ข้อสอบวิชาภาษาไทย 100 ข้อ 1

่ ่ แกข้่ าราชการตํารวจ ภาษาไทยชุดนี คุณ GI-ANT เป็ นผูร้ วบรวมมาจากทีต่างๆ และได้1นาํ มามอบให้ von แจกจายและเผยแพร ่ ใน รร.พระปริ ยตั ิธรรม วัดธาตุทอง โดยไมคิ่ ดคาตอบแทน หากใครเป็ นเจ้าของขอขอบคุณด้วยครับ

ข้ อสอบวิชาภาษาไทย 1. ข้ อเขียนนีด งให้ เห็นธรรมชาติของภาษาในเรืองใด รัก รัก รัก คําสั น ๆ ไม้ หันอากาศมักลอยหายไปในอากาศ แทนทีจะรักกลับกลายเป็ นรก รีบร้ อนจนลืมสระ อี ลืมสิ งดี ๆ บางทีต้องรบกัน 1. ภาษามีการเปลียนรู ป 2. ภาษามีการเปลียนแปลง 3. ภาษาใช้เสี ยงสื อความหมาย ่ ่ 4. ภาษาสร้างหนวยใหมได้ ตอบ 4 สังเกตจาก “รัก เป็ น รก” และ “รี บ เป็ น รบ” 2. ข้ อใดมีเสี ยงพยัญชนะประสมมากทีสดุ (นับเสี ยงซํา) ่ 1. ชาญหาญชาญเชียวเทียวไพร สองขาพาไป บมั่ วบเมาเขลาขลาด ิ ่ ดูดาษ และดกด้วยดอกออกระดะ 2. ขาเขาคือกงพฤกษชาติ ชอชู 3. ไป่ ช้าเป็ นผลปนคละ โตโตโอชะ รสาภิรสหมดมวล ้ 4. โทษหลายกลายแกแปรปรวน เจือจุนคุณควร เพราะเหตุทีเทียวเทียวเดิน ตอบ 4 มีพยัญชนะประสม 4 คํา คือ กลาย แปร ปรวน เพราะ 3. ข้ อใดมีสระประสมครบทัง 3 เสี ยง 1. ระบอบการเมืองทีมีรัฐสภาเป็ นประชาธิ ปไตยทีแท้จริ ง ่ 2. การเลือกตั งคือการมอบอํานาจให้แกประชาชนทั ว ไป ่ ๆ จะเสี ยใจภายหลัง 3. ถ้าทุกคนหลงเชือคําชักชวนงาย ่ อนกนหมด ่ ยงแท้ทุกคนแกเหมื ั 4. รู ปรสกลินเสี ยงเป็ นเรื องทีไมเที ตอบ 3 มีสระประสมครบ 3 เสี ยง คือ เชือ(เอือ) ชวน(อัว) เสี ย(เอีย) 4. พยางค์ ในข้ อใดมีจํานวนเสี ยงสั นเท่ ากับจํานวนเสี ยงยาว 1. รักยาวให้บนั ่ อจอด 2. เรื อลมเมื 3. นํ าร้อนปลาเป็ น


4. จับปลาสองมือ ตอบ 3 นํ า – เป็ น ออกเสี ยงสั น ร้อน – ปลา ออกเสี ยงยาว 5. ข้ อใดไม่ มีพยางค์ คําตายทีเป็ นคําครุ 1. เภสัชกร 2. ศิลปศาสตร์ 3. สังคมสงเคราะห์ 4. วิทยากร ตอบ 3 ข้อ 1 มีคาํ ตายทีเป็ นครุ คือ สัช ข้อ 2 มีคาํ ตายทีเป็ นครุ คือ ศาสตร์ ข้อ 4 มีคาํ ตายทีเป็ นครุ คือ วิท 6. ข้ อใดทกคํ ุ ามีรูปพยัญชนะไม่ ออกเสี ยง 1. ทอ่ ศุกร์ ฉัตร 2. โทรม ไทย เมีย 3. เหตุ โจทย์ อํามาตย์ ั 4. แสร้ง หลาก กลป์ ่ ่ ั “ป” ไมออกเสี ่ ตอบ 4 แสร้ง “ร” ไมออกเสี ยง หลาก “ห” ไมออกเสี ยง กลป์ ยง 7. ข้ อใดมีอกั ษรสงมากที สดุ (นับตัวซํา) ู ํ ดคล้าย คลึงกนั 1. ฝูงชนกาเนิ ่่ 2. ใหญยอมเพศผิ วพรรณ แผกบ้าง ั 3. ความรู ้อาจเรี ยนทัน กนหมด ่ ้ 4. ยกแตชั่ ว ดีกระด้าง ออนแกฤาไหว ตอบ 2 มีอกั ษรสู ง 3 ตัวคือ “ ห – ผ – ผ ” 8. ข้ อใดทกคํ ุ าเป็ นคํามลู 1. มะพร้าว ทะเลาะ ตะกละ 2. เฉลย หลอกลวง จระเข้ 3. พราน กระเถิบ นักเลง 4. ตลก กระเป๋ า กะลา ตอบ 4 ข้อ 1 มะพร้าว เป็ น คําประสม ข้อ 2 หลอกลวง เป็ น คําซ้อน


ข้อ 3 นักเลง

เป็ น คําประสม

9. ข้ อใดมีคําซํามากทีสดุ ่ นหยิบถุงออกมาหนอยนะ ่ ่ ่ ่ ั 1. นีเธอ เธอชวยฉั ฉันกาํ ลังยุง่ ยุง่ ชวยชวยหนอยละกนนะ 2. ฉันชอบฟังเพลงเพลงนี ทีสุดเลย ฟังฟังแล้วเหมือนชีวิตฉัน แถมยังเพราะเพราะยังไงไมรู่ ้ ั ่ ยงเถียงกนนิ ั ดหนอย ่ 3. เธอเห็นเขาไหม อยูอ่ ยูก่ ็ลุกหนีไปเลย เพือนเพือนงงกนไปแถว แคเถี ่ จะพาไปดูนีไกล๊ไกลนะคะ ครู จะไปเหรอคะ พอบอกวาอยู ่ ่ ข่ า้ งข้าง 4. คุณครู ขา ทีทีคุณพอหนู โรงงานด้วยคะ่ ตอบ 3 มีคาํ ซํ า 3 คําคือ อยูอ่ ยู่ เพือนเพือน เคียงเคียง 10. ข้ อใดทกคํ ุ าเป็ นคําสนธิ 1. นภาลัย จินตนาการ วิทยากร 2. วิทยาเขต พัฒนาการ วิเทโศบาย 3. กรกฎาคม ธันวาคม วัฒนธรรม 4. ไพริ นทร์ คเชนทร์ มหรรณพ ตอบ 4 ข้อ 1 วิทยากร เป็ นคําสมาสทีไมมี่ การสนธิ ข้อ 2 วิทยาเขต , พัฒนาการ เป็ นคําสมาสทีไมมี่ การสนธิ ข้อ 3 วัฒนธรรม เป็ นคําสมาสทีไมมี่ การสนธิ 11. ทกคํ ุ าในข้ อใดมีโครงสร้ างการสร้ างคําเหมือนกับ “อมยิม ” 1. ลูกกวาด ทองหยอด 2. มวยปลํ า กระโดดไกล 3. สามล้อ สองแถว ่ 4. ต้มยํา หอหมก ั อ4 ตอบ 4 โครงสร้างของคําวา่ “อมยิม” คือ “กริ ยา+กริ ยา” ซึ งตรงกบข้ 12. คําทีขีดเส้ นใต้ ข้อใดเป็ นกริยาอกรรม ่ ่ 1. เธอบอกพอวาจะกลั บบ้านเร็ ว 2. เขายืนเบียดฉันอยูต่ งั นาน 3. กล้วยนัน แมซื่ อมาเอง 4. ไมหิ่ วแล้ว กระเป๋ าใบนี หนักเหลือเกนิ


ตอบ 2 อกรรมกริ ยา คือ กริ ยาทีไมต้่ องการกรรม

13. ข้ อใดเป็ นประโยครวม 1. เธอวิง หนี ผชู ้ ายคนนั นมา 2. เธอสวมชุดสายเดียวสี เขียว 3. เธอบอกให้เขาเดินช้าช้า ่ ั ารวจข้างบ้านเมือวานซื น 4. คุณแมของเธอพู ดกบตํ ตอบ 1 ข้อ 1 วิง หนี มีกริ ยา 2 ตัว คือ วิง+หนี จึงถือเป็ นประโยคความรวม ใช้ ข้อความต่ อไปนี ตอบข้ อ 14 - 15 1. ผ้ ทู มีี ปัญญาย่ อมไม่ กระทําสิ งเสี ยหาย 2. พัฒนาของเด็กเป็ นประเด็นทีพดถึ ู งกันมากในปัจจบัุ น 3. ข้ อความตอนนีพ รรณนาความลําบากของชี วติ นักแสดงได้ ดีมาก 4. ปรารถนาชอบทิง ขยะไม่ เป็ นทีเป็ นทาง 5. วิชานีส มหญิงเรี ยนก่ อนเดินทางไปต่ างประเทศ 14. ข้ อใดเป็ นประโยคกรรม 1. ข้อ 2 2. ข้อ 3 3. ข้อ 4 4. ข้อ 5 ตอบ 4 ข้อ 5 เอากรรมคือ “วิชา” ขึ นประโยค จึงถือเป็ นประโยคกรรม 15. ข้ อใดเป็ นประโยคความรวม 1. ข้อ 1 กบั ข้อ 2 2. ข้อ 2 กบั ข้อ 3 3. ข้อ 3 กบั ข้อ 4 4. ข้อ 4 กบั ข้อ 5 ตอบ 4 ข้อ 4 มีกริ ยา 2 ตัว คือ ชอบ+ทิง จึงเป็ นประโยคความรวม ่ ” จึงเป็ นประโยคความรวม ข้อ 5 มี 2 ประโยคและเชือมด้วย “กอน 16. ข้ อใดไม่ ใช่ ประโยค


1. 2. 3. 4. ตอบ 3

่ การอนุ รักษ์และฟื นฟูทรัพยากรธรรมชาติทีอาํ เภอบอพลอยสุ ดฉลุย ิ ั การดําเนิ นงานของมูลนิธิชยั พัฒนาเน้นกจกรรมที ไมซํ่ าซ้อนกบโครงการของร ัฐ ิ มชนโดยกลุ่มออมทรัพย์ของอําเภอจะนะ ยุทธวิธีฟื นฟูเศรษฐกจชุ การพัฒนาอาชีพด้านเกษตรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพป่ า ข้อ 3 ยังขาดกริ ยาสําคัญของประโยค

17. คํากริยาในข้ อใดเป็ นคํากริยาหลักของประโยคต่ อไปนี ข่ าวคราวที ปรากฏ เป็ นประจําทุกปี ในช่ วงเทศกาลรั บน้ องใหม่ กลายเป็ นประเด็นที คนทัวไปสนใจกันมาก 1. ปรากฏ 2. เป็ นประจํา 3. กลายเป็ น 4. สนใจ ตอบ 3 กริ ยาหลักคือกริ ยาสําคัญทีสุดของประโยค 18. ข้ อความใดใช้ ภาษาเหมาะสมกับการทํารายงานทางวิชาการมากทีสดุ ่ ่ คนชอบเพราะมันชอบกนซากศพของเนาเปื ิ ่ อย 1. แร้งไมใชนกที ่ ่ 2. ตัวละครเอกประมาทในชีวิต เรื องจึงลงเอยอยางนาสะเทื อนใจ ่ 3. ครอบครัวของเราประหยัดขึ น ไมออกไปรั บประทานข้าวนอกบ้านอีก ่ 4. นักวิทยาศาสตร์ ไทยจะนําของทีเหลือทิงอยางเปลื อกกุง้ กระดองปูมาใช้ประโยชน์ ตอบ 4 - ข้อ 1 คําวา่ “ชอบกนิ” ใช้ภาษาไมวิ่ ชาการ - ข้อ 2 คําวา่ “ลงเอย” ใช้ภาษาไมวิ่ ชาการ - ข้อ 3 คําวา่ “อีก” ใช้ภาษาไมวิ่ ชาการ 19. ข้ อใดใช้ ราชาศัพท์ ไม่ ถูกต้ อง 1. สมเด็จพระบรมโอรสาธิ ราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราโชวาทแกบั่ ณฑิตที จบจากวิทยาลัยครู ี ั องนี มาช้านานแล้ว 2. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชปรารภเกยวกบเรื 3. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุ ดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จประพาสประเทศสหรัฐอเมริ กา ่ าองค์น ีสิ นชีพิตกั ษัยมาหลายปี แล้ว 4. หมอมเจ้ ตอบ 2 - เพราะ “ทรงมีพระราชปรารภ” ใช้ผดิ ทีถูกต้องแกเป็้ น “มีพระราชปรารภ” 20. คําว่ า “ล้ าง” ในข้ อใดมีความหมายต่ างจากข้ ออืน 1. เมือไหรมี่ งานเลี ยงเขาจะเตรี ยมล้างท้องรอทันที


2. 3. 4. ตอบ 4

ิ ี ั ธุ รกจเกยวกบการล้ างพิษ ได้รับความนิยมในหมู่คนอ้วน หลังจากทานอาหารคาวเสร็ จแล้วบางคนล้างปากด้วยของหวาน ี ประสบความสําเร็ จในชีวติ แล้วมักจะล้างมือจากวงการ นักกฬาที - “ล้าง” ในข้อ 4 มีความหมายเปรี ยบเทียบ ข้ออืน ๆ มีความหมายนัยตรง

21. คําในข้ อใดเมือเติมในช่ องว่ างแล้ วแสดงว่ าผ้ พู ูดแน่ ใจ “คณจะไปทั ศนศึกษาพร่ ุ งนี………….” ุ ่ ่ อ 1. ไมใชหรื 2. หรื อ ่ 3. ใชไหม 4. ไหม ตอบ 1 22. คําทีขีดเส้ นใต้ ในข้ อใดมีความหมายแฝงในด้ านลบอย่ างชั ดเจนทีสดุ ่ 1. เทือกเถาเหลากอของ เขาอยูจ่ งั หวัดไหน ่ 2. ญาติโกโหติกาของเขาไมเคยมาเยี ย มเลย ่ 3. วงศ์วานวานเครื อของเขาทํางานอะไร 4. วงศาคณาญาติของเขาจะยอมรับเธอหรื อ ตอบ 1 ความรู ้สึกลบแฝงในข้อ 1 ชัดเจนทีสุด 23. ข้ อใดใช้ คําเชื อมผิด ็ ตามสะดวก 1. คุณจะทําอะไรกได้ ่ นหวง ่ 2. เขาอยูใ่ ต้อาํ นาจเงินจนนาเป็ 3. พวกเราอยากทํางานให้สาํ เร็ จด้วยดี ่ ่ 4. อยาปลอยให้ เด็กเล็ก ๆ อยูโ่ ดยลําพัง ตอบ 4 “โดยลําพัง” ทีถูกต้องแกเป็้ น “ตามลําพัง” 24. ข้ อใดใช้ สํานวนภาษาได้ ถูกต้ อง ่ ่ มพ์ของชาติ 1. ผมเป็ นครู มานาน ใคร ๆ กเรี็ ยกผมวาพอพิ ่ ด แมกระวนกระวายจนนั ่ ้ 2. ขณะทีลูกอยูใ่ นห้องผาตั ง ไมติ่ ดเกาอี ่ ่ 3. สอบเสร็ จแล้ว เรายังเป็ นลูกผีลูกคนอยูเ่ ลย ไมทราบวาจะได้ หรื อตก ่ อรวมใจเป็ ่ 4. ถ้าเราทุกคนรวมมื นชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณวา่ งานนี คงสําเร็ จลงด้วยดี


่ มพ์” เป็ น “แมพิ่ มพ์” ตอบ 3 ข้อ 1 ต้องแก้ “พอพิ ้ ” เป็ น “นัง ไมติ่ ด” ข้อ 2 ต้องแก้ “ไมนั่ ง ติดเกาอี ข้อ 4 ต้องแก้ “ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณวา่” เป็ น “นํ าหนึงใจเดียวกนั ”

25. ประโยคใดไม่ มีข้อบกพร่ องในการใช้ ถ้อยคํา ่ ั 1. เราจะใช้วธิ ี การลงโทษอยางไรจึ งจะสาสมกบความผิ ดของเขา ่ ง ทีได้มาอภิปรายวันนี 2. ข้าพเจ้ารู ้สึกภาคภูมิและยินดีเป็ นอยางยิ 3. ทีมแบดมินตันของไทยชนะกราวรู ดได้เหรี ยญทอง 3 เหรี ยญ ่ ่ ่ 4. มีผกู ้ ลาวเปรี ยบเปรยไว้วารถไฟขบวนนี นปื น ของญีปุ่นวิง ได้เร็ วกวากระสุ ตอบ 1 ข้อ 2 ต้องแก้ “ภาคภูมิ” เป็ น “ภูมิใจ” ข้อ 3 ต้องแก้ “ชนะกราวรู ด” เป็ น “ชนะรวด” ข้อ 4 ต้องแก้ “เปรี ยบเปรย” เป็ น เปรี ยบเทียบ” 26. ข้ อใดใช้ สํานวนถกต้ ู อง ั ่ ยเวลาเป็ นเจ้าถ้อยหมอความ อยูเ่ ลย 1. นีคุณ มีอะไรกพู็ ดกนตรง ๆ ดีกวา่ อยาเสี ิ 2. เด็กคนนี ซนเหลือเกนเหมื อนจับแพะชนแกะ ครู ประจําชั นหนักใจมาก ั ายา ่ ฉันเห็นวาผิ ่ ดทั งสองคน เข้าทํานองขนมพอผสมกบนํ 3. เรื องนี จะโทษใครคนเดียวไมได้ ่ ็ นได้เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนํ าซึ มบอทราย ่ 4. ป้ าอาศัยลูกทีมีรายได้ไมมากนั ก จึงคอยเกบเงิ ตอบ 3 ข้อ 1 ต้องแก้ “เจ้าถ้อยหมอความ” เป็ น “อ้อมค้อม” ่ ข้อ 2 ต้องแก้ “จับแพะชนแกะ” เป็ น “จับปูใสกระด้ ง” ่ ็ ยใต้ถุนร้าน” ข้อ 4 ต้องแก้ “นํ าซึ มบอทราย ” เป็ น “เกบเบี 27. ข้ อใดใช้ ภาษาได้ กะทัดรัด 1. กล้วยสุ กนั นนํามาทําเป็ นขนมได้หลายชนิด ่ ออาหารถุงทีข ึนราคาจากเดิม 5 บาท ขึ นไปเป็ น 8 บาท 2. ทีผมเป็ นหวงคื ่ 3. พบศพชายไทยไมทราบชื อถูกยิงตามลําตัวนอนตายอยูท่ ีริมถนนวิภาวดีรังสิ ต ่ าเลยกระทําผิดด้วยความจําเป็ นจึงตัดสิ นให้จาํ คุก 4 ปี 4. ศาลพิเคราะห์คาํ สารภาพของจําเลยแล้วเห็นวาจํ ตอบ 4 ข้อ 1 ฟุ่ มเฟื อยตรง “กล้วยสุ กนั น” ข้อ 2 ฟุ่ มเฟื อยตรง “จากเดิม”


ข้อ 3 ฟุ่ มเฟื อยตรง “ศพ…..นอนตาย” 28. ข้ อใดเรียงลําดับคําได้ ถูกต้ อง ่ ั 1. อาหารไทยเป็ นอาหารทีชาวตางชาติ นิยมรับประทานกนมาก ํ งเรงแกไขอยางรี ่ ้ ่ บดวนเรื ่ องปั ญหานํ าทวมขั ่ ง 2. กรุ งเทพมหานครกาลั ํ งรับสมัครสมาชิกใหมที่ บึงพระรามเป็ นจํานวนมาก 3. ชมรมดูนกกาลั ่ 4. มีนกั ศึกษาหลายคณะเข้ารวมโครงการ “ถนนสี ขาว” รวมทั งชมรมอนุรักษ์สิ งแวดล้อม

ํ งแกไขปั ้ ญหานํ าทวมขั ่ งอยางรี ่ บดวน ่ ” ตอบ 1 - ข้อ 2 ต้องแกเป็้ น “กาลั ํ งรับสมัครสมาชิกจํานวนมากทีบึงพระราม” - ข้อ 3 ต้องแกเป็้ น “กาลั ้ น “นักศึกษาหลายคณะรวมทั งชมรมอนุ รักษ์สิ งแวดล้อมเข้ารวม ่ - ข้อ 4 ต้องแกเป็ โครงการถนนสี ขาว” 29. ข้ อใดเรียบเรียงตามลักษณะประโยคภาษาไทย 1. ผูบ้ ริ หารจําเป็ นต้องมีเจตคติทีดีต่อผูใ้ ต้บงั คับบัญชา ่ 2. ปั จจุบนั การแพรระบาดของโรคเอดส์ ได้ขยายตัวเพิมขึ น 3. เยาวชนเป็ นผูท้ ีนาํ มาซึ งความหวังของสังคม ่ ขอ้ ดี แตกไมควรใช้ ่็ ่ 4. วัคซี นชนิดนี แม้วาจะมี ในผูใ้ หญวั่ ยชรา ่ ่ ตอบ 1 - ข้อ 2 มีสาํ นวนตางประเทศตรง “การแพรระบาดของโรคเอดส์ ” ่ - ข้อ 3 มีสาํ นวนตางประเทศตรง “นํามาซึ ง” ่ ่ - ข้อ 4 มีสาํ นวนตางประเทศตรง “ไมควรใช้ ใน……” 30. ประโยคใดใช้ ภาษาฟ่ ุมเฟื อย ิ าทวมกรุ ่ 1. ผมจะไมตํ่ าหนิ ตาํ รวจเด็ดขาด ในกรณี ทีเกดนํ งเทพฯเมือฝนตกหนัก ิ ญหาสมองไหลกคื็ อ การไมได้ ่ รับความยุติธรรมจากเจ้านาย 2. อีกสาเหตุหนึงทีทาํ ให้เกดปั ่ ตราการเสี ยชีวติ เพราะ 3. ปั จจุบนั อัตราการเสี ยชีวติ ของประชากรเพราะอุบตั ิเหตุมีมากกวาอั ่ ๆ โรคร้ายตาง ่ ี ่ ี ั ี มากมาย 4. เขาให้ความสนใจเรื องการเลนกฬามาก เขาจึงสะสมวารสารตางประเทศที เกยวกบกฬาไว้ ตอบ 4 ฟุ่ มเฟื อยตรง “ให้ความสนใจ” 31. ข้ อใดใช้ ภาษาในการประชมไม่ ุ ถูกต้ อง


1. จากการลงคะแนนเสี ยงทีประชุมมีมติเป็ นเอกฉันท์รับหลักการตามคําสังของมหาเถรสมาคมเรื องห้าม ี องกบการเมื ั พระสงฆ์เกยวข้ อง ่ ่ ่ นกฬามหาวิ ี 2. ทางมหาวิทยาลัยยังไมสามารถระบุ ช่วงเวลาทีแนนอนในการจั ดการแขงขั ทยาลัยเนืองจาก ่ ในระหวางการเปลี ยนอธิ การบดี ่ 3. ตามทีกรรมการทานหนึ งเสนอให้จดั ดนตรี เพือหารายได้เข้าชมรมนั น จะขอฟังความคิดเห็นจากคน ่ ผกู ขาดความคิดเห็นเพียงทานเดี ่ ยว อืนด้วยอยากให้กรรมการทานนี ่ นี ทางชมรมจะไปออกคายอาสาพั ่ 4. การจะพิจารณาวาปี ฒนาชนบทยังจังหวัดใดนั น ขอเลือนไปคราว ่ หน้าเพือให้รองประธานออกไปสํารวจพืนทีทีเหมาะสมกอน ่ ………..” ตอบ 3 เห็นจาก “ไมอยาก

32. ข้ อใดเรียงลําดับความต่ อไปนีไ ด้ ใจความชั ดเจนทีสดุ ในปั จจุบันมหาวิทยาลัยมีเพียงเวลาสอนหนังสื อไม่ ได้ สอนคน อี กทั'งพ่ อแม่ ต้องการให้ ครู สอนหนังสื อมากกว่ าสอนคน อธิ บดีกรมวิชาการกล่ าวว่ าสถาบันการศึกษาควรมีมาตรการ ทั'งนีเ' ป็ นเพราะความจําเป็ นทางเศรษฐกิจและสั งคม ให้ คนที จบออกไปประกอบอาชี พมีความเป็ นคนและเป็ นนักวิชาชี พที ดี 1. 1 2 4 5 3 2. 1 4 2 5 3 3. 3 5 1 4 2 4. 3 4 1 2 5 ่ นหวง ่ ” ตอบ 3 สังเกตจาก “นาเป็ 33. ข้ อความตอนใดเป็ นการแสดงทรรศนะ การรุ กรานทางวัฒนธรรมเป็ นปรากฏการณ์ ทีกาํ ลังเกิดขึน' ในสั งคม วัฒนธรรมที มีกาํ ลังแรงกว่ าจะไหลบ่ าเข้ าสู่ สังคมมีวฒ ั นธรรมตํา กว่ า สั งคมชาวเลในแถบชายฝั งทะเลอันดามันก็น่าเป็ นห่ วง ทั'งนีเ' พราะกําลังถูกคุกคามทั'งจากคนเมืองวัฒนธรรมสมัยใหม่ 1. ตอนที 1 2. ตอนที 2 3. ตอนที 3 4. ตอนที 4 ตอบ 3

10นาํ มามอบให้ von แจกจายและเผยแพร ่ ่ แกข้่ าราชการตํารวจ ภาษาไทยชุดนี คุณ GI-ANT เป็ นผูร้ วบรวมมาจากทีต่างๆ และได้ ่ ใน รร.พระปริ ยตั ิธรรม วัดธาตุทอง โดยไมคิ่ ดคาตอบแทน หากใครเป็ นเจ้าของขอขอบคุณด้วยครับ

ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 34 - 36 อํานาจของกรรมนั'นใหญ่ ยิง ทุกคนย่ อมหลีกหนีผลกรรมของตนไม่ พ้น จะต้ องได้ รับผลของกรรมที ตนได้ กระทําแล้ ว ทํากรรมดีใจจักได้ รับผลของกรรมดี นั'น ทํากรรมไม่ ดีใดจักได้ รับผลของกรรมไม่ ดีนั'นแน่ นอนเสมอไป 34. ข้ อใดมีความหมายต่ างกับข้ อความข้ างต้ น ่ ิ บูลผล เสริ มสุ ข 1. อันกรรมบถสิ บ กุศล กอเกดพิ ่ นยอม ่ ยังผล ดีชวั ดังทีตน ประพฤติ 2. กรรมใดกอขึ 3. อ้ากรรมสิ นาํ ผล ณชิวจี ิรไซร้ เพราะกรรมกระทําให้ ผลชวดและขืนขม 4. ทําดีจกั ได้ยล ผลเลิศ ทําชัว จักเสี ยจิต เพราะโทษตามทัน ่ อความข้างต้น “กรรม” หมายถึง “ผลจากการกระทํา ตอบ 1“กรรม” ในข้อ 1 หมายถึง “ความดี” แตในข้ ทีไมดี่” 35. ข้ อความใดเป็ นข้ อสรปของข้ อความทังหมด ุ 1. ข้อความที 1 2. ข้อความที 3 3. ข้อความที 4 4. ข้อความที 5 ํ งพูดถึง “อํานาจกรรม” วายิ ่ ง ใหญ่ ตอบ 1 เพราะเค้ากาลั 36. สั นธานชนิดใดเหมาะทีจะใช้ เชื อมข้ อความที 4 กับ 5 1. สันธานทีแสดงความขัดแย้งกนั 2. สันธานทีแสดงความคล้อยตามกนั 3. สันธานทีแสดงความเป็ นเหตุเป็ นผลกนั ่ องกนตามเวลา ั 4. สันธานทีแสดงความตอเนื ตอบ 2 เชือมด้วยคําวา่ “และ” ได้ จึงเป็ นคําเชื อมแบบ “คล้อยตาม” ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 37 - 38 ่ ้ให้ได้มาซึ งเสรี ภาพบนเส้นทางประชาธิ ปไตยด้วยความเชือมัน ก) การตอสู ่ มีความกล้าหาญทีไมเคยหยุ ่ ข) นักหนังสื อพิมพ์หรื อนักขาวได้ ดนิงหรื อยอมจํานน


่ ั ่ ้ ดินรนแสวงหาเสรี ภาพอยูเ่ สมอ ค) ทุกคนรวมกนตอสู ่ นฉบับที 42 ง) ดังจะเห็นได้จากการเรี ยกร้องให้ยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองแผนดิ 37. ข้ อความตอนใดไม่ มีการแสดงความคิดเห็น 1. ก 2. ข 3. ค 4. ง ตอบ 4 - ข้อ 1 มีความคิดเห็นตรง “ด้วยความเชื อมัน” - ข้อ 2 มีความคิดเห็นตรง “ได้มีความคิดเห็น” - ข้อ 3 มีความคิดเห็นตรง “อยูเ่ สมอ”

38. การใช้ ภาษาในข้ อความตอนใดไม่ มีข้อบกพร่ อง 1. ก 2. ข 3. ค 4. ง ่ ตอบ 4 - ข้อ 1 ใช้สาํ นวนตางประเทศตรง “ได้มาซึ ง” - ข้อ 2 ใช้คาํ ฟุ่ มเฟื อยตรง “มีความกล้าหาญ” ่ ้ดินรน” - ข้อ 3 ใช้คาํ ฟุ่ มเฟื อยตรง “ตอสู 39. ข้ อความต่ อไปนีเ ป็ นทรรศนะประเภทใด "สั ตว์ ในสวนสั ตว์ ไร้ ชีวิตจิ ตใจที เป็ นธรรมชาติของมัน นัง ๆ เดิน ๆ เพือรอวันตายให้ พ้นทุกข์ พ้นร้ อนไป เท่ านั'น สวนสั ตว์ แบบเดิมนี ' จึ งเป็ นการรั งแกสั ตว์ อย่ างเปิ ดเผยอย่ างหนึงนันเอง" 1. ทรรศนะเชิงข้อเท็จจริ ง 2. ทรรศนะเชิงคุณคา่ 3. ทรรศนะเชิงนโยบาย ่ ยม 4. ทรรศนะเชิงคานิ ตอบ 1 - ทรรศนะข้อเท็จจริ งเป็ นการคาดคะเน คาดหมาย


40. คําขวัญสํ าหรับผ้ ูเดินการกศลในข้ อใดเป็ นการวิเคราะห์ ผู้ฟังได้ เหมาะสมทีสดุ ุ ํ งทุกวัน สร้างสรรค์บุคลิก 1. ออกกาลั ํ งเป็ นนิ จ จิตแจมใส ่ 2. ออกกาลั 3. สุ ขกายเป็ นนิจ สุ ขจิตพาเพลิน หมัน เดินหมัน วิง 4. สุ ขภาพอนามัยดี เสริ มราศี ชี วสี ดใส ตอบ 3 - เพราะเค้าต้องการชวนคนไป “เดิน” มีเพียงข้อ 3 ทีพดู ถึง “การเดิน” 41. ข้ อใดไม่ ใช้ วจั นภาษา ่ ่ ่ านทานหยามคํา 1. วาเราเลวเราอยาเหลวทํ าเลวลง ต้องทะนงตอต้ 2. ตนเตือนตนของตนให้พน้ ผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน 3. ถึงชนกชนนีจะชังชิง ลูกจะวิงวอนง้อขอโทษกรณ์ ่ 4. จงเขียนคัดหัดจําตามคําบอก ความรู ้ศอกจะเป็ นวาอยางสงสั ย ่ ่ ่ ่ จนภาษา ตอบ 2 - ข้อ 2 “การเตือนตัวเอง” เป็ นการพูดในใจไมใชการแสดงออกจึ งไมใชวั

42. ข้ อใดไม่ ใช่ การเขียนแบบพรรณนา ่ ็ ่ อย เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ไม้ดอกและลดาวัลย์งาม 1. อุทยานรอบมหาสถานนั นเลากงามไมน้ ่ ศนา นาทั ่ ่ องเหมือนกนั ทุก ๆ ห้องมี 2. ทุก ๆ ตึกนั นแบงออกเป็ นสอบบ้าน ทุก ๆ บ้านมีขนาดและการจัดแบงห้ ขนาดเล็กคับแคบมากราวหนึ งในสี ของห้องนอนข้าพเจ้าทีวงั ปารุ สก์ ่ บูชา ภาพพระประธานองค์ใหญทรงไว้ ่ 3. ภาพแสงโคมทีหอ้ ยจากเพดาน รวมทั งแสงเทียนบนแทนที ซ ึ ง ่ ง นัก รัศมีอนั ไพโรจน์ ล้วนเป็ นภาพทีสดใสตระการตานาชมยิ ่ วติ ถ้ารางกายขาดโลหิ ่ ็ ไ่ มได้ ่ โลหิ ตจึงเป็ นนํ าหลอเลี ่ ยงรางกายที ่ 4. โลหิ ต คือสายธารแหงชี ต ชีวติ กอยู จําเป็ นอยา่งยิง เพือให้มีชีวิตอยู่ ่ อง) ตอบ 4 - พรรณนาคือการเขียนให้เห็นภาพ ข้อ 4 เป็ นการบรรยาย (เลาเรื 43. “กระดาษทีใช้ ห่อหรือใส่ อาหารโดยเฉพาะพวกกล้ วยทอด มันทอด กล้ วยปิ งนัน ไม่ ควรเป็ นกระดาษทีมี ตัวหนังสื อ ทังนีเ พราะหมึกพิมพ์ น ันจะมีพวกโลหะหนัก เช่ น ตะกัว โครเมียม แคดเมียมเป็ นส่ วนประกอบ ถ้ า หมึกพิมพ์ ไปถกอาหารก็ จะติดอาหารไป เรารับประทานเข้ าไปสะสมในร่ างกายทําให้ เกิดโรคต่ าง ๆ ได้ ” ู ข้ อความนีเ ป็ นการเขียนลักษณะใด ่ 1. การอธิ บายโดยยกตัวอยาง 2. การบรรยายตามลําดับขั นตอน


3. การอธิ บายโดยชี เหตุและผล ่ า 4. การบรรยายโดยกลาวซํ ตอบ 3 - สังเกตจาก “เพราะ……………” 44. ข้ อใดไม่ ใช่ การเตรียมบคลิ ุ กภาพของผ้ พู ดู ่ ่ 1. การเตรี ยมเลือกสรรเนื อหาเพือให้แงคิ่ ดได้อยางเหมาะแกโอกาส ่ นขึ นเวทีให้มีท่าทางทีกระฉับกระเฉงและมีความกระตือรื อร้น 2. การเตรี ยมทาเดิ ่ ั วเอง เชน่ คนอ้วนไมใสเสื ่ ่ อทีมีลวดลายเล็ก 3. การเตรี ยมเครื องแตงกายให้ เหมาะสมกบตั ่ ชา้ หรื อเร็ วจนเกนไป ิ 4. การเตรี ยมจังหวะในการพูดไมให้ ่ ่ “บุคลิกภาพ” ตอบ 1 - ข้อ 1 เป็ นการเตรี ยม “เนื อหา” ไมใช

ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 45 – 46 วัยรุ่ นทุกคนจําเป็ นต้ องแก้ ปัญหาชี วิตเมือประสบเหตุวิกฤตแต่ ละอย่ างได้ ด้วยตนเอง ความรั กอย่ าง เงียบ ๆ ของเรานันแหละที จะช่ วยประคับประคองเขาไว้ ได้ ถ้ าเราแนะนําก็ย่อมจะถูกปฏิ เสธ ถ้ าเราชี 'แจงเหตุผล ก็อาจถูกโกรธเคื อง แม้ แต่ การตักเตือนเล็ก ๆ น้ อย ๆ ก็มกั ถูกมองไปในแง่ โจมตีส่วนตัว การสร้ างความ ไว้ วางใจในความรั กของพ่ อแม่ และการให้ เกียรติแก่ วยั รุ่ นแต่ ละคน คื อการปล่ อยให้ เขาได้ ฝ่าฟั นภยันตรายใน วิถีชีวิตของเขาด้ วยตนเอง 45. ข้ อความนีค วรใช้ ชือเรี ยกว่ าอย่ างไร ่ ั ยรุ่ น 1. ทําอยางไรกบวั 2. ปั ญหาวัยรุ่ น ่ ั ยรุ่ น 3. ผูใ้ หญกบวั 4. วัยรุ่ นวัยวุน่ ตอบ 1 46. “ความรักอย่ างเงียบ ๆ” ในข้ อความนีห มายความว่ าอย่ างไร 1. ให้อิสระเต็มที


2. 3. 4. ตอบ

่ เชือใจทุกอยาง ดูแลอยูห่ ่าง ๆ ่ ไมแสดงความรั กพรําเพรื อ 3

ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 47 - 48 ในกาแฟมีสารเคมีชือกาเฟอี น ซึ งมีคุณสมบัติกระตุ้นทั'งด้ านจิ ตใจ ทางประสาทและทางกายทําให้ เกิดความกระปรี ' กระเปร่ าคล่ องแคล่ วว่ องไว ไม่ ซึมไม่ ง่วงเหงาหาวนอน แต่ กเ็ ป็ นสภาพชัวคราว บางคนดืม กาแฟแล้ วถึงกับนอนไม่ หลับ กาเฟอี นช่ วยขยายหลอดเลือดเล็กน้ อย ทําให้ เลือดไหลเข้ าสู่ หัวใจและสมอง ได้ ดีขึน' คนบางคนไม่ ถกู กับกาแฟ ดืมกาแฟแล้ วเกิดอาการปวดศี รษะและระบบย่ อยอาหารไม่ ดี 47. ผ้ เู ขียนมีความม่ ุงหมายอย่ างไรในการเขียนข้ อความนี 1. ให้ขอ้ มูล 2. เตือนใหัระวัง 3. วิเคราะห์คุณและโทษ 4. ชี ให้เห็นสิ งทีถูกมองข้าม ตอบ 1 - เค้าต้องการให้เรารู ้วา่ “คาเฟอีนในกาแฟ” คืออะไร มีประโยชน์ - โทษ อะไร 48. ควรตังชื อข้ อความข้ างต้ นว่ าอย่ างไร 1. กาเฟอีนในกาแฟ 2. คุณและโทษของกาเฟอีน 3. ความรู ้เรื องสารกาเฟอีน ี ั 4. ข้อควรระวังเกยวกบกาเฟอี น ตอบ 1 ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 49 - 53 เมือเห็นเพื อนของคุณใช้ เครื องประดับที ทาํ ด้ วยงาช้ าง ขอได้ ปรานี เขาและปรานีช้างพอที จะเล่ า ให้ เขาฟั งว่ าช้ างแอฟริ กาได้ ถูกทําลายลงไปอย่ างน่ าใจหายอย่ างไร จะเล่ าด้ วยก็ได้ นะครั บว่ าช้ างนั'นเป็ น สั ตว์ สังคมอย่ างยิง คื อต้ องอยู่กันเป็ นโขลงและมีความสัมพันธ์ กันอย่ างมาก ตัวที แก่ และมีงายาวจะถูก ฆ่ าตายก่ อน แล้ วก็มาถึงงาธรรมดา โขลงช้ างที เหลือจึงเป็ นสั งคมช้ างที ขาดความสมดุลของวัยเพราะ เหลือแต่ ช้างหนุ่มช้ างสาว โอกาสจะเอาตัวรอดในธรรมชาติกน็ ้ อยลง เขาประมาณกันว่ าช้ างซึ งมีอายุไม่ ถึง 10 ปี ร้ อยละ 40 จะตายลง เมือพ่ อแม่ มันถูกฆ่ าตายไปแล้ ว เพียงแต่ คุณยุติการใช้ งาช้ างได้ สักคนหนึง บางที ก็ได้ รักษาชี วิตช้ างไว้ ได้ เชื อกหนึงแล้ ว


49. จดม่ ุ ุงหมายของผ้ ูเขียนคือข้ อใด ั รักษ์ชา้ งป่ า 1. เสนอให้ช่วยกนอนุ 2. รณรงค์ให้งดใช้เครื องประดับจากงาช้าง ี ั 3. ให้ความรู ้เกยวกบการลดจํ านวนของช้าง ี ั งคมและธรรมชาติของช้าง 4. ให้ความเข้าใจเกยวกบสั ตอบ 2 50. “ปรานีเขา” ในข้ อความข้ างต้ นมีความหมายตามข้ อใด ่ ให้เพือนมีส่ วนในการทําลายชีวติ สัตว์ 1. ชวยมิ ่ เพือนมีความรู ้เกยวกบเรื ี ั องวิถีชีวติ ของช้าง 2. ชวยให้ ่ ให้เพือนมีค่านิยมทีผดิ ๆ ในการใช้เครื องประดับ 3. ชวยมิ ่ เพือนเข้าใจเกยวกบเรื ี ั องของความสมดุลของธรรมชาติ 4. ชวยให้ ตอบ 1

51. ข้ อใดไม่ อาจอนมานได้ จากข้ อความข้ างต้ น ุ ั นโขลง 1. ช้างชอบอยูร่ วมกนเป็ ั ษย์ 2. ช้างเป็ นสัตว์ทีชอบอาศัยอยูก่ บมนุ ั อความอยูร่ อดในธรรมชาติ 3. ช้างจะเกอกู ื ลกนเพื ั ั 4. ช้างโขลงเดียวกนจะมี ความสัมพันธ์กนในระบบอาวุ โส ตอบ 2 52. ข้ อความนีอ นมานได้ ว่าผ้ ูแต่ งเป็ นคนอย่ างไรมากทีสดุ ุ 1. เป็ นคนมีเหตุผล 2. เป็ นคนทีมีอุดมการณ์ 3. เป็ นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ ี ั วติ และสิ งแวดล้อม 4. เป็ นผูเ้ ข้าใจปั ญหาเกยวกบชี ตอบ 3 สังเกตจาก “การต้องการให้อนุรักษ์ชา้ ง”


53. ท่ วงทํานองการเขียนของข้ อความนีม ีลกั ษณะใด 1. ยัว ยุ 2. โน้มน้าว 3. อ้อนวอน 4. ประชดประชัน ตอบ 2 “โน้มน้าว” = ชักชวน นัน เอง ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 54 - 55 1. ใจเป็ นธาตุละเอี ยดซั บซ้ อนเหมือนกลีบหั วหอม 2. เปลือกนอกสุ ดคื อจิ ตสํานึกที มีสติสัมปชัญญะปั ญญารั กษา 3. กลีบที ซ้อนกันถัด ๆ เข้ ามาจนถึงแก่ นคื อจิ ตใต้ สาํ นึกและจิ ตไร้ สาํ นึกที สติปัญญายังเจาะไม่ ถึง 4. แต่ มนั คื อตัวพลังและคื อ ประจุกรรม 5. การกระทําคําพูด ความคิ ด ทุก ๆ อย่ างจะถูกหว่ านลงในเนือ' จิ ตส่ วนนี ' 6. แล้ วผลิหน่ อแตกกิงก้ านสาขาเป็ นวิบากหรื อผลแห่ งกรรมนั'น ๆ ให้ เราได้ เสวยตามวาระ ( 7. เราทําอย่ างไรไว้ เราย่ อมได้ รับผลนั'น ๆ เป็ นสิ งตอบแทน

54. ข้ อใดไม่ ใช่ คู่เปรียบกันตามข้ อความข้ างต้ น ิ ้ - วิบากกรรม 1. กงกาน 2. กลีบหัวหอม - ใจ 3. แกน่ - จิตใต้สาํ นึก 4. หนอ่ - เนื อจิต ตอบ 4 เพราะเนื อจิต = จิต (ข้อความที 5) แต่ หนอ่ คือ ผลของกรรม (ข้อความที 6) 55. ข้ อใดแสดงความสั มพันธ์ กนั อย่ างถกต้ ู องตามข้ อความข้ างต้ น 1. ตอน (1) สนับสนุนตอน (2) และตอน (3) 2. ตอน (2) และตอน (3) ขยายความตอน (1) 3. ตอน (5) และตอน (6) สนับสนุนตอน (7) 4. ตอน (6) คล้อยตามตอน (4) และตอน (5) ตอบ 3


ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 56 - 58 ก๊ าซธรรมชาติเป็ นเชื 'อเพลิงฟอสซิ ลที สะอาดที สุด เพราะทุกหน่ วยพลังงานที ได้ จากก๊ าซธรรมชาติ ทําให้ เกิดการแพร่ กระจายของคาร์ บอนไดออกไซด์ เพียงครึ งหนึงของถ่ านหิ นและหนึงในสี ของนํา' มันเท่ านั'น นอกจากนั'นก๊ าซธรรมชาติยงั ปลอดจากสารกํามะถันซึ งเป็ นต้ นเหตุให้ เกิดฝนกรดเช่ นเดียวกับถ่ านหิ นและ นํา' มัน และข้ อสําคัญในทุก ๆ ปี จะมีการค้ นพบแหล่ งก๊ าซมากกว่ าปริ มาณการเผาผลาญ การค้ นพบเท่ าที ปรากฏ ทุกวันนีจ' ะทําให้ มีก๊าซธรรมชาติพอใช้ ไปอี ก 58 ปี ในอัตราการใช้ โดยปกติในปั จจุบัน 56. ข้ อความข้ างต้ นควรใช้ หัวข้ อว่ าอย่ างไร ๊ 1. ลักษณะของกาซธรรมชาติ ๊ 2. พลังงานจากกาซธรรมชาติ ๊ 3. ประโยชน์ของกาซธรรมชาติ ๊ 4. ข้อดีของกาซธรรมชาติ ตอบ 4 57. ข้ อใดไม่ อาจอนมานตามข้ อความข้ างต้ น ุ ๊ 1. กาซธรรมชาติ ทาํ ลายสิ งแวดล้อมน้อยมาก ่ นและนํ ามันถูกเผาผลาญเป็ นปริ มาณมากกวาการค้ ่ 2. ถานหิ นพบ ๊ ่ งศตวรรษถ้าใช้ในอัตราเทาเดิ ่ ม 3. กาซธรรมชาติ จะยังคงมีใช้ต่อไปอีกกวาครึ ่ ่ ารใช้พลังงานจากถานหิ ่ น 4. การใช้พลังงานนํ ามันทําให้ก๊าซคาร์ บอนไดออกไซด์แพรกระจายมากกวาก ๊ ตอบ 1 ไมมี่ ขอ้ ความตอนไหนบอกวา่ กาซธรรมชาติ ทาํ ลายธรรมชาติ “น้อยมาก” 58. ข้ อความส่ วนใดมีความกํากวม ่ 1 1. สวนที ่ 2 2. สวนที ่ 3 3. สวนที ่ 4 4. สวนที ่ คือ ตอบ 2 ตีความได้ 2 อยาง ๊ ่ นและนํ ามันไมมี่ สารกามะถั ํ นซึ งเป็ นต้นเหตุของฝนกรด - กาซธรรมชาติ ถานหิ ๊ ํ น แตถานหิ ่ ่ นและนํ ามันมีสารกามะถั ํ น - กาซธรรมชาติ ไมมี่ สารกามะถั 59. “เอดส์ ลดหรือเพิม เริมทีผ้ ชู าย” ข้ อใดทีตีความคําขวัญนีไ ด้ ถูกต้ องชั ดเจนทีสดุ ่ ่ นเหตุของการเกดโรคเอดส์ ิ 1. ผูห้ ญิงไมใชต้ ิ 2. ผูช้ ายมักเป็ นต้นเหตุของการเกดโรคเอดส์


3. ความประพฤติของผูช้ ายทําให้โรคเอดส์ลดหรื อเพิมได้ 4. ผูห้ ญิงทําให้โรคเอดส์ลด แตผู่ ช้ ายทําให้โรคเอดส์ เพิม ตอบ 3 จงอ่ านข้ อความต่ อไปนีแ ล้ วตอบคําถามข้ อ 60 - 61 “คนไทยเรารู้ ตัวว่ าเป็ นไทยก็เพราะมีเอกลักษณ์ บางอย่ างที มีอยู่ในตัวซึ งไม่ เหมือนคนอื น ๆ การ อพยพของคนไทยจากตอนเหนือสู่ ตอนใต้ นั'น จะต้ องถือว่ าเหมือนกับการไหลนองของนํา' มิใช่ เป็ นการ บุกรุ ก คนไทยนั'นเปรี ยบได้ กับนํา' เมือไหลมาถึงที ซึงเป็ นช่ องแคบก็สามารถบีบตัวให้ ไหลผ่ านช่ องแคบ ไปได้ และเมือไหลมาถึงลุ่มนํา' อันกว้ างขวางก็สามารถทีจะแผ่ ขยายออกไปจนเต็มลุ่มนํา' อันกว้ างขวางนั'น ได้ เมือฟ้ าเป็ นสี ใด นํา' ก็สะท้ อนเป็ นสี ของฟ้ านั'น แต่ ถ้าตักนํา' มาดูแล้ วก็จะเห็นนํา' เป็ นสี นา'ํ ไม่ ได้ มีสีอ ทั'งสิ 'น ยังคงมีลักษณะของความเป็ นนํา' และนีคือเอกลักษณ์ ของคนไทย” 60. ข้ อความนีเ ปรียบคนไทยกับลักษณะของนํา ในข้ อใด 1. นํ าไหลจากทีสูงมาสู่ ทีตาํ 2. นํ าไหลซอกซอนไปตามทีต่าง ๆ ่ 3. นํ าเปลียนรู ปรางไปตามภาชนะ ่ 4. นํ าเปลียนสี ไปได้แล้วแตสภาพแวดล้ อม ตอบ 4 เพราะเค้าเน้นที การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม

61. ข้ อใดเป็ นสารสํ าคัญทีสดของข้ อความนี ุ 1. คนไทยชอบการเปลียนแปลง ่ 2. คนไทยยอมรับผูอ้ ืนทีแตกตางไปจากตน ่ อนคนอืน 3. คนไทยเป็ นคนแปลกไมเหมื 4. คนไทยไมรุ่ กรานผูอ้ ืน ่ น เอง ตอบ 2 ข้อ 2 กคื็ อ คนไทยปรับตัวเกงนั

ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 62 - 64 1. สั งคมซึ งยึดหลักธรรมของเสรี ภาพเป็ นสั งคมเปิ ด 2. เป็ นสั งคมที เปิ ดให้ มนุษย์ มีศักดิLศรี เท่ าเที ยมกัน เป็ นตัวของตัวเอง


3. สามารถแสดงความคิ ดเห็นและเรี ยนรู้ เหตุการณ์ ต่าง ๆ ในสังคมได้ โดยไม่ มีข้อกําหนดขีดคันไว้ 4. จุดสําคัญของเสรี ภาพ และลัทธิ ประชาธิ ปไตยจึ งอยู่ทีข้อสั นนิษฐานว่ ามนุษย์ ควรมีโอกาสเป็ นตน ของตนเองเท่ าเที ยมกัน 5. มีความคิ ดเห็นและแสดงความคิ ดเห็นนั'น ๆ ออกมาได้ โดยเสรี ภาพเท่ าเที ยมกัน 62. ข้ อความส่ วนใดเป็ นข้ อสรปของข้ อความทังหมด ุ ่ 2-5 1. สวนที ่ 3-5 2. สวนที ่ 4-5 3. สวนที ่ 5 4. สวนที ตอบ 3 สังเกตจาก “จึง” 63. ข้ อใดไม่ ใช่ ลกั ษณะของ “สั งคมเปิ ด” 1. เปิ ดโอกาสให้ทุกคนเป็ นตัวของตัวเอง ่ ยมกนั 2. เปิ ดโอกาสให้ทุกคนมีศกั ดิW ศรี เทาเที 3. เปิ ดโอกาสให้ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นของตนได้โดยเสรี 4. เปิ ดโอกาสให้ทุกคนเรี ยนรู ้เหตุการณ์และกระทําการได้โดยเสรี ตอบ 4 ผิดตรง “กระทําการได้โดยเสรี ”

64. เพราะเหตใดเสรี ภาพจึงถือเป็ นหลักธรรมของสั งคม ุ ่ ยมของคนในสังคมเคารพบูชาเสรี ภาพ 1. เพราะคานิ ่ งคมจะอยูไ่ มได้ ่ ถ้าขาดเสรี ภาพ 2. เพราะความเชื อวาสั ่ ภาพทําให้เกดความเทาเที ิ ่ ยมกนในสั ั 3. เพราะความเชื อวาเสรี งคม ่ ภาพเป็ นสิ งจําเป็ นสําหรับการปกครองระบอบประชาธิ ปไตย 4. เพราะความเชื อวาเสรี ตอบ 3 65. ข้ อใดใช้ ภาพพจน์ ต่างกับข้ ออืน ็ ี ่ 1. ขอให้ฉนั ได้เกบเกยวเหงื อทีฉนั หวานลงไปบนมั น ็ นแมบั่ งเกดเกล้ ิ าของฉัน ฉันเป็ นลูกของธรณี ผืนนี 2. แตมั่นกเป็


่ าแมพิ่ รุณกมิ็ ได้สงสาร แม้เพียงจะหลัง นํ าตาลงมาเวทนามันสักหยด 3. แตเจ้ ่ ่ าจะมีเมฆตั งเค้าให้ชืนใจ ทีนาหายใจคล้ายคนรอแรจวนจะตาย ่ ่ 4. ไมปรากฏวาฟ้ ตอบ 1 ข้อ 1 ใช้นามนัย ตรง “หยาดเหงือ” ข้อ 2 ใช้บุคลาวัต ตรง “ลูกของธรณี ” ข้อ 3 ใช้บุคลาวัต ตรง “เจ้าแมพิ่ รุณ” ข้อ 4 ใช้บุคลาวัต ตรง “ทีนาหายใจ” ใช้ ตัวเลือกต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 66 - 69 ก. ฉันเยาว์ฉนั เขลาฉันทึง ฉันจึงมาหาความหมาย ็ ่ ยว ฉันหวังเกบอะไรไปมากมาย สุ ดท้ายให้กระดาษฉันแผนเดี ่ นดวงใจไทยทั งชาติ เพ็ญพิลาสเลอโฉมบรรโลมสงา่ ข. พระแมเป็ ่ าชาวประชา คู่บุญญาธํารงวงศ์จกั รี เป็ นมิงขวัญรมเกล้ ค. ห้วยสะท้อนสะท้อนใจได้มาถึง นัง รําพึงรําพันหวัน สับสน ่ จะลืมเราหรื อเปลาหนอท้ อกมล ขอสะท้อนผลกรรมดีทีเคยทํา ่ ่ น ไหวใจห้ามขาด ใจตวาดแล้วใยใจผวา ง. อยานะอยาหวั ็ ไปห้ามตา สมนํ าหน้าหัวใจร้องไห้เอง ตาร้องไห้ใจกตาม 66. ข้ อใดเล่ นคําพ้ อง 1. ข้อ ก. 2. ข้อ ข. 3. ข้อ ค. 4. ข้อ ง. ่ าพ้องตรง “ห้วยสะท้อน” “สะท้อนใจ” ตอบ 3 - ข้อ 3 เลนคํ

67. ข้ อใดใช้ การเขียนแบบอปลั ุ กษณ์ 1. ข้อ ก. 2. ข้อ ข. 3. ข้อ ค. 4. ข้อ ง. ่ นดวงใจ” ตอบ 2 - สังเกตจาก “พระแมเป็ 68. ข้ อใดใช้ การแต่ งแบบบคคลสมมติ ุ 1. ข้อ ก.


2. 3. 4. ตอบ

ข้อ ข. ข้อ ค. ข้อ ง. ็ 4 - สังเกตจาก “ใจกตามไปห้ ามตา”

69. ข้ อใดเป็ นแนวการเขียนแบบเพือชี วติ มากทีสดุ 1. ข้อ ก. 2. ข้อ ข. 3. ข้อ ค. 4. ข้อ ง. ตอบ 1 - งานเพือชี วติ คือ งานทีมุ่งหวังปรับปรุ งสังคม 70. ‘ด้ วยความร้ ูนั นเลิศประเสริ ฐสดุ เปรี ยบประดจดั ุ งแควกระแสสิ นธ์ ุ จะวิดวักตักมาเป็ นอาจินต์ ไม่ รู้สิ นแห้ งขอดตลอดกาล’ ข้ อใดไม่ ปรากฏในบทกวีนี 1. อุปลักษณ์ 2. คําความหมายใกล้เคียงกนั 3. อุปมา 4. สัมผัสใน ่ มีความหมายเปรี ยบเทียบ จึงไมใชอุ ่ ่ ปลักษณ์ ตอบ 1 - “เป็ น” ในวรรค 3 ไมได้

71. ‘เราดีดีกว่ าดวงดีเพราะดีน ันมีทเราดี ี กว่ าทีดวงทําดี นันแหละเราหน่ วงเอาดีท ังปวงมาทําให้ ดวงมันดี’ ถ้ าแยกวรรคให้ ถูกต้ องแล้ ว ข้ อความนีเ ป็ นคําประพันธ์ ประเภทใด 1. กาพย์ยานี 2. กาพย์ฉบัง 3. อินทรวิเชียรฉันท์ ่ 4. รายยาว ตอบ 2 - แยกวรรคได้วา่ ่ ่ ดวง ทําดีนนั แหละเราหนวง ่ เอาดีท งั ปวง มาทําให้ดวงมันดี” “เราดีดีกวาดวงดี เพราะดีน นั มี ทีเราดีกวาที


72. ข้ อใดมีการใช้ คํา “โทโทษ” 1. พระจักขุ่นจักข้อน จักแค้นคับทรวง 2. ตรึ งอกพกตกขวํา อยูเ่ บื องบนสาร 3. อ้าศรี เสาวภาคย์เพี ยง เพ็ญแข 4. ถนัดดัง พาหาเหี ยน หัน กลิงไกลองค์ ตอบ 2 - ข้อ 2 มีโทโทษตรง “ขวํา” 73. ข้ อใดไม่ ใช้ ภาพพจน์ ่ ่ ่ ง 1. ทีน าํ ลึกเป็ นห้วงพวงแพราย ทอดสายทุ่นถวงหนวงรั 2. ลมหวนครวญเสี ยงลม พาใจตรมตามลมครวญ ่ ่ านาบั ่ ดสี 3. ฝ่ ายชีเปลือยคนฮารุ มดาขรม เดินนุ่งลมหมฟ้ 4. ความจนเป็ นแรงให้แข็งสู ้ หากชีพอยูจ่ ะมิยอมค้อมหัวให้ ตอบ 1 - ข้อ 2 มีภาพพจน์ตรง “ลมหวน – ลมครวญ” ่ า” - ข้อ 3 มีภาพพจน์ตรง “นุ่งลมหมฟ้ - ข้อ 4 มีภาพพจน์ตรง “ความจนเป็ นแรง” 74. ถ้ ารั กกันไม่ ได้ กไ็ ม่ รัก ไม่ เห็นจักเกรงการณ์ สถานไหน ไม่ รักกกก็ าไมฤา ู ู จักไม่ รักใคร เอ๊ ะ นํ าตากไหลทํ ู ลักษณะการเขียนอนมานได้ ว่าผ้ เู ขียนร้ ูสึกอย่ างไรมากทีสดุ ุ ่ 1. ตัดสิ นใจไมได้ ่ 2. ตัดใจไมได้ 3. ปลอบใจตนเอง ั ่ ั 4. ปากกบใจไมตรงกน ตอบ 2

ใช้ คําประพันธ์ ต่อไปนี ตอบคําถามข้ อ 75 และข้ อ 76 1. กระเต็นกระตั'วตืน แตกคน 2. กระจิ บกระจาบปน แปลกเปล้ า 3. กระสากระสั งสน เสี ยดสั ก สู่แฮ 4. กระรอกกระเรี ยนเข้ า ย่ องแหย้ งอาหาร 75. คําประพันธ์ บทนีเด่ นทีสดในด้ านใด ุ


1. 2. 3. 4. ตอบ

ภาพพจน์ สัมผัสพยัญชนะ สัมผัสสระ จังหวะ 2 สังเกตจากมีสัมผัสอักษรทุกบรรทัดเลย

76. คําประพันธ์ บทนีม ีลักษณะทีไม่ ตรงตามผังฉันทลักษณ์ มากทีสดในเรื องใด ุ 1. คําเอก คําโท สลับทีกนั 2. ใช้คาํ เอกโทษ 3. ใช้คาํ โทโทษ 4. ใช้คาํ ตายแทนคําเอก ตอบ 4 ใช้คาํ ตายแทนคําเอกถึง 5 แหง่ 77. ความในข้ อใดใช้ โวหารเปรียบเทียบต่ างจากข้ ออืน ่ อทับทิมแท้ มาแปรเป็ นพลอยหุ งไปเสี ยได้ 1. เมือแรกเชื อวาเนื ่ ให้ปลงใจ ด้วยมิได้ดูหงอนแตกอนมา ่่ 2. กาลวงวาหงส์ 3. แม้นเนื อเย็นเป็ นห้วงมหรรณพ ทีขอพบศรี สวัสดิW เป็ นมัจฉา ่ ่ 4. เหลาชายคื อมวลภุมรา ใฝ่ หาแตมวลมาลี ตอบ 2 - ข้อ 1 ใช้อุปลักษณ์ตรง “เนื อทับทิม” - ข้อ 3 ใช้อุปลักษณ์ตรง “เป็ นห้วงมหรรณพ” - ข้อ 4 ใช้อุปลักษณ์ตรง “คือมวลภุมรา” - ข้อ 2 ใช้สัญลักษณ์ตรง “กา………….หงส์”

78. ใครจะไว้ ใจอะไรก็ตามเถิด แต่ อย่ าเกิดไว้ ใจในสิ/ งห้ า หนึ/งอย่ าไว้ ใจทะเลทกเวลา สองสั ตว์ เขี ยวเล็บงาอย่ าวางใจ ุ สามผ้ ถู อื อาวธสดจั ุ ุ กร้ าย สี/ ผ้หู ญิงทัง หลายอย่ ากรายใกล้ ห้ ามหากษัตริ ย์ทรงฉัตรชั ย ถ้ าแม้ นใครประมาทอาจตายเอย เหตผลสํ ุ าคัญทีสดที ุ ไม่ ให้ ไว้ ใจสิ งทังห้ าทีกล่ าวถึงในบทประพันธ์ นีค ือข้ อใด 1. ความโลเล


2. 3. 4. ตอบ

ความรุ นแรง ความแปรปรวน ความมีอาํ นาจ ่ ่ 3 ความแปรปรวน = ไมแนนอน

79. ข้ อใดเป็ นลักษณะร่ วมกันของมวยไทยและมวยสากล ก. ฉั บฉวยชกฉกชํา' ฉุ บฉั บ ข. โถมทุบทุ่มถองทับ ถีบท้ าว ค. เตะตี ต่อยตุบตับ ตบตัก ง. ขันต่ อยตีพวกพืน' ม่ านรู้ ครู มวย 1. ข้อ ก. และ ค. 2. ข้อ ข. และ ค. 3. ข้อ ก. และ ง. 4. ข้อ ข. และ ง. ่ ั อ ชกเฉพาะ “มือ” ห้ามใช้ “เท้า” ข้อ 3 จึงถูกต้อง ตอบ 3 - มวยไทยและสากล มีลกั ษณะรวมตรงกนคื 80. คําประพันธ์ ต่อไปนีม ีความดีเด่ นในเชิ งวรรณศิลปอย่ ์ างไร 1. ธ ก็ไสสองสารทรง ตรงเข้ าถีบเข้ าแทง ด้ วยแรงมันแรงกาย หงายงาเสยสารเศิก เพิกพังพ่ ายบ่ ายตน ปนปะไปไขว่ คว้ าง ช้ างศึกได้ กลินมัน หั นหั วหกตกกระหม่ า 2. เล่ นเสี ยงสั มผัสอักษรและสั มผัสสระ 3. เล่ นเสี ยงพยางค์ และเสี ยงวรรณยุกต์ 4. เล่ นคําซํ'าและคําซ้ อน 5. เล่ นคําคู่และคําประสม ตอบ 1

81. ข้ อใดพรรณนาถึงสิ งทีต่ างประเภทจากข้ ออืน 1. นํา' เงินคื อเงินยวง ขาวพรายช่ วงสี สาํ อาง 2. โนรี สีปานชาด เหมือนช่ างฉลาดวาดแต้ มลาย 3. สั ตวาน่ าเอ็นดู คอยหาคู่อยู่เอกา 4. สร้ อยทองย่ องเยือ' งชาย หมายสายสวาทนาดนวยจร


ตอบ 1 - ข้อ 2, 3, 4 พูดถึง “นก” - ข้อ 1 พูดถึง “ปลา” 82. ข้ อใดเป็ นความแตกต่ างชั ดเจนของเรืองนิราศพระบาทและนิราศลอนดอน 1. รู ปแบบคําประพันธ์ ทีใช้ 2. การรําพันถึงบุคคลอันเป็ นที รักในระหว่ างการเดินทาง 3. พรรณนาถึงสถานที และเหตุการณ์ ต่าง ๆ ที ผ้ แู ต่ งประสบ 4. สอดแทรกความรู้ และความคิ ดเห็นของผู้แต่ งไว้ ตอบ 2 - นิราศลอนดอนพูดถึงนางอันเป็ นทีรักน้อยมาก 83. ธรรมดามหาสมทร ุ มีคราวหยดพายผั ุ ุ น มีคราวสลาตัน ตั งระลอกกระฉอกฉาน คําประพันธ์ นีใ ห้ แง่ คิดเกียวกับเรืองใดในทางพทธศาสนา ุ 1. ไตรลักษณ์ 2. เบญจขันธ์ 3. อิทธิ บาท 4. พรหมวิหาร ่ ่ = อนิ จจัง ซึ งเป็ นหนึงในสามของกฎไตรลักษณ์ ตอบ 1 - “มีคราวหยุด มีคราวสลาตัน” คือ ไมแนนอน 84. ถือตามคําโบราณท่ านว่ ามา ว่ าว่ ายนํา เข้ าหาจระเข้ ใหญ่ ข้ อความทีขีดเส้ นใต้ มีความหมายคล้ ายคลึงกับ สํ านวนใดมากทีสดุ ่ นเข้ากองไฟ 1. แมลงเมาบิ ่ า 2. สอนจระเข้ให้วายนํ ่ าหาเสี ยน 3. แกวงเท้ 4. ใจดีสู้เสื อ ตอบ 4 - ว่ายนํ าเข้าหาจระเข้ คือ ตัดสิ นใจเสี ยงทั ง ๆ ทีมีอนั ตรายจึงคล้ายกบั “ใจดีสู้เสื อ” มากทีสุด

85. คําประพันธ์ ข้อใดไม่ ใช่ ความเชื อในสั งคมไทย ่่ 1. ปุโรหิ ตฟันไมขมนาม ทําตามตําราพิชยั ยุทธ์ ่ ่ ว วาทู ่ นหัวสุ มไฟไว้ในมุง้ 2. เลาความฝั นมาประหมากลั ็ 3. เห็นเพลิงพลุ่งรุ่ งโรจน์โชตนา กแบหลาโจนเข้ าในอัคคี


4. แล้วจะลุยเข้าไปในอัคคี ถ้าแม้นชัว ชีวจี งวายปราณ ตอบ 3 - ข้อ 1 มีความเชือคือ “ตัดไม้ข่มนาม” - ข้อ 2 มีความเชือคือ “ความฝัน” - ข้อ 4 มีความเชือคือ “การลุยไฟพิสูจน์ความบริ สุทธิW ” 86. ข้ อใดสะท้ อนค่ านิยมบางประการของสั งคมไทย ่ ่ วาวายนํ ่ ่ าเข้าหาจระเข้ใหญ่ 1. ถือตามคําโบราณทานวามา ่ ยากงายตายเป็ นประการใด ให้เป็ นไปตามกรรมทีทาํ มา 2. เจ้าของตาลรักหวานขึ นปี นต้น ระวังตนตีนมือระมัดมัน เหมือนคบคนคําหวานรําคาญครัน ถ้าพลั งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล ้ ญญ์พืชพันธุ์น ี คุณภาพมีศรี ปานอาหารสวรรค์ 3. สรุ ปแล้วแกวธั ่ ในพรรษานาอุดมสมบูรณ์ธญ ั ญ์ ควรแกสรรเสริ ญกราวคือชาวนา ็ 4. เมือจะเอาโทษทัณฑ์ฉนั ใด กตามใจด้ วยเรานี เป็ นข้า ได้ถือนํ าพระพิพฒั น์สัจจา จะหลบลี หนีหน้าไปทําไม ่ ยม “การรักษาสัจจะ” ตอบ 4 - ข้อ 4 มีคานิ 87. ข้ อใดไม่ ตรงกับค่ านิยมทีว่ า “เป็ นหญิงจะต้ องร้ ูจักรักนวลสงวนตัว” ิ 1. ธรรมดาเกดมาเป็ นสตรี ชัว ดีคงได้คู่มาสู่ สอง ่ ตสาห์ ่ ประคับประคอง หมายปองวาจะปลู ่ มารดายอมอุ กให้เป็ นเรื อน ็ ่ นผูด้ ี มัง มีแมมิ่ ให้ลูกอายเพือน 2. อันหนึงเราเขากวาเป็ ่ ่ อนกอนแมทํ ่ าแชเชื อน ความอายจะกระเทือนถึงมารดา จะดวนร้ ิ นสตรี อนั มีศกั ดิW บํารุ งรักกายไว้ให้เป็ นผล 3. ผูใ้ ดเกดเป็ สงวนงามตามระบอบให้ชอบกล จึงจะพ้นภัยพาลการนินทา ่ 4. อันทีจริ งหญิงชายยอมหมายรั ก มิใชจั่ กตัดทางทีสร้างสม ่ กชมนอกหน้าเป็ นราคี แม้นจักรักรักไว้ในอารมณ์ อยารั ่ ตอบ 4 - ข้อ 4 เป็ นการสอนวา่ “รักอยาแสดงออกนอกหน้ า” ไมใ่ช่ การรักนวลสงวนตัว

88. “พระอภัยอย่ าได้ หมายทําร้ ายเขา จะสญเผ่ ู าพงศ์ ชาติพระศาสนา เป็ นค่ สู ร้ างนางละเวงวัณฬามา ถึงไตรดายคแล้ ุ วไม่ แคล้ วกัน” ข้ อใดสะท้ อนความเชื อทีตรงกับคําประพันธ์ ข้างต้ น


่ ญบรรพชิตอุทิศให้ เจ้าจงไปสู่ สวรรค์ให้หรรษา 1. พีแบงบุ อันชาติน ีมีกรรมจํานิ รา เมือชาติหน้าขอให้พบประสบกนั ั ษบาโฉมยง เป็ นวงศ์เทวากระยาหงัน 2. อิเหนากบบุ ่ วาสนาเขาเคยคู่กนั ทีจะมิรักนั นอยาสงกา ่ ่ ่ ายากอยูส่ ิ บห้า ถึงห้าชัง พีก็หามาชวยได้ ่ 3. อยาวาแตเจ้ บุญหลังได้สร้างมาปางใด เผอิญให้จาํ เพาะพบประสบนาง 4. เดชะบุญคุณพระมาปะพบ ไมต้่ องรบชิงช่วงดวงสมร ่ กข์ร้อนเลยพระองค์จงสําราญ คงได้คู่สู่ สมสยุมพร อยาทุ ่ อคู่กบเรื ั องของบุญของวาสนา ซึ งตรงกบข้ ั อ2 ตอบ 2 - ข้อความนี สะท้อนวาเนื 89. ‘ถึงพ่ อแม่ เราไซร้ จะให้ ทรั พย์ ก็สําหรั บขาดเหลือช่ วยเกือ หนนุ ย่ อมจะเป็ นแต่ ละเมื/อที/เจือจนุ ไม่ เหมือนทนทางวิ ชาจะหากิน’ ุ ข้ อความนีใ ห้ ความสํ าคัญกับเรืองอะไรมากทีสดุ 1. การดินรนขวนขวายทํามาหากนิ ่ ่ 2. ความกตัญYูต่อพอแม ่ 3. การอานออกเขี ยนได้ 4. การศึกษาหาความรู ้ ่ อนทุนทางวิชาจะหากนิ ” ตอบ 4 - สังเกตจาก “ไมเหมื ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 90 - 91 งามกงวงจักรรั กต์ แดงงามกําสํ/ าแสงงามดมประดั บเพชรพราย ุ 90. ข้ อความนีน ํามาจัดตามรปแบบฉั นทลักษณ์ ทถกต้ ี ู องได้ อย่ างไร ู 1. งามกงวงจักร รักต์แดงงามกาํ สําแสงงามดุม ประดับเพชรพราย ํ า แสงงามดุมประดับ เพชรพราย 2. งามกงวงจักรรักต์ แดงงาม กาสํ ํ าแสง งามดุมประดับเพชรพราย 3. งามกงวงจักรรัตน์แดง งามกาสํ ํ าแสง งามดุมประดับเพชรพราย 4. งามกงวงจักรรักต์ แดงงามกาสํ ตอบ 3 - ข้อความทียกมาเป็ นฉันทลักษณ์แบบ “กาพย์ฉบัง 16” 91. คําประพันธ์ บทนีก ล่ าวถึงอะไร 1. ความงามของม้าทรง


2. 3. 4. ตอบ

ความงามของช้างทรง ความงามของรถทรง ความงามของบัลลังก์ 3 - สังเกตจาก “กง” (วงล้อรถ)

92. ดทํู านองนางในไกวชิ งช้ า ดังสี ดาผกคอที โ/ รงโขน ู เถาวัลย์ เปราะเคราะห์ ร้ายพอสายโยน ก็ขาดโหนลงในนํ าเสี ยงตํ าโครม คําประพันธ์ ข้างต้ นนีแสดงความร้ ู สึกของกวีในด้ านใด 1. ขบขันแกมสงสาร 2. สมเพชแกมรําคาญ 3. หมัน ไส้แกมขบขัน 4. สงสารแกมหมัน ไส้ ตอบ 3 93. ข้ อใดให้ ความร้ ูสึกสั งเวชใจ 1. เสี ยงปื นทีดงั ลัน ตัวแมนั่ นต้องสิ นใจ 2. ลูกน้อยทีกอดไว้ กระดอนไปเพราะแรงปื น ้ แมฟื่ น 3. ฝื นใจเข้ากอดแม่ หวังจะแกให้ 4. แมจ๋่ าเพราะเสี ยงปื น จึงไมคื่ นชีวามา ่ าใจ ตอบ 3 - สังเวชใจ คือ นาเศร้ 94. ข้ อใดแฝงความร้ ูสึกน้ อยเนือ ตําใจของกวีเอาไว้ ชัดเจนทีสดุ ่ ่ ดขวาง 1. ถ้ารักใครขอให้ได้คนนั นด้วย บุญคงชวยปฏิ บตั ิอยาขั ่ ้มีโรคาในสารพางค์ ทั งรู ปรางขอให้ ่ ั อยารู ราวกบองค์ อินทร์ 2. พีตนั อกตกยากจากสถาน เห็นอาหารหวนทอดใจใหญหื่ อ ่ นเคี ยวข้าวคําสักกามื ํ อ พอกลืนครื อคอแค้นดังขวากคม คอยขื ่ 3. ทั งหวายตรวนล้วนเครื องทีลาํ บาก ให้ปราศจากทั งคนเขาขมเหง ี ยศปรากฏครัน ครปองร้ายขอให้กายมันเป็ นเอง ให้ครื นเครงเกยรติ ่ 4. ได้เคืองแค้นแสนยากลําบากบอบ ไมสมประกอบทรั พย์สินกขั็ ดสน ิ ่ นกายคน ชือวาจนแล้ ่ ํ ดไกล แม้นกลับชาติเกดใหมเป็ วจงจากกาจั ่ ตอบ 4 - เห็นจาก “ได้เคืองแค้นแสนยากลําบากบอบ ไมสมประกอบ ---“


95. ข้ อใดใช้ วธิ ีการแต่ งโดยใช้ คําความหมายขัดแย้ ง ่ าง มีความมืดทีเวิง ว้างสวางไสว ่ 1. เพราะถินนี มีฟ้ากว้างกวากว้ ่ ง วนและวิง คืนและวันหวัน และไหว 2. สงสารใจ ใจเจ้าเอ๋ ยไมเคยนิ ่ ขณะดีและร้ายปนไมผิ่ ดกะคน ๆ คุณโทษประโยชน์ถม 3. ราตรี ก็แมนมี ั นยินดี นํ าตาปรี เพราะปรี ดา จากกนพลั ั นโศกา นํ าตาไหลใจอาวรณ์ 4. พบกนพลั ่ ตอบ 1 - สังเกตจาก “ความมืด” ที “เวิง ว้างสวางไสว ”

96. ความทียกจากวารีดุริ ยางค์ ทว่ี า “ผีเสือสวยแต้ มสี ทกลี ี บแก้ ม” อาจตีความหมายได้ หลายข้ อ ยกเว้ นข้ อใด 1. ผีเสื อสี สวยมาเกาะดอกไม้ ั เสื อมาแตงแต้ ่ ม 2. ดอกไม้ทีมีสีสันราวกบผี ั ทีแต้มแกมสาว ้ 3. ผีเสื อสี สวยราวกบสี ่ ม สี สันให้ดอกไม้ 4. ผีเสื อสวยชวยเพิ ตอบ 3

97. ข้ อใดทีผ้ ูเขียนเจตนาจะให้ ผู้อ่านเกิดความร้ ูสึกว่ าโชคดีและภมิู ใจทีเกิดเป็ นคนไทย ่ วหลับใหลลุ่มหลง 1. ตืนเถิดชาวไทย อยามั ็ ชาติจะเรื องดํารง กเพราะเราทั งหลาย 2. ใครรานใครรุ กด้าว แดนไทย ไทยรบจนสุ ดใจ ขาดดิน 3. หากสยามพินาศลง เราอยู่ ได้ฤา ็ อนมอดม้วย หมดสิ นสกุลไทย เรากเหมื ่ ิ 4. เปิ ดมานและมองเถิ ด จะเกดความประโมทย์ ใจ เห็นแคว้น ณ แดนไทย ประเสริ ฐแสนดัง แดนสรวง ตอบ 4 - สังเกตจาก “แดนไทยประเสริ ฐแสนดัง แดนสรวง”


ให้ ใช้ ข้อความต่ อไปนีต อบคําถามข้ อ 98 - 99 ถ้ าจะมีสองมือไว้ ถอื สาก อย่ าอายหากปากจะดื อว่ าถือศีล และถ้ ามีหัวใจไว้ ป่ายปี น จงมีตีนไว้ เพือ/ จะกระทืบคน 98. หากความในคําประพันธ์ บาทแรกเขียนขึน จากแรงบันดาลใจในสํ านวนว่ า “มือถือสาก ปากถือศีล” แล้ วใน บาทสองควรเป็ นสํ านวนใด 1. ปั ดแข้งปั ดขา 2. ถีบหัวสง่ 3. เหยียบจมธรณี ่ นหาเสี ยน 4. แกวงตี ่ ๆ เพือไมให้ ่ อีกฝ่ ายเจริ ญกาวหน้ ้ ตอบ 1 - ปั ดแข้งปั ดขา หมายถึง ขัดขวางด้วยวิธีการตาง าหรื อได้ดีกวา่ 99. เจตนาของผ้ เู ขียนคือข้ อใด 1. แนะนําการอยูร่ อดในสังคม 2. ประชดคนบางจําพวกในสังคม 3. เสนอวิธีเอาตัวรอดจากคนบางจําพวกในสังคม 4. ระบายความขุ่นเคืองคนบางจําพวกในสังคม ตอบ 2 100. เวลาคํ/าเสด็จมาถึงวังมักตรงไปเฝ้ าพระมารดาก่ อน แล้ วจึงเสวยและพักผ่ อนสํ าราญพระทัย เช่ น ทรงเล่ นปี/ พาทย์ ทรงพระนิพนธ์ บทร้ องเพลง ถึงเวลาสมควรเข้ าห้ องทรงพระอักษร ทรงทํางานใน ราชการแผ่ นดินทีค/ ้ างมา ข้ อความข้ างต้ นแสดงค่ านิยมสั งคมไทยทีสํ าคัญทีสดตามข้ อใด ุ ่ 1. ในการเลนดนตรี ไทย ่ าทีการงาน 2. ในการอุทิศตนให้แกหน้ ่ 3. ในการแสดงความเคารพและหวงใยบุ พการี ่ ่ 4. ในการแบงเวลาทํ างานและพักผอนตามควร ตอบ 3

ข้อสอบวิชาภาษาไทย 100 ข้อ 1

Recommend Documents