือน ในขณะนี้ผูปวยไดรับการรายงานจากผลการรักษาวาไมพบเซลลมะเร็งหลงเหลืออยูเลย 1. ขอใดตอไปนี้ตองมีการตรวจสอบทุกครั้ง กอนที่จะใหผูปวยรับยาเคมีบําบัด ก. คา Serum Creatinine ข. คา CBC (Complete Blood Count) ค. คา Ejection fraction ของหัวใจ ง. คา Electrolyte จ. ผลวิเคราะหทางจุลชีววิทยา (Blood Cultures) 2. ภายหลังจากการรักษา ผูปวยไดรับยาบํารุง และVitamin จากเภสัชกร และรายงานวามักมีอาการหอบเหนื่อยและ ตองนอนหมอนสูงภายหลังจากการรักษา ทานสันนิษฐานวาอาการเหลานี้นาจะเกิดจาก ก. การผาตัดแบบ Modified Redical Mastectomy เพื่อกําจัดมะเร็ง ข. อาการขางเคียงของ Cyclophosphamide ค. อาการขางเคียงของ Cyclophosphamide และ Doxorubicin ง. อาการขางเคียงของ Doxorubicin จ. อาการแทรกซอนจากการผาตัด รวมกับการใหยาเคมีบําบัด 3. ในระหวางที่ผูปวยไดรับยาเคมีบําบัดอยูนั้น เภสัชกรควรใหคําแนะนําเกี่ยวกับอาการไมพึงประสงคและให มาตรการปองกันอาการเหลานั้น ขอใดตอไปนี้เปนอาการเฉียบพลันที่อาจเกิดกับผูปวยภายหลังที่ไดรับยาเคมี บําบัด ก. การกดการทํางานของไขกระดูก ข. เยื่อบุทางเดินอาหารอักเสบ ค. คลื่นไสอาเจียน ง. ผมรวง จ. ชาตามปลายประสาท 4. หลังจากที่ผูปวยอยูในระยะปราศจากโรคมา 2 ป ผูปวยกลับมาพบแพทยดวยอาการกอนเนื้อของเตานมดานซาย อาการเหลานี้อาจเกิดชาลงถาผูปวยไดรับยากลุมใดภายหลังจากการผาตัดครั้งแรก ก. Estrogen receptor Antagonist เชน tamoxifen ข. Methotrexate แบบรับประทานเพื่อควบคุมโรค ค. การฉายรังสีบริเวณที่ไดรับการผาตัด ง. การรับประทานยาคมกําเนิดขนาดสูง จ. การเพิ่มการใหยาเคมีบําบัดจาก 4 เดือน เปน 6 เดือน 5. แพทยวินิจฉัยวาผูปวยเกิดการกลับซ้ําของโรคและมีเซลลมะเร็งแพรกระจายไปยังตับ และจะเริ่มใหยาเคมีบําบัดที่ ประกอบดวย paclitaxel เดี่ยวๆโดยมีวัตถุประสงคเพื่อ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
469
MCQ
ก. รักษาใหหายขาด ข. ยืดอายุผูปวย ค. รักษาผูปวยแบบประคับประคอง ง. เพื่อลดการกลับเปนซ้ําของโรค จ. ทําใหผูปวยมีระยะปลอดโรคที่นานขึ้น 6. อาการที่เกิดจากมะเร็งสามารถบรรเทาไดดวยยาที่ผลิตจากแหลงกําเนิดทางพฤกษศาสตรชนิดใด ก. Atropa peiladonna ข. Strychnos nux-vomica ค. Papaver somniferum ง. Digitaris lanata จ. Artemesia annua Case 1.นางสายใจอายุ 64ป มาหาเภสัชกรรานยา โดยการคลําพบกอนเนื้อขนาดเทาเมล็ดถั่วแดงที่เตานม เภสัชกร ควร ซักถามอะไรเพิ่มเติม เพื่อชวยในการวินิจฉัยของแพทย ก. มีประวัติครอบครัวเปนมะเร็งเตานมหรือไม ข. สูบบุหรี่ ดื่มเหลาหรือไม ค. ใชยาคุมกําเนิดหรือไม ง. ขนาดกอนไดโตขึ้นมากหรือไม 2. การตรวจรางกายเบื้องตนของมะเร็งเตานมตองตรวจอะไร ก. Fecal blood occult test ข. CT scan ค. Mammography ง. Pap smear จ. Tumor biopsy 3. เมื่อผูปวยทราบแลววาเปนมะเร็งจึงไปหาหมอ ซึ่งไดรมีการจายยา Cyclophosphamide, Pactiaxel, Tamoxifen อยากทราบวายา Tamoxifen เปนยาในกลุมใด ก. Alkalating agent ข. Antiestrogen ค. Antitumor antibiotic ง. Antimetabolite จ. Plant alkaloid 4. ขอใดไมควรปฏิบัติในการเตรียมยาในขอ 3 ก. Aseptic ข. Sterility ค. Bacterial endotoxin ง. Isotonic จ. Neutral solution
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
470
MCQ
สถานการณ ชายไทย อายุ 50 ป แพทยวินิจฉัยวาเปนมะเร็ง และตองเขารับการรักษาทันทีที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทยทําการรักษาดวยการ ฉายรังสีและให Chemotherapy ทันที โดยมีแผนการรักษาดังนี้คือ Fluorouracil จากนั้นจะไดรบั การฉายรังสี (200 rads/day for three cycles) ทุก 2 สัปดาห โดยขณะไดรับการการรักษาผูปวยมีอาการคลื่นไสอาเจียนอยางมาก 1. ขอใดไมใชลักษณะสําคัญสําคัญของ cell มะเร็ง a) Apoptosis b) Dedifferentiation c) Invasiveness d) Metastasis e) Uncontrolled Proliferation 2. Fluorouracil จัดเปนยารักษามะเร็งในกลุมใด a) กลุม alkylating agent ประเภท nitrogen mustard b) กลุม alkylating agent ประเภท triazene c) กลุม antimetabolite ประเภท purine analogs d) กลุม antimetabolite ประเภท pyrimidine analogs e) กลุม antimetabolite ประเภท folic acid analogs 3. เมื่อพิจารณาจากโครงสรางเคมี ยาใดตอไปนี้มีการออกฤทธิ์เชนเดียวกับ Fluorouracil (5-FU) ยาใดตอไปนี้มีการ ออกฤทธิ์เชนเดียวกับ 5-FU a) 1 b) 2 c) 3 d) 4 e) 5 (ไมมีโครงสรางมาเดอคับ......................) 4. หากในระหวางใหยา Chemotherapy พบวาผูปวยมีอาการอาเจียนอยางมาก ทานคิดวากอนการใหยา Chemotherapy ในครั้งตอไปนี้ ยาใดที่นิยมใชปองกันการอาเจียนกอนทํา Chemotherapy a) Dimenhydrinate b) Diphenhydramine c) Domperidone d) Metoclopramide e) Ondansetron 5. หากผูปวยมีอาการปวดจากมะเร็งระดับ mild to moderate ควรเลือกใชยาใดเปนอันดับแรกในการบรรเทาอาการ ปวด a) Amphatamine b) Aspirin c) Ketamine d) Morphine e) Petidine
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
471
MCQ
6. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับการเตรียมยามะเร็งบนหอผูปวย a) หองเตรียมยาควรเปนหองเฉพาะและปดสนิท โดยความดันภายในหองควรเปนบวก b) สามารถเตรียมโดยใช horizontal laminar air flow ได c) ผูเตรียมสามารถใชเพียงใหผูปวยบนหอผูปวยไดหลายคนในครั้งเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อลด Contract time ของผูเตรียม d) อุปกรณที่ใชเตรียม เชน สามารถนํากลับมาใชซ้ําไดอีก 7. สารสกัดจากธรรมชาติในขอใดที่นํามาใชเปนยาตานมะเร็ง a) Artesunate b) Garcenia c) Ginkgo d) Rutin e) Vincristine ขอมูล ตํารับ Fluorouracil Injection: USP 25 ใชตอบคําถามขอ 8-10 • pH 6.8-9.4 • Packaging and Storage: preserve in single-dose container, preferable of type I glass,at controlled room temperature. Avoid freezing and exposure to light. • Labeling: Label into indicate the expiration date, witch is not more than 24 month after date of manufacture. • Bacterial endotoxins: it contents not more than 0.33 USP Endotoxin unit per mg of flurouracil. • Compatibility: D5w, NSS 8. จากขอมูลเบื้องตน หากทานเตรียมตํารับยาฉีด Fluorouracil injection(single dose) ขนาด 50 mg/ml, 10 ml ใน วันขึ้นปใหม 2548 ขอใดผิด a) บรรจุ Fluorouracil Injection ในขวดแอมพูลสีชา b) ฉลากของตํารับ Fluorouracil injection สามารถเขียนวา “Exp.01/01/06” c) หากบรรจุใน vial ได และตองเติม preservative ในตํารับเพื่อใหสามารถใชมากกวา 1 ครั้ง d) หาก pH ของตํารับ Fluorouracil injection ที่เตรียมไดคือ 5.7 ควรปรับ pH ดวย NaOH e) ตํารับ Fluorouracil injection สามารถเตรียมแบบ IV/Admixture ได 9. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับภาชนะบรรจุของตํารับ Fluorouracil injection a) ภาชนะบรรจุตามขอกําหนดของเภสัชตํารับ ไมสามารถทําใหปราศจากเชื้อโดยใชความรอนชื้น b) หากตัว Primary Packaging มีลักษณะใส ควรเก็บผลิตภัณฑสําเร็จรูปในกลองทึบแสง c) ภาชนะที่เภสัชตํารับกําหนดคือภาชนะบรรจุชนิดที่ผานกรรมวิธีที่ผิวเพื่อกําจัดดางแลว d) หากเลือกบรรจุในแอมพูล ไมจําเปนตองทําการทดสอบ Leaker test e) หากเลือกบรรจุใน vial ไมจําเปนตองทําการทดสอบ sterility test 10. การเตรียมตํารับ Fluorouracil Injection ขนาด 50 mg/ml(single dose) 10 ml เกี่ยวกับคา limited ของคา Bacterial endotoxins ขอใดถูกตอง a) ทดสอบ Bacterial endotoxins ใน 1 ภาชนะบรรจุได 160 USP Endotoxin unit แสดงวาตํารับนี้ตก มาตรฐานตามเภสัชตํารับ
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
472
b) ทดสอบ Bacterial endotoxins ใน 1 ภาชนะบรรจุได 160 USP Endotoxin unit แสดงวาตํารับนี้ผาน มาตรฐานตามเภสัชตํารับ c) ทดสอบ Bacterial endotoxins ใน 10 มิลลิลิตรได 160 USP Endotoxin unit แสดงวาตํารับนี้ตก มาตรฐานตามเภสัชตํารับ d) ทดสอบ Bacterial endotoxins ใน 1 มิลลิลิตรได 160 USP Endotoxin unit แสดงวาตํารับนี้ผาน มาตรฐานตามเภสัชตํารับ e) ขอมูลไมเพียงพอ โรคมะเร็ง 1. ใหโครงสราง cisplatin
ก. เปนสารประกอบเชิงซอน ชนิด corordinate ของ platinum 2 ใชเปน anticancer durg ข. ใชไดผลดีทั้ง oral และ Parenteral ค. Cis isomer และ trans isomer ออกฤทธิ์เทากัน ง. 1.2 ถูก จ. 1.2.3 ถูก 2. ใหโครงสราง Nitrogen mustard
ก. เปน mechlorethamine hydrochloride ซึ่งใชเปน anticancer drug ข. ใชทาง oral ไมไดผล จึงเตรียมในรูปยาฉีดในรูปเกลือ hydrochloride ละลายน้ําได และเพิ่ม stability ของ ยา ค. Chlorine atom ไมเกี่ยวกับการออกฤทธิ์แตชวยเพิ่ม lipophilicity ง. 1.2 ถูก จ. 1.2.3 ถูก 3. ขอใดเปนกลไกออกฤทธิ์ของยาตานมะเร็งที่มีโครงสรางตอไปนี้ ก. เปน alkylating agent เขาทําลาย DNA ของมะเร็ง ข. เปน Folic acid antagonist ของการสังเคราะห nucleic acid ค. เปน Purine antagonist ของการสังเคราะห nucleic acid ง. เปน pyrimidine antagonist ของการสังเคราะห nucleic acid จ. แทรกตัวเขาระหวางการ DNA (interacting to DNA) 4. ถาเปนเภสัชกรในโรงพยาบาล พบใบสั่งแพทยที่สั่งยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งควรใหคําแนะนําแกแพทยใหทราบถึง drug interaction ของยาที่อาจทําใหเพิ่มระดับยารักษามะเร็งในกระแสเลือดสูง จนทําใหเกิดพิษได
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
473
ก. tamoxifen + warfarin ข. encaptopurine + allopurinal ค. ………………………. ง. กรณีศึกษา 1. ยาใดปลอดภัยที่สุดสําหรับ teratogenicity ก. Erythromycin ข. Sulfadiazine ค. Gentamycin ง. Ciprofloxacin 2. ผูปวยที่มีอาการแพ penicillin อยางรุนแรง ควรระมัดระวังในการรักษาดวยยาอะไรตอไปนี้ ก. Cefazolin ข. Gentamicin ค. Clindamycin ง. Vancomycin จ. Cotimerazole 3. ขอใดเปนผลขางเคียงของ corticosteroid ยกเวน ก. Suppression of the pituitary ข. Increase susceptibility to infection ค. Peptic ulceration ง. Muscle hypertrophy จ. Physiological disturbances 4. ขอใดเปนผลจากการให opioid ในปริมาณสูง ก. Diarrhea, midriasis, hyperventilation ข. Hyperthermia, miosis, bradycardia ค. Convulsion, midriasis, hyperventilation ง. Coma, miosis, hyperventilation จ. Coma, miosis, respiration depression 5. เมื่อไดรับ ASA เกินขนาด จะเกิดอะไรขึ้น ก. ติดตามการรักษาอาการปวดขอวาทุเลาลง และเปนมากขึ้นหรือไม ข. ติดตามผลดูวามีอาการคลื่นไส อาเจียน ใจสั่นหรือไม ค. ติดตามผลดูอาการวามีปวดแสบทองหรือไม ง. ติดตามผลดูอาการวาวิงเวียน หูอื้อ เสียงดังในหูหรือไม จ. ติดตามผลดูอาการวาหนาแดง บวม มีหรือไม 6. aspirin มีขอหามใชในผูปวยขอใด ยกเวน ก. ในเด็กเล็กๆ ที่มีการติดเชื้อไวรัส ข. ผูปวยหอบหืด ค. ผูปวยที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ง. ผูปวยกลามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน จ. ผูปวยโรคเลือดไหลไมหยุด Hemophillia 7. โดยทั่วไปเซลลในระยะใดของวงจรชีพมีความไวในการตอบสนองตอฤทธิ์ของยาตานมะเร็งมากที่สุด ก. G0-phase ข. G1-phase ค. S-phase ง. G2-phase จ.M-phase 8. วิธีการทํา recue โดยนํา Folic acid จากภายนอกเขาสูรางกายของผูปวยนั้นเกิดขึ้นเนื่องจากใชยาตานมะเร็งใด ก. MTX ข. 5FU ค. Vinca alkaloid ง. Cisplatin จ. Cyclophosphamide 9. anticancer ขอใดถูก metabolite โดยการ deamination ก. 6-meraptopurine ข. Cyclophosphamide ค. 5-FU ง. Cytarabine
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
474
MCQ
10. เมื่อใช Cyclophosphamide เปนยาตานมะเร็งจะตองเฝาระวังการเกิดอาการขางเคียงในผูปวยขอใดที่เปนฤทธิ์เฉพาะ ของยามากเปนพิเศษ ก. N/V ข. Dermatitis ค. Hemorrhagic cystitis ง. Alopecia จ. Agranulocyosis 11. Vincristine ก. เปนยาตานมะเร็งที่สกัดจากพืช ข. ออกฤทธิ์ยับยั้งเซลลมะเร็งโดยเปน antimetabolites ค. ทําใหเกิด drug-induce hepatitis ง. ไมทําใหเกิดอาการคลื่นไสอาเจียนและผมรวง จ. ไมกดการทํางานของไขกระดูก 12. ยาตอไปนี้ทุกกลุมใชในเคมีบําบัดมะเร็ง ยกเวน ก. alkylating agents ข. Vitamin D derivative ค. Antimetabolite ง. อัลคาลอยดจากพืช จ. สารจําพวกฮอรโมน 13. วัตถุประสงคของการใช Leucovolin รวมเมื่อใช Methotrexate ขนาดสูงรักษามะเร็ง บางชนิดเพื่อ ก. ชวยเพิ่ม uptake ของ MTX เขาสูเซลลมะเร็ง ข. ชวยเรงการแปรรูปของ MTX ที่ตับ ค. ชวยเรงการขับถายของ MTX ออกทางปสสาวะ ง. ชวยลดความเปนพิษของ MTX ตอเซลลปกติ 14. ผูปวยมะเร็งปอดไดรับการรักษาดวย Cistatin 100 mg/ml IV ในวันที่ 1-5 และ Vincristine 2 mg IV ซ้ําทุก 23 วัน ทาน คิดวาผูปวยรายนี้ควรจะไดรับยาตัวใดเพิ่มเติมมากที่สุดในระหวาง 1-2 วันแรกที่ไดรับการรักษา ก. Leucovoin-vitamin B12 ข. Metoclopramide ค. Morphine-NSAIDs ง. Prednisolone จ. G-CSF 15. ทานจะเลือกใชยาแกอาเจียนตัวใดในการบรรเทาอาการคลื่นไสใหไดผลดีในผูปวยที่ไดรับการรักษาดวยเคมีบําบัด ก. Chlorpomazine ข. Domperidone ค. Haloperidol ง. …etcloamide จ. Ondanzetron 16. ชายไทย เปนมะเร็งปอดชนิด SCCT ไดรับยา cisplatinum, vinblastin, etoproside ทุกๆ 28 วัน ทานคิดวา หลังจาก ไดรับยาในระหวาง 1-2 วันแรก คนไขควรไดรบั ยาอะไร ก. vitamin B12 ข. Metoclopamine ค. G. CSF ง…………………. จ …………………. 17. ยาที่ใชทั้งรักษามะเร็งและกดภูมิคุมกัน คือ ก. Cyclophosphamide ข............................... ค....................... ง........................... จ.............................. 18. ถาเปนเภสัชกรในโรงพยาบาล พบในใบสั่งยาของแพทยที่สั่งยารักษาโรคมะเร็ง ซึ่งควรใหคําแนะนําแกแพทยใหทราบ ถึง drug interaction ของยา ที่อาจทําใหเพิ่มระดับยารักษามะเร็งในกระแสเลือดสูงจนกระทั่งทําใหเกิดเปนพิษได ก. Tamoxifen-Warfarin ข. Mercaptopurine-allopurinal ค. Cisplatinum-Cimetidine ง. Methothexate-Phenobarbital จ. Doxoubicin-Tetracyclin 19. ผูปวยที่ไดรับ Ondansetron เพื่อตานการอาเจียนจากการไดรับยาตานมะเร็ง ก. กินยานี้กอนไดรับยาตานมะเร็ง 30 นาที ข. กินยานี้ทุกๆ 4 ชม. จนกวาจะหยุดยาตานมะเร็ง ค. ยานี้เปน antiemetic potent จึงใหหลังจากไดยาตานมะเร็งนาน 72 ช.ม. ง. ถูกขอ 1,2 จ. ถูกขอ 1, 2, 3
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
475
20. โดยทั่วไปขอความที่เกี่ยวของกับการออกฤทธิ์และผลการออกฤทธิ์ของยาตานมะเร็ง ขอใดที่ไมถูกตอง ก. สวนใหญเปน antipoliferative agents ข. มีผลการออกฤทธิ์ตอเซลลมะเร็งเทากับเซลลปกติของรางกาย ค. มีฤทธิ์กดการทํางานของเยื่อบุกระเพาะอาหารและกดการทํางานของไขกระดูก ง. สวนใหญจะทําใหเกิดการคลื่นไสอาเจียน จ. มักทําใหเกิดภาวะวิกลรูปของทารกในครรภมารดา
21. จากโครงสรางของ DNA จากสวนใดของโครงสราง
Doxorubicin ที่เกิด intercalate
ก. Anthracycline ring ข. กลุม N ค. Methoxy ง. Hydroxyl จ. น้ําตาล glycoside 22. Doxorubicin ตองเก็บที่สภาวะ cool temperature ทานจะเก็บยาที่อุณหภูมิเทาใด ก. (-10)-(-25)˚C ข. 2-8˚C ค. 8-15˚C ง. 15-20˚C จ. 25-30˚C 23. Cisplatin ให 4 cycle (cycle ละ 28 วัน) เริ่มให 3 มิ.ย. 50 จะให cisplatin day 4 รอบ 2 วันที่เทาไร ก. 6 มิ.ย. ข. 10 มิ.ย. ค. 2 ก.ค. ง. 3 ก.ค. จ. 4 ก.ค.
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
476
MCQ เรื่อง nutrition and Food supplements 1. คําใดตอไปนี้เปนคําสําคัญ(Key word) ของการบริบาลทางเภสัชกรรม ยกเวน ก. การใชยา(Drug therapy) ข. ความรับผิดชอบ(Responsibility) ค. คุณภาพชีวิต(Quality of Life) ง. ผลสําเร็จที่ตองการ(Definite outcome) จ. เภสัชกร 2. กิจกรรมใดตอไปนี้ที่ไมเปนการบริบาลทางเภสัชกรรม ก. การใหคําแนะนําเรื่องยา ข. การรายงานอาการไมพึงประสงคตอ 1 เดือน ค. การแกไขอาการไมพึงประสงค ง. การบริบาลและติดตามปรับเปลี่ยนสูตรอาหารที่ใหทางหลอดเลือดดํา จ. การวัดระดับยาพรอมการประเมินและปรับขนาดยาใหเหมาะสมกับผูปวยแตละราย 3. หนึ่งในปรัชญาของการใหการบริบาลทางเภสัชกรรมที่สําคัญ คือ ก. เภสัชกรเปนผูกระทํา ข. เนนโรงพยาบาลเปนแหลงปฏิบัติ ค. เนนรานยาเปนแหลงปฏิบัติ ง. ผูปวย/ผูใชยาเปนศูนยกลาง จ. เนนที่ผูปฏิบัติ(Practitioners) 4. ปจจัยสําคัญและจําเปนในการใหคําแนะนําเรื่องยา ก. กระบวนการ ข. องคความรูทางโอสถกรรมศาสตร ค. ทักษะการสื่อสาร ง. ข+ค จ. ก+ข+ค 5. องคความรูที่สําคัญและจําเปนในกิจกรรมการวัดระดับยา ก. เภสัชจลนศาสตร ข. เภสัชวิทยา ค. ชีวเคมี ง. อินทรีเคมี จ. ชีววิทยา 6. องคความรูที่สําคัญและจําเปนสุดในการบริการขอมูลทางยา ก. กระบวนการ ข. เภสัชศาสตร ค. แหลงขอมูลตาง ๆ ง. เภสัชวิทยา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
7.
8.
9.
10.
11.
12.
477
MCQ
จ. เภสัชจลนศาสตร การวินิจฉัยทางการบริบาลทางเภสัชกรรม(Pharmaceutical Diagnosis) เปนการประเมินผูปวยเพื่อคนหาสิ่งใด ตอไปนี้ ก. ADRs ข. DRPs ค. DUE ง. TDM จ. TPN ปญหาจากยาไดแกสิ่งใดตอไปนี้ ก. ADR ข. DI ค. แพทยเขียนใบสั่งยาดวยลายมือไมชัดเจน ง. ก+ข จ. ก+ข+ค แพทยสั่งจายยาparacetamol syrup 1 ชอนโตะ(ตัวยา 360 มิลลิกรัม) ใหผูปวยชายไทยอายุ 25 ป การกระทํา ดังกลาวเปนปญหาจากยาประเภทใด ก. Wrong drug ข. Subtherapeutic ค. Overdosage ง. ADR จ. การสั่งยาโดยไมมีขอมูลทางวิชาการใหใชได(Invalid indication) ผูปวยหญิงไทยอายุ 25 ป เปนโรคหัวใจรูมาติกไปหาทันตแพทยเพื่อถอนฟนผุ แตทันตแพทยลืมใหยาปฏิชีวินะ แกผูปวยกอนการถอนฟน การกระทําดังกลาว จัดเปนปญหาจากยาขอใดตอไปนี้ ก. Untreated indication ข. Wrong drug ค. Improper drug ง. Subtherapeutic จ. Invalid indication ผูปวยรายหนึ่งไดรับยาทางปาก แตอาการผูปวยไมดีขึ้น จําเปนตองเปลี่ยนวิธีการใหยาแกผูปว ยโดยใหทาง หลอดเลือดดํา(Intravenous) แตผูใหไมไดปรับขนาดให ยังคงใหขนาด(Dose) เดิมที่ใหทางปาก การกระทํา ดังกลาวจัดเปนปญหาจากยาขอใด ก. Wrong drug ข. Improper drug ค. Subtherapeutic ง. Overdosage จ. Invalid indication ผูปวยรายหนึ่งมีโรคความดันโลหิตสูงประจําตัว แพทยสั่งยาลดความดันโลหิตสูงใหไปรับประทาน แตผูปวยไม ยอมรับประทานเนื่องจากตนเองรูสึกวาตนไมเปนอะไร ไมมีอาการแสดงใด ๆ การกระทําดังกลาวจัดเปนปญหา จากยาขอใด
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
478
MCQ
ก. Untreated indication ข. Non adherence ค. Subtherapeutic ง. Improper drug จ. Invalid indication 13. ในกรณีดังกลาว(ขอ12) เภสัชกรควรใหกิจกรรมทางคลินิกอะไรตอไปนี้เพื่อแกไขปญหาดังกลาว ก. Drug dispensing ข. การบริการขอมูลยา ค. Patient counseling ง. การวัดระดับยา จ. การดูปฏิกิริยาระหวางยา 14. ผูปวยรายหนึ่งไดรับยาฉีด(Intravenous) ขณะรับการรักษาในโรงพยาบาลระยะหนึ่ง เมื่ออาการดีขึ้นมาก แพทย จึงเปลี่ยนการใหยา โดยการรับประทานแทน แตไมไดปรับขนาดยา ยังคงใหขนาดเดิมที่ใหทางหลอดเลือด ก. Wrong drug ข. Improper drug ค. Subtherapeutic ง. Overdosage จ. Invalid indication 15. เภสัชกรในรายาจายยาbisacodylใหลูกคาลดความอวน การกระทําดังกลาวจัดเปนปญหาจากยาขอใด ก. Wrong drug ข. Improper drug ค. Subtherapeutic ง. Overdosage จ. Invalid indication สถานการณผูปวยหญิงไทยอายุ 35 ป รูปรางอวนมาที่โรงพยาบาลตองการไดยาลดน้ําหนักจากแพทย ผูปวยเลาวาเคย ซื้อยาลดน้ําหนักมากอนหนานี้แตพอหยุดรับประทานพบวาน้ําหนักขึ้นมากกวาเดิมจึงกลัววาอาจเปนอันตรายตอรางกาย แพทยแนะนําใหควบคุมอาหาร อกกําลังกายและจายยาOristatใหแกผูปวย 1. ปญหาสุขภาพตอไปนี้มักเกิดพรอมกับโรคอวน ขอใดผิด 1. ความดันโลหิตสูง 2. ภาวะไขมันผิดปกติในเลือด 3. โรคหลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจตีบตัน 4. กระดูกและขอเสื่อมในlower extremities 5. โรคอัลไซเมอร 2. แพทยสั่งใชยาOristatสําหรับผูปวยรายนี้ อยากทราบวายานี้ออกฤทธิ์อยางไร 1. ดักจับไขมันในทางเดินอาหาร 2. ออกฤทธิ์กดความอยากอาหาร 3. เพิ่มการเมตาบอลิซึมไขมันในเซลล 4. ยับยั้งเอนไซมยอยไขมันในทางเดินอาหาร 5. ยับยั้งเอนไซมHMG coA reductase
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
479
MCQ
3. ผูปวยควรรับประทานอาหารในขอใด 1. สมเขียวหวาน คอมหมูยาง ขาวเหนียว 2. ชมพู ปลาเผา แกงหนอไม 3. มะมวงสุก ผัดกระเฉดหมูกรอบ ขาวตม 4. ทุเรียน แกงเลียง ขาวสวย 5. กลวยหอม ไอศกรีม ไกทอด 4. เมื่อคํานวณคาBody Mass Index(BMI) ของหญิงผูนี้พบวามีคา 30 kgm3 หมายความวาอยางไร 1. น้ําหนักนอยกวาปกติ 2. น้ําหนักตัวเหมาะสม 3. น้ําหนักเกินแตไมมาก 4. มีภาวะอวน 5. มีภาวะอวนรุนแรง ผูปวยเลาวาปจจุบันรับประทานผลิตภัณฑเสริมอาหารประเภทลดน้ําหนัก เชนแคปซูลพริก ชาเขียว รวมทั้งครีมพริกทาลด ไขมันตามรางกาย 5. เมื่อน้ําพริกมาเตรียมในรูปแบบครีมทาผิวลดไขมันและประเมินความคงตัว ขอใดเปนวิธีที่ไมเหมาะสมมากที่สดุ 1. นําไปปนเหวี่ยงที่ความเร็วรอบ 3.750 รอบ/นาที เปนเวลา 5 ชั่วโมง 2. นําไปเก็บไวที่อุณหภูมิ 180 C เปนเวลา 12 ชั่วโมง 3. นําไปเก็บไวที่อุณหภูมิ -5 C สลับกับ 40 C ทุก ๆ 24 ชั่วโมง เปนจํานวน 24 รอบ 4. นําไปเก็บไวที่อุณหภูมิ 4 C,25 Cและ45 Cเปนเวลา 6 เดือน 5. นําไปเก็บไวที่อุณหภูมิ 25 C เปนเวลา 2 ป 6. ขอมูลขอใดมีความจําเปนนอยที่สุดในการนําพริกมาบรรจุในแคปซูลเพื่อรับประทาน 1. Solubility 2. Angle of repose 3. Capsule’s sixe and volume 4. Tap density 5. Therapeutic dose 7. สารสําคัญที่พบมากในพริกคือสารชนิดใด 1. Catechin 2. Caffeine 3. Capsaicin 4. Cannabinoids 5. Cinnamaldehyde 8. จากปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงสารAไปเปนสารBซึ่งทั้งAและBตางก็เปนสาระสําคัญในชาเขียวปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น เรียกวาปฏิกิริยาอะไร 1. Epimerization 2. Isomerization 3. Mutarotation 4. Oxidation 5. Reduction
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
480
MCQ
9. ผูปวยเปนคนชนบทยากจน ตองการใชยาสมุนไพรลดความอวนที่ไดผลที่สุดทานจะแนะนําขอใด 1. บุกสําเร็จรูป ลดลายน้ํากิน และหญาหนวดแมว ชงน้ําดื่มตางน้ํา 2. ดอกคําฝอย ชงดื่มตางน้ําและน้ําทับทิมดองน้ําผึ้ง ดื่มกอนอาหาร 3. ใบหรือฝกมะขามแขก ชงน้ํารอน ดื่มกอนนอน และแมงลักละลายน้ํากินกอนอาหาร 4. ใบรางจืดแหง ตมดื่มตางน้ําและใบขี้เหล็กออน ตมกับน้ําดื่มตอนเขาหรือกอนอาหารเชา 5. ใบ ดอกชุมเห็ดเทศ ตมน้ําดื่มและมะระขี้นก รับประทานเปนอาหาร 10. ความอวนในอดีตหรือในบางสังคม อาจไมใชปญ หาของสังคม และไมใชปญหาสุขภาพ ในสังคมปจจุบันความอวน เปนปญหามากขึ้น ขอใดไมใชปจจัยทางสังคมที่มีความสัมพันธกับการทําใหอวนเปนปญหามากขึ้น 1. พันธุกรรม 2. พฤติกรรมการบริโภค 3. แหลงและชองทางการจําหนายอาหาร 4. บทบาทของบริษัทยาลดความอวน 5. อิทธิพลจากดารา นักรอง นางแบบ แบบทดสอบเกี่ยวกับวิตามิน แรธาตุและอาหารเสริม 1. สาเหตุของผมรวม,เล็บเปราะ เนื่องจากขาดวิตามินและแรธาตุ ยกเวน ก. Vitamin B6 ข. Vitamin A ค. Vitamin D ง. Biotin จ. Zinc 2. วิตามิน แรธาตุที่เพิ่มความสดใสใหผิวพรรณยกเวน ก. Vitamin E ข. Vitamin C ค. Magnesium ง. Zinc จ. EPO(Evening Primrose Oil) 3. วิตามิน แรธาตุขอใดที่เหมาะสมกับการออกกําลังกายมากที่สุด ก. Vitamin K,Calcium,Vanadium ข. Vitamin D,Calcium,Nikel ค. Calcium,Magnesium,Potassium ง. Calcium,Magnesium,Potassium จ. Iodine,Copper,Selenium 4. จากขอที่ 3 หมวดอาหารใดที่พบแรธาตุ วิตามินเหลานั้นมากที่สุด ก. เนื้อสัตว,อาหารทะเล,เครื่องใน ข. ปลาตัวเล็กตัวนอย,ผักบร็อคโครี่,กลวย ค. ธัญพืช,ถั่วเหลือง,โยเกิรต ง. ชาเขียว,โสมCo-enzymeQ10 จ. น้ํามันตับปลา,น้ํามันปลา,ปลา
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
481
MCQ
5. ขอใด ไมใชขอควรปฏิบัติในการรับประทานวิตามิน อาหารเสริม ก. ออกกําลังอยางตอเนื่อง อยางนอย 30 นาทีทุกวัน ข. ดื่มน้ําบริสุทธิ์ ปริมาณ 2 ลิตร ตอวัน ค. ควรรับประทานหลังมื้ออาหารหรือพรอมมื้ออาหาร ง. การรับประทานชวงเวลากอนนอนเหมาะสําหรับวิตามินและแรธาตุที่บํารุงผิว จ. ควรรับประทานผักใบเขียว,ผลไมควบคูทุกวัน สถานการณ สุดารัตนเปนเภสัชกรรานยาแผนปจจุบันแหงหนึ่ง ปญหาที่พบในรานก็คือ ตองการเก็บผลิตภัณฑเขาบนชั้น โดยแยกกันระหวางผลิตภัณฑเสริมอาหารและยา พบวามีผลิตภัณฑบางชนิดที่ไมสามารถแยกไดวาเปนอาหารหรือยา 1. ทานคิดวาผลิตภัณฑชนิดใดที่กอใหเกิดปญหานี้ ก. Ginkgo,มีTanakan เปนยาชวยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ข. Chitosan ค. Hydroxyl citric acid ง. Medium chain triglyceride oil จ. Conjugated linoleic acid 2. ถาทานเปนสุดารัตนทานจะใชเกณฑขอใดในการจําแนกผลิตภัณฑ ก. ราคา ข. ขอบงใช ค. Dosage form ง. ขนาดที่ใช จ. เลขสารบบอาหาร 13 หลัก 3. ชวงสายมีหญิงคนหนึ่งเขามาในราน เพื่อขอซื้อยาลดน้ําหนัก สูง 145 ซม. และมีน้ําหนัก 61 กก. จะมีคาดัชนี เทาใด(BMI) ก. 26 ข. 27 ค. 28 ง. 29 จ. 30 4. หญิงสาวดังกลาวนําตัวอยางยาซึ่งบรรจุในซองยาที่มีไปพบแพทยที่โรงพยาบาล เพื่อปรึกษาเรื่องยาลดน้ําหนัก Phentermine โดยบอกวาเมื่อเธอรับประทานยาดังกลาวแลวมีอาการขางเคียง ทานคิดวาอาการขางเคียงดัง กลาวคือ ก. ปวดแสบกระเพาะ ข. นอนไมหลับ หัวใจเตนเร็ว ค. ซึมเศรา เหงาหงอย ง. ปวดกลามเนื้อ จ. ความดันโลหิตต่ํา 5. เภสัชกรสามารถจายยาphentermineไดหรือไม เพราะเหตุใด ก. ได ถามีใบสั่งแพทย เพราะเปนยาควบคุมพิเศษ ข. ได ถามีใบสั่งจากแพทย เพราะเปนยาเสพติดใหโทษประเภทที่ 2 ค. ถึงแมจะมีใบสั่งแพทยก็จายไมได เนื่องจากเปนวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาทประเภท2
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
482
MCQ
6. กลไกการออกฤทธิ์ของphentermineคือ ก. ออกฤทธิ์กระตุนระบบประสาทสวนกลาง ข. ยับยั้งการทํางานของเอนไซมไลเปส ค. เพิ่มการเผลผลาญของไขมันสวนเกิน ง. เพิ่มอัตราการเกิดthermogenesis 7. ขอหามใชของphertermineคือ 8. หญิงสาวคนหนึ่งมีคนแนะนําใหลองใชผลิตภัณฑเสริมอาหารชนิดนี้ไปถามเภสัชกร ทานคิดวาผลิตภัณฑเสริม อาหารดังกลาวคืออะไร ก. conjugated linoleic acid ข. chitosan ค. hydroxyl citric acid ง. Catechin 9. ผลิตภัณฑเสริมอาหารในขอใดมีคุณสมบัติคลายdietary fiber ก. chitosan ข. evening primrose oil ค. collagen ง. conjugated linoleic acid จ. Lecitin 10.ขอใดถูก 1. อนุพันธของnicotinamideใชdepressระบบการหายใจ 2. อนุพันธของnicotinamideใชstimulateระบบการหายใจ 3. CNS stimulantเหมือนAmphetamine 4. ใชแทนnicotinamide 5. ถูกทั้ง 1,2,3,4 11.บุคคลที่รับประทานอาหารมังสวิรัติมีโอกาสขาดเหล็กไดเนื่องจาก 1. ในอาหารมังสวิรัติมีเหล็กในรูปheme-iron มาก 2. สารphytateในอาหารรบกวนการดูดซึมเหล็ก 3. เหล็กจะพบไดจากอาหารที่มาจากเนื้อสัตวเทานั้น 4. วิตามินซีจากผัก+ผลไมลดการดูดซึมเหล็ก 12.เกลือแรขอใดผิด 1. ถาขาดสังกะสีจะทําใหมีอาการอวัยวะเพศไมเติบโตตามวัยและแผลหายชา 2. ควรเสริมไอโอดีนแกเด็กที่ปองกันฟนผุ โดยใหผสมกับน้ําความเขมขน 1 ตอลาน 3. แคลเซียมและฟอสฟอรัสเปนเกลือแรที่สําคัญ เปนสวนประกอบของกระดูกและฟน 4. ถาขาดทองแดงจะทําใหเปนโรคโลหิตจาง 5. ถาขาดไอโอดีนทําใหเปนโรคคอพอก 13.หมูF unctionใดของascorbic acid ที่ทําใหมีฤทธิ์เปนกรด 3. Hydroxyl group ที่ตําแหนง 5 1. Hydroxyl group ที่ตําแหนง 1 4. Hydroxyl group ที่ตําแหนง 3,4 2. Hydroxyl group ที่ตําแหนง 1,5 5. Ketone ที่ตําแหนง 2
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
483
MCQ เรื่อง PK 1. ขอดีของการให IV infusion ที่กําหนดอัตราการไหลของยาไวแนนอน A ใหรวมกับน้ําเกลือได B สามารถปรับใหเหมาะสมกับผูปวยแตละรายโดยการปรับ infusion rate C ใหไดกับยาทุกชนิดยกเวนยาที่มี narrow therapeutic range ก. A ข. B ค. A,B ง. B,C 2. ขอใดไมใชลักษณะของ one compartment model ก. รางกายมีสวนเดียว ข. ยากระจายตัวเร็วมาก ค. ยาที่มีการกระจายไปตามสวนตางๆ ของรางกายไดไมเทากัน ง. ระดับยาในเลือดเทากับระดับของยาในเนื้อเยื่อ จ. ยาถูกขับออกแบบ first order 3. ขอใดไมมีผลเปลี่ยนแปลง dissolution ของยา ก. complexation ของยา ข. pH ค. excipient อื่น ๆ ในตํารับ ง. blood flow ที่ทางเดินอาหาร จ. aqueous solubility ของยา 4. ขอใดมีความสําคัญนอยที่สุดในการพิจารณา bioequivalence ก. ยาที่มี narrow therapeutic ข. ยา potent drug ค. ยาที่มีการละลายต่ํา ง. ยาที่มี disintegration time ต่ํา จ. ยาที่ใหแกผูปวยในขนาดเทากัน แตเปนยาตางบริษัทกัน ใหผลในการรักษาที่ตางกัน 5. ขอใดไมใชเหตุผลในการทํา TDM ก. Therapeutic index แคบ ข. Multiple compartment ค. Non linear ง. Therapeutic index เพิ่มขึ้นหรือลดลงแลวเกิดอันตราย จ. ใชยาตามหมอสั่งหมอหรือไม 6.ขอใดเปนกระบวนการที่เกิดขึ้นเมื่อยาเขาสูรางกาย ก. Adsorption Distribution Metabolism Elimination ข. Adsorption Distribution Metabolism Excretion ค. Absorption Distribution Metabolism Excretion ง. Absorption Distribution Metabolism Elimination
Pharmacy Student Rx’24
จ.
A,B,C
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
484
MCQ
7.ขอใดผิดเกี่ยวกับ absorption ก. การใหยาอมใตลิ้นบางชนิดเพื่อลด first pass effect ข. First pass effect เกิดเฉพาะกับยาที่มี hepatic extraction ration สูง ๆ ค. Gastric emptying มีผลตอ rate และ extent ของการดูดซึม ง. การฉีดยาเขากลามในที่ตางกันมีผลตอ rate และ extent ของการดูดซึม จ. การฉีด IV bolus ทําใหเกิดผลไมพึงประสงคที่รุนแรง 8.แหลงขอมูลใดไมนํามาทํา bioavailability ก. Urine data ข. Plasma data ค. Clinical sign ง. Pharmacologic effect จ. ไมมีขอใดถูก 9.ทําไมตองติดตาม digoxin A Therapeutic index แคบ B Two compartment C ระดับยาในเลือดสัมพันธกับบริเวณที่ออกฤทธิ์ ขอใดถูก ก. A ข. B ค. C ง. A,C จ. A,B,C 10.Drug Clearance คืออะไร A ปริมาตร plasma ที่ทําใหปราศจากยาตอ 1 หนวยเวลา B Cl = Q x ER C Cl = KU ก. A ข. B ค. C ง. A,C จ. A,B,C 11.ผูปวยอายุ 20 ป น้ําหนัก 45 กิโลกรัม t1/2 = 10 ชั่วโมง dose เริ่มแรก 120 mg ถาการกําจัดยา = 40% ใชเวลาเทาไร ก. 3.5 ชั่วโมง ข. 4 ชั่วโมง ค. 4.4 ชั่วโมง ง. 7.4 ชั่วโมง จ. 8.5 ชั่วโมง 12.ขอใดถูกตองในการใหยาแบบ multiple dose A ระยะเวลาที่ยาถึง steady state ขึ้นกับ elimination t1/2 ของยา B ถาระยะเวลาใหยานานขึ้น ระดับยาในเลือดจะมากขึ้นดวย C คาเฉลี่ยของระดับยาในเลือดที่ steady state ขึ้นกับ absorption rate constant ก. A ข. B ค. C ง. A,C จ. A,B,C 13.ผูปวย CHF c HT มีอาการ N/V เบื่ออาหาร นาจะเกิดจากอะไร ก. HT ข. Renal impairment ค. HCTZ ง. Digoxin toxicity จ. CHF 14.ปจจัย สาเหตุที่ทําใหเกิดอาการขางตน คือ A Hypokalemia B Renal impairment C Hyponatremia ก. A ข. B ค. C ง. A,B จ. A,B,C
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
485
15.Two compartment model มีคา β มากกวา/นอยกวา α จากสมการ C1 = Ae-αt + Be-βt สามารถอธิบายไดวา ระดับยาในพลาสมาจะมีการลดลงแบบไบเอกซโพเนนเชียล ซึ่งการลดลงประกอบดวย 2 สวน คือ สวนแรกจะมีการ กระจายของยาเกิดขึ้นเปนสวนใหญ และสวนที่ 2 จะมีการกําจัดยาเปนหลัก ดังนั้น ในภาพรวม α เปนตัวกําหนดอัตราการ กระจาย และ β เปนตัวกําหนดอัตราการกําจัดยา จึงอาจเรียกไดวา α เปนคาคงตัวของอัตราการกระจาย และ β เปนคา คงตัวของอัตราการกําจัดยาออกจากรางกาย โดยปกติแลว ยาจะกระจายออกจากเลือดเร็วกวาการกําจัดยา จึงทําให α ของยาสวนใหญจึงมีคามากกวา β 16.ผูปวย ได multiple dose ทําอยางไรใหยาไดประสิทธิภาพ ไมเกิด SEs A ปรับขนาดยา B ปรับ t1/2 C ปรับความถี่ในการใหยา ก. A ข. B ค. C ง. A,B จ. A,B,C 17.ขอใดถูกตองเกี่ยวกับ pharmacokinetic A ความสัมพันธระหวางระดับความเขมขนของยาในเลือดกับการตอบสนองตอยาของผูปวย B ความสัมพันธระหวางระดับความเขมขนของยาในเลือดกับเวลา เพื่อนํามาปรับขนาดยาให เหมาะสมกับ ผูปวย C ความสัมพันธระหวางระดับความเขมขนของยาในเลือดกับผลการรักษา ก. A ข. B ค. C ง. A,B จ. A,B,C 18.ขอใดมีผลกระทบนอยที่สุดตอ Hepatic clearance ของยาที่มี Low Hepatic Extraction ratio เปนกรดออนและมี protein binding 90% ก. เชื้อชาติ ข. Enzyme inducer ค. Hepatic blood flow ง. Serum albumin จ. ไดรับยาที่เปนกรดออนที่มี protein binding 19.กราฟใดเปน Non linear ก. ข. ค. C
lnC dose
ง.
t
จ. C
C t
C t
Pharmacy Student Rx’24
t
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
486
MCQ
20.ศึกษา bioavailability ของ Theodur® หลังการให Theodur® โดยการรับประทาน ขนาดยา 250 mg และ Aminophylline 250 mg (80% Theodur®) IV infusion เปนเวลา 15 นาที มีคา parameter ตางๆ ดังนี้ ยา/รูปแบบยา AUC0- α ® Theodur PO 68.8 µg hr/ml Aminophylline 250 mg (80%theophylline)IV inf . 72.6 µg hr/ml ® Systemic bioavailability Theodur มีคาเทาไร ก. 46 ข. 59 ค. 68 ง. 76 จ. 95 21.ยามีคา Elimination half life 6 hr ผูปวยมี Vd 20% ของน้ําหนักตัว ตองการใหระดับยาอยูในชวง 5-15 µg /ml โดยให ทาง iv แกผูปวย ผูปวยน้ําหนัก 75 kg ทุก 8 hr จงหาความเขมขนของยาที่ steady state ก. 2 ข. 5 ค. 10 ง. 15 จ. 20
22.ผูปวยอายุ 40 ป หนัก 70 กิโลกรัม ไดรับยา IV infusion ยามี t1/2 = 2 hr Vd = 1 L/kg ยาใหผลการรักษาเมื่อ conc. = 12 mg/L ยาบรรจุใน ampule ขนาด 5 ml conc. 150 mg/ml จํานวน 14 ampules ใหหา infusion rate (ko) 23.ผูปวยชายไทยอายุ 20 ป น้ําหนัก 50 กิโลกรัม ไดรับยาที่มี elimination t1/2 = 6 hr ขนาด 200 mg IV bolus single dose มีจลนศาสตรเปน 1st order ยาจะถูกกําจัดออกจากรางกายกี่ % ใน 24 hr ก. 6.25 % ข. 11.xx % ค. 12.xx% ง. 75.xx% จ. 93.75%
24. ผูปวยอายุ 20 ป น้ําหนัก 45 กิโลกรัม t1/2 = 10 ชั่วโมง dose เริ่มแรก 120 mg ถาการกําจัดยา = 40% ใชเวลาเทาไร ก. 3.5 ชั่วโมง ข. 4 ชั่วโมง ค. 4.4 ชั่วโมง ง. 7.4 ชั่วโมง จ. 8.5 ชั่วโมง
25.ผูปวยหญิง 28 ป หนัก 45 กิโลกรัม ไดรับยา antibiotics ซึ่งถูกดูดซึมได 80% มี plasma protein binding 60% Vd = 0.6 L/kg elimination t1/2 =10 hr ยาถูกขับออกทางปสสาวะในรูปเดิม 55% คา MIC ของยา = 25-30 µg/ml ถาให ผูปวย ทานยาทุก 6 hr จะตองใช Maintenance Dose เทาไร
Pharmacy Student Rx’24
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
MCQ
487
MCQ เรื่อง เภสัชภัณฑ์ 1. มีปจจัยอะไรที่ไมมีผลตอการออกฤทธิ์ในดาน onset และ duration ของยา 1 Volatility ของยา 2 route of administration ของยา 3 metabolism ของยา 4 structure ของยา (ชนิดของ oxide ของ nitrogen) 5 ปริมาณ alcohol ที่มีในยา 2. ปวยมีผื่นขึ้นผิวหนาตองการใช topical steroid จะ เลือก topical steroid ที่อยูในยาขี้ผึ้งชนิดใดที่เหนอะหนะ นอยที่สุด 1 Hydrocarbon base 2 Oleaginous base 3 Absorption base 4 O/W emulsion base 5 W/O emulsion base 3. topical steroid ควรมีการไหลเปนแบบใดจึงจะ เหมาะสมกับยา 1 Psuedoplastic flow 2 Psuedoplastic flow with thixotropy 3 Dilantant flow with thixotropy 4 Antithixotropy 5 Newtonium flow 4. ขอใดผิดเกี่ยวกับคุณสมบัติของยาพื้น 1 liquid paraffin เปน solvent 2 PG เปน lubricant 3 SLS เปน emulsifier 4 White soft paraffin เปนวัตภาคน้ํามัน 5. เภสัชกรที่มีหนาที่คัดเลือกยาที่ดีใหแกโรงพยาบาล เรื่องราคายาออก ทานจะกําหนดคุณลักษณะของยา โดย มี Enalapril ที่ใชเปนเกณฑในการคัดเลือกยา ยกเวน 1 กําหนดคา dissolution 2 กําหนดสีของยาเม็ด 3 กําหนดปริมาณ Active ingredient
Pharmacy Student Rx’24
4 กําหนดขีดจํากัด (limit) ของ Enalaprilat 5 กําหนดขีดจํากัด (limit) ของ piperazine diketone 6. กลุม Angiotensin-converting enzyme (ACE) inhibitor ตัวหนึ่งมีปญหา PH ในกระเพาะอาหาร และมี การดูดซึมไมดีที่ลําไสเล็ก ทานควรจะพัฒนาอยางไรใหมี ประสิทธิภาพในการรักษาดีที่สุด 1 Soft elastic capsule 2 Enteric coating tablet 3 Plastic natrices tablet 4 Gastric floating tablet 5 Methods unit tablet 7. สารใดตอไปนี้ไมพบในตํารับยาหยอดจมูก 1 Preservative 2 Coloring agent 3 Buffering agent 4 Antioxidant 5 Toxicity adjusting agent 8. ตามใบสั่งแพทยสั่งจายยา ephedrine 0.5% แตใน หองยามี ephedrine 1.0% ทานจะเตรียมยาอยางไรใหได ตามใบสั่งแพทย 1 นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวยน้ํา 2.5 ml 2 นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวย NSS จน ครบ 5 ml 3 นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวย acetate buffer 2.5 ml 4 นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวยน้ําจนครบ 5 ml 5 นํา ephedrine 1.0% 2.5 ml เจือจางดวย NSS 5 ml 9. เมื่อนํายาเม็ดจํานวน 10 เม็ด มาทําการควบคุม คุณภาพในหัวขอ uniformity น้ําหนักเฉลี่ยของเม็ดยา เทากับ 125 mg คา S (Sample standard deviation) RSD (relative standard deviation) จะเทากับเทาไหร 1 2%
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 2 3% 3 4% 4 5% 5 6% 10. ถาสีของเม็ดยา aspirin มีลักษณะดาง เรียกการเกิด ความไมสม่ําเสมอของสีนี้วา 1 faking 2 paling 3 picking 4 mottling 5 capping 11. Calamine lotion ควร test อะไร ยกเวน 1 sedimentation rate 2 redispersion 3 microbial test 4 neutral acid test 12. ยาระบาย 60 กรัม ละลาย 1 ซอง/น้ํา 1 แกว (240 มล.) ใหทานครัง้ ละ 15 กรัม 1 2 tbsp 2 4 tbsp 3 6 tbsp 4 8 tbsp 5 12 tbsp 13. ผลของการทดสอบใดที่ทําใหมั่นใจประสิทธิภาพของ การรักษาของยาเม็ดรูปแบบ enteric coat 1 ทดสอบในกรดเปนเวลา 2 ชม.แลวปลอยยา< 10% แลวทดสอบ Buffer 6.8 เปนเวลา 45 นาที แลว ปลดปลอย > 80% 14. จากคาการละลายที่กําหนดให ขอใดควรเตรียมเปน ยาฉีด 1 Erythromycin 2.1 mg/ml 2 Erythromycin estolste 0.16 mg/ml 3 Erythromycin ethylsuccinate very slight soluble 4 Erythromycin stearate 0.33 mg/ml 5 Erythromycin stearate 200 mg/ml 15. ขอใดผิดเกี่ยวกับการเตรียมยาเม็ดดวยวิธี wet granulation
Pharmacy Student Rx’24
488
MCQ 1 ชวยลดปญหาเรื่อง content uniformity ของยา ที่มีความแรงสูง (potent drug) 2 ยาที่นํามาเตรียมตองไมไวตอ ปฏิกิริยา hydrolysis 3 ไมตองใชแรงตอกอัดสูงเหมือนวิธี direct compression 4 การควบคุมขนาดแกรนูลทําโดยนํามาแรง 5 สามารถเติมสารหลอลื่นในขั้นตอนกอนทํา แกรนูลได 16. เนื่องจากยามีรสชาติและกลิ่นไมดี รวมทั้งตองการให ไปดูดซึมที่ลําไสเล็ก ดังนั้นควรทํายาในรูปแบบใด 1 plain tablet 2 film coated tablet 3 sugar coated tablet 4 enteric coated tablet 5 chewable coated tablet 17. หากบริษัทยาตองการหาอายุการใชยาชั่วคราวของ ยาในรุนที่เริ่มผลิตครั้งแรก ขอใดไมใชขอมูลที่นํามาใช 1 Arrhenius Equation 2 ปริมาณสารที่เกิดจากการสลายตัวของ สารสําคัญ 3 ปริมาณสารสําคัญ 4 อัตราการสลายตัว 5 อันดับของปฏิกิริยาการสลายตัว 18. ถากําหนดใหตัวยารักษาวัณโรคตัวหนึ่งมีคุณสมบัติ ดังนี้ - ความแรงของยาคือ 100 mg ตอเม็ด - ผงยามีคุณสมบัติในการไหล (flowability) และ การยึดเกาะ (compressibility) ไมดี - ทนตออุณหภูมทิ ี่สูงกวา 150 องศาเซลเซียส ได - ไมไวตอปฏิกิรยิ า hydrolysis - ไมทนตอกรดในกระเพาะอาหาร วิธีการเตรียมยาเม็ดในขอใดที่ไมควรเลือกใช 1 wet granulation 2 dry granulation 3 direct compression 4 film coating 5 enteric coating
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review
489
19. ขอใดผิดเกี่ยวกับการผลิตยาแคปซูล rifampicin 1 ชวยกลบกลิ่น และรสที่ไมดีของตัวยา 2 จําเปนตองมีสารชวยยึดเกาะ (binder) 3 ผงยา และสารชวยควรมีคุณสมบัติใน การไหลที่ดี 4 ไมเหมาะในการบรรจุผงยาที่ละลาย น้ําไดดีมากๆ 5 มีการควบคุมคุณภาพเชนเดียวกับยา เม็ด 20. ผูปวยสอบถามเภสัชกรเรื่องการเก็บยาที่ไดรับจาก แพทย ซึ่งจะนําไปใชที่บาน ยาที่ไดบรรจุในขวดพลาสติก แบงบรรจุ จํานวน 60 เม็ด ใชรับประทานวันละ 1 เม็ด ฉลากยาของบริษัทผูผลิต ระบุใหเก็บใน “Cold place” เภสัชกรเปดดู monograph ของยาตัวนี้ พบวาไมมีระบุ ขอมูลอื่นเพิ่มเติม เภสัชกรควรแนะนําใหเก็บยาไวที่ใด 1 กระเปาถือ 2 ชองแข็ง (freezer) ของตูเย็น 3 ตูเย็นชองธรรมดา 4 ตูยาสามัญประจําบาน 5 ตูกับขาว 21. พัฒนาสูตรโครงสรางของ Levonogestrel ที่ตําแหนง 17 โดยการทําปฏิกิริยา จะมีเภสัชจลนศาสตรอยางไร 1 ไมถูกดูดซึมในทางเดินอาหาร 2 ถูกทําลายในทางเดินอาหารเร็วมาก 3 คาครึ่งชีวิตสั้นลง 4 ออกฤทธิ์ไดนานขึ้น 5 ถูกขับในรูปไมเปลี่ยนแปลง 22. การควบคุมคุณภาพ Levonogestrel 0.75 mg โดย นํายา 20 เม็ด ละลายดวยตัวทําละลาย กรองแลวนํามา วิเคราะหปริมาณดวยเทคนิค HPLC Levonogestrel ความเขมขน 0.15 mcg/ml ไดผลการทดลองดังตาราง 1 2 3 average SD Standard 125000 124000 124500 124500 5 sample 128000 128500 127500 12800 5 คา Labeled amount ของ Levonogestrel มีคาเทาใด 1 98.8 2 99.8 3 100.8
Pharmacy Student Rx’24
MCQ 4 101.8 5 102.8 23. ขอใดกลาวถึงยาชนิดเม็ดเคลือบฟลม Ibuprofen ได ถูกตอง ก.มีน้ําหนักหลังเคลือบฟลมขึ้น 2 เทา ข.รูปรางคงเดิมหลังเคลือบ ค.เคลือบเพื่อใหมีผลตอการปลดปลอยยา ง.เคลือบไดเฉพาะฟลมใส ไมมีสี 24. ถาทานพบวายาเม็ด Paracet. มีการแยกตัวออกเปน ชั้น แกปญหาดังกลาวอยางไร ก.ใหใช punch ที่มีความโคงมาก (deep concave punch) ข.ใหใช die ที่มีชองดานบนใหญกวาดานลาง ค.ลดความเร็วในการตอกลง ง.เติมสารพวก hygroscopic ลงไปเพื่อไมให แกรนูลชื้นเกิน จ.อาจเพิ่มปริมาณสารยึดเกาะเพื่อใหแกรนูลจับ กันไดดี 25. หากตองการตั้งตํารับยาที่ออกฤทธิ์ไดนาน 1 เดือน ควรตั้งตํารับยา ก.ยาเม็ดรับประทามแบบ matrix ข.ยาเม็ดรับประทามแบบ osmotic ค.ยาฉีดเขาเสนเลือดแบบสารละลาย ง.ยาฉีดเขาใตผิวหนังแบบ matrix 26. สารใดตอไปนี้ทําหนาที่เปนทั้งสารเพิ่มปริมาณ (bulking agent) และสารชวยแตกตัว (disintegrant) ก.Lactose ข.Magnesium sulfate ค.Microcrystalline cellulose ง.Corn starch จ.Sodium lauryl sulfate 27. “ฝายวิจัยและพัฒนาของโรงงานยาแหงหนึ่ง ไดรับ มอบหมายใหพัฒนาสูตรตํารับ tablet ขนาดรับประทาน 37.5 mg. ดานกรรมวิธีการทําแกรนูลแบบสูตรตํารับที่ พัฒนาโดยประกอบดวยสารชวยตงๆดังตอไปนี้ tapioca starch, confectionness sugar 8%, PVP in 50% ethanol, magnesium stearate, colloidal silicon dioxide, flavors and colors. อาศัยขอมูลขางตน ตอบคําถามตอไปนี้”
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review สารชวยตัวใด ที่ควรมีปริมาณมากที่สุดในตํารับ ก.Tapioca starch ข.Confectionness sugar ค.Sodium starch glycolate ง.Magnesium stearate จ.Colloidal silicon dioxide 28. เภสัชกรตองการลดความแข็งของตํารับ ควรทํา อยางไร ก.ใช tween แทน sodium lauryl sulfate ข.เพิ่ม propylene glycol ค.ลด stearyl alcohol ง.ลดน้ํา 29. ขอใดไมใชคุณลักษณะของ multiple-dose parenteral ก.เปน small volume parenteral ข.ปริมาตรบรรจุไมเกิน 30 มล. ค.ตอเติม antibacteria preservative ง.ตองทํา clarity test จ.บรรจุใน ampule หรือ vial 30. โรงพยาบาลใหเตรียม ferrous syrup 60 mL. จะใช ferrous เทาไร Rx ferrous 40 g. citric 2.1 g. peppermint spirit 2 purified water 1000 mL. ก. 240 g. ข. 2.4 g. ค. 0.24 g. ง. 0.024 g. จ. 0.0024 g. 31. การเตรียมตํารับจากสูตรขางบน (ferrous sulfate) ก. ferrous sulfate ไมละลายจึงทําเปน suspension ข. ละลาย ferrous sulfate ใน citric acid กอน แลงบดน้ําตาล sucrose
Pharmacy Student Rx’24
490
MCQ ค. ละลาย ferrous sulfate ในน้ํารอนกอน แลว คอยใส citric acid และ sucrose ง. ใช alcohol ละลาย ferrous sulfate กอน จ. ตม ferrous sulfate, citric acid, sucrose จนละลายหมด 32. Pt. ไดรับยาระบายบรรจุ 60 g. เวลาใชตองละลายน้ํา หนึ่งซองตอน้ําหนึ่งแกว (1 แกว = 240 mL.) แพทยสั่ง จายยาใหรับประทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15 g. จะตอง เขียนฉลากอยางไร ก. 2 ชอนโตะ ข. 4 ชอนโตะ ค. 6 ชอนโตะ ง. 8 ชอนโตะ จ. 12 ชอนโตะ 33. ยาเม็ดทุกชนิด รวมทั้งยาในกลุม Nitrates ตอง ทดสอบ content uniformity test ตาม USP เพื่อทดสอบ คุณภาพยาดานใด ก. bioavailability ข. bioeqivalency ค. dissolution ง. potency จ. purity 34. บรรจุภัณฑที่ใชสําหรับยาคุมกําเนิด คือ blister packing มีลักษณะอยางไรตามตํารับ USP ก. tight-containers ข. light-resistant containers ค. single-unit containers ง. multiple-dose containers จ. tamper-resistant containers 35. Neutral-acid test หองยาไมมี Diclofenac sodium หมอเปลี่ยนเปน Piroxicam 20 mg. tid. เภสัชกรควรทํา อยางไร ก. ไมควรใชกับ RA ข. เปลี่ยนเปน PRN เฉพาะปวดแบบเฉียบพลัน ค. ใชไมเกิน 10 วัน ง. เปลี่ยนเปนวันละ 1 ครั้ง จ. ไมควรใช Piroxicam เพราะราคาแพง
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 36. ตํารับยาระบาย liquid paraffin จะใชการเตรียมโดย วิธีใด ก. beaker method ข. wet gum method ค. shaking method ง. melting method จ. solvent method 37. ผูปวยไดนํายาที่ญาติผูปวยไดรับมา ยาดังกลาวเปน ยาน้ําแขวนตะกอน ยาที่ไดรับดังกลาวมีลักษณะเปน flocculation ขอใดแสดงลักษณะของยาแขวนตะกอน ก. อัตราการตกตะกอนเกิดขึ้นอยางชา ข. ความสูงของตะกอนมีความสูงมาก ค.หากเขยาขวดอีกครั้งยาจะสามารถกลับมา เปนเหมือนเดิม 38. แพทยสั่งจายยา Cloxacillin sodium for oral solution sig. 1 tsp. qid. ac&hs ขอใดไมถูกตอง ก. เปนตํารับแบบใชไดทันที (ready to use) ข. ตํารับประกอบดวยตัวยาและสารปรุงแตง เพิ่ม ค.รับประทานครั้งละ 1 ชอนชา วันละ 4 ครั้ง กอนอาหารและกอนนอน ง. เปนตํารับที่โดยทั่วไป ที่ตัวยามักเสื่อมได จ. เปนตํารับที่โดยทั่วไปที่เก็บหลังผสมได 39. Metraproral กับ Metron tartrate ขอใดถูกตอง ก. Metraproral ละลายไดดีใน purified water ข. Metraproral ละลายไดดีใน ..............(มะรุอา มานมาแคนี้) ค. Metraproral ละลายไดดีใน 0.1 N sodium hydroxide ง. Tartrate ละลายไดดีใน 0.1 N sodium hydroxide จ. Tartrate ละลายไดดีใน 0.1 N hydrochloride 40. เภสัชกรทานหนึ่งทําการทดสอบคุณภาพยาน้ําแขวน ตะกอนและคํานวณคา sedimentation ratio ไดเทากับ 0.60 ขอไดกลาวถูกตอง ก. sedimentation ratio เปนคาที่ใชบอกระดับ การเกิด....................(มะบอกอีกแลวจา)
Pharmacy Student Rx’24
491
MCQ ข. sedimentation ratio ไดจากการคํานวณ อัตราสวนของตะกอนระยะเวลาหนึ่งและปริมาตรตะกอน เริ่มตน ค. ผลการประเมินในเบื้องตน พบวาเปนตํารับ ที่ยอม.........(มานมีแคนี้อีกแระ ฮือ ฮือ) ง. ตํารับที่มีคา sedimentation ratio สู.งกวานี้มี แนวโนม.................(เชนเคยอา T_T) 41. สูตรยาตา Rx Boric acid 1.24 g. Sod. Borate 0.02 g. NaCl 0.29 g. Water qs. 100 mL. กําหนดให NaCl มี MW.=58 ถามวา มีคา osmolarity เทากับเทาไร ก. 50 ข. 100 ค. 200 42. ยาตาไมจําเปนตองคํานึงถึงขอใด ก. Tonicity ข. pH ค. Viscosity ง. Buffer 43. ในการเตรียมยาน้ําแขวนตะกอน ในกรณีที่ผงยามี ประจุลบ จะสามารถทําใหผงยาเกิด flocculation โดย ก. เติม electrolyte ที่มีประจุบวก เลือก suspending agent ที่มีประจุลบ ข. เติม electrolyte ที่มีประจุลบ เลือก suspending agent ที่มีประจุบวก ค. เติม polyelectrolyte ที่มีประจุบวก เลือก suspending agent ที่มีประจุบวก ง. เติม polyelectrolyte ที่มีประจุลบ เลือก suspending agent ที่มีประจุบวก จ. เติม anionic surfactant เลือก suspending agent ที่มีประจุลบ
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 44. ยาน้ําแขวนตะกอนที่ดี ควรมีการไหลแบบใด ก. Newtonian flow ข. Psuedoplastic flow ค. Plastic flow ง. Dilatant flow จ. Rheopectic flow 45. ในการเตรียมยารูปแบบ enteric-coated tablet ขอใด เปนคุณสมบัติที่ตองการของ enteric coating polymer ก. ไมยอมใหน้ํายอยในกระเพาะอาหารแทรก ซึมผาน ข. ไมยอมใหน้ํายอยในลําไสเล็กแทรกซึมผาน ค. ไมยอมใหน้ํายอยในกระเพาะอาหารและใน ลําไสเกแทรกซึมผาน ง. ยอมใหน้ํายอยในกระเพาะอาหารแทรกซึม ผาน แตไมยอมใหน้ํายอยในลําไสเล็กแทรกซึมผาน จ. ไมยอมใหน้ํายอยในกระเพาะอาหารแทรก ซึมผาน แตยอมใหน้ํายอยในลําไสเล็กแทรกซึมผาน 46. เตรียมยาเคมีบําบัดในรูปสารละลายเพื่อใหยาทาง หลอดเลือดจะตองเตรียมยาที่ใด ก. clean room class 100,000 ข. clean room class 10,000 ค. clean room class 1,000 ง. horizontal laminar airflow hood จ. biological safety cabinet 47. เมื่อใหแรงอัดกับสารภายในเบา สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ก. bulk volume ลดลง ข. bulk density ลดลง ค. porosity ลดลง ง. plasticity ลดลง จ. granular density ลดลง 48. hard gelatin capsule เบอรที่เล็กที่สุด คือ ก. 000 ข. 1 ค. 2 ง. 4 จ. 5 49. liquid ที่บรรจุใน soft gelatin capsule จะตองไมมี คุณสมบัติใดตอไปนี้ ก. water miscible + volatile
Pharmacy Student Rx’24
492
MCQ ข. water miscible + non volatile ค. water immiscible + volatile ง. water immiscible + non volatile จ. water miscible + oily 50. สารใดที่เตรียมไดจาก seaweed ก. starch 1000 ข. acasia ค. ค.tragacanth ง. algenic acid จ. vee gum 51. clean area คืออะไร ก. ปราศจากเชื้อจุลชีพ ข. ปราศจากฝุนผง ค. ปราศจากจุลชีพและฝุนผง ง. ปราศจากจุลชีพและฝุนผง โดยมีปริมาณตามที่ กําหนด จ. หามพนักงานเขา 52. การผสมที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของกลุมอนุภาคจาก ที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง คือ กลไกใด ก. diffusion ข. adhesion ค. shear ง. convection จ. conduction 53. psychometer charts ใชในการศึกษาเกี่ยวกับ ก. อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ ข. ความเร็วลมและอุณหภูมิ ค. ความเร็วลมและความชื้นสัมพัทธ ง. เวลาและอุณหภูมิ จ. เวลาและความชื้นสัมพัทธ 54. ขอใดไมเกี่ยวของกับ Roller mill ก. fine milling ข. paste and ointment ค. adjustable ……. ง. compression shearing จ. smooth rollers 55. dryer ชนิดใดตองใชระบบสูญญากาศ ก. pneumatic drye ข. spray dryer
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ค. freeze dryer ง. fluidized bed dryer จ. static bed dryer 56. เครื่องอบแหงใดไมมีกองของแข็ง (solid bed) ที่ แทจริง ก. tray ข. rotary double cone dryer ค. fluidized bed dryer ง. spray dryer จ. track dryer 57. ประสิทธิภาพในการแรงขึ้นกับการเคลื่อนที่ของแรง ชนิดการแรงที่ใหประสิทธิภาพสูงสุด คือ ก. rotary motion ข. tumbling motion ค. vibratory motion ง. centrifugation จ. sedimention 58. picking ของการตอกยาเม็ดเกิดจาก ก. ความชื้นสูงเกินไป ข. ความชื้นต่ําเกินไป ค. binder นอยเกินไป (เกิด capping) ง. die ไมเรียบ จ. แรงตอกไมเหมาะสม 59. ยาที่ตองใช dose สูง ไมมีความสามารถในการคงทน จะใชการตอกแบบใด ก. direct compression ข. wet granulation ค. dry granulation ง. ----จ. slugging 60. สารในขอใดที่จะตองมี dilution potential หรือ carrying capacity ที่ดี ก. สารชวยเพิ่มปริมาณ (filler, diluent) ข. สารชวยยึดเกาะ (binder) ค. สารชวยในการไหล (glidant) ง. สารชวยหลอลื่น (lubricant) จ. ตัวยา (active ingredient) 61. ขอใดถูกตองกับการไหลของผงยา (ค) ก. ผงยาเล็กไหลดี
Pharmacy Student Rx’24
493
MCQ ข. ผงยากระจายขนาดมาก ยิ่งไหลดี ค. ผงยาความหนาแนนสูง ยิ่งไหลดี ง. ผงยายึดเหนี่ยวระหวางอนุภาคมาก ยิ่งไหลดี จ. จ.ผิวผงยายิ่งขรุขระ ยิ่งไหลดี 62. การเกิด capping ก. binder นอย ข. ผงยาละเอียดเกินไป ค. ผงหยาบ ง. ขอ ก และ ข จ. ขอ ก และ ค 63. เครื่องยอยขนาดที่ทําใหอนุภาคเล็กละเอียด คือ ก. ball mill ข. oscillating mill ค. wetting mill ง. hammer mill จ. fluid energy mill 64. Rx Paracetamol 500 mg. Lactose 50 mg. PVP K30 15 mg. Magnesium stearate 17 mg. Talcum 3 mg. ถาไมมี magnesium stearate ใชอะไร ก. corn starch ข. sodium alginate ค. hydrogenated vegetable oil (เปน true lubricant เหมือนกัน) ง. microcrystalline cellulose จ. polyethylene glycol 400 65. sucrose ใชเปนสารยึดเกาะจะใหลักษณะแกรนูลเปน อยางไร ก. ทําใหแกรนูลมีความออนนุม ข. ทําใหแกรนูลคอนขางแข็ง ค. ทําใหแกรนูลสามารถดูดความชื้นเพิ่มขึ้น ง. ทําใหแกรนูลออนแตกงาย จ. ขอ ข และ ค 66. ในการทํายาเม็ดตองเติมสารใดชวยไหล ก. disintegrant ข. lubricant ค. glidant
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 67. lubricant ที่ใชในสารที่ละลายน้ําได ก. stearic acid ข. vegetable oil ค. ค.colloidal siliga ง. PEG จ. ---68. กระบวนการ disintegration ก. ลดพื้นที่ทําการละลายของตัวยาในเม็ดยา ข. อาจเปนขั้นตอนกําจัดอัตราเร็วการดูดซึมได เฉพาะบางกรณี ค. เม็ดแตกตัวเร็ว ดูดซึมนอย ง. แตกตัวดีซึ่งสําคัญกวาการละลาย จ. ถูกทุกขอ 69. ผงยาเปยกสมบูรณตองมีคุณสมบัติใด ก. ก.มุมสัมผัส 360 องศา ข. 180 องศา < มุมสัมผัส < 360 องศา ค. 90 องศา < มุมสัมผัส < 180 องศา ง. มุมสัมผัสเทากับ 0 องศา จ. มุมสัมผัส < หรือ = 90 องศา 70. MC เตรียมไดโดย ก. ใสในน้ํารอนกอนน้ําเย็น ข. ใสในน้ําเย็นกอนน้ํารอน ค. ใสน้ําเย็นอยางเดียว ง. ใสน้ํารอนอยางเดียว 71. สารที่ใชไดกับประจุลบและบวก ก. tragacanth ข. MC (ไมมปี ระจุบวก) ค. SCMC (ประจุลบ) 72. MC มีคุณสมบัติที่ดีกวา SCMC คือ ก. hydration 2 ทาง คือ H-bond และ ionic bond ข. ไมมีประจุ ใชกบั ยาไดทุกประเภท ค. ประจุลบ ใชกับสารแขวนตะกอนประจุลบไดดี ง. คงทนตอ electrolyte จ. จะละลายไดดีทั้งน้ํารอนและน้ําเย็น 73. ปฏิกิริยา redox โดย KMnO4 ขอใดผิด ก. ใชหาสารที่เปน oxidizing agent เพราะตัวมัน เปน reducing agent ข. ให electron 5 ตัว ตอ 1 โมเลกุล ค. ตองขจัด MnO2 ออก เพื่อความคงตัว
Pharmacy Student Rx’24
494
MCQ ง. เปน self indication จ. หาความเขมขนของ KMnO4 ดวย sodium oxalate ในกรด 74. ยาน้ํา 5 mL. เติมน้ําใหเปน 50 mL. พบวามียา A 2 mg./mL ถามวายา A มีความเขมขนเปนกี่ % w/v ก. 0.1 ข. 0.2 ค. 1 ง. 2 จ. 10 1 mL. มียา A 2 mg. 50 mL. มียา A 2x50 = 100 mg. 100 mL. มียา A (100x100)/ 50 = 200 mg. = 0.2 g. = 0.2 % w/v 75. polymorph คือ ก. น้ําผลึกตางกัน ข. รูปผลึกตางกัน ค. configuration ตางกัน ง. conformation ตางกัน จ. ขนาดอนุภาคตางกัน 76. Rx Cetomacrogol emulsifying ointment300 g. Propyl paraben 0.8 g. Methy paraben 1.5 g. Benzyl alcohol 15 g. Water, freshly boiled and cooled 682 g. ยาเตรียมเปนรูปแบบใด ก. ointment ข. cream ค. paste ง. emulsion จ. gel 77. ตัวยาใดอาจเกิดปญหาตกตะกอนในน้ํากระสายยาที่ มี pH ดางสูงๆ
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ก. Phenobarbital Na (กรด) ข. NaCl ค. Atropine sulfate ง. Sulfonamide Na จ. KOH (ดางแกไมมีปญหาการละลาย) 78 NaCl เติมลงในยาหยอดตาเพื่ออะไร ก. ปรับใหได isotonic ข. เพิ่มประสิทธิภาพของ preservative ค. ปรับความหนืดของยาเตรียม ง. ปรับ pH ของ solution จ. ถูกทุกขอ 79. BrO3- + 6H+ Br- + 3H2O การคํานวณ equivalent ของ KBrO3 คือ ก. M.W. KBrO3 หาร 6 ข. M.W. KBrO3 หาร 1 ค. M.W. BrO3 หาร 6 ง. M.W. BrO3 หาร 1 จ. M.W. Br หาร 6 80. Recouncilation คืออะไร ก. ตรวจสอบเอกสาร ข. ประเมินความคงตัว ค. ตรวจสอบความถูกตอง ง. ตรวจสอบภายใน จ. ตรวจสอบความสอดคลอง 81. titrate ammonium hydroxide solution ดวย HCl solution ควรใช indicator ใด ก. MO ข. Pheolthalein ค. Thymolpthaline ง. Phenol red จ. Bromothymol bule 82.ถาเติมสารละลาย 0.1 M KCl ในสารละลายที่มี ตะกอน AgCl อยูที่กนภาชนะ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงคือ ก. ตะกอน AgCl เนื่องจากเสียสมดุล ข. ตะกอน AgCl คงตัวมากขึ้น เพราะเกิด common ion effect ค. ตะกอน AgCl ปรับสมดุลใหมไดตะกอนที่มี KCl ผสมอยูดวย ง. ตะกอน AgCl เกาะกันเปนกอนใหญ
Pharmacy Student Rx’24
495
MCQ จ. ตะกอน AgCl หยดเปน colloid เล็กๆ 83.Deviation from Beer’s law เกิดขึ้นจาก ก. เครื่อง spectro มี entrance slit และ exit slit ไมเทากัน ข. สารละลายมีความเขมขนสูงเกินไป ค. polychromatic radiation , สารละลายมี ความเขมขนจางไป ง. polychromatic radiation , chemical reaction , ความเขมขนไมเหมาะสม จ. ความเขมขน .................. ที่ไมสม่ําเสมอ ของเครื่อง 84.Functional group ของสารที่มีพันธะไมอิ่มตัว มักดูด ดกลืนรังสีในชวง UV เรียกวา ก. chromophore ข. auxochrimal ค. bathochrome ง. hypsochrome จ. hyperchrome 85.เทคนิคใดใชหลักการ Galvanic cell ก. Amperomety ข. Coulometry ค. Electrography ง. Potentiometry 86.Triacetin มีคา n20 อยูชวง 1.429-1.430 หมายความ วา ก. มีคา specific rotation ชวง 1.429-1.430 ข. มีคาความหนืดชวง 1.429-1.430 ค. มีคาความหนาแนนชวง 1.429-1.430 ง. มีคาดัชนีหักเหชวง 1.429-1.430 จ. มีคาความถวงจําเพาะชวง 1.429-1.430 87.เครื่องชั่งขอใดเหมาะในการชั่งผงยา 15 g ใหมี น้ําหนักละเอียดถูกตองที่ทศนิยมตําแนงที่ 3 ของหนวย g ก. ความจุสูงสุด 10 g ละเอียด 0.1 mg ข. ความจุสงู สุด 15 g ละเอียด 1 mg ค. ความจุสูงสุด 30 g ละเอียด 1 mg ง. ความจุสูงสุด 15 g ละเอียด 10 mg จ. ความจุสูงสุด 20 g ละเอียด 10 mg
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 88.ถาตองการเตรียมสารละลายมาตรฐานความเขมขน 120 mg/ml จํานวน 10 ml เลือกเครื่องชั่งแบบใด ก. top loading electronic balance ละเอียด ทศนิยม 3 ตําแหนง ข. single pan equal arm balance ละเอียด ทศนิยม 3 ตําแหนง ค. single pan equal arm balance ละเอียด ทศนิยม 2 ตําแหนง ง. single pan equal arm balance ละเอียด ทศนิยม 4 ตําแหนง จ. two pan equal arm balance ละเอียด ทศนิยม 2 ตําแหนง 89.หา accuracy ปกติรายงานเปนคา ก. %RSD ข. %recovery ค. confident internal limit ง. correlation coefficient จ. ไมมีขอใดถูก 90. 2.00+1.5+10.88 เทาไร ตามเลขนัยสําคัญ ก. 14.38 ข. 14.40 ค. 14.4 ง. 1.4 * 101 จ. 14.3 91.precision หาไดจาก ก. %recovery ข. linearity ค. regardness ง. %relative standard deviation จ. ถูกทุกขอ 92. คา pH เมื่อ [H+] = 3.2 * 10-3 pH = -log3.2 * 10-3 = 2.4949 นัยสําคัญควรเปน ก. 2 ข. 2.4 ค. 2.49 ง. 2.494 จ. 2.4949 93.หาน้ําหนักหลังอบตองอบตามอัตราสวนที่กําหนด ทําซ้ําตอเนื่อง น้ําหนักครั้งสุดทายตางกันไมเกิน
Pharmacy Student Rx’24
496
MCQ ก. 0.00 mg ข. 0.10 mg ค. 0.50 mg ง. 1.00 mg จ. 1.10 mg 94.การอานปริมาตรสารละลาย 26 ml ที่บรรจุอยูในบิว เรต 50 ml คาปริมาตรที่ถูกตองที่สุดในการบันทึกผล คือ ก. 26 ข. 26.0 ค. 26.00 ง. 26.000 จ. 26.0000 95. การอานปริมาตรสารละลายที่บรรจุอยูในบิวเรต ทํา ไดโดย ก. อาน upper หรือ lower menicus ก็ได ข. อาน upper เลย ค. ยกแปน buret เขาหาแสงอาน lowest ง. ยกแปน buret เขาหาแสงอาน upper จ. ใหดานหลัง buret ทึบแสงแลวอาน lowest 96.นํายาน้ํามา 5.0 ml เติมนําครบ 50 ml มี A=2 mg/ml ยาน้ํานี้ประกอบดวยตัวยากี่% ก. 0.1% w/v ข. 0.2% w/v ค. 1% w/v ง. 2% w/v จ. 10% w/v 97.การตรวจสอบความถูกตองของกระบวนการผลิตแบบ ปราศจากเชื้อ ก. ตรวจสอบเฉพาะสภาพแวดลอมและฝุนและ เชื้อจุลินทรีย ข. ตรวจสอบเฉพาะประสิทธิภาพการทํางาน ตูอบเชื้อ ค. ตรวจสอบเฉพาะ media fill ง. ตรวจสอบความถูกตองของระบบการกรอง จ. ถูกทุกขอ 98. 2° standard คือ ก. สารละลายที่ใชคูกับ 1° standard เพื่อหา ความเขมขนของสารตัวอยาง
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ข. สามารถหาความเขมขนของสารนี้ไดโดย การชั่งโดยตรง ค. มีความบริสุทธิ์สูง และมีสารปนเปอนนอย กวา 0.01-0.02% ง. หาปริมาณความเขมขนไดจาก 1° standard จ. เปนสารละลายที่ใชเปนสารละลายอางอิง ของ 1° standard 99. mobile phase ที่ใชใน HPLC ตองการ degas กอน เพื่อ ก. ไมใหเกิดฟองอากาศใน pump และ detector ข. ไล oxygen ใน mobile phase ไมใหทํา ปฏิกิริยากับสารตัวอยางและ stationary phase ค. ใหการไหลของ mobile phase สม่ําเสมอ ง. 1 และ 3 ถูก จ. 1,2 และ 3 ถูก 100. ทดสอบ HPLC วาเหมาะใชงานดวยอะไร ก. asymmetric factor ข. no. of theoretical plate ค. asymmetric factor และ no. of theoretical plate ง. capacity factor จ. selective factor 101. KMnO4 ใน buret อานอยางไร ก. upper or lower ก็ได ข. อาน upper ไดเลย ค. หันเขาหาแสงอาน upper ง. หันเขาหาแสงอาน lower 102. วิธีการขอใดตอไปนี้ที่ทําใหเราทราบวา ASA ที่เก็บ ไวระยะเวลามีความคงตัวตัวหรือไม ก. TLC ตรวจ spot ของสารตัวอยางเทียบกับ สารมาตรฐานจะพบ spot อื่นดวย ข. IR โดยเปรียบเทียบ spectrum ของ sample เทียบกับ spectrum standard พบวา peak ของ C=O (ester) มีขนาดเล็กลงหรือหายไป หรือพบ OH peak ค. UV โดยวัดการดูดกลืนแสงของสารตัวอยาง เทียบกับสารมาตรฐาน จะได แลมดา max แตกตางกัน ง. 1 และ 2
Pharmacy Student Rx’24
497
MCQ จ. 1 และ 3 103.ถาตองการผงยาเตรียมยาแขนตะกอน ทานควร ทราบ ก. sieve diameter ข. surface diameter ค. stoke° s diameter ง. projected diameter จ. volume-surface diameter 104.สารขอใดเปนสารลดแรงตึงผิวชนิดไมมีประจุ ก. cetylpyridinium chloride ข. polyoxythylene sorbital monoleate ค. triethanolamine stearate ง. sodium lauryl sulfate จ. dioctyl sodium sulfasuccinate 105.การยอยขนาด camphor เพื่อยอยขนาด alcohol เรียกวา ก. grinding ข. crushing ค. pulverization of intervention 106. ขอใดเปนการเสื่อมสลายทางเคมีของยา ก. ตัวยาสําคัญเปลี่ยนรูปไปเปน polymorph ที่ มี MP สูงขึ้น ข. การเกิด caking ในยาน้ําแขวนตะกอน ค. ตัวยาสําคัญเกิดการดูดซับไปโดยภาชนะ บรรจุ ง. ตัวยาสําคัญเกิดการสูญหายไปโดยการ ระเหยออกผานภาชนะบรรจุ จ. การไมเขากันระหวางตัวยาสําคัญกับสาร ชวยในตํารับ 107. การทํายาฉีดเขาไขสันหลังตองทําในรูปแบบใด ก. solution ข. jelly ค. suspension ง. emulsion จ. coalescence 108.ถาตัวยาไมละลายและตองการผสมยาเขากับครีม ชนิด w/o emulsion ตอใชอะไรเปน dispersing agent ก. glycerine ข. mineral oil
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review ค. isopropyl myristate ง. alcohol จ. ไดทุกตัวแลวแตชนิดของยา 109 .สารใดตอไปนี้ทําหนาที่เปนทั้งสารเพิ่มปริมาณ (bulking agent) และสารชวยแตกตัว (disintegrant) ก.Lactose ข.Magnesium sulfate ค.Microcrystalline cellulose ง.Corn starch จ.Sodium lauryl sulfate จ. – 110. pH = 3.2 x 10-2 = 2.494 เขียนคําตอบเฉพาะ นัยสําคัญ ก. 2.4 ข. 2.49 ค. 2.494 ง. 2.5 จ. – 111. aqueous solution ใชยาพื้นใด ก. simple ointment ข. vanishing cream ค. white ointment ง. hydrophilic ointment USP จ. hydrophilic petrolatum USP 112. topical inflammatory ตองการใหยาปลดปลอย ที่ใด ก. หนังกําพรา ข. หนังแท ค. ไขมันใตผิวหนัง ง. หลอดเลือดใตผิวหนัง จ. ขี้ไคล 113. การใช natural gum เปนสารกอเจล ตองใช สารใดเปนตัวชวยในตํารับ ก. เกลือ ข. alcohol ค. antioxidant ง. สารแตงสี จ. สารกันบูด
Pharmacy Student Rx’24
498
MCQ 114. Dosage form ใดที่เปนปญหาดาน bioavailability มากที่สุด ก. sustain release ข. suspension ค. syrup ง. enteric coat จ. solution 115. ยาชนิดหนึ่งมีผงยาสีขาว ไมมีกลิ่น รสขม มีคา การละลาย 1:7000 จะเตรียมใหเด็กโดยมีความ เขมขน 1g/tsp เตรียมในรูปแบบใด ก. solution ข. suspension ค. syrup ง. water in oil จ. elixir 116. CMC 2 g Alcohol 35 g Perfume q.s. Water q.s. 100 ได solution มีตะกอนขุน สีขาวเยอะ เพราะ ก. CMC เปน hydrophobic ข. มี counter ion มากเกินไป ค. Alc. แยงการละลาย perfume ง. Alc. เปน coacceration จ. ถูกทุกขอ 117. LAL ทํามาจากอะไร ก. ปู ข. แมงดาทะเล ค. กั้ง ง. E.coli 118. polar solution มีคุณสมบัติ ยกเวน ก. ละลาย polar ไดดี ข. dipole molecule ค. ไมละลายใน hydrophilic compound ง. เขากับ semipolar solution จ. คา dielectric constant ลดลง
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 119. NaCl ละลายไดดีในอะไร ก. non polar ข. polar ค. semipolar ง. dipolar จ. ละลายไดทุกอัน 120. pH=6 hydroxy group เทากับเทาไร ก. 10-3 ข. 10-6 ค. 10-8 121. คุณสมบัติของ water for injection ยกเวน ก. น้ําทํามาจาก reverse osmosis ข. ปราศจากเชื้อ ค. ปราศจาก pyrogen ง. คุณสมบัติเหมือน purify water 122. การเกิดลักษณะ cap locking ของ syrup มากเกิด จากสาเหตุใด ก.ตัวยาสําคัญละลายน้ําไดนอย ข. มีสวนผสมของ sucrose มากเกินไป ค. ใช sorbital จึงตกผลึก ง. ทําใหเกิดการระเหยตัวชา 123. Rx Cresol Vegetable oil KOH Alcohol Cresol ละลายน้ํา ได solution ใส เพราะ ก. vegetable oil ชวยละลาย Cresol ข. Alc. ชวยละลาย Cresol ค. KOH ทําใหมี pH สูงขึ้น ง. เกิด Sponification ได soap ชวยละลาย จ. KOH ทําปฏิกิริยากับ Cresol 124. Rx Lindane 10 g Emulsifying wax 90 g Larvender oil 10 mL Xylene 150 mL Water 1000 mL ควรเตรียมโดยวิธีใด ก. wet method
Pharmacy Student Rx’24
MCQ
499 ข. ค. ง. จ. Rx
dry method beaker bottle ถูกทุกขอ 125. white bee wax 2% Stearic acid 8% Almond oil 20% Borax 5% Paraben wax 1% Water 100 ถาผสม salicylic จะเกิดอะไร ก. phase invasion ข. flocculation ค. creaming ง. cracking จ. caking 126. Flurosemide injection ตองการ pH=7.5 ตองใช buffer ตัวใดในการเตรียม ก. pKa ≈ 2 ข. pKa ≈ 4 ค. pKa ≈ 7 ง. pKa ≈ 9 จ. pKa ≈ 12 127. Rx Cetomacrogel 300 g Propylparaben 0.8 g Methylparaben 1.5 g Benzyl alc. 15 g Water 682 g เปนรูปแบบใด ก. ointment ข. cream ค. paste ง. emulsion จ. gel
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 128. Rx
ZnO2 Talc Stearic a.a. 50 Lanolin Petrolatum a.a. q.d. ad 60 m.ft.ung ใช Petrolatum กี่กรัม ก. 22.5 ข. 25.0 ค. 40.0 ง. 55.0 จ. 60.0 129. การเตรียมยาเหน็บที่ละลายไดในน้ําใชยาพื้นใด ก. PEG base ข. Glycerin ค. Fatty substitute ง. Tween 60 + span 40 จ. ทั้ง 1 และ 2 130. ยาละลายน้ําไดนอยตองใชตัวชวยอะไร ก. HLB ต่ํา ข. HLB สูง ค. ε ต่ํากวาน้ํา ง. ε สูงวาน้ํา จ. ความหนืดสูง 131. Rx Cetrimide 5 g Cetosterol 50 g Liq. paraffin 500 g Purified water 1000 สาร emulsion หลัก คือ ก. Cetrimide ข. Cetosterol ค. Cetrimide and Cetosterol ง. SES จ. ไมมี 132. การเกิด reduction ของกลุม chromophore ของ สารแตงสี มักทําใหเกิดลักษณะไมคงตัวของสารแตงสี คือ ก. สีตกตะกอน ข. สีเปลี่ยน
Pharmacy Student Rx’24
500
MCQ ค. สีละลายไดนอย ง. สีเพิ่มขึ้น จ. สีซีดจางไป 133. I2 5% KI 10% Purified water ขอใดถูก ก. I2 ละลายน้ําไดสีน้ําตาลแดง ข. KI เกิด complexation กับ I2 ค. เกิด micelle 134. ในการเตรียม gel น้ําใสของยาที่มีการละลายน้ําได นอย ใชสารใดชวยในการละลาย ก. Tween 20 ข. Glycerin ค. Ethanol ง. PEG 400 จ. ถูกทุกขอขึ้นกับตัวยาที่ใชในตํารับ 135. การศึกษาความคงตัวของยา ถาความเขมขนของ ยา pH-rate profile มีคา...........แสดงวาสารใดเปนตัวเรง การสลายของตัวยา ก. H3Oข. OHค. H2O ง. H3 PO4 จ. H2 PO4 136. ถากินยาที่มีฤทธิ์เปนกรดที่ละลายไดนอย มี pKa=4 ผลลัพธที่ไดคือ ก. ละลายน้ํามากในกระเพาะ ข. ละลายน้ํามากในทองวาง ค. ละลายไดมากขึ้นในลําไสมากกวากระเพาะ ง. ยาละลายไดนอยในทางเดินอาหาร จ. ยาละลายไดเทาเดิมในทางเดินอาหาร 137. โรงงานอุตสาหกรรม ใหการปดผนึกแอมพูลแบบ ใด ก. Pull seal ข. Tip seal ค. Twist seal ง. Cut seal
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 138. การเสื่อมสลายของยามีอะไรบางที่เปนการเสื่อม ทางเคมี ก. ดูดซึมเขาไปทางเคมี ข. เกิดเยิ้มเหลว ค. เปลี่ยน ionized form เปน unionized form 139. สารทําอิมัลชั่นควรมีคุณสมบัติแบบใด ก. Pseudo ข. Pseudo + thixology ค. Plastic ง. Newtonian จ. Dilatant 140. Tween กับ Peppermint spirit ใชคุณสมบัติอะไร ก. Micelle ข. Emulsifier ค. Levigating ง. Colloid 141. คาอัตราเร็วของการละลายดูจากคาใด ก. Cmax ข. Tmax ค. AUC ง. Cmax and AUC จ. ไมมีขอใดถูก 142. gel ที่เปนยาเตรียมสําหรับตัวยาที่ละลายน้ําได นอยควรเปนยาพื้นแบบใด ก. Isopropyl myristate ข. Glycerin ค. Silicone ง. Mineral oil 143. ตํารับถูนวดใหกระจายดี อยูตัวนาน ดูดซึม พอใชได ใชในยาเตรียมลักษณะใด ก. น้ํามัน ข. น้ํา ค. น้ํา + alc ง. alc จ. น้ํามัน + alc 144. สารในขอใดที่ตะกอนใหตัวทําละลายที่มี pH เปน กรดออน (ขอสอบเกา) ก. Atropine sulfate
Pharmacy Student Rx’24
501
MCQ ข. Phenobarbital sol ค. Potassiumhydroxide 145. pH ของน้ํายาที่มีผลตอประสิทธิภาพของ preservative ใด ก. Benzoic acid ข. PP ค. MP ง. Phenylethyl alc จ. Chlobutanol 146. Rx Ibuprofen 0.1 g Paraben conc. 1 mL Sunset yellow q.s. Simple syrup q.s. 100 mL m.ft. syrup ..............................ละลายน้ําไดนอยมาก ตองการได syrup สารที่อาจเพิ่มการละลาย คือ ก. PEG 400 ข. Lemon tincture ค. Cetyl alcohol ง. Stearyl alcohol จ. Mineral oil 147. ขอใดผิดเกี่ยวกับการเตรียมยาเม็ดดวยวิธี wet granulation 1 ชวยลดปญหาเรื่อง content uniformity ของ ยาที่มีความแรงสูง (potent drug) 2 ยาที่นํามาเตรียมตองไมไวตอปฏิกิริยา hydrolysis 3 ไมตองใชแรงตอกอัดสูงเหมือนวิธี direct compression 4 การควบคุมขนาดแกรนูลทําโดยนํามาแรง 5 สามารถเติมสารหลอลื่นในขั้นตอนกอนทํา แกรนูลได 148. เนื่องจากยามีรสชาติและกลิ่นไมดี รวมทั้งตองการ ใหไปดูดซึมที่ลําไสเล็ก ดังนั้นควรทํายาในรูปแบบใด 1 plain tablet 2 film coated tablet 3 sugar coated tablet 4 enteric coated tablet 5 chewable coated tablet
Khon Kaen University
Comprehensive Pharmacy Review 149. ถากําหนดใหตัวยารักษาวัณโรคตัวหนึ่งมีคุณสมบัติ ดังนี้ - ความแรงของยาคือ 100 mg ตอเม็ด - ผงยามีคุณสมบัติในการไหล (flowability) และ การยึดเกาะ (compressibility) ไมดี - ทนตออุณหภูมิที่สูงกวา 150 องศาเซลเซียส ได - ไมไวตอปฏิกิรยิ า hydrolysis - ไมทนตอกรดในกระเพาะอาหาร วิธีการเตรียมยาเม็ดในขอใดที่ไมควรเลือกใช 1 wet granulation
Pharmacy Student Rx’24
502
MCQ 2 dry granulation 3 direct compression 4 film coating 5 enteric coating 150. ขอใดผิดเกี่ยวกับการผลิตยาแคปซูล rifampicin 1 ชวยกลบกลิ่น และรสที่ไมดีของตัวยา 2 จําเปนตองมีสารชวยยึดเกาะ (binder) 3 ผงยา และสารชวยควรมีคุณสมบัติในการไหลที่ดี 4 ไมเหมาะในการบรรจุผงยาที่ละลายน้ําไดดีมากๆ 5 มีการควบคุมคุณภาพเชนเดียวกับยาเม็ด
Khon Kaen University