Home
Add Document
Sign In
Register
2010 09 30 สรุปมาตรานิติกรรม
Home
2010 09 30 สรุปมาตรานิติกรรม
dFull description...
Author:
Tee T Thanattanon
26 downloads
209 Views
600KB Size
Report
DOWNLOAD .PDF
Recommend Documents
Layers 2010-09-10
2010-09-18
Descripción: ega
2010-09-26_202624_NEHS0610-09_3100_fuel_setting_tooling
2010-09-27 สรุปมาตราหนี้
Full description
09 30 13 - CERAMIC TILE.pdf
30-09-07LA-NARRATION-SEQUENCES.doc
mn
HORMIGA 09-01-30-2018
knscfldhcdlvdFull description
EC-DIF-30-08-2010
2009-2010-Edu-09-Tema
Descripción completa
2010 - Chess Life 09.pdf
Apostila de roletes 30-10-09.pdf
09-30-18 Mitchell Memo - Ford Allegations
Mitchell memo to GOP
Stuart Amor - Englisch in 30 Tagen - 2010
Full description
2010-09-22-ClaseGratisSobreHooponopono-con-MabelKatz
.Psd Photoshop Issue 09 - Oct 2010
apres EDC 7 interatividade 09-2010.pdf
Descrição completa
Playboy Usa 2010 09 (Flaubert - Madame Bovary)
Gustave Flaubert - Madame BovaryDescripción completa
Samsung Firmware Langpacks Descriptions 09 2010
Samsung Firmware Langpacks Descriptions 09 2010Full description
UControl 09 (Año 3-Ag 2010) Español
Revista Española Electrónica UControl 09 (Año 3-Ag 2010) Español, electrónica, revistas, colecciones, tecnología, electrónica popular, documentos,elektor,español,UControlDescripción completa
apres EDC 7 interatividade 09-2010.pdf
30
30
30
.
30
1
สรุปสาระสาคัญรายมาตรา – นิติกรรมและสัญญา (อ.สุรศักดิ์) พ.ร.บ.ว่ าด้ วยข้ อสัญญาไม่ เป็ นธรรม พ.ศ.๒๕๔๐ และ พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ พ.ศ.๒๕๔๔ (บางมาตรา) ภาคบัณฑิต ๑/๒๕๕๓ สอบวันจันทร์ ๑๑ ต.ค. ๕๓ (๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐) หัวเรื่อง นิตกิ รรม (ม.๑๔๙ – ม.๑๕๓) นิตกิ รรม
มาตรา ๑๔๙
วัตถุประสงค์ที่ทาให้ นิตกิ รรม เป็ นโมฆะ
๑๕๐
นิตกิ รรมแตกต่างจาก บทบัญญัตขิ อง กม. นิตกิ รรมที่ไม่ถกู ต้ องตามแบบ
๑๕๑ ๑๕๒
ผล
หมายเหตุ / ความเชื่อมโยง ม. อื่น
การกระทานัน้ เป็ นนิตกิ รรม
ลักษณะของนิตกิ รรมที่สาคัญ คือ ๑) ต้ องมีการแสดงเจตนา ๒) เป็ นการทาลงโดยชอบด้ วยกฎหมาย ๓) เป็ นการกระทาโดยใจสมัคร ๔) มุง่ ให้ มีผลผูกพันทางกฎหมาย (นิตสิ มั พันธ์) ๕) เพื่อก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับสิทธิ
สาระสาคัญ / องค์ ประกอบ / องค์ ประกอบและผล การกระทาที่ชอบด้ วย กม.และสมัครใจ มุง่ ผูกนิตสิ มั พันธ์ขึ ้นระหว่างบุคคล เพื่อก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรื อระงับซึ่งสิทธิ
** ทัง้ นี ้ ผูท้ านิติกรรมต้องมี “ความสามารถ” ในการทานิติกรรม (ดู ม.๑๕๓) การใดมีวต ั ถุประสงค์เป็ นการต้ องห้ ามชัดแจ้ งโดยกฎหมาย (ขัดต่อ กม.) เป็ นการพ้ นวิสย ั หรื อ เป็ นการขัดต่อความสงบเรี ยบร้ อย หรื อ ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน (ความรู้สึก) การใดแตกต่างจากบทบัญญัตข ิ อง กม. แต่มใิ ช่ กม.ที่เกี่ยวข้ องกับความ สงบเรี ยบร้ อยหรื อศีลธรรมอันดีของประชาชน การใดที่ไม่ได้ ทาให้ ถก ู ต้ องตามแบบที่ กม. กาหนด
การนันเป็ ้ นโมฆะ
การนันไม่ ้ เป็ นโมฆะ
หลักเสรี ภาพของการทาสัญญา
การนันเป็ ้ นโมฆะ
ประเภทของแบบ ทาเป็ นหนังสือ (๕๗๒ ว.๒ เช่าซื ้อ) ทาหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้ าพนักงาน (๔๕๖ ว.๑ ซื ้อขายอสังหาริมทรัพย์) ทาเป็ นหนังสือต่อพนักงาน (๙๖๐) จดทะเบียนต่อพนักงาน ๑๐๑๕ – ๑๐๑๗, ๑๔๕๗, ๑๔๕๘, ๑๕๑๕) ส่งมอบทรัพย์ (๖๔๑, ๖๕๐)
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
2
นิตกิ รรมที่ไม่ได้ เป็ นไปโดย ๑๕๓ การใดที่ไม่ได้ เป็ นไปตามบัญญัตข ิ อง กม.ว่าด้ วยความสามารถของบุคคล บทบัญญัตวิ า่ ด้ วย ความสามารถ เจตนาซ่ อนเร้ น / เจตนาลวง / นิตกิ รรมอาพราง (ม.๑๕๔ – ม.๑๕๕) เจตนาซ่อนเร้ น ๑๕๔ การแสดงเจตนา โดยในใจไม่ได้ ต้องการผูกพันตามที่ได้ แสดงออก คูก ่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่งไม่ร้ ูถึงเจตนาซ่อนเร้ น เว้ นแต่ คูก ่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่งจะได้ ร้ ูถึงเจตนาที่ซ่อนอยู่ในใจของผู้แสดง เจตนาลวง ๑๕๕ว.๑ การแสดงเจตนาลวงโดยรู้กับอีกฝ่ ายหนึ่ง แต่หาก บุคคลภายนอกผู้กระทาการโดยสุจริ ตและเสียค่าเสียหายจาก การแสดงเจตนาลวง นิตกิ รรมอาพราง ๑๕๕ ว.๒ ถ้ าการแสดงเจตนาลวงโดยสมรู้กับอีกฝ่ าย ทาเพื่ออาพรางนิตก ิ รรมหนึ่ง สาคัญผิด (ม.๑๕๖ – ม.๑๕๘) สาคัญผิดในสาระสาคัญแห่ง ๑๕๖ การแสดงเจตนาซึ่งสาคัญผิดในสาระสาคัญแห่งนิตก ิ รรม ได้ แก่ นิตกิ รรม ลักษณะของนิตก ิ รรม ตัวบุคคลซึ่งเป็ นคูก ่ รณีแห่งนิตกิ รรม ทรัพย์สน ิ ซึ่งเป็ นวัตถุแห่งนิตกิ รรม สาคัญผิดในคุณสมบัติของ ๑๕๗ การแสดงเจตนาโดยสาคัญผิดในคุณสมบัตข ิ องบุคคลหรื อทรัพย์สนิ บุคคลหรื อทรัพย์ที่เป็ น ซึ่งตามปกติถือว่าเป็ นสาระสาคัญ สาระสาคัญ หากมิได้ มีความสาคัญผิดดังกล่าวการอันเป็ นโมฆียะนัน ้ คงจะมิได้ กระทา ขึ ้น สาคัญผิดโดยความประมาท ๑๕๘ การสาคัญผิดตาม ม.๑๕๖ หรื อ ม.๑๕๗ ที่เป็ นสาระสาคัญ เกิดขึ ้นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ ายแรงของผู้แสดงเจตนา
การนันเป็ ้ นโมฆียะ
นิตกิ รรมได้ กระทาลงโดยผู้หย่อนความสามารถ คือ ผู้เยาว์ (๒๑) บุคคลวิกลจริต (๓๐) คนไร้ ความสามารถ (๒๙) คนเสมือนไร้ ฯ (๓๔)
นิตกิ รรมไม่เป็ นโมฆะ นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ นิตก ิ รรมเป็ นโมฆะ คูก ่ รณียกขึ ้นต่อสู้กบั บุคคลภายนอกไม่ได้ นิตก ิ รรมที่ทาขึ ้นอาพรางมีเจตนาลวงเป็ นโมฆะ ให้ บงั คับตามนิตก ิ รรมที่ถกู อาพราง หรื อเจตนาที่แท้ จริง นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ
นิตกิ รรมเป็ นโมฆียะ
ยกความสาคัญผิดมาใช้ เป็ น ประโยชน์แก่ตนไม่ได้
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
การแสดงเจตนาภายใน (การตัดสินใจ) ถูก แต่การแสดงเจตนาผิด เจตนาภายในกับภายนอกไม่ตรงกัน
คุณสมบัติ คือ สิง่ ที่มีอยู่ในตัวของทรัพย์สนิ นัน้ อาทิ ความเป็ นของจริง/ปลอม ความเก่า/ใหม่ ผิดตังแต่ ้ เจตนาภายใน เจตนาภายนอกจึง ผิดด้ วย (เจตนาใน / นอก ผิดเหมือนกัน) การยกความสาคัญผิด คือ โมฆะ / โมฆียะ การยกความสาคัญผิดต้ องเป็ นประโยชน์ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ ายแรง คือ โง่เกิน ปกติธรรมดา
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
3
การฉ้ อฉล / การข่ มขู่ (ม.๑๕๙ – ม.๑๖๖) กลฉ้ อฉล ๑๕๙ ว.๑ ๑๕๙ ว.๒
๑๕๙ ว.๓
ผลการบอกล้ างโมฆียะกรรม ต่อบุคคลภายนอก กลฉ้ อฉลเป็ นเพียงเหตุจงู ใจ
๑๖๐
๑๖๑
กลฉ้ อฉลโดยการนิ่ง
๑๖๒
การฉ้ อฉลทังสองฝ่ ้ าย
๑๖๓
การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่
๑๖๔
กรณีไม่ถือเป็ นการข่มขู่
๑๖๕
บุคคลภายนอกข่มขู่
๑๖๖
การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้ อฉล กลฉ้ อฉลต้ องถึงขนาด คือ ถ้ าไม่มีกลฉ้ อฉลนันก็ ้ จะไม่เกิดนิตกิ รรมขึ ้น
นิตกิ รรมเป็ นโมฆียะ
ถ้ าคูก่ รณีแสดงเจตนาว่าถูกกลฉ้ อฉลเพราะบุคคลภายนอก คูก่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่งได้ ร้ ูหรื อควรจะรู้ (ก่อนจะมีการทานิติกรรมนัน้ ) การบอกล้ างโมฆียกรรมของนิตกิ รรมที่ถกู ฉ้ อฉล ตาม ม.๑๕๙
นิตกิ รรมเป็ นโมฆียะ
ยกขึ ้นต่อสู้บคุ คลภายนอกที่ สุจริตไม่ได้ บอกล้ างไม่ได้ เรี ยกค่าสินไหมทดแทนได้ นิตกิ รรมนันเป็ ้ นกลฉ้ อฉล (ผลไม่เป็ นโมฆี ยะ แต่ตอ้ งใช้ ประกอบกับ ม.๑๕๙) ฝ่ ายหนึ่งฝ่ ายใดจะอ้ างกล ฉ้ อฉลเพื่อบอกล้ าง หรื อ เรี ยกค่าสินไหมทดแทนไม่ได้ นิตกิ รรมเป็ นโมฆียะ
บุคคลภายนอกที่สจุ ริต ม.นี ้ ไม่จาเป็ นต้ อง เสียหายเหมือน ม.๑๕๕ ก็ได้ (นิตกิ รรมอาพราง) ม.๑๖๑ เป็ นกรณีที่ไม่ถกู กลฉ้ อฉลก็ทานิตกิ รรม อยู่แล้ ว (ไม่โดนฉ้อฉลนิติกรรมก็เกิ ดอยู่ดี)
ถ้ ากลฉ้ อฉลเป็ นเพียงแค่เหตุจงู ใจให้ ได้ คกู่ รณีรับข้ อกาหนด(ภาระ)ที่หนัก ขึ ้นกว่าที่จะยอมรับโดยปกติ นิตกิ รรมสองฝ่ ายซึ่งคูก่ รณีฝ่ายหนึ่งจงใจนิ่งเสีย ไม่แจ้ งข้ อความจริงหรื อ คุณสมบัตอิ นั คูก่ รณีอีกฝ่ ายหนึง่ มิได้ ร้ ู หากพิสจู น์ได้ วา่ ถ้ าหากไม่นิ่งเฉย นิตกิ รรมนันก็ ้ คงไม่เกิดขึ ้น นิตกิ รรมที่คกู่ รณีได้ กระทาการฉ้ อฉลด้ วยกันทังสองฝ่ ้ าย
การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่ โดยหลักเกณฑ์การข่มขู่จะต้ อง ภัยนันร้ ้ ายแรงถึงขนาด (จริ งจัง ร้ายแรง และน่าจะก่อภัยได้จริ ง) เป็ นภัยอันใกล้ จะถึงตัว เป็ นการข่มขูโ่ ดยผิด กม. หรื อไม่มีอานาจตาม กม. ผู้ถก ู ข่มขู่ต้องกลัวว่าจะเกิดความเสียหายแก่ตน (ดู ม.๑๖๗ ประกอบ) แสดงออกมาตามเจตนาที่ผ้ ข ู ม่ ขูต่ ้ องการ ถ้ าไม่ได้ มีการข่มขูก่ ็จะไม่มีการทานิตกิ รรมเกิดขึ ้น การขูจ่ ะใช้ สทิ ธิตามปกตินิยม ไม่ถือว่าเป็ นการข่มขู่ หรื อทาเพราะความกลัวเพราะนับถือยาเกรง การข่มขูซ่ ึ่งแม้ จะได้ กระทาโดยบุคคลภายนอก นิตกิ รรมเป็ นโมฆียะ
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
บุคคลภายนอกอาจไม่ผกู พันแต่ได้ รับ ประโยชน์ก็ได้ การจะได้ สอ่ ...
เนื่องจาก นิตกิ รรมยังเป็ นโมฆียะ เพราะถูกกล ฉ้ อฉล ม.๑๖๗ การวินิจฉัยการสาคัญผิด กลฉ้ อฉล หรื อ การข่มขู่ ให้ พเิ คราะห์ถึง เพศ อายุ ฐานะ สุขภาพ อนามัย และภาวะจิตใจของผู้แสดงเจตนา รวมถึงพฤติการณ์และสภาพแวดล้ อมที่เกี่ยวข้ อง
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
4
หลักการแสดงเจตนา (ม.๑๖๘ – ม.๑๗๐) การแสดงเจตนาต่อบุคคล ๑๖๘ เฉพาะหน้ า การแสดงเจตนาต่อบุคคลซึ่ง ๑๖๙ ว.๑ มิได้ อยู่เฉพาะหน้ า
การแสดงเจตนาแก่บคุ คลซึ่งอยู่เฉพาะหน้ า รวมถึงโทรศัพท์ หรื อเครื่ องมือ สื่อสารอย่างอื่น หรื อโดยวิธีที่สามารถสื่อสารได้ ทานองเดียวกัน การแสดงเจตนาแก่บค ุ คลซึ่งมิได้ อยู่เฉพาะหน้ า ถ้ าการบอกถอนการแสดงเจตนาโดยส่งไปถึงก่อนหรื อถึงพร้ อมกับการ แสดงเจตนาเดิม ๑๖๙ ว.๒ ภายหลังการแสดงเจตนาผู้แสดงเจตนาตายหรื อศาลสัง่ ให้ เป็ นคนไร้ ความสามารถหรื อคนเสมือนไร้ ความสามารถ การแสดงเจตนาต่อผู้เยาว์ ๑๗๐ ว.๑ การแสดงเจตนาต่อผู้เยาว์ คนไร้ ความสามารถ หรื อคนเสมือนไร้ ฯ คนไร้ หรื อคนเสมือนไร้ ฯ เว้ นแต่ ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรื อผู้พท ิ กั ษ์ นันได้ ้ ร้ ูด้วย หรื อได้ แสดงความยินยอมไว้ ก่อนแล้ ว ๑๗๐ ว.๒ ถ้ าการแสดงเจตนานัน้ เกี่ยวกับการที่ กม. บัญญัตใิ ห้ ผ้ เู ยาว์หรื อ คนเสมือนไร้ ความสามารถกระทาได้ เองโดยลาพัง โมฆะกรรม (ม.๑๗๒ – ๑๗๔) / โมฆียกรรม (ม.๑๗๕ – ๑๘๑) ผลของโมฆะกรรม ๑๗๒ ว.๑ ผลของโมฆะกรรม ๑๗๒ ว.๒
ถ้ าต้ องคืนทรัพย์สนิ ที่อนั เกิดจากโมฆะกรรม
มีผลตังแต่ ้ ผ้ รู ับการแสดง Fax ที่มีผ้ รู อรับปลายทางเป็ นเฉพาะหน้ า เจตนาได้ ทราบถึงเจตนานัน้ มีผลตังแต่ ้ การแสดงเจตนาไปถึงผู้รับการแสดงเจตนา การแสดงเจตนาเดิมไร้ ผล
การแสดงเจตนาที่ได้ สง่ ออกไปแล้ วไม่เสื่อมเสียไป
ยกขึ ้นเป็ นข้ อต่อสู้ผ้ รู ับการ แสดงเจตนาไม่ได้
ผู้รับการแสดงเจตนา = ผู้เยาว์ คนไร้ ความ สามารถ หรื อคนเสมือนไร้ ฯ
ยกขึ ้นเป็ นข้ อต่อสู้ผ้ รู ับการ แสดงเจตนาได้ เสียเปล่าทาง กม. ไม่อาจให้ สตั ยาบัน ผู้มีสว ่ นได้ เสียคนใดจะยกความเสียเปล่าของโมฆะกรรมขึ ้นอ้ างก็ได้ นาบทบัญญัติ ม.๔๐๖ หลักเกณฑ์ ของลาภมิควรได้ บุคคลใดได้ ทรัพย์มา ว่าด้ วยลาภ ด้ วยการที่บคุ คลอื่นชาระหนี ้หรื อด้ วยประการอื่น โดยปราศจาก มิควรได้ มาใช้ มูลเหตุอนั อ้ าง กม.ได้ และเป็ นทางให้ อีกบุคคลหนึ่งเสียเปรี ยบ บุคคลนันจ ้ าต้ องคืนทรัพย์ให้ แก่เขาไป ม.๔๑๒ ลาภมิควรได้ ท่ ีเป็ นเงิน (โดยหลักต้ องคืนเต็มจานวน เว้ นแต่เมื่อได้ รับโดยสุจริต ก็ให้ คืนเท่าที่เหลืออยู่) ม.๔๑๓ ลาภมิควรได้ ท่ ีเป็ นทรัพย์ สินอื่น ถ้ าได้ มาโดยสุจริต ก็คืนทรัพย์นนตามสภาพที ั้ ่เป็ นอยู่ ไม่ต้องรับผิดชอบในความ เสียหาย และหากถ้ าได้ ค่าสินไหมทดแทนก็ต้องให้ คืนด้ วย / แต่ถ้าได้ มาโดยทุจริตต้ องรับผิดชอบการเสียหายบุบสลายทังสิ ้ ้น
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
5
นิตกิ รรมบางส่วนตกเป็ น โมฆะ
๑๗๓
ถ้ าส่วนใดส่วนหนึ่งของนิตกิ รรมเป็ นโมฆะ เว้ นแต่ สันนิษฐานได้ โดยพฤติการณ์แห่งกรณีวา่ คูก่ รณีเจตนาให้ ส่วนที่ไม่ เป็ นโมฆะแยกออกจากส่วนที่เป็ นโมฆะ นิตกิ รรมใดเป็ นโมฆะ แต่สามารถเปลี่ยนรูปให้ เข้ าลักษณะเป็ นนิตกิ รรมอย่างอื่นซึ่งไม่เป็ นโมฆะ และหากคูก่ รณีประสงค์ให้ นิตกิ รรมมีผล และไม่ต้องการให้ เป็ นโมฆะ โมฆียะกรรมนัน้ บุคคลต่อไปนี ้จะบอกล้ างเสียก็ได้ กรณีวา่ ด้ วยความสามารถ ผู้แทนโดยชอบธรรม / ผู้อนุบาล / ผู้พท ิ กั ษ์ ผู้เยาว์ที่บรรลุนิตภ ิ าวะ หรื อผู้เยาว์ ที่ผ้ แู ทนโดยชอบธรรมยินยอม คนเสมือนไร้ ความสามารถ ที่ ผ้ พ ู ทิ กั ษ์ยินยอม บุคคลไร้ ความสามารถ/เสมือนไร้ ฯ ที่ศาลสัง่ ให้ หลุดพ้ น บุคคลวิกลจริ ตผู้กระทานิตก ิ รรมอันเป็ นโมฆียะตามมาตรา ๓๐ ในขณะที่จริตของบุคคลนันไม่ ้ วกิ ลแล้ ว กรณีบคุ คลผู้แสดงเจตนาเพราะสาคัญผิด หรื อถูกกลฉ้ อฉล หรื อถูกข่มขู่ ทายาทของบุคคลที่ทานิตกิ รรมที่เป็ นโมฆียะ โมฆียะกรรมเมื่อถูกบอกล้ าง
นิตกิ รรมเป็ นโมฆะแต่เข้ า ลักษณะนิตกิ รรมอย่างอื่นที่ ไม่เป็ นโมฆะ ผู้มีสทิ ธิบอกล้ างโมฆียะกรรม
๑๗๔
ถ้ าการสูฐ่ านะเดิมเป็ นการพ้ นวิสยั
๑๗๖ ว.๒
๑๗๖ ว.๓
ถ้ าบุคคลใดรู้หรื อควรจะได้ ได้ ร้ ูวา่ การนันเป็ ้ นโมฆียะ เมื่อบอกล้ าง โมฆียะกรรมแล้ ว การนัน้ หากใช้ สทิ ธิเรี ยกร้ องอันเกิดแต่การคืนสูฐ่ านะเดิมพ้ น ๑ ปี นับตังแต่ ้ การ บอกล้ างโมฆียะกรรม
๑๗๕
ผลการบอกล้ างโมฆียะกรรม
๑๗๖ ว.๑
นิตกิ รรมตกเป็ นโมฆะทังสิ ้ ้น ส่วนที่ไม่เป็ นโมฆะก็ยงั มีผล ผูกพันคูก่ รณีตอ่ ไป ให้ ถือว่านิตกิ รรมที่เปลี่ยนรูป ไปแล้ วไม่เป็ นโมฆะ เมื่อบอกล้ างแล้ ว นิตกิ รรม เป็ นโมฆะ (สูญเปล่ามาแต่ ต้ น)
ถือว่าเป็ นโมฆะมาแต่ต้น คูก่ รณีกลับสูฐ่ านะเดิม มีสท ิ ธิได้ รับค่าเสียหาย ชดใช้ แทน เป็ นโมฆะนับตังแต่ ้ วนั ที่ร้ ูหรื อ ควรได้ ร้ ูว่าเป็ นโมฆียะ ไม่มีสทิ ธิเรี ยกร้ องอันเกิดแต่ การกลับสูฐ่ านะเดิม
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
เพื่อให้ เป็ นไปตามเจตนาที่แท้ จริงของคูก่ รณี โดย เพียงแค่สนั นิษฐานได้ จากพฤติการณ์แห่งกรณี ว่าคูก่ รณีต้องการผูกพันกันก็พอแล้ ว ผู้มีสท ิ ธิบอกล้ างโมฆียกรรม คือ ผู้ที่มีสทิ ธิให้ สัตยาบันแก่โมฆียะกรรมเช่นกัน เมื่อผู้ทานิตก ิ รรมไม่มีสทิ ธิบอกล้ างแล้ ว ทายาทของบุคคลนันก็ ้ ไม่มีสทิ ธิด้วย ผู้มีสท ิ ธิบอกล้ างจะอยู่ฝ่ายที่มีการแสดง เจตนาบกพร่อง
การบอกล้ างโมฆียะกรรมเป็ นสิทธิซึ่งจะใช้ หรื อไม่ก็ได้ ม.๑๗๕ และ ๑๗๖ มักใช้ คกู่ นั
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
6
การให้ สตั ยาบันแก่ โมฆียะกรรม
๑๗๗
วิธีบอกล้ างและ วิธีให้ สตั ยาบัน
๑๗๘
การบอกล้ างและการให้ สตั ยาบันแก่โมฆียกรรม กระทาได้ ด้วยการแสดง เจตนากับอีกฝ่ ายหนึ่งซึ่งกาหนดตัวได้ แน่นอน (ถ้ากาหนดตัวไม่ได้ก็ถือว่า ยังไม่ได้บอกล้างโมฆี ยะกรรม) การให้ สต ั ยาบันแก่โมฆียกรรมที่กระทาภายหลังมูลเหตุให้ เป็ น โมฆียะกรรมหมดสิ ้นไปแล้ ว คนไร้ ความสามารถ เสมือนไร้ ฯ บุคคลวิกลจริ ต ตาม ม.๓๐ ภายหลังจาก ศาลถอนความไร้ เสมือนไร้ หรื อเมื่อบุคคลจริตหายจริตวิกล หากบุคคลซึ่งทาโมฆียกรรมตาย สิทธิบอกล้ างของบุคคลนันไม่ ้ สิ ้นสุด ภายหลังเวลาให้ พงึ ให้ สต ั ยาบันได้ ตาม ม.๑๙๗ หากบุคคลที่มีสทิ ธิบอก ล้ างโมฆียะกรรมตาม ม.๑๕๗ ได้ กระทาการดังนี ้ ได้ ปฏิบต ั กิ ารชาระหนีแ้ ล้ วทังหมดหรื ้ อบางส่วน ได้ มีการเรี ยกให้ ชาระหนี ้นันแล้ ้ ว ได้ มีการแปลงหนี ้ใหม่ ได้ มีการให้ ประกันเพื่อหนี ้นัน ้ ได้ มีการโอนสิทธิหรื อความรับผิดทังหมดหรื ้ อแต่บางส่วน ได้ มีการกระทาอย่างอื่นอันแสดงว่าได้ ให้ สต ั ยาบัน การบอกล้ างโมฆียะกรรม เมื่อพ้ นเวลา ๑ ปี นับแต่เวลาที่อาจให้ สต ั ยาบันได้ เมื่อพ้ นเวลา ๑๐ ปี นับแต่เวลาที่ทานิตก ิ รรม
ความสมบูรณ์ของการให้ สัตยาบัน
๑๗๙ ว.๑ ๑๗๙ ว.๒
พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็ นการให้ สัตยาบัน
ระยะเวลาการบอกล้ าง โมฆียะกรรม
๑๙๗ ว.๓ ๑๘๐
๑๘๑
เงื่อนไข / เงื่อนเวลา (ม.๑๘๒ – ม.๑๙๓) ข้ อความที่เป็ นเงื่อนไข ๑๘๒
บุคคลผู้มีสทิ ธิบอกล้ างโมฆียกรรมตาม ม.๑๗๕ ได้ ให้ สตั ยาบันแก่ โมฆียะกรรม
ข้ อความที่บงั คับให้ นิตกิ รรมเป็ นผลหรื อสิ ้นผล เป็ นข้ อความเหตุการณ์ในอนาคตซึ่งไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ ้นหรื อไม่
นิตกิ รรมนันสมบู ้ รณ์มาแต่ต้น ทังนี ้ ้ ต้ องไม่กระทบกระเทือน สิทธิบคุ คลภายนอก นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ / สมบูรณ์
บุคคลที่มีสทิ ธิให้ สตั ยาบันย่อมมีสทิ ธิบอกล้ าง ด้ วย ดังนัน้ ถ้ าสิทธิบอกล้ างหมดไป สิทธิที่จะให้ สัตยาบันย่อมหมดไปด้ วย กระทาด้ วยเจตนาหรื อหนังสือก็ได้ การบอกล้ าง และให้ สตั ยาบันไม่มีแบบ
การให้ สตั ยาบันนันสมบู ้ รณ์ สามารถให้ สตั ยาบันได้ หลักเดียวกับการบอกล้ าง สิทธิตกถึงทายาทได้ ทายาทให้ สตั ยาบันได้ ถ้ ามิได้ สงวนสิทธิไว้ ชดั แจ้ งแต่ ประการใด ให้ ถือว่าเป็ น พฤติการณ์ที่ให้ สตั ยาบัน
โมฆียกรรมนันบอกล้ ้ างไม่ได้
หากรู้วา่ ให้ สตั ยาบันได้ แล้ วปล่อยพ้ น ๑ ปี แม้ วา่ ยังอยู่ใน ๑๐ ปี ก็บอกล้ างไม่ได้ หากพ้ น ๑๐ ปี แล้ วแต่เพิง่ รู้ ก็บอกล้ างไม่ได้
ข้ อความนันเรี ้ ยกว่าเงื่อนไข
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
7
เงื่อนไขบังคับก่อนและ เงื่อนไขบังคับหลัง
หน้ าที่ของคูก่ รณีในระหว่างที่ เงื่อนไขยังไม่สาเร็จ สิทธิและหน้ าที่ของคูก่ รณีใน ระหว่างที่เงื่อนไขยังไม่สาเร็จ ความสาเร็จของเงื่อนไข
๑๘๓ ว.๑ ๑๘๓ ว.๒ ๑๘๓ ว.๓
๑๘๔
๑๘๕
๑๘๖ ว.๑
๑๘๖ ว.๒
กรณีเงื่อนไขสาเร็จแล้ วใน เวลาทานิตกิ รรม กรณีเงื่อนไขไม่อาจสาเร็จได้
๑๘๗ ว.๑
๑๘๗ ว.๒
กรณีคกู่ รณีไม่ร้ ูวา่ เงื่อนไข สาเร็จแล้ ว เงื่อนไขไม่ชอบด้ วย กม.
๑๘๗ ว.๓
๑๘๘
เงื่อนไขพ้ นวิสยั
๑๘๙ ว.๑ ๑๘๙ ว.๒ ๑๙๐
ความสาเร็จของเงื่อนไข แล้ วแต่ใจของลูกหนี ้
นิตกิ รรมใดมีเงื่อนไขบังคับก่อน นิตกิ รรมย่อมมีผลเมื่อเงื่อนไขนันส ้ าเร็จ นิตกิ รรมใดมีเงื่อนไขบังคับหลัง นิตกิ รรมนันย่ ้ อมสิ ้นผลเมื่อเงื่อนไขสาเร็จ ถ้ าคูก่ รณีแสดงเจตนาร่ วมกันว่าความสาเร็จแห่งเงื่อนไขมีผลย้ อนไปถึง เวลาใดเวลาหนึ่งก่อนเงื่อนไขสาเร็จ ในขณะที่เวลาเงื่อนไขยังไม่สาเร็จ ในขณะที่เวลาเงื่อนไขยังไม่สาเร็จ สิทธิในการจาหน่าย รับมรดก ป้องกันรักษา ทาประกัน ตาม กม. ถ้ าความสาเร็จแห่งเงื่อนไขใดจะทาให้ คกู่ รณีเสียเปรี ยบ และ คูก่ รณีฝ่ายที่เสียเปรี ยบกระทาการโดยไม่สจุ ริตจนทาให้ เงื่อนไขไม่สาเร็จ ถ้ าความสาเร็จแห่งเงื่อนไขใดจะทาให้ คกู่ รณีได้ เปรี ยบ และ คูก่ รณีฝ่ายที่ได้ เปรี ยบกระทาการโดยไม่สจุ ริตจนทาให้ เงื่อนไขสาเร็จ กรณีเงื่อนไขสาเร็จแล้ วในเวลาทานิตกิ รรม ถ้ าเป็ นเงื่อนไขบังคับก่อน ถ้ าเป็ นเงื่อนไขบังคับหลัง กรณีเงื่อนไขไม่ สามารถสาเร็จได้ อย่ างแน่ นอนในเวลาทานิตกิ รรม ถ้ าเป็ นเงื่อนไขบังคับก่อน ถ้ าเป็ นเงื่อนไขบังคับก่อน ตราบใดที่คกู่ รณียงั ไม่ร้ ูวา่ เงื่อนไขได้ สาเร็จแล้ วใน ว.๑ หรื อไม่อาจสาเร็จ ได้ ตาม ว.๒ นิตกิ รรมใดมีเงื่อนไขไม่ชอบด้ วย กม. หรื อขัดต่อความสงบเรี ยบร้ อยหรื อ ศีลธรรมอันดีของประชาชน นิตกิ รรมใดมีเงื่อนไขบังคับก่อน และเงื่อนไขนันเป็ ้ นการพ้ นวิสยั นิตกิ รรมใดมีเงื่อนไขบังคับหลัง และเงื่อนไขนันเป็ ้ นการพ้ นวิสยั นิตกิ รรมใดมีเงื่อนไขบังคับก่อน เงื่อนไขนันจะส ้ าเร็จได้ หรื อไม่สดุ แล้ วแต่ใจของฝ่ ายลูกหนี ้
ให้ บงั คับเป็ นไปตามเจตนา คูก่ รณีอนั อยู่ในบังคับเงื่อนไขจะต้ องงดเว้ นไม่กระทาการอะไรให้ เป็ นที่เสื่อมเสีย ประโยชน์แก่คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่ง ซึ่งจะพึงได้ จากความสาเร็จแห่งเงื่อนไขนัน้ คูก่ รณีสามารถใช้ สทิ ธินนได้ ั้ ให้ ถือว่าเงื่อนไขนันส ้ าเร็จแล้ ว กระทาการโดยไม่สจุ ริตเป็ นเหตุให้ เงื่อนไขไม่ สาเร็จ เพื่อตนจะได้ ไม่เสียประโยชน์ ให้ ถือว่าเงื่อนไขมิได้ สาเร็จเลย กระทาการโดยไม่สจุ ริตเป็ นเหตุให้ เงื่อนไขสาเร็จ เพื่อตนจะได้ ประโยชน์
นิตกิ รรมไม่มีเงื่อนไข นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ
นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ นิตก ิ รรมไม่มีเงื่อนไข คูก่ รณียงั มีสทิ ธิและหน้ าที่ ตาม ม.๑๘๔ และ ม.๑๘๕ นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ
สิทธิตาม ม.๑๘๔ และ ม.๑๘๕ ม.๑๘๔ งดเว้ นไม่กระทาการอะไรให้ เป็ นที่เสื่อม เสียประโยชน์แก่คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่ง ม.๑๘๕ สิทธิในการจาหน่าย รับมรดก ป้องกัน รักษา ทาประกัน ตาม กม.
นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ นิตกิ รรมไม่มีเงื่อนไข นิตกิ รรมเป็ นโมฆะ
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
8
กรณีนิตกิ รรมมีเงื่อนเวลา ข้ อสันนิษฐานเงื่อนเวลา
๑๙๑ ว.๑ ๑๙๑ ว.๒ ๑๙๒ ว.๑
กรณีลกู หนี ้ถือเอาประโยชน์ จากเงื่อนเวลาไม่ได้
๑๙๒ ว.๒
๑๙๓
นิตกิ รรมใดมีเงื่อนเวลาเริ่มต้ นกาหนดไว้ นิตกิ รรมใดมีเงื่อนเวลาสิ ้นสุดกาหนดไว้ นิตกิ รรมที่มีเงื่อนเวลาเริ่มต้ นหรื อสิ ้นสุดนัน้ เว้ นแต่ จะปรากฏโดยเนื ้อความแห่งตราสารหรื อโดยพฤติการณ์แห่งกรณี ว่าได้ ตงใจจะให้ ั้ เป็ นประโยชน์แก่ฝ่ายเจ้ าหนี ้หรื อแก่คกู่ รณี ทงสองฝ่ ั้ าย ด้ วยกัน ถ้ าเงื่อนเวลาเป็ นประโยชน์แก่ฝ่ายใด หากไม่กระทบกระเทือนถึง ประโยชน์ที่คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่งจะพึงได้ รับจากเงื่อนเวลานัน้ กรณีดงั ต่อไปนี ้ ลูกหนี ้ถูกศาลสัง่ พิทก ั ษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้ วยล้ มละลาย ลูกหนี ้ไม่ให้ ประกันในเมื่อจาต้ องให้ ลูกหนี ้ได้ ทาลาย หรื อทาให้ ลดน้ อยถอยลงซึ่งประกันที่ได้ ให้ ไว้ ลูกหนี ้นาทรัพย์ สน ิ ของบุคคลอื่นมาให้ เป็ นประกัน โดยเจ้ าของ ทรัพย์สนิ นันไม่ ้ ยินยอม
ห้ ามมิให้ ทวงให้ ปฏิบตั ติ ามนิตกิ รรมก่อนถึงเวลากาหนด นิตกิ รรมนันย่ ้ อมสิ ้นผลเมื่อถึงเวลากาหนด สันนิษฐานว่าเงือนไขนัน้ กาหนดไว้ เพื่อเป็ นประโยชน์ แก่ลกู หนี ้
ให้ นบั ตามบทบัญญัติ แห่งลักษณะนี ้ คานวณเป็ นวัน คานวณตามหน่วยนัน้ ให้ เริ่ มต้ นนับในขณะที่ เริ่มการนัน้
ระยะเวลา (ม.๑๙๓/๑ – ม.๑๙๓/๘) การนับระยะเวลา ๑๙๓/๑
การนับระยะเวลา
การคานวณระยะเวลา
๑๙๓/๒ ๑๙๓/๓ ว.๑
การคานวณระยะเวลา แต่ถ้ากาหนดเป็ นหน่วยเวลาที่สนกว่ ั ้ าวัน ถ้ ากาหนดระยะเวลาเป็ นหน่วยเวลาที่สนกว่ ั ้ าวัน
๑๙๓/๓ ว.๒
ถ้ ากาหนดระยะเวลาเป็ นวัน สัปดาห์ เดือนหรื อปี
๑๙๓/๔
ในทางคดีความ ในทางราชการ หรื อทางธุรกิจการค้ าและอุตสาหกรรม
การนับเวลาเริ่มต้ น
ความหมายของวัน
ฝ่ ายนันจะสละประโยชน์ ้ นนั ้ ก็ได้ ลูกหนี ้ถือเอาประโยชน์จาก เงื่อนเวลาเริ่มต้ นหรื อเงื่อน เวลาสิ ้นสุดไม่ได้ (ผลคือ เจ้าหนี ้มีสิทธิ เรี ยกให้ ชาระหนีก้ ่อนหนีถ้ ึงกาหนด) เว้ นแต่จะมี กม. คาสัง่ ศาล ระเบียบข้ อบังคับ หรื อนิตกิ รรมกาหนดเป็ นอย่างอื่น
ไม่นบั วันแรกแห่งระยะ เว้ นแต่จะเริ่มการในวันนันเองตั ้ งแต่ ้ เวลาที่ถือได้ เวลานันรวมเข้ ้ าด้ วยกัน ว่าเป็ นเวลาเริ่ มต้ นทาการงานกันตามประเพณี วัน หมายความว่า เวลาทาการตามที่ได้ กาหนดขึ ้นโดยกฎหมาย คาสัง่ ศาล หรื อ ระเบียบข้ อบังคับ หรื อเวลาทาการตามปกติของกิจการนัน้ แล้ วแต่กรณี
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
9
การคานวณระยะเวลาเป็ น สัปดาห์ เดือน หรื อปี
๑๙๓/๕ ว.๑ ๑๙๓/๕ ว.๒
การนับเวลากรณีกาหนดเป็ น ๑๙๓/๖ ว.๑ เดือนและวัน กรณีกาหนดเป็ นส่วนของปี ๑๙๓/๖ ว.๒
การคานวณส่วนเวลาของเดือน ๑๙๓/๖ ว.๓ กรณีวนั สุดท้ ายเป็ นวันหยุด ๑๙๓/๘
ถ้ ากาหนดระยะเวลาเป็ นสัปดาห์ เดือนหรื อปี ถ้ าระยะเวลามิได้ กาหนดนับแต่วนั ต้ นแห่งสัปดาห์ วันต้ นแห่งเดือน หรื อปี
ถ้ าในระยะเวลานับเป็ นเดือนหรื อปี นนไม่ ั ้ มีวนั ตรงกันในเดือนสุดท้ าย ถ้ าระยะเวลากาหนดเป็ นเดือนและวัน หรื อกาหนดเป็ นเดือนและส่วน ของเดือน ถ้ าระยะเวลากาหนดเป็ นส่วนของปี
การคานวณส่วนของเดือนตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ถ้ าวันสุดท้ ายของระยะเวลาเป็ นวันหยุดทาการตามประกาศเป็ นทางการ หรื อตามประเพณี วันเริ่มต้ นแห่งระยะเวลาที่ ๑๙๓/๗ ถ้ ามีการขยายระยะเวลาออกไปโดยมิได้ มีการกาหนดวันเริ่มต้ นแห่ง ขยายออกไป ระยะเวลาที่ขยายออกไป อายุความ (ม.๑๙๓/๙ – ม.๑๙๓/๒๕) / กาหนดอายุความ (ม.๑๙๓/๓๐ – ม.๑๙๓/๓๙) การขาดอายุความ ๑๙๓/๙ สิทธิเรี ยกร้ องใดๆ ถ้ ามิได้ ใช้ บงั คับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกาหนด ผลของสิทธิเรี ยกร้ องที่ขาด อายุความ ข้ อห้ ามเกี่ยวกับการตกลง เปลี่ยนแปลงอายุความ
๑๙๓/๑๐
สิทธิเรี ยกร้ องที่ขาดอายุความ
๑๙๓/๑๑
อายุความที่กฎหมายกาหนดไว้
การเริ่มนับอายุความ (ม.๑๙๓/๑๒ – ม.๑๙๓/๑๓) การเริ่มต้ นนับอายุความ ๑๙๓/๑๒ อายุความโดยทั่วไป ถ้ าเป็ นสิทธิเรี ยกร้ องให้ งดเว้ นกระทาการอย่างใด
ให้ คานวณตามปี ปฏิทิน ระยะเวลาย่อมสิ ้นสุดลงในวันก่อนหน้ าจะถึงวันแห่งสัปดาห์ เดือนหรื อปี สุดท้ ายอันเป็ นวันตรงกับวันเริ่มระยะเวลานัน้ ให้ ถือเอาวันสุดท้ ายแห่งเดือนนันเป็ ้ นวันสิ ้นสุดระยะเวลา ให้ นบั จานวนเดือนเต็มก่อน แล้ วจึงนับจานวนวันหรื อส่วนของเดือนเป็ นวัน ให้ คานวณส่วนของปี เป็ นเดือนก่อน หากมีสว่ นของเดือนให้ นบั ส่วนของเดือนเป็ นวัน ให้ ถือว่าเดือนหนึ่งมีสามสิบวัน ให้ นบั วันที่เริ่ มทาการใหม่ตอ่ จากวันที่หยุดทาการนันเป็ ้ นวันสุดท้ ายของ ระยะเวลา ให้ นบั วันที่ตอ่ จากวันสุดท้ ายของระยะเวลาเดิมเป็ นวันเริ่มต้ น
สิทธิเรี ยกร้ องนันเป็ ้ นอันขาด อายุความ ลูกหนี ้มีสทิ ธิที่จะปฏิเสธการ ชาระหนี ้ตามสิทธิเรี ยกร้ องนัน้ คูก่ รณีจะตกลงให้ งดใช้ หรื อ (อายุความเป็ น กม. ทีเ่ กี ่ยวข้องกับความสงบ เรี ยบร้อย และเพือ่ คุม้ ครองบุคคลภายนอก ขยายออกหรื อย่นเข้ าไม่ได้ ดังนัน้ คู่กรณี ไม่สามารถตกลงให้เป็ นอย่างอื ่น)
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
ให้ เริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรี ยกร้ องได้ เป็ นต้ นไป ให้ เริ่มนับแต่เวลาแรกที่ฝ่าฝื นกระทาการนัน้
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
10
การนับอายุความกรณีที่ได้ สิทธิเรี ยกร้ องจะบังคับได้ เมื่อ มีการทวงถาม
๑๙๓/๑๓
สิทธิเรี ยกร้ องที่เจ้ าหนี ้ยังไม่อาจบังคับได้ จนกว่าจะได้ ทวงถามให้ ลกู หนี ้ ให้ เริ่ มนับอายุความตังแต่ ้ เวลาแรกที่อาจทวงถามได้ เป็ นต้ นไป ชาระหนี ้ก่อน แต่ถ้าลูกหนี ้ยังไม่ต้องชาระหนี ้จนกว่าระยะเวลาหนึ่งจะได้ ลว ่ งพ้ นไปแล้ ว ให้ เริ่มนับอายุความตังแต่ ้ ระยะเวลานันได้ ้ สิ ้นสุดไปแล้ ว นับแต่เวลาที่ได้ ทวงถามนัน้ ให้ อายุความสะดุดหยุดลง (ม.๑๙๓/๑๔ – ม.๑๙๓/๑๘) อายุความสะดุดหยุดลง ๑๙๓/๑๔ กรณีที่ทาให้ อายุความสะดุดหยุดลง อายุความสะดุดหยุดลง (๑) ลูกหนี ้รับสภาพหนี ้ต่อเจ้ าหนี ้ตามสิทธิเรี ยกร้ องโดยทาเป็ นหนังสือรับสภาพหนี ใ้ ห้ ชาระหนี ้ให้ บางส่วน ชาระดอกเบี ้ย ให้ ประกัน หรื อกระทาการใดๆ อันปราศจาก ข้ อสงสัยแสดงให้ เห็นเป็ นปริยายว่ายอมรับสภาพหนี ้ตามสิทธิเรี ยกร้ อง (๒) เจ้ าหนี ้ได้ ฟ้องคดีเพื่อตังหลั ้ กฐานสิทธิเรี ยกร้ องหรื อเพื่อให้ ชาระหนี ้ (๓) เจ้ าหนี ้ได้ ยื่นคาขอรับชาระหนี ้ในคดีล้มละลาย (๔) เจ้ าหนี ้ได้ มอบข้ อพิพาทให้ อนุญาโตตุลาการพิจารณา (๕) เจ้ าหนี ้ได้ กระทาการอื่นใดอันมีผลเป็ นอย่างเดียวกันกับการฟ้องคดี การนับระยะเวลากรณีมีอายุ ๑๙๓/๑๕ เมื่ออายุความสะดุดหยุดลงแล้ ว ระยะเวลาที่ ลว ่ งไปก่อนนันไม่ ้ นบั เข้ าในอายุความ ความสะดุดหยุดลง เมื่อเหตุที่ทาให้ อายุความสะดุดหยุดลงสิ ้นสุดเวลาใด ให้ เริ่ มนับอายุความใหม่ตงแต่ ั ้ เวลานัน้ การทาหนังสือรับสภาพหนี ้ ๑๙๓/๑๖ หนี ้ใดซึ่งตามมูลแห่งหนี ้นัน้ เจ้ าหนี ้จะได้ รับชาระหนี ้เป็ นคราวๆ เจ้ าหนี ้มีสท ิ ธิเรี ยกให้ ลกู หนี ้ทาหนังสือรับสภาพหนี ้ให้ ในเวลาใดเวลาหนึ่งก่อน ก่อนอายุความครบบริ บรู ณ์ อายุความครบบริบรู ณ์ เพื่อเป็ นหลักฐานว่าอายุความสะดุดหยุดลง กรณีถือว่าอายุความไม่เคย ๑๙๓/๑๗ ว.๑ ในกรณีที่อายุความสะดุดหยุดลงเพราะเหตุตามมาตรา ๑๙๓/๑๔ (๒) ให้ ถือว่าอายุความไม่เคยสะดุดหยุดลง สะดุดหยุดลง หากคดีนนได้ ั ้ มีคาพิพากษาถึงที่สดุ ให้ ยกคาฟ้อง หรื อคดีเสร็จไปโดยการ จาหน่ายคดีเพราะเหตุถอนฟ้อง หรื อทิ ้งฟ้อง กรณีขยายอายุความ ๑๙๓/๑๗ ว.๒ ในกรณีที่คดีนนศาลไม่ ั้ รับหรื อคืนหรื อให้ ยกคาฟ้องเพราะเหตุคดีไม่อยู่ใน ให้ เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิฟ้องคดีเพื่อตังหลั ้ กฐานสิทธิเรี ยกร้ องหรื อเพื่อให้ ชาระหนี ้ เนื่องจากคาสัง่ หรื อคา อานาจศาล หรื อศาลให้ ยกคาฟ้องโดยไม่ตดั สิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่ และ ภายในหกสิบวันนับแต่วนั ที่คาพิพากษาหรื อคาสัง่ นันถึ ้ งที่สดุ พิพากษาของศาล ปรากฏว่าอายุความครบกาหนดไปแล้ วในระหว่างการพิจารณา หรื อจะ ครบกาหนดภายในหกสิบวันนับแต่วนั ที่คาพิพากษาหรื อคาสัง่ นันถึ ้ งที่สดุ บทอนุโลมนามาบังคับใช้ กรณีอายุความสะดุดหยุดลง
๑๙๓/๑๘
กรณีที่อายุความสะดุดหยุดลงเพราะเหตุตาม มาตรา ๑๙๓/๑๔ (๓) (๔) และ (๕)
ให้ นามาตรา ๑๙๓/๑๗ มาใช้ บังคับโดยอนุโลม
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
11
การขยายหรือย่ นหรืองดใช้ อายุความโดยกฎหมาย (ม.๑๙๓/๑๙ – ม.๑๙๓/๒๓) กรณีขยายอายุความ ๑๙๓/๑๙ ในขณะที่อายุความจะครบกาหนดนัน้ เนื่องจากเหตุสดุ วิสยั ถ้ ามีเหตุสด ุ วิสยั มาขัดขวางมิให้ เจ้ าหนี ้กระทาการตามมาตรา ๑๙๓/๑๔ อายุความสิทธิเรี ยกร้ องของ ๑๙๓/๒๐ อายุความสิทธิเรี ยกร้ องของผู้เยาว์หรื อของบุคคลวิกลจริตอันศาลจะสัง่ ผู้เยาว์หรื อบุคคลวิกลจริต ให้ เป็ นคนไร้ ความสามารถหรื อไม่ก็ตาม ถ้ าจะครบกาหนดลงในขณะที่ บุคคลดังกล่าวยังไม่ลถุ ึงความสามารถเต็มภูมิ หรื อในระหว่างหนึ่งปี นับแต่วนั ที่บุคคลดังกล่าวไม่มีผ้ แู ทนโดยชอบธรรมหรื อผู้อนุบาล แต่ถ้าอายุความสิทธิเรี ยกร้ องนันมี ้ ระยะเวลาน้ อยกว่าหนึ่งปี อายุความสิทธิเรี ยกร้ องที่จะ ๑๙๓/๒๑ อายุความสิทธิเรี ยกร้ องของผู้เยาว์หรื อของคนไร้ ฯ หรื อของคนเสมือนไร้ ฯ ฟ้องผู้แทนโดยชอบธรรม ที่จะฟ้องร้ องผู้แทนโดยชอบธรรมหรื อผู้อนุบาลหรื อผู้พิทกั ษ์ของตนนัน้ ผู้อนุบาล ผู้พทิ กั ษ์ ถ้ าจะครบกาหนดลงในขณะที่บคุ คลดังกล่าวยังไม่ลถุ ึงความสามารถ เต็มภูมิ หรื อในระหว่างหนึ่งปี นบั แต่วนั ที่บคุ คลดังกล่าวไม่มีผ้ แู ทนโดย ชอบธรรมหรื อผู้อนุบาลหรื อผู้พทิ กั ษ์ แต่ถ้าอายุความสิทธิเรี ยกร้ องนันมี ้ ระยะเวลาน้ อยกว่าหนึ่งปี อายุความสิทธิเรี ยกร้ อง ๑๙๓/๒๒ อายุความสิทธิเรี ยกร้ องระหว่างสามีภริยา ระหว่างสามีภรรยา ถ้ าจะครบกาหนดก่อนหรื อภายในหนึ่งปี นบ ั แต่วนั ที่การสมรสสิ ้นสุดลง อายุความสิทธิเรี ยกร้ องอัน ๑๙๓/๒๓ อายุความสิทธิเรี ยกร้ องอันเป็ นคุณหรื อเป็ นโทษแก่ผ้ ตู าย เป็ นคุณหรื อเป็ นโทษแก่ผ้ ตู าย ถ้ าจะครบกาหนดภายในหนึ่งปี นบ ั แต่วนั ตาย ผลของอายุความครบกาหนด (ม.๑๙๓/๑๐ และ ม.๑๙๓/๑๔ – ม.๑๙๓/๑๙) ผลของสิทธิเรี ยกร้ องที่ขาด ๑๙๓/๑๐ สิทธิเรี ยกร้ องที่ขาดอายุความ อายุความ การสละประโยชน์แห่งอายุ ๑๙๓/๒๔ เมื่ออายุความครบกาหนดแล้ ว ความ ผลเมื่ออายุความครบกาหนด ๑๙๓/๒๕ เมื่ออายุความครบกาหนดแล้ ว สิทธิเรี ยกร้ องส่วนที่เป็ น ๑๙๓/๒๖ เมื่อสิทธิเรี ยกร้ องส่วนที่เป็ นประธานขาดอายุความ ประธานขาดอายุความ แม้ วา ่ อายุความของสิทธิเรี ยกร้ องส่วนที่เป็ นอุปกรณ์ยงั ไม่ครบกาหนด
ให้ อายุความนันยั ้ งไม่ครบกาหนดจนกว่าจะพ้ นสามสิบวันนับแต่วนั ที่เหตุ สุดวิสยั นันได้ ้ สิ ้นสุดลง อายุความนันยั ้ งไม่ครบกาหนด จนกว่าจะครบหนึ่งปี นบ ั แต่วนั ที่บคุ คลนันได้ ้ ลถุ ึงความสามารถเต็มภูมิ หรื อ จนกว่าได้ มีผ้ แ ู ทนโดยชอบธรรมหรื อผู้อนุบาลแล้ วแต่กรณี ให้ นากาหนดระยะเวลาที่สนกว่ ั ้ านันมาใช้ ้ แทนกาหนดระยะเวลาหนึ่งปี อายุความนันยั ้ งไม่ครบกาหนด จนกว่าจะครบหนึ่งปี นบ ั แต่วนั ที่บคุ คลนัน้ ได้ ลถุ ึงความสามารถเต็มภูมิ หรื อ จนกว่าจะได้ มีผ้ แ ู ทนโดยชอบธรรมหรื อผู้อนุบาลหรื อผู้พิทกั ษ์ แล้ วแต่กรณี
ให้ นากาหนดระยะเวลาที่สนกว่ ั ้ านันมาใช้ ้ แทนกาหนดระยะเวลาหนึ่งปี อายุความนันยั ้ งไม่ครบกาหนดจนกว่าจะครบหนึ่งปี นับแต่วนั ที่การสมรสสิ ้นสุดลง
อายุความนันยั ้ งไม่ครบกาหนดจนกว่าจะครบหนึ่งปี นับแต่วนั ตาย
ลูกหนี ้มีสทิ ธิที่จะปฏิเสธการ ชาระหนี ้ตามสิทธิเรี ยกร้ องนัน้ ลูกหนี ้จะสละประโยชน์แห่ง แต่การสละประโยชน์นี ้ต้ องไม่กระทบกระเทือน อายุความนันก็ ้ ได้ สิทธิของบุคคลภายนอกหรื อผู้ค ้าประกัน ให้ มีผลย้ อนหลังขึ ้นไปถึงวันที่เริ่มนับอายุความ ให้ สทิ ธิเรี ยกร้ องส่วนที่เป็ นอุปกรณ์นนขาดอายุ ั้ ความด้ วย
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
12
สิทธิบงั คับชาระหนี ้ กรณีสทิ ธิ ๑๙๓/๒๗ เรี ยกร้ องส่วนที่เป็ นประธาน ขาดอายุความ ผลการชาระหนี ้ตามสิทธิ ๑๙๓/๒๘ ว.๑ เรี ยกร้ องที่ขาดอายุความ ๑๙๓/๒๘ ว.๒
ยังคงมีสทิ ธิบงั คับชาระหนี ้ แต่จะใช้ สทิ ธินนบั ั ้ งคับให้ ชาระดอกเบี ้ยที่ค้าง จากทรัพย์สนิ ที่จานอง จานา ย้ อนหลังเกินห้ าปี ขึ ้นไปไม่ได้ หรื อที่ได้ ยึดถือไว้ หากชาระไปมากน้ อยเพียงใด ก็จะเรี ยกคืนไม่ได้ ให้ นาบทบัญญัตใิ นวรรคหนึ่ง แต่จะอ้ างความข้ อนี ้ขึ ้นเป็ นโทษแก่ผ้ คู ้าประกัน มาบังคับใช้ เดิมไม่ได้ ผลการไม่ยกอายุความขึ ้น ๑๙๓/๒๙ ศาลจะอ้ างเอาอายุความมา เป็ นข้ อต่อสู้ เป็ นเหตุยกฟ้องไม่ได้ กาหนดอายุความ -- (อายุความ ๑๐ ปี ม.๑๙๓/๓๐ - /๓๒) (อายุความ ๕ ปี ม.๑๙๓/๓๓) (อายุความ ๒ ปี ม.๑๙๓/๓๔ – /๓๕) อายุความทัว่ ไป ๑๙๓/๓๐ อายุความนัน้ ถ้ าประมวลกฎหมายนี ้หรื อกฎหมายอื่นมิได้ บญ ั ญัตไิ ว้ ให้ มีกาหนดอายุความสิบปี โดยเฉพาะ อายุความสิทธิเรี ยกร้ องค่า ๑๙๓/๓๑ สิทธิเรี ยกร้ องของรัฐที่จะเรี ยกเอาค่าภาษีอากร กาหนดอายุความสิบปี ภาษีอากร สิทธิเรี ยกร้ องของรัฐที่จะเรี ยกเอาหนี ้อย่างอื่น ให้ บงั คับตามบทบัญญัตใิ นลักษณะนี ้ อายุความสิทธิเรี ยกร้ องตาม ๑๙๓/๓๒ สิทธิเรี ยกร้ องที่เกิดขึ ้นโดยคาพิพากษาของศาลที่ถึงที่สดุ หรื อ กาหนดอายุความสิบปี ทังนี ้ ้ คาพิพากษาหรื อสัญญา โดยสัญญาประนีประนอมยอมความ ไม่วา่ สิทธิเรี ยกร้ องเดิมจะมี ประนีประนอมยอมความ กาหนดอายุความเท่าใดก็ตาม สิทธิเรี ยกร้ อง ๑๙๓/๓๓ (๑) ดอกเบี ้ยค้ างชาระ สิทธิเรี ยกร้ องดังต่อไปนี ้ ให้ มี ที่มีอายุความ ๕ ปี (๒) เงินที่ต้องชาระเพื่อผ่อนทุนคืนเป็ นงวดๆ กาหนดอายุความห้ าปี (๓) ค่าเช่าทรัพย์สินค้ างชาระ เว้ นแต่คา ่ เช่าสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา๑๙๓/๓๔ (๖) (๔) เงินค้ างจ่าย คือ เงินเดือน เงินปี เงินบานาญ ค่าอุปการะเลี ้ยงดูและ เงินอื่นๆ ในลักษณะทานองเดียวกับที่มีการกาหนดจ่ายเป็ นระยะเวลา (๕) สิทธิเรี ยกร้ องตามมาตรา ๑๙๓/๓๔ (๑) (๒) และ (๕) ที่ไม่อยู่ใน บังคับอายุความสองปี
แม้ วา่ สิทธิเรี ยกร้ องส่วนที่เป็ นประธานจะขาดอายุความแล้ วก็ตาม ผู้รับจานอง ผู้รับจานา ผู้ทรงสิทธิยึดหน่วง หรื อผู้ทรงบุริมสิทธิเหนือ ทรัพย์สนิ ของลูกหนี ้อันตนได้ ยึดถือไว้ การชาระหนี ้ตามสิทธิเรี ยกร้ องซึ่งขาดอายุความแล้ วนัน้ แม้ วา่ ผู้ชาระหนี ้ จะไม่ร้ ูวา่ สิทธิเรี ยกร้ องขาดอายุความแล้ วก็ตาม กรณีลกู หนี ้รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็ นหนังสือ หรื อโดยการ ให้ ประกันด้ วย เมื่อไม่ได้ ยกอายุความขึ ้นเป็ นข้ อต่อสู้
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
13
สิทธิเรี ยกร้ อง ที่มีอายุความ ๒ ปี
๑๙๓/๓๔
(๑๗ อนุมาตรา) เป็ นกรณีปกติทางธุรกิจ เช่น ค่าจ้ าง ค่าทาของ ค่าเช่า ค่าธรรมเนียม ค่าเล่าเรี ยน ค่าเอาการงาน ค่ารักษาพยาบาล ค่าราคา สลากกินแบ่ง สินจ้ าง เงินทดรองที่ออกไปก่อน ค่าประกอบวิชาชีพ ฯลฯ ภายใต้ บงั คับมาตรา ๑๙๓/๒๗ สิทธิเรี ยกร้ องที่เกิดขึ ้นจากการที่ลกู หนี ้ รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็ นหนังสือหรื อโดยการให้ ประกัน ตาม ม.๑๙๓/๒๘ ว.๒
สิทธิเรี ยกร้ องดังต่อไปนี ้ ให้ มี กาหนดอายุความสองปี
อายุความสิทธิเรี ยกร้ องกรณี ๑๙๓/๓๕ ให้ มีกาหนดอายุความสองปี ลูกหนี ้รับสภาพความรับผิด นับแต่วนั ที่ได้ รับสภาพความ หรื อให้ ประกัน รับผิดหรื อให้ ประกัน การเกิดของสัญญา ม.๓๕๔ – ๓๖๘ ลักษณะคาเสนอ (ม.๓๕๔ – ๓๕๗) ลักษณะคาสนอง (ม.๓๕๘ - ๓๖๑) ลักษณะคามั่นจะให้ รางวัล (ม.๓๖๒ – ๓๖๔) ความนา – ลักษณะของคา ต้ องครบองค์ประกอบ ดังนี ้ ต้ องครบองค์ประกอบ ดังนี ้ ต้ องครบองค์ประกอบ ดังนี ้ เสนอ / คาสนอง / คามัน่ ๑) เป็ นการแสดงเจตนาขอทาสัญญา ๑) เป็ นการแสดงเจตนาที่ต้องมีผ้ รู ับการแสดงเจตนา ๑) เป็ นการแสดงเจตนาฝ่ ายเดียวที่ไม่ต้องมีผ้ รู ับ ๒) ต้ องเป็ นการแสดงเจตนาตอบตกลงรับตาเสนอนัน้ การแสดงเจตนา โดยวิธีการโฆษณา (การพิจารณาว่าสิ่งทีไ่ ด้แสดง ๒) เป็ นการแสดงเจตนาที่ชดั เจนและโดยชัดแจ้ งเท่านัน้ ในลักษณะโดยชัดแจ้ งหรื อโดยปริยายก็ได้ ๒) ผู้พนั หน้ าที่เฉพาะต่อผู้ให้ คามัน่ / ผู้แสดง เจตนาออกมาคือคาเสนอ คา ๓) คาเสนอต้ องมีข้อความชัดเจนเพียงพอ (ตัวทรัพย์ / ราคา / จานวน / คุณภาพ) ที่จะทาให้ สญ ั ญาเกิดหากมีการสนอง ๓) คาสนองมีความถูกต้ องตรงกับคาเสนอทุกประการ เจตนา สนอง หรื อคามัน่ จะให้รางวัล รับกลับมา ไม่มีเงื่อนไข การแก้ ไขจากัด ตัดทอน หรื อ ๓) มีความประสงค์ที่จะให้ รางวัลแก่ผ้ ทู ี่ทาการ หรื อไม่ตอ้ งดูให้ครบ องค์ประกอบ ซึ่งจะมี ๔) คาเสนอต้ องเป็ นการแสดงเจตนาให้ เห็นว่าผู้แสดงเจตนา เปลี่ยนแปลงคาเสนอเลย ตามที่ออกโฆษณาไว้ ความสาคัญกับการปรับบท) ประสงค์ให้ สญ ั ญานันเกิ ้ ดทันที (ผูกพันตนทันที) เมื่อ ๔) ต้ องตอบมาภายในเวลาที่ระบุคาเสนอหรื อภายใน ๔) จะถือเป็ นคามัน่ จะให้ รางวัลได้ ต้องเป็ นกรณี คูก่ รณีอีกฝ่ ายแสดงเจตนาหนึ่งแสดงเจตนาสนองรับ เวลาที่ควรคาดหมายได้ ที่เป็ นการให้ คามัน่ เพื่อให้ การกระทาที่ยงั ไม่ ๕) คาเสนออาจเป็ นการแสดงเจตนาต่อบุคคลเดียว ๕) คาสนองต้ องกระทาต่อบุคคลที่เฉพาะเจาะจงตัว มีบคุ คลใดกระทาการนันขณะให้ ้ คามัน่ เฉพาะเจาะจงหรื อต่อสาธารณะก็ได้ ข้ อสังเกต – ระหว่างการเจรจาทาสัญญา คู่สญ ั ญาอาจตัดสินใจไม่เข้าทาสัญญาก็ได้หากเห็นว่าตนเองเสี ยเปรี ยบหรื อได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า และการไม่เข้าทาสัญญานีก้ ็ถือว่ายัง ไม่มีการผิดหน้าที ่แต่ประการใด เพราะเมือ่ สัญญายังไม่เกิ ด “สิทธิ ” และ “หน้าที”่ อันเนือ่ งมาจากสัญญาก็ยงั ไม่มี คู่สญ ั ญาจึงมีเสรี ภาพในการทาสัญญาหรื อไม่ก็ได้ ถ้าทาคาสนองภายในเวลาที บ ่ ่งไว้ สัญญาเกิ ด คาเสนอมีระยะเวลาให้ ทาคา ๓๕๔ คาเสนอจะทาสัญญาอันบ่งเวลาให้ ทาคาสนอง ไม่อาจถอนได้ ภายใน ถ้าคาเสนอไม่ชด ั เจนเป็ นเพียงคาเชิ ญชวน สนอง ระยะเวลาที่บง่ ไว้ คาเสนอต่อบุคคลซึ่งอยู่ห่าง ๓๕๕ บุคคลทาคาเสนอไปยังผู้อื่นซึ่งอยู่ห่างกันโดยระยะทาง ถอนคาเสนอไม่ได้ ในเวลาอัน กันโดยระยะทาง โดยไม่ได้ บง่ เวลาให้ ทาคาสนอง ควรที่คาดว่าจะได้ รับคาสนอง หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
14
คาเสนอต่อบุคคลเฉพาะหน้ า
๓๕๖
กรณีคาเสนอสิ ้นความผูกพัน
๓๕๗
คาบอกกล่าวสนองซึ่งส่งโดย ทางการมาถึงล่วงเวลา คาสนองมาถึงล่วงเวลา
กรณีไม่นา ม.๑๖๙ ว.๒ มา บังคับ
๓๕๘ ว.๑
๓๕๘ ว.๒ ๓๕๙ ว.๑ ๓๕๙ ว.๒
๓๖๐
สัญญาระหว่างบุคคลซึ่งอยู่ ห่างกันโดยระยะทาง
๓๖๑ ว.๑
คาเสนอทาแก่บุคคลเฉพาะหน้ า รวมถึงการทาคาเสนอทางโทรศัพท์ โดยไม่ได้ บง่ ระยะเวลาให้ ทาคาสนอง คาเสนอที่ถกู บอกปั ดไปยังผู้เสนอ หรื อ มิได้ สนองรับภายในเวลากาหนด ตาม ม.๓๕๔, ๓๕๕, ๓๕๖ ถ้ าคาสนองที่สง่ โดยทางการ ซึ่งตามปกติควรจะมาถึงภายในเวลาที่กาหนด แต่มาถึงล่วงเวลา ถ้ าผู้เสนอละเลย ไม่บอกกล่าวตามวรรคแรก ถ้ าคาสนองมาถึงล่วงเวลา ถ้ าคาสนองมีข้อความเพิม่ เติม มีข้อจากัด หรื อมีข้อแก้ ไขอย่างอื่น ประกอบ หากก่อนรับคาสนอง คูก่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่งรู้วา่ ผู้ทาคาเสนอตาย หรื อตกเป็ น ผู้ไร้ ความสามารถ (คนไร้ฯ และ คนเสมือนไร้ฯ) หรื อ หากขัดกับเจตนาที่ผ้ เู สนอได้ แสดงไป
เสนอ ณ ที่ใดเวลาใด ก็สนอง ถ้ าต่อบุคคลเฉพาะหน้ าและกาหนดเวลาทาคา รับได้ เฉพาะที่นนั ้ เวลานัน้ สนอง ให้ ใช้ ม.๓๕๔ (ถอนไม่ได้ ก่อนกาหนด) คาเสนอนันสิ ้ ้นความผูกพัน ผู้เสนอต้ องบอกกล่าวแก่คกู่ รณีอีกฝ่ ายหนึ่งโดยพลันว่าคาสนองมาถึงช้ า ถือว่าคาสนองนันมิ ้ ได้ มาถึงล่วงเวลา ถือว่าคาสนองนันกลายเป็ ้ นคาเสนอขึ ้นมาใหม่ ถือเป็ นคาบอกปั ดไม่รับคาเสนอเดิม และ ถือว่าคาสนองนันกลายเป็ ้ นคาเสนอขึ ้นมาใหม่ด้วย คาเสนอเสื่อมเสียไป ม.๑๖๒ ว.๒ ภายหลังการแสดงเจตนาผู้แสดง เจตนาตายหรื อศาลสัง่ ให้ เป็ นคนไร้ ฯ หรื อคน (บทบัญญัติ ม.๑๖๒ ว.๒ เสมือนไร้ ฯ ผลคือ การแสดงเจตนาที่ได้ สง่ ออกไป ไม่นามาบังคับใช้) แล้ วไม่เสื่อมเสียไป สัญญานันเกิ ้ ดขึ ้น
สัญญาระหว่างบุคคลซึ่งอยู่ห่างกันโดยระยะทาง เมื่อคาบอกกล่าวคาสนองไปถึงผู้เสนอ ๓๖๑ ว.๒ ถ้ าตามเจตนาของผู้เสนอได้ แสดง สัญญานันเกิ ้ ดขึ ้น (แม้ไม่มีคาสนอง) ตามปกติประเพณี ไม่จาเป็ นต้ องมีคาสนอง เมื่อมีการอันใดอันหนึ่งพึงสันนิษฐานได้ ว่าเป็ นการแสดงเจตนาสนองรับ การทาคาเสนอ / คาสนอง การเกิดสัญญาในรูปข้ อมูลอิเลคทรอนิกส์ ตาม พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ พ.ศ.๒๕๔๔ การแสดงเจตนาทาเป็ นข้ อมูล ๑๔ การแสดงเจตนาหรื อคาบอกกล่าวระหว่างผู้สง่ ข้ อมูลและผู้รับ มีผลผูกพันทาง กม.เช่นเดียวกับการทาคาเสนอและคาสนอง เมื่อต้ องตรงกันสัญญาก็เกิด ทางอิเลคทรอนิกส์ได้ ข้ อมูล อาจทาเป็ นข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยต้ องดูความชัดเจนของคาเสนอและคาสนองด้ วยว่าครบองค์ประกอบหรื อไม่ การรับข้ อมูลทาง ๒๓ การรับข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ให้ ถือว่ามีผลนับแต่เวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นนได้ ั ้ เข้ าสูร่ ะบบข้ อมูลของผู้รับข้ อมูล อิเลคทรอนิกส์ มีผลเมื่อเข้ าสู่ หากผู้รับข้ อมูลได้ กาหนดระบบข้ อมูลที่ประสงค์จะใช้ ในการรับ ให้ ถือว่าการรับข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีผลนับแต่เวลาที่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์นน ั ้ ได้ เข้ า ระบบของผู้รับเป็ นสาคัญ ข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์ไว้ โดยเฉพาะ สูร่ ะบบข้ อมูลที่ผ้ รู ับข้ อมูลได้ กาหนดไว้ นนั ้
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
15
คามั่นจะให้ รางวัล คามัน่ ว่าจะให้ รางวัล
๓๖๒
แต่ถ้าข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดงั กล่าวได้ สง่ ไปยังระบบข้ อมูลอื่นของ ผู้รับข้ อมูลซึ่งมิใช่ระบบข้ อมูลที่ผ้ รู ับข้ อมูลกาหนดไว้
บุคคลออกโฆษณาให้ คามัน่ ว่าจาให้ รางวัลแก่ผ้ กู ระทาการใด แม้ วา่ ผู้กระทาการตามโฆษณาจะได้ กระทาไปโดยมิได้ เห็นแก่รางวัล กรณีตามมาตราก่อน ถ้ ายังไม่มีใครทาการสาเร็จตามที่ระบุไว้ เว้ นแต่จะแสดงไว้ ในโฆษณานันว่ ้ าไม่ถอนคามัน่ ถ้ าคามัน่ ไม่อาจถอนได้ โดยวิธีการตาม ว.๑ ผู้ให้ คามัน่ สามารถถอนโดยวิธีอื่นก็ได้ ถ้ าผู้ให้ คามัน่ ได้ กาหนดระยะเวลาเพื่อทาการตามโฆษณาไว้
การถอนคามัน่ จะให้ รางวัล
๓๖๓ ว.๑
๓๖๓ ว.๒
ผู้มีสทิ ธิได้ รับรางวัล
การประกวดชิงรางวัล
๓๖๓ ว.๓
๓๖๔ ว.๑ ๓๖๔ ว.๒
๓๖๔ ว.๓ ๓๖๕ ว.๑
๓๖๕ ว.๒
๓๖๕ ว.๓ ๓๖๕ ว.๔
ถ้ ามีบคุ คลหลายคนทาการตามที่ได้ บง่ ไว้ ในโฆษณา ถ้ าบุคคลหลายคนกระทาการนันได้ ้ พร้ อมกัน
ตามบทบัญญัตขิ ้ างต้ น ถ้ าในโฆษณาแสดงเจตนาไว้ เป็ นอย่างอื่น คามัน่ จะให้ รางวัลอันมีประสงค์เป็ นการประกวดชิงรางวัล ต้ องมีการกาหนดระยะเวลาไว้ ในคาโฆษณา ผู้มีสทิ ธิตดั สินว่า ผู้ประกวดคนไหนได้ กระทาสาเร็ จตามเงื่อนไขคามัน ่ ภายในเวลา หรื อ กรณี มีผ้ ป ู ระกวดหลายคน ผู้ประกวดคนไหนดีกว่ากันอย่างไร ทังนี ้ ้ คาตัดสินที่เกิดขึ ้นย่อมผูกพันผู้ที่เกี่ยวข้ องทุกฝ่ าย ถ้ าผู้ประกวดทาคะแนนดีเสมอกัน การโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ทาขึ ้นประกวด ต่อเมื่อได้ ระบุไว้ ในโฆษณาว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์
ให้ ถือว่าการรับข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์มีผลนับแต่เวลาที่ได้ เรี ยกข้ อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จากระบบข้ อมูลนัน้ ผู้ให้ คามัน่ ต้ องให้ รางวัลแก่ บุคคลนัน้ ผู้ให้ คามัน่ ถอนคามัน่ ของตน โดยวิธีเดียวกับทีโฆษณาได้ ถ้ าใช้ วธิ ีอื่น การถอนจะมีผล ผูกพันเฉพาะบุคคลที่ร้ ูการถอน ผู้ให้ คามัน่ สละสิทธิที่จะถอน แต่ถ้าพ้ นเวลาตามกาหนดที่ผ้ ใู ห้ คามัน่ กาหนดไว้ คามัน่ (ก่อนกาหนดเวลา) ถือว่าคามัน่ นันสิ ้ ้นผลไปโดยปริยาย คนแรกที่ทาได้ เป็ นผู้ได้ รางวัล ถ้ ารางวัลแบ่งได้ แต่ละคนก็มีสท ิ ธิได้ รับส่วนแบ่งเท่าๆ กัน ถ้ ารางวัลแบ่งไม่ได้ (๑) โดยสภาพหรื อ (๒) คาโฆษณาต้ องการให้ มีคนได้ รางวัลคนเดียว ให้ วนิ ิจฉัยโดยการจับฉลาก มิให้ ใช้ บงั คับตามวรรคทังสอง ้ ให้ บงั คับไปตามเจตนาของคามัน่ /โฆษณา คามัน่ นันจึ ้ งจะมีผลสมบูรณ์ ข้ อสังเกต คามัน่ โดยทั่วไปเป็ นนิตกิ รรมฝ่ ายเดียว ที่ต้องมีผ้ รู ับการแสดงเจตนา ซึ่งมีลกั ษณะผูกพัน มากกว่าการทาคาเสนอ ผู้ชี ้ขาดซึ่งได้ ระบุชื่อไว้ ใน โฆษณาเป็ นผู้ตดั สิน ถ้ ามิได้ ระบุชื่อไว้ ให้ ผ้ ใู ห้ คามัน่ เป็ นผู้ตดั สิน ให้ นา ม.๓๖๔ ว.๒ มาบังคับใช้ แล้ วแต่กรณี แบ่งได้ แบ่ง / แบ่งไม่ได้ จบั ฉลาก) ผู้ให้ คามัน่ ถึงจะเรี ยกให้ โอน ทรัพย์นนแก่ ั ้ ตนได้
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
16
สัญญาไม่ เกิดถ้ ายังตกลงกันไม่ ครบ V.S. สัญญาเกิดแม้ ยังไม่ ตกลงกันทุกเรื่อง กรณีเป็ นที่สงสัยข้ อตกลงใน ๓๖๖ ว.๑ ข้ อความใดๆ แห่งสัญญาซึ่งคูส่ ญ ั ญาแม้ เพียงฝ่ ายเดียวได้ แสดงไว้ วา่ เป็ น ถือว่าสัญญายังไม่เกิดขึ ้น ม.๓๖๖ ว.๑ V.S. ม.๓๖๗ – การเลือกใช้ มาตรา ข้ อความใดในสัญญา สาระสาคัญที่จะต้ องตกลงกันหมดทุกข้ อ ใดขึ ้นอยู่กบั เจตนาของคูก่ รณี คือ “เจตนาเป็ น ** สัญญาไม่ เกิดถ้ ายังตก อย่างไรก็บงั คับให้เป็ นไปอย่างนัน้ ” หากคูส ่ญ ั ญายังไม่ได้ ตกลงกันหมดทุกข้ อ ลงกันไม่ ครบ หากมีเจตนาให้ สญ ั ญาเกิด สัญญาก็เกิด เมื่อมีกรณี เป็ นที่สงสัย แม้ วา่ จะยังไม่ตกลงกันทุกเรื่ อง นอกจากนัน้ การที่ได้ ทาความเข้ าใจกันไว้ เฉพาะบางสิง่ บางอย่าง แม้ วา ่ ก็ไม่มีผลผูกพันกับคูส่ ญ ั ญา หากมีเจตนาไม่ต้องการให้ สญ ั ญาเกิด จะได้ จดลงไว้ สัญญาก็ไม่เกิด ๓๖๖ ว.๒ ถ้ าคูก่ รณีได้ ตกลงกันไว้ วา่ สัญญาที่มงุ่ จะทาต้ องทาเป็ นหนังสือ ถือว่ายังไม่มีสญ ั ญาต่อกัน เมื่อมีกรณี เป็ นที่สงสัย จนกว่าจะทาเป็ นหนังสือ สัญญาได้ ทาขึ ้นแล้ วแต่มีบาง ๓๖๗ ข้ อสัญญาที่คส ู่ ญ ั ญาได้ ถือว่าเป็ นอันได้ ทากันขึ ้นแล้ ว ถือว่าสัญญาเกิดขึ ้นแล้ ว ข้ อยังไม่ได้ ตกลง แม้ ยงั ไม่ได้ ตกลงกันในเนื ้อหาสาระข้ อใดข้ อหนึ่งที่ต้องตกลงกันให้ เสร็ จ ** สัญญาเกิดแม้ ยังไม่ ตก ถ้ าอนุมานได้ ว่า แม้ ไม่มีการทาความตกลงกันในข้ อนัน้ สัญญาก็จะเกิด ่ ลงกันทุกเรือง ขึ ้นอยู่ดี การตีความสัญญา (จาก Chart อ.สุรศักดิ์ หน้ า ๒๖-๑) ความนา / หลักการในการ หลักการตีความสัญญา มีวตั ถุประสงค์เพื่อให้ มีการบังคับสัญญาตามเจตนาที่คสู่ ญ ั ญาได้ ตกลงกัน หรื อ “pacta sunt servanda” โดยมีขนตอน ั้ ดังนี ้ ตีความสัญญา ๑) การค้ นหาเจตนาอันแท้ จริงยิ่งกว่าถ้ อยคาสานวนหรื อตัวอักษร ตาม ม.๑๗๑ ๒) เมื่อไม่สามารถหาเจตนาที่แท้ จริงระหว่างคูก่ รณีได้ หากสัญญานันเป็ ้ นสัญญาที่มีการทาเป็ นเอกสาร และสามารถตีความตามเอกสารได้ ให้ พจิ ารณา ม.๑๐ – ๑๔ ๓) หากเป็ นกรณีที่มี กม.เฉพาะเรื่ องบัญญัตไิ ว้ ก็ให้ บงั คับไปตามบทบัญญัตแิ ห่ง กม. นัน้ ๔) หากไม่สามารถค้ นหาเจตนาที่แท้ จริงได้ จาก ๓ ข้ อดังกล่าวข้ างต้ น ให้ บงั คับตาม ม.๓๖๘ โดย พิเคราะห์ถึงปกติประเพณี ก่อน ซึ่งถ้ าไม่มีปกติประเพณี ในเรื่ องนันก็ ้ บังคับตามความประสงค์ในทางสุจริ ต
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
17
๑. เหตุแห่ งการตีความสัญญา ข้ อความในสัญญาไม่ชด ั เจน
๑. การตีความการแสดง เจตนา ๒. การตีความเอกสาร
มีช่องว่างของสัญญา (ไม่ได้ ระบุตกลงกันไว้ )
๒. สัญญาทุกฉบับมีปัญหาในการตีความ บางครัง้ นึกไม่ถึงว่าจะเกิดปั ญหา จึงมิได้ ตกลงกัน หรื อตก ลงกันไว้ เป็ นบางส่วนแต่มไิ ด้ ตกลงกันในรายละเอียด เพราะคู่สญ ั ญาไม่มีทางตกลงกันได้ ในทุกประเด็น เรื่ องจึง เกิดปั ญหาที่วา่ สิง่ ที่ไม่ได้ ตกลงกันจะบังคับอย่างไร บางครัง้ จึงเกิด “ช่องว่างแห่งสัญญา” ๕. เจตนาที่แท้ จริงเป็ นของใคร นิ ติกรรมฝ่ ายเดี ยว เช่น พินย ั กรรม ถือเจตนาของผู้แสดง เจตนา สัญญา เจตนาร่ วมกันของคูส ่ญ ั ญา บางกรณี ต้องถือว่าเป็ นเจตนาร่ วมกันของคูส ่ญ ั ญาเพื่อ คุ้มครองผู้รับการแสดงเจตนา
๔. เจตนาที่แท้ จริง ม.๑๗๑ หมายถึง เจตนาภายใน เจตนาภายนอก จะใช้ ได้ ก็ตอ่ เมื่อมีพฤติการณ์ที่ต้องการคุ้มครองผู้รับ การแสดงเจตนาในกรณีที่บคุ คลโดยทัว่ ไปในสภาวะ เช่นนันเข้ ้ าใจว่าการแสดงเจตนาที่แสดงออกภายนอก นันต้ ้ องตรงกับเจตนาภายใน ย่อมต้ องบังคับตาม เจตนาภายใน คือ เจตนาที่แท้ จริง ๑๗๑ การตีความการแสดงเจตนานัน้ ให้ เพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้ จริ งยิ่งกว่าถ้ อยคาสานวนหรื อตัวอักษร ๑๐ เมื่อความข้ อใดข้ อหนึ่งในเอกสารอาจตีความได้ สองนัย นัยไหนจะทาให้ เป็ นผลบังคับได้ ๑๑ ในกรณี ที่มีข้อสงสัย ๑๒ ในกรณี ที่จานวนเงินหรื อปริ มาณในเอกสารแสดงไว้ ทงตั ั ้ วอักษรและ ตัวเลข ถ้ าตัวอักษรกับตัวเลขไม่ตรงกัน และ มิอาจหยัง่ ทราบเจตนาอันแท้ จริ งได้ ๑๓ ถ้ าจานวนเงินหรื อปริ มาณในเอกสารแสดงไว้ เป็ นตัวอักษรหลายแห่ง หรื อ เป็ นตัวเลขหลายแห่ง แต่ที่แสดงไว้ หลายแห่งนันไม่ ้ ตรงกัน และ มิอาจทราบเจตนาอันแท้ จริ งได้
๓. หลักการตีความสัญญา ตาม ม.๑๗๑ และ ม.๓๖๘ ใช้ ได้ กบ ั สัญญาทุกรูปแบบ คือ สัญญาเป็ นหนังสือ สัญญาด้ วยวาจา สัญญาด้ วยกิริยาท่าทาง ๖. สิ่งที่ช่วยในการค้ นหาเจตนาที่แท้ จริง พฤติกรรมทังหมดของผู ้ ้ แสดงเจตนา การปฏิบต ั คิ รัง้ ก่อนๆ ของผู้แสดงเจตนา จารี ต ประเพณี ขนบธรรมเนียม ดูความสัมพันธ์กบ ั ม.๓๖๘ สัญญาทังฉบั ้ บ มูลเหตุจงู ใจในการแสดงเจตนา
บังคับตามเจตนาที่แท้ จริง ยิ่ง กว่าถ้ อยคาสานวน/ตัวอักษร ให้ ถือเอาตามนัยนันดี ้ กว่าที่ จะถือเอานัยที่ไร้ ผล ให้ ตีความไปในทางที่เป็ นคุณแก่คกู่ รณีฝ่ายซึ่งจะเป็ นผู้ต้องเสียในมูลหนี ้นัน้ ให้ ถือเอาจานวนเงินหรื อ ปริมาณที่เป็ นตัวอักษรเป็ น ประมาณ ให้ ถือเอาจานวนเงินหรื อ ปริมาณน้ อยที่สดุ เป็ น ประมาณ
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
18
๑๔
๓. กม.บัญญัตไิ ว้ เฉพาะ ๔. การตีความสัญญา
๓๖๘
กรณีที่เอกสารทาขึ ้นไว้ หลายภาษา ไม่วา่ จะเป็ นฉบับเดียวกันหรื อหลาย ฉบับ โดยมีภาษาไทยด้ วย ถ้ าข้ อความในหลายภาษานัน้ แตกต่างกัน และ มิอาจหยัง่ ทราบเจตนาของคูก่ รณีได้ วา่ จะใช้ ภาษาใดบังคับ หากมี กม.ใดบัญญัตไิ ว้ เป็ นเรื่ องเฉพาะของกรณีนนๆ ั้ สัญญานันท่ ้ านให้ ตีความไปตาม (๒) ความประสงค์ในทางสุจริต โดย พิเคราะห์ถึง (๑) ปกติประเพณีด้วย
ผลแห่ งสัญญา / การรับความเสี่ยงในภัยพิบัติ ผลของสัญญาต่ างตอบ ๓๖๙ ในสัญญาต่างตอบแทนนัน้ คูส ่ญ ั ญาฝ่ ายหนึ่งมีสทิ ธิที่จะไม่ชาระหนี ้ แทน (บทหลัก) จนกว่าอีกฝ่ ายหนึ่งจะชาระหนี ้ หรื อขอปฏิบตั กิ ารชาระหนี ้ เว้ นแต่หนี ้ของอีกฝ่ ายหนึ่งยังไม่ถึงกาหนด สัญญาต่างตอบแทนมี ๓๗๐ ว.๑ หลักเกณฑ์ วัตถุประสงค์โอนทรัพย์ (บทยกเว้ น) สัญญาต่างตอบแทน เฉพาะสิง่ มีวต ั ถุประสงค์เป็ นการก่อให้ เกิดหรื อโอนทรัพย์สทิ ธิ ในทรั พย์ เฉพาะสิ่ง ทรัพย์นนสู ั ้ ญหายหรื อเสียหายไป (เกิ ดภัยพิบตั ิ ทาให้การชาระหนีห้ รื อส่ง มอบทรัพย์ของลูกหนี ้ คือ ผูข้ าย กลายเป็ นพ้นวิสยั ) ด้ วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอันจะโทษลูกหนี ้ไม่ได้
๓๗๐ ว.๒ (บทยกเว้ น)
ให้ ถือตามภาษาไทย
ให้ บงั คับไปตาม กม. นัน้ ** ให้ ดู (๑) ปกติประเพณี ก่อน หากไม่มี จึงไปดู (๒) ความประสงค์ในทางสุจริต
การสูญหายหรื อเสียหายตก เป็ นพับแก่เจ้ าหนี ้ (เจ้าหนีต้ อ้ งรับชาระหนีเ้ ต็ม) (ลูกหนี ้หลุดพ้ นจากการชาระ หนี ้ ตาม ม.๒๑๙ โดยไม่ต้อง ชาระค่าเสียหายอย่างอื่น ทดแทนด้ วย)
ถ้ าไม่ใช่ทรัพย์เฉพาะสิง่ ใช้ บทบัญญัตทิ ี่กล่าวมาในวรรคก่อนนี ้บังคับแต่ เวลาที่ทรัพย์นนกลายเป็ ั้ นทรัพย์เฉพาะสิง่ ตาม ม.๑๙๕ ว.๒ นันไป ้
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
ขอปฏิบตั กิ ารชาระหนี ้ อาทิ มีเงินพร้ อมจะชาระ หนี ้แล้ ว / การปรับ ม.๓๖๙ ต้ องดูบทยกเว้ นใน ม.๓๗๐ – ๓๗๒ ก่อน จะเข้ า ม.๓๗๐ ได้ นน ั ้ ต้ องครบองค์ประกอบ เจ้ าหนี ้ (ผูซ ้ ื ้อ) ต้ องไม่ผดิ ด้ วย กรณีท่ ีไม่ ใช่ ม.๓๗๐ หากโทษลูกหนีไ้ ด้ ผลคือ ลูกหนี ้ต้ องรับผิดชดใช้ ค่าสินไหมทดแทน ตาม ม.๒๑๘ ลูกหนี ้ไม่มีสท ิ ธิได้ รับชาระหนี ้ตอบแทน (หรื อ เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิปฏิเสธไม่รับชาระหนี ้ ม.๓๖๙) เจ้ าหนี ้มีสท ิ ธิเลิกสัญญา ตาม ม.๓๘๙ และ เรี ยกค่าเสียหายได้ ตาม ม.๓๙๑ ว.ท้ าย ถ้ าไม่ใช่ทรัพย์เฉพาะสิง่ ก็ไม่เข้ า ม.๓๗๐ ว.๑
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
19
สัญญาต่างตอบแทน มีเงื่อนไขบังคับก่อน (ทรัพย์สญ ู หายหรื อ ถูกทาลายไปทัง้ หมด) มาตรา ๑๘๓ ว.๑ “นิติกรรม ใดมีเงือ่ นไขบังคับก่อน นิติ กรรมนัน้ ย่อมเป็ นผลต่อเมือ่ เงือ่ นไขนัน้ สาเร็จแล้ว” สัญญาต่างตอบแทน มีเงื่อนไขบังคับก่อน (ทรัพย์เพียงแค่เสียหาย แต่ยงั มีตวั ทรัพย์ทีส่ ามารถ ส่งมอบได้อยู่)
การชาระหนี ้ตกเป็ นพ้ นวิสยั โดยโทษใครไม่ได้
๓๗๑ ว.๑ หลักเกณฑ์ (บทยกเว้ น) สัญญาต่างตอบแทน มีวต ั ถุประสงค์เป็ นการก่อให้ เกิดหรื อโอนทรัพย์สทิ ธิ ในทรั พย์ เฉพาะสิ่ง สัญญาอยู่ภายใต้ เงื่อนไขบังคับก่อน ทรัพย์อน ั เป็ นวัตถุแห่งสัญญาที่อยู่ภายใต้ เงื่อนไขบังคับก่อนนันสู ้ ญหาย หรือถูกทาลายไปทัง้ หมด (ไม่มีทรัพย์เหลืออยู่) ความสูญหายหรื อถูกทาลายเกิดขึ ้นระหว่างเงื่อนไขยังไม่สาเร็ จ (กรรม สิทธ์ ยงั ไม่โอน) ๓๗๑ ว.๒ หลักเกณฑ์ (บทยกเว้ น) สัญญาต่างตอบแทน มีวต ั ถุประสงค์เป็ นการก่อให้ เกิดหรื อโอนทรัพย์สทิ ธิ ในทรั พย์ เฉพาะสิ่ง สัญญาอยู่ภายใต้ เงื่อนไขบังคับก่อน ทรัพย์อน ั เป็ นวัตถุแห่งสัญญาที่อยู่ภายใต้ เงื่อนไขบังคับก่อนนันเสี ้ ยหาย (ทรัพย์คงมีอยู่แต่เสียหาย -- ต่างจาก ว.๑ ซึ่งเป็ นกรณี ทรัพย์สูญหาย) ความเสียหายเกิดขึ ้นระหว่างเงื่อนไขยังไม่สาเร็ จ (กรรมสิ ทธ์ ยงั ไม่โอน) ความเสียหายเกิดจากเหตุอน ั โทษเจ้ าหนี ้ไม่ได้ นอกจากนัน้ หากความเสียหายที่เกิดขึ ้นสามารถโทษลูกหนี ้ได้ แล้ ว
๓๗๒ ว.๑ (บททัว่ ไป)
หลักเกณฑ์ สัญญาต่างตอบแทน ต้ องไม่ใช่กรณี ที่กาหนดไว้ ตาม ม.๓๗๐ และ ม.๓๗๑ การชาระหนี ้ของลูกหนี ้ตกเป็ นพ้ นวิสย ั โดย โทษฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งไม่ได้
ไม่ให้ นาบทบัญญัตขิ อง ม. ๓๗๐ มาใช้ บงั คับ ผลคือ ภัยพิบตั ไิ ม่ตกเป็ นพับแก่ เจ้ าหนี ้ (ลูกหนีไ้ ม่มีสิทธิ ได้รบั ชาระ หนีต้ อบแทนจากเจ้าหนี )้
เมื่อเงื่อนไขสาเร็จแล้ ว เจ้ าหนี ้ มีสทิ ธิเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ใน ๒ ประการ คือ ๑) เรี ยกให้ ชาระหนี ้โดยลด ส่วนที่ตนต้ องชาระลง ตามสัดส่วนความเสีย หายของตัวทรัพย์ หรื อ ๒) เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิบอกเลิก สัญญา เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิเรี ยกค่าสินไหม ทดแทนเพิ่มเติมจากความ เสียหายที่เกิดขึ ้นได้ อีกด้ วย ลูกหนี ้ไม่มีสทิ ธิได้ รับชาระหนี ้ ตอบแทน
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
หากเงื่อนไขบังคับก่อนสาเร็จแล้ ว และถ้ า ภัยพิบตั ไิ ม่ได้ เกิดจากความผิดของลูกหนี ้ กลับไปใช้ ม.๓๗๐ว.๑ ผลคือ ลูกหนี ้หลุดพ้ น จากการชาระหนี ้ โดยผลของ ม.๒๑๙ มาตรา ๑๘๒ “ข้อความใดอันบังคับไว้ให้นิติ กรรมเป็ นผลหรื อสิ้นผลต่อเมือ่ มีเหตุการณ์ อนั ไม่ แน่นอนว่าจะเกิ ดขึ้นหรื อไม่ในอนาคต ข้อความ นัน้ เรี ยกว่าเงือ่ นไข”
ม.นี ้บอกว่าเมื่อเงื่อนไขสาเร็จ สัญญาจะเกิด ดังนัน้ เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิ/ลูกหนีม้ ีหน้ าที่อะไรบ้ าง มาตรา ๑๘๗ “ถ้าเงือ่ นไขสาเร็จแล้วในเวลาทา นิติกรรม หากเป็ นเงือ่ นไขบังคับก่อนให้ถือว่านิติ กรรมนัน้ ไม่มีเงือ่ นไข”
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
20
การชาระหนี ้ตกเป็ นพ้ นวิสยั โดยโทษเจ้ าหนี ้ได้
๓๗๒ ว.๒
หลักเกณฑ์ สัญญาต่างตอบแทน ต้ องไม่ใช่กรณี ที่กาหนดไว้ ใน ม.๓๗๐ และ ม.๓๗๑ (ไม่มีวต ั ถุประสงค์ใน การก่อให้เกิ ดหรื อโอนทรัพยสิทธิ ทีเ่ ป็ นทรัพย์เฉพาะสิ่ง) การชาระหนี ้ขอลูกหนี ้ตกเป็ นพ้ นวิสย ั โดย โทษเจ้ าหนี ้ได้ ถือว่ าโทษเจ้ าหนี ้ได้ เพราะเจ้ าหนี ้ผิดนัด ข้ อตกลงยกเว้ นมิให้ ลูกหนี้รับผิด + พ.ร.บ.ว่ าด้ วยข้อสัญญาที่ไม่ เป็ นธรรม พ.ศ.๒๕๔๐ (เฉพาะ ม.๔ ม.๖ และ ม.๘) ข้ อตกลงยกเว้ นมิให้ ลกู หนี ้ ๓๗๓ ความตกลงทาไว้ ลว ่ งหน้ าเป็ นข้ อความยกเว้ นความรับผิดของลูกหนี ้เพื่อ รับผิด (ให้พิจารณา ม.๘ ข้อ กลฉ้ อฉล (การจงใจกระทา) หรื อ สัญญาไม่เป็ นธรรมก่อน) ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ ายแรงของตนนัน ้ ป้ายประกาศจะมีผลในทาง ๘ ว.๑ ข้ อตกลง ประกาศ หรื อคาแจ้ งความที่ได้ ทาไว้ ลว ่ งหน้ า กม. ก็ตอ่ เมื่อผู้บริโภคได้ เห็น เพื่อยกเว้ นหรื อจากัด (๑) ความรั บผิดเพื่อละเมิด หรื อ (๒) ผิดสัญญา และรับทราบการแสดงเจตนา ในความเสียหายต่อชีวติ ร่ างกาย หรืออนามัยของผู้อื่น อันเกิดจากการ ดังกล่าว (ตาม ปพพ. ม.๑๖๘ กระทาโดยจงใจหรื อประมาทเลินเล่อ (คุม้ ครองชี วิต ร่างกาย อนามัย) การแสดงเจตนาต่อบุคคลซึ่ง ความผิดนันเป็ ้ นของ (๑) ผู้ตกลง ผู้ประกาศ ผู้แจ้ งความ หรื อ ของ อยู่เฉพาะหน้ า) หากป้ายอยู่ (๒) บุคคลอื่นซึ่งผู้ตกลง ผู้ประกาศ หรื อผู้แจ้ งความต้ องรับผิดด้ วย ในที่ไม่ชดั เจน ผู้บริโภคไม่เห็น ๘ ว.๒ ข้ อตกลง ประกาศ หรื อคาแจ้ งความที่ได้ ทาไว้ ลว ่ งหน้ าเพื่อยกเว้ นหรื อ ข้ อตกลงยกเว้ นความรับผิด จากัดความรับผิดในกรณีอื่น นอกจากที่กล่าวในวรรคหนึ่ง ซึ่งไม่เป็ น นันก็ ้ ไม่มีผลทาง กม. โมฆะ (คุม้ ครองทรัพย์ สิน) พ.ร.บ.ว่ าด้ วยข้ อสัญญาที่ ๔ ว.๑ ข้ อตกลงในสัญญาระหว่างผู้บริ โภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้ า หรื อ ไม่ เป็ นธรรม พ.ศ.๒๕๔๐ วิชาชีพ หรื อในสัญญาสาเร็จรูป หรื อในสัญญาขายฝาก ทาให้ ผ้ ป ู ระกอบธุรกิจการค้ า หรื อวิชาชีพ หรื อผู้กาหนดสัญญาสาเร็จรูป ขอบเขตของ ม.๔ แคบกว่า หรื อผู้ซื ้อฝากได้ เปรี ยบคู่สญ ั ญาอีกฝ่ ายหนึง่ เกินสมควร ม.๘ เพราะใช้ กรณีเฉพาะที่ ๔ ว.๒ ในกรณี ที่มีข้อสงสัย เป็ นสัญญาเท่านัน้
ลูกหนีห้ ลุดพ้นจากการชาระหนี ้ ตาม ม.๒๑๙ ลูกหนี ้มีสทิ ธิรับชาระหนี ้ตอบแทน (เนือ่ งจากเกิ ดจากความผิดของเจ้าหนี)้ แต่อาจ ไม่ได้ รับชาระหนี ้เต็มจานวน เพราะต้ องหักสิง่ ที่ลกู หนี ้ควรได้ มา (ถ้ ามี) คือ ๑) ได้ มาเพราะการปลดหนี ้ หรื อได้ มาเพราะไม่ต้องชาระหนี ้ (ไม่ตอ้ งเสียค่ารถ เดินทางมาทาสี / ไม่เสียค่าอุปกรณ์ ทาฟัน) ๒) ได้ มาเพราะใช้ ความสามารถไปหาประโยชน์อย่างอื่นในขณะไม่ต้องชาระหนี ้ ๓) ไม่ได้ มาเพราะแกล้ งละเลยไม่ขวนขวายเอาอะไรที่สามารถจะทาได้
ความตกลงนันเป็ ้ นโมฆะ และจานามาอ้ าง
ความรับผิดตามสัญญา แบ่งเป็ น ความรับผิดทางสัญญา ความรับผิดเพื่อละเมิด ข้ อตกลงตกเป็ นโมฆะ และ ม.๘ ต่ างกับ ม.๓๗๓ ม.๘ คุ้มครอง > ม.๓๗๓ ม.๘ แม้ เป็ นความประมาทธรรมดา ผลคือ จะนามาอ้ างเป็ นข้ อยกเว้ น ข้ อตกลง คาประกาศ หรื อคาแจ้ งความนันก็ ้ หรื อจากัดความรับผิดไม่ได้ เป็ นโมฆะ (แต่ ม.๓๗๓ ต้องเป็ นการจงใจ กระทาหรื อ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง) ม.๘ คุ้มครองถึงความเสียหายที่เกิดจาก บุคคลอื่นที่ลกู หนี ้ใช้ ให้ ชาระหนี ้ด้ วย แต่ ม. ข้ อตกลงมีผลบังคับได้ เพียง ๓๗๓ คุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิด เท่าที่เป็ นธรรมและพอสมควร จากลูกหนี ้เท่านัน้ แก่กรณีเท่านัน้ ข้ อสัญญานันเป็ ้ นข้ อสัญญาที่ไม่เป็ นธรรม และให้ มีผลบังคับได้ เพียงเท่าที่เป็ นธรรมและพอสมควรแก่กรณี
ให้ ตีความสัญญาสาเร็จรูปไปในทางที่เป็ นคุณแก่ฝ่ายซึ่งมิได้ เป็ นผู้กาหนดสัญญา สาเร็จรูป
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
21
พ.ร.บ.ว่ าด้ วยข้ อสัญญาที่ ไม่ เป็ นธรรม พ.ศ.๒๕๔๐
๖
ลักษณะละเมิด
๔๒๐
ผู้ขายต้ องรับผิดกรณี ทรัพย์สนิ ชารุดบกพร่อง
๔๗๒
ข้ อตกลงให้ ผ้ ขู ายไม่ต้องรับ ผิด ขอบเขตข้ อสัญญาไม่ต้องรับ ผิด ขอบเขตข้ อสัญญาไม่ต้องรับ ผิด
๔๘๓ ๔๘๔ ๔๘๕
ข้ อสังเกตจาก ม. ๔ ว.๑ ข้อตกลงทีม่ ีลกั ษณะหรื อมีผ่ ลให้คู่สญ ั ญาอี กฝ่ ายหนึ่งปฏิ บตั ิหรื อรับภาระเกิ นกว่าที ่วิญญูชนจะพึงคาดหมายได้ตามปกติ เป็ นข้อตกลงทีอ่ าจถือได้ว่าทาให้ได้เปรี ยบคู่สญ ั ญาอี กฝ่ ายหนึ่ง เช่น ข้อตกลงทีย่ กเว้นหรื อจากัดความรับผิดอันเกิ ดจากการผิดสัญญา สัญญาระหว่างผู้บริ โภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้ าหรื อวิชาชีพที่มีการ จะมีข้อตกลงยกเว้ นหรื อ ตัวอย่าง ป้าย “ซื ้อแล้วไม่รบั คืน” หากเป็ นการส่ง ชาระหนี ้ด้ วยการส่งมอบทรัพย์สนิ ให้ แก่ผ้ บู ริโภค จากัดความรับผิดของผู้ มอบทรัพย์สนิ และเมื่อผู้ซื ้อได้ ซื ้อไปแล้ ว พบว่า ประกอบธุรกิจการค้ าหรื อ สินค้ าบกพร่อง ผู้ซื ้อมีสทิ ธิคืนได้ ซึ่งได้ รับความ วิชาชีพเพื่อความชารุด คุ้มครองตาม ม.๖ พ.ร.บ.ว่าด้ วยข้ อสัญญาที่ไม่ บกพร่องหรื อเพื่อการรอน เป็ นธรรม พ.ศ.๒๕๔๐ สิทธิไม่ได้ เว้ นแต่ผ้ บ ู ริโภคได้ ร้ ูถึงความชารุดบกพร่องหรื อเหตุแห่งการรอนสิทธิอยู่ ข้ อตกลงยกเว้ นหรื อจากัด แล้ วในขณะทาสัญญา ความรับผิดนันมี ้ ผลบังคับได้ เพียงเท่าที่เป็ นธรรมและ พอสมควรแก่กรณี เท่านัน้ ผู้ใดจงใจหรื อประมาทเลินเล่อทาต่อบุคคลอื่นโดยผิด กม. ให้ เขาเสียหาย ผู้นนท ั ้ าละเมิดจาต้ องใช้ คา่ ถึงแก่ชีวติ ร่างกาย อนามัย เสรี ภาพ ทรัพย์สนิ หรื อสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด สินไหมทดแทนเพื่อการนัน้ ในกรณี ที่ทรัพย์สน ิ ซึ่งขายนันช ้ ารุดบกพร่อง ผู้ขายต้ องรับผิด ความชารุดบกพร่ องเป็ นเหตุให้ เสื่อมราคาหรื อเสื่อมความเหมาะสมแก่ ประโยชน์อนั มุง่ จะใช้ เป็ นปกติ หรื อประโยชน์ที่มงุ่ หมายโดยสัญญา ไม่วา ่ ผู้ขายจะรู้หรื อไม่ร้ ู ว่าความชารุดบกพร่องมีอยู่ หากคูส ่ญ ั ญาซื ้อขายจะตกลงกันว่าผู้ขายจะไม่ต้องรับผิดเพื่อความชารุด คูส่ ญ ั ญาสามารถตกลงกันได้ เป็ นไปตามหลักบังคับให้ เป็ นไปตามเจตนาของ บกพร่องหรื อเพื่อการรอนสิทธิ คูก่ รณีที่ตกลงร่วมกัน ข้ อสัญญาว่าจะไม่ต้องรับผิดนัน้ ย่อมไม่ค้ มุ ผู้ขายให้ พ้นจาก เว้ นแต่จะได้ ระบุไว้ เป็ นอย่างอื่น การต้ องส่งเงินคืนตามราคา ข้ อสัญญาว่าจะไม่ต้องรับผิด ไม่ค้ มุ ครองความรับผิดของ หากเป็ นผลของการที่ ผ้ ข ู ายได้ กระทาไปเอง หรื อ ผู้ขาย เป็ นผลแห่งข้ อความจริ งที่ผ้ ข ู ายรู้อยู่แล้ ว และปกปิ ดไม่ให้ ผ้ ซู ื ้อทราบ
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
22
สัญญาเพื่อประโยชน์ ของบุคคลภายนอก สัญญาตกลงชาระหนี ้ให้ กบั ๓๗๔ ว.๑ บุคคลภายนอก ๓๗๔ ว.๒ สิทธิบคุ คลภายนอกตาม มาตราก่อน ข้ อต่อสู้อนั เกิดแต่มลู สัญญา ตาม ม.๓๗๔
เมื่อคูส่ ญ ั ญาฝ่ ายหนึ่งทาสัญญาตกลงว่าจะชาระหนี ้แก่บคุ คลภายนอก
๓๗๕
เมื่อบุคคลภายนอกแสดงเจตนาแก่ลกู หนี ้ว่าจะถือเอาประโยชน์จาก สัญญา(ทีต่ นกับเจ้าหนีไ้ ด้ทาระหว่างกัน) นัน้ เมื่อสิทธิของบุคคลภายนอกได้ เกิดขึ ้นตาม ม.๓๔๗
๓๗๖
ข้ อต่อสู้อนั เกิดแต่มลู สัญญาดังกล่าวตาม ม.๓๔๗
มัดจาและเบี้ยปรับ (ม.๓๗๗ – ๓๘๕) วัตถุประสงค์ ของมัดจา ข้ อความโดยทั่วไป ๑) เพื่อเป็ นพยานหลักฐานว่าสัญญานันได้ ้ ทากันขึ ้นแล้ ว มัดจา / เบี ้ยปรับ ๒) เพื่อเป็ นประกันการปฏิบตั กิ ารชาระหนีต้ ามสัญญา ** อย่างไรก็ตาม เมือ่ มีการชาระหนี ้ตามสัญญาแล้ว มัดจาอาจจะส่งคืน (โดยเฉพาะ ทรัพย์สินทีไ่ ม่ใช่เงิน) หรื อ อาจจัดให้เป็ นการชาระหนีบ้ างส่วนก็ได้ ** ข้อสังเกต – มัดจาและ เบีย้ ปรับเป็ นสัญญาอุปกรณ์ ลักษณะของมัดจา ๑) เป็ นสิง่ ที่คสู่ ญ ั ญาส่งมอบไว้ ให้ แก่กนั ซึ่งหากสัญญาประธานไม่ ๒) การส่งมอบนันต้ ้ องส่งในขณะ “เมื่อเข้ าทาสัญญา” สมบูรณ์ สัญญาอุปกรณ์ ก็ ๓) สิง่ ที่สง่ มอบเป็ นมัดจาต้ องเป็ น “ตัวเงิน” หรื อ “สิง่ มีคา่ อย่างอื่น” ที่มีคา่ อยู่ใน จะมีผลไม่สมบูรณ์ ไปด้วย ตัวเอง และสามารถใช้ ชาระหนี ้ได้ ตาม กม. ๔) สิง่ ที่สง่ มอบให้ เป็ นมัดจาต้ องเป็ น “สังหาริมทรัพย์” เท่านัน้ โดยมีการส่งมอบที่ พร้ อมจะให้ ริบได้ เสมอ ๕) สิง่ ที่สง่ มอบเป็ นมัดจามิใช่การชาระหนี ้ล่วงหน้ า ผลของมัดจา -- โดยหลักสัญญาตกลงกันไว้ อย่างไรก็บงั คับอย่างนัน้ เว้ นแต่หากไม่มี การตกลงกัน ผลก็เป็ นไปตามที่ กม. กาหนด ม.๓๗๘ (การปฏิบตั เิ กี่ยวกับมัดจา)
บุคคลภายนอกมีสท ิ ธิเรี ยก
ชาระหนี ้จากลูกหนี ้โดยตรง สิทธิของบุคคลภายนอก ย่อมเกิดมีขึ ้นตังแต่ ้ เวลานัน้ คูส่ ญ ั ญาจะระงับหรื อเปลี่ยน แปลงสิทธิภายหลังไม่ได้ ลูกหนี ้สามารถยกขึ ้นต่อสู้ บุคคลภายนอกผู้ได้ รับ ประโยชน์นนได้ ั้ วัตถุประสงค์ ของเบีย้ ปรับ ๑) เพื่อลงโทษคูส่ ญ ั ญาฝ่ ายที่ไม่ชาระหนี ้หรื อชาระหนี ้ไม่ถูกต้ อง ๒) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางสัญญาให้ แน่นแฟ้น คือ เพื่อกระตุ้นให้ คสู่ ญ ั ญาต้ อง ปฏิบตั กิ ารชาระหนี ้ ๓) เพื่อจากัดค่าสินไหมทดแทน ลักษณะของเบีย้ ปรับ ๑) เป็ นข้ อตกลงที่กาหนดความเสียหายไว้ ลว่ งหน้ า ๒) เบี ้ยปรับอาจมีการส่งมอบให้ กนั หรื อไม่ก็ได้ (เบีย้ ปรับอาจมีความมุ่งหมายได้ หลายอย่างขึ้นอยู่กบั กรณี ดังนัน้ ต้องคานึงถึงเจตนาของคู่กรณี วาเป็ นเบีย้ ปรับ เพือ่ การไม่ชาระหนี ้ ม.๓๘๐ หรื อ เบีย้ ปรับเพือ่ การชาระหนีไ้ ม่ถูกต้อง ม.๓๘๑) ๓) เบี ้ยปรับอาจกาหนดไว้ เป็ นเงินจานวนหนึ่ง ตาม ม.๓๗๙ – ๓๘๑ หรื อ เป็ นการชาระหนี ้อย่างอื่นแทน ตาม ม.๓๘๒ ก็ได้ ผลของเบีย้ ปรับ – ผู้เสียหายได้ รับค่าเสียหายโดยไม่ต้องพิสจู น์ (ต่างกับ ม.๒๑๕ ต้อง พิสูจน์) และ สามารถกาหนดค่าสินไหมทดแทนเพื่อทดแทนความเสียหายทางจิตใจได้
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
23
การวางมัดจา
การปฏิบตั เิ กี่ยวกับมัดจา
การริบเบี ้ยปรับ (ลักษณะของเบี ้ยปรับ)
๓๗๗
๓๗๘
๓๗๙
หลักเกณฑ์ของมัดจา มัดจาต้ องส่งมอบขณะทาสัญญา เป็ นพยานว่าสัญญานันได้ ้ เกิดขึ ้นแล้ ว เป็ นสิง่ ทีถือเอาค่าได้ เป็ นหลักฐานหรื อเป็ นประกันในการปฏิบต ั ติ ามสัญญา มัดจาถ้ ามีการตกลงกันไว้ ถ้ าไม่ได้ มีการตกลงกันไว้ เกี่ ยวกับเรื่ องมัดจา ให้ ริบ ๓๗๘ (๒) (การชาระหนี ไ้ ม่สมบูรณ์ โดยวางรับมัดจาผิ ด) ฝ่ ายที่วางมัดจาละเลยไม่ชาระหนี ้ตามสัญญา หรื อ มีการเลิกสัญญาเพราะความผิดของผู้วางมัดจา หรื อ การชาระหนี ้ตกเป็ นพ้ นวิสย ั เพราะผู้วางมัดจาเป็ นฝ่ ายผิด ให้ สง ่ คืน ๓๗๘ (๑) (กรณี การชาระหนีส้ มบูรณ์ ) และ ๓๗๘ (๓) (การชาระหนี ้ไม่สมบูรณ์ โดยฝ่ ายรับมัดจาผิด) (๑) เมื่อมีการชาระหนี ้ตามสัญญา หรื อ อาจจัดเอาหรื อหัก มัดจาไปชาระหนีบ้ างส่วน (กรณี การชาระหนีส้ มบูรณ์ ) (๓) เมื่อผู้รับมัดจาไม่ชาระหนี ้ตามสัญญา หรื อ เมื่อการ ชาระหนี ้ตกเป็ นการพ้ นวิสยั ซึ่งฝ่ ายที่รับมัดจาเป็ นฝ่ ายผิด (เป็ นความผิดของฝ่ ายรับมัดจา) ถ้ าลูกหนี ้สัญญาแก่เจ้ าหนี ้ว่าจะใช้ เงินจานวนหนึ่งเป็ นเบี ้ยปรับ เมื่อ ตนไม่ชาระหนี ้ หรื อไม่ชาระหนีใ้ ห้ ถกู ต้ องสมควรก็ดี ถ้ าการชาระหนี ้อันจะพึงทานันได้ ้ แก่งดเว้ นการกระทาอันใด หาก ลูกหนี ้ทาการอันนันฝ่ ้ าฝื นมูลหนี ้เมื่อใด
สิง่ นันเป็ ้ นมัดจา
ให้ เป็ นไปตามสัญญา
กม.ให้ ริบมัดจา
กม.ให้ คืนมัดจา
กม. ให้ คืนมัดจา
เมื่อลูกหนี ้ผิดนัด เจ้ าหนี ้ก็มี สิทธิริบเบี ้ยปรับ เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิริบเบี ้ยปรับเมื่อ นัน้
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
ถ้ าเป็ นทรัพย์ที่มีวตั ถุประสงค์ให้ ไว้ ล่วงหน้ า เพื่อป้องกันความเสียหาย เป็ นเบี ้ยปรับ ไม่ใช่มดั จา มัดจาต้ องส่งมอบไว้ ให้ แก่กนั ขณะทาสัญญา กรณีผ้ รู ับมัดจาเป็ นฝ่ ายผิด ถ้ าเลิกสัญญา แล้ วกลับไปสูฐ่ านะเดิม กรณีการชาระหนี ้ตกเป็ นพ้ นวิสยั โดยไม่ใช่ ความผิดของทังผู ้ ้ วางมัดจาและผู้รับมัดจา เหตุผลที่ผ้ รู ับมัดจาจะได้ รับมัดจาก็หมดไป ดังนัน้ ลูกหนี ้ย่อมหลุดพ้ นจากการชาระหนี ้ ตาม ม.๒๑๙ และเมื่อไม่มีหนี ้ให้ ชาระกัน ต่อไป ดังนี ้ ฝ่ ายผู้รับมัดจาก็ต้องคืนมัดจา ให้ กบั ฝ่ ายผู้วางมัดจา มัดจาที่เป็ นเงินก็ต้องคืนโดยต้ องบวก ดอกเบี ้ยให้ กบั ผู้วางมัดจาร้ อยละ ๗.๕ ตามที่ กม. กาหนดไว้ ตาม ม.๗ ด้ วย
เบีย้ ปรับให้ ไว้ ทดแทนค่าเสียหายล่วงหน้ ากรณีที่ ลูกหนี ้ไม่ชาระหนี ้ หรื อไม่ถกู ต้ องสมควร อาทิ ล่าช้ า ไม่ถกู ต้ องตามวัตถุประสงค์แห่งหนี ้ ม.๓๗๙ – ๓๘๑ เป็ นเบี้ยปรั บที่เป็ นเงิน ม.๓๘๒ เป็ นเบี้ยปรั บที่มิใช่ ตัวเงิน
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
24
สัญญาว่าจะให้ เบี ้ยปรับเมื่อ ไม่ชาระหนี ้ (เมื่อไม่ มาชาระหนี้เลย)
๓๘๐ ว.๑
ถ้ าลูกหนี ้ได้ สญ ั ญาไว้ วา่ จะให้ เบี ้ยปรับเมื่อลูกหนีไ้ ม่ มา ชาระหนีเ้ ลย
๓๘๐ ว.๒
สัญญาว่าจะให้ เบี ้ยปรับเมื่อ ไม่ชาระหนี ้ให้ ถกู ต้ อง (เมื่อไม่ ชาระหนี้ให้ ถูกต้ อง ขาดตกบกพร่ องไป)
๓๘๑
ถ้ าเจ้ าหนี ้มีสทิ ธิเรี ยกร้ องค่าสินไหมทดแทนเพื่อการการไม่ ชาระหนี ้ (อาจเป็ นกรณี ทีเ่ จ้าหนีไ้ ม่อาจเรี ยกเบีย้ ปรับเพราะ เจ้าหนีม้ ีความเสียหายทีแ่ ท้จริ งมากกว่าเบีย้ ปรับ) ถ้ าลูกหนี ้ได้ สญ ั ญาไว้ วา่ จะให้ เบี ้ยปรับเมื่อลูกหนีไ้ ม่ ชาระ หนีใ้ ห้ ถูกต้ อง (อาทิ ไม่ชาระหนีต้ รงตามเวลาทีก่ าหนดไว้ หรื อขาดตกบกพร่องไป)
สัญญาจะชาระหนี ้อย่างอื่น เป็ นเบี ้ยปรับ ** หมายเหตุ ม.๓๘๒ ใช้ ประกอบกับ ม.๓๘๐ เบี ้ยปรับสูงเกินส่วน
๓๘๒
ถ้ ากาหนดเบี ้ยปรับเป็ นการชาระหนี ้อย่างอื่นแทนเงินแล้ ว เจ้ าหนี ้มีทางเลือก ๒ ทาง คือ (เอาบทบัญญัติ ม.๓๗๙ – ม.๓๘๑ มาบังคับใช้)
๓๘๓ ว.๑
ผลคือ เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิเลือก ๒ ทาง ๑) เรี ยกเอาเบี ้ยปรับตามที่ได้ ตกลงกันไว้ (แทนการชาระหนี )้ หรือ ๒) เรี ยกให้ ลกู หนี ้ชาระหนีต้ าม ม.๒๑๓ และ อาจเรี ยกให้ ชดใช้ คา่ สินไหมได้ อีก (แต่เจ้ าหนี ้ต้ อง เป็ นฝ่ ายพิสจู น์) ผลคือ เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิเรี ยกเอาเบี ้ยปรับอันจะพึงริบนัน้ ในฐานเป็ นจานวนน้ อยที่สดุ ของ ค่าเสียหายก็ได้ โดยกม. ให้ สทิ ธิเจ้ าหนี ้ค่าเสียหายยิ่งกว่านันได้ ้ (เพือ่ จะได้เรี ยกสินไหมชดเชยได้ อี ก ตาม ม.๓๘๐ ว.๑ และ ม.๓๘๑) ผลคือ ถ้ ากาหนดเบี ้ยปรับเป็ นเงิน เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิเลือก ๒ ทาง คือ ๑) เรี ยกให้ ลกู หนี ้ชาระหนี ้ และ เรี ยกให้ ชาระเบี ้ยปรับ (ซึ่งต้ องสงวนสิทธิในเวลาที่เจ้ าหนี ้ รับชาระหนี ้) หรือ ๒) เรี ยกค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย ถ้ าพิสจู น์ได้ ว่าความเสียหายมากกว่าค่าปรับ (โดย ผลของ ม.๓๘๐ ว.๒) ผลคือ ถ้ ากาหนดเบี ้ยปรับเป็ นการชาระหนี ้อย่างอื่นแทนเงิน เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิเลือก ๒ ทาง คือ ๑) เรี ยกให้ ลกู หนี ้ชาระหนี ้ และ เรี ยกให้ ชาระเบี ้ยปรับ หรื อ ๒) เรี ยกให้ ลกู หนี ้ชาระหนี ้ และเรี ยกค่าสินไหมทดแทน
ผลคือ เจ้ าหนี ้มีสทิ ธิเลือก ๒ ทาง คือ ๑) เรี ยกเบี ้ยปรับตามที่ได้ ตกลงกันไว้ หรือ ๒) เรี ยกให้ ลกู หนี ้ชาระหนี ต้ าม ม.๒๑๓ และ อาจเรี ยกให้ ชดใช้ คา่ สินไหมได้ อีก (แต่เจ้ าหนี ้ ต้ องเป็ นฝ่ ายพิสจู น์ ) กรณีเบี ้ยปรับที่ริบนันสู ้ งเกินส่วน ศาลอาจปรับลดได้ โดยมีหลักเกณฑ์ ศาลสามารถพิจารณาปรับลดเบี ้ย พ.ร.บ.ว่ าด้ วยข้ อสัญญาไม่ เป็ นธรรม ม.๗ ดังนี ้ ปรับนันได้ ้ “ในสัญญาที่มีการให้ สงิ่ ใดไว้ เป็ นมัดจา หากมี มีคาขอของผู้ต้องเสียเบี ้ยปรับ (แนวฎี กา ศาลยกขึ้นวิ นิจฉัยได้เอง) กรณีที่ต้องมีการริบมัดจา ถ้ ามัดจานันสู ้ งเกิน ยังไม่ได้ ใช้ เงินตามเบี ้ยปรับ (หากใช้เงิ นแล้วสิ ทธิ ปรับลดเบี ย ้ ปรับ ส่วน ศาลจะลดลงให้ริบได้เพียงเท่าความ หมดไป)ศาลเห็นสมควรโดยพิเคราะห์ทางได้ เสียทุกอย่างของ เสียหายทีแ่ ท้จริ งได้” เจ้ าหนี ้ (ไม่ใช่เพียงทางเสียในทางทรัพย์สินเท่านัน้ อาจเป็ นเรื ่อง อื ่นๆ ทางจิ ตใจด้วย อาทิ ผลกระทบต่อสุขภาพ ผลกระทบต่อจิ ตใจ)
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
25
๓๘๓ ว.๒
ข้ อตกลงเรื่ องเบี ้ยปรับกรณี การชาระหนี ้ตามสัญญาไม่ สมบูรณ์ ลูกหนี ้โต้ แย้ งการริบเบี ้ยปรับ
๓๘๔
๓๘๕
การเลิกสัญญา (ม.๓๘๖ – ๓๘๙) วิธีเลิกสัญญา ๓๘๖ ว.๑
๓๘๖ ว.๒
การเลิกสัญญาโดยการบอก กล่าว (กาหนดเวลาชาระหนี ้ ไม่ใช่สาระสาคัญ) การเลิกสัญญาโดยไม่ต้อง บอกกล่าวก่อน (กาหนดเวลาชาระหนี ้ ต้องเป็ นสาระสาคัญ)
๓๘๗
การชาระหนี ้เป็ นพ้ นวิสยั โดย โทษลูกหนี ้ได้
๓๘๙
๓๘๘
เมื่อบุคคลสัญญาว่าจะให้ เบี ้ยปรับเมื่อตนกระทาหรื องดเว้ นกระทา การ อันใดอันหนึ่ง นอกจากกรณีตาม ม.๓๗๙ และ ม.๓๘๒ แล้ ว ถ้ าการชาระหนี ้ตามสัญญาไว้ นนไม่ ั ้ สมบูรณ์ แม้ คกู่ รณีจะไม่ได้ รับรู้วา่ ข้ อสัญญานันไม่ ้ สมบูรณ์
ให้ นาวิธีเดียวกับ ม.๓๗๙ และ ม. ๓๘๒ มาบังคับใช้
ถ้ าลูกหนี ้โต้ แย้ งเรื่ องการริบเบี ้ยปรับ โดยอ้ างเหตุวา่ ตนชาระหนี ้แล้ ว เว้ นแต่การชาระหนี ้เป็ นการให้ งดเว้ นการใดการหนึ่ง
ลูกหนี ้ต้ องเป็ นฝ่ ายพิสจู น์การชาระ หนี ้ว่าได้ สาเร็จแล้ ว
ข้ อตกลงเรื่ องเบี ้ยปรับก็ไม่สมบูรณ์ และไม่มีผลผูกพัน
คูส่ ญ ั ญาฝ่ ายหนึ่งมีสทิ ธิเลิกสัญญาโดยข้ อสัญญาหรื อบทบัญญัตแิ ห่ง กม. การแสดงเจตนาเลิกสัญญา โดยการเลิกสัญญาเช่นนันย่ ้ อมทาด้ วย กับอีกฝ่ ายหนึ่ง เมื่อมีการแสดงเจตนาเลิกสัญญาตาม ว. ๑ ถอนไม่ได้ (ทัง้ นี ้ การเลิก สัญญาต้องมีผลก่อน) ถ้ าคูส่ ญ ั ญาฝ่ ายหนึ่งไม่ชาระหนี ้ อีกฝ่ ายหนึ่งจะเลิกสัญญา อีกฝ่ ายหนึ่งจะกาหนดระยะเวลาพอสมควร แล้ วบอกกล่าวให้ ฝ่ายนัน้ เสียก็ได้ ชาระหนี ้ภายในระยะเวลาตามกาหนด ฝ่ ายนันไม่ ้ ชาระหนี ้ภายในระยะเวลาที่กาหนดแล้ ว ถ้ าวัตถุประสงค์แห่งสัญญานัน้ โดยสภาพหรื อโดยเจตนาที่ค่ ูสัญญาได้ อีกฝ่ ายหนึ่งจะเลิกสัญญานัน้ แสดงไว้ นิตกิ รรมจะเป็ นผลสาเร็จได้ เมื่อได้ มีการชาระหนี ้ ณ เวลานัน้ เสียก็ได้ โดยไม่ต้องบอก หรื อภายในระยะเวลาซึ่งกาหนดไว้ (กาหนดเวลาเป็ นสาระสาคัญ) กล่าวเช่น ม.๓๘๗ หากกาหนดเวลาหรื อระยะเวลานันได้ ้ ลว่ งพ้ นไปโดยฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่งมิได้ ชาระหนี ้แล้ ว การชาระหนี ้ตกเป็ นพ้ นวิสยั เพราะความผิดของลูกหนี ้ ให้ สทิ ธิเจ้ าหนี ้เลิกสัญญาได้ ทันที
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
ม. ๓๘๗ ให้ โอกาสลูกหนี ้แก้ ตวั ในการชาระหนี ้ (กม.ให้สิทธิ เจ้าหนีบ้ อกเลิกสัญญากรณี ลูกหนี ้ ผิดนัด / ไม่ชาระหนีต้ ามประสงค์มูลหนี )้ ม.๓๘๘ ไม่ให้ โอกาสลูกหนี ้ (ทัง้ นี ้ ม.๓๘๗ และ ๓๘๘ เป็ นสิทธิ ของเจ้าหนีซ้ ึ่ง เจ้าหนีจ้ ะเลือกใช้หรื อไม่ก็ได้)
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
26
การใช้ สทิ ธิเลิกสัญญากรณี คูส่ ญ ั ญาเป็ นบุคคลหลายคน
๓๙๐
ผลการเลิกสัญญา
การชาระหนี ้ของคูส่ ญ ั ญาอัน เกิดจากการเลิกสัญญา กรณีไม่ได้ กาหนดระยะเวลา ให้ ใช้ สทิ ธิเลิกสัญญา
๓๙๑ ว.๑
๓๙๑ ว.๒ ๓๙๑ ว.๓
๓๙๑ ว.๔ ๓๙๒
การใช้ สทิ ธิเลิกสัญญา การชาระหนี ้ของคูส่ ญ ั ญาอันเกิดแต่การเลิกสัญญานัน้
๓๙๓
ถ้ ามิได้ กาหนดระยะเวลาให้ ใช้ สทิ ธิเลิกสัญญา
๓๙๔ ว.๑
๓๙๔ ว.๒
ส่วนเงินอันจะต้ องใช้ คืนหากเลิกสัญญาแล้ ว (ตาม ว.๑) ส่วนที่เป็ นการงานที่ได้ กระทาให้ และเป็ นการยอมให้ ใช้ ทรัพย์
ถ้ ามิได้ รับคาบอกกล่าวเลิกสัญญาภายในระยะเวลาที่กาหนด หลักเกณฑ์ (กรณีใดกรณีหนึ่ง) เกิดจากการกระทาหรื อเพราะความผิดของผู้ มีสทิ ธิเลิกสัญญา ทรัพย์อน ั เป็ นวัตถุแห่งสัญญาบุบสลายไปในส่วนสาคัญ หรื อ การคืนทรัพย์กลายเป็ นพ้ นวิสย ั หรื อ การเปลี่ยนแปลงทรัพย์นนให้ ั ้ ผดิ แผกไปเป็ นอย่างอื่น โดยการประกอบขึ ้น หรื อดัดแปลง แต่ถ้าทรัพย์อน ั เป็ นวัตถุแห่งสัญญาได้ สญ ู หายหรื อบุบสลายไปโดย ปราศจากการกระทาหรื อความผิดของบุคคลผู้มีสทิ ธิเลิกสัญญา
กรณีสทิ ธิเลิกสัญญาระงับ
ในสัญญาที่มีคสู่ ญ ั ญาที่ประกอบด้ วยบุคคลหลายคนอยู่ข้างหนึ่งหรื ออีก ข้ างหนึ่ง ถ้ าบุคคลเหล่านันรวมตั ้ วกันใช้ สทิ ธิเลิกสัญญา ถ้ าสิทธิเลิกสัญญาที่มีแก่บคุ คลคนหนึ่งในกลุม่ ที่มีสทิ ธินนระงั ั ้ บสิ ้นไป เมื่อคูส่ ญ ั ญาฝ่ ายหนึ่งใช้ สทิ ธิเลิกสัญญาแล้ ว
จึงจะใช้ สทิ ธิเลิกสัญญาได้
สิทธิเลิกสัญญาอันมีแก่คนอื่นในกลุม่ ก็ระงับไปด้ วย ให้ คกู่ รณีแต่ละฝ่ ายคืนสูฐ่ านะเดิม แต่จะทาให้ เป็ นที่เสื่อมเสีย/กระทบต่อบุคคลภายนอกไม่ได้ ให้ บวกดอกเบี ้ยเข้ าไปด้ วย โดยคิดตังแต่ ้ เวลาที่ได้ รับไว้ ให้ ใช้ เงินตามสมควรแก่การนัน้ หรื อ ถ้ าสัญญามีกาหนดให้ ใช้ เงินตอบแทนก็ให้ ใช้ ตามนัน้ ไม่กระทบต่อสิทธิเรี ยกค่าเสียหาย (การใช้สิทธิ เรี ยกค่าเสี ยหายใช้ ม.๒๑๕) ให้ เป็ นไปตามบทบัญญัติ ม.๓๖๙ (คื อ ในสัญญาต่างตอบแทน คู่สญ ั ญา ฝ่ ายหนึ่งมีสิทธิ ทีจ่ ะไม่ชาระหนีจ้ นกว่าอี กฝ่ ายหนึ่งจะชาระหนี ้ หรื อขอ ปฏิ บตั ิการชาระหนี ้ เว้นแต่หนี ้ของอี กฝ่ ายหนึ่งยังไม่ถึงกาหนด) คูส ่ญ ั ญาอีกฝ่ ายจะกาหนดระยะเวลาพอสมควร แล้ วบอกให้ ฝ่ายที่มีสทิ ธิเลิก สัญญานันแถลงให้ ้ ทราบภายในระยะเวลานันว่ ้ าจะเลิกสัญญาหรื อไม่ สิทธิเลิกสัญญาเป็ นอันระงับสิ ้นไป สิทธิเลิกสัญญาที่มีอยู่นนก็ ั้ เป็ นอันระงับสิ ้นไป
สิทธิเลิกสัญญานันก็ ้ มไิ ด้ ระงับสิ ้นไป
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
หมายเหตุ เอกสารชุดนี้อาจมีข้อผิดพลาดหรื อข้ อตกหล่ น ดังนั้น โปรดใช้ วิจารณญาณและดูประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิชย์ เป็ นหลัก
สรุ ปประมวล กม.นิติกรรมและสัญญา LA101 โดย Cookingpond TULAW 53
×
Report "2010 09 30 สรุปมาตรานิติกรรม"
Your name
Email
Reason
-Select Reason-
Pornographic
Defamatory
Illegal/Unlawful
Spam
Other Terms Of Service Violation
File a copyright complaint
Description
×
Sign In
Email
Password
Remember me
Forgot password?
Sign In
Our partners will collect data and use cookies for ad personalization and measurement.
Learn how we and our ad partner Google, collect and use data
.
Agree & close