FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขั้นสูง
© สงวนลิขสิทธิ์ ข้อความส่วนใดส่วนหนึ่งของเอกสารนี้ไม่อนุญาตให้ทําซ้ํา จัดเก็บหรือส่งต่อในรูปแบบใดหรือโดยวิธีใดๆ ไม่ว่าโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องถ่ายเอกสาร, บันทึกหรืออื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร เอกสารนี้ ไม่อนุญาตให้จัดจําหน่ายโดยวิธีการทางการค้าในรูปแบบของผลผูกพันใดๆ ในการที่จะมีการเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอม เป็นลายลักษณ์อักษร ความรับผิดชอบในการสูญเสีย เอกสารนี้ไม่มีความผูกพันต่อกรณีอันเกิดจากการสูญเสียของบุคคลใดๆ อันเกิดจากการซื้อขาย Forex ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการอ่านเนื้อหาในเอกสารนี้ ดังนั้นผู้อ่านจะต้องรับความเสี่ยงในการลงทุนด้วยตนเอง 0
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
FOREWORD ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมได้เฝ้าศึกษา การเคลื่อนไหวของราคา การกลับตัวของกราฟ รูปแบบทาง เทคนิ ค อย่ า งมากมาย รวมไปถึ ง การศึ ก ษาปั จ จั ย พื้ น ฐาน ซึ่ ง ก็ ต้ อ งยอมรั บ ครั บ ว่ า มี ค วามสลั บ ซั บ ซ้ อ นมาก การศึกษาในเรื่อ งดังกล่าวไม่ ใช่เรื่อ งง่า ยเลย ปั ญหาสําคัญที่ผมพบคือการขาดแหล่ งรวมเนื้ อหาที่เป็ นอันหนึ่ ง อันเดียวกัน ส่งผลให้ขาดการต่อยอด อันเป็นปัญหาสําคัญในการประสบความสําเร็จในตลาด เมื่อขาดการต่อยอด ส่งผลให้ไม่มีวิทยาการใหม่ๆ เกิดขึ้น จึงเป็นผลเสียที่ผมมองว่าสําคัญมาก แม้ว่าผมจะไม่ได้มีความสามารถมากนัก แต่ผมเชื่อเสมอว่า ขั้นตอนแรกของการประสบความสําเร็จในตลาด จะต้องรวบรวมวิทยาการที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้ เป็ นหนึ่ งเดีย วกั น เสี ยก่ อ น นั ก ลงทุน ไม่ ส ามารถปฏิเสธความสัม พั น ธ์ ร ะหว่ า งบุ ค คลอื่ น เพราะนั่ นหมายถึ ง การไม่เปิดรับวิทยาการใหม่ๆ ดังนั้นผมจึงเข้าร่วมกลุ่มเพื่อเรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า การแบ่งปัน จะส่งผลทําให้เกิดการประสบความสําเร็จในตลาดอย่างแน่นอน เพราะจะทําให้เกิดการต่อยอดทางความคิดได้ ไม่จํากัด อันเป็นปัจจัยสําคัญไปสู่การประสบความสําเร็จร่วมกันของนักลงทุน ผมหวังว่า E-Book จํานวน 2 เล่มนี้ จะสามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้ไม่มากก็น้อย ด้วยการรวบรวม ข้อมูลมาในระยะเวลาหนึ่ง ผมเชื่อว่านักลงทุนจะได้สานต่อข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวของนักลงทุนเอง ผมถือโอกาสแจกจ่ายเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสวันครบรอบอายุ 23 ปีบริบูรณ์ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผมขออภัยมา ณ ที่นี้
Mr. Tanagool Kasemchoke ผู้จัดทํา
1
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
CONTENT 1
HARMONIC TRADING
2
CANDLESTICK PATTERN
11
3
CHART PATTERN
17
4
FIBONACCI
27
5
ANATOMY
34
6
ELLIOTT WAVE
42
7
WOLFE WAVE
50
8
DIVERGENCE
55
9
VOLUME
60
10
RISK MANAGEMENT
63
11
TRENDLINE
66
4
2
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
CONTENT 12
SWING TRADING
72
13
SCALPING TRADING
75
14
SNIPER TRADING
79
15
PSYCHOLOGY OF INVESTING
82
3
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 1 HARMONIC TRADING
4
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Harmonic คืออะไร Harmonic เป็นวิธีการที่ใช้รูปแบบการรับรู้ของราคาที่เฉพาะเจาะจงประยุกต์กับตัวเลข Fibonacci เพื่อตรวจสอบ ความถูกต้องของกราฟ โดยใช้ความน่าจะเป็นเพื่อคํานวณหาจุดพลิกกลับในกราฟ โดยสามารถอนุมานได้ว่ารูปแบบ กราฟเช่นเดียวกันหลายรูปแบบนั้น ในสักครั้งหนึ่งจะต้องวนรอบในตัวเอง และนํารูปแบบเหล่านี้มาหาค่าจุดเข้า หรือออกจาก Position โดยอาศัยความน่าจะเป็นที่การเคลื่อนไหวของราคารูปแบบเดียวกันที่เคยเกิดขึ้นมา ก่อนหน้านี้ แม้ว่ารูปแบบเหล่านี้จะไม่ถูกต้อง 100% แต่ก็ทําให้สามารถค้นพบโอกาสในการเปิด Position กับความเสี่ยงที่ ลดน้อยลงมาก หลั กการสําคัญของวิธีการนี้คือ ระยะเวลาของคลื่นที่อยู่ใ กล้เคียงในการเคลื่อนไหวของราคา มีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับกราฟลําดับถัดมาเป็นจํานวนมาก ทั้งโดยขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ในการเชื่อมโยง แนวคิดที่จะสามารถเข้าใจว่าคลื่นราคาหรือการเคลื่อนไหวราคาที่แตกต่างกันมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างไร จะต้องนําตัวเลข Fibonacci มาคํานวณหาค่าอีกครั้ง รูปแบบความสัมพันธ์เหล่านี้ใช้ในการตรวจสอบที่จุดเปลี่ยนที่ อาจจะเกิดขึ้น เมื่อเหล่านี้จุดเปลี่ยนจะมีการระบุค่าอย่างถูกต้องและแม่นยําจะสามารถเข้า Position ในระดับ ราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญ โดยอ้างอิงค่าตัวเลขจาก Fibonacci Harmonic เป็นรูปแบบที่สําคัญในการวิเคราะห์ทิศทางของกราฟ ในกราฟที่มี Timeframe ขนาดเล็กไม่สามารถ ทําให้ทิศทางชัดเจนได้เท่ากับ H4 ขึ้นไป ดังนั้น หากเป็น Position ที่ถูกเปิดโดยจากสถาบันการเงินแล้ว แทบจะไม่มีข้อสงสัยเลยว่า เหตุใดนักลงทุนจํานวนมากจึงนิยมเทรดโดยใช้ Timeframe ตั้งแต่ H4 ขึ้นไป
5
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Invalid Harmonic Setups กราฟมั กจะให้ เบาะแสในการกํ า หนดราคาในอนาคตเสมอ แต่อ ย่ างไรก็ ตามทุก อย่างที่น อกเหนือ ไปจากการ คาดการณ์อาจเกิดขึ้นในตลาดได้ตลอดเวลา การเคลื่อนไหวของราคาที่ให้สัญญาณตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่ คาดการณ์มักจะให้สัญญาณเพื่อบ่งชี้ถึงลักษณะการเกิดข้อบกพร่อง ซึ่งต้องให้ความสําคัญในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ข้อพิจารณาที่สําคัญที่สุดเมื่อมีสัญญาณเตือนเหล่านี้คือการเคลื่อนไหวของราคาหลังจากที่เข้าสู่ Potential Reversal Zone ที่อาจเกิดขึ้น ราคาอาจจะกลับตัวได้แม้จะมีสัญญาณเตือนดังกล่าว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสําคัญที่ จะต้องรอให้ตลาดยืนยันทิศทางราคาอีกครั้งเสียก่อน - Blowouts การเคลื่อนไหวของราคารูปแบบดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ Potential Reversal Zone ที่มีศักยภาพถูกราคาทะลุผ่าน อย่างสมบูรณ์ การกลับตัวของกราฟควรจะเกิดขึ้นได้ แต่ช่วงราคากลับมีขนาดใหญ่ผิดปกติ เพราะความถี่สัญญาณ เตือนเหล่านี้เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อพบข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นและเป็นตัวชี้วัดที่เชื่อถือได้ของการกลับตัวที่ไม่ถูกต้องนัก สถานการณ์เหล่านี้ให้เบาะแสของการตามทิศทางเดิมของกราฟต่อไป เมื่อพบสัญญาณเตือนนี้จัดเป็นสัญญาณ ที่ชัดเจนว่า Potential Reversal Zone ดังกล่าวไม่ได้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้า Position แม้ว่าจะส่งสัญญาณ ข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นแล้ว กราฟควรจะแสดงชนิดของการตามทิศทางเดิมของกราฟ เพื่อยืนยันการเคลื่อนไหว ของราคาอีกครั้ง - Gaps ช่องว่างราคาที่จะเกิดขึ้นใน Potential Reversal Zone จะมีความสําคัญมาก ช่องว่างที่เกิดขึ้นเมื่อการเคลื่อนไหว ของราคากระโดดก่อนแท่งเทียนหน้านี้จะไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้น ช่องว่างของราคาใน Potential Reversal Zone ที่อาจเกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าการเซ็ตตัวของกราฟที่จะได้รับการวิเคราะห์นั้น จะต้องกระทําด้วยความระมัดระวัง เพราะเป็นสิ่งสําคัญเนื่องจากช่องว่างราคาที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญเกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อราคา - Tail Closes บาร์ที่ราคาปิดทั้งสูงหรือต่ําแต่กลับไม่มีหางแท่งเทียน เมื่อหางของแท่งเทียนใกล้เกิดขึ้น หลังจากผ่าน Potential Reversal Zone ไม่สมควรที่จะเข้ามาวุ่นวายมากนัก แต่หากมีความจําเป็นอาจจะต้องความระมัดระวังสูงมาก กราฟที่ราคาปิดที่สูงหรือต่ําจะแสดงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่ง การเคลื่อนไหวของราคานี้แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ ของนักลงทุนในกราฟนั้น จะมีความคิด มาในทิศทางเดียวกัน เพื่ อรอสัญญาณการกลับตั วที่ เห็ นได้ชัดเจนกว่ า ในสถานการณ์เช่นนี้เพราะความแข็งแรงของการเคลื่อนไหวของราคามีมาก
6
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Extreme Price Ranges แท่งเทียนแบบ Tower สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งมาก การกระทําดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดปกติ ที่ ค วรจะให้ ค วามสนใจ วิ ธี ห นึ่ ง ที่ จ ะตรวจสอบว่ า ช่ ว งราคาได้ เ ป็ น อย่ า งดี คื อ การเปรี ย บเที ย บกั บ ช่ ว งเฉลี่ ย ถ้าราคามากกว่าหนึ่งเท่าครึ่ง ช่วงเฉลี่ยของราคาจะได้รับการพิจารณาจากนักลงทุนมาก แต่ก็ไม่จําเป็นที่จะคํานวณ เปรียบเทียบเช่นนี้เพราะช่วงราคาที่รุนแรงควรจะชัดเจนในทางปฏิบัติอยู่แล้ว แม้ว่าช่วงราคาที่รุนแรงส่งสัญญาณ ข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น ในความเป็นจริงช่วงราคาที่รุนแรงบ่อยครั้งสามารถบ่งบอกถึงสถานะของความอ่อนแรง ของราคาได้เช่นกัน แต่สถานะดังกล่าวจะต้องได้รับการยืนยันจากการเคลื่อนไหวของราคาเช่น หากช่วงราคามาก สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนทิศทาง แท่งเทียนต่อไปไม่ควรดําเนินการต่อไปในทิศทางเดียวกัน เป็นต้น
7
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Harmonic Pattern ในการเคลื่อ นไหวของราคาในรู ปแบบ Harmonic ราคาได้ มีการเคลื่อนไหวเป็ นรูปแบบเดิม อย่า งน่าอัศจรรย์ นักลงทุนได้มีการจดบันทึกลักษณะดังกล่าวสืบต่อกันมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน รูปแบบเหล่านี้เป็นรูปแบบที่นักลงทุน ควรทราบเพื่อเพิ่มโอกาสในการทํากําไรให้กับนักลงทุน AB=CD เป็นรูปแบบ Harmonic ยอดนิยมที่อาศัยขนาดความยาวของเส้น AB=CD หรือมีค่าใกล้เคียงกันเสมอ เป้าหมาย ในการคาดหวังการทํากําไรอยู่ที่ระดับ 161.8%
Butterfly รู ป แบบการเคลื่ อ นที่ ข องราคามี ลั ก ษณะคล้ า ยกั บ ผี เ สื้ อ แต่ ล ะจุ ด ของปี ก ผี เ สื้ อ คื อ จุ ด กลั บ ของราคาที่ สํ า คั ญ เป้าหมายในการคาดหวังการทํากําไรอยู่ที่ระดับ 127.2%
8
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Crab รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคามีลักษณะคล้ายกับปู เกิดขึ้นใน Potential Reversal Zone จุดกลับตัวแต่ละจุด ของรูปแบบดังกล่าวจะสอดคล้องกันเสมอ เป้าหมายในการคาดหวังการทํากําไรอยู่ที่ระดับ 161.8%
Shark รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคามีลักษณะคล้ายกับปลาฉลาม อาศัยค่าการแกว่งของราคามากผิดปกติ เป้าหมาย ในการคาดหวังการทํากําไรอยู่ที่ระดับ 113%
9
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Bat รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคามีลักษณะคล้ายกับค้างคาว เป็นหนึ่งในรูปแบบ Harmonic ที่พบบ่อยที่สุด เป้าหมาย ในการคาดหวังการทํากําไรอยู่ที่ระดับ 88.6%
Gartley รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาที่ประกอบด้วย 5 จุด Pivot Point ที่สําคัญ เป็นรูปแบบที่มีลักษณะใกล้ชิดกับ ลําดับ Fibonacci มีการใช้อัตราการแกว่งในการเคลื่อนไหวในการสร้างรูปแบบขึ้นมา เป้าหมายในการคาดหวัง การทํากําไรอยู่ที่ระดับ 78.6%
10
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 2 CANDLESTICK PATTERN
11
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Japanese Candlesticks กราฟแท่งเทียนแสดงให้เห็นถึงการก่อตัวของราคาในลักษณะของบาร์ ก่อเกิดเป็นราคาในลักษณะที่ชัดเจนมาก กราฟแท่ ง เทีย นญี่ ปุ่ นมี ก ารใช้ ม านานหลายศตวรรษ จั ด เป็ น รู ป แบบที่ น่ าสนใจของการวิ เ คราะห์ ท างเทคนิ ค แท่งเทียนทั่วไปก็แบ่งออกเป็น Bullish Candlesticks และ Bearish Candlesticks แท่งเทียนอื่นๆ ที่ มี ค วามสํ า คั ญ มากต่ อ กราฟที่ อ าจเกิ ด การกลั บ ตั ว เกิ ด ขึ้ น มี ข้ อ บ่ ง ชี้ ที่ แ ข็ ง แกร่ ง อย่ า งมากต่ อ กราฟได้ แ ก่ Doji Candlesticks ซึ่งจะมีรูปแบบแตกต่างกันออกไป
Bullish Candlesticks และ Bearish Candlesticks
ภาพแสดงการเกิดช่องว่างระหว่างราคา (Gap)
12
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การกลับตัวของ Japanese Candlesticks - Doji Candlesticks, Dragonfly Doji และ Gravestone Doji
Doji Candlesticks, Dragonfly Doji และ Gravestone Doji Doji เป็นสัญญาณการพลิกกลับที่ราคาเปิดและราคาปิดอยู่ที่เดียวกันหรือใกล้ราคาเดียวกัน Doji เป็นสัญญาณ เตือนการพลิกกลับที่อยู่ระหว่างดําเนินการสะสมพลัง โปรดใช้ความระมัดระวังใน Doji เพราะต้องยืนยันด้วย แท่งเทียนก่อนที่จะเปิดการซื้อขายใดๆ Dragonfly Doji ให้สัญญาณการกลับตัวที่แรงกว่า Hammer และ Gravestone Doji ให้สัญญาณการกลับตัวที่แรงกว่า Shooting Star - Spinning Top
Spinning Top Spinning Top เป็นรูปแบบการกลับตัวที่แข็งแรงที่สุดในกลุ่ม Candlestick Pattern การกลับตัวที่มีลําตัว ไม่ยาวมากนัก สามารถบอกทิศทางตลาดได้เป็นอย่างดีโดยดูจากสีแท่งเทียน
13
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Hammer
Hammer Hammer แท่ งเทีย นแท่ งเดี ย วอยู่ ใ ต้ สุ ด ของระดั บราคา รู ป แบบดั งกล่าวเป็ นการกลั บตั วที่ เกิ ด ขึ้ น ล่ างสุ ด ของ แนวโน้ม ส่วนใหญ่นิยมใช้ Hammer ในการตรวจสอบการปรับฐานของราคา Hammer ให้สัญญาณ Bullish - Inverted Hammer
Inverted Hammer Inverted Hammer แท่งเทียนแท่งเดียวอยู่ใต้สุดของระดับราคา รูปแบบดังกล่าวเป็นการกลับตัวที่เกิดขึ้นล่างสุด ของแนวโน้มเช่นเดียวกับ Hammer และให้สัญญาณ Bullish
14
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Shooting Star และ Shooting Star with Spinning Top
Shooting Star และ Shooting Star with Spinning Top Shooting Star และ Shooting Star with Spinning Top แท่งเทียนแท่งเดียวอยู่สูงสุดของระดับราคา รูปแบบดังกล่าวเป็นการกลับตัวที่เกิดขึ้นบนสุดของแนวโน้ม ส่วนใหญ่นิยมใช้ Shooting Star ในการตรวจสอบ การปรับฐานของราคา Shooting Star ให้สัญญาณ Bearish ในขณะที่ Shooting Star with Spinning Top ให้สัญญาณการกลับตัวแรงกว่าปกติ - Bullish Engulfing และ Bearish Engulfing
Bullish Engulfing และ Bearish Engulfing สําหรับ Bullish Engulfing แนวโน้มจะต้องชัดเจน เทียนแรกคือสีของแนวโน้มในระยะสั้น (ลดลง) หรือ Doji เทียนที่สองเป็นสีของการกลับตัว (สูงสุด) แท่งเทียนสองมีความยาวกว่าลําตัวแท่งเทียนแรก โดยไม่สนใจไส้เทียน สัญญาณจะยิ่งแข็งแกร่งเมื่อกลืนกินความยาวของ 2 หรือ 3 แท่งเทียนก่อนหน้านี้ได้สําเร็จ สําหรับ Bearish Engulfing แนวโน้มจะต้องชัดเจน เทียนแรกคือสีของแนวโน้มในระยะสั้น (ขึ้นไป) หรือ Doji เทียนที่สองคือสีของการกลับตัว (ต่ําสุด) แท่งเทียนสองมีความยาวกว่าลําตัวแท่งเทียนแรก โดยไม่สนใจไส้เทียน สัญญาณจะยิ่งแข็งแกร่งเมื่อกลืนกินความยาวของ 2 หรือ 3 แท่งเทียนก่อนหน้านี้ได้สําเร็จ
15
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Tweezer Top และ Tweezer Bottom
Tweezer Top และ Tweezer Bottom สําหรับ Tweezer Top และ Tweezer Bottom แท่งเทียน 2 แท่งเทียนที่มีราคาปิดของแท่งเทียนที่ 1 เท่ากับ ราคาเปิดของแท่งเทียนที่ 2 หรือ Doji แตกต่างกันเพียงทิศทางเท่านั้น Tweezer Top ให้สัญญาณ Bearish ในขณะที่ Tweezer Bottom ให้สัญญาณ Bullish สัญญาณกลับตัวทั้ง 2 รูปแบบนี้ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ - Morning Star และ Evening Star
Morning Star และ Evening Star สําหรับ Morning Star เป็นรูปแบบการกลับตัวที่ประกอบไปด้วย 3 แท่งเทียน แท่งเทียนแรกคือลําตัวแท่งเทียน สีแดงลําตัวยาว แท่งเทียนที่สองคือแท่งเทียนขนาดเล็ก (สีเขียว, สีแดงหรือ Doji ก็ได้) ที่ราคาเปิดจะต้อง เกิ ด การกระโดดลงไปเปิ ด และสู ง ขึ้ น มา และแท่ ง เที ย นที่ ส ามเป็ น เที ย นสี เ ขี ย วยาวที่ ปิ ด สู ง กว่ า 50% ของ แท่งเทียนแรก Morning Star ให้สัญญาณ Bullish สําหรับ Evening Star เป็นรูปแบบการกลับตัวที่ประกอบไปด้วย 3 แท่งเทียน แท่งเทียนแรกคือลําตัวแท่งเทียน สีเขียวลําตัวยาว แท่งเทียนที่สองคือแท่งเทียนขนาดเล็ก (สีเขียว, สีแดงหรือ Doji ก็ได้) ที่ราคาเปิดจะต้อง เกิ ด การกระโดดขึ้ น ไปเปิ ด และต่ํ า ลงมา และแท่ ง เที ย นที่ ส ามเป็ น เที ย นสี แ ดงยาวที่ ปิ ด ต่ํ า กว่ า 50% ของ แท่งเทียนแรก Evening Star ให้สัญญาณ Bearish 16
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 3 CHART PATTERN
17
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Chart Patterns รูปแบบกราฟที่เกิดขึ้นในการซื้อขาย ช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์ทิศทางที่น่าจะเป็นของคู่สกุลเงินที่มีแนวโน้ม ที่จะเคลื่อนไหว การใช้งาน Chart Pattern จําเป็นจะต้องใช้ควบคู่ไปกับ Japanese Candlesticks เนื่องจาก Japanese Candlesticks ให้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าเชื่อถือ สามารถทําให้ราคาเปลี่ยนทิศทางได้ทันที โดยสามารถแบ่ง ประเภทของ Chart Pattern ได้ 2 ประเภทคือ Reversal Patterns (เปลี่ยนทิศทาง) และ Continuation Patterns (ไม่เปลี่ยนทิศทาง) Reversal Patterns - Rising Wedge
Rising Wedge เป็นรูปแบบการไต่ขึ้นของราคาในกราฟ อันเกิดจากการสูญเสียโมเมนตัมในการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดการปรับตัวลดลงขนาดใหญ่ในภายหลัง - Falling Wedge
Falling Wedge เป็นรูปแบบของราคาในลักษณะลาดชันอย่างต่อเนื่อง แต่ความลาดชันดังกล่าวไม่ชัดเจนนัก จึงเกิดเป็นการปรับตัวของราคาขนาดใหญ่ในภายหลัง 18
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Head and Shoulders
Head And Shoulders เป็นรูปแบบการปรับตัวที่อาศัย Neckline ประกอบไปด้วยส่วนของราคาที่อยู่สูงสุด ตรงกลาง และราคาที่อยู่สูงสุดจะอยู่ต่ํากว่าจุดตรงกลางทั้งทางซ้ายและทางขวา เป็นรูปแบบการกลับตัวของกราฟ ที่พบมากที่สุด - Double Top
Double Top เป็นรูปแบบการปรับตัวที่พบได้ทั่วไปของกราฟ เกิดขึ้นเมื่อกราฟ เพิ่มขึ้นในระยะเวลาหนึ่งและ ปรับลดตัวลง จากนั้นกราฟกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ระยะย่อตัวของกราฟคือระยะความยาวที่ใช้ในการทํากําไร โปรดระวัง Double Top ราคาอาจจะเกิดการทะลุ (Breakout) ได้ ก่อนทําการซื้อขายควรตรวจสอบรูปแบบ ให้แน่ใจอีกครั้งหนึ่ง Double Top ควรมีจุดสูงสุดอยู่ห่างกันสักระยะหนึ่ง เพื่อบ่งบอกถึงความแข็งแรงของ แนวโน้มราคา
19
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Double Bottom
Double Bottom เป็นรูปแบบการกลับตัวในลักษณะคล้ายกับ Double Top ที่สามารถบอกระดับลึกสุดของราคา แนวโน้มดังกล่าวได้ โปรดระวัง Double Bottom ราคาอาจจะเกิดการทะลุ (Breakout) ได้ ก่อนทําการซื้อขาย ควรตรวจสอบรูปแบบให้แน่ใจอีกครั้งหนึ่ง Double Bottom ควรมีจุดสูงสุดอยู่ห่างกันสักระยะหนึ่ง เพื่อบ่งบอกถึง ความแข็งแรงของแนวโน้มราคา Continuation Patterns - Rectangle
Rectangle เป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ราคาจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางเดิม การเคลื่อนไหวของราคาในที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นการสะสมพลังงาน ดังนั้นเมื่อราคาหลุดจากสี่เหลี่ยมผืนผ้าแล้ว จะเกิดการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
20
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Ascending Triangle
Ascending Triangle โดยทั่วไปรูปแบบสามเหลี่ยมจะถือเป็นความต่อเนื่องหรือรูปแบบการควบรวมราคา บางครั้ ง การก่ อ ตั ว โดยการพลิ ก กลั บ ของแนวโน้ ม ในเขตสามเหลี่ ย มสมมาตร ความกว้ า งของสามเหลี่ ย ม จากมากไปน้อยเป็นรูปสามเหลี่ยมในอัตราส่วนเท่าเดิม Ascending Triangle เป็นรูปแบบของ Chart Pattern ที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด เนื่องจากการกําหนดค่า อย่ า งง่ า ยดายประกอบกั บ ความแม่ น ยํ าในระดั บ สู ง เพี ย งกํ าหนดลั ก ษณะของรู ป สามเหลี่ ย มจากความกว้ า ง จากมากไปน้ อ ย ในรู ป แบบของการเพิ่ ม ขึ้ น ของราคาในอั ต ราส่ ว นเท่ า กั น หากการก่ อ ตั ว รู ป แบบนี้ ผิ ด พลาด ไม่ว่าเหตุผลใด จะส่งผลให้แพทเทิร์นไม่สมบูรณ์ทันที รูปแบบนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราคาได้มีการเคลื่อนไหวที่ แข็งแกร่ง ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในเชิงบวก นักลงทุนเชื่อว่าราคาหุ้นที่สูงขึ้นมากมีมุมมองพื้นฐานที่ดี แต่ มี ร าคาแพงเกิ น ไปที่ จ ะรี บ เข้ า ซื้ อ (A) ส่ ว นหนึ่ ง ของนั ก ลงทุ น จะได้ ซื้ อ หุ้ น ในราคาที่ ต่ํ า กว่ า มาก (B) และเทขายออกมาอีกครั้ง (C) นักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้ออีกเมื่อราคาต่ําลงมาเล็กน้อย (D) ก่อนที่จะมีการทะลุผ่าน (Breakout) (E) ปริมาณการเพิ่มขึ้นของ Volume ในจุด A เป็นโอกาสที่ดีสําหรับการออกจาก Position และเข้าช้อนซื้ออีกครั้ง ในจุด B ด้วยความต้องการอย่างแข็งแกร่งราคาจะกระชากสูงขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีการแย่งกันซื้อและขายเชิงรุก นักลงทุ นควรจะปล่ อ ยให้ พวกเขาซื้ อขายไปพลางๆ เพื่ อ รั กษาโอกาสในการทํ ากํ าไรที่ดีกว่ าจะเหมาะสมกว่ า การเข้าไปแข่งขันเชิงรุกดังกล่าว
21
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Descending Triangle
Descending Triangle เช่นเดียวกับ Ascending Triangle แต่เป็นรูปแบบการพลิกกลับของแนวโน้ม Bearish ซึ่งโดยทั่วไปมีรูปแบบขาลงจากมุมมองของเวลาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง สามเหลี่ยมของ Descending Triangle จะต้องมีจุดบรรจบเส้นแนวโน้มของแนวรับและและแนวต้านต่อการก่อตัว ซึ่งช่วยให้รูปร่างของสามเหลี่ยมโดดเด่น ในช่ วงเวลาที่นั ก ลงทุ นไม่ แ น่ใ จว่ าตลาดจะเป็ นทิ ศ ทางใด ความไม่ แ น่ นอนเหล่ า นั้ น จะแสดงออกมาบนกราฟ ถ้าราคาปิดเหนือระดับแนวต้านด้วยเหตุผลใดก็ตามรูปแบบจะไม่ถูกต้อง Descending Triangle กําหนดลักษณะของการก่อตัวเป็นรูปสามเหลี่ยมที่เอียงและมีระดับต่ําสุดเท่ากัน รูปร่างที่เอียงหลังจากช่วงเวลาที่ราคาได้ลดลงอาจจะเป็นผลมาจากข่าวเชิงลบ นักลงทุนระยะยาวมักจะรู้สึกว่า แพทเทิร์นนี้สามารถบอกราคาที่สมเหตุสมผลในการเข้าซื้อขาย Position ได้ เมื่อก่อตัวราคาจะเคลื่อนไหวช้า อย่างมีนัยยะสําคัญ ในความเป็นจริง ความช้านั้นเกิดจากความยับยั้งชั่งใจของนักลงทุนหลายกลุ่มทีไ่ ม่แน่ใจว่าราคา จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด แต่เมื่อการก่อตัวบางส่วนเริ่มสร้างความไม่สมดุลอย่างมากจะถูกปลดปล่อยออกมา และส่งผลถึงราคาในสัปดาห์ต่อมาที่ลดลงตามไปด้วย
- Symmetrical Triangle
Symmetrical Triangle เป็นรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาในกรอบสามเหลี่ยมสมมาตร ที่มีค่าการแกว่งอยู่ภายใน สามเหลี่ ย มสมมาตรนั้ น 75% ของความสู ง ของสามเหลี่ ย มสมมาตรคื อ อั ต รากํ า ไรที่ ค าดหวั ง ของนั ก ลงทุ น รูปแบบการเปิด Position จะต้องตรวจสอบว่าราคาได้ทะลุแนวฝั่งใด ราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางนั้น 22
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Bull Flag
Bull Flag เป็นรูปแบบที่มีปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานอันเป็นปัจจัยบวก Bull Flag เกี่ยวข้องกับ ราคาสองส่วนที่แตกต่างกัน ส่วนของเสาธงอยู่ใกล้แนวตั้งที่มีปริมาณสูงเสาธงมีความยาว อีกส่วนคือการเคลื่อนไหว ของราคาที่อยู่ใน Range ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาจะมีค่า Volume ต่ํากว่าปกติ 4 จุดเป็นอย่างน้อยและฝ่าวงล้อม (Breakout) ได้ในที่สุด ส่วนใหญ่ Bull Flag เกิดขึ้นในช่วงกลางของการเคลื่อนไหวที่มีขนาดใหญ่และยาวมาก จึงพบได้ทั่วไปตั้งแต่กราฟ H4 ขึ้นไป หากกราฟหลุดจาก Range ลงมาปิดด้านล่างแล้ว รูปแบบนี้จะไม่สมบูรณ์ การก่อตัวจะต้องน้อยกว่า 20 ช่วงการซื้อขายในแต่ละระยะเวลา Bull Flag เป็นที่ชื่นชอบในสายเทคนิค เพราะมั กจะนํ า ไปสู่ ก ารเคลื่ อ นไหวของราคาขนาดใหญ่ แ ละคาดการณ์ ไ ด้ เ ช่ น เดี ย วกั บ รู ป แบบต่ อ เนื่ อ งอื่ น ๆ Bull Flag จะเป็นแพทเทิร์นในช่วงกลางของแนวโน้มขนาดใหญ่ ส่ ว นแรกของ Bull Flag เรี ย กว่ า Flagpole ช่ ว งนี้ ร าคาจะขึ้ นสู ง มาก (A) ซึ่ ง หากมองปั จ จั ย พื้ น ฐานจะพบว่ า มีมุมมองเชิงบวก ที่อาจเกิดจากการแปลกใจในตัวเลขทางเศรษฐกิจในเชิงบวก แต่การเปลี่ยนแปลงของราคา จะถูกผู้ถือครองกลุ่มแรกขายทํากําไร ราคาจึงร่วงลงมา (B) ถัดจากนั้นผู้ซื้อใหม่เข้าซื้ออีกครั้ง เกิดเป็นการซื้อ รอบใหม่ที่ส่งราคาขึ้นมาในระดับหนึ่ง (C) และผู้ซื้อรอบใหม่ได้ขายทํากําไรอีกครั้ง (D) หลังจากนั้นจะเกิดเหตุการณ์ ที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซ้ําแบบเดิมอีกครั้งแต่คราวนี้จะมีแรงซื้อมากกว่าเดิม ให้สังเกตจากปริมาณ Volume ในที่สุดจะส่งผลให้ราคาเกิดการทะลุ (Breakout) (E) สําหรับการตั้ง Target ให้นําเอาความยาวของ Flagpole มาวางต่อจากจุด Breakout จะได้ค่า Target ในขณะที่ Stop Loss ให้ตั้งไว้ต่ํากว่า Range ประมาณ 25 จุด
23
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Bear Flag
Bear Flag เป็นรูปแบบที่มีปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานอันเป็นปัจจัยลบ อันเกิดจากตัวเลขทาง เศรษฐกิจที่มีปริมาณอ่อนแอกว่าตามมาด้วยแรงเทขาย เป้าหมายทางเทคนิคคือค่าความสูงของ Flagpole ส่วนแรกของ Bear Flag เรียกว่า Flagpole ช่วงนี้ราคาจะขึ้นต่ํามาก (A) ซึ่งหากมองปัจจัยพื้นฐานจะพบว่า มี มุ ม มองเชิ ง ลบ ที่ อ าจเกิ ด จากการตกใจในตั ว เลขทางเศรษฐกิ จ ในเชิ ง ลบ แต่ ก ารเปลี่ ย นแปลงของราคา จะถูกผู้ถือครองกลุ่มแรกเข้าช้อนซื้อ ราคาจึงเคลื่อนไหว (B) ถัดจากนั้นมีการเทขายอีกครั้ง เกิดเป็นการขาย รอบใหม่ที่ส่งราคาลงมาในระดับหนึ่ง (C) และกลุ่มที่ 2 เข้าช้อนซื้ออีกครั้ง (D) หลังจากนั้นจะเกิดเหตุการณ์ ที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซ้ําแบบเดิมอีกครั้งแต่คราวนี้จะมีแรงซื้อมากกว่าเดิม ให้สังเกตจากปริมาณ Volume ในที่สุดจะส่งผลให้ราคาเกิดการทะลุ (Breakout) (E) สําหรับการตั้ง Target ให้นําเอาความยาวของ Flagpole มาวางต่อจากจุด Breakout จะได้ค่า Target ในขณะที่ Stop Loss ให้ตั้งไว้สูงกว่า Range ประมาณ 25 จุด
24
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Bullish Pennant
Bullish Pennant เป็นรูปแบบการซื้อขายที่มีปริมาณแข็งแกร่งในเชิงบวก อันเกิดจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ติดต่อกันหลายวัน Volume ที่อยู่ในขอบข่ายของแพทเทิร์นจะมีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ Bullish Pennant เกี่ยวข้องกับ ราคาสองส่วนที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับ Bull Flag แต่มีความสมมาตรของสามเหลี่ยม ประกอบด้วย 4 จุด เป็นอย่างน้อยและจุดฝ่าวงล้อม (Breakout) การรวมรูปสามเหลี่ยมในช่วงการก่อตัวของ Bullish Pennant เป็นเรื่องสําคัญอย่างมาก เพราะจะต้องมีความสมมาตร การก่อตัวจะต้องน้อยกว่า 20 ช่วงการซื้อขายในแต่ละ ระยะเวลา ถ้าราคาปิดต่ํากว่าระดับ Range ด้วยเหตุผลใดก็ตามรูปแบบจะไม่ถูกต้องทันที ส่วนแรกของรูปแบบ Bullish Pennant ช่วงนี้ราคาจะขึ้นสูงมาก (A) ซึ่งหากมองปัจจัยพื้นฐานจะพบว่า มีมุมมองเชิงบวก ที่อาจเกิดจากการแปลกใจในตัวเลขทางเศรษฐกิจในเชิงบวก แต่การเปลี่ยนแปลงของราคา จะถูกผู้ถือครองกลุ่มแรกขายทํากําไร ราคาจึงร่วงลงมา (B) แต่ด้วยเกิดการรั่วไหลของข่าว ผู้ซื้อใหม่เข้าซื้ออีกครั้ง และผู้ ซื้อ รอบใหม่ ได้ ขายทํา กํ าไรอีกครั้ง (D) เกิด เป็ นการซื้อ รอบใหม่ที่ ส่ งราคาขึ้ นมาในระดับหนึ่ง (C) หลังจากนั้นจะเกิดเหตุการณ์ ซ้ําแบบเดิมอีกครั้งแต่คราวนี้จะอยู่ภายใต้ความกดดันจากข่าวที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ให้สังเกตจากปริมาณ Volume ที่จะเบาบางลงเรื่อยๆ ต่อมาจะมีแรงซื้อมหาศาลหลังจากคลายความกังวลในข่าว ในที่สุดจะส่งผลให้ราคาเกิดการทะลุ (Breakout) (E) สําหรับการตั้ง Target ให้นําเอาความยาวของ Flagpole มาวางต่อจากจุด Breakout จะได้ค่า Target ในขณะที่ Stop Loss ให้ตั้งไว้ต่ํากว่า Range ประมาณ 25 จุด
25
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง - Bearish Pennant
Bearish Pennant เป็นรูปแบบการซื้อขายที่มีปริมาณแข็งแกร่งในเชิงลบ อันเกิดจากปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอ ติดต่อกันหลายวัน Volume ที่อยู่ในขอบข่ายของแพทเทิร์นจะมีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ Bearish Pennant เกี่ยวข้องกับ ราคาสองส่วนที่แตกต่างกันเช่นเดียวกับ Bear Flag แต่มีความสมมาตรของสามเหลี่ยม ประกอบด้วย 4 จุด เป็นอย่างน้อยและจุดฝ่าวงล้อม (Breakout) การรวมรูปสามเหลี่ยมในช่วงการก่อตัวของ Bearish Pennant เป็นเรื่องสําคัญอย่างมาก เพราะจะต้องมีความสมมาตร การก่อตัวจะต้องน้อยกว่า 20 ช่วงการซื้อขายในแต่ละ ระยะเวลา ถ้าราคาปิดสูงกว่าระดับ Range ด้วยเหตุผลใดก็ตามรูปแบบจะไม่ถูกต้องทันที ส่วนแรกของรูปแบบ Bearish Pennant ช่วงนี้ราคาจะลดลงมาก (A) ซึ่งหากมองปัจจัยพื้นฐานจะพบว่า มี มุ ม มองเชิ ง ลบ ที่ อ าจเกิ ด จากการตกใจในตั ว เลขทางเศรษฐกิ จ ในเชิ ง ลบ แต่ ก ารเปลี่ ย นแปลงของราคา จะถูกผู้ถือครองกลุ่มแรกเข้าช้อนซื้อ ราคาจึงเคลื่อนไหว (B) แต่ด้วยเกิดการรั่วไหลของข่าว จึงมีแรงเทขายอีกครั้ง ส่งผลต่อราคาในระดับหนึ่ง (C) และกลุ่มที่ 2 เข้าช้อนซื้ออีกครั้ง (D) หลังจากนั้นจะเกิดเหตุการณ์ ซ้ําแบบเดิมอีก ครั้งแต่คราวนี้จะอยู่ภายใต้ความกดดันจากข่าวที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ให้สังเกตจากปริมาณ Volume ที่จะเบาบางลง เรื่ อ ยๆ ต่ อ มาจะมี แ รงซื้ อ มหาศาลหลั ง จากคลายความกั ง วลในข่ า วในที่ สุ ด จะส่ ง ผลให้ ร าคาเกิ ด การทะลุ (Breakout) (E) สําหรับการตั้ง Target ให้นําเอาความยาวของ Flagpole มาวางต่อจากจุด Breakout จะได้ค่า Target ในขณะที่ Stop Loss ให้ตั้งไว้ต่ํากว่า Range ประมาณ 25 จุด False Breaks หากราคาไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดไว้ อาจจะเกิดจากรูปแบบล้มเหลว อย่างไรก็ตามนักลงทุนสามารถ กลับสถานะ Position ให้ตรงข้ามได้เพื่อคงโอกาสในการทํากําไร สําหรับ Breakout ที่ผิดพลาดมักเกิดขึ้นเมื่อราคา ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวสักระยะหนึ่งและเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทิศทางตรงข้าม โดยย้อนกลับผิดจาก รูปแบบโดยไม่คาดคิด ลักษณะเช่นนี้สามารถแก้ไขได้โดยการใช้ลําดับ Fibonacci มาคํานวณแนวรับและแนวต้าน
26
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 4 FIBONACCI
27
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง ผู้ค้นพบ Fibonacci คือเลโอนาร์โด เดอ ปิซา (Leonardo Fibonacci) Fibonacci เป็นลําดับของตัวเลขที่กําหนด โดยสมการเชิงเส้นที่เกิดขึ้นซ้ําอีกครั้ง ดังสมการ Fn = Fn-1 + Fn-2 Fibonacci Ratio Series การเรียงตัวของ Series ในลําดับ Fibonacci โดยปกติจัดเรียงได้ค่า 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233, 377, 610 ไปเรื่อยๆ โดยมีวิธีการคํานวณค่าดังกล่าวออกมาดังนี้ 0 + 1 = 1, 1 + 1 = 2, 1 + 2 = 3, 2 + 3 = 5, 3 + 5 = 8, 5 + 8 = 13, 8 + 13 = 2, 13 + 21 = 34, 21 + 34 = 55, 34 + 55 = 89, 55 + 89 = 144, 89 + 144 = 233 คํานวณเช่นนี้ไปเรื่อยๆ แต่ที่น่ามหัศจรรย์คืออัตราส่วน Golden Ratio Retreat ซึ่ งเมื่ อ นํ าลํ า ดับ Fibonacci ตั วหน้ามาหารด้ วยตั วหลั งจะพบว่ า มีค่าประมาณ 0.618 โดยเฉพาะค่ า ที่เกิดจากการหาร 34 / 55 = 0.618181818, 89 / 144 = 0.618055555 และ 233 / 377 = 0.6180371353 เป็นค่าที่ควรให้ความสําคัญพิเศษในเรื่อง Golden Ratio Retreat การนําลําดับ Fibonacci ไปประยุกต์ใช้งานในโปรแกรม MetaTrader 4 ในโปรแกรม MetaTrader 4 มีรูปแบบ Fibonacci หลากหลายให้นักลงทุนเลือกสรร หลังจากวาด Fibonacci ในกราฟเป็นครั้งแรกจะต้องแน่ใจว่าได้วาด Fibonacci ลงไปบนแนวรับหรือแนวต้านที่ถูกต้องแล้ว เมื่อวาดลําดับ Fibonacci โดยใช้เครื่องมือที่ต้องการแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ควรมีค่า -1, -0.618, -0.382, -0.272, 0, 0.236, 0.382 0.5, 0.618, 0.764 และ 1 นักลงทุนสามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าของลําดับ Fibonacci ได้โดยการคลิกขวา เลือก Objects List สามารถใช้ปุ่มลัด Ctrl + B แทนได้ หลังจากนั้นเลือก Fibonacci และใส่รายละเอียด ที่นักลงทุนต้องการ สามารถเพิ่มหรือลดลําดับ Fibonacci ได้ตามที่ต้องการ ลําดับ Fibonacci หลักคือวิธีการที่สําคัญที่จะคํานวณการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างถูกต้องและระบุโอกาส ในการเปิ ด Position ที่ มี ศั กยภาพ ตัวเลขเหล่ านี้ส ามารถใช้ ในการกํ าหนดรู ปแบบการเป็ น Harmonic ตัวเลขหลักประกอบด้วย 0.618, 0.786, 1.27, 1.618 ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสําหรับการระบุโอกาส ในการเปิด Position ที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้กราฟจะต้องพิจารณาสอดคล้องกัน เมื่อการเคลื่อนไหวของราคาตีกลับ จากตัวเลขเหล่านี้ การมาถึงของราคาอาจสอดคล้องกันมากขึ้นในอนาคต
28
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Fibonacci Basics หลักการใช้งานลําดับ Fibonacci ให้นักลงทุนมองหาจุด Swing High และ Swing Low ถัดจากนั้นให้ลากเส้น Fibonacci จากจุด Swing High และ Swing Low ในภาพเป็นการลากเส้น Fibonacci โดยใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement หลักการวาดเส้น Fibonacci คือการสังเกตการแกว่งตัวในระดับสูงและแกว่งตัว ในระดับต่ําในรูปแบบก่อนที่จะวาดเส้น Fibonacci สําหรับ Swing High และ Swing Low จะต้องตามด้วย Uptrend หรือ Downtrend เสมอ
หลักการประยุกต์ใช้ Golden Ratio Retreat สํ า หรั บ การใช้ ง านฟั ง ก์ ชั่ น นี้ จ ะต้ อ งวาดเส้ น Fibonacci ขึ้ น มาก่ อ น จากนั้ น จะปรากฏเส้ น ลํ า ดั บ Fibonacci ที่มีค่า 23.6, 38.2, 50.0, 61.8 และ 100 จากภาพด้านบน โปรดสังเกตการเคลื่อนที่ขาลงดังกล่าวข้างต้น 50% ใน Fibonacci Retracement แต่ราคาไม่ได้ปิดใต้ 61.8 ซึ่งเป็น Golden Ratio Retreat ที่สําคัญ ให้มองรูปแบบ กราฟสําหรับการกลับขึ้นไปที่ระดับ 38.2 โดยทั่วไปแล้ว 61.8 ได้รับการยอมรับให้เป็นจุดให้สัญญาณเทรดสําหรับ ทิศทางที่ถูกต้อง เมื่อราคากลับมาที่ 38.2 จะเป็นจุดพิจารณาสําคัญว่าควรจะถือครอง Position ต่อไปอีกหรือไม่ ในสภาวะ Bullish ทําเช่นเดียวกับวิธีการข้างต้นเพียงแต่สลับข้างเท่านั้น กลไกสําคัญของ Golden Ratio Retreat ขณะที่ราคาตีกลับออกจาก 0.618 Golden Ratio Retreat ที่เป็นไปได้คือการกลับลงไปที่ระดับ 0.382 โดยระดับ 0.382 เป็นระดับแรกของที่ราคาจะวิ่งเข้ามา หากราคาวิ่งมาแรงเกินไปอาจหลุดจากระดับ 0.382 ไปที่ 0.236 หากไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เป็นไปได้ที่ราคาจะวิ่งไป 1 แต่ถ้าหากหลุดจากระดับ 0.236 แล้วราคา จะกลับไปที่ 0 ระดับเหล่านี้เป็นระดับที่มีศักยภาพที่ดีในการพิจารณาเข้าออกจาก Position หัวใจสําคัญคือ 0.618 29
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง The Divine Proportion Wiggle (DPW) รูปแบบของลําดับ Fibonacci สามารถใช้เป็นจุดกลับตัวของราคาได้ ในส่วนนี้จะกล่าวถึงวิธีการทํากําไรโดยใช้ อัตราส่วน The Divine Proportion Wiggle ในขั้นแรกจะต้องวาดเส้น Fibonacci ขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นรอให้ ราคาเคลื่อ นไหวมายั ง 0 เมื่อ ราคาเคลื่ อ นไหวมาถึ งจุ ด นี้ แ ล้ วราคาจะทํ า ปฏิ กิ ริยาได้ 2 แนวทางคื อ ถ้าราคา เปลี่ยนทิศทางในเส้น 0 ราคาจะวิ่งกลับไป 38.2 อีกครั้ง กับอีกแนวทางหนึ่งคือราคาทะลุเส้น 0 และเคลื่อนไหวไป -23.6 ให้มองหา -27.2 หากไม่มีให้สร้างขึ้นมาโดยการคลิกขวาเลือก Objects List สามารถใช้ปุ่มลัด Ctrl + B แทนได้ หลังจากนั้นเลือก Fibonacci และใส่รายละเอียดที่นักลงทุนต้องการ สามารถเพิ่มหรือลดลําดับ Fibonacci ได้ตามที่ต้องการ สําหรับ -27.2 เป็นจุดสําคัญที่ควรออกจาก Position เนื่องจากราคาจะกลับตัวที่จุดนี้ หากไม่ได้กลับตัวและยังคงทะลุผ่าน -23.6 ไปแล้ว -38.2 และ -61.8 จะเป็นจุดกลับตัวถัดไป
Fibonacci Thrust รูปแบบของลําดับ Fibonacci สามารถใช้เป็นจุดกลับตัวของราคาได้ ในส่วนนี้จะกล่าวถึงวิธีการทํากําไรโดยใช้ อัตราส่วน Fibonacci Thrust Fibonacci Thrust แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ 1. Clean Thrust แท่งเทียนส่วนใหญ่เปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว จัดเป็นรูปแบบที่แข็งแรงทีส่ ุด 2. Sloppy Thrust แท่งเทียนส่วนใหญ่ตดิ ปัญหาทางเทคนิค ราคาไม่สามารถทะลุจุดสําคัญไปได้ แต่สุดท้าย จะทะลุมาได้ในที่สุด 30
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การเปิด Position โดยใช้ Fibonacci Thrust นับจาก Swing Low หากราคาสามารถผ่านระดับ 50.0 ไปได้แต่ไม่ได้ปิดเหนือ 61.8 ให้มองหาทิศทาง Bearish ในบางครั้งราคาสามารถเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ได้เป็นเวลานานในช่วงระยะของ 61.8 แต่มีความเป็นไปได้ ในระดับสูงที่ราคาจะกลับมาที่ 38.2 อีกครั้ง สําหรับทิศทางแบบ Swing High ให้ทําเช่นเดียวกันแต่กลับทิศทาง เมื่อราคากลับไปที่ 38.2 มีไม่บ่อ ยนักที่ราคาจะกลั บไปที่ 23.6 และน้อยมากที่ราคาจะกลับไปที่ 0 นักลงทุ น สามารถเลือกใช้ระดับราคาที่เหมาะสมเหล่านี้ในการตั้งค่า Stop Loss และ Target อย่างเหมาะสมได้ หลักการตั้ง Stop Loss ใน Fibonacci Thrust แบ่งเป็น 2 กรณีคือ กรณีที่ราคาไม่เคยวิ่งมาถึง 61.8 สามารถใช้ 61.8 เป็นจุด Stop Loss ได้ทันที และอีกกรณีหนึ่งคือราคาวิ่งมาถึง 61.8 ให้ใช้จุดสูงที่สุดของแท่งเทียนเป็น จุด Stop Loss หมายเหตุ Fibonacci Thrust ในขณะที่ราคาเคลื่อนไหวครั้งแรกจะมีปริมาณ Volume ที่สูงกว่าแท่งเทียนอื่น เมื่อราคา กลับสู่สภาวะปกติปริมาณ Volume จะลดลง หลีกเลี่ยงการใช้แท่งเทียนที่มีขนาดยาว (Tower) ระหว่างวันหรือ จุดสิ้นสุดของช่วงวัน ใช้เฉพาะการซื้อขายตามทิศทางของตลาดโดยรวม นอกจากนี้ยังต้องใช้ในขณะอินดิเคเตอร์ ADX มีค่าสูงกว่า 20 และไม่สามารถใช้คํานวณกราฟรายสัปดาห์และรายเดือนได้
31
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Fibonacci Extensions รูปแบบของลําดับ Fibonacci Extensions เป็นการจัดเรียงตัวของลําดับ Fibonacci ให้อยู่ในรูปแบบของคลื่น ประกอบไปด้วย A, B, C, 0.618, 1.00 และ 1.618 เป็นหนึ่งในรูปแบบของลําดับ Fibonacci ที่ไม่มีการนําเรื่อง แนวรั บ และแนวต้ า นเข้ า มาใช้ ง าน สํ า หรั บ การใช้ ง าน Fibonacci Extensions จั ด ว่ า ง่ า ยกว่ า การใช้ ง าน ลําดับ Fibonacci ในรูปแบบอื่นมาก เพียงแค่มองกราฟให้ออก หาจุด Swing High และ Swing Low ให้พบ ถัดจากนั้นสามารถใช้เครื่องมือเพื่อให้โปรแกรมคํานวณค่าให้ได้ทันที ในโปรแกรม MetaTrader 4 บางรุ่น อาจไม่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ ให้เลือกใช้อินดิเคเตอร์ Fibonacci Extensions แทนการใช้ฟังก์ชั่นโดยตรง
32
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Fibonacci Time Ratios รู ป แบบของลํ า ดั บ Fibonacci Time Ratios เป็ น การจั ด เรี ย งตั ว ของลํ า ดั บ Fibonacci ให้ อ ยู่ ใ นรู ป แบบของ ช่วงเวลา ประกอบไปด้วย -1, 0, 0.500, 1.000, 1.272, 1.618, 2.000, 2.272, 2.618 และ 3.618 โดยมีข้อจํากัด เรื่องของความแม่นยําที่จะต้องใช้การคํานวณหน้าจอให้ได้ผลลัพธ์ภายใน 1 วันเท่านั้น เท่ากับไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่น Fibonacci Time Ratios ในกราฟที่มีระยะเวลาเกิน 15 นาทีได้ หากเกินกว่าเวลาดังกล่าวค่าที่ได้จะคลาดเคลื่อน สําหรับการลากเส้นให้นักลงทุนมองหาจุด Swing High และ Swing Low ถัดจากนั้นให้ลากเส้น Fibonacci จากจุด Swing High และ Swing Low คล้ายกับการใช้ Fibonacci Retracement แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกัน
33
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 5 ANATOMY
34
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Anatomy of Bullish เพื่อเริ่มต้นกระบวนการ Bullish ราคาเริ่มที่จะตกลงเรื่อยๆ หลังจากสัปดาห์แห่งการร่วงลงผ่านไป การเคลื่อนไหว ขาขึ้นขนาดเล็กที่มีจุดสูงสุดลดลง (Lower High) จะปรากฏขึ้น มองผิวเผินดูเป็นตลาดแบบ Bearish แต่ในสภาวะ แบบนี้จะมีระดับหนึ่งที่บางครั้งนักลงทุนจะเริ่มที่จะหวาดกลัวกว่าราคาอาจจะมีการเปลี่ยนทิศทาง (Panic Sell) หรื อ Herd และจะมี แ นวโน้ ม ที่ จ ะเทขาย Position ของพวกเขาที่ ถื อ ครองทั้ ง หมดในเวลาเดี ย วกั น เกิดเป็นนักลงทุนที่อ่อนแรง เมื่อเหล่านักลงทุนนี้เทขายออกมาจํานวนมากแล้ว จะไม่สามารถรับความสูญเสียใดๆ ในจํ า นวนมากขึ้ น และจะอกสั่ น ขวั ญ แขวนมากขึ้ น เมื่ อ ใกล้เ วลาที่ จ ะมี ก ารประกาศตั ว เลขทางเศรษฐกิ จ หรื อ ข่าวสําคัญ ดังนั้นจะยิ่งมีแรงเทขายมากขึ้นอีก ในเมื่อนักลงทุนที่อ่อนแรงได้เทขายออกมาอีกนั้น นักลงทุนมืออาชีพ จะก้าวเข้ามาในระบบและเริ่มช้อนซื้อเพราะในมุมมองของพวกเขาราคาในขณะนี้สามารถขายได้ในราคาที่สูง ที่จุดใดจุดหนึ่งในอนาคต นอกจากนี้หากว่าช้อนซื้อแล้วยังมีโอกาสที่จะซื้อทรัพย์สินอื่นโดยไม่ต้องจ่ายแพงเท่าเดิม จึงส่งผลให้เกิดการซื้อสะสมอย่างต่อเนื่อง กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นตลอดเวลาในการสร้างวัฏจักรทั้งขนาดเล็กหรือ ขนาดใหญ่ของราคา และการเคลื่อนไหวของทรัพย์สินอยู่ในสัดส่วนแปรตามกับราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือครอง เพื่อสร้างวัฏจักร Bullish ที่สําคัญ นักลงทุนจะต้องมองหาจุดสูงสุดของราคา ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเสมอ เมื่อมีการเทขายที่สําคัญของราคาจากนักลงทุนที่อ่อนแรง และเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเสมอเมื่อนักลงทุนผู้อ่อนแรง เป็นผู้ถือครอง Position เขาเหล่านั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงความกลัวและความกดดันจากการสูญเสียได้ เพราะเขาเคยเทขายอย่างแรง (Panic Sell) มาแล้วครั้งหนึ่ง ทําให้ไม่สามารถทนต่อความผันผวนของราคา จํานวนมากได้อีกต่อไป นักลงทุนที่อ่อนแอจึงยินดีขายให้กับนักลงทุนที่เข้าช้อนซื้อ จึงช่วยให้นักลงทุนที่ช้อนซื้อ มีโอกาสที่จะเข้าซื้อและเพื่อให้ครอบคลุม Position ระยะสั้นของพวกเขา โดยไม่ต้องจ่ายแพง พวกเขาจะซื้อสะสม แสดงให้เห็นว่ามีผลประโยชน์ขนาดใหญ่ถูกกระตุ้นในหมู่นักลงทุน จะส่งผลให้เกิดคําสั่งซื้อขนาดใหญ่ตามมา คําสั่งซื้อเหล่านี้จะแตกต่างกันภายใต้เงื่อนไขของตลาดที่แตกต่าง เมื่อเวลาผ่านไปจะพบว่า Position จํานวนมาก และมีขนาดใหญ่ถูกโอนไปยังนักลงทุนแล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทาน มากขึ้น และจะส่งผลให้เกิดสภาวะแบบ Bullish ขึ้นแทนที่สภาวะแบบ Bearish นั ก ลงทุ น มื อ อาชี พ จะเข้ า ใจจิ ต วิ ท ยาของมนุ ษ ย์ พวกเขารู้ ว่ า นั ก ลงทุ น ส่ ว นใหญ่ ที่ ใ ห้ ค วามสนใจในราคา ดังนั้นพวกเขาสามารถจะเขย่าวงการโดยออกจากการถือครอง Position ของพวกเขา เพื่อให้นักลงทุนส่วนใหญ่ เกิดความวิตกกังวล ในขณะที่พวกเขาอดทนรอให้นักลงทุนส่วนใหญ่เทขายออกมาแล้ว พวกเขาจะกลับเข้าช้อนซื้อ แต่หากพวกเขาเริ่มที่จะคิดว่าราคายังคงแพงไป เขาจะยังคงปล่อยต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งทําให้ดูเหมือนจะลดลง อย่างรวดเร็วอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้มีคําสั่งขายที่จะถล่มราคาลงมาอีกครั้ง เพื่อช่วยให้การซื้อสามารถทําได้มากยิ่งขึ้น พวกเขาอาจจะเทขายออกมามากกว่ า เดิ ม อี ก แต่ สุ ด ท้ า ยแล้ ว จะมี ก ารช้ อ นซื้ อ ในตอนท้ า ยของวั น หากนั ก ลงทุ น ที่ อ่ อ นแอติ ด อยู่ ใ นขั้ น ตอนนี้ ข องวั ฏ จั ก ร พวกเขาจะต้ อ งเผชิ ญ กั บ การสั่ น คลอนใน Position นั่นแสดงให้เห็นถึงสาเหตุพื้นฐานสําหรับการปรับเป็นขาขึ้น คือการสะสม Position อ้างอิงจํานวนมหาศาล ซึ่งพบบ่อยในกลุ่มหรือองค์กรบางแห่งซึ่งมีอํานาจเพี ยงพอในตลาด แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญยั งต้องตระหนักถึ ง โอกาสที่จะเกิดขึ้น 35
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การสะสม Position เป็นเรื่องธรรมดาของนักลงทุนที่จะช้อนซื้อในจํานวนมาก ซึ่งต้องมีการวางแผนการตัดสินใจ ที่แม่นยํา เขาเหล่านั้ นมีทักษะการค้าและเงินทุน ที่เพียงพอ การกระทําของนักลงทุนเหล่านี้จะส่งผลถึงราคา ที่ต อบสนอง ในการเปลี่ยนแปลงเหล่า นี้มีป ริมาณน้ อ ยและมักจะเห็นการปรับ ขึ้ นอย่า งฉับพลั นในเวลาต่อ มา ราคาจะถู ก กระทบอย่ า งหนั ก และรวดเร็ ว โดยการเทขายเพี ย งพอที่ จ ะเปลี่ ย นราคาให้ ก ลั บ เป็ น ขาลงอี ก ครั้ ง นั ก ลงทุ น ทั่ ว ไปควรคาดว่ า จะมี ก ารทดสอบในข่ า วที่ อ าจจะออกมาไม่ ดี ข องนั ก ลงทุ น ขนาดใหญ่ เพราะนั่ น หมายความว่าสภาวะ Bullish อาจจะเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จะเกิดการสะสม Position เพิ่มขึ้นบางส่วน การสังเกตนั้นสามารถทําได้เพราะนักลงทุนที่ช้อนซื้อจะกระทําการโดยรีบร้อน อาจจะมีเงิน จํานวนมากกว่าปกติเข้ามาช้อนซื้อ กระบวนการที่จะทําให้นักลงทุนผู้ช้อนซื้อกลายเป็นกลุ่มที่ได้กําไรในตลาด ในคําสั่งซื้อของเขาเป็น Supply (ขาย) ที่นําเสนอจะถูกทําให้ขายได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเขาจะสะสมเขาจะต้องซื้อที่ราคาที่เพิ่มมากขึ้นทําให้เกิดการหยุดซื้อ ส่งผลให้ราคาจะดิ่งกลับลงไปครั้งแรกในจุดที่เขาเริ่มต้นขาย เพราะเขาเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ซื้อและไม่ได้ควบคุม ตลาดทั้ ง หมด Supply จึ งลอยในระดั บ ราคาที่ ต่ํ า กว่า ปกติ นั ก ลงทุ น ที่ไ ม่ ทั น สั งเกตปริ ม าณ Supply ที่ ล ดลง จะหวั่นไหวจากการถือครอง Position ของพวกเขา และพวกเขายินดีที่จะเทขายออกมาเพื่อรักษาเงินทุน ของพวกเขา ความต้ า นทานต่อ การเคลื่ อ นไหวของราคาใดๆ ของนั ก ลงทุ น มื อ อาชี พ ที่มี ก ารสะสม Position ต้องช้อนซื้อในระดับสูงเพื่อให้ราคาเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นนี้ลดจํานวนนักลงทุนที่อ่อนแรงลง สภาวะแบบ Bullish จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งแตกต่างจากสภาวะแบบ Bearish ที่ตกลงอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์สําคัญที่ส่งผลให้เกิด กระบวนการนี้คือ การเกิดข่าวสารขนาดใหญ่เช่น การทําสงคราม การล้มละลายของบริษัทขนาดใหญ่ เป็นต้น
36
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Up-Thrust
ในทางเทคนิคคือการทดสอบกับแนวต้านของราคาล้มเหลว ในทางปัจจัยพื้นฐานคือ ปริมาณการซื้อขาย (Volume) แสดงการซื้อขายจํานวนมาก แต่กลับมีการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบแคบ เกิดแท่งเทียนแบบ Up-Thrust (แท่งเทียนที่มีระยะห่างระหว่าง High – Low มากและราคาปิดอยู่ใกล้ Low) และแท่งเทียนต่อมาปิดร่วงลงยาว ต่ํากว่าจุดต่ําสุดของแท่งเทียนก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ราคาร่วงลงและเกิดสภาวะแบบ Bearish โปรดระลึกว่า นักลงทุนไม่ได้พยายามที่จะชนะตลาด แต่พยายามเข้าร่วมกับกลุ่มมืออาชีพ ดังนั้นไม่ควรสวนทางหากพบรูปแบบนี้
37
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Reverse Up-Thrust
เมื่ อ มาถึ ง จุ ด (A) เราจะเห็ น จุ ด สู งสุ ด ของการซื้ อ ขาย สามารถตรวจสอบจากปริ ม าณการซื้ อ ขาย (Volume) การกระทํานี้สร้างสภาวะ Bearish ขึ้นมา การอ่อนแรงลงของปริมาณการซื้อขาย (Volume) จะปรากฏขึ้นบน แท่งเทียนและทิศทางที่แท้จริงจะปรากฏขึ้นบนลงแท่งเทียนเช่นกัน ในช่วงเวลานี้นักลงทุนที่อ่อนแรงจะเผชิญ ของพวกเขาออกมา ในทางปฏิบัติแล้ว สภาวะทางอารมณ์และความหวาดกลัวและยินดีเทขาย Position การมองหาจุด (A) เป็นเรื่องยาก แต่หากสังเกตสภาวะตลาดในเวลานั้นสามารถช่วยในการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี เมื่อมาถึงจุด (B) ตลาดมีการเคลื่อนไหวขาลงอย่างเห็นได้ชัดเจน อันเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากผลกระทบโดยตรงของ จุด (A) เพื่อยืนยันมุมมองนี้ราคาจะเริ่มต้นปรับตัวที่จุด (C) โดยเป็นการปรับตัวขึ้นใน Range ไปยังจุด (D) ซึ่งมีข้อบ่งชี้ที่สําคัญคือปริมาณการซื้อขาย (Volume) สูงขึ้นอีกครั้ง แต่ราคากลับไม่ได้เปลี่ยนเป็นขาขึ้นแต่อย่างใด ราคาจึงลดลงมาสักระยะหนึ่งก่อนปรับตัวขึ้นไปใหม่อกี ครั้งที่จุด (E) และจะถูกความผันผวนของตลาดเข้าแทรกแซง ราคาจะวิ่งมายังจุด (F) (คล้ายกับจุด (B) อีกครั้ง) และสุดท้ายราคาทะลุ Range มายังจุด (G) แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ Supply สามารถเอาชนะความต้องการได้แล้ว สภาวะแบบ Bullish ที่แข็งแกร่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
38
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Stops a Down-Move
แท่งเทียนขาลงที่ปิดต่ํากว่าแท่งเทียนก่อนหน้านี้ จะถูกตีความถึงการขาย (Sell) แต่ความแตกต่างที่กําหนดให้เป็น Stops a Down-Move คือการที่แท่งเทียนกลับไปปิดสูงและมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในระดับสูงเช่นกัน แท่งเทียนที่มีขนาดยาวเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนชั้นดีให้ตระหนักถึงราคาในทิศทางขาลงที่กําลังจะสิ้นสุดลง Market Bottom
จากกราฟราคาเป็นขาลงมาตลอดที่จุด (A) โดยมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในระดับสูง แต่ราคาไม่สามารถ ร่วงลงได้ต่อไป เมื่อราคาวิ่งมายังจุด (B) กลับมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในระดับต่ําและยังไม่สามารถทะลุ แนวรับไปได้ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมืออาชีพได้เริ่มถอนสถานะ Position ออกไปแล้ว ราคาจะวิ่งอีกครั้งไปยัง จุด (C) และครั้งนี้ปริมาณการซื้อขาย (Volume) จะสูงมาก หากราคาไม่สามารถทะลุไปได้อีกนั่นหมายความว่า ได้เกิด Market Bottom ให้พิจารณาแนวทาง Bullish ได้ทันที หากราคาทะลุผ่านแนวรับรูปแบบจะไม่สมบูรณ์ 39
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Shake-Out
รูปแบบการเคลื่อนไหวแบบ Shake-Out เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่สามารถบอกได้ว่าสภาวะ Bearish ได้สิ้นสุดลงแล้ว เกิ ด ขึ้ นเมื่ อราคามาถึงจุ ด (A) เกิ ดข่าวที่ น่ าตกใจ นั กลงทุ น ที่อ่อ นแรงจะแตกตื่ น กั บข่ า วแล้ วเทขาย Position ออกมา ในขณะที่นักลงทุนบางส่วนกลับเข้าช้อนซื้อไว้ ราคาจึงกลับเพิ่มสูงขึ้นมาบ้าง นี้เป็นข้อบ่งชี้ที่มีศักยภาพของ ความอ่อนแอในสถานะ Bearish และด้วยความอ่อนแอของสภาวะดังกล่าวส่งผลให้ราคาเคลื่อนที่ไม่ได้ไกลจากเดิม แทนด้วยจุด (B) ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ยังคงอยู่ในระดับสูง ในขั้นตอนนี้ตลาดไม่พร้อมสําหรับการปรับ สถานะขึ้นในขณะที่ยังคงมี Supply ในระดับหนึ่ง และตลาดจะแสดงออกในรูปจุด (C) ซึ่งนั่นหมายความว่า ตลาดได้เกิด Shake-Out โดยสมบูรณ์ สามารถสังเกตได้โดยดูค่าปริมาณการซื้อขาย (Volume) จะมีปริมาณต่ํา เมื่อนั้นจุด (D) ที่มีปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในระดับสูงจะเปลี่ยนทิศทางของตลาดได้สําเร็จ
40
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Falling Pressure
รูปแบบของ Anatomy ที่สําคัญและพบบ่อยในตลาดคือ Falling Pressure โดยรูปแบบดังกล่าวแสดงการ เคลื่ อ นไหวของราคาที่ ย าวกว่ า ปกติ แต่ ก ลั บ มี ป ริ ม าณการซื้ อ ขาย (Volume) ลดลงในสภาวะแบบ Bearish ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวในช่วงแคบของแท่งเทียนต่อมา การลดลงดังกล่าวเป็นการบ่งบอกที่สําคัญว่าสภาวะ Bearish ได้สิ้นสุดลงแล้ว แท่งเทียนต่อไปจะได้รับผลกระทบจากแท่งเทียน Falling Pressure และหากแท่งเทียน ต่อไปกลับเป็นขาขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่แข็งแกร่งจะช่วยยืนยันการเกิด Falling Pressure ได้เป็นอย่างดี
41
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 6 ELLIOTT WAVE
42
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Elliott Wave หลักการของ Elliott Wave ถูกค้นพบโดย Ralph Nelson Elliott จากการสังเกตแนวโน้มพฤติกรรรมการกลับตัว ของราคาในรูปแบบเฉพาะตัว ในครั้งนั้นเขาศึกษาจากดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวน์โจนส์ (DJIA) ซึ่งเป็นเครื่องมือ ในการวิจัยราคาหุ้นหลักของเขาอยู่แล้ว เขาพบว่าทิศทางของราคาที่เปลี่ยนแปลงนั้นเผยให้เห็นโครงสร้างพื้นฐาน ของ Elliott Wave จากการค้นพบทฤษฎีนี้เขาได้พัฒนาระบบเหตุผลว่าด้วยการวิเคราะห์ตลาดขึ้นมา ภายใต้หลักการวิเคราะห์คลื่น กระบวนการสร้างรูปแบบสามารถนําทฤษฎี Elliott Wave มาใช้วิเคราะห์คลื่นหรือ รูปแบบของการเคลื่อนไหว รวมไปถึงทิศทางที่เกิดขึ้นในตลาดได้ แต่คลื่นนั้นไม่จําเป็นต้องเกิดซ้ําในช่วงเวลา เดียวกัน โครงสร้างเหล่านี้เชื่อมโยงกันในรูปแบบที่มีขนาดใหญ่เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยจัดอยู่ในรูปของหน่วยการ สร้างรูปแบบขนาดใหญ่กว่าต่อไปเรื่อยๆ รายละเอียดดังกล่าวเป็นที่มาของแนวทางในการแปลความหมายของการ เคลื่อนไหวของราคาในตลาด รูปแบบ 5 คลื่น Elliott Wave มักจะกล่าวถึงพื้นฐานของคลื่น จํานวน 5 คลื่น รูปแบบของคลื่นดังกล่าวจะมีลักษณะโครงสร้าง ที่เฉพาะเจาะจง คลื่นลําดับที่ 1, 3 และ 5 ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนโดยคลื่นลําดับที่ 2 และ 4 ซึ่งจัดเป็นคลื่น ที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทางราคา โดยทั่วไปแล้วรูปแบบนี้พบได้ทั่วไปใน Elliott Wave และจัดเป็น รูปแบบหนึ่งของ Motive Wave
43
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง ประเภทของ Elliott Wave Elliott Wave สามารถจําแนกประเภทได้ออกเป็น 2 ประเภทคือ Motive Wave และ Corrective Wave โดย 5 คลื่นของ Motive Wave จะมีคลื่นย่อยแสดงโดยตัวเลข ในขณะที่ 3 คลื่นของ Corrective Wave จะถูก แสดงโดยตัวอักษร ดังนั้นในทางปฏิบัติ Motive Wave มักจะตามด้วย Corrective Wave เสมอ
แนวโน้มพื้นฐานที่สําคัญของ Elliott Wave คือการกระทําในทิศทางเดียวกันของราคากับแนวโน้มขนาดใหญ่ ในคลื่นทั้ง 5 ลูก โดยในขณะเกิดปฏิกิริยากับแนวโน้มหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ จะส่งผลถึงคลื่นลําดับที่ 3 ในรูปแบบ เดียวกัน Wave Degree ในเรื่อง Elliott Wave คลื่นทั้งหมดสามารถแบ่งได้ตามขนาด ดังนั้นจึงมีการจัด Degree ให้คลื่น โดยคลื่นจะถูก จัดลําดับให้ห่างกันนับจากคลื่นที่มีขนาดเล็กสุด 9° ใน Degree ถัดมาก็จะมีขนาดห่างกันเท่าเดิม โดยมีการตั้งชื่อ ให้ง่ายต่อการเรียกขานดังนี้ - Grand Supercycle - Supercycle - Cycle - Primary - Intermediate - Minor Minute - Subminuette
44
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Motive Waves ในส่วนของ Motive Waves มีการแบ่งคลื่นออกเป็น 5 คลื่น โดยคลื่นเหล่านั้นมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทาง เดียวกันกับแนวโน้มของ Degree ขนาดใหญ่อันหนึ่ง จึงส่งผลให้การอ่านค่านั้นมีความเที่ยงตรงและสะดวก ในการแปลผล โดยคลื่ น ลํ า ดั บ ที่ 2 ไม่ ส ามารถจะรี บ าวด์ ไ ด้ 100% ของคลื่ น ลํ า ดั บ ที่ 1 และคลื่ น ลํ า ดั บ ที่ 4 ไม่สามารถจะรีบาวด์ได้ 100% ของคลื่นลําดับที่ 3 ในแง่ของทิศทางราคาในคลื่นนั้น คลื่นลําดับที่ 3 จะมีความยาว มากที่สุด Motive Waves แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Impulse และ Diagonal Triangles Impulse Motive Waves ที่พบบ่อยที่สุดคือ Impulse ในส่วนของ Impulse มีเงื่อนไขสําคัญอยู่ 1 ข้อคือคลื่นลําดับที่ 4 จะต้องไม่เคลื่อนไหวต่ํากว่าคลื่นลําดับที่ 1 และคลื่นลําดับที่ 1, 3 และ 5 จะเคลื่อนไหวตามทิศทางของราคาเสมอ โดยเฉพาะคลื่ น ลํ า ดั บ ที่ 3 ในรู ป แบบ Impulse ส่ ว นใหญ่ มั ก จะมาพร้ อ มกั บ ส่ ว นต่ อ ขยายของคลื่ น เสมอ (Extension) โดยรูปแบบ Impulse สามารถแบ่งออกได้ 3 รูปแบบย่อยคือ - First Wave Extension - Third Wave Extension - Fifth Wave Extension
Bullish First Wave Extension และ Bearish First Wave Extension
Bullish Third Wave Extension และ Bearish Third Wave Extension
45
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
Bullish Fifth Wave Extension และ Bearish Fifth Wave Extension ในบางครั้ง Impulse อาจจะมีรูปแบบของคลื่นลําดับที่ 5 ที่ไม่สมบูรณ์ได้ ในส่วนที่ไม่สมบูรณ์นั้นอาจจะเคลื่อนไหว อยู่ เหนือ คลื่น ลํา ดั บที่ 3 หรือ ในระดับเดียวกั นกับคลื่ น ลํ าดั บ ที่ 3 เกิ ดเป็ นรู ปแบบย่ อยที่เ รี ยกว่ า Truncation แม้ว่าจะเป็นองค์ประกอบที่ไม่สมบูรณ์ของ Impulse แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในคลื่น Motive Waves ที่สมบูรณ์แล้ว
Truncation Diagonal Triangles Motive Waves อีกรูปแบบหนึ่งคือ Diagonal Triangles แม้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับ Impulse แต่ไม่ได้ถูกจัด ให้เป็นรูปแบบ Impulse เนื่องจากรูปแบบ Diagonal Triangles จะเกิดคลื่นย่อยระหว่างคลื่นลําดับที่ 3 และ คลื่นลําดับที่ 5 ของคลื่นใหญ่ และมีคุณสมบัติของ Motive Waves ครบถ้วน
Diagonal Triangles 46
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Corrective Waves รูปแบบ Corrective Waves คือการเปลี่ยนแนวโน้มของราคาจากรูปแบบ Motive Waves และเคลื่อนไหว ในทิศทางตรงข้ามกับ Motive Waves โดย Corrective Waves เกิดจากความขัดแย้งระหว่างแนวโน้มและคลื่น สามารถแบ่งออกได้ 4 รูปแบบย่อยคือ Zigzags, Flats, Horizontal Triangles และ Combinations Zigzags รูปแบบ Zigzags เป็นรูปแบบการเคลื่อนที่ของคลื่นต่อเนื่องทิศทางเดิม ประกอบด้วยคลื่นลําดับ A, B และ C โดยคลื่นลําดับ B จะมีค่าสูงกว่าคลื่นลําดับ A และเกิดในสภาวะแบบ Bullish เท่านั้น การเกิดขึ้นของ Zigzags สามารถเกิดได้มากที่สุดไม่เกิน 3 ครั้ง
Flats รูปแบบ Flats เป็นรูปแบบคดเคี้ยวไปมาในลําดับคลื่นย่อยที่ลําดับของคลื่นนั้นไม่สามารถปิดไกลกว่าจุดเริ่มต้น มากนัก โดยส่วนมากพบในช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับการมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่เสมอ
47
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Horizontal Triangles รูปแบบ Horizontal Triangles จัดเป็นรูปแบบที่ซ้อนทับกันของ Corrective Waves มักจะมีความสัมพันธ์กับ ราคาที่ ล ดลงและความผั น ผวนในระดั บ หนึ่ ง รู ป แบบดั ง กล่ า วบ่ ง บอกว่ า ราคาจะยั ง ไม่ เ ปลี่ ย นแปลงทิ ศ ทาง การเคลื่อนไหว รูปแบบนี้พบได้แทบจะทุกกราฟที่มีการซื้อขายในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบย่อยคือ - Ascending - Descending - Contracting - Expanding
Bullish Ascending และ Bearish Ascending
Bullish Descending และ Bearish Descending
Bullish Contracting และ Bearish Contracting
Bullish Expanding และ Bearish Expanding
48
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Combinations รูปแบบ Combinations เป็นการรวมตัวกันหลายรูปแบบของ Corrective Waves โดยรูปแบบ Combinations ให้สัญญาณทิศทางเดิม ในการวิเคราะห์รูปแบบ Combinations ให้แยกการวิเคราะห์ออกจากกันและมองรูปแบบ Combinations เป็นภาพใหญ่ เปรียบเสมือนคลื่นเล็กในคลื่นใหญ่
49
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 7 WOLFE WAVE
50
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Wolfe Wave ทฤษฎี Wolfe Wave ถูกค้นพบโดย Bill Wolfe ในขณะที่เขากําลังสังเกตการเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500 แต่ผู้ที่นําทฤษฎีนี้มาเผยแพร่คือ Bryan Wolfe ผู้เป็นลูกชายของเขา ทฤษฎี Wolfe Wave กล่าวถึงโครงสร้าง ของคลื่นที่มีความสัมพันธ์กับกฎข้อที่ 1 ของนิวตัน กล่าวคือการดําเนินการทางราคาจะต้องเกิดปฏิกิริยาตรงข้าม การเคลื่อนไหวเหล่านี้จะสร้างรูปแบบคลื่นที่ชัดเจน เพียงพอต่อการลากเส้นแนวโน้ม (Trendline) โดยปกติแล้ว นักลงทุนไม่สามารถมองหา Wolfe Wave ได้จนกว่าคลื่นลําดับที่ 1, 2, 3 และ 4 จะได้ปรากฏขึ้นแล้ว การตั้งค่า เป้าหมายในการซื้อขายจาก Wolfe Wave คือการคาดหวังกําไรในคลื่นลําดับที่ 5 โปรดระลึกเสมอว่า Wolfe Wave ในกรณี Sell คลื่นลําดับที่ 3 จะต้องสูงกว่าคลื่นลําดับที่ 1 และในกรณี Buy คลื่นลําดับที่ 3 จะต้องต่ํากว่าคลื่นลําดับที่ 1 ทั้งนี้เพื่อวิเคราะห์สภาพของตลาดให้แม่นยําก่อนการซื้อขาย
51
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การสร้างคลืน่ Wolfe Wave Wolfe Wave เป็นรูปแบบของคลื่นที่สามารถใช้ได้เป็นอย่างดีในช่วงเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ นักลงทุนนิยมใช้ Wolfe Wave คู่กับกราฟระยะสั้น ในการเกิดคลื่น Wolfe Wave จะต้องตรวจสอบกราฟ ให้พบความเปลี่ยนแปลงที่แสดงออกในรูปแบบคลื่น 2 คลื่นเสียก่อน จากนั้นจึงมองหาคลื่นในลักษณะเดียวกัน ทิศทางตรงข้าม ขั้นตอนการสร้างคลื่น Wolfe Wave ในการสร้างคลืน่ Wolfe Wave นักลงทุนจะต้องมองหาจุด Swing ของคลื่นแต่ละลูกก่อน
52
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง จากนั้นกําหนดหมายเลขให้กับคลื่นแต่ละลูก เมื่อได้รูปแบบกราฟแล้วให้ลากเส้นเชื่อมระหว่างคลื่นลําดับที่ 1 กับ คลื่นลําดับที่ 3 และคลื่นลําดับที่ 1 กับคลื่นลําดับที่ 4
53
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง ในการกําหนดจุด Stop Loss (S/L) ให้ตั้งไว้สูงกว่าคลื่นลําดับที่ 4 อย่างน้อย 20 จุด ในขณะที่จุด Target (T/P) จะเป็นจุดที่ราคาวิ่งมายังเส้นที่ได้ลากไว้
54
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 8 DIVERGENCE
55
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Divergence Divergence หมายถึงการขัดแย้งกันในแนวโน้มของราคาและแนวโน้มของอินดิเคเตอร์ ส่วนใหญ่นักลงทุน นิยมใช้อินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator รูปแบบ Divergence ใช้วัดการเคลื่อนไหวของราคาในความสัมพันธ์กับ อิ น ดิ เ คเตอร์ ป ระเภท Oscillator นอกจากอิ น ดิ เ คเตอร์ ป ระเภท Oscillator สามารถใช้ อิ น ดิ เ คเตอร์ อื่ น ได้ เช่น RSI, Stochastic, MACD, CCI ฯลฯ หลักการที่สําคัญของ Divergence คือหากราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ (Higher High หรือ HH) หรือสร้างจุดต่ําสุดใหม่ (Lower Low หรือ LL) อินดิเคเตอร์ควรจะมีทิศทางเดียวกัน หากไม่เป็นเช่นกันแสดงว่าได้เกิดรูปแบบ Divergence ขึ้นแล้ว สําหรับ Divergence แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ Regular Divergence และ Hidden Divergence สําหรับหนังสือเล่มนี้จะใช้ RSI 14 ในการหารูปแบบ Divergence Regular Divergence รูป แบบ Regular Divergence เป็ น รูป แบบที่ พบได้ โ ดยทั่ ว ไป สามารถแบ่ง เป็ น รู ป แบบย่ อ ยได้ 2 รู ป แบบคื อ Bullish Regular Divergence และ Bearish Regular Divergence โดย Bullish Regular Divergence เกิดขึ้น เมื่อราคาสร้างจุดต่ําสุดใหม่ (Lower Low หรือ LL) แต่อินดิเคเตอร์กลับสร้างจุดต่ําสุดใหม่ที่อยู่สูงกว่าจุดเดิม (Higher Low หรือ HL) จะก่อให้เกิดสภาวะแบบ Bullish
56
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Bearish Regular Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ (Higher High หรือ HH) แต่อินดิเคเตอร์กลับ สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่อยู่ต่ํากว่าจุดเดิม (Lower High หรือ LH) จะก่อให้เกิดสภาวะแบบ Bearish
57
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Hidden Divergence รูปแบบ Hidden Divergence เป็นรูปแบบที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงทิศทาง สามารถแบ่งเป็นรูปแบบย่อยได้ 2 รูปแบบคือ Bullish Hidden Divergence และ Bearish Hidden Divergence โดย Bullish Hidden Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดต่ําสุดใหม่ที่อยู่สูงกว่าเดิม (Higher Low หรือ HL) แต่อินดิเคเตอร์กลับสร้าง จุดต่ําสุดใหม่ (Lower Low หรือ LL) จะก่อให้เกิดสภาวะแบบ Bullish
58
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Bearish Hidden Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่อยู่ต่ํากว่าเดิม (Lower High หรือ LH) แต่อินดิเคเตอร์กลับสร้างจุดสูงสุดใหม่ (Higher High หรือ HH) จะก่อให้เกิดสภาวะแบบ Bearish
รูปแบบการซื้อขายของ Divergence ในการซื้อขายโดยใช้การวิเคราะห์ Divergence นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะสับสนในการใช้งาน ดังนั้นหนังสือเล่มนี้ จึงได้สรุปวิธีการของ Divergence ไว้เป็นตาราง ประเภทของ Divergence Regular Divergence Regular Divergence Hidden Divergence Hidden Divergence
ราคา
อินดิเคเตอร์
สภาวะ
Higher High Lower Low Higher Low Lower High
Lower High Higher Low Lower Low Higher High
SELL BUY BUY SELL
59
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 9 VOLUME
60
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Volume ปริมาณการซื้อขายของทรัพย์สินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยความสัมพันธ์ระหว่างราคากับปริมาณการซื้อขายรวม ทั้งตลาด นักลงทุนใช้ Volume วัดค่าการขายที่เกิดจากความหวาดกลัว (Panic Sell) อันเกิดจากรูปแบบ การซื้อขายที่ผิดปกติ อีกทั้งยังใช้ในการวิเคราะห์การสิ้นสุดของสภาวะ Bullish และ Bearish ได้อีกด้วย Volume ที่เปลี่ยนแปลงโดยการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บ่งบอกถึงแนวโน้มของราคาในทิศทางเดิมแต่หาก Volume มีค่าลดลง จากเดิมเป็นโอกาสในการเปลี่ยนทิศทางของราคา การตรวจสอบความผิดปกติของราคาโดยใช้ Volume การขึ้นลงของราคากับปริมาณการซื้อขายที่ไม่สัมพันธ์กันนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การร่ ว มกั น ปั่ น ราคาในตลาดของธนาคารขนาดใหญ่ การซื้ อ ขายอั น เกิ ด จากการหวาดกลั ว ตลอดจนถึ ง การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินอย่างกะทันหันของธนาคารกลาง จะส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงทางราคา ไม่ ส อดคล้ อ งกั บ ปริ ม าณการซื้ อ ขายในปั จ จุ บั น เหตุ ก ารณ์ ใ นลั ก ษณะนี้ นั ก ลงทุ น สามารถใช้ Volume ในการตรวจสอบความผิดปกติของราคาได้ ข้อสังเกตของ Volume ราคาที่ปรับตัวลดลงและปรับตัวเพิ่มขึ้นในภายหลัง มาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่ลดลง แสดงถึงราคาที่ขึ้น เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเวลาก่อนหน้าแต่ปริมาณการซื้อขายกลับลดลง บ่งบอกว่าไม่ใช่แนวโน้มของราคา ในขณะนั้น เป็นสัญญาณหลอก นักลงทุนไม่ควรซื้อขายในช่วงนี้ ราคาและปริมาณการซื้อขายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อถึงระดับหนึ่งราคาจะวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีปริมาณ การซื้อขายที่สูงผิดปกติ บ่งบอกถึงโอกาสในการเปลี่ยนแนวโน้มของราคาที่อาจจะเป็นช่วงขาลง ในระยะเวลาหนึ่งราคาเคยสูง แต่ในเวลาต่อมาราคากลับมายังจุดนั้นโดยมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลงจากเดิม บ่งบอกถึงแนวโน้มในการปรับตัวของกราฟ ซึ่งอาจส่งผลให้กราฟเกิดพักฐานได้ กรณีที่ราคาสูงมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว ราคายังคงเคลื่อนไหวต่อไปเล็กน้อยในขณะที่มีปริมาณการซื้อขาย สูงมาก บ่งบอกถึงการที่ขายทํากําไรในระดับหนึ่งของนักลงทุน ซึ่งอาจส่งผลให้กราฟเกิดการปรับตัวลดลงใน ระยะเวลาต่อมาได้
61
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง ในกราฟแท่งเทียน หากแท่งเทียนมี ขนาดสั้นในขณะที่ปริมาณการซื้อขายก็มีเพียงเล็กน้อย บ่งบอกถึงโอกาส ในการเปลี่ยนสภาวะของตลาดเป็น Sideway หากแท่งเทียนมีขนาดยาวมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายในระดับสูง บ่งบอกถึงแนวโน้มของราคาที่แข็งแกร่ง ในกราฟแท่ ง เที ย น หากแท่ ง เที ย นมี ข นาดสั้ น ในขณะที่ มี ป ริ ม าณการซื้ อ ขายในระดั บ สู ง บ่ ง บอกถึ ง โอกาส ในการเคลื่อนไหวของราคาที่รนุ แรงในอนาคต การประยุกต์ใช้ Volume ร่วมกับ Divergence ปริมาณการซื้อขายเป็นเครื่องมือชั้นดีในการค้นหา Divergence ราคาและปริมาณการซื้อขายควรจะมีทิศทาง เดียวกัน ในขณะที่อินดิเคเตอร์เคลื่อนไหวไม่สัมพันธ์กับราคาและปริมาณการซื้อขาย ในส่วนนี้สามารถศึกษาได้ จากเนื้อหาในส่วนของ Divergence
62
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 10 RISK MANAGEMENT
63
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การบริหารความเสี่ยงในตลาดปริวรรตเงินตรา ตลาดปริวรรตเงินตรามีเงิน หมุ นเวียนในแต่ละวันสู งมาก มี การซื้ อขายเกิ ดขึ้ นทุ กนาที ด้ วยความที่เ ป็น แหล่ ง หมุนเวียนเงินขนาดใหญ่จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ในตลาด ซึ่งก็คือค่าเงิน มีความผันผวนมาก ด้วยจุดเด่นดังกล่าว ผู้ ป ระกอบการส่ งออกมั ก จะใช้ ร าคาในตลาดไปประกอบการวิ เ คราะห์ ก ารประกอบกิ จ การของเขาเหล่ า นั้ น ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองการส่งออกที่จะช่วยให้ผู้ส่งออกยังคงแข่งขันในตลาดได้ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา เป็ น ต้ น แต่ ภ าระการบริ ห ารความเสี่ ย งจากอั ต ราแลกเปลี่ ย นยั ง คงเป็ น ปั ญ หาสํ า คั ญ ที่ ทั้ ง นั ก ลงทุ น หรื อ ผู้ประกอบการอื่นที่ได้ใช้ประโยชน์จากตลาดปริวรรตเงินตราไม่ควรมองข้าม การระบุถึงความเสี่ยงในตลาดปริวรรตเงินตรา ธุรกิจการค้าในต่างประเทศหรือมีการดําเนินงานในต่างประเทศ มีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสกับความเสี่ยงจากอัตรา แลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจากความผันผวนในตลาดสกุลเงิน อันเนื่องมาจากการชําระเงินต่างประเทศ นําเข้าสินค้า ในราคาสกุลเงินต่างประเทศหรือรับจากต่างประเทศ การกู้ยืมเงินสกุลเงินต่างประเทศ เงินฝากในต่างประเทศ สินทรัพย์ตั้งอยู่ในต่างประเทศ รูปแบบเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเนื่องกันตั้งแต่ระดับ Micro ไปจนกระทั่งระดับ Macro จึงไม่น่าแปลกใจที่การบริหารความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ทําให้ค่าเงินผันผวน หลั ก การบริ ห ารความเสี่ ย งที่ ดี คื อ การรั บ มื อ การเคลื่ อ นไหวของอั ต ราแลกเปลี่ ย นแบบฉั บ พลั น และรุ น แรง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทางการเงิน วัตถุประสงค์หลักของการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนคือ การลดการสูญเสียเงินตราที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของอัตรา แลกเปลี่ยนที่คาดเดาไม่ได้ สถาบันการเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา Dealers Brokers Other Financial Services Non-Financial Corporations Governments and Central Banks Supranationals ประเภทของความเสี่ยงในตลาดปริวรรตเงินตรา Price Risk ประกอบด้วย Interest Rate Movements, Economic Activity และ Inflation Rates Credit Risk ประกอบด้วย Counterparty Default และ Payments System Political Risk ประกอบด้วย Capital Controls, Expropriation, Trade Barriers และ Tax Operational Risk ประกอบด้วย IT systems และสิ่งทีอ่ ยู่นอกเหนือการคาดการณ์ 64
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง ขั้นตอนการบริหารความเสีย่ ง ในการบริหารความเสี่ยงอันเกิดจากการลงทุนนั้น นักลงทุนสามารถวิเคราะห์โดยใช้หลักการและทฤษฎีที่มีอยู่ ในปัจจุบันได้หลากหลาย ในหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงขั้นตอนส่วนใหญ่ที่นักลงทุนมักใช้ในการบริหารความเสี่ยง เพื่อโอกาสในการซื้อขายที่มากขึ้น ขั้นตอนแรก – ทําความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุน ตรวจสอบปัจจัยที่จะต้องนํามาคํานวณหากเกิดการขาดทุน สัดส่วนของสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยน อัตราการนําเข้าและการส่งออก ความเกี่ยวข้องกันของคู่เงินนั้น ตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่พึงประสงค์ เมื่อนักลงทุนได้ข้อมูลเหล่านี้ นักลงทุนจะสามารถวางแผนในการซื้อขายขั้นต้นได้ ขั้ น ตอนที่ 2 – ทํ า ความเข้ า ใจเกี่ ย วกั บ สกุ ล เงิ น อาจจะเป็ น กลยุ ท ธ์ ที่ มี ค วามเสี่ ย งสู ง ในการทํ า ความเข้ า ใจ อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างคู่เงินนั้น แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ตระหนักถึงความจําเป็นในการวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศเหล่านี้ เพื่อหวังผลกําไรในอนาคต นอกจากนี้นักลงทุนจะต้องสังเกตคําสั่งซื้อขายเงินตรา ล่วงหน้าในตลาดด้วย เพราะในบางครั้งมีการแลกเปลี่ยนในปริมาณมากกว่าปกติซึ่งจะกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน ขั้นตอนที่ 3 – การพัฒนากลยุทธ์การซื้อขาย ในการจัดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ความเสี่ยงของธุรกิจ จํ า นวนมากสะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง ทั ศ นคติ เ กี่ ย วกั บ ความเสี่ ย งของนั ก ลงทุ น ที่ มี ต่ อ มุ ม มองของตลาดสกุ ล เงิ น ในการนี้กลยุทธ์การซื้อขายควรทํางานร่วมกับสภาพปัจจุบันของราคาให้ได้มากที่สุด เพราะในสภาพแวดล้อมที่ อัตราแลกเปลี่ยนมีความไม่แน่นอน หากกลยุทธ์ไม่ได้อ้างอิงราคาปัจจุบันอาจจะทําให้นักลงทุนตัดสินใจผิดพลาด การสังเกตสัญญาซื้อขายสินค้าล่วงหน้าของบริษัทขนาดใหญ่สามารถช่วยยืนยันกลยุทธ์ในการซื้อขายสกุลเงินได้ ขั้นตอนที่ 4 – นํ ากลยุทธ์ที่ พัฒนามาใช้งานจริง กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ ยนเกิ ดจาก การให้ ค วามสนใจของนั กลงทุ นในจุด หนึ่ ง ในระดั บ ที่ เหมาะสมต่ อ เหตุก ารณ์ ห นึ่ ง ดั งนั้ น ก่ อ นการนํ า กลยุท ธ์ มาใช้งานจริงควรนํากลยุทธ์นั้นไปทดสอบกับผลย้อยหลังก่อน ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าการซื้อขายในอนาคตจะได้รับ ความคุ้มครองจากการบริหารความเสี่ยง
65
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 11 TRENDLINE
66
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Trendline Trendline เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้กันมากที่สุดในการวิเคราะห์ทางเทคนิค อย่างไรก็ตามนักลงทุนส่วนใหญ่ ไม่ทราบวิธีใช้เครื่องมือนี้จํานวนมาก การใช้งาน Trendline สามารถช่วยวิเคราะห์และคาดการณ์ความน่าจะเป็น ในอนาคตของราคาได้ โดยอ้างอิงการเคลื่อนไหวของราคาที่ผ่านมาเพื่อคาดการณ์ความน่าจะเป็นในอนาคต จึงทําให้นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้าม Trendline ลักษณะพื้นฐานของ Trendline Trendline มีลักษณะที่สําคัญอยู่ 2 ประการคือต้องมีการสัมผัสกับการเคลื่อนไหวของราคาอย่างน้อย 3 ครั้งและ ไม่สามารถเป็นแนวนอนได้ โดยทั่วไป Trendline จะแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มและเผยให้เห็นสภาพตลาดในปัจจุบัน Trendline ที่มีการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นจะให้สัญญาณความแข็งแกร่งของสกุลเงินหลักมากกว่าอีกสกุลเงิน ในคู่เดียวกัน อีกประโยชน์ที่สําคัญของ Trendline คือสามารถมองเห็นจุดหักเหที่สําคัญของกราฟ ข้อจํากัด ที่สําคัญของ Trendline คือจะต้องมีการวาดเส้น Trendline เป็นระยะเพราะไม่สามารถใช้เส้นเดิมได้ตลอดไป ประเภทของ Trendline Trendline สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ 1. Single-sided Trendline 2. Double-sided Trendline Single-sided Trendline จั ด เป็ น เส้ น Trendline ประเภทที่ สั ม ผั ส กั บ การเคลื่ อ นไหวของราคาเพี ย งด้ า นหนึ่ ง ของ Trendline เท่ า นั้ น หากการเคลื่อนไหวของราคาเพิ่มขึ้น Trendline จะอยู่ด้านล่างเสมอ หากการเคลื่อนไหวของราคาลดลง Trendline จะอยู่ด้านบนเสมอ Double-sided Trendline จัดเป็นเส้น Trendline ประเภทที่สัมผัสกับการเคลื่อนไหวของราคาทั้งสองด้าน ผลคือจะมีการเคลื่อนไหวของ ราคาด้านข้างของเส้น Trendline เส้น Double-sided Trendline มีลักษณะคล้ายกับ Single-sided Trendline แต่สามารถระบบแนวโน้มของราคาได้ชัดเจนกว่ามาก หากเส้น Trendline สัมผัสกับการเคลื่อนไหวของราคา มากขึ้นแสดงว่าแนวโน้มที่มีอยู่ขณะนั้นแข็งแรงมาก
67
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
68
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง รูปแบบของ Trendline Trendline สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบคือ 1. Major Trendline 2. Minor Trendline Major Trendline รูปแบบ Trendline ที่จัดเป็นเส้นหลัก Major Trendline เป็นเส้นที่บอกถึงทิศทางของราคาในรูปแบบโดยรวม ในการวิ เ คราะห์ ก ารเคลื่ อ นไหวของกราฟ Trendline ที่ สํ า คั ญ มั ก จะสอดคล้อ งกั บ ทิ ศทางของราคาในตลาด หากมีความชัดเจนมากยิ่งเพิ่มโอกาสในการทํากําไรได้มากขึ้น Major Trendline จะมีการสัมผัสกับราคามากกว่า Minor Trendline อย่างเห็นได้ชัด Minor Trendline รูปแบบ Trendline ที่จัดเป็นเส้นรอง Minor Trendline เป็นเส้นที่บอกถึงทิศทางของราคาในรูปแบบปลีกย่อย Minor Trendline นิยมใช้ค้นหาแนวโน้มย่อยของกราฟหรือค้นหาแนวโน้มของกราฟที่ราคาได้หลุดเส้น Major Trendline มาแล้ว
69
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การวิเคราะห์ Trendline ในการวิเคราะห์ Trendline สามารถทําได้ง่าย โดยการตรวจสอบแนวโน้มราคาย้อนหลังในขอบเขต Trendline เพื่อวิเคราะห์และมองหาโอกาสในการเกิดจุดหักเหของราคา อันจะเป็นข้อบ่งชี้ของการเคลื่อนไหวของราคา ที่สําคัญในอนาคต สําหรับการวิเคราะห์ Trendline สามารถสร้าง Trendline Zones เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ได้ โดยการสร้าง Major Trendline และ Minor Trendline ขึ้นมา และใช้เส้นดังกล่าวแบ่งพื้นที่ของกราฟ ออกเป็น 3 ส่วน ประกอบไปด้วย 2 รูปแบบย่อยคือโซนด้านนอก Trendline และโซนด้านใน Trendline หรือ ช่องว่างระหว่างทั้ง 2 เส้นนั่นเอง การสร้าง Trendline Zones จะไม่สนใจแนวโน้มย่อยที่มากเกินไป ในการเทรดแบบ Trendline Zones การซื้อขายใน Zone 1 จะถูกมองว่าราคามีโอกาสเคลื่อนไหวไปยัง Zone 2 นักลงทุนส่วนใหญ่จึงมองข้ามไป ในขณะที่ Zone 2 เหมาะสําหรับการซื้อขายเป็นอย่างมาก นักลงทุนส่วนใหญ่ จะมีการส่งคําสั่งซื้อขายมากกว่า Zone 1 และ Zone 3 ในขณะที่ Zone 3 ถูกมองว่าราคาได้เคลื่อนไหว มากเกินไป ราคามีโอกาสเคลื่อนไหวไปยัง Zone 2 นักลงทุนจึงไม่ได้ให้ความสําคัญมากนักเพราะถูกมองเป็น ส่วนต่อขยายของกราฟเท่านั้น จึงยากต่อการคาดการณ์ทิศทางของกราฟ
การกําหนด Entry Point และ Exit Point โดยใช้ Trendline Entry Point ควรเป็นจุดใดจุดหนึ่งที่อยู่บนเส้น Major Trendline หรือ Minor Trendline นักลงทุนส่วนใหญ่ ให้ความสําคัญเส้น Trendline ที่แบ่งระหว่าง Zone 1 และ Zone 2 และกําหนดจุด Exit Point บน Trendline ที่แบ่งระหว่าง Zone 2 และ Zone 3 โดยกําหนดค่า Stop Loss (S/L) ที่จุดสูงสุดหรือต่ําสุดของแท่งเทียนที่ Swing มากที่สุดใน Zone 1 บวกเพิ่ม 10 Pips 70
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
นักลงทุนสามารถใช้ Trendline ที่แบ่งระหว่าง Zone 2 และ Zone 3 เป็นจุด Entry Point ได้เช่นกัน เพียงแต่ Target ของ Position ลักษณะนี้คือระดับเดียวกันกับแท่งเทียนก่อนหน้าที่ Swing มากที่สุดใน Zone 1 71
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 12 SWING TRADING
72
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Swing Trading การเทรดแบบ Swing Trading คือการส่งคําสั่งซื้อขายในขณะที่กราฟมีความแกว่งตัวในระดับสูง นักลงทุนที่เทรด ในรูปแบบนี้มักจะเป็นนักลงทุนที่มีการเปิดและปิด Position อย่างรวดเร็ว โดยคาดหวังผลของการแกว่งทางราคา จากการวิเคราะห์ที่นักลงทุนเหล่านั้นได้คาดการณ์ไว้ การเคลื่อนไหวของราคามีลักษณะเป็นรูปแบบ Zigzags ที่ชัดเจนแต่การสร้างรูปแบบแนวโน้มจะเกิดซ้ําบ่อยครั้ง ในการซื้อขายมีการแกว่งของราคามาก นักลงทุนใช้ประโยชน์จากการคาดการณ์ของรูปแบบดังกล่าวและเข้าซื้อ ในช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวออกไปจากจุดที่คาดการณ์ ซึ่งเพิ่มโอกาสของนักลงทุนในการทํากําไร ขั้นตอนการเทรดแบบ Swing Trading ขั้นตอนที่ 1 ระบุกราฟนั้นให้ได้ว่าอยูใ่ นขาขึ้นหรือขาลง ขั้นตอนที่ 2 สําหรับกราฟขาขึ้น ราคาจะต้องร่วงลง สําหรับกราฟขาลง ราคาจะต้องเพิ่มขึ้น ขั้นตอนที่ 3 มองหาราคาที่เหมาะสมเพื่อทําคําสั่งซื้อขาย ขั้นตอนที่ 4 ทําการตั้งค่า Stop Loss (S/L) และ Target (T/P) Recognize Swing Trading Patterns การสร้างรูปแบบ Recognize Swing Trading Patterns จะต้องอาศัยการใช้งานอินดิเคเตอร์ร่วมกัน 2 ตัวคือ Moving Average และ Average Directional Index (ADX) โดยให้มีการกําหนดค่าดังต่อไปนี้ - Moving Average 10, 20 และ 50 วัน เพื่อคํานวณค่าเฉลี่ยสําหรับ 10, 2 และ 50 วันตามลําดับ - Average Directional Index (ADX) 14 สําหรับการใช้งานนั้น Average Directional Index (ADX) 14 ที่มีค่าสัญญาณมากกว่า 30 จะถูกนักลงทุน ให้ความสําคัญเป็นพิเศษเพราะบ่งบอกว่ากราฟมีทิศทางแน่นอน โดย +DI ที่มีค่ามากกว่า –DI บ่งบอกว่ากราฟ อยู่ในขาขึ้น นักลงทุนจะใช้การวิเคราะห์ Moving Average แบบคร่าวๆ โดยตรวจสอบว่าราคาได้ยืนอยู่เหนือเส้น Moving Average ครบทั้ง 3 เส้นหรือไม่ หากครบนั่นคือโอกาสในการเปิด Position แบบ Swing Trading ในทางกลับกัน การเปิด Position ในขาลงให้ใช้ขั้นตอนในลักษณะเดียวกันนี้แต่กลับทิศทาง หลักการเปิด Position ของ Recognize Swing Trading Patterns - ราคาสูงสุดของแท่งเทียนปัจจุบันจะต้องต่าํ กว่าราคาสูงสุดของแท่งเทียนก่อนหน้า - ราคาสูงสุดของแท่งเทียนก่อนหน้าจะต้องต่ํากว่าราคาสูงสุดของแท่งเทียนก่อนหน้านัน้ อีก 73
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การเทรดแบบ Swing Trading โดยใช้ Gap Gap คือช่วงของราคาที่ไม่ตอ่ เนื่องกันในระยะเวลาหนึ่ง จากแรงซื้อหรือขายที่มากเกินไปในตลาดปริวรรตเงินตรา สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทคือ 1. Common Gap ไม่สามารถบอกแนวโน้มได้เนือ่ งจากอยูใ่ นสภาวะแบบ Sideway 2. Breakaway Gap เกิดจากการ Breakout มีปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่าปกติหลายเท่าตัว ถ้าเกิด Gap ในลักษณะนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จะซื้อขายตามทันที หากพบว่า ปริมาณการซื้อขายไม่ได้มากเกินไปจะส่งผลให้ราคาลงมาเท่ากับจุดเกิด Gap 3. Runaway Gap เป็นรูปแบบการยืนยันทิศทางราคาของ Gap ซึ่งส่งผลให้ราคาไม่เปลี่ยนทิศทาง 4. Exhaustion Gap เป็นรูปแบบราคาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงมากแต่กราฟกลับกระจุกตัวรวมกัน ไม่เหมาะสําหรับการเปิด Position แต่เหมาะสําหรับการมองหาสัญญาณ การกลับตัวครั้งใหม่
จะเห็นได้ว่าการเทรดแบบ Swing Trading นักลงทุนจะต้องมีความแม่นยําในการหาจุดกลับตัวของกราฟให้ได้ เพื่อหาโอกาสในการเปิด Position หากการอ่านค่าผิดพลาดสามารถทําให้เกิดการขาดทุนได้โดยง่าย ดังนั้นรูปแบบ Swing Trading จึงควรเทรดตามแนวโน้มใหญ่เพื่อลดโอกาสในการสูญเสีย
74
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 13 SCALPING TRADING
75
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Scalping Trading คืออะไร Scalping เป็นคําเรียกกลยุทธ์การซื้อขายระยะสั้นที่ช่วยให้นักลงทุนใช้ประโยชน์ที่มีอยู่ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนได้ อย่างเต็มที่โดยใช้กราฟที่มีระยะสั้นสําหรับการซื้อขาย เรียกนักลงทุนแบบ Scalping ว่า Scalpers ซึ่งมองโอกาส ในการทํากําไรที่มีขนาดเล็กได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่การสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นนั้นมีขนาดเล็กน้อยกว่าอัตรากําไร การเทรดแบบ Scalping Trading Scalpers มักจะเริ่มต้นการเทรดประจําวันด้วยกราฟ 1 วัน ซึ่งจะต้องทําการหาแนวโน้มของกราฟให้ได้เสียก่อน หลั งจากได้มี ก ารหาแนวโน้ม ของกราฟแล้ว Scalpers อาจเลือ กกราฟตั้ งแต่ 5 นาทีถึง 1 ชั่ วโมงในการเทรด เมื่อ Scalpers ได้กราฟที่ต้องการแล้ว อาจใช้สัญญาณทางเทคนิคเข้ามาช่วยซึ่งอาจจะเป็น Moving Averages หรือ Relative Strange Index (RSI) หลังจากนั้นตรวจสอบปฏิทินทางเศรษฐกิจสําหรับอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อไม่ให้กระทบกับแผนการลงทุน Scalpers จะต้องมีพื้นฐานในเรื่อง Divergence พอสมควร ในส่วนนี้เราจะ กล่าวถึงการใช้งานร่วมกันระหว่าง Moving Averages 10 และ Relative Strange Index (RSI) 14 ซึ่งเป็นรูปแบบ การทํากําไรพื้นฐานของ Scalping Trading โดยค่าของ Relative Strange Index (RSI) 14 ตั้งแต่ 35-65 เพียงพอต่อการเก็งกําไรแล้ว Scalpers จะปล่อยผ่านสัญญาณที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วและมองหาสัญญาณใหม่เสมอ
76
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
ในกราฟ M30 อยู่ใต้แนวโน้มของกราฟ D1 และ H1 ในการทํากําไรของ Scalpers จะใช้กราฟที่มีระยะสั้น ที่มีแนวโน้มสอดคล้องกับกราฟระยะยาว Scalpers จะสามารถใช้คุณสมบัติของ Moving Averages 10 และ Relative Strange Index (RSI) 14 เพื่อทํากําไรจากจุด A, B, C และ D ได้ตามภาพ 77
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง การเปิด Position ในรูปแบบ Scalping Trading ในการเทรดแบบ Scalping มีกฎสําคัญอยู่ข้อหนึ่งคือ การเทรดด้วยวงเงินไม่เกิน 1% ของวงเงินทั้งหมดในบัญชีที่ สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ในการเทรดแบบ Scalping การเปิด Position ควรจะกระจายออกเป็นรูปแบบฐาน ให้มากที่สุด กล่าวคือหาก Scalpers ต้องการเปิด Position ที่มีค่า 1.00 ควรปรับเป็น 0.10 จํานวน 10 Position Scalpers จะมองหาโอกาส Buy เมื่อ Relative Strange Index (RSI) 14 มีค่าเท่ากับ 35 และจะมองหาโอกาส Sell เมื่อ Relative Strange Index (RSI) 14 มีค่าเท่ากับ 65 ในบางครั้ง Scalpers อาจมองหารูปแบบ Oversold หรือ Overbought ก่อนตัดสินใจได้ โปรดรออย่างน้อย 3 แท่งเทียนเมื่อ Relative Strange Index (RSI) 14 ได้มาถึงรูปแบบที่กําหนดแล้ว หลังจากพบว่า Relative Strange Index (RSI) 14 เป็นไปตามเงื่อนไขแล้ว Scalpers จะทําการเปิด Position โดยใช้ Position ที่ มี ข นาดเล็ ก จํ า นวน 1 Position ก่ อ น หากพบว่ า ราคาไม่ ไ ด้ ไ ปตามทิ ศ ทางที่ ค าดการณ์ ไ ว้ Scalpers จะทํ า การเปิ ด Position เพิ่ ม อี ก 1 จํ า นวน โดย Position ที่ ทํ า การเปิ ด ไว้ นั้ น จะต้ อ งอยู่ ใ นเขต Oversold หรือ Overbought ดังนั้นจะทําให้การเทรดแบบ Scalping มีอัตราความเสี่ยงต่ําประมาณ 1% เท่านั้น ส่วนใหญ่ Scalpers จะทําการเทรดแบบ Scalping ตามวงรอบของข่าว โดยเทรดก่อนข่าวออกประมาณ 40 นาที เนื่องจากราคามีความผันผวนสูง เหมาะแก่การทํากําไรใน Scalping Trading การออกจาก Position ในรูปแบบ Scalping Trading Scalpers จะออกจาก Position ครึ่งหนึ่งของเขาเมื่อ RSI ได้สัมผัสค่า 50 แล้ว แม้ว่าจะไม่ปิด Position ทั้งหมด แต่เลือกจะให้มีความเสี่ยงน้อยลงและปรับค่า Stop Loss (S/L) รวมไปถึง Target (T/P) การปรับค่าของ Scalpers มักจะปรับค่า Stop Loss (S/L) อย่างน้อยเสมอตัวกับราคาที่เปิด Position หรืออยู่ในโซนกําไรแล้ว รูปแบบที่ Scalpers ใช้วัดค่าว่าการเทรดครั้งใดจะมีขนาดแท่งเทียนยาวเท่าใดคือการประยุกต์ใช้ Divergence นอกจากนี้ Position ที่เปิดไว้เกินกว่า 150 นาที Scalpers มักจะพิจารณามองหาโอกาสในการปิด Position
78
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 14 SNIPER TRADING
79
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง Sniper Trading คืออะไร ในส่วนของ Sniper Trading จะกล่าวถึงรูปแบบการทํากําไรโดยใช้หลักเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ประยุกต์ โดยอาศัย ประสิทธิภาพการทํากําไรและการป้องกันการขาดทุนสูงที่สุด กล่าวคือการฝึกฝนของนักลงทุน ในการรับอัตรากําไร มากที่สุดและการรับอัตราขาดทุนมากที่สุดเท่าที่จะทําได้ การซื้อขายแบบ Sniper Trading เปรียบเสมือนกระสุน ของ Sniper Gun ที่ไม่ว่าจะพลาดเพียงใด นักลงทุนจะต้องยอมรับในความผิดพลาดนั้นให้ได้ ในทางกลับกัน หากได้กําไร นักลงทุนจะต้องไม่ใช้อารมณ์ในการสั่งปิดกําไรก่อนกําหนด การประยุกต์ใช้หลักการ Sniper Trading ในการซื้อขายประจําวัน Sniper Trading เป็นรูปแบบการฝึกฝนการซื้อขายจนเกิดความชํานาญ ดังนั้นนักลงทุนมักจะคาดหวังใน ประสิทธิภาพของการลงทุนดังกล่าว และแน่นอนว่าไม่มีการซื้อขายใดที่ไม่มีโอกาสขาดทุน Sniper Trading สามารถตอบโจทย์นักลงทุนในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี นักลงทุนมักจะเห็นกองทุนขนาดใหญ่อย่างเช่น Hedge Fund ซึ่งบริหารกองทุนในลักษณะ Sniper Trading เป็นต้น สภาวะไร้อารมณ์ในการซื้อขายกับ Sniper Trading Sniper Trading เป็นรูปแบบการทํากําไรที่เน้นการฝึกปกป้องเงินทุน ดังนั้นนักลงทุนในลักษณะนี้จะยึดถือ กฎสําคัญ 3 ประการของ Sniper Trading ดังนี้ 1. ในทุกสถานการณ์ของตลาด นักลงทุนจะรักษาเงินทุนไว้เสมอ ก่อนการคาดหวังกําไร 2. ในการลงทุนกําไรสามารถนํามาต่อยอดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นวิธีการช่วยลดความเสี่ยงที่ง่ายที่สุด ในตลาด 3. การใช้ความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสม ประกอบกับการวิเคราะห์ที่แม่นยําในการซื้อขายแต่ละครั้ง เพื่อคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุด Time Frame กับรูปแบบการเทรดแบบ Sniper Trading ในการซื้อขายแบบ Sniper Trading จะมีความแม่นยําในระดับสูงมากในช่วงระยะเวลาที่ต่ํากว่า 1 สัปดาห์ การใช้ช่วงระยะเวลาที่ไม่ต่ําเกินไปและไม่สูงเกินไปนั้น สามารถช่วยให้นักลงทุนทํากําไรได้อย่างดี ในส่วนของ การเพิ่มความแม่นยําในการซื้อขาย นักลงทุนอาจนําความรู้เกี่ยวกับ Price Action เข้ามาประยุกต์ใช้ได้ ในขณะเดียวกัน Sniper Trading จะต้องมีความอดทนเป็นอย่างมาก ภาพสัญญาณไม่ชัดเจนนักลงทุนไม่ควรลงทุน เปิด Position นักลงทุนประเภทนี้จะต้องมีเป้าหมายที่แน่นอนและมีความชํานาญในกลยุทธ์การซื้อขายเป็นอย่างดี แนวทางนี้สามารถฝึกฝนได้ทุกวันด้วยตัวของนักลงทุนเอง
80
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง องค์ประกอบของ Sniper Trading นักลงทุนที่ใช้รูปแบบ Sniper Trading จะมีการจดบันทึกการซื้อขายเสมอ เพื่อนําข้อมูลมาวิเคราะห์ทางสถิติและ สามารถคาดการณ์อนาคตได้อย่างแม่นยํา ในการวิเคราะห์ทางสถิติ นักลงทุนจะบันทึกเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยการได้กําไร และค่าเฉลี่ยการขาดทุน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทําให้ได้รับกําไรในปริมาณมากหรือน้อย แตกต่างกันไปตามรูปแบบของ นักลงทุน นอกจากนี้เวลาเฉลี่ยในการปิด Position จะถูกบันทึกไว้เช่นกัน เพื่อคํานวณการใช้วงเงิน ซื้อขายที่มี ประสิทธิภาพในอนาคต ถึงส่งผลให้นักลงทุนประเภท Sniper Trading สามารถบริหารจัดการเงินทุนได้ อย่างเหมาะสม
81
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง
บทที่ 15 PSYCHOLOGY OF INVESTING
82
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง จิตวิทยาการลงทุน คืออะไร การศึ ก ษาเกี่ ย วกั บ จิ ต วิ ท ยาในการลงทุ น นั้ น นั กลงทุ น จะศึ ก ษาถึ งการวางแผนในการซื้ อ ขายซึ่ ง ใช้ ความรู้สึ ก ไม่ได้ตัดสินตามอารมณ์ โดยใช้เทคนิคทางการเงิน การบริหารความเสี่ยงและการจัดสรรการลงทุนให้เหมาะสม ในเรื่องของจิตวิทยาการลงทุนนั้น จะเน้นหนักไปที่การวางแผนการซื้อขายและปฏิบัติตามแผนการนั้น รวมไปถึง การจดบั น ทึ ก การซื้ อ ขายทุ ก ครั้ ง เมื่ อ ใดในการซื้ อ ขายเกิ ด ความไม่ แ น่ ใ จ ในสภาวะของตลาดแล้ ว นั ก ลงทุ น ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งก่อน นักลงทุนทุกคนเคยประสบกับความผิดพลาดมาก่อนทั้งสิ้น แต่นักลงทุนไม่ควรยึดติดอยู่กับความผิดพลาดเหล่านั้น ในทางกลับกันนักลงทุนสามารถนําความผิดพลาดเหล่านั้น มาศึกษาถึงอนาคต แผนป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เหล่านั้น เกิดขึ้นซ้ําอีก อันจะเป็นกลไกสําคัญที่ทําให้นักลงทุนประสบความสําเร็จในตลาดได้ อย่าซื้อขายมากเกินไป ปัจจัยสําคัญที่ทําให้พอร์ตการลงทุนของนักลงทุนล่มสลายคือ การซื้อขายในจํานวนที่มากเกินไป สําหรับการซื้อขาย ในจํ า นวนที่ ม ากเกิ น ไปนั้ น สามารถดู ไ ด้ ที่ ก ารซื้ อ ขายที่ เ กิ น วงเงิ น ตามแผนบริ ห ารความเสี่ ย งของนั ก ลงทุ น แม้ว่าในช่วงแรกจะได้กําไรมากแต่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าโอกาสขาดทุนมีสูงเช่นกัน ดังนั้นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า คือการซื้อขายแบบปกติ อย่าซื้อขายตามผู้อื่น นักลงทุนสามารถใช้สัญญาณจากผู้อื่น เพื่อประกอบความมั่นใจในการเข้าซื้อขายได้ แต่เมื่อสัญญาณที่ได้รับจาก ผู้อื่นนั้นขัดกับนักลงทุน ทางเลือกที่ดีกว่าคือการไม่สนใจใน Position ดังกล่าวในช่วงระยะเวลานั้น เนื่องจากผู้อื่น มีโอกาสขาดทุนได้เช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในตลาดปริวรรตเงินตรา การเคลื่อนไหวที่รุนแรงของตลาดปริวรรตเงินตรา ส่งผลให้ราคาเกิดรูปแบบทางเทคนิคมากมาย โปรดอย่ายึดติด กับรูปแบบเรานั้นมากจนเกินไป เพราะแม้ว่าราคาจะเป็นไปตามรูปแบบดังกล่าวแล้ว ราคาอาจจะทะลุรูปแบบ ดังกล่าวได้อีก ดังนั้นนักลงทุนจึงควรทําการวิเคราะห์ให้รอบด้านก่อนการลงทุน ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่หวังเสมอไป นักลงทุนจะต้องเข้าใจว่า สภาพของตลาดปริวรรตเงินตรามีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แม้ว่านักลงทุนจะวิเคราะห์ แนวโน้มถูกในหลายครั้ง ไม่ได้หมายความว่านักลงทุนจะวิเคราะห์แนวโน้มถูกเสมอไป 83
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง ทํากําไรเมื่อมีโอกาสและปิด Position เมื่อพอใจแล้ว ในตลาดมี โ อกาสในการทํ า กํ า ไรมี ม ากมาย นั ก ลงทุ น ไม่ จํ า เป็ น จะต้ อ งยึ ด ติ ด กั บ การทํ า กํ า ไรเพี ย งครั้ ง เดี ย ว แม้ว่าในครั้งนี้นักลงทุนจะได้รับกําไร แต่รูปแบบของสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาของตลาด ไม่สามารถ การันตีการลงทุนของนักลงทุนให้ได้รับกําไรตลอดเวลาได้ ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือ การปิด Position เมื่อพอใจ ในผลกําไรแล้ว การรักษาเงินทุน หัวใจที่สําคัญของการลงทุนคือการรักษาเงินทุน นักลงทุนจะต้องมีการตั้งค่า Stop Loss (S/L) ทุกครั้งเพื่อป้องกัน ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในพอร์ทการลงทุน การลงทุนที่ไร้การป้องกันความเสี่ยง มีโอกาสก่อหนี้สินเพิ่มให้กับ นักลงทุนได้เสมอ นอกจากนี้การตั้งค่าความเสี่ยงที่เหมาะสมจะช่วยรักษาเงินทุน ในระดับที่สามารถทํากําไรกลับมา ในระดับเดิมได้ไม่ยากนัก การขาดทุนเพียงเล็กน้อยจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในหลายครั้ง การกําหนดเป้าหมายในการทํากําไร แม้ว่านักลงทุนจะพอใจในการปิด Position แต่ก็ควรมีการกําหนดค่าเป้าหมายในการทํากําไรไว้ เพื่อเป็นทางเลือก ในการทํากําไร ตามที่นักลงทุนได้ทําการวิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้ ตัวเลือกดังกล่าวจะทําให้นักลงทุนตัดอารมณ์ ออกไปจากการซื้อขายได้เป็นอย่างดี ความเสี่ยงทัว่ ไปของตลาด ในตลาดปริวรรตเงินตรามีความเสี่ยงอยู่ทุกจุด นักลงทุนไม่สามารถปฏิเสธความเสี่ยงดังกล่าวได้ ดังนั้นการเรียนรู้ ที่จะใช้ประโยชน์จากความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่สําคัญ แม้จะไม่ได้ลงทุนจะยังคงมีความเสี่ยงในการด้อยค่าของเงิน อยู่เช่นเดียวกัน ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ความโลภในการลงทุน นักลงทุนจํานวนมากลงทุนด้วยความโลภ ขาดเป้าหมายในการทํากําไรที่ชัดเจน เป็นปัญหาสําคัญต่อการอยู่รอด ในตลาด นั ก ลงทุ นไม่ ค วรคาดหวั งต่ อ ผลการลงทุ น มากจนเกิ น ไป เพราะสุ ด ท้ า ยแล้ ว อารมณ์ จ ะเข้ า ครอบงํ า ได้ในที่สุด ไม่เป็นผลดีต่อการลงทุน
84
FOREX ADVANCE คู่มือการซื้อขายสําหรับผู้ใช้งานขัน้ สูง ปรัชญาเชิงลึกของจิตวิทยาการลงทุน การลงทุนทุกครั้งนักลงทุนจะต้องมีการฝึกฝนสม่ําเสมอ ในการลงทุนที่ประสบความสําเร็จจะประกอบไปด้วย ความนิ่งสงบบนพื้นฐานของระบบความคิดที่สามารถต่อยอดได้ตลอดเวลา การทําความเข้าใจในการซื้อขาย แต่ ล ะครั้ ง จะช่ ว ยฝึ ก ฝนเรื่ อ งดั ง กล่ า วได้ เ ป็ น อย่ า งดี อั น จะเป็ น เครื่ อ งมื อ ที่ จ ะส่ ง ผลให้ ป ระสบความสํ า เร็ จ ในการซื้ อ ขาย จิ ต ใจที่ แ น่ ว แน่ เ ป็ น หนึ่ง ในกระบวนการทางความคิ ดที่ นั กลงทุ น จะต้ อ งพั ฒ นา เพื่ อ ไม่ ใ ห้ เกิ ด การครอบงําในอารมณ์ที่อาจมีต่อความคิดในอนาคต เมื่อใดนักลงทุนสามารถควบคุมจิตใจของตนเองได้ นักลงทุน จะสามารถปฏิบัติตามวินัยการเทรดของตนเองได้เป็นอย่างดี
85