1 นิ พนธ์ตน ้ ฉบับ ผลของสารแขวนตะกอนที่มีผลต่อการแขวนตะกอนของ อุไรวรรณ เพชรจรัลไพศาล
Ibuprofen Suspension
, เพชรพงศ์ เพชรี , ศิริศกั ดิ ์ ดำารงพิศุทธิกลุ
ภาควิชาเภสัชอุตสาหกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บทคัดย่อ
:
โดยคุณสมบัติของตัวยาไอบรูโพรเฟน
(Ibuprofen)
เป็ นสารที่ไม่ละลายนำ้ าและเปี ยกนำ้ ายาก
จึงควรที่จะนำ ามาพัฒนาในรูปยานำ้ าแขวนตะกอน ซึ่งต้องมีการใช้สารทำาให้เปี ยกคือ
sulfate
โดยเตรียมในความเข้มข้น
1 % w/v
Sodium
lauryl
ในนำ้ า และใช้ในปริมาณทีน ่ ้ อยที่สด ุ เท่าที่จะทำาให้เปี ยกได้
(Flocculating agent ) ที่ประจุตรงข้ามนัน้ คือประจุบวก จึงเลือกใช้ Aluminiun chloride ในการทดลองนี้จะ ทำาการศึกษาผลของสารแขวนตะกอนทีม ่ ีผลต่อการแขวนตะกอนผงยาไอบรูโพรเฟน ความเข้มข้น 100 mg / 5 ml โดยการเลือกใช้สารแขวนตะกอนเพียงชนิดเดียวได้แก่ Tragacanth , Avicel RC – 591 , Xanthan gum , HPMC ( Hydroxypropyl methylcellulose ) 4000 , HPMC 5000 , Methylcellulose 1500 ใน ปริมาณต่างๆกัน และการใช้สารแขวนตะกอน 2 ชนิ ดร่วมกันเช่น Tragacanth ร่วมกับ HPMC 4000 , HPMC 4000 ร่วมกับ Avicel RC – 591 , Avicel RC – 591 ร่วมกับ Methylcellulose 1500 ในปริมาณต่างๆกัน รวมถึงการใช้ PEG (Polyethylene glycol ) 400 ช่วยในการแขวนตะกอนด้วย สำาหรับสารแขวนตะกอนที่มคี วาม เหมาะสมที่สุดคือ Methylcellulose ปริมาณ 2 % ซึ่งเป็ นตำารับที่ไม่เกิดการตกตะกอนภายใน 1 สัปดาห์ และให้ค่า Sedimentation volume ( F ) เท่ากับ 1 ผงยาที่ได้มีขนาดเล็กสวยงามและ มีการกระจายตัวอย่างสมำ่าเสมอ รองลงมาอีกชนิ ดหนึ่ งคือ Xanthan gum ปริมาณ 0.5 % ซึ่งเป็ น ตำารับที่ไม่เกิดการตกตะกอนภายใน 1 สัปดาห์ เช่นกัน และการใช้สารแขวนตะกอน 2 ชนิ ดร่วมกัน พบว่าสูตร ตำารับที่มีความคงตัวและน่ านำ าไปพัฒนาต่อคือ HPMC 4000 1% ร่วมกับ Avicel RC-591 2% , Avicel RC-591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 1% , Avicel RC591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 2% ทัว่ เท่านั ้น
กุญแจคำา บทนำ า
เนื่ องจากตัวยาเองมีประจุลบจึงต้องเลือกใช้สารทำาให้เกิดฟลอคคูล
: ไอบรูโพรเฟน , ยานำ้าแขวนตะกอน , สารแขวนตะกอน ยานำ้ าแขวนตะกอน เป็ นยา
2 ชนิด คือ วัฏภาคภายใน ( Internal phase หรือ Dispersed phase ) ซึ่งเป็ นของแข็ง ชนิ ดไม่ละลาย ขนาดประมาณ 0.5 – 50 เตรียมรูปแบบของเหลวที่มีวัฏภาคต่างกัน
ไมโครเมตร
กระจายหรือแขวนลอยอยู่ในวัฏภาค
( External phase หรือ Dispersion medium ) ซึ่งเป็น ภายนอก
ของเหลว ยาแขวนตะกอนแบ่งเป็ นชนิ ดต่างๆได้ หลายวิธด ี งั นี้
2 1.
แบ่งตามทางบริหารยาของยาแขวนตะกอน มี
5 ชนิดดังนี้ 1.1 ยาแขวนตะกอนชนิดรับประทาน ( Oral Suspensions ) ประกอบ ด้วยตัวยาและสารปรุงแต่งต่างๆ
1.4 ยาแขวนตะกอนชนิดหยอดตา ( Opthalmic Suspensions ) เป็ นยาแขวนตะกอน ประเภทไร้เชื้อเช่นกัน ประกอบด้วยตัวยาขนาด
1 – 5
เล็กประมาณ ไมโครเมตร เพื่อ ป้ องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองจากการใช้ยา หยดทานั ้น ตัวอย่างเช่น
มักนิ ยมใช้
Syrup และ Sorbitol หรือ นำ้าเป็ นนำ้า
กระสายยา ยาแขวนตะกอนชนิ ดรับประทาน อาจมีขนานดใช้เป็ นช้อนโต๊ะ ช้อนชา หรือ หยด หรืออาจเรียกยาแขวนตะกอนชนิ ดรับ ประทานบางตำารับเป็ น ยาแมกมา
( Magmas ) ตัวอย่างเช่น Aluminium and Magnesia Oral Suspension USP. , Ampicillin for Oral Suspension USP. 1.2 ยาแขวนตะกอนชนิดที่ใช้เฉพาะที่ ( Topical Suspensions ) ใช้
Dexamethasone Opthalmic Suspension USP. , Tetracycline Hydrochloride Opthalmic Suspension USP. 1.5 ยาแขวนตะกอนชนิดฉี ด ( Parenteral Suspensions ) เป็ นยาแขวนตะกอนประเภทไร้เชื้อประกอบ
5
ด้วยตัวยาขนาด ไมโครเมตร และใช้ฉีดเข้า กล้ามเนื้ อหรือใต้ผิวหนั งเท่านั ้น ตัวอย่างเช่น
Sterile Ampicillin for Suspension USP. ,Sterile Dexamethasone Acetate Suspension USP.
เป็ นยาแขวนตะกอนที่ใช้เฉพาะภายนอก ประกอบด้วยตัวยาที่ขนาดเล็กละเอียดมาก เพื่อลดการละคายเคืองต่อผิวหนั งที่ใช้ยา และ เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวของผงยาที่สม ั ผัสกับผิวหนั ง ตัวยาจึงถูกดูดซึมผ่านเข้าผิวหนั งได้ดีและออก ฤทธิได้ ์ เร็ว ยาแขวนตะกอนชนิ ดนี้อาจเติม
Glycerin เพื่อช่วยทำาให้ผิวหนังช่มุ ชื้น หรือเติม Alcohol เพื่อช่วยให้รู้สึกเย็น สบายเวลาทายา ยาแขวนตะกอนชนิ ดที่ใช้ เฉพาะภายนอกนี้อาจเรียกว่า ยาทาผิว
( Lotions ) ตัวอย่างเช่น Calamine Lotion USP. , Salicylic Acid Lotion BP. 1.3 ยาแขวนตะกอนชนิดหยอดหู ( Otic Suspensions ) เป็นยาแขวนตะกอน ประเภทไร้เชื้อ
ประกอบด้วยตัวยาขนาดเล็ก
Colistin and Neomycin Sulfates and Hydrocortisone Acetate Otic Suspension USP. , Neomycin Sulfate Hydrocortisone Otic Suspension USP. เป็ นไมโครเมตร ตัวอย่างเช่น
2.แบ่งตามลักษณะเภสัชภัณฑ์ มี 2 ชนิดคือ 2.1 ยาแขวนตะกอนชนิดสำาเร็จรูป เป็นยาแขวน ตะกอนที่มล ี ก ั ษณะเป็ นยานำ้ า นำ ามาใช้ได้ทน ั ทีภาย หลังจากเขย่าขวดให้ตัวยากระจายตัวอย่างสมำ่าเสมอ แล้ว
อาจเป็ นยาแขวนตะกอนชนิ ดรับประทาน
, หยอดตา , หรือยา ฉี ดก็ได้ ตัวอย่างเช่น Acetaminophen Oral Suspension USP. , Sterile Estradial Suspension USP. 2.2 ยาแขวนตะกอนชนิดผงผสมแห้ง เป็ นยา ใช้เฉพาะที่
,
,
หยอดหู
แขวนตะกอนที่มล ี ักษณะเป็ นผงยาหรือ ประกอบด้วยตัวยาหลัก แต่งสี – กลิ่น – รส
,
,
,
แกรนูล
สารแขวนตะกอน สารถนอม
,
,
สาร
สารช่วย
กระจายตัว และสารอื่นๆที่เหมาะสม เมื่อ ต้องการใช้ยาแขวนตะกอนชนิ ดนี้ ต้องเติมนำ้ าเดือด ที่เย็นแล้วหรือนำ้ าบริสท ุ ธิเป็ ์ นกระสายยาตาม ปริมาณทีก ่ ำาหนดไว้ และเขย่าให้ผงยากระจายตัว เป็ นยาแขวนตะกอน ยาแขวนตะกอนชนิ ดนี้ก็เช่น เดีวกับยานำ้ าใสชนิ ดผงผสมแห้ง ภายหลังจากผสม เป็ นยานำ้ าแล้วต้องเก็บในต้เู ย็น เพื่อให้ยาแขวน
3 1-2
ตะกอนมีความคงตัวได้นาน สัปดาห์ ยา แขวนตะกอนชนิ ดนี้มค ี ำาว่า “ สำาหรับ ” อย่ใู นชื่อ ตำารับยา และอาจเป็ นยาแขวนตะกอนชนิ ดรับ
, หยอดตา หรือฉี ดก็ได้ ตัวอย่างเช่น Amoxicillin for Oral Suspension USP. , Chloramphenical and Hydrocortisone Acetate for Ophthalmic Suspension USP. ประทาน
คุณสมบัติของยานำ้ าแขวนตะกอนที่ดี
1. 2.
ขนาดผงยาต้องเล็กสมำ่าเสมอ มีขนาดพอ เหมาะกับชนิ ดของยานำ้ าแขวนตะกอนนัน ้ ๆ และขนานดของผงยาไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อตัง้ ทิง้ ไว้นานๆ ผงยากระจายตัวในนำ้ ากระสายยาอย่าง สมำ่าเสมอ และไม่ตกตะกอนแยกชัน ้ เร็วจน เกินไป
1. Stoke V v = / วินาที ) r = ρ1 = มิลลิเมตร
’s
= 2 r2 ( ρ1 –ρ 2 ) g 9η อัตราการตกตะกอน ( เซนติเมตร ( เซนติเมตร ) ความหนาแน่ นของผงยา ( กรัม /
รัศมีของผงยา
)
จากสมการแสดงว่าหากจะให้ตำารับ ยาที่มค ี วามคงตัวดีก็ตอ ่ เมื่ออัตราการตกตะกอนลด ลง ซึ่งอาจทำาได้โดยการลดขนาดผงยา หรือการเพิ่ม ความหนาแน่ นของตัวกลาง หรือการใช้สาร
( Suspending agent )
แขวนลอย เพื่อเพิ่มความหนื ดแก่ตำารับในการแขวนลอยผงยา หลักการทาง
4.
เมื่อตัง้ ทิง้ ไว้ ผงยาอาจเกิดการตกตะกอนอย่าง ช้าๆ และตะกอนนั ้นต้องไม่รวมตัวหรือจับตัว เป็ นก้อนแข็งอย่ก ู ้นขวด เมื่อเขย่าเบาๆ ผงยาที่ ตกตะกอนต้องกลับกระจายตัวได้ดีเหมือนเดิม มีลก ั ษณะการไหลหรือความหนื ดที่เหมาะสม กับชนิ ดหรือ วิธก ี ารบริหารยานำ้ าแขวนตะกอน นัน ้ เช่น ยาแขวนตะกอนชนิ ดรับประทาน ควร
,
5. 6.
รินออกจากขวดได้ง่าย ชนิ ดทีใ่ ช้เฉพาะที่ ควรทาติดผิวหนั งได้เรียบและสมำ่าเสมอ มีความคงตัวดี ง่าย
Thermodynamic
ไม่สลายตัวหรือแปรสภาพได้
มีลก ั ษณะดี มีสี กลิ่น รส น่ ารับประทาน หรือมี ลักษณะน่ าใช้ เป็ นที่ยอมรับของผู้ป่วย ยานำ้ าแขวนตะกอนเป็ น
Heterogenous system
ประกอบ ด้วยตัวยากระจายตัวอย่ใู นของเหลว ดังนั ้นการเตรี ยมให้ได้ตำารับยาที่คงตัวดีก็คอ ื ผงยาสามารถแขวน ตัวลอยในของเหลวได้และจะกระจายตัวได้ดีเมื่อ เขย่า ซึ่งทฤษฏีทใ่ี ช้อธิบายเกี่ยวกับความคงตัวของ ตำารับยานำ้ าแขวนตะกอนมีดงั นี้
∆ F
Law
ρ2 = ความหนาแน่ นของตัวกลาง ( กรัม / มิลลิเมตร ) g = แรงโน้ มถ่วง ( 980 เซนติเมตร 2 / วินาที ) η = ความหนื ด ( พอยส์ )
1.
3.
∆F γSL
=
= =
ภาคตัวกลางกับผงยา
∆A
γSL . ∆ A
พลังงานอิสระที่พ้น ื ผิว แรงตึงผิวระหว่างวัฏ
( ไดน์ / เวนติเมตร )
=
พื้นที่ผิวที่เพิ่มขึ้น จะพบว่าการที่ผงยามีขนาดเล็ก จะ ลดอัตราการตกตะกอนได้แต่จะทำาให้พ้น ื ที่ผิวและ พลังงานอิสระเพิ่มขึน ้ ด้วย ดังนั ้นผงยาที่เกิดจาก การรวมตัวจับกันเป็ นก้อนแข็ง เพราะฉะนั ้นการจะ ทำาให้ผงยามีความคงตัวได้นัน ้ ก็ต้องทำาโดยทำาให้ พลังงานอิสระที่พ้น ื ผิวเข้าใกล้หรือเท่ากับศูนย์ ซึ่ง ทำาได้โดย
1.
ลดแรงตึงผิวระหว่างวัฏภาคตัวกลางกับผงยา โดยการเติมสารลดแรงตึงผิวลงผสมกับผงยา ซึ่งสารลดแรงตึงผิวจะทำาหน้ าที่เป็ นสารทำาให้
( Wetting agent )
2.
เปี ยก โดยจะ ถูกดูดซับที่ผิวของผงยา ทำาให้แรงตึงผิวระ หว่างวัฏภาคตัวกลางกับผงยาลดลง ดังนั ้น พลังงานอิสระที่พ้น ื ผิวลดลง ทำาให้การรวมตัว ของผงยาลดลงด้วย ลดพื้นที่ผิวโดยการทำาให้ผงยารวมตัวกันเป็ น ก้อนใหญ่ท่รี วมตัวกันอย่างหลวมๆ เรียกว่า
( Floccules) ซึ่งยึดกันด้วย แรงอ่อนๆ เช่น Van der Waal force เป็นต้น โดยการเติมสารที่เรียกว่า ฟลอคคูล
สารทำาให้เกิดฟลอคคูล
4 ( Flocculating agent )
เมื่อ ผงยามีขนาดใหญ่ขน ึ้ พื้นที่ผิวก็จะลดลง ดัง นัน ้ ค่าพลังงานอิสระพื้นผิวลดลงจึงเกิดความ คงตัวมากขึน ้ ส่วนประกอบของตำารับยานำ้ าแขวนตะกอน
Active ingredient Wetting agent Flocculating agent Suspending agent Flavor and Color Sweetener Preservative Purified water ในการตัง้ ตำารับยานำ้ าแขวน ตะกอนจำาเป็ นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับส่วน ประกอบต่างๆของตำารับเพื่อนำ าไปสู่การพัฒนา ตำารับที่มค ี วามคงตัวดีและลักษณะสวยงามน่ าใช้ ดังนี้คือ
1.
(Active )
ตัวยาหลัก
ingredient 1.1 คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพของตัวยา เช่น ประจุ , ค่าการละลาย , ความคงตัว เป็ นต้น 1.2 วิธก ี ารลดขนาดผงยา 1.3 การเปี ยกนำ้ าของผงยา 1.4 การทำาให้เกิดฟลอคคูลของผงยา 1.5 จำานวนของผงยา 2.
สารทำาให้เปี ยก
agent
(
Wetting )
ในกรณีท่ผ ี งยาเปี ยกนำ้ ายาก ก็ใช้สารทำาให้ เปี ยกผสมกับผงยาก่อน แล้วจึงเติมสารตัวอื่นลงไป
Surfactant , Glycerin , Propylene glycol ตัวอย่างเช่น
ซึ่งควรคำานึ งถึง
2.1 ได้
2.2
ควรเลือกสารลดแรงตึงผิวชนิ ดที่รับประทาน ถ้าเป็ นตำารับที่ใช้รับประทาน
ทราบถึงความคงตัวของตัวยาในสารลดแรง ตึงผิวและความคงตัวของสารอื่นๆ
2.3
ใช้จำานวนให้พอเหมาะ ถ้าใช้มากเกินไปอาจ เกิดเป็ นก้อนแข็งได้
3.
สารทำาให้เกิดฟลอคคูล
(Flocculating agent ) คำานึ งถึง
3.1 3.2
ประจุ
โดยใช้ประจุตรงข้ามกับผงยา
ความเข้ากันได้กับยาหลัก
ตำารับ
3.3 3.4 4.
ต้อง
และสารอื่นใน ความเข้มข้น ความปลอดภัย
(Suspending
สารแขวนลอย
agent ) ต้องคำานึ งถึง 4.1 ความประสงค์ของตำารับจะใช้ในทางใด 4.2 ปริมาณผงยาที่ถก ู แขวนลอย 4.3 คุณสมบัตทิ างเคมีและกายภาพของตัวยา เช่น ประจุ , ค่าการละลาย , ความคงตัวและความ เข้ากันได้ระหว่างผงยาและสารแขวนลอย
4.4
สมบัติการไหลของสารแขวนลอย ควรเลือก
ให้มีการไหลแบบ
Pseudoplatic
หรือ
Thixotropic 4.5 ความคงตัวของสารแขวนลอย เช่น pH , Alcohol , แสง , ความร้อน เป็ นต้น 5.
สารแต่งสีและสารแต่งกลิ่น
( Color
and Flavor ) ต้องคำานึงถึง 5.1 ความเหมาะสมของสีและกลิ่นควรไปด้วยกัน เช่น
กลิ่นมะนาวควรใช้สีเหลือง
5.2 ปริมาณพอเหมาะ สารแต่งสีใช้ 0.1 – 0.5 % และสารแต่งกลิ่นใช้ 0.0005 – 0.001 % 5.3 ความคงตัวของสารแต่งสีและสารแต่งกลิ่น และส่วนประกอบอื่นในตำารับ เช่น ประจุ , pH เป็ นต้น
6.
(Sweetener ) มักนิ ยมใช้ Sucrose หรือ Sorbitol 20 – 25 % ถ้า pH ของยาแขวนตะกอน มากกว่า 5 มักใช้ Sorbitol มากกว่า Sucrose หรืออาจเติม Saccharin สารแต่งรสหวาน
5 sodium
จนมีรสหวานตามต้องการ แต่ไม่
0.1%
เกิน
7. สารถนอม (Preservative ) นิยมใช้ 7.1 Benzoic acid หรือ Sodium benzoate 0.1 – 0.2% 7.2 Methyl paraben 0.2% ร่วมกับ Propyl paraben 0.02% 7.3 Thimerosol 1 : 50,000 7.4 Chlorobutanol 0.5% ในปั จจุบันยา
Ibuprofen
ที่จำาหน่ ายในท้องตลาดส่วนใหญ่ จะอยู่ในรูปแบบของยาเม็ด อาจเกิดความไม่สะดวก ในการใช้ใน เด็ก และ คนชรา อีกทัง้
Ibuprofen
NSAIDs
เป็ น ซึ่งไม่ ละลายนำ้ าแต่ละลายได้ดใี นแอลกอฮอล์ หากผลิต เป็ นยานำ้ าเชื่อมอาจจำาเป็ นต้องใช้แอลกอฮอล์เป็ น ตัวทำาละลายในปริมาณมากซึ่งอาจไม่เหมาะสมใน เด็ก และ คนชรา จึงเห็นควรที่จะนำ ามาพัฒนาในรูป ยานำ้ าแขวนตะกอน ซึ่งในท้องตลาดมีจำาหน่ าย
JUNIFEN® และ BUMED® โดยคุณสมบัติของตัวยา Ibuprofen เป็ นสาร ได้แก่
ที่ไม่ละลายนำ้ าและเปี ยกนำ้ ายาก จึงต้องมีการใช้สาร
( Wetting agent )
ทำาให้เปี ยก เพื่อ ช่วยให้ผงยาสามารถเปี ยกนำ้ าและกระจายตัวได้ดี และสารทำาให้เปี ยกได้เลือกใช้
Sodium
lauryl sulfate โดยเตรียมในความเข้มข้น 1 % w/v ในนำ้า และใช้ในปริมาณที่น้อยมาก เท่าที่จะทำาให้เปี ยกได้ทวั่ เท่านั ้น เนื่ องจากตัวยาเอง
วิธด ี ำาเนิ นการวิจัย
1.การทดลองโดยใช้สารแขวนตะกอนเพียงชนิด เดียว
1.1
ทดลองโดยใช้ สารแขวนตะกอน
Tragacanth
เป็ น
มีประจุลบจึงต้องเลือกใช้สารทำาให้เกิดฟลอคคูล
(Flocculating agent ) ข้ามนั ้นคือประจุบวก
ที่ประจุตรง จึงเลือกใช้
Aluminiun chloride โดยเตรียมใน ความเข้มข้น 1 % w/v ในนำ้ า ปริมาณทีใ่ ช้ เท่ากับ 4.0 ml. ซึ่งเป็ นปริมาณที่เหมาะสม ที่สุดสำาหรับผงยา Ibuprofen 1.0 กรัม เป็ นค่าที่ให้ Degree of flocculation ( β ) มีค่าสูงสุด ในการทดลองนี้จะทำาการ ศึกษาผลของสารแขวนตะกอนที่มีผลต่อการแขวน
Ibuprofen ความเข้มข้น 100 mg / 5 ml โดยการเลือกใช้สารแขวน ตะกอนเพียงชนิ ดเดียวได้แก่ Tragacanth , Avicel RC – 591 , Xanthan gum , HPMC ( Hydroxypropyl methylcellulose ) 4000 , HPMC 5000 , Methylcellulose 1500 ในปริมาณ ต่างๆกัน และการใช้สารแขวนตะกอน 2 ชนิ ดร่วม กันเช่น Tragacanth ร่วมกับ HPMC 4000 , HPMC 4000 ร่วมกับ Avicel RC – 591 , Avicel RC – 591 ร่วมกับ Methylcellulose 1500 ในปริมาณ ต่างๆกัน รวมถึงการใช้ PEG (Polyethylene glycol ) 400 ตะกอนผงยา
ช่วยในการแขวนตะกอนด้วย
โดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ
Tragacanth ในตำารับคือ 0.5% , 1% , 2% ของตำารับ
Rx Tragacanth Ibuprofen 1% Sodium lauryl sulfate
1.0 g. qs
6 1% Aluminium chloride Tragacanth
4.0 ml. 0.25 ,
Purified water qs
50.0
0.5 , 1.0 g. ml. วิธท ี ำา
1.
Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl sulfate จนเปี ยกทัว่ ในโกร่งกระเบื้อง 2. เติม 1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลิตร ลงบดผสม กับผงยาเบาๆ นาน 10 นาที 3. เตรียม mucilage ของ Tragacanth โดยบด Tragacanth กับ Glycerin ปริมาณเล็กน้ อย แล้วเติมนำ้ า ¾ ของปริมาณ บดผงยา
นำ้ าที่ใช้ในตำารับ
0.5
4. 5.
mucilage ของ Tragacanth ลงในสารผสมข้อ 2 ค่อยๆเติม
ผสมกันให้เข้ากัน
50.0
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลต ิ ร
1.2 ทดลองโดยใช้ Avicel RC 591 เป็ นสารแขวนตะกอน โดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ
Avicel RC - 591 ในตำารับคือ 0.5% , 1% , 2% ของตำารับ Rx
,
Avicel RC - 591 Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. Avicel RC - 591 0.25 , 1.0 g. Purified water qs 50.0
ml. วิธท ี ำา
1.
Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl sulfate จนเปี ยกทัว่ ในโกร่งกระเบื้อง 2. เติม 1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลิตร ลงบดผสม กับผงยาเบาๆ นาน 10 นาที 3. เตรียม mucilage ของ Avicel RC - 591 โดยบด Avicel กับ Glycerin ปริมาณเล็กน้อย แล้วเติมนำ้า ¾ ของปริมาณนำ้ าที่ใช้ในตำารับ บดผงยา
4. 5.
mucilage ลงในสารผสมข้อ 2 ค่อยๆเติม
ของ
Avicel
ผสมกันให้เข้ากัน
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลต ิ ร
1.3
50.0
Xanthan gum
ทดลองโดยใช้ เป็ นสารแขวนตะกอน โดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ
Xanthan gum ในตำารับคือ 0.25% และ 0.5% ของตำารับ
7 Rx
Xanthan gum Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. Xanthan gum 0.125 , g. Purified water qs 50.0
0.25 ml. วิธท ี ำา
1.
Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl sulfate จนเปี ยกทัว่ ในโกร่งกระเบื้อง 2. เติม 1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลิตร ลงบดผสม กับผงยาเบาๆ นาน 10 นาที 3. เตรียม mucilage ของ Xanthan gum โดยบด Xanthan gum กับ Glycerin ปริมาณเล็กน้อย แล้วเติมนำ้า ¾ ของปริมาณนำ้ าที่ใช้ในตำารับ บดผงยา
4. 5.
mucilage ของ Xanthan gum ลงในสารผสมข้อ 2 ค่อยๆเติม
ผสมกันให้เข้ากัน
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลต ิ ร
50.0
1.4 ทดลองโดยใช้ HPMC ( Hydroxypropyl methylcellulose ) 4000 เป็ นสารแขวนตะกอน โดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ
HPMC 4000 ในตำารับคือ 0.5% , 1% และ 2%ของตำารับ Rx
0.5
,
HPMC 4000 Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. HPMC 4000 0.25 , 1.0 g. Purified water qs 50.0
ml. วิธท ี ำา
1.
Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl sulfate จนเปี ยกทัว่ ในโกร่งกระเบื้อง บดผงยา
2.
1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลติ ร ลงบดผสม กับผงยาเบาๆ นาน 10 นาที 3. เตรียม mucilage ของ HPMC 4000 โดยโปรย HPMC ลงในนำ้า เติม
8 80 -90° c
ร้อนที่อุณหภูมิประมาณ
½
¾
ปริมาณ ของนำ้ า ของปริมาณนำ้ าที่ใช้ ในตำารับ แล้วเติมนำ้ าเย็นในปริมาณนำ้ าที่เหลือ
4.
และคนอย่างสมำ่าเสมอจนได้ ที่มล ี ก ั ษณะใส ค่อยๆเติม
4000 5.
กัน
mucilage
ลงในสารผสมข้อ
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลิตร
0.5
,
mucilage
ของ
2
1.5 ทดลองโดยใช้ HPMC ( Hydroxypropyl methylcellulose ) 5000 เป็น สารแขวนตะกอน โดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ
HPMC
ผสมกันให้เข้า
50.0
HPMC 5000 ในตำารับคือ 0.5% , 1% และ 2% ของตำารับ Rx
HPMC 5000 Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. HPMC 5000 0.25 , 1.0 g. Purified water qs 50.0
ml. วิธท ี ำา
1.
Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl sulfate จนเปี ยกทัว่ ในโกร่งกระเบื้อง 2. เติม 1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลิตร ลงบดผสม กับผงยาเบาๆ นาน 10 นาที 3. เตรียม mucilage ของ HPMC 5000 โดยโปรย HPMC ลงในนำ้า ร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 80 -90° c ปริมาณ ½ ของนำ้ า ¾ ของปริมาณนำ้ าที่ใช้ บดผงยา
ในตำารับ แล้วเติมนำ้ าเย็นในปริมาณนำ้ าที่เหลือ
0.5
,
4.
และคนอย่างสมำ่าเสมอจนได้ ที่มีลก ั ษณะใส ค่อยๆเติม
5000 5.
กัน
mucilage
ลงในสารผสมข้อ
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลต ิ ร
mucilage ของ
2
HPMC
ผสมกันให้เข้า
50.0
1.6 ทดลองโดยใช้ Methylcellulose ( MC ) 1500 เป็ นสารแขวนตะกอน โดยการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของ
Methylcellulose 1500 ในตำารับ คือ 0.5% , 1% และ 2% ของตำารับ Rx Methylcellulose 1500 Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. Methylcellulose 1500 0.25 , 1.0 g.
9 Purified water qs ml.
วิธท ี ำา
1.
จากผลการทดลองในการใช้สาร แขวนตะกอนเพียงชนิ ดเดียว จะสามารถเลือกสาร แขวนตะกอนทีท ่ ำาให้ตำารับที่ดีได้ แต่เพื่อให้ได้ ตำารับที่ดีท่ส ี ุดจึงทำาการศึกษาโดยใช้สารแขวน
Methylcellulose 1500 ลงในนำ้ าเดือดปริมาณ 1/3 ของปริมาณนำ้ า ¾ ของตำารับ 2. เติมนำ้าเย็นในปริมาณส่วนที่เหลือ ( 2/3 ) คนอย่างสมำ่าเสมอจนได้ mucilage ที่มี 3.
โปรย
ตะกอน
Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl sulfate จนเปี ยกทัว่ ในโกร่งกระเบื้อง 4. เติม 1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลิตร ลงบดผสม กับผงยาเบาๆ นาน 10 นาที 5. ค่อยๆเติม mucilage ของ Methylcellulose 1500 ที่ เตรียมจากข้อ 2 ลงบดผสมทีละน้ อยในข้อ 4 6. ปรับปริมาตรด้วยนำ้าจนครบ 50.0 บดผงยา
มิลลิลิตร
การทดลองโดยใช้สารแขวนตะกอน ร่วมกัน
สูตรตำารับที่
1
ประกอบด้วย
2
ชนิ ด
Tragacanth 2%
2
ร่วมกับ
1
ชนิ ดร่วมกันคือ
Tragacanth 2% ร่วมกับ HPMC 4000 1% สูตรตำารับที่ 2 ประกอบด้วย Tragacanth 2% ร่วมกับ HPMC 4000 2% สูตรตำารับที่ 3 ประกอบด้วย HPMC 4000 1% ร่วมกับ Avicel RC – 591 1% สูตรตำารับที่ 4 ประกอบด้วย HPMC 4000 1% ร่วมกับ Avicel RC – 591 2% สูตรตำารับที่ 5 ประกอบด้วย Avicel RC – 591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 1500 1% สูตรตำารับที่ 6 ประกอบด้วย Avicel RC – 591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 1500 2% 2.1 การใช้ Tragacanth ร่วมกับ HPMC 4000 เป็ นสารแขวนตะกอน สูตรตำารับที่
ลักษณะใส
2.
50.0
ประกอบด้วย
HPMC 4000 1%
Rx Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. Tragacanth 1.0 g. HPMC 4000 0.5 g. Purified water qs 50.0
ml. สูตรตำารับที่
2
ประกอบด้วย
Tragacanth 2% Ibuprofen
ร่วมกับ
HPMC 4000 2% Rx 1.0 g.
10 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. Tragacanth 1.0 g. HPMC 4000 1.0 g. Purified water qs 50.0 ml.
วิธท ี ำา
1.
mucilage ของ Tragacanth โดยบด Tragacanth กับ Glycerin เตรียม
ปริมาณเล็กน้ อย จนทำาให้เปี ยกได้ทวั่ แล้วเติม
16 มิลลิลติ ร ลงบดผสมทีละน้อยจนได้ Tragacanth mucilage 2. เตรียม mucilage ของ HPMC 4000 โดยโปรย HPMC ลงในนำ้าร้อน ที่อณ ุ หภูมิประมาณ 80 -90° c ปริมาณ 8 มิลลิลติ ร คนให้ HPMC กระจายตัว แล้วเติมนำ้ าเย็นอีก 8 มิลลิลิตรและคนอย่าง สมำ่าเสมอจนได้ mucilage ที่มีลก ั ษณะ นำ้ า
ใส
3.
Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl sulfate จนเปี ยกทัว่ ในโกร่งกระเบื้อง 4. เติม 1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลติ ร ลงบดผสม กับผงยาเบาๆ นาน 10 นาที 5. ผสม Tragacanth mucilage กับ HPMC mucilage ให้เข้ากัน แล้วนำ าส่วนผสมนี้มาบดผสมกับข้อ 4 ให้เข้า 6.
บดผงยา
กันทีละน้ อยจนหมด
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลต ิ ร
50.0
2.2 การใช้ HPMC 4000 ร่วมกับ Avicel RC – 591 เป็ นสารแขวน ตะกอน
สูตรตำารับที่
3
ประกอบด้วย
HPMC 4000 1%
ร่วมกับ
Avicel RC – 591 1% Rx Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. HPMC 4000 0.5 g. Avicel RC – 591 0.5 g. Purified water qs 50.0
4
ประกอบด้วย
HPMC 4000 1%
ร่วมกับ
ml. สูตรตำารับที่
Avicel RC – 591 2% Rx Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. HPMC 4000 0.5 g. Avicel RC – 591 1.0 g.
11 Purified water qs
50.0
ml. วิธท ี ำา
1.
2.
mucilage ของ HPMC 4000 โดยโปรย HPMC ลงในนำ้าร้อน ที่อณ ุ หภูมิประมาณ 80 -90° c ปริมาณ 8 มิลลิลติ ร คนให้ HPMC กระจายตัว แล้วเติมนำ้ าเย็นอีก 8 มิลลิลิตรและคนอย่าง สมำ่าเสมอจนได้ mucilage ที่มีลก ั ษณะ เตรียม
ใส
mucilage ของ Avicel RC - 591 โดยบด Avicel กับ Glycerin ปริมาณเล็กน้อยจนทำาให้ เปี ยกได้ทวั่ แล้วเติมนำ้ า 16 มิลลิลิตร ลงบด ผสมทีละน้ อยจนได้ Avicel mucilage 3. บดผสมผงยา Ibuprofen 1.0 กรัม กับ 1% Sodium lauryl เตรียม
สูตรตำารับที่
sulfate 4.
กระเบื้อง
1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลติ ร ลงบดผสม กับผงยาให้เข้ากันนาน 10 นาที 5. ผสม HPMC 4000 mucilage กับ Avicel RC - 591 mucilage ให้เข้ากัน แล้วนำ าส่วนผสม นี้มาบดผสมกับข้อ 4 ให้เข้ากันทีละน้ อยจน 6.
เติม
หมด
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลต ิ ร
2.3
50.0
Avicel RC - 591 ร่วมกับ Methylcellulose 1500 การใช้
เป็ นสารแขวนตะกอน
5
ประกอบด้วย
Avicel RC – 591 2%
ร่วมกับ
6
ประกอบด้วย
Avicel RC – 591 2%
ร่วมกับ
1500
จนผงยาเปี ยกทัว่ ในโกร่ง
Methylcellulose 1% Rx Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. Avicel RC – 591 1.0 g. Methylcellulose 1500 0.5 g. Purified water qs 50.0
ml. สูตรตำารับที่
1500
Methylcellulose 2% Rx Ibuprofen 1.0 g. 1% Sodium lauryl sulfate qs 1% Aluminium chloride 4.0 ml. Avicel RC – 591 1.0 g. Methylcellulose 1500 1.0 g.
12 Purified water qs
50.0
ml. วิธท ี ำา
1.
mucilage ของ Avicel RC - 591 โดยบด Avicel กับ Glycerin ปริมาณเล็กน้อยจนทำาให้ เปี ยกได้ทวั่ แล้วเติมนำ้ า 16 มิลลิลิตร ลงบด ผสมทีละน้ อยจนได้ Avicel mucilage 2. เตรียม mucilage ของ Methylcellulose 1500 โดย โปรย Methylcellulose ลงในนำ้ า เดือดปริมาณ 8 มิลลิลิตร คนให้ Methylcellulose กระจายตัวแล้ว เติมนำ้ าเย็นอีก 8 มิลลิลต ิ รและคนอย่าง สมำ่าเสมอจนได้ mucilage ที่มีลก ั ษณะ เตรียม
ใส
3.
Ibuprofen 1.0 กรัม 1% Sodium lauryl
บดผสมผงยา กับ
3.1
sulfate 4.
กระเบื้อง
จนผงยาเปี ยกทัว่ ในโกร่ง
1% Aluminium chloride 4.0 มิลลิลติ ร ลงบดผสม กับผงยาให้เข้ากันนาน 10 นาที 5. ผสม Avicel RC - 591 mucilage กับ Methylcellulose 1500 mucilage ให้เข้ากัน แล้วนำ าส่วนผสมนี้ มาบดผสมกับข้อ 4 ให้เข้ากันทีละน้ อยจน 6.
เติม
หมด
3.การทดลองโดยใช้ PEG (Polyethylene glycol ) 400 ช่วยในการแขวนตะกอน
CMC ( Carboxymethylcellulose Sodium ) 1%
การใช้ แขวนตะกอน
Ibuprofen PEG 400 CMC Glycerin Propylene glycol Syrup Purified water qs วิธท ี ำา
1.
นำ าผงยา
PEG 2.
Ibuprofen มาละลายใน 400 แล้วนำ าไปให้ความร้อน
คนจนได้สารละลายใส
mucilage ของ CMC โดย บดผสม CMC กับ Glycerin ปริมาณเล็กน้ อยจนเปี ยกได้ทวั่ แล้วเติมนำ้ า ¾ เตรียม
50.0
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ มิลลิลต ิ ร
ของปริมาณนำ้ าที่ใช้ในตำารับ
เป็ นสาร
Rx 1.0 g. 10.0 % 1.0 % 10.0 % 15.0 % 25.0 % 50.0 ml. บดผสมจนได้
mucilage ที่มีลก ั ษณะข้นหนื ด 3. ค่อยๆเติม mucilage ของ CMC ที่ เตรียมจากข้อ 2 ลงบดผสมทีละน้ อยใน สารละลายข้อ 1 4. เติม Glycerin ปริมาณที่เหลือลงไป แล้ว เติม Propylene glycol ,
13 Syrup 5.
ลงผสมตามลำาดับที่ละน้ อย โดย ผสมให้เข้ากันทุกครัง้ ที่เติม ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ
50.0 มิลลิลิตร
3.2 การใช้ CMC ( Carboxymethylcellulose Sodium ) 0.5% ร่วมกับ Tragacanth 1% เป็ นสารแขวนตะกอน Rx Ibuprofen 1.0 g. PEG 400 10.0 % CMC 0.5 % Tragacanth 1.0% Glycerin 10.0 % Propylene glycol 15.0 % Syrup 25.0 % Purified water qs 50.0 ml. วิธท ี ำา
1.
นำ าผงยา
PEG 2.
Ibuprofen มาละลายใน 400 แล้วนำ าไปให้ความร้อน
คนจนได้สารละลายใส
mucilage ของ CMC โดย บดผสม CMC กับ Glycerin ปริมาณเล็กน้ อยจนเปี ยกได้ทวั่ แล้วเติมนำ้ า ¾ เตรียม
ของปริมาณนำ้ าที่ใช้ในตำารับ
mucilage 3.
บดผสมจนได้
ที่มล ี ก ั ษณะข้นหนื ด
mucilage ของ Tragacanth โดยบด Tragacanth กับ Glycerin เตรียม
ปริมาณเล็กน้ อย จนทำาให้เปี ยกได้ทวั่ แล้วเติม นำ้ าที่เหลือของตำารับ ลงบดผสมทีละน้ อยจนได้
Tragacanth 4. นำ า mucilage และ CMC
mucilage ของ Tragacanth
มาบดผสมให้เข้ากัน
5.
mucilage ที่ได้ลงในสารละลายใน ข้อ 1 ทีละน้ อย แล้วบดผสมให้เข้ากัน 6. เติม Glycerin ปริมาณที่เหลือลงไป แล้ว เติม Propylene glycol , Syrup ลงผสมตามลำาดับทีละน้อย โดย 7.
เติม
ผสมให้เข้ากันทุกครัง้ ที่เติม
ปรับปริมาตรด้วยนำ้ าจนครบ
50.0 มิลลิลติ ร
4.การประเมินผลการหาสารแขวนตะกอนที่เหมาะ สม
4.1 การวัดความสูงของผงยา แล้วคำานวณค่า Sedimentation volume ( F ) F=Hu =ความสูงของผงยาตัง้ ทิง้ ไว้1 สัปดาห์ Ho ความสูงของยาแขวนตะกอนทัง้ หมด
14 4.2
1 ) มีค่า Sedimentation volume ( F ) ใกล้เคียง 1 2 ) ความหนาแน่นของผงยาน้ อยมากหรือ
เปรียบเทียบความหนาแน่ นของผงยาใน
( Dense of sediment ) โดยดูการไหลของผงยาเมื่อ ทำาการกลับขวด 1 ครัง้ 4.3 บันทึกการกลับกระจายตัวของผงยา 4.4 เปรียบเทียบลักษณะของผงยา แต่ละหลอด
ไม่แน่ นเลย
3 )
จำานวนครัง้ ที่กลับหลอดจนผงยากระ จายทัว่ หลอด
4 )
โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกหลอดทดลองที่
ที่สุด
ลักษณะของผงยาที่เหมือนเดิมมาก
ผลการวิจัย ตารางที่
1 แสดงผลการทดลองของการใช้สารแขวนตะกอนในปริมาณต่างๆ เพียงชนิดเดียว
Suspending agent
ความสูงของตะกอน เริ่มต้น 1 สัปดาห์
F
ความหนาแน่ น ของผงยา
การกระจาย ของผงยา
ลักษณะของ ผงยา
0.5%Tragaca nth 1% Tragacanth 2% Tragacanth 0.5% Avicel 1% Avicel 2% Avicel
8.0 8.2 8.0
1.4 2.3 3.8
0.18 0.28 0.48
ไม่แน่ น แน่ นน้ อย แน่ นน้ อย
1 2 4
ตะกอน ละเอียดมีค่อน ข้างเหลือง
8.0 8.2 8.0
2.9 3.8 4.4
0.36 0.46 0.55
ไม่แน่ น ไม่แน่ น ไม่แน่ น
2 2 2
0.25% Xanthan gum 0.5% Xanthan gum 0.5% HPMC 4000 1% HPMC 4000 2% HPMC 4000 0.5% HPMC 5000 1% HPMC 5000 2% HPMC 5000 0.5% MC 1500 1% MC 1500 2% MC 1500
8.2 8.3
1.4 8.3
0.18 1.0
ไม่แน่ น
*
1 *
ตะกอน ละเอียดเล็ก ฟ้ ุงกระจายได้ ง่าย ตะกอนขนาด เล็ก จับกันเป็ น ก้อนเล็กบาง ส่วน
8.2 8.0 7.2
0.3 0.2 0.2
0.04 0.02 0.03
ไม่แน่ น แน่ นน้ อย แน่ นน้ อย
2 4 5
ตะกอนขนาด เล็กมีความ ละเอียดมาก
8.3 8.2 8.4
0.3 0.4 0.4
0.04 0.05 0.05
แน่ น แน่ นน้ อย แน่ นน้ อย
2 3 3
ตะกอนขนาด เล็กมีความ ละเอียดมาก
8.0 8.0 8.0
0.5 1.0 8.0
0.06 0.12 1.0
แน่ นน้ อย แน่ นน้ อย
3 3 *
ตะกอนขนาด เล็กมีความ ละเอียดมาก
หมายเหตุ
:
*
*
คือผงยาที่มีการกระจายตัวทัว่ ทัง้ หมด
15 มีความเหมาะสมที่สุดในการแขวนตะกอน
1 พบว่าสารที่เหมาะ สมในการแขวนตะกอน Ibuprofen ได้แก่ Xanthan gum 0.5 % และ Methylcellulose 1500 2% ของตำารับโดยให้ค่า Sedimentation volume ( F ) เท่ากับ 1 ซึ่งสามารถแขวน จากตารางที่
Ibuprofen สำาหรับ Tragscanth พบ ว่ามี Sedimentation volume ค่อน ข้างตำ่า แต่จะมีค่าเพิ่มขึน ้ เมื่อปริมาณที่ใช้ในตำารับ เพิ่มขึ้น ดังนั ้นจึงควรจะใช้ร่วมกับสารแขวนตะกอน
Avicel RC-591
ตัวอื่นเช่นเดียวกับ ที่ให้ ผงยาที่มีขนาดเล็กฟ้ ุงกระจายง่ายและเกิดการตก ตะกอนได้เร็ว
ตะกอนของผงยาได้โดยไม่ทำาให้เกิดการตกตะกอน
HPMC
4000 และ HPMC 5000 จะทำาให้เกิด
1
เมื่อตัง้ ทิง้ ไว้นาน สัปดาห์ ผงยายังมีการกระจาย ตัวอย่างสมำ่าเสมอทัว่ ในกระบอกตวง เมื่อพิจารณา ลักษณะของผงยาจากการแขวนตะกอนด้วย
การตกตะกอนของผงยาเพียงเล็กน้ อย แสดงว่า ปริมาณทีใ่ ช้สามารถแขวนตะกอนผงยาได้เพียงบาง ส่วน แต่เมื่อพิจารณาลักษณะของผงยาพบว่ามี ขนาดเล็กละเอียดมีความสมำ่าเสมอสวยงาม โดย ความหนื ดของตำารับเพิ่มตามปริมาณที่ใช้ ทัง้ ชนิ ด
Xanthan gum
พบว่าได้เป็ นผงยาขนาด เล็ก มีการจับเป็ นก้อนเล็กๆบ้างบางส่วน เนื้ อหยาบ ไม่เนี ยนและมีความหนื ดค่อนข้างสูง ส่วนผงยาที่
HPMC 5000
Methylcellulose 1500 2%
ใช้ เป็ นสารแขวนตะกอน พบว่าผงยามีลักษณะเป็ น ขนาดเล็กละเอียด มีการกระจายตัวอย่างสำ่าเสมอ เนื้ อเนี ยนสวยงามและมีความหนื ดตำ่ากว่าตำารับที่ใช้
4000
และ
HPMC
มีความสามารถไม่แตกต่างกันในการ
Ibuprofen
แขวนตะกอน และควรจะใช้ร่วม กับสารแขวนตะกอนตัวอื่นหรือกระสายยาเพื่อช่วย
Xanthan gum 0.5 % ดังนั้นการใช้ Methylcellulose 1500 2% จึง ตารางที่
และในส่วนของ
เพิ่มความหนื ดเช่น
Sorbitol , Syrup
2 แสดงผลการทดลองของการใช้สารแขวนตะกอนในปริมาณต่างๆร่วมกัน 2 ชนิด
Suspending agent 2% Tragacanth 1 % HPMC 4000 2% Tragacanth 2 % HPMC 4000 1 % HPMC 4000 1 % Avicel RC-591 1 % HPMC 4000 2 % Avicel RC-591 2 % Avicel RC-591 1 %Methylcell
ความสูงของตะกอน เริ่มต้น 1 สัปดาห์
F
ความหนาแน่ น ของผงยา
การกระจาย ของผงยา
ลักษณะของ ผงยา
8.8
2.8
0.32
แน่ นน้ อย
3
ตะกอนขนาด เล็ก
7.7
3.6
0.47
แน่ นน้ อย
5
ตะกอนขนาด เล็ก
4.5
0.54
แน่ นน้ อย
3
9.3
6.7
0.72
แน่ นน้ อย
3
8.0
5.7
0.72
แน่ นน้ อย
2
8.4
ตะกอน ละเอียดมี ขนาดเล็กกว่า ใช้ Avicel อย่างเดียว ตะกอน ละเอียดมี ขนาดเล็กกว่า ใช้ Avicel อย่างเดียว ตะกอนขนาด เล็กมีความ ละเอียดมาก
16 ulose 2 % Avicel RC-591 2 %Methylcell ulose
8.8
6.2
ในตำารับที่มก ี ารใช้
Tragacanth ร่วมกับ HPMC 4000 จะทำาให้ได้ค่า Sedimentation volume ( F ) สูงกว่าการใช้ Tragacanth เพียงชนิดเดียว และจะมีการ เพิ่มขึน ้ ตามปริมาณของ HPMC 4000 ที่ เพิ่มขึน ้ ลักษณะของผงยาที่ได้มค ี วามละเอียดมาก ขึ้น แต่มค ี วามหนื ดเพิ่มขึ้นและเกิดการตกตะกอน อยู่ จึงยังไม่เหมาะสมกับการแขวนตะกอน
Ibuprofen การใช้ HPMC 4000 ร่วมกับ Avicel RC-591 พบว่า ตำารับ HPMC 4000 1% และ Avicel RC-591 2% ให้ค่า Sedimentation volume ( F ) ที่เพิ่มขึน ้ ลักษณะของผงยาที่ได้มค ี วามละเอียดและ
Avicel RC-591 เพียงชนิ ดเดียว และตำารับที่มีการใช้ Avicel RC-591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 1% และ Avicel RC-591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 2% พบว่าให้ค่า Sedimentation volume ( F ) มีขนาดเล็กกว่าการใช้
ที่เพิ่มสูงขึน ้ เช่นกัน โดยมีความหนาแน่ นของ ตะกอนและการกระจายตัวไม่ต่างกัน ลักษณะของ ผงยา
2
ตำารับหลังมีการจับตัวกันเป็ นก้อนเพียง
3
เล็กน้ อย ดังนั ้นจึงอาจเลือก ตำารับนี้เพื่อไป พัฒนาต่อโดยอาจเพิ่มความหนื ดของตำารับด้วยการ เติมสารแต่งรส
Propylene 3.
เช่น
Glycerin , glycol , Syrup
0.71
แน่ นน้ อย
ตะกอนขนาด เล็กมีความ ละเอียดมาก
3
สามารถไม่เพียงพอ ถ้าเพิ่มปริมาณการใช้ก็จะทำาให้ สูตรตำารับมีความหนื ดสูงมากเกินไป ดังนั ้นสามารถ ลดปริมาณผงยาได้โดยใช้ตัวทำาละลาย ทำาให้ สามารถละลายตัวยาได้บางส่วน จึงมีผลทำาให้ผงยา มีปริมาณลดลงในการแขวนตะกอน โดยเลือกใช้
PEG (Polyethylene glycol ) 400 เป็ นตัวทำาละลาย ทำาการละลาย Ibuprofen ใน PEG 400 และใช้ความ ร้อนเล็กน้ อยช่วยในการละลายจนได้สารละลายที่ใส
mucilage
เมื่อนำ ามาผสมกับ ของสารแขวน ตะกอน พบว่าจะเกิดความขุ่นขึ้นเนื่ องจากเกิดการ ตกตะกอนของ
Ibuprofen
เพราะ
PEG
400 เจือจางลง นอกจากนี้ยังใช้สารแต่งรส เช่น Glycerin , Propylene glycol , Syrup ในปริมาณ 10% , 15% , 25% ของตำารับตามลำาดับ เพื่อเพิ่มความหนืดแก่ ตำารับ และเมื่อตัง้ ทิง้ ไว้ 1 สัปดาห์ พบว่าตำารับทัง้ 2 คือ ตำารับที่มี CMC ( Carboxymethylcellulose Sodium ) 1% และตำารับที่มี CMC 0.5% ร่วมกับ Tragacanth 1% ยังคง
มีการตกตะกอนของผงยาอยู่ ซึ่งอาจเป็ นปริมาณที่ ไม่เหมาะสม เมื่อพิจารณาลักษณะของผงยาพบว่า ผงยามีขนาดเล็กและกระจายตัวอย่างสมำา่ เสมอ ตำารับที่มี
CMC 1%
จะพบฟองอากาศเป็ น
CMC 0.5% ร่วมกับ Tragacanth 1% การ จำานวนมาก ไม่สวยงามเท่ากับตำารับที่มี
แยกชัน ้ ของตะกอนอาจเป็ นเพราะตำารับมีความหนื ด ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจแก้ไขได้โดยเพิ่มปริมาณของสาร
PEG
แขวนตะกอนให้มากขึ้น หรือเพิ่มเกรดของ ทีใ่ ช้ ซึ่งควรมีการทดลองต่อไป
PEG (Polyethylene glycol ) 400 ช่วยในการแขวน
อภิปรายและสรุปผลการวิจัย จากการทดลองศึกษาผลของ สารแขวนตะกอนทีม ่ ีผลต่อการตัง้ ตำารับยานำ้ าแขวน
Ibuprofen
ตะกอน พบว่าสารแขวนตะกอน ที่มค ี วามเหมาะสมที่สุดคือ
การใช้
ตะกอน
มีปริมาณมาก
เนื่ องจากผงยา สารแขวนตะกอนที่ใช้อาจมีความ
Ibuprofen
17 Methylcellulose
2 % ซึ่ง เป็ นตำารับที่ไม่เกิดการตกตะกอนภายใน 1 สัปดาห์ และให้ค่า Sedimentation volume ( F ) เท่ากับ 1 ผงยาที่ได้มีขนาดเล็กสวยงาม ปริมาณ
และมีการกระจายตัวอย่างสมำา่ เสมอ ส่วนสารแขวน ตะกอนอีกชนิ ดหนึ่ งคือ
Xanthan gum
0.5 % ซึ่งเป็นตำารับที่ไม่เกิดการตก ตะกอนภายใน 1 สัปดาห์ เช่นกันแต่ผงยาที่ได้มี ปริมาณ
การจับตัวกันเป็ นก้อนเล็กๆ
HPMC
จึงมีลก ั ษณะหยาบไม่
เนี ยน สำาหรับ เป็ นสารแขวนตะกอน ที่สามารถแขวนตะกอนของผงยาได้บางส่วนทำาให้ ได้ผงยาที่มีขนาดเล็กละเอียดและมีความสมำ่าเสมอ ดีมากจึงเป็ นตำารับที่น่าจะนำ าไปพัฒนาต่อไปโดยเพิ่ม ความหนื ดของตำารับให้มากขึ้นและการใช้สารแขวน
2
ตะกอน ชนิ ดร่วมกันจะทำาให้ยาแขวนตะกอนมี ความคงตัวและความสวยงามเพิ่มขึน ้ พบว่าสูตร
HPMC 4000 1% ร่วมกับ Avicel RC-591 2% , Avicel RC-591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 1% , Avicel RC-591 2% ร่วมกับ Methylcellulose 2% ทัง้ นี้เพื่อให้ผล ตำารับที่น่านำ าไปพัฒนาต่อคือ
การทดลองมีความแน่ นอนยิ่งขึน ้ ควรนำ าสูตรตำารับ เหล่านี้ไปทดสอบความคงตัวด้วยวิธี
thaw Cycle
Free –
6-8
จำานวน รอบ ซึ่งสูตร ตำารับที่ดีควรมีความหนื ดไม่ต่างจากช่วงก่อนการ ทดสอบและตำารับไม่เกิดการแยกชัน ้ เกิดขึน ้ เอกสารอ้างอิง
1.
วราภรณ์ สุวกุล
.
; 2525 , ยาแขวนตะกอน
ภาควิชาเภสัชกรรม
คณะเภสัชศาสตร์
, หน้า 1 – 24 2. อัจฉรา อุทิศวรรณกุล ; 2533 , รูปแบบ เภสัชภัณฑ์ . ภาควิชาเภสัชกรรม คณะ เภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , หน้ า 105 – 110 3. Wade A. and Weller P.J. ; Handbook of Pharmaceutical จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Excipients , 2nd edtion , p. 86 , 229-232 , 448-450 , 532-533 , 562-563 4. Burlage M.M. , Lee C.O. and Rinsing L.W. ; 1963 , Suspension . Physical and Technical Pharmacy , p. 518-524 5. Martin A. ; 1933 , Coarse Dispersions. Physical nd Pharmacy , 4 edtion , p. 477-486 6. Dittart L. ; 1974 , Suspension . American Pharmacy , 7nd edtion , p. 190-209 7. Swarbrick J. ; 1995 , Coarse Dispersions. Remington ’s Pharmaceutical Science. Vol. 1 , 19nd edtion , p. 279-282 8. Reynolds J. ; 1989 , Ibuprofen , Martindale . The Extra Pharmacopoeia , 29nd edtion , p. 20-21 9. Reynolds J. ; 1994 , nd TIMS , 6 edtion , p. 473474 10. Walter L. ; 1994 , Ibuprofen , The Pharmaceutical Codex , 12nd edtion , p. 908-911
18